ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #85 : บางเวลาความงดงามของสตรีก็หาใช่พรวิเศษเสมอไป [รีไรท์]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15.93K
      508
      14 พ.ย. 60





    "ขอบใจพวกเจ้ามาก" กาเล็ทค้อมตัวลงเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความขอบคุณจากก้นบึ้งของจิตใจให้แก่ลิลลี่และโรซ่า
    "นายน้อยอย่าได้ทำเช่นนี้ นี่เป็นสิ่งที่พวกข้าสมควรกระทำอยู่แล้ว นายน้อยคงไม่ทราบว่าก่อนที่พวกข้าจะได้เข้ามาทำงานอยู่ในตระกูลบุสโซ่ พวกข้ามีชีวิตที่ยากลำบากเพียงไรแต่หลังจากที่ได้มีโอกาสเข้ามาทำงานเป็นหญิงรับใช้อยู่ในตระกูลบุสโซ่ ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกข้าก็ดีขึ้น เพียงแค่เรื่องนี้ก็เพียงพอแล้วที่พวกข้าต้องตอบแทนบุญคุณของท่านที่รับพวกข้าเข้ามาทำงาน ยังมีนายหญิงเองก็เคยช่วยเหลือพวกข้าไว้หลายเรื่อง" ลิลลี่กล่าวอธิบายอย่างยืดยาว

    "จะอย่างไรช่วยเหลือก็คือช่วยเหลือ หากไม่ได้พวกเจ้า การรักษาท่านแม่คงไม่ราบรื่นถึงเพียงนี้ หากว่าพวกเจ้ามีสิ่งใดต้องการให้ข้าช่วยเหลือไม่ว่าในตอนนี้หรือในอนาคตก็บอกมาได้ทุกเมื่ออย่าได้เก็บไว้" กาเล็ทเอ่ย
    "พวกข้าเข้าใจแล้วนายน้อย" ทั้งลิลลี่และโรซ่าขานรับ

    เมื่อพูดคุยขอบคุณกันเสร็จสรรพกาเล็ทก็ส่งพวกนางออกจากมิติเทพเจ้า เหลือไว้เพียงตนเอง มิร่า และนีน่า
    "ท่านแม่ท่านยิ้มทำไมหรือ" กาเล็ทหันมาสบสายตากับผู้เป็นมารดาที่อุ้มมิร่าน้อยอยู่และพบว่าผู้เป็นมารดากำลังมองมาที่ตนเองพร้อมทั้งส่งรอยยิ้มที่แสดงออกถึงความชื่นชมออกมา

    "แม่แค่รู้สึกภูมิใจที่ลูกของแม่ไม่หลงลืมบุญคุณผู้อื่น" ความหมายในวาจาของนีน่าย่อมหมายความว่าบุตรชายของตนเองนั้นไม่ได้ว่างก้ามเขื่องโขดั่งเช่นคุณชายจากตระกูลใหญ่อื่นๆ มีหรือที่คุณชายตระกูลขุนนางอื่นๆจะยอมค้อมหัวแสดงความขอบคุณแก่หญิงรับใช้ สิ่งที่กาเล็ทกระทำเมื่อครู่นีน่าไม่ได้มองว่าเป็นการเสื่อมเสียเกียรติอันใดกลับกันนางกลับรู้สึกภูมิใจที่บุตรชายไม่ถือเนื้อถือตัวจนหลงลืมว่าผู้อื่นยื่นมือช่วยเหลือไว้

    "เพราะท่านแม่สอนข้ามาดี" กาเล็ทกล่าวพร้อมทั้งเดินเข้ามากอดนีน่าที่อุ้มมิร่าอยู่ การกอดของกาเล็ทครั้งนี้กลับกลายเป็นกอดทั้งมิร่าและนีน่าไปในคราเดียว
    "กรู๊" มังกรน้อยส่งเสียงร้องสดใสออกมา

    "เอิ่มกาเล็ท มีเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่แม่ยังไม่ได้บอกแก่เจ้า" นีน่านึกขึ้นได้ถึงเรื่องสำคัญที่ตนเองยังไม่ได้บอกกล่าวแก่บุตรชายเรื่องหนึ่ง
    ได้ฟังกาเล็ทจึงคลายวงแขนออกจากการกอดผู้เป็นมารดาและเอ่ยถามขึ้น "เรื่องใดหรือท่านแม่"

    "แม่ตกลงทำสัญญาหมั้นหมายระหว่างเจ้ากับหนูซิลเวียแล้ว" นีน่าเอ่ย

    "ท่านแม่!!" กาเล็ทอุทานด้วยความตกใจ จริงอยู่ว่าในดินแดนยูยานแห่งนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่บิดามารดาจะเป็นผู้จัดการเรื่องคู่ครองของผู้เป็นบุตร แต่กาเล็ทกลับคิดไม่ถึงว่าผู้เป็นมารดาของตนเองก็เอากับเขาด้วย

    "เป็นไรหรือ หนูซิลเวียแม่ก็รู้สึกถูกชะตาด้วยตั้งแต่แรกพบ เจ้าคิดว่าหนูซิลเวียไม่งดงามพอหรือ" นีน่าเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นการแสดงออกของผู้เป็นบุตรชาย

    "ท่านแม่ เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับว่างดงามหรือไม่" กาเล็ทเอ่ยตอบ

    "เช่นนั้นมันเกี่ยวกับเรื่องใดหรือลูกแม่" นีน่าเอ่ยถาม

    "ท่านแม่ การที่ราชาเบรุทต้องการให้ข้าหมั้นหมายกับองค์หญิงซิลเวียมันมีความนัยแฝงอยู่ หากว่าข้าแต่งกับองค์หญิงก็เปรียบเสมือนว่าตระกูลบุสโซ่ของเราถูกผูกติดเข้ากับราชวงศ์อัลเลนของราชาเบรุท ในภายภาคหน้าคงมีเรื่องวุ่นวายมากมายไม่จบสิ้นแน่" กาเล็ทเอ่ย

    "เรื่องนั้นแม่รู้" นีน่าเอ่ยตอบผู้เป็นบุตรชายเมื่อได้ยินถึงคำอธิบาย

    "ท่านแม่รู้แต่ยังตอบตกลงหรือ" กาเล็ทเอ่ยถามผู้เป็นมารดาอย่างไม่เข้าใจ

    "กาเล็ท ที่แม่ตอบตกลงหาใช่แม่ไม่เข้าใจว่าการหมั้นหมายครั้งนี้องค์ราชามีจุดประสงค์แอบแฝงอยู่ ที่แม่ยอมตอบตกลงเพราะแม่รู้สึกเห็นใจหนูซิลเวียในฐานะสตรีด้วยกัน" นีน่าเอ่ย

    "ท่านแม่หมายความว่าอย่างไร ข้าไม่เข้าใจ" กาเล็ทยังคงเอ่ยถาม

    นีน่าถอดถอนใจออกมาคราหนึ่งจากนั้นจึงเอ่ยต่อ "กาเล็ท ความงดงามของสตรีบางเวลามันก็หาใช่พรวิเศษเสมอไปนะลูก บางทีความงดงามนั้นก็นำพาความทุกข์ระทมมาให้แก่สตรี"

    "ท่านแม่ท่านหมายความว่า.." กาเล็ทพยายามคาดเดาความคิดของผู้เป็นมารดา

    "กาเล็ท ด้วยนิสัยขององค์ราชา แม้ว่าการหมั้นหมายระหว่างตระกูลบุสโซ่กับหนูซิลเวียจะไม่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วหนูซิลเวียก็คงถูกใช้เป็นเครื่องมือในทางการเมืองอยู่ดี บางทีนางอาจถูกจับให้แต่งงานกับเจ้าชายอาณาจักรใหญ่สักอาณาจักรหนึ่งเช่นเดียวกันกับพี่สาวของนาง กาเล็ทเจ้าไม่เห็นว่านี่น่าสงสารออกหรือลูก" นีน่าเอ่ยถามผู้เป็นบุตรชาย

    กาเล็ทได้ฟังคำถามของผู้เป็นมารดาก็รู้สึกลำบากใจไม่น้อย "ท่านแม่ข้าได้ยินมาว่าองค์หญิงซิลเวียก็หาได้ชอบหน้าข้าเท่าใดนัก แต่งให้กับข้าหรือแต่งให้กับเจ้าชายจากอาณาจักรอื่นข้าก็ไม่เห็นว่ามีความแตกต่างอันใดสุดท้ายแล้วนางยังคงถูกบังคับในสิ่งที่ตัวนางไม่ต้องการเช่นเดิม ยังมีข้าเองก็มีแชลเทียอยู่แล้วหากว่านางรู้เรื่องนี้เข้าข้าคงยากที่จะสามารถอธิบายได้"

    นีน่าได้ฟังผู้เป็นบุตรชายก็ยิ้มและส่ายหัวออกมา ผู้เป็นบุตรชายผู้นี้ของตนเองเสียทีที่ถูกผู้อื่นยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะมีความสามารถมากมายแต่กลับไม่เข้าใจจิตใจของสตรีเลยแม้แต่น้อย ในวันนั้นซิลเวียเจ้าหญิงแห่งโรฮานถึงกับเอ่ยปากออกมาเองว่ายินยอมจะแต่งเข้าตระกูลบุสโซ่ เรื่องเช่นนี้สตรีสมควรเปิดเผยออกมาหรือ? นีน่าเพียงมองดูแวบเดียวก็เข้าใจได้ว่าเจ้าหญิงแห่งโรฮานผู้นี้มีใจให้แก่บุตรชายของตนเองแล้ว นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่นีน่าตอบตกลงในวันนั้น

    "ย่อมมีความแตกต่าง" นีน่าเอ่ยพร้อมเดินเข้ามายื่นมือลูบคลำใบหน้าของผู้เป็นบุตรชายอย่างเอ็นดู "แม่รู้ว่ากาเล็ทลูกแม่จะไม่มีวันทำร้ายสตรี ลูกแม่น่ะทั้งอ่อนโยน ทั้งเข้าอกเข้าใจผู้อื่น อย่างน้อยหากแต่งให้แก่เจ้าก็สามารถการันตีได้ว่านางจะไม่ถูกรังแก" นีน่าเอ่ยอย่างมั่นใจ

    แม้จะได้ฟังดังนั้นกาเล็ทยังคงมีท่าทีอิดออด "ท่านแม่หาใช่ว่าแต่งให้แก่ผู้อื่นแล้วนางจะถูกรังแก"

    "กาเล็ท ในโลกนี้จิตใจของมนุษย์น่ะยากจะหยั่งถึงและไม่สามารถคาดเดาได้นะลูก ผู้ที่มีอำนาจและเพรียบพร้อมไปด้วยชื่อเสียงเกียรติยศเงินทองบางทีในจิตใจอาจจะบิดเบี้ยวโหดร้ายยิ่งกว่าผู้ใด เพียงแค่คิดว่าหนูซิลเวียที่ดูใสซื่อบริสุทธิจะต้องเผชิญกับคนเช่นนั้นแม่ก็หวั่นใจแทนแล้ว" นีน่าเอ่ย

    "ข้าไม่ทราบว่าจะต้องกล่าวอธิบายกับแชลเทียเช่นไร ข้าเกรงว่านางจะเศร้าเสียใจ" กาเล็ทเอ่ยอย่างลำบากใจ

    "กาเล็ทเจ้าไม่ต้องลำบากใจไป หนูแชลเทียไม่เพียงไม่เศร้าเสียใจนางกลับรู้สึกยินดี หนูแชลเทียน่ะก็คิดไม่ต่างกับแม่หรอก เรื่องนี้แม่ได้พูดคุยกับหนูแชลเทียเรียบร้อยแล้ว" นีน่าเอ่ยบอก

    "นางรู้แล้ว?" กาเล็ทเอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ กลับกลายเป็นว่าเรื่องนี้มีเพียงตนเองที่ยังไม่ล่วงรู้หรือ

    นีน่าผงกหัวให้แก่ผู้เป็นบุตรชายเพื่อเป็นคำตอบ

    เห็นเช่นนั้นกาเล็ทก็ไม่มีคำพูดใดจะว่ากล่าวอีก ตนเองกลับถูกจับให้หมั้นหมายในลักษณะนี้ไป หากว่าเป็นบรุษอื่นไม่ทราบว่าพวกมันจะยินดีสักเพียงไหนที่ได้ตกแต่งหญิงสาวที่เพรียบพร้อมทั้งหน้าตาและฐานะอย่างเช่นซิลเวียทว่าบนใบหน้าของกาเล็ทกลับไม่ปรากฎเค้าลางของความยินดีเลยแม้แต่น้อย

    เมื่อสามารถตรวจพบจุดที่ผิดปกติของร่างกายผู้เป็นมารดาแล้ว ก็เหลือแต่เพียงการใช้พลังค่อยๆกระตุ้นแก้ไขให้จุดที่ผิดปกตินั้นค่อยๆฟื้นฟูรักษาตนเอง ในขั้นตอนนี้หาสามารถเร่งรีบเกินไปได้แต่เหตุที่กาเล็ทยังคงให้นีน่าอยู่ในมิติเทพเจ้าเพราะเพื่อจะช่วยให้นีน่าสร้างแก่นจิตวิญญาณ

    "ท่านแม่ ท่านรับประทานนี่เถอะ" กาเล็ทนำเม็ดยาเทพโอสถทลายสวรรค์ออกมา ยาเทพโอสถทลายสวรรค์ที่กาเล็ทนำออกมานี้หาใช่ยาระดับสูงสุดที่ตนเองมีไม่ แต่เป็นยาระดับแรกเริ่ม เหตุที่กาเล็ทไม่นำยาระดับสูงออกมาให้แก่นีน่าเพราะร่างกายของนีน่านั้นยังคงอ่อนแอจึงยากที่จะสามารถทนรับพลังมหาศาลจากเม็ดยาเทพโอสถระดับสูงได้

    "ยาอะไรหรือลูกกาเล็ท" นีน่าเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าบุตรชายนำเม็ดยาที่มีแสงประหลาดเรืองรองเปล่งออกมา

    "ยานี้เรียกว่ายาเทพโอสถทลายสวรรค์ท่านแม่ มันมีคุณค่ามากสำหรับผู้ฝึกพลัง หากว่าผู้ฝึกพลังที่อยู่ในระดับขั้นที่ 1-5 กินยานี้เข้าไปอย่างน้อยพวกมันต้องมีระดับพลังเพิ่มขึ้น 1 ขั้น ส่วนคนธรรมดาเช่นท่านหากว่ากินมันเข้าไปจะช่วยให้สามารถสร้างแก่นจิตวิญญาณได้ราบรื่นขึ้น" กาเล็ทเอ่ยอธิบาย

    ยาเทพโอสถทลายสวรรค์นั้นแตกต่างจากยาเทพโอสถวิถีฟ้า ยาเทพโอสถวิถีฟ้านั้นจะช่วยขยายการรับรู้ถึงพลังจิตวิญญาณของผู้กินทำให้ความรวดเร็วในการฝึกฟนเพิ่มพูนขึ้นหลายเท่าตัวและสามารถกินซ้ำได้ทว่ายาเทพโอสถทลายสวรรค์นั้นแตกต่าง ยาเทพโอสถทลายสวรรค์นั้นมีส่วนผสมของโสมโลกันตร์ โสมโลกันตร์นั้นหากว่ากินเปล่าๆมันก็คือยาพิษที่มีฤทธิ์ร้ายแรงดีๆนี่เอง แต่โสมโลกันตร์นั้นหากว่าใช้ในอัตตราส่วนที่เหมาะสมและผสมเข้ากับส่วนผสมที่เข้ากันได้อย่างลงตัวก็จะสามารถเปลี่ยนพิษของมันให้กลายเป็นพลังงานได้ดังนั้นยาเทพโอสถทลายสวรรค์จึงเปรียบเสมือนก้อนพลังงาน แต่ยังมีอยู่สิ่งหนึ่งซึ่งกาเล็ทเองก็ยังไม่กระจ่างนั่นคือยาเทพโอสถทลายสวรรค์นั้นในแต่ละขั้น คนผู้หนึ่งจะสามารถกินได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ในจุดนี้กาเล็ทก็ยังไม่สามารถไขความลับได้ว่าเพราะเหตุใดเช่นกัน

    "กาเล็ทยานี้มีค่ามาก เอามาให้แม่จะดีหรือลูก" นีน่าเอ่ยอย่างกังวลใจ หากว่ายานี้มีค่ามากมายก็สมควรให้บุตรชายของตนเองกินมันจะดีเสียกว่า

    กาเล็ทย่อมคาดคิดไว้อยู่แล้วว่าผู้เป็นมารดาจะต้องแสดงออกเช่นนี้ นีน่านั้นมักจะคิดถึงตนเองก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ "ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ยานี้ข้ามีอีกนับร้อย" กาเล็ทกล่าวพร้อมทั้งนำยาแบบเดียวกันออกมานับไม่ถ้วน ยาทั้งหมดล้วนล่องลอยเปร่งแสงอยู่เบื้องหน้า

    "มากมายถึงเพียงนี้" นีน่าเอ่ยด้วยความตกใจ

    "งั่ม งั่ม กรู๊" มิร่าที่ถูกนีน่าอุ้มอยู่กลับยื่นคอออกมาที่เบื้องหน้าและอ้าปากงับกลืนกินเม็ดยาเทพโอสถทลายสวรรค์เข้าไปอยู่หลายเม็ด กาเล็ทย่อมให้นางกินยาทั้งระดับสูงระดับต่ำจนครบถ้วนหมดสิ้นแล้ว แม้แต่นางเองที่มีแก่นจิตวิญญาณระดับจักรพรรดิ์ขั้นต้น เมื่อได้กลืนกินยาเทพโอสถทลายสวรรค์ระดับสูงเข้าไประดับพลังก็เพิ่มขึ้นมาอยู่หลายส่วน

    "เดี๋ยวเถอะเจ้ามังกรน้อย" กาเล็ทเอ่ยห้ามปรามมิร่าน้อย ทว่าบนใบหน้ากับเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ให้นางกลืนกินเม็ดยาสักสองสามเม็ดย่อมไม่เกิดปัญหาใด แต่ว่ายาพวกนี้ล้วนไม่เกิดผลใดต่อนางแล้วแม้จะกลืนกินเข้าไปอีกหลายเม็ดทว่าหากนำไปให้ทหารของตระกูลบุสโซ่ที่ยังคงมีระดับพลังเฉลี่ยอยู่ที่ขั้น 4-5กินเข้าไปจะเกิดความคุ้มค่ากว่าหลายเท่า มิร่าน้อยกลับกินยาล้ำค่าพวกนี้ต่างของกินเล่นเสียแล้ว กาเล็ทจึงอดที่จะเอ่ยห้ามปรามไม่ได้

    กาเล็ทวาดมือไปเบื้องหน้าอีกครั้งหนึ่งเม็ดยาทั้งหมดก็ถูกเก็บเข้าสู่แหวนมิติดังเดิมจนหมดสิ้น



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×