[ 雪梅 ] เหมยแดงหิมะ(เปิดชื่อไว้ สภานะรอปั่น)) - นิยาย [ 雪梅 ] เหมยแดงหิมะ(เปิดชื่อไว้ สภานะรอปั่น)) : Dek-D.com - Writer
×

    [ 雪梅 ] เหมยแดงหิมะ(เปิดชื่อไว้ สภานะรอปั่น))

    หยดหนึ่งน้ำตาร่วงริน ลงสู่ปฐพี ดวงใจแสนเจ็บร้าว ราวถูกกรีดเป็นรอยแผล อีกหยดหนึ่งร่วงรินไหลอาบเป็นทางยาว ย้ำเตือนถึงความเจ็บร้าวเป็นเท่าทวี น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงริน หากแต่กายนี้กลับไม่รู้สึกถึงสิ่งใด

    ผู้เข้าชมรวม

    122

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    122

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    12
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  22 ก.ย. 60 / 14:02 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



    หยดหนึ่งน้ำตาร่วงริน ลงสู่ปฐพี

    ดวงใจแสนเจ็บร้าว ราวกับถูกกรีดเป็นรอยแผล

    อีกหยดหนึ่งร่วงรินไหลอาบเป็นทางยาว ตกกระทบพื้นดิน

    ย้ำเตือนถึงความเจ็บราวนั้นเป็นเท่าทวี

    น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงริน หากแต่กายนี้กลับไม่รู้สึกถึงสิ่งใด


                   สายลมพัดพลิ้วก่อเกิดเสียงหวีดหวิวยามผิวไผ่เสียดสี กิ่งใบลู่เอน กิ่งหลิวใกล้ศาลาหลังน้อยโอนอ่อนโยกไหวไปมา ชายผ้าใต้ศาลาปลิวไสวสะบัดตามแรงลม สาวงามอรชรงดงามภายใต้อาภรณ์สีหวานนั่งชมจันทร์เพียงเดียวดาย สองมือน้อยประครองกอดผีผาหลังงามอย่างแสนรัก ก่อนจะขยับมือน้อยไล้วนดีดบรรเลงบทเพลงสุดแสนวิปโยค ดวงตางามโศกเศร้าเต็มตื้นด้วยน้ำใสปริ่มจะหยดก็พลันร่วงหล่นไหลอาบแก้มขาวใสนวลเนียน จวบจนค่อนคืนมือน้อยก็ยังคงบรรเลงบทเพลงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง กระทั่งหญิงรับใช้ 2 นางเดินเข้าไปถ่ายทอดคำสั่งที่ได้รับมา

                    “คุณหนูควรแก่เวลาเดินทางแล้วเจ้าค่ะ ทุกคนกำลังรอท่านอยู่”

                    “เวลาผ่าน แต่ความทรงจำไม่เคยผ่าน

    เวลาไม่เคยหยุดหมุน แต่ความทรงจำหยุดบันทึกเรื่องราว

    คนเราเปรียบเวลาดั่งสายน้ำไหล

    แล้วความทรงจำควรเป็นสิ่งใดหนอ” 

    สาวงามอรชรกล่าวน้ำเสียงแผ่วเบานัก ดวงหน้างดงามหมดจดฉายแววเศร้า ดวงตากลมโตมีหยาดน้ำใสเออคลอเต็มหน่วยตา ก่อนจะตัดใจละสายตาจากจันทร์เพ็ญสว่างนั้น แล้วประคองกอดผีผาหลังงามคู่ใจเดินลงจากศาลาไปยังจุดหมายปลายทาง

                    ขบวนผู้คนกลุ่มเล็กๆ จำนวนสิบกว่าชีวิตได้ตั้งแถวพร้อมเดินทางเรียบร้อย รอเพียงคนสำคัญขึ้นไปพำนักบนเกวียนหลังน้อยเท่านั้น ขบวนผู้คนกลุ่มนี้ล้วนแล้วมีแต่สตรีรูปโฉมสะคราญตาอีกทั้งยังมีเด็กหญิงอายุ 3-4 ขวบอยู่ร่วมขบวนด้วย  5 คน หนึ่งในจำนวนนั้นแต่งกายด้วยแพรพรรณชั้นดีบ่งบอกถึงฐานันดรที่สูงกว่าเด็กคนอื่นยืนรอผู้เป็นมารดาอยู่ข้างเกวียนอย่าสงบผิดวิสัยเด็กน้อยทั่วไปนัก ทันทีที่มารดาก้าวเดินเข้ามาใกล้ เด็กน้อยผู้นั้นจึงโผล่เข้าหามารดา ใบหน้าเนียนใสของเด็กน้อยบัดนี้เปรอะเปื้อนด้วยน้ำตาหากแต่ปราศจากเสียงร้องแต่เพียงนิด

                    “นิ่งเสียเด็กเอ๋ย เราต้องเดินทางกันแล้ว จงทิ้งความเศร้าของเจ้าเอาไว้ที่นี่ อย่าได้มีน้ำตาให้บิดามารดาเจ้าต้องเป็นห่วงกังวล”

                    “ลูกจะเชื่อฟังท่าน” เด็กน้อยรีบยกมือน้อยป้ายปัดเช็ดน้ำตาออกทันที หากแต่น้ำตาก็ยังคงไหลอย่างห้ามไม่อยู่  หากแต่เพียงชั่วครู่เท่านั้น  เด็กน้อยก็หยุดร้องไห้ดังที่ได้รับปากมารดา  เมื่อนางเห็นบุตรีบุญธรรมสงบแล้วจึงพากันขึ้นไปนั่งบนเกวียนหลังน้อยนั่น แล้วจึงดึงผ้าลงเพื่อปิดกั้นภาพจากภายนอกเป็นการส่งสัญญาณให้ออกเดินทางได้

                    จบสิ้นกันเสียทีหนอ จากนี้นางจะตัดขาดจากโลกภายนอกใช้ชีวิตอยู่กับบุตรีบุญธรรม และบุตรในครรภ์ภายใต้หุบเหวลึกที่ไม่มีผู้ใดกล้ำกลายเข้าไปถึง ที่ซึ่งบิดาอันเป็นที่รักของนางได้จัดเตรียมไว้ให้นางเพื่อหลบภัยนับจากวันที่เกิดเรื่องราวไม่น่าจดจำกับนาง





    ใครคิดว่าจะมีมาม่าให้เสพจนพุงแตกคิดใหม่น้าาา มาม่านิดๆ แต่ส่วนใหญ่ไร้สาระเรื่อยๆ เอื่อยๆ เหมือนผู้แต่งจร้า อิอิ ไม่มีฮาเร็มนะคะ จุฟๆ

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น