ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #34 : เมืองรีเวลที่เข้าสู่ห้วงวิกฤต [รีไรท์]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 25.55K
      688
      6 มิ.ย. 60



         



         "อ๊ากกกก น หนีไป หนีไป"

         "ค ใครก็ได้ช่วยด้วย ช่วยด้วย"

         "ม มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น"

         กลางค่ำคืนที่ควรจะเงียบสงบกลับมีเสียงร่ำร้องวุ่นวายดังระงมจากหมู่บ้านเล็กๆหลายแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้กลับหุบเขาอสูรฟ้าที่สุด หมู่บ้านเหล่านี้ล้วนแต่เป็นจุดพักพิงแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าที่ได้มาจากการล่าสัตว์อสูรภายในหุบเขาอสูรฟ้า แต่ทว่าค่ำคืนนี้พวกเขากลับไม่ใช่ผู้ล่าแต่กลายเป็นผู้ถูกล่า แม้ในหมู่บ้านเหล่านี้จะมีผู้ฝึกตนปะปนอยู่บ้างแต่นั่นก็เป็นจำนวนน้อยและผู้ฝึกตนแต่ละคนล้วนแล้วแต่มีพลังที่ต่ำเตี้ยอย่างมากกว่าระดับ 3-4 เท่านั้น เมื่อเจอฝูงก๊อบบลินจำนวนมากเข้ากลุ้มรุมมาอย่างไม่หยุดหย่อนพวกเขาย่อมไม่สามารถต้านทานได้

         "ข้าจะต้านทานพวกมันไว้ให้นานที่สุด พวกเจ้าไปช่วยคนเท่าที่จะทำให้และรีบไปแจ้งข่าวต่อทางการ" ผู้ฝึกตนซึ่งมีพลังระดับ 5 และเป็นหัวหน้ากลุ่มเอ่ยตอบขณะเข้าไปต่อกรกับก๊อบบลินที่บุกเข้าทำลายหมู่บ้านยามค่ำคืนกลุ่มหนึ่ง

         ฉับ ฉับ ฉับ มันเหวี่ยงดาบอย่างคล่องแคล่วปราดเปรียบตัดร่างก็อบบลินได้อย่างไม่ยากเย็น

         "แล้วท่านเล่าท่านหัวหน้า" ลูกทีมของมันเอ่ยถามอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้ กลุ่มของมันมีชื่อกลุ่มว่าอีกาแดง พวกมันร่วมรบร่วมถอยออกล่าสัตว์อสูรร่วมกันมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ย่อมไม่แปลกที่ทุกคนภายในกลุ่มจะรักห่วงใยกันเสมือนพี่น้อง

         "รีบไปอย่าได้พิรี้พิไร หากไม่มีผู้อยู่คุ้มกันหลังคอยถ่วงเวลาให้มีหรือพวกเจ้าจะล่าถอยได้อย่างสะดวก หน้าที่นี้ข้าผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มย่อมต้องเป็นผู้รับผิดชอบ พวกเจ้าอย่าได้เป็นห่วงก๊อบลินพวกนี้แม้จะมีจำนวนมากแต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะเอาชีวิตของข้าได้เมื่อซื้อเวลาได้ซักระยะหนึ่งข้าจะรีบล่าถอยไปสมทบกับพวกเจ้าที่เมืองรีเวล ไปอย่าได้หยุดพักหันกลับมาโดยเด็ดขาด" มันเอ่ยกล่าวเพื่อปลอบประโลมพี่น้องร่วมรบ อันที่จริงในจิตใจของมันเองก็ไม่มั่นใจนักว่าจะหนีรอดปลอดภัยได้หรือไม่เนื่องด้วยฝูงก๊อบบลินมีมากจนเกินไป

         "หัวหน้าอย่าตาย ท่านต้องไม่ตาย" ลูกทีมของกลุ่มอีกาแดงเอ่ออย่างอาลัยอาวรณ์อยู่บ้างจากนั้นจึงตัดใจหันกายพาคนเจ็บภายในกลุ่มจากไป

         กี๊ กี๊ กี๊ เสียงร้องของก๊อบลินที่ยังคงหนุนเนื่องเข้ามาภายในหมู่บ้านอย่างไม่ขาดสายดังก้องไปทั่ว แต่ทว่าหัวหน้าของกลุ่มอีกาแดงผู้มีพลังถึงระดับ 5 กลับไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว มันยืนบดบังเส้นทางถอยของเพื่อนร่วมทีมไว้โดยพยามยามฆ่าก็อบลินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยหวังแต่เพียงว่าเพื่อนภายในกลุ่มของมันจะหนีรอดปลอดภัยไปแจ้งต่อทางการให้ส่งกำลังเสริมมากวาดล้างก๊อบลินจำนวนมากเหล่านี้ซึ่งไม่รู้ว่าโผล่มาจากที่ใด

         ซึบ ซึบ ซึบ เสียงของดาบตัดผ่านเลือดเนื้อของเหล่าก็อบลินดังมาอย่างไม่ขาดสาย ตัวมันที่ฟาดฟันดาบอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ร่างทั้งร่างของมันบัดนี้กลับปกคลุมไปด้วยสีแดงจากเลือดของก็อบลินและตัวของมันเอง มือที่ถือดาบถึงกับสั่นเทาชาด้านไร้ความรู้สึกไป ซากก๊อบลินนับร้อยตัวกองเรียงรายอยู่รอบข้าง "จ จบแล้วหรือ" หัวหน้ากลุ่มอีกาแดงเอ่ยขึ้นเมื่อพบว่าก็อบลินที่เคยหนุนเนื่องเข้ามาหามันอย่างต่อเนื่องหยุดลง

         ตึง ตึง ตึง พื้นที่มันยืนอยู่กับสั่นไหวเล็กน้อย เมื่อมันเงยหน้ามองไปเบื้องหน้าตัวมันกลับค้นพบสาเหตุที่ฝูงก็อบลินหยุดหนุนเนื่องเข้ามาหา ฝูงก็อบลินกลับหนุดลงและแหวกเป็นทางให้แก่ร่างใหญ่ยักษ์ร่างหนึ่ง ร่างนี้มีความสูงกว่าตัวมัวเสียอีก ร่างใหญ่นี้กลับมีความสูงกว่าสองเมตรครึ่ง ผิวทั่วทั้งร่างเป็นสีเขียว ดวงตาสีแดงฉานจ้องมองมาที่มัน มือข้างหนึ่งกลับถือขวานขนาดใหญ่อีกข่างหนึ่งกลับกำวัตถุรูปร่างเหมือนทรงกลมไว้ เมื่อตัวมันเพ่งมองอย่างตั้งใจกลับพบว่าวัตถุทรงกลมนั้นกลับเป็นหัวของมนุษย์ผู้หนึ่ง "โอเกอร์" มันอุทานกับตนเอง

         "ย๊ากกกก" มันกู่ร้องอย่างเคียดแค้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนมนุษย์ถูกสังหารไป น่าเสียดายที่หัวหน้ากลุ่มอีกาแดงผู้นีจะไม่สามารถมีชีวิตไปบอกต่อผู้ใดได้ว่าฝูงสัตว์อสูรที่บุกมาในครั้งนี้หาได้มีเพียงก๊อบลินไม่

         หมู่บ้านนี้เป็นเช่นนี้ อีกหมู่บ้านก็เป็นเช่นเดียวกัน กว่าที่ข่าวสารจะถูกส่งไปถึงเมืองใหญ่ก็กินเวลากวาสองวัน

         "ห หาเจ้าว่าอะไรนะ" ราชาเบรุทที่ถูกปลุกขึ้นมากลางดึกยามค่ำคืนเอ่ยอย่างตื่นตกใจ

         "องค์ราชาท่านฟังไม่ผิด เมืองรีเวลย่ำแย่แล้ว เหตุการณ์เมื่อ 7 ปีก่อนเกิดขึ้นอีกครั้งแล้ว"     ขุนนางผู้หนึ่งรายงาน

         "จ จะเป็นไปได้อย่างไร สิ่งที่น่าจะเป็นต้นเหตุ ข ข้าก็นำส่งคืนแล้วนี่" ราชาเบรุทพึมพำกับตนเองในใจอย่างไม่อยากจะเชื่อ

         "องค์ราชา นี่คือเหตุฉุกเฉินไม่ทราบว่าท่านมีคำสั่งใด" เหล่าขุนนางเอ่ยถามขึ้น

         ราชาเบรุทที่ตื่นจากภวังค์ก็เอ่ยขึ้น "เรียกรวมกำลังพลอย่างเร่งด่วน พวกเจ้าส่งคนไปตามมาร์ควิสเจอริโก้กับมาร์ควิสเครตันมาเป็นการด่วน" เมื่อสั่งการจบขุนนางซึ่งได้รับฟังคำสั่งก็หันหลังจากไปเตรียมจะไปดำเนินการตามคำสั่งที่ได้รับมาให้ลุล่วง "ช้าก่อน ส่งคนไปตามมาร์ควิสบุสโซ่มาด้วย" ราชาเบรุทกล่าวเสริม



         กาเล็ทซึ่งกำลังฝึกฝนดูดซัพพลังจิตวิญญาณยามค่ำคืนเหมือนดั่งที่เคยกระทำเป็นประจำกลับพบว่ามีคนมาเคาะประตูบ้านบุสโซ่ของตนเองกลางดึกเช่นนี้ทำให้กาเล็ทมีความฉงนสนใจนักว่าเป็นผู้ใดถึงได้ไม่รู้ความมาเยี่ยมเยื่อนผู้อื่นในเวลาดึกดื่นเช่นนี้

         "เอิร์ลบาร์ตัน" กาเล็ทเอ่ยอย่างแปลกใจเมื่อเห็นว่าผู้มาเคาะประตูรบกวนกลับเป็นเอิร์ลบาร์ตัน

         "ท่านมาร์ควิสเกิดเรื่องใหญ่แล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว" ไม่รอให้กาเล็ทเอ่ยถามไถ่ เอิร์ลบาร์ตันก็เอ่ยออกมาอย่างร้อนรน

         "ท่านเอิร์ลใจเย็นๆ ไม่ทราบว่าเรื่องใหญ่ที่ท่านว่านั้นคือเรื่องใด" กาเล็ทเอ่ยถาม

         "ท่านมาร์ควิสโปรดติดตามข้าเข้าวังไป ข้าจะบอกกล่าวแก่ท่านระหว่างทาง" เอิร์ลบาร์ตันเอ่ย

         "ตกลง ขอเวลาข้าสักครู่ให้ข้าได้บอกกล่าวต่อมารดาข้าสักหน่อย" กล่าวจบกาเล็ทก็หันกลับเข้าไปในตัวบ้านเพื่อบอกกล่าวกับนีน่าและพ่อบ้านโจเซพที่พึ่งออกมาสำรวจตรวจดูว่าเป็นผู้ใดมาเยี่ยมเยือนกลางดึกเช่นนี้

         ภายในรถม้าขณะเข้าวัง "ท่านเอิร์ลบอกต่อข้าได้หรือไม่ว่าเป็นเรื่องใด" กาเล็ทถาม

         "ท่านมาร์ควิส เหตุการณ์เมื่อ 7 ปี ก่อนเกิดขึ้นอีกแล้ว พึ่งมีข่าวส่งมาจากแนวหน้าว่าหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับหุบเขาอสูรฟ้าถูกทำลายย่อยยับผู้คนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ตอนนี้เหล่าสัตว์อสูรจำนวนมากต่างมุ่งตรงสู่เมืองรีเวล หากว่า หากว่าเมืองรีเวลถูกสัตว์อสูรจู่โจมจนแตกพ่ายไม่ทราบว่าต้องมีผู้คนมากน้อยเท่าใดต้องตกตายอีก" เอิร์ลบาร์ตันเอ่ยอย่างตื่นตระหนก

         กาเล็ทที่ได้ฟังคำกล่าวของเอิร์ลบาร์ตันก็ถึงกลับคิ้วกระตุก เหตุการณ์ที่คร่าชีวิตของบิดาตนเมื่อ 7 ปีก่อนเกิดขึ้นีอครั้ง? 

         เมื่อกาเล็ทมาถึงราชวังก็พบว่ามีขุนนางจำนวนหนึ่งอยู่ในท้องพระโรงก่อนแล้ว กาเล็ทจึงได้เข้าไปยืนเรียงแถวดั่งเช่นขุนนางอื่นกำลังกระทำ

         "ท่ารมาร์ควิสบุสโซ่ ท่านมาแล้ว" ราชาเบรุทซึ่งสังเกตุเห็นว่ากาเล็ทมาถึงแล้วเอ่ยทักขึ้น

         กาเล็ทก้าวเท้าออกมากล่าวอย่างนอบน้อมว่า "ข้ามาแล้ว"

         "โรฮานเราตอนนี้ถือว่าอยู่ในห้วงขับขัน ข้าละอายใจยิ่งที่ท่านพึ่งรับตำแหน่งไม่กี่วันก็ต้องวุ่นวายหัวหมุนแล้ว" ราชาเบรุทเอ่ย

         "ขุนนางย่อมต้องรับใช้บ้านเมือง องค์ราชาอย่าได้เกรงใจ" กาเล็ทเอ่ย

         "เนื่องจากเรื่องราวมีความรีบร้อนขับขัน ข้าจึงจะแต่งตั้งให้มาร์ควิสเจอริโก้ มาร์ควิสเครตัน และมาร์ควิสบุสโซ่ ทำการนำทหารออกไปปฎิบัติหน้าที่เพื่อบรรเทาทุกข์อย่างเร่งด่วนภารกิจคือนำทหารเข้าช่วยเหลือชาวบ้านซึ่งกำลังอพยพล่าถอยให้ถอยกลับเข้าเมืองรีเวลได้อย่างปลอดภัย ส่วนตัวข้าจะรวบรวมกำลังและไปเสริมในภายหลัง" ราชาเบรุทเอ่ย

         มาร์ควิสเจอริโก้ กับ มาร์ควิสเครตัน มีสีหน้าที่ตื่นตกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินว่าราชาเบรุทแต่งตั้งตนเองให้ไปทำภารกิจคุ้มกัน

         "เนื่องจากมาร์ควิสเจอริโก้มีประการณ์มาก่อน ข้าขอให้ท่านเป็นหัวหน้าในการสั่งการก็แล้วกัน" ราชาเบรุทเอ่ย

         กาเล็ทได้ยินเช่นนั้นก็ใช้ดวงตาที่เป็นประกายจ้องมองไปที่มาร์ควิสเจอริโก้พยายามสังเกตุมาร์ควิสผู้นี้ มาร์ควิสผู้ซึ่งเคยทำภารกิจร่วมกับบิดาของตนเองเมื่อ 7 ปีก่อน

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×