ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #26 : สิ่งที่อัจฉริยะเป็นกังวล [รีไรท]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 27.95K
      651
      6 พ.ย. 63


         

         ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าศึกประลองเป็นตายที่ไม่ได้ถูกจัดมานานหลายสิบปีแล้วซึ่งพึ่งจะถูกจัดขึ้นใหม่ครั้งนี้จะเป็นการประลองที่ถือได้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโรฮาน  เนื่องเพราะการต่อสู้ห้ำหั่นกันของผู้ครอบครองพลังในขีดขั้นที่ 9 นั้นไม่ใช่อะไรซึ่งคนทั่วไปจะสามารถพบเห็นกันได้ง่ายๆ  ยิ่งเป็นการต่อสู้อย่างสุดกำลังที่ว่าต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งล้มตายกันไปข้างแบบที่พึ่งจะเกิดขึ้นครั้งนี้ ยิ่งมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย   เพียงชั่วพริบตาเดียว ชื่อของกาเล็ทบุสโซ่ก็ถูกประทับลงภายในใจของผู้คนมากมายนับพันหมื่นซึ่งเข้ามาชมการประลองในวันนี้

         "เขามีทุนรอนมากพอจริงๆ มิน่าเล่าเขาถึงมีความมั่นใจถึงเพียงนั้น" คลาร่าที่ยังรู้สึกทึ่งไม่อยากจะเชื่อกับภาพที่เห็นนึกคิดกับตัวเองในใจ "ท่านผู้พิทักษ์ ท่านรู้อยู่แล้วว่าเขายอดเยี่ยมถึงเพียงนี้?"

         เทอลเลอได้ยินอย่างนั้นก็ถอนหายใจออกมา "บอกตามตรงว่าแม้แต่ข้าเองก็คิดไม่ถึงว่าเด็กน้อยนี่จะมีความสามารถลึกล้ำสุดจะหยั่งถึงเพียงนี้  สิ่งที่ข้าใช้เวลาศึกษาเรียนรู้มานับสิบปี มันกลับสามารถเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งได้ภายในระยะเวลาเพียงสองเดือน"  เอ่ยกล่าวจบเทลเลอก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ

         "เหตุใดท่านจึงต้องถอนหายใจอย่างกับว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี?" คลาร่าเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ

         "ต้นไม้ใหญ่ก็ต้องเผชิญกับลมแรง ยิ่งยอดของมันแตกหน่อสูงขึ้นเท่าไร ยามที่ลมพายุพัดมา มันก็ยากที่จะต้านทางต่อลมพายุมากขึ้นเท่านั้น ที่จริงแล้วข้าเพียงแต่คิดว่าจะใช้การประลองในวันนี้ให้บทเรียนแก่มัน ผู้ใดจะคาดคิดว่าเด็กน้อยนี่กลับสามารถสังหารรุสโซ่ หัวหน้าตระกูลบลูโนได้จริงๆ"

         "ท่านกำลังจะบอกกับข้าว่าท่านตั้งจะเข้าไปหยุดการประลองถ้าจำเป็น?" คลาร่าเอ่ยถาม

         "มันคำนับข้าเป็นอาจารณ์แล้ว ข้าจะปล่อยให้มันถูกผู้คนสับฆ่าต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร" เทลเลอเอ่ย "เกรงว่าหลังจากวันนี้เป็นต้นไป ข่าวคราวที่เกิดขึ้นคงจะแพร่กระจายไปไกลจนยากที่จะสามารถควบคุมได้แล้ว" 

         "ถึงแม้ข้าจะรู้ว่าเด็กผู้นี่เก็บงำประกายไว้ตลอดมา แต่กลับไม่คาดคิดว่าความสามารถที่เขาปกปิดซ่อนไว้จะสูงล้ำถึงเพียงนี้ บอกต่อท่านตามตรงว่าข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าทั่วแผ่นดินนี้จะสามารถมีผู้ใดบรรลุพลังระดับที่ 9 รวดเร็วถึงเพียงนี้" คลาร่าเอ่ย

         "อย่าว่าแค่เพียงพลังระดับที่ 9  ด้วยระดับพรสวรรค์ที่มันแสดงออกมาให้เห็นในวันนี้ เกรงว่าอีกเพียงไม่กี่สิบปี ขั้วอำนาจของแดนยูยานคงต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงแน่"

         "ท่านผู้พิทักษ์หมายความว่าเขาสามารถที่จะก้าวขึ้นไปเทียบชั้นกับระดับจักรพรรดิแห่งทวีปได้ในสักวันหนึ่ง?" คลาร่าเอ่ยถาม

         "ข้าไม่มีข้อสังสัยเกี่ยวกับเรื่องนั้น เพียงแต่เกรงว่ามันจะไมมีเวลามากพอให้เติบโต แต่จะอย่างไร พวกเราต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเด็กน้อยผู้นี้ ท่านเข้าใจความหมายของข้าใช่หรือไม่ท่านผู้อำนวยการ" เทลเลอหันกลับมาเอ่ยถามผู้อำนวนการคลาร่าด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความจริงจังอย่างที่สุด 

         "ข้าเข้าใจ" คลาร่าเอ่ยตอ

         "ดูจากท่าทีของราชาเบรุทแล้ว เกรงว่าอีกไม่นานคงมีการเรียกตัวเด็กน้อยกาเล็ทไปเข้าพบและแต่งตั้งมอบตำแหน่งขุนนางให้ เช่นนั้นพวกเราก็ถือเอาโอกาสนี้แสดงออกต่อเหล่าขุนนางเถอะ" เทลเลอเอ่ย

         คลาร่าผงกศีรษะ "ว่าแต่หลังจากนี้ท่านผู้พิทักษ์คิดจะไปพบกับเขา?"

         เทลเลอส่ายศีรษะปฎิเสธ "ข้าคิดว่าเวลานี้คงยังไม่เหมาะ สองเดือนที่ผ่านมาเด็กน้อยนี่แทบจะไม่ได้กิน ไม่ได้นอน ให้เวลากับมันสักหน่อยเถอะ"

         นับจากการประลองศึกเป็นตายซึ่งทำให้ทุกผู้คนในเมืองหลวงรู้จักตระกูลบุสโซ่เวลาก็ได้ล่วงเลยผ่านมาอีกนับอาทิตย์ ในเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมานี้กาเล็ทได้ใช้เวลาพักฟื้นจากความเหน็ดเหนื่อยกดดันอย่างเต็มที่  ถึงแม้ว่าในศึกประลองเป็นตาย จะเป็นกาเล็ทที่ได้รับชัยชนะ ทว่าในวันนั้นกาเล็ทที่ฝืนใช้พลังจนเกิดขีดจำกัดของร่างกายก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนสำหรับเรื่องนั้นไม่น้อย  ทำให้หลังจากที่ศึกประลองจบลง ร่างกายของกาเล็ทที่ได้รับความบอบช้ำจำต้องได้รับการดูแลรักษาเอาใจใส่ และแชลเทียก็ไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้เสียเปล่า

         "กาเล็ท เมื่อไหร่กาเล็ทจะไปพบกับท่านพ่อและท่านแม้ของข้า...นี่ท่านพ่อก็เอ่ยถามถึงกาเล็ทกับข้าอยู่ทุกวัน" แชลเทียที่เห็นว่าอาการของกาเล็ทดีขึ้นแล้วเอ่ยขณะที่ใช้ผ้าเช็ดตามเนื้อตัวให้กับกาเล็ท

         กาเล็ทได้ยินอย่างนั้นก็กรอกตาคิดหาคำตอบที่เหมาะสม พูดตามตรงแล้ว กาเล็ทนั้นรู้สึกหวั่นใจอยู่ไม่น้อยที่จะต้องเดินทางไปพบกับว่าที่พ่อตาเป็นครั้งแรก

         "แชลเทีย..? ว่าแต่ อืม ว่าแต่ท่านลุงครูโซ่ ดุร้ายหรือไม่?" กาเล็ทเอ่ยถามที่ทำให้คนฟังไม่ค่อยจะเข้าใจออกมา

         "ดุร้าย?" แชลเทียเอ่ยถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ "ข้าหมายถึง..ข้าจะถูกท่านลุงต่อว่าหรือไม่" กาเล็ทเอ่ยถาม

         "ท่านพ่อจะไปต่อว่ากาเล็ทด้วยเรื่องอะไร? หากว่าท่านพ่อต่อว่ากาเล็ท ข้าจะ ข้าจะต่อว่าท่านพ่อเอง" แชลเทียเอ่ย

         นีน่าที่แอบฟังบทสนทนาของกาเล็ทกับแชลเทียอยู่ห่างๆได้ยินอย่างนั้นก็ทำได้แต่ลอบส่ายศีรษะ

         "กาเล็ทยังไงก็ต้องทำให้ถูกต้องก่อนนะลูก กาเล็ทกับหนูแชลเทียจะชอบพอกันแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ยังไงกาเล็ทก็ต้องทำให้ถูกต้อง หลังจากหายดีแล้วก็ต้องไปพบกับครอบครัวของหนูแชลเทียเขาก่อน เพื่อจะได้บอกให้ทางนั้นเขารู้ ถ้าจะหมั้นหมายกันไว้ยังไง แม่จะเป็นธุระให้  เกิดว่ากาเล็ทไม่ยอมทำให้ถูกต้อง หนูแชลเทียเขาจะถูกครหาเอาได้นะลูก"

         "ถ้าท่านแม่ว่าอย่างนั้น ข้าก็จะ จะทำให้ถูกต้อง" ถึงแม้จะยังรู้สึกเป็นกังวลอยู่ หากแต่กาเล็ทก็ตัดสินใจบางอย่างได้
       

         สำหรับเหตุผลที่กาเล็ทยังรีรอลังเลไม่ยอมไปพบกับครอบครัวของแชลเทียก็เนื่องเพราะกาเล็ทนั้นหวาดกลัวว่าจะถูกว่าที่พ่อตาต่อว่าตำหนิ  ในชีวิตก่อนของกาเล็ทนั้น กาเล็ทมีโอกาสได้รับฟังเรื่องราวเกี่ยวกับลูกเขยที่ถูกว่าที่พ่อตาเขม่นใส่มาไม่น้อย ทำให้พอถึงคราวของตัวเองขึ้นมาจริงๆ กาเล็ทจึงรู้สึกหวั่นเกรงหวาดกลัวขึ้นมา  ทว่าจะอย่างไรเกิดมาเป็นลูกผู้ชาย หากต้องการลูกเสือก็จำต้องเข้าถ้ำเสือ เมื่อตัดสินใจแล้ว กาเล็ทก็นัดวันเวลาที่สมควรเพื่อพานีน่าร่วมเดินทางไปยังตระกูลเรนเดลเพื่อพบกับว่าที่พ่อตาเป็นครั้งแรก

         

         "กาเล็ท ท่านป้า นั่งรอที่นี่ก่อน ข้าจะเข้าไปบอกกับท่านพ่อและท่านแม่ว่ากาเล็ทกับท่านป้ามาถึงแล้ว" แชลเทียเอ่ยขณะที่จัดแจงให้กาเล็ทและนีน่านั่งรออยู่ภายในห้องรับแขกของตระกูลเรนเดล

         
         รอคอยอยู่ชั่วครู่ใหญ่ กาเล็ทซึ่งคิดว่าตัวเองนั้นคงไม่ต่างอะไรกับหมูที่รอวันถูกเชื่อดก็ปรากฎเหงื่อยเม็ดใหญ่ขึ้นมาบนใบหน้า อีกชั่วครู่ใหญ่บนใบหน้า

          "ท่านพ่อเหตุใดจึงต้องเร่งรีบถึงเพียงนี้ ข้ากับท่านแม่เดินตามไม่ทันแล้ว" เสียงของแชลเทียดังแว่วมาแต่ไกล

         ทันทีที่ปรากฎตัวเข้ามาภายในห้องรับแขก ครูโซ่ก็ถึงกลับหยุดชะงักไปเนื่องเพราะรีบเดินทางมาโดยไม่ได้เตรียมตัวไว้ว่าจะเอ่ยทักทายนีน่ากับกาเล็ทอย่างไรดี 

         "กาเล็ทนี่ท่านพ่อของข้า และนี่ก็คือท่านแม่ของข้า" แชลเทียเอ่ยแนะนำจากนั้นจึงเอ่ยแนะนำกาเล็ทและนีน่าให้กับผู้เป็นบิดาของตนจากนั้นจึงหันไปเอ่ยแนะนำกาเล็ทให้กับครูโซ่และลินดา "ท่านพ่อ ท่านแม่ นี่กาเล็ท กับท่านป้านีน่า"

         ได้ยินอย่างนั้นครูโซ่ก็เผยรอยยิ้มที่แสดงออกถึงความยินดีออกมา "ครูโซ่น้อมพบท่านหญิง ข้ารอวันที่จะได้พบกับท่านหญิงนีน่าอยู่ทุกวี่วัน" เอ่ยกล่าวจบครูโซ่ก็รีบหันไปโบกมือสั่งให้คนรับใช้นำของขวัญที่เตรียมไว้ออกมา "นี่แทนคำขอบคุณของข้าต่อท่านหญิงที่ช่วยดูแลลูกสาวของข้าในช่วงเวลาที่ผ่านมา" ครูโซ่หยิบกล่องชุดเครื่องประดับเพรชซึ่งดูมีราคาแพงส่งยื่นมาให้กับนีน่าที่ยังทำอะไรไม่ถูกเพราะท่าทีของครูโซ่ซึ่งแสดงออก

         "ของขวัญ? นีน่าจะกล้ารับไว้ได้อย่างไร" นีน่าเอ่ย

         ครูโซ่หัวเราะ "ท่านหญิงอาจจะยังไม่รู้ว่าตระกูลเรนเดลของข้าได้รับความช่วยเหลือจากท่านหญิงมากมายเพียงไร เพียงแค่ของขวัญเล็กน้อยเช่นนี้ยังไม่พอที่จะตอบแทนน้ำใจที่ข้าได้รับมาจากท่านหญิงและบุตรชายด้วยซ้ำไป"  เอ่ยกล่าวกับนีน่าเสร็จ ครูโซ่ก็หันมาเอ่ยทักทายกับกาเล็ท

         "พอได้มาเห็นเจ้าใกล้ๆแล้วดูไม่ออกจริงๆว่าจะเก่งกล้าสามารถถึงเพียงนั้น น่าเสียดาย น่าเสียดายที่วันนั้นข้าไม่ได้มีโอกาสไปเห็นการประลองที่ถูกโจษจันไปทั่วทั้งเมืองหลวงเองกับตา" ครูโซ่เอ่ยชมกาเล็ท

         "ขอบคุณท่านลุง" กาเล็ทตอบ

         เห็นอย่างนั้น ครูโซ่ก็เข้ามากอดกาเล็ทไว้แน่นจนทำให้กาเล็ททำอะไรไม่ถูก

          "ขอบใจเจ้า ขอบใจเจ้ามาก"ครูโซ่พร่ำเอ่ยพูดขอบคุณซ้ำๆขณะที่โอบกอดกาเล็ทไว้

         "ท่านลุงไม่จำเป็นที่จะต้องขอบใจข้า ข้าทำไปก็เพื่อตัวของข้าเอง" กาเล็ทเอ่ย

         "เจ้าหมายความว่าอย่างไร?" ถึงจะรู้ดีอยู่แล้วหากแต่ครูโซ่ก็เลือกที่จะแกล้งเอ่ยถามออกมา

         "ข้า...ข้ากับแชลเทีย ขอท่านลุงได้โปรดอนุญาติให้ข้ากับแชลเทียคบหาดูใจกันด้วย ข้า...ข้าชอบนางจริงๆ" กาเล็ทเอ่ยออกมา

         ได้ยินอย่างนั้น บรรยากาศภายในห้องรับแขกของตระกูลเรนเดลก็เงียบกริบลงทันที
       
         เพียงไม่นาน ครูโซ่ก็ระเบิดเสียงหัวเราะที่แสดงออกถึงความรู้สึกยินดีออกมา
         
         "เรื่องนี้ไม่ได้ชึ้นอยู่กับตัวข้า หากแต่ว่าขึ้นอยู่กับตัวของลูกสาวข้า ถ้าหากว่านางตกลง ข้าเองก็ไม่ขัดข้อง แต่เกรงว่าเรื่องนี้คงจะไม่ง่าย  ลูกสาวของข้าผู้นี้ถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจมาตั้งแต่ยังเล็ก" ครูโซ่เอ่ยถึงจุดนี้ก็แกล้งถอนหายใจออกมา "น่าเสียดาย น่าเสียทายที่นางเคยลั่นปากไว้ว่าชั่วชีวิตนี้จะไม่แต่งให้กับบรุษใด น่าเสียดายจริงๆ"

         "ท่านพ่อ!" แชลเทียที่ยืนอยู่ไม่ไกลได้ยินอย่างนั้นก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียกครูโซ่ออกมาทันที

         "ข้ากล่าวผิดหรือ? เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะส่งผลกับชีวิตของเจ้าไปตลอด ตัวข้าย่อมไม่สามารถที่จะตัดสินใจแทนเจ้าใด อีกทั้งเจ้าเองก็เคยลั่นปากไว้ว่าจะไม่แต่งให้กับผู้ใด เช่นนี้แล้วข้าจะไปบังคับเจ้าได้อย่างไร" ครูโซ่หันมาเอ่ยกับแชลเทีย

         "เรื่องนี้ล้วนแล้วแต่ท่านพ่อ...การออกเรือนของสตรีก็ย่อมต้องขึ้นอยู่กับครอบครัวจะกำหนดอยู่แล้ว" แชลเทียเอ่ยอย่างอ้อมๆ

         "เช่นนั้นก็ เอาเป็นขอข้าคิดดูก่อน" ครูโซ่เอ่ยตอบกาเล็ท

         "ท่านพ่อ !!" แชลเทียได้ยินอย่างนั้นก็ขึ้นเสียงเอ่ยค้อนใส่ครูโซ่อีกครั้งทันที

         "ท่านพี่" ท่านด้านลินดาเองซึ่งเห็นว่าครูโซ่ละเล่นมากเกินไปอยู่บ้างก็ช่วยเอ่ยปรามขึ้นมาอีกคน

         เห็นอย่างนั้นครูโซ่ก็ทำได้แต่หัวเราะ "พวกเจ้าชอบพอกันถึงเพียงนี้ ข้าจะบอกปัดได้อย่างไร" ครูโซ่ตอบ

         "นีน่าเดินทางมาพบกับท่านครูโซ่ก็ด้วยเรื่องนี้ด้วยส่วนหนึ่ง ในเมื่อเด็กทั้งสองต่างชอบพอกัน นีน่าก็อยากจะมาปรึกษากับท่านครูโซ่แทนลูกชายเกี่ยวกับการหมั้นหมายหนูแชลเทียให้กับลูกชายของนีน่า ไม่ทราบว่าท่านครูโซ่จะรังเกียจหรือไม่?" นีน่าเอ่ย

         "ข้าจะรังเกียจท่านหญิงได้อย่างไร เอาเป็นว่าพวกเราเข้าไปพูดคุยเรื่องนี้กันด้านในเถอะ ข้าได้สั่งให้บ่าวไพร่หญิงรับใช้เตรียมอาหารเอาไว้เพื่อเลี้ยงขอบคุณและแสดงความยินดีกับกาเล็ทที่ชนะศึกประลองมาได้อย่างสวยงามแล้ว" ครูโซ่เอ่ย

         กาเล็ทได้ยินอย่างนั้นก็ทำได้แต่ยืนงงกับตัวเองซึ่งรู้สึกกังวลไปอย่างเปล่าประโยชน์






    ปล.รีไรท์ฉบับ 2020 เพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหา  มีการปรับเปลี่ยนบทพูด  ปรับเปลี่ยนอายุกาเล็ท ปรับเปลี่ยนทามไลน์นิดหน่อย ปรับเปลี่ยนสำนวนให้อ่านเข้าใจง่าย ลื่นไหล  อ่านแล้วไม่อยากปิดทิ้ง    ซึ่งบอกตรงๆว่าแก้งานตัวเองรอบนี้เหนื่อยมากๆเลยครับ   แต่ก็จะพยายาม



     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×