ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังเก็บพล็อต

    ลำดับตอนที่ #116 : Fic :: KenChin chapter 3

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 135
      0
      19 ก.ย. 53




    Chapter 3


    Ken's Talk

                    วันเวลาผ่านไป ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ ..นาทีเปลี่ยนไปเป็นวัน วันเปลี่ยนไปเป็นเดือน..เดือนเปลี่ยนไปเป็นปี

    ตอนนี้พวกเราขึ้น ปี 3 แล้ว แต่ชินโดก็ยังไม่ฟื้น.. ไม่รู้ว่าต้องรอจนจบ ม.ปลาย รึเปล่า..หมอนั่นถึงจะฟื้น หรือไม่ก็ หมอนั่นอาจจะรอให้ผมแต่งงานมีครอบครัวไปเลยก็ได้ละมั้ง ?

    แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ชินโดก็คงจะไม่ได้ฟื้นขึ้นอีกแน่นอน เพราะผม.. อาจจะไม่แต่งงาน

    ทุกๆ อย่างรอบตัวที่เริ่มเปลี่ยนไป มันทำให้ผมคิดได้ว่า ตัวเองไม่ต้องการอยู่ตัวคนเดียว โดยที่ปราศจากหมอนั่น ต้องเป็นเขาเท่านั้น .. ต้องเป็นชินโดคนเดียว

    ผมขาดเขาไม่ได้..

    “ วันนี้ฉันมีสอบ ทุกคนวุ่นวายน่าดู โดยเฉพาะพี่คิยะ  นายคงจะเดาออกใช่มั้ย..มันเหมือนกับตอนที่พวกเราไปเที่ยวสวนสนุกเลยนะ ว่ามั้ย ? ตอนนั้นพี่คิยะก็เครียดเพราะต้องขึ้นรถไฟเหาะ” ผมบอก  มันเป็นเรื่องปกติที่ผมจะต้องมานั่งสาธยายเรื่องในแต่ละวัน ให้ชินโดฟัง

    เพราะอย่างนั้น..ระหว่างที่หมอนั่นหลับ  หมอนั่นก็จะไม่ลืมเรื่องของคนอื่นๆ..หรือ เรื่องของผม

    “ .... “

    “ ตอนที่พี่คิยะขึ้นรถไฟเหาะ นายยังล้อพี่ฉันอยู่เลยนี่เนอะ..ดังนั้นนายคงจะไม่ลืมเรื่องตอนนั้นอยู่แล้วใช่ม๊า..”

    “.... “

    “ นายต้องไม่ลืมแน่ๆ..ห้ามลืมเด็ดขาดนะ..”

    บรรยากาศเริ่มเงียบเหงาอีกครั้ง ผมไม่ได้ต้องการจะให้มันเป็นแบบนี้..แต่เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าถึงพูดไป ชินโดก็ไม่ตอบอะไรกลับมา เพราะรู้ว่าเป็นแบบนั้น..

    มันก็ห้ามความคิดบ้าๆ ของตัวเองไม่ได้สักที

    ...ถ้าหมอนี่ไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้วละ..

    ..ถ้าหมอนี่ตื่นขึ้นมาแล้วจำฉันไม่ได้..

    ..ถ้าหมอนี่ตื่นขึ้นมาแล้วหายไปอีก..

    ผมคงจะกลัวอะไรที่มันงี่เง่าเกินไป..ทั้งๆที่ความจริง..เพียงแค่ชินฟื้น ผมก็มีความสุขมากพอแล้ว..

    “ แอ๊ด...” ผมหันไปมองประตูห้อง  พยาบาลคนเดิมเดินเข้ามาพร้อมยาชุดเดิม เธอยิ้มให้ผมอย่างคุ้นเคย ก่อนพี่คิยะ  เซย์ มินะจะเดินตามหลังเข้ามาติดๆ

    “ ไงเคนจัง  ทำไมทำหน้าอย่างกับเห็นผีเล่า!” เซย์เอ่ย ยัยนั่นเดินเข้ามาตบหลังผมอย่างแรง จนผมเอนตัวไปข้างหน้าตามแรงมือของยัยนั่น

    “ เปล่าสักหน่อย หญิงถึกต่างหาก” ผมแหย่ เซย์ดึงแก้มของผมอย่างมั่นไส้ ก่อนจะยื่นถุงขนมมาให้ผม

    “ หน้านายตอนนี้น่ะ โทรมยิ่งกว่าผีซะอีก! หัดดูแลตัวเองซะบ้างสิ” เซย์บอก พี่คิยะ และมินะพยักหน้าทันที เหมือนกำลังจะบอกว่าเห็นด้วยกับเซย์

    ผมกับเซย์เลิกกันหลังจากเกิดเรื่องของชินโดได้หนึ่งอาทิตย์ ดูเหมือนเซย์เองก็คงจะดูอาการของผมออก แถมยัยนั่นเองนั่นแหละ ที่เป็นคนบอกเลิกผม

                    แต่ถึงอย่างนั้น..ผมก็ยังรู้สึกดีกับเซย์จริงๆ..และผมก็มั่นใจว่าความรู้สึกที่มีให้เซย์นั่นคือความรัก เพียงแต่..มันไม่มากพอเท่ากับที่ผมให้กับชินโดก็เท่านั้น

                    มันเทียบกันไม่ได้จริงๆ..

                    “ วันนี้จะค้างอีกใช่มั้ยคะ” พยาบาลสาวหันมาถามผม ผมพยักหน้านิดหน่อย เธอยิ้มรับก่อนจะหยิบถาดยาเดินออกไปจากห้อง

                    “ ไหวเหรอ..พรุ่งนี้มีเวรเช้าไม่ใช่เหรอ” พี่คิยะถาม ผมส่ายหน้าปฏิเสธ

                    “ ไม่เป็นไรฮะ ผมแลกกับทานากะไว้แล้ว” ผมตอบ

                    “ อื้ม..แต่ว่าเคนคุงก็ต้องพักผ่อนมั้งนะคะ “ มินะบอก รอยยิ้มของเธอช่างอ่อนโยน

                    ทั้งสามอยู่คุยกับผมอีกนิดหน่อยก่อนจะแยกย้ายกันกลับ ผมเพียงแค่ไปส่งพวกเธอที่สถานีแล้วก็กลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง  โซฟาของที่นี่แทบจะกลายเป็นของของผมไปแล้วด้วยซ้ำ..

                    “ ทุกคนกลับหมดแล้วละนะ..” ผมพูดกับชิน ว่าพลางก็ลูบหัวหมอนั่นเบาๆ  ดูท่าหมอนี่อาจจะกำลังหนาว ? ผมควรจะเพิ่มแอร์สักหน่อย

                    “ เมื่อไรนายจะฟื้นขึ้นมาสักที” ผมถาม แม้จะไร้คำถาม...แต่ผมก็จะหวังต่อไป

                    “ ไม่ว่าตอนนี้นายจะอยู่ที่ไหน.. นายก็ต้องรีบกลับมาหาฉันได้แล้ว..  ฉันอยู่ไม่ได้โดยที่ไม่มีนาย”

                    “....”

                    “ จริงๆ นะ..”

     

     

     

     

     

     

     

     

     CHindo's Talk

                    “ ทำอะไรอยู่เหรอคะ คุณอากาวาร่า” เสียงของนางฟ้าองค์หนึ่งกำลังเรียกผม

                    “ แต่งสวนนะฮะ มันรกๆ ผมเลยจัดมันสักหน่อย” ผมตอบด้วยเสียงเนือยๆ   สวนที่นี่มันจะกว้างไปไหนกัน ? ใหญ่จนโรงเรียนผมเทียบไม่ติดเลยจริงๆ นะ!

                    “ ไม่เบื่อหรอคะ คุณจัดสวนมาตั้ง 217 วันแล้วนะ..” เธอบอกผม.. ก็บอกแล้วไงว่าสวนที่นี่มันกว้าง! แต่ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็สวยงามมากจริงๆ ..มีดอกไม้นานาพันธุ์ที่ผมไม่เคยเห็น แถมอากาศที่นี่ยังบริสุทธิ์มากๆ เสียด้วย

                    “ ก็พอผมจัดตรงนั้นเสร็จ ตรงนี้ก็กลับมารก พอจัดตรงนี้เสร็จ ตรงนู้นก็กลับมารกอีกนี่ฮะ” ผมบอกเธอ เธอส่งยิ้มบางๆ ให้ผม  การใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ สำหรับผมมันก็แอบเหงานิดหน่อย แหงละ..ก็ในโลกแห่งนี้..มีเพียงเธอและผมเท่านั้นนี่

                    แล้วผมก็ไม่ได้อยู่กับเธอตลอดเวลาอีกด้วย..

                    “ มันไม่ใช่คำตอบคะ ฉันกำลังถามคุณว่า คุณไม่เบื่อที่นี่เหรอ” เธอถามผม

                    ที่นี่..เหมือนจะเป็นสวรรค์ แต่ก็ไม่ใช่.. ถ้าผมเดาไม่ผิด ที่นี่คงจะเป็นจิตใต้สำนึกของผม..

                    มีความเชื่ออยู่เรื่องหนึ่งที่ผมเคยได้ยินมา..นั่นคือจิตใจของมนุษย์มีส่วนเชื่อมต่อกับสวรรค์หรือนรก และในช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรา อาจจะมีโอกาสได้ไปเยือนที่สวรรค์ หรือ นรกนั่นก็เป็นได้

                    และผมอาจจะโชคดีหน่อย ที่ดูเหมือนว่าตัวเองนั้นจะได้มาเยือนสวรรค์.....คิดว่านะ

                    “ ที่นี่สวยออกครับ ผมไม่เห็นจะต้องเบื่อเลย” ผมตอบ ผมพูดจากใจจริง จริงๆ นะ ที่นี่มันสวยจนผมไม่อยากจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมเลยด้วยซ้ำ.. อิ่มเองโดยไม่ต้องกินอะไร แถมยังมีทิวทัศน์สวยๆ อย่างกับในเทพนิยายแน่ะ

                    “ อย่างนั้นเหรอคะ แต่แววตาของคุณ..เหมือนจะกำลังรอใครอยู่นะคะ”

                    “ เอ๊ะ..?” ผมส่งเสียงอุทาน

                    “ แววตาของมนุษย์ทุกคนมันต่างกันคะ คุณเองก็มีแววตาที่ต่างออกไป และฉันเชื่อว่าคุณคงจะรู้อยู่แก่ใจว่าฉันกำลังจะพูดอะไร..” เธอบอก สีหน้าของเธอกำลังทำเหมือนว่า มองผมออกหมดอย่างทะลุปุโปร่ง

                    “ บางทีอาจจะไม่ได้มีคุณแค่คนเดียวที่เป็นฝ่ายรอ ตอนนี้อาจจะมีใครบางคนกำลังรอคุณอยู่ก็ได้นะคะ” เธอบอกผม

                    “ ง..งั้นเหรอครับ แต่ใครละจะมารอผม? พ่อกับแม่ของน่ะ ท่านสองคนจากโลกนี้ไปนานแล้วนะครับ” ผมตอบ

                    “ แหม..ปากแข็งจริงๆ นะคะเนี้ย..  เอาเป็นว่า คุณจะกลับไปหรือไม่กลับไปมันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณก็แล้วกันนะคะ”

    “ อ..อะครับ”

    “ แต่ถ้าคุณใช้เวลาตัดสินใจนานเกินไป คุณอาจจะไม่ได้กลับไปที่ที่คุณจากมาแล้วก็เป็นได้นะคะ” เธอตอบก่อนจะส่งยิ้มปิดท้าย ว่าแล้วเธอก็เดินห่างออกไป

                    ใครสักคนกำลังรอผม..?

                แล้วใครละ..

                    มีบางครั้งที่ผมพยายามนึกถึงอะไรบางอย่าง..แต่พอลองย้อนถามตัวเองดู ผมก็ไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองกำลังนึกถึงอะไรอยู่ มันเป็นอะไรบางอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจของผม แต่ไม่ว่าจะนึกเท่าไร ผมก็นึกมันไม่ออกสักที

                    “ วิ้ว...” สายลมเย็นๆ พัดกลิ่นหอมโชยมาแต่ไกล ดูเหมือนในโลกแห่งนี้ใกล้จะถึงฤดูหนาวแล้ว..นี่มันเป็นฤดูหนาวครั้งที่เท่าไรแล้วนะ.. ผมคงจะมาอยู่ที่นี่นานมากไปแล้วสิ ?

     ผมถูมือเมื่อเพิ่มความอบอุ่น แต่จู่ๆ ตัวเองก็รู้สึกอุ่นกายขึ้นมาทันที ความรู้สึกเหมือนตัวเองถูกโอบอุ้มเอาไว้ด้วยอะไรบางอย่าง..  ความรู้สึกแบบนี้มันไม่ใช่ครั้งแรก..

    “ เอ๊ะ...”

    นี่มัน...

    ผมก้มหน้ามองดู..มือของตัวเอง..รู้สึกเหมือนนิ้วโป้งเริ่มจะจางลง..มันโปร่งแสงจนมองทะลุเห็นต้นไม้ที่อยู่ใต้มือของผมได้อย่างชัดเจน

                    นี่มันอะไรกัน ?

                    ยิ่งสังเกต..ก็ดูเหมือนว่า นิ้วของผมมันเริ่มจางหายไปช้าๆ..

                “ถ้าคุณใช้เวลาตัดสินใจนานเกินไป คุณอาจจะไม่ได้กลับไปที่ที่คุณจากมาแล้วก็เป็นได้นะคะ” ผมนึกย้อนไปถึงคำพูดของเธอคนนั้นอีกครั้ง..

                    นี่มันหมายความยังไงกัน ?..

                    หรือว่าจิตวิญญาณของผม..กำลังจะหายไปงั้นเหรอ!??

     

     

     

     










    คุยกับคิส
    ขอโทษนะครับที่ลงเนื้อหาช้าไปจนขาดห้วง
    เพิ่งไปรื้อๆ เจอ เพราะลีส่งมาให้นานแล้ว
    TT^TT

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×