นักเรียนหมอขอเมาท์

ลำดับตอนที่ #49 : เมาท์ : จับเข่าคุยกับพี่ใช้ทุน 2

ถาม-ตอบ จากแพทย์ใช้ทุนภาคใต้(จ.ประจวบคีรีขันธ์)

            บาส:เส้นทางการไปสู่แพทย์ใช้ทุนต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ

            พี่โป้:ปกติแล้วหลังจากจบปี6และสอบใบประกอบโรคศิลป์ระดับ 3ผ่านจะมีแนวทางการทำงานหลายทางอาทิ เรียนต่อเฉพาะทางในสาขาขาดแคลนเช่นจิตเวชซึ่งก็เป็นสาขาที่พี่ต้องการอยู่แล้วแต่พี่เสียดายความรู้ที่เรียนมาจึงอยากลองมาใช้ทุนก่อนสักประมาณ1ปี แล้วค่อยกลับไปเรียนต่อซึ่งจริงๆแล้วต้องใช้ทุน3ปี หรือจะไปสมัครเป็นแพทย์ใช้ทุน fix ward แต่สำหรับการไปเป็นแพทย์ใช้ทุนนั้นจะมีการจับฉลากในช่วงต้นเดือนเมษายน โดยจะมีการประกาศเป็นโควตาในแต่ละจังหวัดออกมาก่อนว่าต้องการกี่คน อย่างของพี่โป้ไปจังหวัดประจวบฯมีโควตา5คนแต่สมัครไป7คนก็จะมีการจับฉลากเลือกไปซึ่งพี่โป้โชคดีจับได้โดยที่พี่โป้จับได้เป็นประจวบ/ประจวบ/ประจวบ ประจวบตัวแรกหมายถึงในการใช้ทุนปีแรกเราต้องไปใช้ทุนที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประจวบตัวที่2คือในช่วงฝึกงานที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดจะมีอยู่3เดือนที่ต้องไปทำงานในโรงพยาบาลชุมชนซึ่งก็คือโรงพยาบาลชุมชนในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประจวบตัวสุดท้ายคือโรงพยาบาลชุมชนที่จะต้องไปอยู่ในปี2,3ของการใช้ทุน

            บาส:สาเหตุที่พี่โป้เลือกจังหวัดนี้เพราะอะไรค่ะ

            พี่โป้:พี่อยากได้จังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพแล้วก็ใกล้ทะเลด้วยจ้ะ

            บาส:การเตรียมตัวก่อนไปใช้ทุนต้องทำอะไรบ้างค่ะ

            พี่โป้:สำหรับพี่แล้วพี่จะศึกษาการทำงานของโรงพยาบาลในจังหวัดนั้นๆก่อนโดยสอบถามจากพี่ๆ residentในโรงพยาบาลเรา เพราะมีพี่ๆที่เคยไปใช้ทุนที่จังหวัดนี้มาก่อนหลายคน นอกจากนี้อาจถามถึงเรื่องการอยู่เวรหรือพี่ๆstaffที่โรงพยาบาลว่าดีหรือเปล่า

            บาส:สภาพความเป็นอยู่เป็นอย่างไรบ้างค่ะ

            พี่โป้:ลักษณะของจังหวัดที่พี่ไปอยู่เป็นจังหวัดเล็กๆ เงียบมาก ไม่มีแสง สี เสียงใดๆ ห้างที่พี่เห็นและคิดว่าเจริญที่สุดก็คงจะเป็นโลตัส เอ็กซ์เพรส 55+ สำหรับทางโรงพยาบาลจะมีหอพักแพทย์เตรียมไว้ให้เป็นห้องเปล่าๆ กับห้องน้ำเสียๆ ในตัว55+ ซึ่งพี่ก็จะสั่งซ่อมไปและซื้อพวกข้าวของเครื่องใช้ใหม่หมดทั้งตู้เย็น,แอร์,ทีวีเป็นต้น แต่ที่ขาดไม่ได้คงเป็นnote bookกับต่อinternetเพิ่มและอาจมีตำราเรียนบ้างเผื่อฉุกเฉิน

            บาส:แล้วหน้าที่ในโรงพยาบาลพี่โป้ต้องทำอะไรบ้างค่ะ

            พี่โป้:เป้าหมายจริงๆ ของแพทย์ใช้ทุนก็คือการทำงานจริงและเรียนรู้ประสบการณ์ทำงานจากแพทย์รุ่นพี่สำหรับหน้าที่หลักๆ ก็คือการออก OPD ตรวจด้วยตัวเองซึ่งจะออกเป็นช่วงๆ แล้วแต่วัน+ราวน์วอร์ดในส่วนของตัวเองเป็นหน้าที่หลัก นอกจากนี้อาจมีการออกไปประจำสถานีอนามัยเพิ่มเติมซึ่งความรู้ที่ใช้ส่วนใหญ่จะศึกษาเอาเอง ตอนนี้พี่ผ่าคลอดได้แล้วนะถึงแม้ตอนเรียนที่วชิระจะไม่ให้ทำเองอย่างมากก็ผ่าไส้ติ่งเองแต่อยู่ในcontrolของอาจารย์แต่มาอยู่ที่นี่ต้องทำเองหมดช่วงแรกอาจมีพี่ๆstaffคอยช่วย หลังๆก็ต้องทำเองเพราะมีแพทย์น้อยต้องพยายามทำให้ได้หลายอย่างอันนี้คือในเวลาราชการนะ สำหรับนอกเวลาราชการก็จะมีการอยู่ERแล้วก็อยู่พวกวอร์ดในเพิ่มเติม

            บาส:คงมีหลายคนอยากรู้เงินเดือนว่าพี่โป้ได้เท่าไรบ้างจากการไปใช้ทุนค่ะ

            พี่โป้: ประมาณ60,000บาทต่อเดือนถ้ามีcaseนอกเวลาก็จะได้เพิ่มเช่นมีผ่าคลอดก็caseละ800บาท ทำแผล/สอดท่อก็caseละ400บาทจริงเงินเดือนประมาณ10,000บาทเองแต่มีค่าอื่นๆเพิ่มเช่น ค่าไม่เปิดคลินิก ค่าใบประกอบวิชาชีพ เป็นต้น จ้ะ

            บาส:ลักษณะการทำงานของแพทย์ใช้ทุนต่างจากการเรียนบนวอร์ดอย่างไรบ้างคะ

            พี่โป้:สำหรับที่วชิระจะเป็นการเรียนรู้เพียงอย่างเดียวแต่ถ้าการใช้ทุนจะเป็นการเรียนรู้พร้อมกับการให้บริการไปด้วยจึงต้องมีความรับผิดชอบที่สูงขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะเราจะเป็นคนตัดสินใจทุกอย่างและจะไม่มีใครมาคอยควบคุมเราแล้วว่าเราตัดสินใจถูกหรือผิด

            บาส:หลังจากได้ไปใช้ทุนประมาณ2-3เดือนพี่โป้มีความประทับใจอะไรบ้างค่ะ

            พี่โป้:พี่จะประทับใจมากเกี่ยวกับเพื่อนร่วมงานที่ดีโดยเฉพาะพี่พยาบาลเหมือนจะเป็นครูของเราอีกคนก็ว่าได้ โรงพยาบาลที่พี่โป้ไปมีแพทย์จากศิริราช1 คน จากวชิระ 3 คน จากรามา 1 คน จากพระบรมชนก 1 คน จากธรรมศาสตร์ 1 คน ซึ่งกับต่างคณะพี่โป้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่ด้วยงานที่หนักทำให้ทุกคนต้องช่วยกันจนสนิทกันไปเอง และการทำงานจะเป็นระบบที่เกื้อกูลกัน นอกจากนี้ค่าครองชีพที่นี่ก็ถูกมากกินให้ตายก็ไม่เกิน100บาทต่อมื้อ แถมบรรยากาศก็สวยงามเพราะมีทะเลถึงแม้พี่ จะไม่ค่อยมีเวลาไปดูก็ตาม55+

            บาส:สุดท้ายนี้พี่โป้มีอะไรฝากถึงน้องๆที่คณะบ้างค่ะ

            พี่โป้:การที่เป็นแพทย์ที่ดีเก่งอย่างเดียวไม่พอแต่สิ่งที่แพทย์ทุกคนต้องมีคือความรับผิดชอบต่อคนไข้ซึ่งต้องมีในสามัญสำนึกเลยแหละนอกจากนี้ต้องหมั่นปฏิบัติและฝึกฝน ที่สำคัญอีกอย่างคือการมีทักษะในการสื่อสารและจิตใจที่ดี มีการสำรวจพบว่าการสื่อสารที่ดีจะทำให้อัตราการถูกฟ้องร้องของแพทย์ลดลงอย่างมากถึงแม้เราจะทำการรักษาที่ผิดพลาดแต่ถ้ามีการสื่อสารที่ดีหรือมีการประณีประนอมโดยส่วนใหญ่แล้วทางผู้ป่วยมักไม่ฟ้องร้องหรอกจ้ะสุดท้ายนี้พี่อยากให้น้องๆรักและภูมิใจในสถาบันแห่งนี้ถึงที่วชิระอาจจะไม่ให้พี่ออกต่างจังหวัดไปดูงานมีประสบการณ์น้อยเหมือนจบจากที่อื่นแต่พี่ได้รับสังคมที่ดีมีพี่มีน้องที่ดีและถ้าพี่ไม่ได้จบจากวชิระอาจไม่มีพี่โป้ในวันนี้ก็ได้จ้ะ