ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #249 : รับรู้แผนร้าย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.36K
      475
      28 ส.ค. 61




    "บัดซบ ไม่คิดเลยว่าจักรพรรดิ์จรัสแสงแห่งทวีปกลางจะชั่วร้ายถึงเพียงนี้" กาเล็ทคิดกับตนเองขณะที่กำมือทั้งสองเข้าหากันอย่างโกรธแค้นจากนั้นพลันหันไปถลึงตามองบาทหลวงเจมินี่ "ต่อให้เจ้าหลงผิดคิดว่ามันเป็นตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้าก็ไม่น่าจะเหลวไหลถึงเพียงนี้ วิชาดูดชีพกลืนวิญญาณที่มันใช้ออกนั้นเป็นวิชามารนอกรีตโดยแท้ เฮ้ออไฉนเจ้าถึงเป็นไปได้ถึงเพียงนี้" กาเล็ทเอ่ยว่าตำหนิบาทหลวงเจมินี่ออกมา

    "ข้าผิดไปแล้ว ตอนนี้ข้าสำนึกผิดและรู้สึกเสียใจยิ่งนักกับสิ่งที่ข้าทำไป" บาทหลวงเจมินี่ก้มลงโขกศรีษะให้แก่กาเล็ทพร้อมทั้งรีบเอ่ยปากขออภัย

    ที่กาเล็ทรู้สึกโกรธเคืองจนต้องระบายออกด้วยการโทษว่าตำหนิบาทหลวงเจมินี่ก็เพราะสิ่งที่มันได้เปิดเผยต่อตนเอง จากคำบอกเล่าของบาทหลวงเจมินี่นั้นได้ความว่าจักรพรรดิจรัสแสงฝึกวิชาลับอยู่วิชาหนึ่งที่มีชื่อว่าดูดชีพกลืนวิญญาณ วิชานี้นั้นจะใช้วิธีการร่วมรักกับหญิงสาวและดูดเอาพลังชีวิตของพวกนางขณะที่ร่วมรักกันเข้าสู่แก่นจิตวิญญาณของตนเอง สำหรับกับกาเล็ทแล้วเข้าใจถึงวิธีการและหลักการของวิชานี้เป็นอย่างดีเพราะวิชามารนอกรีตเช่นนี้ก็นับเป็นหนึ่งในความรู้ที่ตนเองเก็บเกี่ยวได้ก่อนที่จะมายังโลกแห่งนี้ หากให้เทียบเปรียบวิชาดูดชีพกลืนวิญญาณนี้กับการกระทำของจักรพรรดิแดงแล้ว วิชาดูดชีพกลืนวิญญาณของจักรพรรดิจรัสแสงนั้นชั่วช้าเลวทรามกว่าหลายเท่านั้น สตรีเคราะห์ร้ายที่ต้องโดนมันสูบพลังวิญญาณไปไม่เพียงแต่ต้องตกตายในสภาพที่อเนจอนาถแล้วแม้แต่วิญญาณซึ่งเป็นแก่นของชีวิตก็ต้องถูกสูบทำลายสลายหายไปไม่สามารถไปสู่สุขติได้อีก ที่บาทหลวงเจมินี่เอ่ยเล่าถึงเรื่องนี้ให้แก่กาเล็ทฟังเป็นอันดับแรกก็สืบเนื่องจากมันเกี่ยวพันถึงแผนร้ายที่จักรพรรดิจรัสแสงวางแผนลูกโซ่ไว้

    "เอาเถอะ เร่งรีบบอกมาว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันอันใดกับการที่เจ้าต้องนำผลึกอสูรคลั่งนั้นมาติดตั้งไว้ยังหุบเขาอสูรฟ้าของทวีปตะวันออก" กาเล็ทเอ่ยถามต่อ

    ได้ยินคำถามนี้ของกาเล็ท บาทหลวงเจมินี่ก็เงยหน้าขึ้นมาเอ่ยบอกเล่าต่อไป ใบหน้าของมันในตอนนี้นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัวขาดเขลา

    ยิ่งได้ฟังสิ่งที่บาทหลวงเจมินี่เอ่ยบอกเล่ามาเท่าใด สีหน้าของกาเล็ทก็ยิ่งหมองคล้ำลงเท่านั้น ความโกรธเคืองไม่พอใจที่ค่อยๆก่อเกิดขึ้นในจิตใจสะสมเพิ่มพูนขึ้นสุดท้ายแล้วด้วยความโกรธแค้นที่มีอยู่ต่อจักรพรรดิจรัสแสงก็ทำให้กาเล็ทถึงกับขบกรามกรอด "จักรพรรดิจรัสแสง ข้าจะให้เจ้าได้เห็นดีแน่นอน" กาเล็ทส่งเสียงเล็ดลอดไรฟันออกมาอย่างอดไม่ได้ บาทหลวงเจมินี่ยังคงบอกเล่าเรื่องราวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

    "จักรพรรดิออก้าแห่งทวีปตะวันตก!!! ข้าคิดไว้แล้วไม่มีผิด เช่นนี้ก็มีเหตุผลเพียงพอแล้วที่มันคิดฆ่าเราเมื่อครั้งนั้น" เมื่อได้ฟังว่าออก้าจักรพรรดิแห่งทวีปตะวันตกได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกับทวีปกลางแล้วเมื่อสองเดือนก่อนซึ่งเป็นเวลาก่อนที่การประชุมสี่ทวีปจะเริ่มขึ้นกาเล็ทก็ต้องส่งเสียงด่าทอออกมาอีกครั้ง

    "พวกเราไม่อาจล่าช้า ไม่เช่นนั้นแผนลูกโซ่นี้ของเจ้ามารร้ายนั่นจะต้องสำเร็จแน่นอน ข.. ข้าคิดว่าตอนนี้ ห้าพี่น้องตระกูลวอลเรนแห่งทวีปกลางคงเริ่มลงมือแล้ว" บาทหลวงเจมินี่เอ่ยกล่าว

    สิ่งที่กาเล็ทได้รับรู้นั้นถือได้ว่าเป็นข้อมูลที่น่าตระหนกตกใจไม่น้อย สาเหตุที่บาทหลวงเจมินี่และเอกีย์เดินทางมายังทวีปตะวันออกของตนเองนั้นก็เพื่อติดตั้งผลึกอสูรคลั่งซึ่งอยู่ในช่วงทดลองยังหุบเขาอสูรฟ้าโดยมีจุดประสงค์ที่จะกระตุ้นให้เหล่าสัตว์อสูรที่กบดานหลบซ่อนอยู่ในหุบเขาอสูรฟ้าของทวีปตะวันออก ออกอาละวาด หากเป็นเช่นนั้นตนเองซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ปกครองแห่งทวีปตะวันออกก็จะทุ่มความสนใจไปยังเหล่าสัตว์อสูรทีี่ออกอาละวาดโดยไม่เอะใจเลยว่าแผนร้ายที่แท้จริงนั้นได้เริ่มต้นไปแล้ว ขณะที่ทำให้ทวีปตะวันออกและทวีปเหนือปั่นป่วนวุ่นวายด้วยสัตว์อสูรที่บ้าคลั่งออกอาละวาด ทวีปกลางก็จะยกกำลังพลเข้าบุกโจมตีโอบล้อมทวีปใต้ตามแผนที่วางไว้โดยที่ทวีปเหนือและทวีปตะวันออกของตนเองจะไม่สามารถระแคะระคายได้เลยว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ทวีปใต้ที่ถูกปิดล้อมโดยการวางแผนมาอย่างดีแล้วจะไม่สามารถส่งข่าวสารหรือผู้คนออกมาเพื่อร้องขอความช่วยเหลือได้เลย หนึ่งเดียวที่ผู้คนทวีปใต้จะสามารถเดินทางออกไปเพื่อขอความช่วยเหลือได้ก็คือทวีปตะวันตกของจักรพรรดิออก้าที่ทวีปกลางเปิดทางวางกับดักไว้ เมื่อความช่วยเหลือจากทวีปตะวันตกเดินทางมาถึง จักรพรรดิออก้าก็จะใช้ช่วงที่จักรพรรดินีซานซานไม่ทันระแวดระวังตัวลอบจู่โจมเข้าทำร้ายใส่นาง เช่นนี้การที่จะจับตัวคร่ากุมนางกลับไปให้แก่จักรพรรดิจรัสแสงก็จะเสร็จสมบูรณ์อย่างไร้ที่ติ ส่วนห้าพี่น้องวอลเรนที่บาทหลวงเจมินี่เอ่ยกล่าวถึงเมื่อครูนั้นคือ ผู้ฝึกตนระดับแนวหน้าของทวีปกลางซึ่งจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในขุมกำลังหลักของทวีปกลางเลยก็ว่าได้ จากการบอกเล่าของบาทหลวงเจมินี่ห้าพี่น้องวอลเรนนี้ต่างมีพลังถึงระดับจักรพรรดิกันอย่างถ้วนหน้า ยิ่งผู้เป็นพี่ใหญ่ของพวกมันนั้นจัดว่าอยู่ในระดับเดียวกันกับจักรพรรดิแห่งทวีปเลยก็ว่าได้

    กาเล็ทเดินวนไปมาขบคิดอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง "ทวีปกลางทุ่มเทกำลังออกมามากมายเพื่อแผนการนี้แสดงว่าจักรพรรดิจรัสแสงให้ความสำคัญต่อการจับกุมตัวจักรพรรดินีซานซานเป็นอย่างมาก หากว่าไม่มีอะไรผิดคาดแผนการของมันสมควรที่จะสำเร็จรุร่วงอย่างไร้ที่ติ" กาเล็ทคิดคำนวนกับตนเอง จู่กาเล็ทพลันนึกถึงจักรพรรดินีซานซานแห่งทวีปใต้ขึ้นมา "แม้เราจะเคยเอ่ยเตือนนางไปก่อนหน้าแล้วทว่านางยังคงให้ความไว้วางใจต่อจักรพรรดิออก้า หากว่าจักรพรรดิออก้าปรากฎตัวขึ้นทำทีว่ายกกำลังมาช่วยเหลือ นางซึ่งอยู่ในสภาวะขับขันต้องไม่ระแวดระวังแน่นอน...." ขบคิดถึงจุดนี้กาเล็ทก็เสมือนว่าจะตัดสินใจบางอย่างได้ "การที่เราได้รับรู้แผนร้ายของจักรพรรดิจรัสแสงเช่นนี้ หากว่าเราไม่ลงมือเคลื่อนไหวเกรงว่าออกจะเป็นการทำให้มันผิดหวังเกินไปแล้ว เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนข้อมูลอื่นๆที่เหลือเอาไว้รอให้สามาถคลี่คลายวิกฤตนี้แล้วค่อยว่ากล่าวถามกับมันเพิ่มเติมก็ไม่เสียหาย" กาเล็ทขบคิดตัดสินใจกับตนเอง

    เมื่อตัดสินใจได้แล้วกาเล็ทก็ไม่รอให้เนิ่นช้าอีก "บอกกล่าวต่อเจ้าให้เข้าใจ ข้าเองยังไม่ปักใจเชื่อทุกเรื่องราวที่เจ้าบอกเล่ามา" กาเล็ทเอ่ยกับบาทหลวงเจมินี่

    "ขอท่านโปรดเชื่อใจข้า ข้ายินยอมพร้อมใจที่มอบชีวิตที่หลงเหลืออยู่นี้เพื่อพิสูจน์ความภักดีที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า ให้ข้าได้ติดตามรับใช้ท่านซึ่งเป็นตัวแทนของพระองค์ที่แท้จริงด้วย ได้โปรด" บาทหลวงเจมินี่เปิดปากร้องขออย่างที่ตัวมันเองเมื่อหลายวันก่อนยังไม่เชื่อว่าตนเองจะกระทำเช่นนี้ได้

    "เรื่องนั้นเอาไว้เมื่อข้าพิสูจน์ยืนยันว่าสิ่งที่เจ้าบอกเล่ามาเป็นเรื่องจริงเสียก่อนก็ยังไม่สาย ก่อนจะถึงเวลานั้นข้าจำต้องปิดผลึกลอคพลังของเจ้าไว้ตามเดิม ข้าก็ได้แต่หวังว่าเจ้าจะเข้าใจ ภารกิจที่พระผู้เป็นเจ้ามอบหมายให้แก่ข้านั้นยิ่งใหญ่นักไม่อาจให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้เลยแม้แต่น้อย ข้าเสี่ยงเล่าความลับที่ไม่อาจจะเปิดเผยให้แก่ผู้คนได้ให้แก่เจ้าฟังเพราะเห็นว่าเจ้าเป็นสาวกที่ซื้อสัตย์ของพระองค์ ก่อนที่จะยืนยันได้อย่างแน่แท้ว่าเจ้ากลับตัวกลับใจเดินสู่หนทางที่ถูกต้องข้ายังคงต้องกักขังคร่ากุมตัวของเจ้าไว้" กาเล็ทเอ่ยกล่าวขณะที่เดินเข้าหาเพื่อยื่นมือของตนเองออกไปเพื่อจะสร้างลอคพลังขึ้นภายในร่างของบาทหลวงเจมินี่อีกครั้ง ขณะที่ยื่นมือออกไปกาเล็ทก็เฝ้าสังเกตุท่าทางของมัน หากว่ามันเสแสร้งแกล้งกระทำมันต้องไม่ยินยอมให้ตนเองปิดลอคของพลังของมันอีกครั้งแน่นอน

    บาทหลวงเจมินี่ที่ได้รับฟังเหตุผลของกาเล็ทแล้วก็ได้แต่หลับตายอมรับการจัดการจากผู้อื่น ถึงแม้ว่ามันจะรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ออกไปทำคุณชดเชยความผิดในครั้งนี้หากแต่มันก็เข้าใจในเหตุผลของกาเล็ทเป็นอย่างดี

    เมื่อการสร้างลอคพลังเป็นไปได้อย่างราบรื่นกาเล็ทก็นำพาร่างที่เสมือนไร้วิญญาณของบาทหลวงเจมินี่กลับออกไปสู่โลกภายนอกพร้อมกับมิร่า หลังจากออกมาปรากฎตัวยังห้องท้องเรือถามเดิมแล้วกาเล็ทก็หันไปออกคำสั่งกับลูกน้องคนสนิททั้งสี่ของตนเอง "จับมัดบาทหลวงเจมินี่ไว้ตามเดิม" จากนั้นกาเล็ทก็ส่งสายตาให้แก่เทลเล่อซึ่งคอยท่าอยู่แล้วและอุ้มมิร่าเดินออกจากห้องไป

    "ป.เป็นอย่างไรสำเร็จหรือไม่" เทลเล่อเอ่ยถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้เมื่อเห็นถึงท่าทีและสีหน้าของผู้เป็นศิษย์ซึ่งแลดูหมองคล้ำ

    "ดูเหมือนว่าจะสำเร็จท่านอาจารย์ จากท่าทีของมันนั้นมันเชื่อโดนสนิทใจแล้วว่าข้าเป็นตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงของมัน" กาเล็ทเอ่ยกล่าว
    "เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงไม่ยินดีแล้ว" เทลเล่อเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ

    "หลังจากที่มันเชื่อว่าข้าเป็นตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้าแล้ว มันก็พรั่งพรูข้อมูลมากมายออกมาบอกต่อข้าให้ได้รู้ ดูท่าว่าเราจะต้องเจอกับปัญหาใหญ่แล้วล่ะท่านอาจารย์" เอ่ยกล่าวเช่นนั้นกาเล็ทก็เริ่มเล่าในสิ่งที่ตนเองรู้ออกมา

    เทลเล่อที่ได้รับฟังเรื่องราวก็เกิดสีหน้าหมองคล้ำลงไปด้วยอีกคนหนึ่งเพราะรู้ถึงความหนักเบาเป็นอย่างดี "หากสิ่งที่มันบอกเล่าเป็นเรื่องจริงเจ้าตัดสินใจจะทำเช่นไร"

    "ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจปล่อยให้แผนร้ายนี้ของทวีปกลางประสบผล" กาเล็ทเอ่ยอย่างแน่วแน่

    เทลเล่อได้ยินเช่นนั้นก็หลับตาขบคิดครู่หนึ่ง "เช่นนั้นพวกเราทั้งสามก็เดินทางไปยังทวีปใต้เพื่อขัดขวางแผนร้ายนี้เถอะ ถึงแม้จะสุ่มเสี่ยงอยู่บ้างแต่ก็เป็นอย่างที่เจ้าว่าเราไม่อาจให้แผนร้ายของทวีปกลางประสบผล" เทลเล่อเอ่ยหากแต่กาเล็ทกลับส่ายหัว

    "ท่านอาจารย์ข้าคงต้องขอให้ท่านเดินทางสู่ทวีปเหนือเพื่อเอาเรื่องนี้ไปแจ้งบอกต่อจักรพรรดิแห่งแดนเหนือส่วนทางทวีปใต้ข้ากับมิร่าจะรับมือเอง" กาเล็ทเอ่ยถึงสิ่งที่ตนต้องการออกไป

    "ไม่ได้ จากคำบอกเล่าของบาทหลวงเจมินี่นั่นมิใช่บอกว่าทวีปกลางทุ่มกำลังมากมายมหาศาลไปยังทวีปใต้เพราะแผนนี้หรอกหรือ? เอาแค่ขุมกำลังจากทวีปกลางก็มีระดับจักรพรรดิถึงห้าคนแล้วนี่ยังไม่รวมกับจักรพรรดิออก้าแห่งทวีปตะวันตกอีก แม้จะเป็นเจ้ากับมิร่าน้อยก็ยังนับว่าสุ่มเสี่ยงเกินไป" เทลเล่อแสดงความเห็นค้านออกมาทันที

    กาเล็ทได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต้ยิ้มอ่อนๆออกมา "ท่านอาจารย์เราไม่อาจสูญเสียทวีปเหนือไปเช่นกัน คิดว่าหากเร่งเดินทางไปตอนนี้เพื่อแจ้งบอกข่าวของผลึกอสูรคลั่งและคนจากทวีปกลางต่อจักรพรรดิแดนเหนือได้คงช่วยลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้ไม่น้อย ทางด้านข้าขอท่านอาจารย์อย่าได้เป็นห่วง ท่านอาจารย์อย่าได้ลืมว่าข้ายังมีมิติเทพเจ้าอยู่ หากว่าจวนตัวเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาข้าและมิร่าน้อยยังคงสามารถหลบหนีเข้าไปหลบซ่อนได้ ที่ข้าห่วงนั้นกลับเป็นท่านอาจารย์มากกว่า หากว่าจักรพรรดิแห่งแดนเหนือถือเอาโอกาสนี้ระบายแค้นใส่ท่านเกรงว่า" กาเล็ทเอ่ยยังไม่ทันจบเทลเล่อก็เอ่ยสอดแทรกขึ้น

    "อย่าได้ลืมว่าข้าผู้นี้เป็นใคร ครั้งหนึ่งด้วยระดับพลังที่แตกต่างกันกว่า 5 ขั้น ข้ายังสามารถหลบหนีเอาตัวรอดมาจากเงื้อมมือของจักรพรรดิแดงได้อย่าว่าแต่ยามนี้ข้ามีพลังถึงระดับจักรพรรดิแล้ว" เทลเล่อเอ่ยกล่าว การที่เทลเล่อเอ่ยกล่าวเช่นนี้ก็เสมือนว่าเป็นการยอมรับข้อเสนอของกาเล็ทไปเรียบร้อยแล้ว

    "ท่านอาจารย์หากว่าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นถ้าผู้คนของทวีปเหนือถือเอาความแค้นเหนือเรื่องส่วนร่วมแล้วล่ะก็ข้าขอให้ท่านล่าถอยกลับมาอย่าได้คิดให้มากความ ขอท่านอาจารย์โปรดคำนึกถึงความสำคัญของตนเองเป็นอันดับแรก" กาเล็ทยังคงเอ่ยอย่างเป็นห่วง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×