ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #236 : อนาคตที่ดีกว่า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.77K
      442
      18 ส.ค. 61

    โรสยื่นมือออกไปบีบยังบริเวณใบหน้าของจีน่าไว้อย่างรวดเร็วจากนั้นจึงเผยรอยยิ้มที่ดูแปลกประหลาดออกมาให้ได้เห็น "เชื่อหรือไม่ว่าขอเพียงข้าออกแรงบีบใบหน้าของเจ้า..." โรสเอ่ยกล่าวข่มขู่ยังไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงของโซเฟียเอ่ยเรียกชื่อตนด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความรู้สึกลำบากใจ

    "หัวหน้าโรส" โซเฟียเอ่ยเรียกชื่อโรสออกมาด้วยเกรงว่าโรสจะกระทำเกินเลยไป

    ได้ยินน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความลำบากใจของผู้เป็นนายหญิงโรสก็คลายมือออกจากใบหน้าของจีน่า เดิมดีโรสก็ไม่ได้มีความคิดที่จะทำร้ายจีน่าอยู่ก่อนแล้ว ที่กระทำไปก็เพียงเพื่อต้องการจะขู่ขวัญให้หญิงสาวที่น่ารังเกียจผู้นี้สงบปากคำไว้และไม่กล้าเอ่ยวาจาล่วงเกินผู้เป็นนายอีก "คุกเข่าลงและขออภัยต่อนายหญิง โซเฟีย" โรสถลึงตาเอ่ยกับจีน่าที่สติกระเจิงหมดเรี่ยวสิ้นแรงอยู่เบื้องหน้า

    ตุบ เสียงเข่าของจีน่าที่ทรุดลงกระแทกกับพื้นไม้ของหอร้อยบุปผาอย่างอ่อนแรงดังก้องขึ้น แรงกดดันที่ทำให้ตนเองเกิความรู้สึกเสมือนว่าความตายมาเยือนอยู่ตรงหน้าเมื่อครู่ยังคงทำให้จีน่ารู้สึกหวาดเกรงไม่หาย เพียงแค่สัมผัสแรกก็ทำให้จีน่าเข้าใจได้แล้วว่าสตรีที่สอดแทรกเข้ามาระหว่างตนกับมาเรียเมื่อครู่หาใช่ชนชั้นธรรมดาทั่วไป

    "ข้ายังไม่ได้ยินคำเอ่ยขออภัยต่อนายหญิงของข้าจากเจ้า" โรสเอ่ยเสียงเย็นโดยไม่เปิดโอกาสให้แก่จีน่าแม้แต่น้อย

    ร่างของจีน่ายังคงไร้เรี่ยวแรงหากแต่นางยังคงไม่กล้าที่จะไม่ปฎิบัติตาม จีน่าค่อยๆเปิดปากขึ้นอย่างยากเย็นเพื่อเอื้อนเอ่ยวาจา "ข..ขออภัย"

    "หืมม" โรสเอ่ยกล่าวอย่างไม่พอใจเมื่อได้ยินถ้อยคำที่จีน่ากล่าวเพื่อขออภัยต่อผู้เป็นนาย

    "ข้าขออภัยต่อท่านหญิงโซเฟียที่กล่าววาจาเหลวไหลไม่รู้ความ" จีน่าเรียบเรียงถ้อยคำของตนเองใหม่จากนั้นจึงเอ่ยกล่าวออกขณะที่ยังคงคุกเข่าอยู่

    ได้ยินเช่นนั้นโรสจึงรู้สึกพึงพอใจ "ใสหัวไป หากเข้ามาก่อความรำคาญให้แก่นายหญิงโซเฟียกับนายหญิงเซลิน่าอีกก็อย่างหาว่าข้าไม่ปราณี" โรสตวาดใส่จีน่าจากนั้นจึงหันหน้าเหลือบมองไปยังเหล่าหญิงสาวที่ซ่อนตัวแอบมองดูเรื่องราวยังซอกมุมภายในหอร้อยบุปผาเป็นเชิงข่มขู่

    ได้ยินเสียงตวาดของโรส ร่างของจีน่าก็สั่นสะท้านขึ้นมาคราหนึ่งจากนั้นนางจึงค่อยๆหันกายคลืบคลานออกไป แม้แต่การลุกขึ้นเดินตามปกติบัดนี้จีน่ายังไม่มีความกล้า
    เหล่าหญิงสาวที่ห้อมล้อมอยู่เห็นเช่นนั้นจึงได้แต่ขยับเปิดทางให้แก่จีน่า

    เห็นเช่นนั้นโรสก็ใช้สายตาดูแคลนมองดูจีน่าที่คลืบคลานจากไป "ฮึ ปากกล้าแต่ขวัญอ่อน" แค่เสียงด่าทอจีน่าจนสมใจแล้วโรสจึงหันกลับมาหาโซเฟียและเซลิน่าที่ยังคงนั่งอยู่ยังโต๊ะกลม โรสโค้งศรีษะของตนเองลงให้แก่โซเฟียและเซลิน่าเป็นเชิงขออภัย "หากว่าข้าปล่อยให้มีผู้คนเข้ามากล่าววาจาดูหมิ่นนายหญิงโดยไม่ลงมือกระทำสิ่งใด เกรงว่าหากนายน้อยกาเล็ทรู้เรื่องเข้าข้าคงไม่สามารถที่จะอธิบายบอกกล่าวต่อนายน้อยได้ ขอนายหญิงทั้งสองได้โปรดให้อภัยต่อความหยาบคายของข้าเมื่อครู่"

    โซเฟียและเซลิน่าได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่ยิ้มอย่างฝืนๆออกมา "ข้าเข้าใจว่าหัวหน้าโรสปฎิบัติตามหน้าที่" โซเฟียเป็นตัวแทนเอ่ย

    ได้ยินเช่นนั้นโรสจึงก้มหัวลงเพื่อแสดงความเคารพจากนั้นจึงหันกายจากไปไม่อยู่รบกวนอีก

    แม้ว่าโรสจะจากไปแล้วหากแต่เหล่าหญิงสาวที่ห้อมล้อมโซเฟียและเซลิน่าอยู่กลับไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยกล่าววาจามากความอีก เนื่องจากบัดนี้พวกนางรู้ดีแล้วว่าผู้อื่นที่อยู่ตรงหน้านี้หาใช่ มาเรียและเอลลี่ที่ตนเองรู้จักอีกหากแต่ทะยานขึ้นฟ้ากลายเป็นหงส์เหนือฝูงกาไปเรียบร้อยแล้ว

    "สมควรแล้วที่นางโดนเช่นนั้น เฮอะจีน่านี่เป็นคนประเภทที่ท่านดยุคกาเล็ทมักจะเรียกว่าอะไรน้า อ่อ เอิ่มพิษร้าย คนเช่นนี้ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ใดก็พาลทำให้ให้บรรยากาศโดยรอบเสื่อมทรามลง" เจนนี่ที่เห็นว่าบรรยากาศเริ่มตึงเครียดจึงเอ่ยออกมาเพื่อลดความตึงเครียดที่เกิดขึ้น

    "เจนนี่" โซเฟียเอ่ยปราม นางเองก็รู้สึกไม่ดีนักกับเรื่องที่เกิดขึ้น หากว่ากาเล็ททราบเรื่องเข้าไม่ทราบว่าเขาจะคิดว่านางจงใช้แสดงอำนาจต่อสายตาของผู้คนหรือไม่? โซเฟียได้แต่แอบเก็บความรู้สึกกังวลใจไว้กับตนเอง

    เจนนี่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่เผยรอยยิ้มแหยออกมา "ข.เข้าใจแล้วท่านพ.. นายหญิง" เจนนี่เกือบที่จะหลุดเอ่ยเรียกโซเฟียออกไปหากแต่นางสัมผัสได้ถึงสายตาของโรสที่จ้องมองมาจึงเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เอ่ยเรียกโซเฟียทันควัน

    "เมื่อครู่พวกเราพูดคุยกันถึงไหนแล้วนะ อืมใช่ถึงเรื่องเป็นหญิงรับใช้ในตระกูลบุสโซ่ยังดีกว่าอยู่ที่หอแห่งนี้ต่อไปหรือไม่?" สเตล่าเอ่ยขึ้น

    ได้ยินเช่นนั้นเหล่าหญิงสาวที่รายล้อมอยู่ต่างพากันผงกหัว "ก่อนที่จีน่าจะสอดแทรกเข้ามาเจ้าทั้งสองกำลังจะอธิบายให้พวกข้าฟังว่าเหตุใดเป็นหญิงรับใช้ในตระกูลบุสโซ่ถึงได้รับการยกย่องเชิดชูและดีกว่าอยู่ที่นี่" หนึ่งในหญิงสาวเอ่ยกล่าว

    ได้รับคำตอบเช่นนั้นสเตล่าและเจนนี่ที่ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงแทนโซเฟียและเซลิน่าก็เริ่มอธิบายสืบต่อ "ที่เป็นเช่นนั้นส่วนหนึ่งก็เพราะหญิงรับใช้ในตระกูลบุสโซ่นั้นไม่เพียงแต่มีหน้าที่ทำงานรับใช้อยู่แต่ภายในตระกูลบุสโซ่เท่านั้น ทุกๆหนึ่งอาทิตย์ตระกูลบุสโซ่จะออกไปเปิดโรงทานเพื่อปรุงแต่อาหารแจกจ่ายแก่คนยากไร้และบริการช่วยเหลือสังคม ตอนนี้ถึงแม้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นแต่เฉพาะในเขตบุสโซ่เท่านั้นทว่าในอนาคตท่านดยุคบอกว่าจะขยับขยายออกไปครอบคลุมถึงเมืองหลวงด้วย" เจนนี่เอ่ย

    "พวกเจ้าเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่าค่าของคนอยู่ที่การกระทำหรือไม่ ไม่ว่าจะประกอบอาชีพใดหากว่าเป็นอาชีพที่สุจริตย่อมถือได้ว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติ หญิงรับใช้ในสายตาของคนทั่วไปนั้นย่อมมองว่าเป็นอาชีพที่ต้อยต่ำและยากลำบาก แต่ข้าขอรับรองไว้เลยว่าการเป็นหญิงรับใช่ในตระกูลบุสโซ่นั้นไม่ยากลำบากเลยแม้แต่น้อย งานที่ต้องกระทำก็ไม่ได้หนักหนามากมายอะไรอีกทั้งค่าตอบแทนยังมากอีกด้วย" สเตล่าเอ่ยสนับสนุนเพื่อนสาวอีกเสียงหนึ่ง

    "ที่ว่าค่าตอบแทนมากนั้น ไม่ทราบว่าเจ้าบอกกล่าวได้หรือไม่ว่าเป็นจำนวนมากน้อยเท่าใด อืมมตัวข้าเองก็มีภาระที่ต้องดูแลรับผิดชอบไม่น้อยหากว่า.." หญิงสาวผู้หนึ่งเอ่ยถาม

    สเตล่าได้ยินเช่นนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างเข้าอกเข้าใจ "สำหรับตัวข้าในตอนนี้นั้นได้รับค่าจ้างอยู่เดือนละหนึ่งเหรียญทองกับอีกห้าสิบเหรียญเงิน ใช่อยู่ว่าเงินจำนวนนี้อาจไม่นับได้ว่ามากมายอะไรเมื่อเทียบกับการทำงานอยู่ภายในหอร้อยบุปผาแห่งนี้แต่สิ่งที่หอร้อยบุปผาแห่งนี้ให้แก่พวกเจ้าไม่ได้นั้นคืออนาคตที่ดีและความสบายใจ สำหรับกับข้าการได้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่ภายในตระกูลบุสโซ่ในช่วงรอบเดือนที่ผ่านมานี้เสมือนว่าได้เกิดใหม่" สเตล่าเอ่ยอธิบาย แม้นางจะเอ่ยบอกเล่าอย่างไม่ละเอียดเท่าใดแต่เหล่าหญิงสาวที่ล้อมกรอบอยู่ต่างเข้าใจได้ สำหรับสตรีแล้วการที่ต้องขายเรือนร่างของตนเองเพื่อแลกกับเงินทองนั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องที่เจ็บปวดในบางครั้งถึงแม้ภายนอกของพวกนางจะไม่ได้แสดงออกมาให้ได้เห็นแต่ก็มีหลายครั้งคราที่พวกนางต้องแอบไปร้องไห้อยู่กับตนเองคนเดียว

    "ที่เจ้าบอกว่าทำงานอยู่ที่ตระกูลบุสโซ่จะมีอนาคตที่ดีกว่านั้นหมายความว่าอย่างไร" หญิงสาวผู้หนึ่งเอ่ยถามขึ้นมาอีกอย่างใคร่รู้

    เจนนี่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาและเอ่ยอธิบายแทนสเตล่า "การทำงานที่ตระกูลบุสโซ่นั้นสิ่งที่ได้รับตอบแทนไม่ได้มีแต่เงินทองที่จ่ายเป็นค่าจ้าง ยังมีสวัสดิการต่างๆมากมายอีก ถึงแม้การเป็นหญิงรับใช้จะได้รับน้อยในส่วนนี้น้อยกว่าเหล่าทหารนักบู๊ก็ตามที ยกตัวอย่างเช่นการเป็นทหารนักบู๊จะได้รับสิทธิในการยื่นแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการบ้านเอื้ออาทรได้เมื่อเข้าประจำการได้สองปีแต่สำหรับกับพวกเราเหล่าหญิงรับใช้จะได้สิทธินั้นเมื่อทำงานอยู่กับตระกูลบุสโซ่ครบ 5 ปี" เจนนี่เอ่ยอธิบาย

    "บ้านเอื้ออาทร? หมายถึงสิ่งใดพวกข้าไม่เข้าใจ" หนึ่งในหญิงสาวผู้หนึ่งเอ่ยถามอีก

    เจนนี่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มขำออกมา ย่อมไม่แปลกที่พวกนางจะไม่เข้าใจ "หมายถึงสามารถยื่นความประสงค์ที่จะขอรับสิทธิในการจัดสรรแบ่งที่ดินทำกินและบ้านอยู่อาศัยเป็นของตนเอง" เจนนี่อธิบาย

    "จ.เจ้าหมายความว่าสามารถมีที่ดินเป็นของตนเองหรือ?" เหล่าหญิงสาวต่างตาลุกวาวเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ

    "เป็นเช่นนั้น ไม่เพียงเฉพาะที่ดินเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงบ้านพักด้วยนี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้นที่จะได้จากการเข้าทำงานในตระกูลบุสโซ่ ซึ่งจะให้ข้าอธิบายแก่พวกเจ้าทั้งหมดเห็นทีคงจะยากลำบากอยู่เพราะแม้แต่ข้าเองยังจดจำได้ไม่ครบถ้วน" เจนนี่เอ่ย

    "ที่นายหญิงเดินทางมาในวันนี้ก็เพื่อถามถึงความสมัครใจของพวกเจ้าว่าจะมีผู้ใดมีความประสงค์ที่จะเข้าไปทำงานเป็นหญิงรับใช้ในตระกูลบุสโซ่บ้างหรือไม่ ขอบอกกล่าวให้รู้ว่ากฎที่ว่าไม่สามารถไถ่ตัวได้ขอหอร้อยบุปผานั้นถูกยกเลิกแล้ว จากนี้ผู้ใดประสงค์จะจากไปสามารถจากไปได้ทุกเมื่ออย่างไม่มีข้อผู้มัด เอิ่มและอีกอย่างหนึ่งขอบอกต่อพวกเจ้าให้รู้ไว้ การที่จะเข้าทำงานเป็นหญิงรับใช้ในตระกูลบุสโซ่นั้นไม่ใช่ว่าผู้ใดอยากที่จะเข้าไปก็จะสามารถเข้าไปได้เลย ยังคงต้องมีการคัดเลือกอีกหลายขั้นตอนแต่สำหรับพวกเจ้าในครั้งนี้นั้นถือว่าได้รับการยกเว้นเป็นพิเศษเนื่องจากนายหญิงโซเฟียและนายหญิงเซลิน่าได้ขอร้องท่านดยุคบุสโซ่ให้" สเตล่าเอ่ยเสริม

    ได้ยินเช่นนั้นเหล่าหญิงสาวภายในหอร้อยบุปผาต่างเกิดความรู้สึกหวั่นไหวใจกันอย่างถ้วนหน้า ทุกผู้คนต่างรู้ดีอยู่แก่ใจว่าอาชีพหญิงบริการเช่นนี้ส่วนใหญ่แล้วมักไม่มีจุดจบที่ดีเท่าใดนัก การได้ยินถึงเรื่องบอกเล่าของสเตล่าและเจนนี่ทำให้หลายคนมีจิตใจที่เอนเอียงคล้อยตามไปด้วยไม่น้อย


    ทางด้านกาเล็ทนั้นหลังจากที่ใช้เวลาสนิทสนมเล่าเรื่องราวคร่าวๆให้แก่แชลเทียฟังแล้วก็ปล่อยให้นางจากไปเพื่อเข้าเมืองไปแจ้งข่าวต่อเบลล่าและซิลเวียว่าตนเองเดินทางกลับมาถึงแล้วจากนั้นตนเองจึงนั่งลงตรวจรายงานจากเอกสารต่างๆที่กองอยู่ภายในห้องทำงานของตนเอง หลังจากที่เริ่มผลักดันนโยบายต่างๆไปได้หลายเดือนทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่ ทั้งหมู่บ้านของตระกูลบุสโซ่ที่มีผู้คนย้ายเข้ามาอยู่อาศัยมากขึ้นจนก่อเกิดเป็นชุมชนใหม่ซึ่งมีระบบเศรษฐกิจเป็นของตนเอง การก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆในเขตรอบนอกหมู่บ้านบุสโซ่ไปก็คืบหน้าไปอย่างมาก การขยับขยายถนนหนทาง ขุดรอกคูคลองจากแม่น้ำที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตรเพื่อชักนำน้ำเข้ามาประกอบการเกษตรในพื้นที่ซึ่งตนเองคิดไว้ก็คืบหน้าใกล้แล้วเสร็จ ในโลกยูยานแห่งนี้นั้นแตกต่างจากโลกก่อนของตนเองที่ความเจริญและกฎหมายครอบคลุมไปทุกแห่งหน

    ในโลกแห่งนี้นั้นการฆ่าสังหารผู้คนนั้นถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา แม้จะมีกฎหมายครอบคลุมกำหนดโทษไว้แต่ในโลกที่ไม่มีกล้องวงจรปิดและวิทยาศาสตร์ล้าหลังเช่นนี้จะไปสืบหาจากที่ใดว่าเป็นฝีมือของผู้ใด? เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้คนจึงต้องระมัดระวังดูแลชีวิตของตนเอง เหล่าผู้มีเงินทองและมีอำนาจเวลาเดินทางไปไหนมาไหนก็มักจะมีผู้ติดตามเป็นขบวนเพื่อคอยช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับตนเอง ยกตัวอย่างเช่นพ่อค้าเวลาที่จะขนส่งสินค้าก็มักจะใช้บริการจากสำนักคุ้มภัยที่เปิดกิจการอยู่เพื่อว่าจ้างนักรบดูแลรักษาปกป้องขบวนสินค้าของตนเอง นั่นคือทางเลือกของผู้มีเงินทองแต่สำหรับชาวบ้านธรรมดาที่ไม่มีเงินทองแล้วก็คงได้แต่ต้องพึ่งพากำลังของตนเองเป็นที่ตั้ง ด้วยเหตุนี้แม้ว่าจะมีพื้นที่ว่างเป็นจำนวนมากหากแต่ที่สามารถใช้ในการผลิตพืชพันธ์ุธัญญาหารได้จริงกลับมีอยู่เพียงแค่หยิบมือเพราะปัญหาของโจรผู้ร้ายที่คอยปล้นชิงแย่งทรัพย์สินและผลผลิต

    ปัญหาโจรผู้ร้ายนั้นถือได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ของโลกยูยาน กาเล็ทเองก็แลเห็นถึงปัญหานี้เช่นกันดังนั้นกาเล็ทจึงได้วางแผนที่จะเพิ่มพื้นที่ในการออกลาดตระเวนของทหารทางการออกไปจากตัวเมืองใหญ่ต่างๆของโรฮานอีกหลายเท่า ไม่ว่าจะที่แห่งในสิ่งจำเป็นในการดำรงชีพยังคงเป็นอาหาร เมื่อมีอาหารมากพอที่จะเลี้ยงประชาชนของตนเองให้อิ่มท้องได้จึงจะเป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของการพัฒนา หากว่ามีพื้นที่ปลอดภัยในการทำเกษตกรรมมากขึ้นผลผลิตต่างๆก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วยแน่นอน "เหลืออยู่แต่เพียงเรื่องตัวของบุคคลว่าจะให้ผู้ใดเข้ามารับหน้าที่สำคัญต่างๆ อืมเห็นที่เรื่องนี้ต้องรอท่านอาจารย์กลับมาจากสถาบันผู้ฝึกตนก่อนค่อยสอบถามความคืบหน้าเพิ่มเติม" กาเล็ทคิดสรุปกับตนเอง




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×