ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #301 : จะไม่เจ็บปวดหรือ?

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.03K
      359
      31 ธ.ค. 61


    เหตุใดจึงให้ขับไล่ผู้คนออกจากโรฮาน? สาเหตุก็เพราะกาเล็ทนั้นยังไม่อาจหักใจอำมหิตที่จะสังหารผู้บริสุทธิไปมากกว่านี้ กาเล็ทยังคงจดจำกรณีของโจดานได้ดี มีคำกล่าวที่ว่าความแค้นของผู้คนนั้นลึกล้ำยิ่งกว่ามหาสมุทธ นี่ย่อมเป็นความจริงไม่แปลกปลอม ผู้คนที่มีความแค้นอย่างลึกล้ำอาจบางทีสามารถที่จะกระทำในสิ่งที่ผู้คนไม่อาจจะคาดคิด ถึงแม้ว่าการกระทำนั้นต้องจ่ายด้วยชีวิตของตนเองก็ตามที ในเมื่อไม่อาจหักใจที่จะเข่นฆ่าผู้บริสุทธิซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องได้อย่างน้อยก็ขอเนรเทศผู้คนเหล่านั้นให้ไปอยู่ในที่ซึ่งไกลหูไกลตาก็ยังดี
    ขณะที่กาเล็ทยืนเหม่อมองครุ่นคิดทบทวนกับตนเองอยู่ เหล่าภรรยาทั้งสี่ของกาเล็ทเองก็ยังไม่หลับไม่นอนเช่นกันหากแต่พวกนางกลับมารวมตัวกันอยู่ที่ห้องของโซเฟียแต่เพียงผู้เดียวเพื่อการศึกษาเรียนรู้
    ในยามนี้ทั้งซิลเวียและเบลล่าต่างมีใบหน้าที่แดงสดใสจนถึงใบหู สาเหตุก็เพราะพวกนางต่างเกิดความรู้สึกกระดากเขินอายขึ้น นี่ย่อมเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ จะไม่ให้พวกนางกระดากเขินอายได้หรือ? ก็ในเมื่อรูปภาพในหนังสือเหล่านั้นคือรูปของชายหญิงซึ่งกำลังร่วมสัมพันธ์รักกันอย่างสมัครสมาน
    "ท..ท่านพี่โซเฟีย ส่วนนั้นของบรุษจะต้องทิ่มแทงเข้ามายัง ยังส่วนนี้ของพวกเราจริงหรือ" ซิลเวียซึ่งกำลังหน้าแดงสดใสอยู่ข่มความเขินขายไว่เอ่ยถามโซเฟียออกมา หากไม่เอ่ยถามเรียนรู้ในยามนี้แล้วจะไปเรียนรู้ได้ในยามใดอีก?
    โซเฟียผงกศรีษะรับ ไม่เพียงแต่ผู้เอ่ยถามที่เกิดความรู้สึกกระดากเขินอายขึ้นแม้แต่ผู้ซึ่งทำหน้าที่ในการสอนสั่งอย่างโซเฟียเองก็เกิดความรู้สึกกระดากเขินอายไม่ต่างกัน
    "ช..เช่นนั้นจะไม่เจ็บปวดหรือ หากว่าเป็นดั่งภาพวาดเหล่านี้และคำบอกเล่าของท่านพี่โซเฟีย ส..ส่วนนั้นของบรุษมีขนาดถึงเพียงจะชำแรกเข้ามาในร่างกายของพวกเราด .ได้อย่างไร" ซิลเวียยังคงทำหน้าที่เป็นนักเรียนที่ดีเอ่ยถามสิ่งที่ตนเองสงสัยใคร่รู้ออกไปอย่างต่อเนื่อง
    เบลล่าที่ได้รับฟังถึงคำถามที่น่าอายของผู้เป็นน้องสาวถึงกลับชำเรืองมองผู้เป็นน้องสาวของตนเองคราหนึ่ง นางลอบครุ่นคิดสังสัยกับตนเองว่าผู้เป็นน้องสาวของตนเองนั้นไปเอาความกล้าเช่นนี้มาจากที่ใดกัน? หากแต่นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ตัวของนางเองก็ต้องการรู้ถึงคำตอบของคำถามที่ผู้เป็นน้องสาวเอ่ยถามออกไปไม่ต่างกัน ชำเรืองมองผู้เป็นน้องสาวของตนเองวูบหนึ่งจากนั้นเบลล่าจึงหันกลับมาจ้องมองไปยังโซเฟียเพื่อรอฟังคำตอบ ดวงตาของนางในยามนี้ปรากฎประกายของความใฝ่รู้อย่างสุดระงับ
    "หากว่าเป็นครั้งแรกของพวกเราเหล่าสตรีก็อาจมีความรู้สึกเจ็บปวดอยู่บ้างแต่หลังจากนั้นครั้งต่อไปความเจ็บปวดก็จะลดน้อยถอยลงจน จนหายไปเอง" โซเฟียเอ่ยกล่าวอธิบาย
    ทั้งซิลเวียและเบลล่าต่างผงกศรีษะอย่างเข้าใจ จากนั้นโซเฟียพลันเปิดหน้าหนังสือต่อไปเรื่อยๆให้กับทั้งซิลเวียและเบลล่าดูและเอ่ยอธิบายเสริมเพิ่มเติมเข้าไปตามรูปภาพ
    "ท..ท่านพี่โซเฟีย ท่านพี่โซเฟียเองก็ ค เคยมีประสบการณ์กับกาเล็ทมาก่อน ส .. ส่วนนั้นของกาเล็ท ม.มีขนาด.." ซิลเวียยังคงเอ่ยกล่าคำถามที่นายอายออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อได้ยินว่าการร่วมสัมพันธ์รักกันในครั้งแรกจะเกิดความรู้สึกเจ็บปวดอยู่บ้างนางก็พลันเกิดความรู้สึกหวาดเกรงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ จะอย่างไรเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ตัวนางต้องเผชิญพบเจอแน่นอน การล่วงรู้ทราบข้อมูลที่จำเป็นก่อนจึงไม่ใช่สิ่งที่เสียหาย
    เบลล่าที่ด้านข้างซึ่งได้รับฟังคำเอ่ยถามของผู้เป็นน้องสาวถึงกลับหันขวับไปหาผู้เป็นน้องสาว "น..น้องหญิง เจ้าถามอะไรกัน.." แม้ปากจะเอ่ยเช่นนั้นออกไปหากแต่นางกลับยังคงหันหน้ากลับไปจ้องมองที่โซเฟียและเซลิน่าเพื่อเฝ้ารอคำตอบ ทว่าน่าเสียดายสำหรับกับซิลเวียและเบลล่าที่ยังไม่ได้รับคำตอบก็เกิดเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นมาขัดจังหวะก่อน
    "โซเฟียหลับแล้วหรือไม่ เปิดประตูให้ข้าเข้าไปหน่อยได้หรือเปล่า?" กาเล็ทเอ่ยกล่าวขณะที่เคาะห้องเรียกหาอย่างเป็นห่วง ที่กาเล็ทมาในวันนี้หาได้มีเจตนาที่จะมาเพื่อหลับนอนกับโซเฟียหากแต่กาเล็นนั้นมาตรวจสอบดูเพื่อให้แน่ใจว่าผู้เป็นภรรยาของตนเองผู้นี้จะไม่คิดมากจากเหตุการณ์ในช่วงเช้าจนนอนร้องไห้ตลอดทั้งคืน
    "ป..เป็นเขา" เบลล่าส่งเสียงร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ
    "ท.ทำอย่างไรดีท่านพี่ ทำอย่างไรดี" ซิลเวียที่ด้านข้างกลับลนลานยิ่งกว่า ในยามนี้หากว่าถูกพบเห็นจับได้ว่าพวกนางมาสุมหัวรวมกันเพื่อเรียนรู้เรื่องเช่นว่านั้นแล้วในวันหน้าตนเองจะไปมองหน้าเขาได้อย่างไร
    "ใช่แล้วหากว่า ม.ไม่ตอบคำใช่เขาจะเข้าใจผิดคิดไปเองว่าท่านพี่โซเฟียนอนหลับไปแล้วและจากไปเองหรือไม่?" ซิลเวียเอ่ยกล่าวขึ้นเสมือนว่านึกคิดอันใดได้แต่น่าเสียดายสำหรับกับนางที่นางคาดเดาผิดแล้ว
    เพียงชั้วพริบตากลอนของประตูซึ่งถูกเลื่อนลอคไว้ก็ขยับเคลื่อนไหวปลดเปลื้องตนเองออกจากลอคอย่างหน้าประหลาด พร้อมกันกับที่ลอคของประตูขยับเคลื่อนออกจากที่ บานประตูห้องของโซเฟียก็ถูกผลักให้เปิดออกจากด้านนอก สำหรับกับกาเล็ทซึ่งมีพลังระดับครึ่งก้าวสู่ระดับราชันจักรพรรดิแล้วมีหรือที่จะไม่สามารถปลดเปลื้องลอคประตูที่ไม่มีอันใดซับซ้อนเช่นนี้ได้
    ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกแล้วเห็นว่าภายในห้องของโซเฟียกลับปรากฎทั้ง ซิลเวีย เบลล่า เซลิน่าและโซเฟียอยู่กันอย่างพร้อมหน้าร่างของกาเล็ทที่กำลังจะก้าวเข้ามาก็หยุดกึกลงในทันทีด้วยความรู้สึกตกใจถึงขีดสุด กาเล็ทร่ำร้องอย่างสงสัยใจกับตนเองในใจอย่างช่วยไม่ได้
    "ว้าย" กาเล็ทที่ว่าตกใจแล้วหากแต่ซิลเวียและเบลล่านั้นกลับเกิดความรู้สึกเขินอายและตกใจยิ่งกว่ากาเล็ทหลายเท่านั้น พวกนางถึงกลับส่งเสียงร้องอุทานออกมาอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับรีบใช้มือของตนเองพับปิดหนังสือที่เปิดวางอยู่บนตั้งเตียงลงอย่างลนลาน
    "พ.พวกเจ้ามารวมตัวกันอยู่ในห้องของโซเฟียทำอะไร" กาเล็ทเป็นผู้เอ่ยถามออกมาก่อนด้วยน้ำเสียงที่ไม่ปกติเท่าใดนัก
    "ออกไปเลยนะ กาเล็ทออกไปเลย ออกไป" ซิลเวียร่ำร้องเอ่ยขับไล่กาเล็ทให้ออกไปในทันที
    "แอบปลดลอคเข้ามาในห้องของน้องโซเฟียกลางดึกเช่นนี้ไม่ทราบว่าที่แท้แล้วมีเจตนาเช่นไรกันแน่ ออกไปเลยนะ" เบลล่าซึ่งมีสีหน้าแดงก่ำถึงใบหูก็ยังไม่วายที่จะเอ่ยช่วยขับไล่กาเล็ทออกมาอีกแรงหนึ่ง
    เห็นว่าท่าไม่ดีกาเล็ทก็ได้แต่ต้องยอมถอนตัวล่าถอยไปแต่โดยดี "จ้า ออกก็ออก ออกก็ออก" กาเล็ทร่ำร้องอยู่เช่นนั้นสองรอบจากนั้นจึงดึงปิดประตูลงถอนตัวจากไป
    เมื่อรุ่งเช้ามาถึงกาเล็ทก็เตรียมตัวที่จะส่งบาทหลวงเจมินี่ออกเดินทางกลับสู่ทวีปกลาง น่าแปลกที่วันนี้ทั้งซิลเวียและเบลล่าต่างตื่นนอนแต่รุ่งเช้าและออกมาร่วมส่งบาทหลวงเจมินี่ซึ่งพวกนางไม่รู้จักถึงที่มาที่ไปด้วย
    "ท่านบาทหลวงขอให้เดินทางให้ดี จะช่วยชีวิตของผู้คนได้มากน้อยเพียงไรก็ขึ้นอยู่กับท่านแล้ว ข้าอยู่ทางนี้จะรอคอยจดหมายรายงานฉบับแรกจากท่าน" กาเล็ทเอ่ยกล่าว
    "ขอให้ท่านผู้ถูกเลือกโปรดวางใจได้ นับจากนี้ต่อไปข้าจะตั้งใจมุ่งมั่นใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กระทำความดีชดใช้ความผิดซึ่งเกิดจากความโง่เขลาของข้า รับรองว่าข้าบาทหลวงผู้นี้จะไม่ทำให้ท่านผู้ถูกเลือกผิดหวังแน่นอน" บาทหลวงเจมินี่เอ่ยกล่าว
    กาเล็ทยิ้มพร้อมทั้งผงกศรีษะตอบรับ "เช่นนั้นเราคงต้องจากกันตรงนี้แล้ว"
    "ข้าขอน้อมลาท่านผู้ถูกเลือก" บาทหลวงเจมินี่เอ่ยกล่าวจากนั้นจึงหันกายทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าจากไปในทันที
    "ตัวน้อยเป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรผิดปกติหรือไม่?" กาเล็ทหันไปเอ่ยถามกับมิร่าซึ่งอยู่ในวงแขนของเบลล่าในทันที
    มิร่าซึ่งพึ่งจะตื่นจากการหลับไหลอ้าปากหาวอย่างเกียจคร้านพร้อมทั้งส่ายศรีษะช้าๆเป็นเชิงปฎิเสธ
    กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็นึกคิดกับตนเอง "สมควรที่จะไม่มีปัญหาอยู่แล้ว หากว่าในใจจริงของมันไม่คิดอย่างที่พูดออกมาจริงๆก็นับว่าบาทหลวงผู้นี้มีความสามารถในการแสดงเป็นหนึ่งในแผ่นดินแล้ว" คิดสรุปกับตนเองเช่นนั้นกาเล็ทก็โน้มตัวก้มลงไปหยิกแก้มของมิร่าครั้งหนึ่ง "หาวใหญ่เลยนะ มังกรน้อยเกียจคร้านแล้ว" กาเล็ทเอ่ยหยอกล้อกับมิร่าแต่ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดเมื่อแหงนหน้าขึ้นมองดูกลับพบว่าทั้งซิลเวียและเบลล่านั้นมีสีหน้าท่าทางซึ่งดูไปไม่ปกติอยู่บ้าง "ว่าแต่ไม่ทราบว่าเมื่อคืนพวกเจ้าทั้งสองไปอยู่ในห้องของโซเฟียทำอะไร" กาเล็ทยังไม่วายที่จะเอ่ยถามสิ่งที่ตนเองสงสัยใจตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาออกไป
    ได้ยินคำถามซึ่งเสมือนเป็นการเติมเชื้อไฟแห่งความกระดากเขินอายที่ลดน้อยถอยลงไปแล้วให้ครุกรุ่นกลับคืนมาใหม่เช่นนี้ซิลเวียจึงเปิดปากเอ่ยขึ้น "ย.ยังจะถามอีก"
    "กาเล็ทไม่รู้หรือว่าพวกเราเหล่าสตรีในบางครั้งก็มักจะจับกลุ่มพูดคุยกันในสิ่งที่ไม่อาจให้บรุษล่วงรู้ได้" เบลล่าเอ่ยกล่าวขึ้นมาเสมือนว่าจะช่วยสนับสนุนผู้เป็นน้องสาวของตนเองอีกเสียงหนึ่ง
    กาเล็ทได้ยินเช่นนั้นจึงหัวเราะแห้งๆออกมา "ไม่บอกก็ไม่บอกเหตุใดจึงต้องมองข้าด้วยสายตาเช่นนั้นกัน"
    "แอบปลดกรอนเข้าหาน้องโซเฟียกลางดึก ไม่ทราบว่าที่แท้แล้วในจิตใจคาดหวังสิ่งใดอยู่กันแน่" เบลล่าเอ่ยกล่าว
    "เพียงแต่เป็นห่วงว่านางจะคิดมากในสิ่งที่เกิดขึ้น เลยเพียงไปตรวจสอบดูเท่านั้น" กาเล็ทรีบยกมือทั้งสองขึ้นมาโบกปัดไปมาอย่างรวดเร็วจากนั้นจึงเริ่มเอ่ยเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ หอร้อยบุปผาให้กับซิลเวียและเบลล่าฟัง
    ทั้งซิลเวียและเบลล่าที่ได้รับฟังต่างก็เกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อยที่พวกตนเองทั้งสองเป็นต้นเหตุทำให้โซเฟียต้องเจอกับเรื่องราวที่ทำให้สะเทือนใจถึงเพียงนั้น
    เบลล่าถอนหายใจออกมาอย่างเห็นใจครั้งหนึ่ง "ว่าแต่บาทหลวงเจมินี่นั่นเป็นผู้ใดกัน ข้าไม่เห็นเคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน ยังมีเขายังเรียกกาเล็ทว่าท่านผู้ถูกเลือกอะไรนั่นฟังดูแปลกประหลาดพิกล"
    "หากจะให้เอ่ยเล่าเรื่องนี้ก็นับว่ายืดยาวอยู่พอสมควร พวกเราไปนั่งสนิทสนมกันทางด้านนั้นแล้วให้ข้าผู้เป็นสามีค่อยๆเอ่ยเล่าให้พวกเจ้าทั้งสองฟังดีหรือไม่" กาเล็ทเอ่ยกล่าว
    ได้รับฟังว่ากาเล็ทเอ่ยเรียกแทนตนเองว่าสามีทั้งซิลเวียและเบลล่าก็เกิดความรู้สึกขวยเขิลขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดภาพของท่วงท่าต่างๆในการร่วมสัมพันธ์รักที่พวกนางได้อ่านผ่านตามาจากหนังสือภาพเมื่อคืนกลับปรากฎขึ้นมาในห้วงของความคิดอีกครั้ง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×