ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #82 : ตรวจร่างกาย [รีไรท์]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 16.76K
      545
      11 พ.ย. 60





    "นายหญิงเรียกพวกข้ามามีเรื่องใดให้พวกข้ารับใช้หรือคะ" ลิลลี่หนึ่งในหญิงรับใช้เอ่ยถามขึ้น
    นีน่าได้ฟังก็ได้แต่หันมองไปทางบุตรชายซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกล กาเล็ทนั้นหลังจากนึกคิดหาวิธีที่จะรักษามารดาได้ก็ไม่รอช้ารีบออกมาจากมิติเทพเจ้าและเรียกหญิงรับใช้คนสนิทของนีน่าทั้งสี่มาทันที "ท่านแม่ของข้านั้นกำลังป่วย ป่วยเป็นโรคร้ายแรงที่ไม่อาจรักษาให้หายได้ด้วยวิธีปกติ" กาเล็ทเอ่ยเกริ่นนำ
    เมื่อได้ฟังคำกล่าวของกาเล็ท หญิงรับใช้ทั้งสี่ที่อยู่ในวัย 16-20ปี ต่างปรากฎเค้าความกังวลใจขึ้นบนใบหน้า พวกนางล้วนเป็นห่วงนีน่าด้วยใจจริง หลังจากที่พวกนางได้เข้ามาทำงานอยู่ในตระกูลบุสโซ่เมื่อหลายเดือนก่อน ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกนางก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่เพียงแต่ค่าจ้างที่ตระกูลบุสโซ่จ่ายให้แก่พวกนางที่มากกว่าปกติถึงสองเท่า ยังมีเรื่องที่อยู่และอาหารการกิน พวกนางแทบไม่ต้องควักเงินค่าแรงของตนเองเพื่อจับจ่ายเลย สิ่งเหล่านี้ล้วนรวมอยู่ในสวัสดิการในงานของพวกนางทั้งสิ้น เมื่อได้เงินเดือนที่มากกว่าปกติถึงสองเท่าและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพ ค่าจ้างทั้งหมดที่พวกนางได้รับนั้นพวกนางก็สามารถนำมันไปจับจ่ายซื้อสิ่งของจำเป็นเพื่อใช้สอยทำให้ชีวิตของตนเองและครอบครัวดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ไม่เพียงแต่ค่าจ้างเท่านั้นที่ได้มากกว่าปกติ บรรยากาศในการทำงานก็เต็มไปด้วยความผ่อนคลาย ทั้งเพื่อนร่วมงานที่มีแต่คนจิตใจดีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทั้งนายหญิงอย่างนีน่าที่เมตตากรุณาต่อพวกนางประหนึ่งว่าพวกนางเป็นบุตรสาวก็ไม่ปาน มีครั้งหนึ่งที่น้องชายของลิลลี่ป่วยหนักต้องใช้เงินทองมากมายเป็นค่าหยูกยาซึ่งในช่วงนั้นนางพึ่งเข้ามาทำงานในตระกูลบุสโซ่ใหม่ๆจึงยังไม่มีเงินทองมากพอ นีน่าเมื่อรู้เรื่องก็ไม่รอช้านำเงินของตนเองออกมามอบให้แก่ลิลลี่เพื่อใช้เป็นค่ารักษาน้องชายก่อน ไม่เพียงแต่ลิลลี่ที่ได้รับความเมตตาจากนีน่า หญิงรับใช้คนอื่นก็ได้รับไม่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่นโรซ่า ตอนที่นางเข้ามาทำงานใหม่ๆตัวนางนั้นก็ยังเงอะงะซุ่มซ่ามทำข้าวของแตกหักเสียหายไปอยู่หลายชิ้นทว่านีน่าซึ่งเป็นผู้สอนงานต่างๆให้กลับไม่ได้เอ่ยตำหนินางเลยแม้แต่น้อยกลับกันสิ่งที่นีน่าทำคือยิ้มให้นางอย่างอ่อนโยนและเข้ามาปลอบประโลมนางที่ทำงานผิดพลาดด้วยน้ำใสใจจริง
    ดังนั้นเมื่อพวกนางได้ยินว่านายหญิงที่ตนเองเคารพรักป่วยเป็นโรคร้ายแรง พวกนางก็อดที่จะกังวลใจไม่ได้เป็นธรรมดา
    เมื่อเห็นว่าหญิงรับใช้ทั้งสี่แสดงสีหน้าที่เป็นกังวลออกมา กาเล็ทก็เอ่ยกล่าวต่อ "การที่จะรักษาท่านแม่นั้นข้าจำเป็นต้องร้องขอให้พวกเจ้าช่วยเหลือ" กาเล็ทเอ่ย
    "นายน้อยต้องการให้พวกข้าช่วยเรื่องใดโปรดบอกกล่าวมาได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ยากลำบากเพียงใดพวกข้าก็จะไม่บ่ายเบี่ยง" โรซ่าเอ่ย หญิงรับใช้คนอื่นก็ผงกหัวอย่างเห็นด้วย ในแววตาของพวกนางเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือนีน่านายหญิงของตน
    "ขอบใจพวกเจ้ามาก ในการที่จะรักษาท่านแม่ ข้าจำเป็นต้องค้นหาสิ่งผิดปกติในร่างกายของท่านแม่ให้ได้ เพื่อการนั้นข้าจำเป็นต้องเปรียบเทียบการทำงานของร่างกายท่านแม่กับมนุษย์ผู้อื่นซึ่งต้องเป็นสตรีเช่นเดียวกัน สิ่งที่ข้าต้องการให้พวกเจ้าช่วยเหลือนั่นคือข้าต้องการตรวจสอบร่างกายของพวกเจ้า ได้โปรดช่วยเหลือท่านแม่ของข้าสักครั้ง" กาเล็ทเอ่ยกล่าวพร้อมทั้งค้อมตัวลงเป็นเชิงร้องขอ อันที่จริงแล้วด้วยฐานะของกาเล็ทย่อมไม่จำเป็นที่จะต้องทำเช่นนี้
    หญิงรับใช้ทั้งสี่เมื่อได้ฟังว่าสิ่งที่นายน้อยต้องการจากพวกนางคือการตรวจร่างกาย ใบหน้าของพวกนางก็ขึ้นสีอย่างพร้อมเพรียง ยังมีสิ่งที่นายน้อยของตนเองแสดงออกที่เบื้องหน้าอีก เมื่อเป็นเช่นนี้จะไม่ให้พวกนางเข้าใจผิดได้อย่างไร พวกนางทั้งสี่นั้นต่างเป็นสตรีที่ยังไม่ได้แต่งงาน อีกทั้งรูปโฉมโนมพรรณของพวกนางนั้นก็จัดได้ว่างดงาม พวกนางต่างหันซ้ายแลขวาเหลียวมองดูกันและกันอยู่พักหนึ่ง

    "ข ข้า ย ยินยอมช่วยเหลือ ไม่ว่าเรื่องใด ถ้าเพื่อนายหญิงข้ายอมทำทั้งสิ้ง" ลิลลี่กัดฟันข่มความอับอายไว้และกล่าวออกมา น้ำใจที่นีน่าเคยยื่นมือช่วยเหลือน้องชายของตนเองนั้นลิลลี่ย่อมไม่ลืมเลือน ยังมีเรื่องนี้เกี่ยวข้องถึงความเป็นความตายของนีน่าดังนั้นแม้ว่าสิ่งที่นายน้อยร้องขอนั้นจะเป็นสิ่งที่่น่าอับอายเพียงไรนางก็ยินยอมที่จะฝืนทนเพื่อตอบแทนบุญคุณของนายหญิงที่เคยช่วยเหลือ

    ได้ฟังว่าลิลลี่ขันอาสา อีกสามคนที่เหลือก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยกับความเป็นความตายของนายหญิงได้อีก พวกนางต่างเอ่ยปากขันอาสาเช่นเดียวกัน

    นีน่าซึ่งสังเกตุออกว่าพวกนางมีอาการผิดแปลกไปก็พอจะคาดเดาได้ว่าในจิตใจพวกนางกังวลเกี่ยวกับเรื่องใดอยู่ "กาเล็ท ที่ว่าตรวจร่างกายน่ะต้องทำยังไงบ้างลูก ทั้งหนูลิลลี่ หนูโรซ่า หนูเซรีน หนูเรร่าน่ะ เป็นสตรีนะลูก" นีน่าเอ่ยถามบุตรชายอย่างเป็นกังวลใจเช่นเดียวกัน

    กาเล็ทที่ได้ฟังก็เข้าใจในทันที กาเล็ทรีบยกมือทั้งสองขึ้นส่ายไปมาเป็นเชิงปฎิเสธในความคิดของพวกนาง "หาได้เป็นดั่งที่พวกท่านเข้าใจ หาได้เป็นเช่นนั้น ที่ว่าตรวจร่างกายนั้นเพียงแต่ใช้พลังจิตวิญญาณถ่ายโอนเข้าสู่ร่างกายเท่านั้นเหมือนที่ข้าทำกับท่านแม่" กาเล็ทกล่าวอธิบายเพื่อแก้ความเข้าใจผิดอย่างกระอักกระอ่วนเป็นความผิดของตนเองที่ไม่บอกกล่าวให้ชัดแจ้งแต่แรก

    หญิงรับใช้ทั้งสี่ที่ได้ฟังคำอธิบายของกาเล็ทก็ยิ่งเกิดความอับอายกว่าเดิม กลับเป็นพวกตนที่เข้าใจผิดคิดมากไปเอง

    กาเล็ทปล่อยให้พวกนางสงบจิตใจลงสักพักจากนั้นจึงกล่าวต่อ "การตรวจสอบร่างด้วยพลังจิตวิญญาณครั้งนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร อาจบางทีต้องใช้เวลาถึงสามวัน พวกเจ้าผู้ใดหากว่ามีภาระทางบ้านไม่สะดวกก็ให้บอกล่าว ข้าต้องการอาสามัครเพียงสองคน" กาเล็ทเอ่ย

    "ข้าพร้อม" ลิลลี่ยกมือขึ้นขันอาสาอีกครา แม้ว่านางจะมีน้องชายที่ป่วยอยู่ทว่าหากนางจะไม่อยู่สักสองสามวันที่บ้านของนางก็ยังมีบิดามารดาที่สามารถดูแลน้องชายได้ อีกทั้งนี่ยังเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ตอบแทนบุญคุณของนีน่า

    "ข ข้าก็พร้อม" โรซ่ายกมือขึ้นขันอาสาอีกคน

    กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็แย้มยิ้มออกมาด้วยความยินดี "ตกลง บุญคุณที่ยื่นมือช่วยเหลือในครั้งนี้ข้าจะไม่มีวันลืมเลือน" กาเล็ทเอ่ยอย่างสำนึกขอบคุณ กาเล็ทนั้นเป็นคนที่แยกบุญคุณความแค้นอย่างชัดเจน ผู้ที่มีบุญคุณช่วยเหลือกาเล็ทจะไม่มีวันลืมเลือนกลับกันผู้ใดที่เคยทำไม่ดีกับตนเองและครอบครัวไว้กาเล็ทก็จะไม่มีวันลืมเลือนเช่นเดียวกัน

    เห็นท่าทีของนายน้อย หญิงรับใช้ทั้งสี่ก็เกิดความรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เหตุเพราะด้วยฐานะของกาเล็ทจำเป็นหรือที่ต้องแสดงออกเช่นนี้กับคนที่มีฐานะต่ำต้อยเช่นพวกตน อันที่จริงกาเล็ทนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องขอความยินยอมกับพวกตนเองเสียด้วยซ้ำ ภายในจิตใจของทั้งสี่เสมือนว่าได้รับรู้ถึงอีกด้านของนายน้อยแห่งตระกูลบุสโซ่

    ถ้าจะให้กล่าวแล้วทุกผู้คนภายในตระกูลบุสโซ่ล้วนกลัวเกรงต่อกาเล็ทเหตุเพราะกาเล็ทนั้นมีนิสัยเอาจริงเอาจัง เวลาทำงานก็จะไม่วอกแวกและมุ่งเน้นที่จะทำงานออกมาให้ดูดีสมบูรณ์แบบ ดังนั้นข้ารับใช้ของตระกูลบุสโซ่ส่วนใหญ่จะได้เห็นกาเร็ทในมุมที่เคร่งขรึมจริงจังเวลาอยู่ต่อหน้าของกาเล็ททุกผู้คนก็จะรู้สึกกดดันกลัวว่าตนเองจะกระทำเรื่องผิดพลาดขึ้น ยิ่งเหตุการณ์ในวันงานพิธีที่กาเล็ทได้แสดงถึงความแข็งแกร่งยิ่งยวดออกมา เหล่าทหารที่ทำหน้าที่นำขบวนในวันนั้นต่างได้เห็นและเอามาเล่าขานกันปากต่อปากถึงความแข็งแกร่งของกาเล็ท แม้แต่เหล่าหญิงรับใช้ที่ทำงานอยู่บริเวณส่วนในของปราสาทบุสโซ่ก็ได้ยินได้ฟังมาเช่นกันดังนั้นมีหรือที่เหล่าคนของตระกูลบุสโซ่จะไม่กลัวเกรงต่อกาเล็ทได้?

    "เอาเป็นลิลลี่กับโรซ่า พวกเจ้าไปจัดการเตรียมตัวให้พร้อมเถอะ หากว่ามีเรื่องจะบอกกล่าวแก่ครอบครัวก็ให้ฝากแก่พ่อบ้านโจเซพไว้ อีกยี่สิบนาทีมาเจอกับข้าที่ห้องนี้ ส่วนที่เหลือก็ขอให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับอย่าได้บอกกล่าวแก่ผู้ใด" กาเล็ทเอ่ยบอกกล่าวกับหญิงรับใช้ทั้งสี่

    ทั้งสี่ผงกหัวและแยกย้ายกันไป

    "ท่านแม่โปรดวางใจ โรคร้ายของท่านข้าจะรักษาให้หายขาดให้จงได้" กาเล็ทเอ่ยพร้อมกับเดินเข้าไปกุมมือของนีน่าผู้เป็นมารดาไว้



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×