[ 雪梅 ] เหมยแดงหิมะ(เปิดชื่อไว้ สภานะรอปั่น))
หยดหนึ่งน้ำตาร่วงริน ลงสู่ปฐพี ดวงใจแสนเจ็บร้าว ราวถูกกรีดเป็นรอยแผล อีกหยดหนึ่งร่วงรินไหลอาบเป็นทางยาว ย้ำเตือนถึงความเจ็บร้าวเป็นเท่าทวี น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงริน หากแต่กายนี้กลับไม่รู้สึกถึงสิ่งใด
ผู้เข้าชมรวม
122
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
หยดหนึ่งน้ำตาร่วงริน ลงสู่ปฐพี
ดวงใจแสนเจ็บร้าว ราวกับถูกกรีดเป็นรอยแผล
อีกหยดหนึ่งร่วงรินไหลอาบเป็นทางยาว ตกกระทบพื้นดิน
ย้ำเตือนถึงความเจ็บราวนั้นเป็นเท่าทวี
น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงริน หากแต่กายนี้กลับไม่รู้สึกถึงสิ่งใด
สายลมพัดพลิ้วก่อเกิดเสียงหวีดหวิวยามผิวไผ่เสียดสี กิ่งใบลู่เอน กิ่งหลิวใกล้ศาลาหลังน้อยโอนอ่อนโยกไหวไปมา ชายผ้าใต้ศาลาปลิวไสวสะบัดตามแรงลม สาวงามอรชรงดงามภายใต้อาภรณ์สีหวานนั่งชมจันทร์เพียงเดียวดาย สองมือน้อยประครองกอดผีผาหลังงามอย่างแสนรัก ก่อนจะขยับมือน้อยไล้วนดีดบรรเลงบทเพลงสุดแสนวิปโยค ดวงตางามโศกเศร้าเต็มตื้นด้วยน้ำใสปริ่มจะหยดก็พลันร่วงหล่นไหลอาบแก้มขาวใสนวลเนียน จวบจนค่อนคืนมือน้อยก็ยังคงบรรเลงบทเพลงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง กระทั่งหญิงรับใช้ 2 นางเดินเข้าไปถ่ายทอดคำสั่งที่ได้รับมา
“คุณหนูควรแก่เวลาเดินทางแล้วเจ้าค่ะ ทุกคนกำลังรอท่านอยู่”
“เวลาผ่าน แต่ความทรงจำไม่เคยผ่าน
เวลาไม่เคยหยุดหมุน แต่ความทรงจำหยุดบันทึกเรื่องราว
คนเราเปรียบเวลาดั่งสายน้ำไหล
แล้วความทรงจำควรเป็นสิ่งใดหนอ”
สาวงามอรชรกล่าวน้ำเสียงแผ่วเบานัก ดวงหน้างดงามหมดจดฉายแววเศร้า ดวงตากลมโตมีหยาดน้ำใสเออคลอเต็มหน่วยตา ก่อนจะตัดใจละสายตาจากจันทร์เพ็ญสว่างนั้น แล้วประคองกอดผีผาหลังงามคู่ใจเดินลงจากศาลาไปยังจุดหมายปลายทาง
ขบวนผู้คนกลุ่มเล็กๆ จำนวนสิบกว่าชีวิตได้ตั้งแถวพร้อมเดินทางเรียบร้อย รอเพียงคนสำคัญขึ้นไปพำนักบนเกวียนหลังน้อยเท่านั้น ขบวนผู้คนกลุ่มนี้ล้วนแล้วมีแต่สตรีรูปโฉมสะคราญตาอีกทั้งยังมีเด็กหญิงอายุ 3-4 ขวบอยู่ร่วมขบวนด้วย 5 คน หนึ่งในจำนวนนั้นแต่งกายด้วยแพรพรรณชั้นดีบ่งบอกถึงฐานันดรที่สูงกว่าเด็กคนอื่นยืนรอผู้เป็นมารดาอยู่ข้างเกวียนอย่าสงบผิดวิสัยเด็กน้อยทั่วไปนัก ทันทีที่มารดาก้าวเดินเข้ามาใกล้ เด็กน้อยผู้นั้นจึงโผล่เข้าหามารดา ใบหน้าเนียนใสของเด็กน้อยบัดนี้เปรอะเปื้อนด้วยน้ำตาหากแต่ปราศจากเสียงร้องแต่เพียงนิด
“นิ่งเสียเด็กเอ๋ย เราต้องเดินทางกันแล้ว จงทิ้งความเศร้าของเจ้าเอาไว้ที่นี่ อย่าได้มีน้ำตาให้บิดามารดาเจ้าต้องเป็นห่วงกังวล”
“ลูกจะเชื่อฟังท่าน” เด็กน้อยรีบยกมือน้อยป้ายปัดเช็ดน้ำตาออกทันที หากแต่น้ำตาก็ยังคงไหลอย่างห้ามไม่อยู่ หากแต่เพียงชั่วครู่เท่านั้น เด็กน้อยก็หยุดร้องไห้ดังที่ได้รับปากมารดา เมื่อนางเห็นบุตรีบุญธรรมสงบแล้วจึงพากันขึ้นไปนั่งบนเกวียนหลังน้อยนั่น แล้วจึงดึงผ้าลงเพื่อปิดกั้นภาพจากภายนอกเป็นการส่งสัญญาณให้ออกเดินทางได้
จบสิ้นกันเสียทีหนอ จากนี้นางจะตัดขาดจากโลกภายนอกใช้ชีวิตอยู่กับบุตรีบุญธรรม และบุตรในครรภ์ภายใต้หุบเหวลึกที่ไม่มีผู้ใดกล้ำกลายเข้าไปถึง ที่ซึ่งบิดาอันเป็นที่รักของนางได้จัดเตรียมไว้ให้นางเพื่อหลบภัยนับจากวันที่เกิดเรื่องราวไม่น่าจดจำกับนาง
ผลงานอื่นๆ ของ อรัญญิการ์.PingXin ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ อรัญญิการ์.PingXin
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น