ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #24 : ศาสตราวุธ [รีไรท์2020]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21.94K
      689
      6 พ.ย. 63



         ในช่วงกลางดึก ณ บ้านตระกูลบุสโซ่ แสงสว่างเจิดจ้าเกินบรรยายเล็ดรอดออกมาจากห้องของกาเล็ทจนสาดส่องไปทั่วทั้งบ้าน

         แน่นอนว่าแสงสว่างที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นโดยพลังงานซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของกาเล็ทที่พึ่งจะหลอมสร้างพัฒนาแกนจิตวิญยาณของตนขึ้นมาถึงระดับขีดขั้นที่ 9 ได้สำเร็จ 

         ไม่นานกาเล็ทที่นั่งขัดสมาธิอยู่ก็ค่อยๆลืมตาขึ้น หากสังเกตุให้ดีจะพบว่าในแววตาของกาเล็ทตอนนี้นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นต่อตนเอง "ในที่สุดข้าก็ทำได้สำเร็จ" กาเล็ทเอ่ยบอกกับตัวเอง ตอนนี้กาเล็ทได้บรรลุพลังระดับที่ 9 ขั้นแรกตามที่มุ่งหวังไว้แล้ว ไม่เพียงแต่สามารถกระทำได้ตามที่หวังเท่านั้น การหลอมสร้างแก่นจิตวิญญาณในระดับที่ 9 ของกาเล็ทยังใช้เวลาน้อยกว่าที่ควรจะเป็นถึงสิบห้าวัน 

         "นายน้อยขอรับ นายน้อยเป็นอะไรหรือเปล่าขอรับ" เสียของโจเซพซึ่งแฝงไปด้วยความรู้สึกแตกตื่นลนลานเอ่ยเรียกกาเล็ทเป็นการใหญ่จากภายนอก

         "กาเล็ท...ลูก เป็นอะไรหรือเปล่า กาเล็ท" คล้อยหลังจากเสียงเรียกของโจเซพ เสียงของนีน่าที่แสดงออกถึงความหวาดวิตกก็ตามมา 

         แน่นอนว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ซึ่งไม่ปกติขึ้นกลางดึก ทั้งนีน่าและโจเซพที่ถูกปลุกให้ตื่นจากแรงสั่นสะเทือนและแสงสว่างจ้าจึงรู้สึกแตกตื่นขวัญเสียเป็นธรรมดา

         "ท่านแม่..ท่านลุง ทำให้พวกท่านตื่นตระหนกแล้ว" กาเล็ทที่เปิดประตูออกมาเอ่ยกล่าวอย่างรู้สึกผิด

         "เกิดอะไรขึ้นหรอลูก ทำไม.." นีน่าเอ่ยถามยังไม่ทันจบ กาเล็ทก็เผยรอยยิ้มออกมา

         "ข้าบรรลุถึงขีดขั้นพลังระดับที่ 9 แล้วครับ ท่านแม่ ท่านลุง" กาเล็ทเอ่ยบอก

         โจเซพที่สัมผัสได้ถึงรัศมีพลังอันแข็งแกร่งจากร่างของกาเล็ทเบิกตากว้าง แม้จะตระหนักรู้อยู่แล้วว่าตั้งแต่ฟื้นคืนมาจากอาการบาดเจ็บ นายน้อยของตนก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน หากแต่โจเซพก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแตกตื่นตกใจต่อระดับพรสวรรค์ของผู้เป็นนายที่สามารถบรรลุพลังถึงขีดขั้นระดับที่ 9 ได้ตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี"นายน้อยท่าน...ท่านช่างน่าอัศจรรย์นัก ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่จะเป็นเรื่องจริง นี่มันไม่น่าจะเป็นไปได้" โจเซพถึงกับอุทานพร้อมทั้งพูดกับตัวเองด้วยความสุขใจประหนึ่งว่าผู้ที่บรรลุพลังสู่ขอบเขตขั้นที่ 9 เป็นตน

         ถึงแม้จะได้ยินที่กาเล็ทเอ่ยบอกแล้วหากแต่นีน่ายังคงเดินเข้ามาเพื่อพินิจตรวจดูร่างกายของกาเล็ทอย่างรู้สึกเป็นห่วง "กาเล็ทไม่ได้เป็นอะไรจริงๆนะลูก" นีน่าเอ่ยถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

         "ท่านแม่ ข้าไม่เพียงแต่ไม่เป็นอะไร หากแต่ในตอนนี้ร่างกายของข้านั้นแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก" กาเล็ทเอ่ยพร้อมกับที่ก้มลงรวบยกร่างของนีน่าขึ้นอย่างง่ายดาย

         "กาเล็ทจะทำอะไรหรอลูก ปล่อยแม่ลง" นีน่าเอ่ยถามอย่างรู้สึกตกใจออกมาในทันที

         กาเล็ทหัวเราะ "ข้าเพียงแต่แสดงให้ท่านแม่ดู ท่านแม่ ท่านไม่ดีใจหรือที่ข้าแข็งแกร่งขึ้น  ต่อจากนี้พวกเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเกรงกลัวผู้ใดในโรฮานอีก ข้าจะไม่ปล่อยให้ใครหน้าไหนมารังแกท่านแม่ ท่านลุงอีกแล้ว" กาเล็ทเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความมุ่งมั่นจริงจัง

         นีน่ายิ้ม "ยินดีก็ยินดีอยู่ กาเล็ทเป็นลูกแม่ แม่จะไม่ดีใจที่กาเล็ทประสบความสำเร็จได้อย่างไรล่ะลูก?  ปล่อยแม่ลงเถอะ" นีน่าเอ่ย

         โจเซพที่ด้านข้างเห็นอย่างนั้นก็ได้แต่หัวเราะออกมากับตัวเองอย่างรู้สึกมีความสุข ไม่นาน หญิงรับใช้สองคนที่พึ่งจะรับมาใหม่ก็ออกมาจากที่พักเพื่อตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่  เมื่อโจเซพเห็นอย่างนั้นก็หันกลับไปบอกให้พวกนางกลับเข้าไปพักผ่อนต่อเนื่องเพราะ ณ ตอนนี้ไม่มีสิ่งใดที่น่าวิตกกังวลแล้ว

         "ตระกูลบูลโน!...พวกเราจะได้เห็นดีกันแน่" กาเล็ทนึกคิดกับตัวเอง

         รุ่งเช้าของวันต่อมา ขณะที่แชลเทียกำลังเดินทางออกจากบ้าน แชลเทียกลับพบว่ากาเล็ทนั้นได้มาแอบยืนรอตนอยู่ก่อนแล้ว "กาเล็ท!" แชลเทียเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกยินดีและแปลกใจในเวลาเดียวกัน

         "ข้าแวะมารับเจ้า พวกเราจะได้ร่วมทางไปด้วยกัน" กาเล็ทเอ่ยบอก

         "เหตุใดไม่แจ้งต่อบ่าวไพร่เฝ้าประตู กาเล็ทจะได้เข้าไปรอข้าอยู่ด้านใน" แชลเทียเอ่ย

         กาเล็ทได้ยินอย่างนั้นก็ส่งเสียงกระแอมไอออกมาครั้งหนึ่งอย่างทำอะไรไม่ถูก "อืม..ข้า..ข้ากลัวว่าบิดาเจ้าจะ.." กาเล็ทเอ่ย

         แชลเทียได้ยินอย่างนั้นก็ได้แต่แอบหัวเราะขำอยู่กับตัวเองต่อท่าทีซึ่งกาเล็ทแสดงออก "ท่านพ่อจะว่าอย่างไรได้ เรื่องของกาเล็ทข้าก็ได้บอกกล่าวกับท่านพ่อไว้บ้างแล้ว  ว่าแต่กาเล็ทจะเข้าไปทักทายท่านพ่อหรือไม่?"

         "เอาไว้วันหน้าเถอะ" กาเล็ทเอ่ยอย่างรู้สึกประหม่า

         "ว่าแต่การฝึกฝนของกาเล็ทเป็นอย่างไร?" แชลเทียเอ่ยถามอย่างรู้สึกกังวลหากแต่กลับพบว่าบนหน้าของกาเล็ทนั้นปรากฎรอยยิ้มแห่งความมั่นใจขึ้น 

         "ข้าบรรลุพลังสู่ระดับขั้นที่ 9 แล้วเมื่อคืนวาน คิดว่าตอนนี้ข้าคงพอจะมีทุนรอเพียงพอที่จะต่อการกับตระกูลบลูโนได้แล้ว ต่อให้ไม่อาจเอาชัยจะอย่างไรก็คงไม่พ่ายแพ้อย่างหมดรูป" กาเล็ทเอ่ยอย่างมั่นใจ เนื่องเพราะไม่เชื่อว่าวิชาขั้นสูงซึ่งต้นเรียนรู้มาจากมิติว่างเปล่านั้นจะมาพ่ายแพ้ให้กับวิชาการต่อสู้ในโลกยูยานแห่งนี้

         "จริงหรือ?" แชลเทียเอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ เนื่องเพราะรู้ดีว่าพลังในระดับขีดขั้นที่ 9 นั้นไม่ใช่อะไรซึ่งจะสามารถบรรลุดได้โดยง่าย ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงว่ามีผู้คนไม่น้อยที่ใช้เวลาตลอดทั้งชีวิตก็ยังไม่สามารถที่จะไขว่คว้าความแข้งแกร่งในระดบขีดขั้นที่ 9 ได้สำเร็จ

         "เจ้าถอยห่างออกไปอีกหน่อย" กาเล็ทเอ่ยบอกกับแชลเทีย จากนั้นจึงปลดปล่อยกระแสพลังซึ่งตนปิดบังกดข่มไว้ออกมาให้แชลเทียได้สัมผัส 

         เมื่อสัมผัสได้ถึงรัศมีพลังที่แข็งแกร่งจากร่างของกาเล็ท ม่านตาของแชลเทียก็เบิกกว้างขยายออกเนื่องเพราะถึงแม้จะได้เห็นกับตาหรือได้ยินกับหู เรื่องที่เด็กซึ่งมีอายุเพียง 17 ขวบปีจะสามารถบรรลุพลังในระดับขีดขั้นที่ 9 นั้นไม่เคยมีมาก่อนในประวติศาสตร์ของโรฮาน หรือแม้กระทั่งทั่วทั้งแผนดินยูยาน "กาเล็ทช่างยอดเยี่ยมนัก ตัวข้านั้นเทียบกับกาเล็ทไม่ได้เลย" เชียลเทียเอ่ย
         ----------------------------------------------------------------------------------------------

         ณ ห้องของผู้อำนวยการคลาร่า

         "ไม่ทราบว่ายอดอัจฉริยะมีเรื่องใดถึงได้มาพบกับข้า?" คลาร่าที่รอกาเล็ทซึ่งมาขอเข้าพบกับตนอยู่ก่อนแล้วเอ่ยถามออกมาทันทีที่กาเล็ทเปิดประตูก้าวเข้ามาภายในห้อง

         "เพียงแต่มีเรื่องอยากขอร้องต่อท่านผู้อำนวยการให้ช่วยเหลือ"  กาเล็ทเอ่ย

         ได้ยินอย่างนั้นคลาร่าก็แค่นเสียงออกมาคำหนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยสิ่งที่จนเองคาดเดาไว้ในใจออกมา "หากข้าคาดเดาไม่ผิด เรื่องที่ยอดอัจฉริยะอย่างเจ้าจะมาขอร้องไหว้วานคงเกี่ยวข้องกับตระกูลบลูโนกระมัง?"

         "เป็นเช่นั้น" กาเล็ทผงกศีรษะ

         ได้ยินอย่างนั้นคลาร่าก็ถอนหายใจออกมา "ถึงแม้เจ้าจะมีความสามารถที่สุดจะหยั่งแต่ข้าไม่คิดเลยว่าตัวเจ้าจะกระทำการวู่วามถึงเพียงนี้ การที่เจ้าไปท้าสู้กับตระกูลบลูโนนั้นก็ไม่ต่างจากการเอาไข่ไปกระทบกับหิน   ต่อให้จะเป็นข้า ก็ยังไม่แน่ว่าจะไกล่เกลี่ยเรื่องราวให้กับเจ้าได้ อีกทั้งเรื่องนี้ทางสภาขุนนางก็ได้ตกลงให้เกิดการประลองขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ทราบหรือไม่ว่านี่หมายความว่าอย่างไร?"  จ้องมองมาสังเกตดูท่าทีของกาเล็ทอยู่พักใหญ่ คลาร่าก็เอ่ยต่อ  "ทางสภาสูงเลือกให้เจ้าตาย ..แต่เอาเถอะข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถก็แล้วกัน" คลาร่าเอ่ยกับกาเล็ทด้วยน้ำเสียงและแววตาที่แสดงออกถึงความผิดหวังอย่างชัดเจนหากแต่พริบตาต่อมากาเล็ทก็เอ่ยในสิ่งที่คลาร่าคิดไม่ถึงออกมา

         "ท่านเข้าใจผิดแล้วท่านผู้อำนวยการ ศึกระหว่างข้าและผู้นำแห่งตระกูลบลูโน  ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนและข้าก็อยากจะให้มันเกิดขึ้น เรื่องนี้หากข้าไม่ตกตายก็ต้องเป็นตระกูลบลูโนที่ต้องจบสิ้นและไม่มีทางที่จะปรองดองกันได้อีก" กาเล็ทเอ่ยเพื่อแก้ความเข้าใจผิดของคลาร่า

         ได้ฟังคำกล่าวบอกของกาเล็ท คิ้วสวยได้รูปทั้งสองของคลาร่าก็ขมวดเข้าหากัน "เช่นนั้นเจ้ามาด้วยเรื่องใด?" คลาร่าเอ่ยถามเสียงแข็งขึ้นทันควัน

         กาเล็ทที่ได้ยินคำถามยกมือขึ้นชี้ไปยังดาบที่ถูกแขวนอยู่ด้านหลังของคลาร่า "ข้ามาเพื่อขอยืมดาบเล่มนั้น"

         ได้ฟังถึงจุดประสงค์การมาของยอดอัจฉริยะอย่างกาเล็ท คลาร่าก็หยีตาลงอย่างคิดคำนวน  "เจ้าทราบหรือไม่ว่าดาบนี้มีความสำคัญต่อข้ามากเพียงไร?"

         "ข้าไม่ ข้ารู้เพียงแค่ว่าดาบเบื้องหลังท่านผู้อำนวยการเป็นดาบวิเศษที่หาได้ยาก" กาเล็ทเอ่ย

         "ดาบเล่มนี้เป็นดาบประจำตระกูลของข้าที่ได้รับสืบทอดกันมาหลายต่อหลายรุ่น บอกตามตรงว่าแม้แต่ตัวของข้าเองก็ยังไม่เคยใช้มันออกศึก" คลาร่าเอ่ยบอก

         กาเล็ทได้ยินอย่างนั้นก็ฝืนยิ้มออกมาด้วยรู้ดีว่าคลาร่านั้นเอ่ยปฎิเสธตัวเองทางอ้อมแล้ว "ข้าเข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นข้าคงไม่ขอรบกวนเวลาของท่านผู้อำนวยการอีก"

         ขณะที่กาเล็ทกำลังจะลุกออกไป คลาร่าก็เอ่ยถามขึ้น "ข้าขอถามเจ้าได้หรือไม่?"   เมื่อเห็นว่ากาเล็ทชะงักค้างไป คลาร่าก็เอ่ยถามออกมาอย่างไม่ให้กาเล็ทได้ตั้งตัวทันที "เหตุใดจึงต้องทำลายอนาคตของตัวเองถึงเพียงนี้?"

         กาเล็ทได้ยินอย่างนั้นก็หันกลับมาจ้องไปที่ดวงตาของคลาร่า "จริงอยู่ว่าข้าสามารถอยู่อย่างสงบและแอบซ่อนตัวตนอย่างที่ข้าตั้งใจไว้ แต่นั่นต้องแลกมากับความทุกข์ทรมาณของหญิงนางหนึ่งที่ห่วงใยข้า หากจะให้ข้าทำเช่นนั้นเพื่อความอยู่รอดของตัวข้าเอง มิสู้ให้ข้าตายเสียตั้งแต่ตอนนี้ยังจะดีเสียกว่า" กล่าวจบกาเล็ทก็ก้าวเดินเตรียมออกจากห้องไป

         "ช้าก่อน....ข้าจำไม่ได้ว่าบอกปฎิเสธเจ้าไปเมื่อใด?" กล่าวจบคลาร่าก็ใช้พลังจิตวิญญาณดึงดูดดาบที่แขวนอยู่บนผนังห้องเบื้องหลังมาไว้ในมือของตน "ต่อให้เป็นศาสตราวุธที่ดีเยี่ยมเพียงไรหากมิได้ออกศึกก็คงไม่ต่างอะไรกับเศษเหล็ก รับไป หวังว่ามันจะช่วยเจ้าได้" คลาร่าเอ่ยพร้อมกับที่โยนดาบเล่มนั้นให้กับกาเล็ท

          กาเล็ทหันมารับดาบนั้นไว้ทันที "ขอบใจท่านผู้อำนาวยการที่เมตตา น้ำใจครั้งนี้ ข้ากาเล็ทจะไม่มีวันลืม" เอ่ยกล่าวจบกาเล็ทก็ก้าวเดินออกจากห้องไป


         รีไรท์ 2020



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×