[D.Gray-Man Fiction]Alone - [D.Gray-Man Fiction]Alone นิยาย [D.Gray-Man Fiction]Alone : Dek-D.com - Writer

    [D.Gray-Man Fiction]Alone

    เรื่องเหงาๆของอเลน

    ผู้เข้าชมรวม

    2,230

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    2.23K

    ความคิดเห็น


    22

    คนติดตาม


    12
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 เม.ย. 49 / 20:09 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      (โทษทีนะอเลน ชั้นมีภารกิจต้องไปกับยูน่ะ)

       


      (ขอโทษนะจ๊ะอเลนคุง คือว่า...วันนี้ต้องช่วยงานพี่ทั้งวันเลยน่ะ)

       


      (คงอยู่เป็นเพื่อนเธอ/นายไม่ได้หรอกนะ)

       


      มีปากก็พูดได้น่ะสิ...


      อเลน วอคเกอร์คิดอย่างไม่สบอารมณ์ วันนี้เขาจำต้องอยู่โยงเพียงคนเดียวที่ศาสนจักรทั้งๆที่ว่างเสียจนไม่รู้จะว่างยังไง ไม่มีอะไรทำ ไม่มีใครให้คุย ไม่มีใครที่สนใจเขาในตอนนี้


      ทำไมต้องโกรธล่ะ?


      เด็กหนุ่มผมขาวเฝ้าแต่ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาขณะที่นอนแผ่ลงบนเตียง...ทุกคนมีงานต้องทำ...อเลนเฝ้าพร่ำบอกตัวเองเช่นนี้ เพราะมีความรู้สึกไม่พอใจเล็กๆออกมาจากส่วนลึกของจิตใจนี่เองทำให้อเลนตระหนักว่าตนเองยังไม่เป็นผู้ใหญ่พอ...ปกติ...ไม่ว่าจะราบี้หรือว่ารินารี่ก็มักจะอยู่เป็นเพื่อนเขาเสมอ ต่อให้เป็นคันดะก็เถอะ ถึงจะไม่ชอบหน้ากันแต่ก็ได้เจอหน้ากันทุกเช้าที่โรงอาหาร


      อเลนนอนมองเพดานอย่างขมขื่นใจ การไม่มีใครอยู่ข้างกายเช่นทุกวันแบบนี้ก่อให้เกิดความรู้สึกว่างเปล่าเหลือเกิน เป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย มีทั้งความรู้สึกโกรธระคนเศร้าใจ ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้


      อยู่ดีๆน้ำตาก็ไหลรินลงมาจากดวงตาสีฟ้าคู่นั้น


      ไม่เข้าใจเลย...


      อเลนคิดก่อนที่จะยกมือขึ้นปาดน้ำตาของตน ไม่เข้าใจจริงๆว่าเหตุใดน้ำตาจึงไหลออกมา ทิมแคนปีเองก็ดูเหมือนจะตกใจที่อยู่ดีๆเด็กหนุ่มผมขาวก็ร้องไห้ออกมาเช่นนี้


      ความรู้สึกคล้ายกับวันที่มาน่าตาย...


      อเลนตระหนักว่าความรู้สึกที่ก่อเกิดขึ้นมานั้นเป็นความรู้สึกคล้ายกับวันที่สูญเสียมาน่า...พ่อผู้เป็นที่รักยิ่งไป...ที่แตกต่างเห็นจะเป็นครั้งนี้ไม่มีความเศร้าเสียใจถึงระดับนั้นก่อเกิดขึ้น มีเพียงความรู้สึกเหงาและอ้างว้างเท่านั้นที่ก่อตัวขึ้นมา


      ทำไมกันนะ


      ทำไมถึงได้รู้สึกเหงามากมายถึงเพียงนี้...


      ตั้งแต่เข้าศาสนจักรมาก็เพิ่งเคยรู้สึกเหงาอย่างนี้เป็นครั้งแรก เขาไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกเหงาใจเช่นนี้ ทั้งๆที่เขาก็มีเพื่อนมากมาย ทั้งราบี้ รินารี่ โคมุอิ ริเวอร์ เฮบาลัสก้า คันดะ(?)แล้วก็คนอื่นๆทั้งในแผนกวิทยาศาสตร์แล้วก็หน่วยค้นหาหรือว่าเอ็กโซซิสท์คนอื่นๆที่เคยเจอกัน แต่ถึงกระนั้น ตัวเขาในตอนนี้ก็รู้สึกอ้างว้างเหลือเกิน


      คิดถึงการกระทำของคนอื่นๆที่แสดงต่อเขาแล้วก็รู้สึกเหงาขึ้นมา


      โคมุอิปฏิบัติดีกับเขาก็เป็นเพียงเพราะอาจารย์ของเขาฝากฝังมา อาจารย์ของเขาที่ช่วยสอนวิชาก็คงเป็นเพราะเขามีชะตาต้องเป็นแบบนั้น รินารี่ก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างดีแต่ก็อาจเป็นเพียงมารยาทที่พึงกระทำ ราบี้เองก็ชอบเล่นหัวกับเขาแต่ก็ไม่ถึงขั้นสนิทสนม ส่วนคันดะไม่ต้องพูดถึง...


      สิ่งที่ทุกคนทำอาจเป็นเพราะเป็นเพียงมารยาทเท่านั้นรึเปล่า


      อาจใช่หรืออาจไม่ เขายังเป็นคนใหม่อยู่ คงไม่อาจสนิทสนมกับคนอื่นๆได้รวดเร็วนัก อาจต้องใช้เวลามากกว่านี้


      ทั้งที่เข้าใจ


      แต่ทำไมถึงได้เหงามากมายถึงเพียงนี้...


      อเลนยื่นมือขึ้นไปคว้าจับทิมแคนปีเอาไว้พร้อมกับดึงเข้ามาหาตัว เวลานี้ก็มีเพียงทิมแคนปีเท่านั้นที่อยู่กับเขา เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตัวเองต้องการจะมีเพื่อน ต้องการจะมีที่พึ่งมากขนาดนี้


      ทำไมกันนะ?


      ยังคงพร่ำถามไม่หยุด


      คงเพราะนึกถึงเรื่องเศร้าๆก็เลยเหงางั้นสิ?


      หรือเพราะยังไม่คุ้นเคยจึงได้รู้สึกแบบนี้?


      เด็กหนุ่มคิดขณะที่น้ำตานั้นยิ่งเอ่อล้นออกมามากขึ้นเรื่อยๆ เด็กหนุ่มพยายามอย่างยิ่งที่จะกอดทิมแคนปีให้ได้


      เหงาที่ต้องจากมาน่า เหงาที่ต้องจากอาจารย์ เหงาที่ยังไม่สามารถสนิทกับใครได้อย่างสนิทใจ เหงาเหลือเกินที่ต้องทนอยู่ในสถานที่ๆไม่คุ้นชิน...เหงา...


      เหงามากเหลือเกิน...


      หยาดน้ำตายิ่งไหลริน ดวงตาปิดแน่นด้วยความรู้สึกเหงาที่ไม่อาจสกัดกั้น เสียงสะอื้นร่ำไห้ดังออกมาจากปากไม่หยุด


      เด็กหนุ่มนอนร้องไห้อยู่เช่นนี้นานนับชั่วโมงด้วยความคิดที่ต้องการจะร้องไห้ให้เต็มที่ ร้องไห้ให้พอแล้วนับจากนี้เขาจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว


      จะไม่ร้องไห้...จริงๆ...

       


      “อเลน...”


      “อเลน!!”


      เสียงหนึ่งเรียก อเลนขยี้ตาอย่างงุนงงก่อนที่จะลุกขึ้นนั่ง


      “ครับ...?” อเลนรับคำ ด้วยสติที่เรือนรางตอนที่ถูกเรียกเขาจึงยังไม่สามารถจำแนกเสียงได้ว่าคนที่เรียกเขานั้นเป็นใคร แต่พอเขาเบิกตามองแบบเต็มๆตาก็รู้ว่าผู้ที่มาเรียกนั้นคือราบี้ อีกคนที่อยู่ข้างหลังเด็กหนุ่มผมสีส้มก็คือรินารี่


      “โดนผึ้งต่อยมารึไงตาถึงได้บวมฉึ่งหยั่งงี้น่ะ” ราบี้พูดติดตลกก่อนไม่พูดพล่ามทำเพลงฉุดอเลนขึ้นมาจากเตียง


      “ไปกินข้าวกันเถอะ ยูรออยู่ที่โรงอาหารแน่ะ”


      “เอ๋? คันดะน่ะเหรอครับ?”


      “จ๊ะ วันนี้พวกเรากะว่าจะเลี้ยงข้าวอเลนคุงซักหน่อยน่ะจ้ะ” รินารี่เป็นคนบอก อเลนไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจู่ๆถึงต้องเลี้ยงข้าวเขา


      “เลี้ยงข้าวผมทำไมเหรอครับ” อเลนถามอย่างฉงนใจ


      “ก็ ตั้งแต่อเลนคุงเข้ามาเรายังไม่เคยทำอะไรให้อเลนคุงเลยนี่จ๊ะ” รินารี่ตอบ

       


      ทั้งสามมาถึงโรงอาหาร ที่โต๊ะหนึ่งนั้นมีโคมุอิ ริเวอร์ คันดะนั่งอยู่ สองคนแรกนั้นทำท่าดีใจที่เห็นอเลนมาได้แต่ว่าคันดะนั้นมีท่าทางเฉกเช่นทุกที


      เพียงเห็นแค่นี้ก็ดีใจแล้ว


      ตอนนี้แค่เห็นหน้าคันดะเขายังดีใจเลย


      อยากร้องไห้ออกมาอีกรอบเหลือเกินแต่ก็ทำไม่ได้เพราะสาบานกับตัวเองไว้แล้ว


      จากนี้ไป...


      ผมคงไม่เหงาอีกแล้วล่ะครับ...


      คุณพ่อ...

       


      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×