ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #32 : เฝ้าสังเกตุ [รีไรท์]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 25.71K
      731
      14 ต.ค. 60

         



         วันนี้ก็ก็เหมือนดั่งเช่นเคยกาเล็ทออกจากบ้านยามเช้าเพือไปยังสถานฝึกตน แต่กาเล็ทนั้นไม่ได้เข้าเรียนแต่อย่างไร กาเล็ทไปเพื่อค้นคว้าศึกษาข้อมูลความเป็นไปเกี่ยวกับโลกใหม่ใบนี้ กาเล็ทต้องการรู้ว่าโลกใบนี้อาณาจักรไหนคือมหาอำนาจ อานาจักรไหนแข็งแกร่ง อาณาจักรไหนอ่อนแอ  หลายวันมานี้กาเล็ทกลับพบว่าภายโลกแห่งนี้นั้นประกอบไปด้วยห้าทวีปหลัก โดยชื่อทวีปนั้นก็ไม่ซัพซ้อนโดยมีทวีปกลางเป็นศูนย์กลาง โดยมีอีกสี่ทวีปคือ ทวีปเหนือ ทวีปใต้ ทวีปตะวันออก ทวีปตะวันตก ลายล้อม ส่วนอาณาจักรโรฮานนั้นตั้งอยู่ในทวีปตะวันออก  กล่าวไปแล้วโรฮานเป็นเพียงอาณาจักรเล็กๆที่อยู่ภายในทวีปตะวันออกเท่านั้น โดยแต่ละทวีปก็จะมีผู้ปกครองซึ่งครอบครองพลังระดับจักรพรรดิ์ทำหน้าที่เป็นกฎและปกครองแต่ละทวีป  จักรพรรดิ์แห่งทวีปตะวันออกที่โรฮานตั้งอยู่นั้นคือจักรพรรดิ์แดง

         ในวันนี้กาเล็ทกลับเลือกใช้เช่นทางที่แตกต่างไปจากเดิมในการเดินทางสู่สภาบันผู้ฝึกตนเนื่องจากพ่อบ้านโจเซพรับหน้าที่ในการดูแลจัดการเกี่ยวกับปราสาทบุสโซ่ไปจนหมดสิ้น วันนี้ในช่วงเช้าก่อนที่กาเล็ทจะออกมา พ่อบ้านโจเซพก็ได้นำทหารภายใต้สังกกัดของตระกูลบุสโซ่ทั้งหมดออกไปนอกเมืองเพื่อจัดการพื้นที่รอบปราสาทให้เรียบร้อย ด้วยเหตุนี้กาเล็ทจึงมีเวลาในการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับโลกนี้มากขึ้น กาเล็ทในวันนี้จึงเลือกเดินในเส้นทางที่อ้อมกว่าปกติเพื่อสำรวจดูเมืองในส่วนที่ตนเองยังไม่เคยผ่าน แต่ในวันนี้นอกจากกาเล็ทจะเลือกเส้นทางที่ต่างออกไปแล้วกลับมีร่างเล็กร่างหนึ่งแอบจ้องมองติดตามกาเล็ทอยู่ห่างๆตั้งแต่ออกจากตัวบ้านบุสโซ่แล้ว

         ระหว่างทางกาเล็ทกลับพบตัวตึกที่หลังใหญ่พอสมควรตัวตึกนี้นั้นมีลานหน้าตึกเป็นที่สะดุดตานัก เมื่อกาเล็ทให้ความสนใจกลับพบว่าที่ลานตึกมีเด็กๆจำนวนมากกำลังต่อแถวเพื่อรอรับอาหารประจำวันทำให้กาเล็ทอดที่จะเดินเข้าไปชมดูมิได้ ทว่าเมื่อกาเล็ทเดินเข้าไปชมดูกาเล็ทก็ขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความแปลกใจ ที่ชามข้าวแต่ละชามที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะนั่นเป็นข้าวต้ม ถึงจะเรียกว่าข้าวต้มแต่เม็ดข้าวในชามแต่ละชามกลับดูไปน้อยนิดยิ่ง ชามข้าวที่เห็นทำให้กาเล็ทหวนนึกถึงวันแรกที่ตนเองเข้ามาอยู่ในโลกแห่งนี้ชามข้าวที่มารดาของตนเองยื่นให้แก่ตนเองในวันนั้นก็มิใช่เป็นเช่นนี้หรอกหรือ

         "อ อืม ข้าขอเรียนถามว่าให้เด็กๆกินเพียงเท่านี้จะเพียงพอหรือ" กาเล็ทเอ่ยถามหญิงสาวที่กำลังตักแบ่งข้าวต้มใส่ชามข้าวแต่ละใบด้วยความตั้งใจ กล่าวไปหญิงสาวนางนี้กลับมีหน้าตาที่งดงามหมดจดมิน้อย หญิงสาวผู้นี้นั้นให้ความรู้สึกที่ดูโอนอ่อนนุ่มนวล

         หญิงสาวผู้ที่พึ่งสังเกตุว่ามีบุคคลแปลกหน้ามายืนมองอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมา "ข ขออภัยด้วยข้าไม่ทันสังเกตุเห็นท่าน" หญิงสาวนั้นเอ่ย

         "เป็นข้าเองที่ต้องขออภัยต่อท่าน ที่ข้ามาโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง" กาเล็ทเอ่ย "เหตุใดชามข้าวของเด็กๆแต่ละใบจึงมีเม็ดข้าวน้อยนิดเช่นนี้" กาเล็ทเอ่ยถามอย่างเกรงๆอยู่บ้างเนื่องจากคำถามดูเป็นการละลาบละล้วงเสียมารยาท

         หญิงสาวนั้นเมื่อได้ฟังคำถามของกาเล็ท สีหน้าของนางก็หม่นหมองลง จากนั้นจึงยิ้มอย่างฝืนๆออกมา "ความจริงข้าก็ต้องการให้เด็กๆกินดีกว่านี้ แต่ช่วงนี้สถานการณ์ของสถานรับเลี้ยงเด็กไม่สู้ดีนั้ก ผู้คนที่เคยบริจาคเงินอยู่ๆก็เลิกบริจาคไป ตัวข้าก็ไม่มีทรัพย์สินมากพอที่จะมาจุนเจือ" หญิงสาวเอ่ย

         กาเล็ทได้ฟังจึงพอเข้าใจขึ้นมาบ้าง "ที่นี่เป็นสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าหรือ" กาเล็ทเอ่ยถาม

         "ใช่แล้ว ตัวข้าก็ทำได้แต่เพียงให้อาหารประทังความหิวแก่พวกเขาเพื่อไม่ให้อดอยากจนถึงกับต้องตายไป" หญิงสาวเอ่ยตอบ

         "ข้ารอเรียนถามได้หรือไม่ว่าค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนสำหรับค่าอาหารให้เด็กได้กินดีอยู่ดีนั้นมากน้อยเท่าใด" กาเล็ทเอ่ย

         "เนื่องจากเด็กๆมีจำนวนมาก ข้าคิดว่าคงต้องใช้เงินประมาณ 5 เหรียญทองต่อเดือนหากต้องการให้เด็กอิ่มท้อง น่าเสียดายที่ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กมีรายรับต่อเดือนเพียง 1 เหรียญทอง" หญิงสาวเอ่ยอย่างหดหู่อยู่บ้าง

         กาเล็ทได้ยินเช่นนั้นประกอบกับเห็นสภาพที่น่าเวทนาของเด็กๆก็ไม่รอช้ารีบควักเงินทองที่นำติดตัวมายื่นให้แก่หญิงสาว น่าเสียดายที่วันนี้กาเล็ทไม่ได้พกเงินทองออกมาด้วยมากนัก เงินที่เหลือจากการขายยาส่วนใหญ่กาเล็ทก็มอบให้ไว้แก่พ่อบ้านโจเซพแล้ว ส่วนเงินประจำตำแหน่งที่ราชาเบรุทสัญญาว่าจะจ่ายให้เอิร์ลบาร์ตันก็ยังไม่ได้นำมาส่งมอบให้ จึงเป็นเหตุให้วันนี้กาเล็ทพกเงินติดตัวมาเพียง 5 เหรียญทอง

         หญิงสาวที่รับถุงใบเล็กมาจากเด็กหนุ่มเมื่อเปิดดูกลับพบว่าในถุงนั้นมีเหรียญทองอยู่ 5 เหรียญ ก็ถึงกับยกมือทั้งสองขึ้นมาป้องปากของตนเองไว้ไม่ทราบว่าจะกล่าวอย่างไรดี

         "ไม่ทราบว่าท่านผู้ใจบุญมีนามว่าอะไร" หญิงสาวเอ่ยถาม

         ณ ตอนนี้กาเล็ทนั้นยังไม่อยากเปิดเผยตัวตนสักเท่าไหร่นัก "ถือซะว่าข้าเป็นเพียงคนที่ผ่านทางมาเถอะ เงินจำนวนนี้คงเพียงพอให้เด็กอยู่ดีกินดีไปสักพัก ไว้มีโอกาสข้าจะกลับมาเยี่ยมที่นี่อีกแน่นอน" กาเล็ทเอ่ยจบก็หันกายเดินจากไปปล่อยให้หญิงสาวนั้นจ้องมองแผ่นหลังของตนอย่างงงงวย

         "ท่านแม่เซน่า ข้าหิวแล้ว ข้าหิว"

         "ข้าก็หิว"

         "ข้าก็หิวแล้วเช่นกันท่านแม่"

         "อ๊ะ ท่านแม่ร้องไห้ด้วยล่ะ"

         "ทำไมท่านแม่ถึงร้องไห้ล่ะ"

         เด็กๆเริ่มส่งเสียงออกมา บ้างก็ร้องขออาหาร บ้างที่โตรู้ความหน่อยก็สามารถสังเกตุเห็นว่าเซน่ากำลังร้องไห้อยู่จึงเอ่ยถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ

         "ไม่มีอะไรจ่ะ ไม่มีอะไร พวกหนูจะได้กินจนอิ่มท้องกันแล้วนะ เดือนนี้พวกหนูจะไม่ต้องอดอีกแล้ว" เซน่าเอ่ย ถึงจะเอ่ยเช่นนั้นแต่น้ำเสียงของเซน่ากลับแฝงไปด้วยความกังวลใจ จริงอยู่เมื่อมีเงิน 5 เหรียญทองนี้เด็กๆคงสามารถกินอย่างเพียงพอไปได้สักระยะ แต่หลังจากนั้นเล่า ทรัพย์สินของตนเองที่มีอยู่ตนเองก็ขายไปจนหมดสิ้นแล้ว ตนเองที่เป็นหญิงสาวก็ทำได้แต่เพียงเย็บปัก รับทำงานฝีมือทั่วไป อีกทั้งตนเองยังต้องแบ่งเวลามาดูแลและสอนหนังสือเด็กๆด้วยจึงไม่มีเวลาทำงานหารายได้มากนัก

         ร่างเล็กที่แอบมองดูอยู่แต่ไกลเห็นเหตุการณ์เบื้องหน้าอย่างชัดเจน จากนั้นพลันร่างเล็กนั้นก็คลำหาสิ่งของบางสิ่งบนร่างของตนเอง แต่แล้วก็หวนนึกได้ว่าวันนี้ตนเองออกมาอย่างรีบร้อนไม่ได้นำทรัพย์สินติดตัวมาแม้สักแดงเดียว "หึ แสร้งทำเป็นคนดีไปได้ ข้าไม่หลงกลเจ้าแน่"ร่างเล็กกล่าวออกมา นันตาสีฟ้าภายใต้ผ้าคลุมนั่นกลับจ้องมองไปยังทิศทางที่กาเล็ทจากไป

         
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×