Triveser Manigator Saga: HyperStar Trooper

ลำดับตอนที่ #40 : ตอนที่ 20 ยุทธการลับบนโลก ช่วงพักยก กลับสู่เขาหอเมฆา พบกับพี่น้องของเหล่าสหายผู้จากไป ครึ่งหลัง

ช่วงที่ 2

          "อะไรนะคะ พวกเราถูกหลอกอย่างงั้นหรือคะ" จูดิธบอกอย่างตกใจ หลังจากที่เธอกับพวกรีบกลับมาจากนอร์เวย์แล้ว

          ทาริก้าบอก "แต่พวกไทรเวเซอร์ มิได้บุกขึ้นไปที่นอร์เวย์ หลังจากที่หลอกล่อพวกเราให้ออกห่างจากยานเลยหรือคะ"

          "เกรงว่า พวกเขาจะส่งโดรนมาหลอกให้พวกคุณไปอยู่ที่ยุโรปและแอฟริกา หากแต่จริงๆแล้ว พวกเขาข้ามไปที่ฝั่งเอเชียแล้วละคะ" เรดดิลบอก แล้วก็นำข้อมูลของพวกไทรเวเซอร์มา "พวกคุณควรอ่านแฟ้มประวัติการปฏิบัติการณ์ของพวกไทรเวเซอร์ ที่เราได้รับจากกลุ่มพันธมิตรมนุษย์กันเสียก่อนนะคะ"

          โรนัลด์อ่านดู "พวกเขาใช้ยุทธวิธีหลอกล่อกองกำลังจักรวรรดิ์ต่างดาวที่ไล่ล่าพวกเขาในช่วงที่บุกเขตอวกาศ ด้วยการส่งโดรนกระจายไปทั่วระบบดาว ดึงความสนใจของพวกไล่ล่าให้ออกห่างจากเป้าหมาย ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่เราคิดและมุ่งหน้าไปยังนอร์เวย์ เพราะเราคิดว่าพวกเขาจะบุกถล่มนิคมอุตสาหกรรมกันน่ะ"

          "นั้นคือสิ่งที่พวกคุณคิดอยู่ แต่จริงๆแล้ว พวกเขาอยากให้พวกคุณไม่ต้องไล่ล่าพวกเขาอีก ด้วยการอาศัยจิตวิทยาที่ว่า หากพวกไทรเวเซอร์อยู่ใกล้และมีการหลบหนี พวกคุณจะต้องตามล่าให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะพาไปไกลแค่ไหนก็ตาม โดยพวกเขาคงใช้โอกาสนี้ หลบหนีไปที่อื่นแทนนะครับ" บลูดัสท์บอก "พวกคุณเองก็อย่าลืมนะครับ ว่าพวกไทรเวเซอร์ส่วนหนึ่ง เคยเป็นทหารฝ่ายมนุษย์มาก่อนน่ะ"

          โรนัลด์กล่าว "จะว่าไปก็ใช่น่ะ คุณมัสด้าเคยเป็นที่ปรึกษาในการรบ ไม่ใช่แค่รู้ว่าศัตรูมีท่าทียังไง แต่รู้ด้วยว่าทหารในแต่ละกองเคลื่อนไหวกันยังไงด้วยน่ะ"

          "พอพวกเราถูกความสนใจดังกล่าวดึงไปแล้ว เท่ากับว่าเราเปิดช่องโหว่ให้พวกไทรเวเซอร์หลบหนีไปได้ เพราะเป้าหมายของเราคือหยุดยั้งและควบคุมตัวพวกไทรเวเซอร์เอาไว้น่ะ" เฮลก้ากล่าว

           มิลโดว์บอก "และในช่วงนี้ ทหารทุกกองในสหพันธ์โลกใหม่ต่างอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ ซึ่งนั้นหมายถึงการที่พวกทหารไม่สามารถปฏิบัติการณ์ได้ในช่วงสั้นๆอยู่ด้วย เลยทำให้พวกทหารเปิดช่องว่างไปด้วยนะสิ"

          "พอพวกทหารออกจากฐานเพื่อค้นหา แต่กลับไม่เจอใครเลยอยู่รอบๆนี้ พอกลับมาก็เจอสัญญาณของพวกไทรเวเซอร์ปรากฎในเรดาห์อีก เลยวกตรงไปก็ไม่เจอ แล้วก็วนลู๊ปไปหลายรอบเลยน่ะ" นิโคล่ากล่าว

          ริโคน่าบอก "อย่าว่าแต่เราเลย พวกทหารเองก็ไม่อยากถูกหลอกแบบนี้ เลยเฝ้าฐานต่อเพราะคิดว่าพวกไทรเวเซอร์ไม่น่าบุกมา พอเราตรงไปที่ฐานใหม่ก็เจอมุขเดิมอีก เหมือนเราโดนเด็กเลี้ยงแกะแกล้งยังไงยังงั้นน่ะ"

          "เด็กเลี้ยงแกะนะหรือ ชัดเลย พี่โฟรน่าจงใจให้เราเป็นเช่นนี้จริงๆเสียด้วย" จูดิธได้ฟังก็ถอนใจอย่างหงุดหงิด "พี่โฟรน่าและพวกใช้โดรนที่ติดระบบล่องหนให้เคลื่อนที่อยู่รอบนอกฐานเป้าหมาย โดยส่งสัญญาณหลอกให้ทหารออกจากฐานมา แต่ไม่พบเจออะไรเลย เพราะโดรนถูกสั่งให้หยุดส่งสัญญาณและล่องหนชนิดที่ระบบตรวจจับไม่สามารถมองเห็นได้ พอโดรนรับรู้ว่าทหารและพวกเรากลับฐานก็ทำอีกรอบ ไปเรื่อยๆจนกระทั่งพวกเราไม่สนใจและอยู่แต่ในฐานไว้ เพราะเราไม่ถูกหลอกอีกรอบแล้ว"

          ทาริก้าบอก "พอเราอยู่แต่ในฐาน โดรนนั้นก็หายตัวพร้อมกับไปอยู่ที่อื่นให้ไกลจากเรามากขึ้น โดยหลอกเราว่าพวกเขาหนีไปอีกฐานหลังจากที่หลอกพวกเราไปแล้ว ซึ่งเราก็โดนมุขนี้อีกรอบ จากนั้นพวกโดรนก็มุ่งหน้าไปยังนิคมอุตสาหกรรมในนอร์เวย์ พร้อมกับส่งสัญญาณขนาดใหญ่ให้พวกเรารู้ว่า พวกไทรเวเซอร์จอดยานไว้ตรงหน้าเพื่อยึดนิคมอุตสาหกรรม จนเราเข้าไปรื้อค้นเพื่อหาตัวพวกเขา ส่งผลให้การผลิตชิ้นส่วนโมบิลทรูปเปอร์ถูกขัดจังหวะลงไปด้วยสิน่ะ"

          "นี้คือสิ่งที่พวกเราจะแจ้งให้พวกคุณทราบกันก็จริง โดยพยายามติดต่อให้พวกคุณทราบแล้วนะครับ แต่...." บลูดัสท์บอก

          เรดดิลกล่าว "....พวกคุณมัวแต่โฟกัสไปที่ตรงนั้นมากเกินไป จนไม่ฟังพวกเราเลย ขนาดแจ้งให้คุณจูดิธ คุณก็ยังปฏิเสธพวกเราด้วยคะ ว่าไม่ใช่กงการของพวกเราที่เข้ามาพูดไว้"

          "เป็นความจริงใช่มั้ย จูดิธ" บราวน์เดคถาม

          จูดิธพยักหน้า "ฉันยอมรับคะ ว่าฉันปฏิเสธที่จะฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ระดับล่าง เพราะว่าหน้าที่ของเรานั้นคือทำตามคำสั่งของท่าน จึงไม่จำเป็นต้อง...."

          "ฉันรู้สึกผิดหวังต่อพวกเธอไม่น้อยเลยน่ะ ที่พวกเธอซึ่งมาจากฝั่งยุโรป เว้นแต่พี่น้องทเวยน์ ไม่รับความช่วยเหลือหรือคำแนะนำจากเรดดิลและบลูดัสท์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่างที่รู้ว่าพวกไทรเวเซอร์เคลื่อนไหวเช่นไรด้วยแล้ว ต่อให้พวกเธอพยายามแก้ตัวแค่ไหน ฉันเห็นว่า พวกเธอปฏิบัติภารกิจล้มเหลวลงแล้ว เพราะพวกไทรเวเซอร์ใช้จุดแข็งในเรื่องความฉลาดรอบรู้และความมั่นใจในตัวเองสูง มาเล่นงานพวกเธอเสียเองน่ะ" บราวน์เดคตำหนิ "อีกอย่าง ทุกๆคนในกองกำลังล้วนมีหน้าที่เหมือนกันและต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งพวกเธอที่เป็นเจ้าหน้าที่ขั้นสูงกว่านั้น ควรจะรับความช่วยเหลือจากเรดดิลและบลูดัสท์ ซึ่งเป็นสมาชิกของกองกำลังนี้เหมือนกับพวกเธอ แต่พวกเธอไม่รับฟังเอง แล้วยังดึงดันตามเรื่อง ทั้งๆที่พวกเธอโดนครั้งเดียว น่าจะพอได้แล้ว ต่อให้เธออ้างคำสั่งฉันมา แต่ฉันกลับมองว่า พวกเธอจงใจฝ่าฝืนคำสั่งไปแล้วน่ะ"

          มิลโดว์บอก "แต่เราจะเชื่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานพลาดและสร้างความเสียหายอย่างทั้งสองนี้ได้เลยหรือ...."

          "พวกเธอเป็นผู้ใหญ่ หัดยอมรับความผิดพลาดได้แล้วน่ะ ว่าพวกเธอแพ้พวกไทรเวเซอร์ที่รู้ว่าพวกเรามีนิสัยเป็นเช่นไร ถึงได้ใช้จุดนี้พาพวกเขาแซงหน้าพวกเราไปได้เลยน่ะ" บราวน์เดคบอก "ดังนั้น ฉันจะแจ้งให้ทหารในพื้นที่มารับผิดชอบแทน และไม่ต้องออกตามหาพวกไทรเวเซอร์ที่หลบซ่อนกันได้แล้ว แน่นอน ว่าพวกเธอ ต้องทำรายงานมาส่งฉันในยานนี้ด้วย"

          ทาริก้าถาม "แล้วเรื่องพวกไทรเวเซอร์ละคะ"

          "ฉันโอนเรื่องนี้ให้ฝั่งเอเชียไปจัดการแล้ว และส่งหน่วยกัลสตาร์ซีโร่ไปจัดการกันด้วย แม้ฉันอยากจะลดตำแหน่งของพวกเธอลง แต่เพราะว่าพวกเธอแค่ถูกหลอกให้ไปผิดทิศผิดทาง ฉันยังพอให้โอกาสพวกเธอกันบ้าง" บราวน์เดคกล่าว

          โรนัลด์ถาม "พวกเราเข้าใจดีละครับ แต่ปัญหาคือ...." แล้วก็ถามไปว่า "....พวกไทรเวเซอร์รู้ได้ไง ว่าเรดดิลและบลูดัสท์ เป็นสมาชิกหน่วยกัลสตาร์ซีโร่ของพวกเรา ในเมื่อหน่วยศูนย์นี้เป็นหน่วยลับของพวกเราที่มีพวกเราเท่านั้นที่รู้ได้น่ะ"

          "คือว่า เรดดิลและบลูดัสท์ หลังจากที่ปฏิบัติภารกิจจนก่อความเสียหายไปนั้น เดิมทั้งคู่ควรจะถูกส่งไปอยู่ในกองทัพสหพันธ์โลกใหม่ที่บัลติมอร์กัน" เยลโลว์ไลน์บอก "แต่เอกสารเกิดผิดพลาด ทั้งคู่เลยถูกส่งไปฝึกในกองรบของ....นายพลฟรินท์ แฟนดิแอโรว์นะคะ"

          จูดิธกล่าว "ฟรินท์ เฟอร์นันเดอร์ แฟนดิแอร์โรว วีรบุรุษสงครามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแมนิเกเตอร์อดีตหน่วย 54 ในมหาสงครามเมื่อ 24 ปีก่อนนะหรือ....ชัดเลย มิน่าละ พี่โฟรน่าถึงโพล่งให้เรารู้เรื่องเรดดิลและบลูดัสท์ เพราะพี่กับพวกเขารู้มาแต่แรกแล้วน่ะ"

          "ถ้าเป็นนายพลแฟนดิแอโรว์ละก็....เขาก็รู้ข้อมูลทั้งหมดของพวกเรา เพราะในกองกำลังของเรามีทหารจากมหาสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมด้วย ซึ่งรวมถึงพวกเธอสองคนเลยสิน่ะ" มิลโดว์บอก นิโคล่าพยักหน้า

          ริโคน่าบอก "พอเราทราบเรื่องว่าหน่วยศูนย์ไปผิดกอง เลยรีบไปตาม เลยทำให้หน่วยศูนย์รู้ว่าเราสองคนเป็นใครด้วยนะสิ"

          "เออ มีการติดต่อจากเกาลูนนะคะ" ไวโอล่าบอก บราวน์เดคพยักหน้าแล้วไวโอล่าต่อสาย เป็นภาพชายผิวเข้มร่างกำยำสวมเสื้อกั้กอยู่ในฐานทัพ

          "คงเดช นายคงจะติดต่อมาหาเราเพื่อมาเยาะเย้ยเรื่องที่เราล้มเหลวละสิน่ะ" จูดิธกล่าวกับชายผิวเข้มอย่างไม่สบอารมณ์

          "ฉันไม่เยาะเย้ยคนที่ล้มและคนทำผิดพลาดไปหรอกน่ะ เพราะนั้นเป็นการซ้ำเติมให้เธอและพวกเจ็บใจมากกว่าเดิมมากกว่า แม้จะรู้ว่าพวกเธอคงทำเรื่องนี้ได้เอง โดยไม่พึ่งเรดดิลและบลูดัสท์ที่อยากจะช่วยพวกเธอ จนพวกเธอโดนแกล้งแบบนี้เลยก็ตามน่ะ" คงเดชบอก "ถ้าไม่เพราะว่าเป้าหมายที่พวกเธอต้องการตามตัวมาอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของพวกเรา และจู่โจมพวกมีอิทธิพลมืดไปหลายกลุ่มในเวลาไล่เลี่ยกันเลยน่ะ"

          มิลโดว์บอก "ที่นายมานี้ คงเพราะว่านายพลเจียงเรียกตัวนาย ซึ่งมีความรู้เรื่องอาวุธเก่าที่พวกไทรเวเซอร์ใช้เลยละสิน่ะ"

          "ถูกแล้วละ ในที่คฤหาสน์ของแก็งค์ตั้งโต๊ะเกี๋ยม มีปลอกกระสุนปืนอัตโนมัติหล่นเกลือนพื้นเพียงบางส่วน บ่งบอกได้ว่าพวกไทรเวเซอร์เก็บกวาดส่วนมากออกไป เพื่อมิให้พวกเราสืบหาได้น่ะ" คงเดชบอก

          โรนัลด์บอก "แต่ปลอกกระสุนปืนอัตโนมัติอาจมาจากปืนกลหนักของทางรัฐบาลจีน โดยเฉพาะหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษของประเทศจีนก็ได้นิ"

          "ปลอกกระสุนที่เจอนั้น มีอนุภาคของตะกั่วและโครเมี่ยมติดอยู่ แถมภายในที่เกิดเหตุเอง ก็มีรูพรุนอยู่เพียบพร้อมกับศพลูกสมุนนับไม่ถ้วนลงไปกองกับพื้น ซึ่งปืนกลหนักของรัฐบาลจีนคงไม่น่าถล่มทั้งแก็งค์ได้ มีแต่ฝ่ายกองกำลังกบฎของโคเคส แอคเมนโด้เท่านั้นแหละ ที่จะมีปืนโตแบบนั้นได้น่ะ" คงเดชบอก

          จูดิธกล่าว "นายหมายถึง ปืนกลอัตโนมัติแรปิดเดเตอร์รุ่นมาโรวเดอร์ อาวุธรุ่นเก่าที่ควรจะสาปสูญไปในมหาสงครามของโอเวอร์เดสครั้งแรก ซึ่งโคเคสเคยใช้ต่อกรกับพวกแมนิเกเตอร์ของโอเวอร์เดสมาแล้วสิน่ะ แต่ เท่าที่รู้มา ปืนกลแบบนี้ แค่กระบอกเดียวคงไม่น่าที่จะกวาดได้ทั้งแก็งค์เลยนิ"

          "ถ้าพวกเขามีเทคโนโลยี่ที่เหมาะสมและสามารถผลิตรุ่นใหม่ โดยที่มีผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาวุธหนักซึ่งรู้เรื่องแรปิดเดเตอร์รุ่นมาโรวเดอร์แล้วละก็ พวกเขาคงผลิตปืนโตได้หลายสิบกระบอกไปแล้วน่ะ" คงเดชกล่าว "แต่ถ้าไม่เพราะว่าแก็งค์ตั้งโต๊ะเกี๋ยม มันพร้อมด้วยอาวุธและมียุทโธปกรณ์ที่สามารถถล่มกรมตำรวจได้สิบกรมละก็ พวกเขาคงไม่เล่นแรงแบบนี้หรอกน่ะ"

          เฮลก้าถาม "แล้วจะอธิบายเรื่องที่เกิดเหตุอื่นอีกละ พวกเขาคงไม่ได้ใช้อาวุธปืนหนักถล่มพวกแก็งค์มาเฟียจีนและเกาหลีละสิ"

          "เออ พวกแก็งค์เหล่านั้นโดนจู่โจมด้วยวิทยายุทธ์มือเปล่าและอาวุธกันนะครับ" ชายหนุ่มผมสีส้มคาดผ้าคาดหัวสีแดงเข้มบอก "ทั้งแก็งค์เก๋อซิ่ง แก็งค์หลิวดำ แก็งค์โอวต้าหนี่ แก็งค์เกาหลีทั้งสองแก็งค์ ต่างถูกเล่นงานด้วยมือและเท้าเปล่าที่ทรงพลังและรวดเร็วกว่า รวมถึงเจอเพลงอาวุธที่เฉียบคมและรุนแรงมากด้วย"

          มิลโดว์กล่าวทัก "นายกำลังจะบอกว่าพวกไทรเวเซอร์ ไปเรียนกังฟูเหมือนกับนายเลยสิน่ะ ลิ่วเฟย"

          "ลิ่วเฟยพูดถูกน่ะ เพราะขนาดตัวอย่างศพของพวกแมนิเกเตอร์ในป้อมปราการยังมีร่องรอยการฟาดฟัน ทิ้มแทงและทุบตีอยู่ ถ้าพวกเขาไม่มีอาวุธ พวกเขาก็ยังโต้ตอบได้ด้วยมือและเท้าอยู่ดีน่ะ" จูดิธกล่าว "แล้วนายแน่ใจหรือ ว่าจะหยุดพวกไทรเวเซอร์ลงได้โดยที่พวกนายไม่เจ็บตัวน่ะ"

          คงเดชกล่าว "คนที่อยู่หลังแนวหน้าแล้วออกไปเสี่ยงเหมือนกับพวกเราอย่างพวกเธอนั้น ถ้าไม่เจ็บก็คงไม่จำหรอกน่ะ จูดิธ หากพวกเธอยอมให้เรดดิลและบลูดัสท์ช่วยโดยไม่ถือสาเรื่องความผิดพลาด ปานนี้พวกเธอคงออกตามหาพวกไทรเวเซอร์เจอไปนานแล้ว ไม่น่าโดนนายพลบราวน์เดคลงโทษได้หรอกน่ะ"

"ตอนนี้เราคงต้องเตรียมพร้อมจัดการกับพวกไทรเวเซอร์กันก่อนน่ะ คิดซะว่าทำเพื่อพวกคุงแล้วกันนะครับ" ลิ่วเฟยบอก

          โรนัลด์บอก "งั้นเราฝากที่เหลือด้วยน่ะ คุณคงเดช"

          "น่าเสียดายเหลือเกินน่ะ ที่พวกเธอยังไม่ได้รับการยอมรับจากพวกจูดิธเลยน่ะ" นิโคล่าบอก

          เรดดิลบอก "ช่างเถอะคะ เพราะพวกเรารู้ดี ว่าพวกเราคงไม่มีทางได้รับการยอมรับได้แน่ๆ และพวกเรามิใช่พี่เรดดิคและพี่บลูเดลที่พวกคุณจูดิธยอมรับกันสักหน่อยนิ"

          "แต่เรากลัวว่าพวกเธออาจจะทำอะไรบ้าๆ จากความผิดหวังในเรื่องนี้กันน่ะ" ริโคน่ากล่าว

          บลูดัสท์กล่าว "พวกเขามีสิทธิ์ที่จะคิดแบบนั้นได้นะครับ อีกอย่าง ตระกูลของผมและเรดดิลสูญสิ้นที่ยืนไปเมื่อ 64 ปีแล้ว พวกเราจึงเป็นแค่บุคคลธรรมดาที่ต้องเริ่มจากศูนย์ใหม่หมดเลยนะครับ" แล้วก็กอดอกบอก "แต่อย่างน้อย ผมกับเรดดิลก็รู้สึกดีไม่น้อยที่จะได้ใช้ความพยายามไม่น้อยน่ะ"

          "สำคัญคือ ตอนนี้พวกคุณควรทำเรื่องที่ควรทำให้จบก่อนนะคะ" เยลโลว์ไลน์บอก นิโคล่าและริโคน่าพยักหน้า แล้วหน่วยกัลสตาร์ซีโร่ก็ขึ้นยานขนส่งบินออกไปจากเทอร่าครุยเซอร์กัน

          "ถ้าคิดจะมาต่อว่าพวกเราเรื่องไม่ฟังคำแนะนำของเรดดิลและบลูดัสท์ละก็ พอเสียทีได้มั้ย แค่นี้พวกเราก็รู้สึกแย่แล้วน่ะ" ทาริก้าบอก เมื่อนิโคล่าและริโคน่าเดินเข้ามา

          "เรารู้น่ะ ว่าอีกเหตุผลที่พวกเธอไม่อยากรับฟังคำแนะนำจากเรดดิลและบลูดัสท์นั้น เพราะกลัวว่าพวกเขาจะมีจุดจบเหมือนเรดดิคและบลูเดลละสิน่ะ" ริโคน่าบอก

          นิโคล่ากล่าว "ทั้งๆที่ทั้งคู่สานต่อเจตนารมณ์ในฐานะสมาชิกของกองกำลังของเราแล้ว พวกเธอควรจะดูแลพวกเขาเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังบ้างสิ"

          "แล้วจะปล่อยให้ทั้งคู่มาทำภารกิจพังนะหรือ ไม่ดีหรอกน่า เพราะยังไงเสีย...." มิลโดว์บอก

          โรนัลด์กล่าว ".....เรื่องที่เราโดนผบ.บราวน์เดคตำหนิมานิ คงลืมไปแล้วละสิน่ะ" แล้วก็บอก "ถึงแม้เรารู้ว่าทั้งคู่มีเจตนาอยากจะช่วย ทั้งคู่น่าจะบอกกับพวกเรากันได้สิ"

          "ถ้าบอกแล้วพวกเรายังไม่รับขึ้นมา มันก็ไม่มีความหมายหรอกน่ะ" เฮลก้าบอก "เพียงแต่ตอนนี้เราต้องมาเช็คสภาพภายในฐานทัพจากข้อมูลที่เราได้มาเสียก่อนน่ะ"

          มิลโดว์พยักหน้าและอ่านแฟ้มข้อมูลเหล่านั้น จนกระทั่ง..... "เออ ผลชันสูตรศพพวกแมนิเกเตอร์ที่อยู่ในปราการที่หมอไวท์ไลน์เช็คมานั้น มันคุ้นๆน่ะ" มิลโดว์บอกโดยนำแฟ้มมาให้ทุกๆคนดู

          "จริงด้วยน่ะ ฉันลองเช็คข้อมูลมาแล้ว ปรากฎว่ามีศพที่เหมือนกันอยู่ในฐานทัพดังกล่าวด้วยน่ะ" ทาริก้ากล่าวแล้วก็เปิดภาพข้อมูลรูปศพพวกอีเนอไมนด์และครอสตรีมไว้

          จูดิธมองดูและอ่านแฟ้มไว้ "นี้มันหมายความว่าไงกันน่ะ สหพันธ์โลกใหม่ ปิดบังเรื่องนี้เลยหรือ"

          วกกลับมายังพวกไทรเวเซอร์ ซึ่งตอนนี้ไปหลบซ่อนอยู่ในหุบเขาใกล้กับย่างกุ้งแล้ว

          "พวกนายคิดว่าตัวเองเป็นดาราหนังแอคชั่นหรือไง ถึงได้บุกไปถล่มถิ่นแก็งค์มาเฟียจีนและเกาหลีในจีนแผ่นดินใหญ่เลยน่ะ" เฟอร์นันเดอร์โวยในทันทีที่ติดต่อเข้ามาในยาน

          สเตฟอร์ดบอก "เกรงว่าพวกมาเฟียในตอนนี้ เหมือนเป็นกองทหารย่อยๆแล้วละ เฟอร์นันเดอร์ ถ้าเราไม่เล่นอาวุธหนักกับพวกนั้นที่มียุทโธปกรณ์ได้จากสหพันธ์โลกใหม่มา เราก็คงไม่มาฟังนายโวยหรอกน่ะ"

          "มันก็จริงอยู่หรอก ที่พวกนายมีแผนดึงพวกคราฟตันให้อยู่ในเขตยุโรปและแอฟริกา เพื่อให้พวกนายหนีมาฝั่งเอเชีย ซึ่งยังเป็นเขตของเทอร่าสควอดอนกันด้วยนิ ถ้าพวกนายไม่บ้าก็คงกล้าบ้าบิ่นมากเลยสิน่ะ" เฟอร์นันเดอร์บอก

          พีวิลกล่าว "เรากล้าเสี่ยงดีกว่าเอาแต่หนีแล้วติดทางตันขึ้นมานะสิ เฟอร์นันเดอร์ อีกอย่าง เรามิได้จัดการกับพวกประชาชน แต่เราทำเพื่อประชาชนในฐานะมิตรแห่งความยุติธรรมเลยน่ะ"

          "กลัวว่าพวกนายจะโดนพวกทหารสหพันธ์โลกทำแบบเดียวกันกับพวกมาเฟียซะมากกว่าน่ะ เพราะฉันทราบจากฟอสเตอร์มา ว่าไอ้พวกมาเฟียเหล่านี้ แม่มเกี่ยวข้องกับกรีบิลและรีวองโด้กันอย่างเห็นได้ชัดเลยน่ะ" เฟอร์นันเดอร์กล่าว

          เจเนลบอก "พอจะบอกได้มั้ย ว่าไอ้สมาชิกสหพันธ์โลกใหม่ทั้งสองนิ สำคัญมากแค่ไหนเลยนะ"

          "เริ่มจากผู้แทนกรีบิลก่อนเลยน่ะ มีข่าวลือมาว่า หมอนี้เป็นสมาชิกขององค์กรชักใยสหพันธ์โลกเดิม อย่างโลดอส อาชัวร์คอสมอส แบล็คเทลอส และออลซอวอดอส ซึ่งเป็นองค์กรค้าอาวุธผิดกฎหมายที่สนับสนุนสหพันธ์โลกให้กำจัดพวกแมนิเกเตอร์ ภายใต้สโลแกนว่า เพื่อฟ้าสีครามของมวลมนุษยชาติ โดยองค์กรเหล่านี้ เป็นพวกกระจายอาวุธของกองทัพสหพันธ์โลกใหม่ให้กับพวกมาเฟียใช้ จนพวกนั้นก่ออาชญากรรมระดับรุนแรง ถึงขั้นที่ถล่มกรมตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐยับเยิ่นไปไม่น้อยเลยน่ะ" เฟอร์นันเดอร์บอก "แต่พอโอเวอร์เดสบดขยี้สหพันธ์โลกนี้ทิ้ง ออลซอวอดอสซึ่งนำโดยเฮสเซอร์ แคดอฟ ลูกสาวของวุฒิสมาชิกแคดอฟผู้มีแนวทางให้โลกกำจัดแมนิเกเตอร์ทิ้ง ถูกพวกโอเวอร์เดสไล่ตามและบดขยี้จนไม่เหลือซาก และกรีบิลกับองค์กรที่เหลือหายเงียบปัสสาวะไปอีก 20 กว่าปี ก่อนที่มันจะโผล่มาในฐานะสมาชิกสหพันธ์โลกใหม่เลยน่ะ"

          มาสวาร์ทาร์พยักหน้า "ในเหตุการณ์นั้น ฉันเองก็ร่วมด้วย ซึ่งฉันพยายามให้เธอยอมจำนน แต่เธอเลือกชักอาวุธขึ้นสู้ ลูกน้องที่เหลือ เลยวิสามัญเธอด้วยหอกและทวนปักทั้งตัวไว้น่ะ"

          "แล้วสามองค์กรที่เหลือก็ยังอยู่เลยสิน่ะ" โฟรซ่าบอก

           เฟอร์นันเดอร์กล่าว "องค์กรทั้งสองที่หนุนหลังกรีบิลนั้น ยังกระจายอาวุธให้พวกมาเฟียในแถบเอเชียกันมากขึ้น จนทำให้กำลังตำรวจต้องพึ่งพาอาวุธจากฝ่ายสหพันธ์โลกมาสู้โต้ตอบกันไม่ว่า ทั้งสององค์กรเองก็ยังขายอาวุธให้กับพวกต่อต้านชาวอาณานิคมแปดดาวที่อยู่นอกโลกกันอีกด้วย ซึ่งไอ้พวกนี้แหละที่เป็นแรงสนับสนุนให้กรีบิลจัดการกับ...." แล้วนำภาพชายหนุ่มผมสีดำยาวในชุดผู้ว่าการ แต่มีสีผิวอ่อนซีดมาให้ "ฮิลเบิร์ต ดูลันบัล ผู้แทนจากดาวศุกร์ ซึ่งเป็นผู้เสนอมติให้ชาวโลกปลดกรีบิลออกจากสภา แล้วให้แทแรนเซียเปิดการค้าระหว่างโลกกับดาวทั้งแปดลง ซึ่งนั้นหมายถึง กองกำลังจากดาวทั้งแปดจะมาประจำการบนโลก และเข้าขัดขวางการซื้อขายอาวุธให้กับฝ่ายต่อต้านชาวอาณานิคมดาวอื่นกันแน่ๆ กรีบิลเลยเปิดโปงแผนการเปลี่ยนมนุษยชาติด้วยพันธุวิศวกรรมให้ชาวโลกได้รับรู้ จนฮิลเบิร์ตถูกนำตัวลงมาและถูกจำคุกในโทษที่เขาไม่ได้ก่อ ส่งผลให้นโยบายมิให้ดาวอื่นลงมาที่โลกมีผลมาตลอด 6 ปีด้วยกัน เพียงแต่ไม่สามารถห้ามชาวโลกเดินทางระหว่างดาวไว้เท่านั้นเอง"

          "แสดงว่า กรีบิลกับองค์กรเองคงเห็นว่ามนุษย์ที่ไปอยู่ดาวอื่น ไม่ใช่ชาวโลกแท้จริงเลยสิน่ะ" สเปียริทบอก

          เฟอร์นันเดอร์กล่าว "พอไม่มีพวกนาย ชาวโลกส่วนมากเลยหันมาหาเรื่องกับมนุษย์ที่อาศัยบนดาวอื่นแทน ซึ่งนั้นก็แย่กว่าเดิมนี้แหละ" แล้วก็พูดต่อไปว่า "พอกรีบิลตาย ฉันมั่นใจได้ว่า สามองค์กรเหล่านี้คงจะระส่ำระส่ายอย่างแน่นอน เพราะผู้นำโดนสังหารด้วยสิ่งที่พวกเขาต้องการจะทำลายทิ้งแบบคาดไม่ถึงเลยน่ะ"

          "แล้วไอ้หน้าอ่อนนิ มันทำอะไรได้กันวะ" คลอเวฟถามถึงรีวองโด้

          เฟอร์นันเดอร์ให้รายละเอียดไปว่า "รีวองโด้นั้น แม้ว่าเขาเป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดของสหพันธ์โลกใหม่กันก็จริง แต่มีข่าวลือมาว่า รีวองโด้ เป็นพ่อค้าขายข้อมูลทั้งหมดทั้งปวงของโลกและดาวทั้งแปดให้กับทางสหพันธ์โลกใหม่ ซึ่งไม่เพียงเป็นเหตุผลที่ทำให้แทแรนเซียถูกกดดัน และฉันกับพวกต้องพลอยมีปัญหากันอย่างเดียว รีวองโด้เองใช้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จัดการกับ...." แล้วนำภาพชายผมยาวสีแดงมา "อีเลโฮโด้ว โซดอนเนอร์ สมาชิกสหพันธ์โลกใหม่ ผู้ซึ่งเป็นคนแนะนำรีวองโด้ให้เข้ามาทำงานในสภาสูง ซึ่งเขาใช้รีวองโด้เป็นเครื่องมือในการไต่เต้าขึ้นเป็นผู้นำสหพันธ์โลกใหม่แทนเกฟสตัลเบิร์ท เพราะว่าเขารู้ความลับของตัวเกฟสตัลเบิร์ทมา แต่รีวองโด้ก็เล่นงานอีเลโฮโด้วด้วยการแฉว่า เขาเป็นหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายคาตากาด้อน ที่แฝงตัวมาทำลายสหพันธ์โลกใหม่ แน่นอน อีเลโฮโด้วเลยต้องติดคุกในทีเดียวกันที่ฮิลเบิร์ตถูกคุมขัง แต่หลังจากนั้นอีก 3 วันถัดมา อีเลโฮโด้วตายเพราะถูกวางยาในอาหารเที่ยงเท่านั้นเองน่ะ"

          "แจ่ม งูเห่าเจองูเห่าตัวเล็กแต่โหดกว่าฆ่าตายซะงั้นน่ะ" จิลบอก

          ไซโคลเนียบอก "แล้วรีวองโด้เกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่มมาเฟียจีนกันมิทราบละ"

          "รีวองโด้มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลสำคัญในแถบเอเชียและยุโรป ซึ่งเป็นฐานเสียงส่วนมากที่ช่วยเหลือและต่อต้านสหพันธ์โลกใหม่ได้ แน่นอน ว่ามันรวมไปถึงพวกหัวหน้าแก็งค์มาเฟียในจีนและเกาหลีส่วนมากที่พวกนายไปถล่มทิ้งกันด้วย จะมีแค่กลุ่มเดียวที่ไม่เอาด้วยก็คือ พวกยากูซ่าเท่านั้นแหละ" เฟอร์นันเดอร์บอก

          มาสวาร์ทาร์กล่าว "นายคงไม่ได้หมายความว่า นายพลคุรามะยังคุมกองทัพญี่ปุ่นเหมือนเดิมเลยสิน่ะ"

          "แม่นแล้วละ พันโทคิริซาว่า ตาแก่คุรามะ ฮิซาริยังอยู่สั่งการกองทัพเหมือนเดิมนี้แหละ" เฟอร์นันเดอร์บอก

          เนคมาดูซัมถาม "มาส ว่าแต่ นายพลคุรามะ ฮิซารินิ เป็นใครมาจากไหนหรือ"

          "คุรามะ ฮิซารินั้นเป็นเอกบุรุษในกองทัพประเทศญี่ปุ่นมาตลอด 40 ปีกันแล้วนะสิ เขาไม่เพียงเป็นผู้นำทางทหารที่สร้างความเชื่อมั่นในการสั่งการกองทัพปกป้องอธิปไตย จากการรุกรานทุกรูปแบบทั้งในโลกและนอกโลกกันอย่างเดียว" มาสวาร์ทาร์บอก "เขาเป็นคนในเขตเอเชียคนแรก ที่เป็นผู้ริเริ่ม การเปลี่ยนเหล่าอาชญากรให้กลายเป็นกองทหารระดับเป้งกันด้วย เพราะว่าคุรามะ เคยเป็นยากูซ่าในแถบโทโฮคุมาก่อนนะสิ"

          แอบไบออสบอก "จริงดิ แล้วพวกนายที่อยู่บนโลกไม่เคยรู้ประวัติของนายพลท่านนี้เลยหรือ"

          "ไม่มีใครบนโลกไม่รู้จักนายพลคุรามะกันหรอก เพราะเพื่อนร่วมรบจากกองอื่นเคยเล่ามา ว่าทหารภายใต้การนำของนายพลคุรามะ หน้าตาไม่ใช่คนดีไม่ว่า ทั้งตัวประทับรอยสักที่แลดูน่ากลัวมากไว้ด้วย ตั้งแต่หน้ายักษ์ยันมังกรจีนเลยน่ะ" โฟรซ่าบอก

          ไซโคลเนียกล่าว "รุ่นพี่ในกองทัพอากาศเองยังขู่ด้วย ว่าถ้าทำตัวแย่ เบื้องบนจะส่งฉันไปอยู่ในกองรบของคุรามะ ซึ่งไม่มีใครถูกส่งไปที่นั้นแล้วกลับมามีสติครบถ้วนเลยน่ะ"

          "แม้ทหารในกองจะเป็นพวกยากูซ่าที่มีท่าทางน่ากลัวและมีโอกาสจะแหกกฎได้ทุกเมื่อ แต่เมื่ออยู่ในอาณัติของนายพลคุรามะขึ้นมา ทุกคนพร้อมจะสู้และปฏิบัติตามคำสั่งของคุรามะ ในฐานะของกองทหารเดนตายที่แข็งแกร่งที่สุดในญี่ปุ่น ถึงแม้ว่านายพลบางท่าน จะมองว่ากองรบของนายพลคุรามะ ก็คือแก็งค์ยากูซ่าที่สวมเครื่องแบบทหารเท่านั้นเอง" มาสวาร์ทาร์บอก "และถ้ากองกำลังป้องกันตัวเองของประเทศญี่ปุ่นไม่เหลือกองไหนที่รับมือกับกลุ่มผู้คุกคามได้ กองรบของนายพลฮิซาริ คือไพ่ตายใบสุดท้ายของประเทศญี่ปุ่นที่จั่วออกมาพลิกสถานการณ์ทุกอย่างไว้ เห็นได้จากที่ครองคอร์ดส่งพวกแมนิเกเตอร์ไปรุกรานประเทศแม่ของฉัน หลังจากที่ฉันกลายเป็นพวกครอสตรีมไปแล้ว กลับมาพร้อมกับสภาพยับเยิ่นจากการโดนกองรบของนายพลฮิซาริขับไล่ออกไปน่ะ"

          คลอเวฟบอก "ภาวนาว่ากองพันยากูซ่าของตาแก่นั้น คงไม่ได้มีหมัดเหล็กที่ต่อยจนแอตแลนไทซ์ท้องเป็นรู หรือไม่ก็ มีมีดสั้นพลังพลาสม่าติดตัวกันหรอกน่ะ"

          "กองรบของนายพลฮิซาริ แม้มีอาวุธไฮเทค ชนิดที่ว่า ตำรวจมีโลห์และบีมพิสทอลอยู่ในมือ ทหารมีบีมเซเบอร์และบีมไรเฟิ่ลแบบพกพาได้ พวกเขาสู้ด้วยวิถีและจิตวิญญาณของซามูไร เพราะพวกครอสตรีมที่ไปหาเรื่องที่ญี่ปุ่นนั้น ล้วนโดนฟันด้วยดาบคาตานะและมีดสั้นแบบโดสุที่ยากูซ่าใช้กันนะสิ" มาสวาร์ทาร์บอก

          เจเนลกล่าว "อันก่อนหน้านั้น นายพูดจริงหรืออ้างการ์ตูนหุ่นยนต์กันมิทราบละ"

          "บอกตามตรงน่ะ ว่าฉันมานี้เพื่อมาแจ้งนายเรื่องลูกน้องของคราฟตันที่ฝั่งเอเชียมา ซึ่งฉันหวังว่ามือเท้าของพวกนายคงไม่หนักถึงขั้นทำพวกเขาช้ำในตายกันบ้างนะ หลังจากที่พวกนายทำซ่ากับพวกอั้งยี่จีนและมาเฟียเกาหลีไปแล้วน่ะ" เฟอร์นันเดอร์บอก แล้วก็ส่งข้อมูลมา "และระวังตัวด้วย เพราะฉันรู้ว่าพวกนายแกล้งพวกเทอร่าสควอดอนฝั่งยุโรปให้เสียเซลฟ์ไปแล้ว คราฟตันคงแจ้งให้มิลเดรลมาเล่นงานพวกนายแน่นอนเลยน่ะ"

          พีวิลบอก "งั้นพวกเรายุติการติดต่อ เพื่อมิให้พวกเทอร่าสควอดอนจับได้แล้วกันน่ะ"

          "ขอให้โชคดีแล้วกัน" เฟอร์นันเดอร์ตัดสายทันที

          พลัสเชอริทบอก "ทั้งรีวองโด้และกรีบิลที่ถูกฆ่าไปนั้น คงจะรู้ความลับของเกซิคมาแน่ๆ เลยต้องให้พวกครอสตรีมของทราเวยน์ฆ่าทิ้งเลยน่ะ"

          "และคิดไม่ถึงเลย ว่าพวกแก็งค์มาเฟียที่เราไปถล่มมา ก็ดันมีความเชื่อมโยงอย่างคาดไม่ถึงเลยน่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว

          แอนเดรียบอก "ว่าแต่ พวกเราจะเอายังไงกันดีละคะ"

          "ประเด็นสำคัญคือ เราได้พวกพี่น้องของพวกบรอนเซอรูทที่หลงเหลือมาได้แล้ว ทีนี้ ถึงเวลาที่เราต้องติดต่อไปที่แคสเซเดี่ยน-3 โดยเร็วดีกว่า" มาสวาร์ทาร์บอก

          ไซโคลเนียกล่าว "แล้วไม่กลัวว่าฝั่งเอเชียจะมาตามเราเจอเลยหรือ"

          "วางใจได้ ไทรแองเกิ้ลมีเครื่องส่งคลื่นสื่อสารควอนตั่ม ต่อให้ไม่อยู่ใกล้กับเสาส่งสัญญาณ เรายังส่งได้อยู่ หากแต่ ต้องโปรเทคข่ายสัญญาณให้มากขึ้นกว่าเดิมเลยน่ะ" เนคมาดูซัมบอก

          แอมเบอร์พยักหน้า "แล้วไม่กลัวว่านกทั้งหกตัวจะทำเสียเรื่องเลยหรือคะ" เพราะว่าตอนนี้ อาคาชิค ไทฟูล และพวกนกทั้งสี่ตัวอยู่บนดาดฟ้ากันแล้ว โดยที่บริคซ์และพวกกางเต็นท์ใหญ่ทำเป็นรังไว้

          "อย่างน้อยก็ดีกว่าให้พวกอาคาชิคอยู่ในโรงเก็บโมบิลลอยด์แคบๆแล้วทำหุ่นในนั้นพังกันหมดเลยน่ะ" ไซโคลเนียกล่าว

          พีวิลบอก "และดีกว่าให้พวกมันบินกลับหุบเขา แล้วโดนพวกศัตรูเห็นจนบุกไปถล่มถึงหุบเขาเฟเธอร์ไฮด์ได้เลยน่ะ"

          "มันดีอยู่หรอก ที่พวกนายหลอกบราวน์เดคและพวกเทอร่าสควอดอนด้วยแผนเด็กเลี้ยงแกะจำนวนมากไปได้ก็จริง" บัลโต้บอก "แต่พวกนายมาเสียเอาตรงที่ไปถล่มแก็งค์มาเฟียใหญ่ๆในแถบเอเชียกันซะได้เลยน่ะ"

           เพอซิอัสบอก "พวกเธอคงจะลืมไปแล้วสิน่ะ ว่าพวกเธอกำลังปฏิบัติภารกิจลับกันอยู่ มิใช่ทำตัวเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมเลยน่ะ"

          "แม้ว่าเรื่องที่เราทำนั้นมันเสี่ยงกับการที่เราถูกเผยตัวจนแผนเสียเลยก็ตาม ก็ยังดีกว่าปล่อยให้ผู้บริสุทธิ์บนโลกถูกกดขี่โดยพวกมาเฟียเหล่านี้ไม่ได้นะครับ" เจเนลบอก

          โคเคสกล่าว "ส่วนหนึ่งเพราะ เป็นคำขอของพวกพี่น้องของพวกบรอนเซอรูทสิน่ะ" พวกพีวิลพยักหน้า โคเคสเลยถามต่อ "แล้วตอนนี้ พวกเขาเป็นยังไงบ้างละ"

          "ทั้งแปดตนนั้น เหมือนพวกบรอนเซอรูทที่สลับเพศกันนี้แหละคะ" สเปียริทบอก "ลิ่วเซียง ฝาแฝดหญิงของบรอนเซอรูทนั้นดูฉลาดและรู้สภาพการณ์ทุกอย่างไว้ ต่างจากทินเกาซี แฝดชายของทินเหมาลี ที่วู่ว่ามเลือดร้อน ทำก่อนคิดทีหลังด้วย แม้ว่าเขาจะเก่งทำครัวเลยก็ตามนะคะ"

          บัลโต้บอก "ที่เหลืออีก 6 รายนั้นละ"

          "ฟงอี้ น้องสาวของเซเทธนั้น เซเทธเป็นคนเงียบขรึมและคิดก่อนทำทีหลังอย่างมั่นใจ แต่ฟงอี้มือเท้าไวและทำอะไรเน้นเร็วมากกว่า ทอฟเฟล่า น้องสาวของทอฟคานิค บ้าพลังมั่นใจในตัวเองสูง คิจิโร่ น้องชายของโมคุโตะเอง แม้เปลี่ยนร่างกายทั้งหมดให้เป็นหญิงได้ แต่เขาจะทำต่อเมื่อมันจวนตัวจริงๆ เพราะการเปลี่ยนเป็นหญิงทำให้เขาอ่อนด้อยลงในระดับหนึ่ง แม้จะทำให้เขาว่องไวเลยก็ตาม ส่วนลูชิลี่ น้องสาวของฟันดิวเรคนิ ถอดแบบมาเป๊ะเลย หากแต่เธอตื่นเต้นไม่น้อยกับรอบด้านเลยน่ะ" เจเนลบอก

          บัลโต้กล่าว "ถ้าให้เดาน่ะ ลูกเรือของบริคซ์คงโดนจี้จุดจนตัวแข็งเป้กไปหลายสิบรายแล้วสิ"

          "โดนจี้จุดนิไม่เท่าไหร่หรอก ยังโดนระบายสีอีกด้วยนะ" คลอเวฟบอก "ส่วน เลนแชทต้า น้องสาวของเลอแชน และกริมบัลค์ น้องชายของกริมเบอรี่นั้น เลนแชทต้าช่วยได้มากในการลับคมดาบคมอาวุธ ส่วนกริมบัลค์ เป็นโรคนายบังอรเอาแต่นอนเหมือนยัยกริมเบอรี่เป๊ะเลย เว้นแต่ พอให้ลุกขึ้นมาฝึกหรือออกต่อสู้ ไอ้หมอนี้ มันทำได้เหมือนมันนอนยาวทั้งคืนเลยน่ะ"

          เพอซิอัสกล่าว "แล้วทั้งแปดนิ พวกเธอแน่ใจหรือ ว่าพวกเขาจะช่วยได้น่ะ เพราะนิสัยของพวกเขา ต่างจากพวกบรอนเซอรูทอย่างสิ้นเชิงเลยน่ะ"

          "เรารู้ดีนะครับ ว่าการปฏิบัติภารกิจของเราย่อมไม่ราบรื่นเสมอและมีอุปสรรค์ทั้งในและนอกเข้ามาขวางกันด้วย ซึ่งถ้าเราไม่สามารถผ่านมันไปได้ละก็ เราไม่มีทางปฏิบัติภารกิจนี้สำเร็จแน่นอน" พีวิลบอก "เราไม่คาดหวังว่าเราจะทำสำเร็จได้เปอร์เฟค เราหวังแค่อยากให้พวกเขาร่วมต่อสู้กับพวกเราเหมือนที่พวกบรอนเซอรูทเคยทำไว้ก็เกินพอแล้วละครับ"

           เพอซิอัสพยักหน้า "ในเมื่อพวกเธอว่ามาเช่นนี้ ฉันพอจะเชื่อในตัวพวกเธอกันบ้างน่ะ"

          "แต่ตอนนี้ ทางเรามีปัญหาเกิดขึ้นมาแล้วละ" บัลโต้บอก

          คลอเวฟบอก "อย่าบอกนะ ว่าไอ้สส.คัลลาร์ดมันยังไม่เลิกเสนอนโยบายปลดพวกเราออกกันอีกน่ะ"

          "สส.คัลลาร์ดแค่ไม่ยอมให้พวกเราเข้าไปตรวจสอบภายในพรรคเหมือนเช่นเดิมนี้แหละ แม้ว่าทางเราจะรู้ว่าสส.คัลลาร์ดยังทำงานไปตามปกติเลยน่ะ" โคเคสบอก

          เจเนลบอก "สิบโทเมลเซี่ยนที่ถูกควบคุมตัวยังเรียกร้องให้จอมพลแฮซกริฟมาหาเธออยู่ละสิครับ"

          "แย่กว่าน่ะ เธอเกือบโดนเล่นงานด้วยพิษในอาหารกลางวัน ดีที่เดลิคให้หมอมาล้างเธอไว้ทันก่อน ไม่งั้นเธอเดี้ยงแน่นอน และตอนนี้เราต้องย้ายเธอไปห้องพยาบาล พร้อมกับให้พวกครีซีแทนของแอร์ไพล์มมิสมาเฝ้าอีกด้วยน่ะ" บัลโต้กล่าว

          ฟิเกซถาม "แสดงว่าตัวคนร้ายที่เธอเห็นหน้า คงจะรีบปิดปากเธอเลยสิครับ" แล้วถาม "ว่าแต่ จับตัวคนลงมือได้หรือยัง"

          "เกรงว่า ไอ้ตัวการนั้นมันหายตัวไปได้แบบไร้ร่องรอยเลยนะสิ ฟิเกซ" บัลโต้บอก "ความวัวยังไม่ทันหาย ปัญหาควายใหม่ก็เข้ามาจนได้ ถึงขั้นที่เซริซ่ามาแจ้งกับพวกเราไว้เมื่อกี้นี้เลยน่ะ"

          ลิเนียร์ตี้บอก "อย่าบอกนะคะ ว่าอีเนอไมนด์และครอสตรีมกลุ่มใหม่จากโลก โผล่มาบุกถล่มเขตเมืองกันอีกรอบน่ะ"

          "ไอ้พวกที่มันบุกเข้าแคสเซรอน-4 นั้น มันไม่ใช่พวกอีเนอไมนด์และครอสตรีมกันหรอก" บัลโต้บอก "แต่พวกมันลักพาตัวหน่วยรบวิหคและสติลลิมบ์ไปแล้วนะสิ" เมนซิกส์ทีนได้ฟังถึงกับตกใจ

          เนคมาดูซัมถาม "เป็นความจริงนะหรือครับ ผบ.บัลโต้" บัลโต้พยักหน้า

          "แต่ เกซิคไม่น่าจะรู้เรื่องหน่วยรบวิหคและหน่วยรบที่อยู่ในสังกัดของผู้การเฮลิคและผู้การเดลิคไปได้เลยนิน่า เพราะว่าเขาอยู่บนโลกมาตลอด 24 ปีเต็มในฐานะผู้นำสหพันธ์โลกใหม่เลยน่ะ" แอนเดรียบอก

          บัลโต้เลยให้โดซี่มาแจ้งข่าว "แต่มันเป็นไปแล้วนะสิ เพราะว่า พวกที่มันลักพาตัวไปนั้น คงอยากจะได้ตัวเฟรด ซึ่งเป็นบุตรชายของเมย์ ที่เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มมือสังหารลับมาเข้าในองค์กรกันซะมากกว่า และคิดจะเปลี่ยนคนรอบข้างของเฟรดให้เป็นเหมือนกันด้วยน่ะ"

          "กลุ่มมือสังหารลับในไทยนั้นนะหรือ มีหลักฐานอะไรที่บ่งชี้ได้ละครับ ว่าเป็นพวกนั้นน่ะ" มาสวาร์ทาร์ถาม

          โดซี่บอก "บรูโน่และหน่วยทหารที่ไล่ตามไปนั้นจัดการกับพวกลักพาตัวที่อยู่รั้งท้าย และกำลังจะทำลายโครงประตูมิติลงเพื่อไม่ให้พวกเราตามไปได้ก่อน แม้ว่าพวกมันจะปิดระบบไม่ให้เราเปิดประตูขึ้นมาใหม่ได้ แต่บรูโน่และพวกก็กู้ข้อมูลในเครื่องควบคุมประตู จนได้พิกัดที่ตั้งประตูปลายทางมา ซึ่งมันอยู่ที่ดอยสุเทพ เชียงใหม่ ประเทศไทย" แล้วก็นำภาพเครื่องหมายดอกมะลิด้วย "ที่สำคัญ ฉันเช็คตราที่บรูโน่เก็บมาได้แล้ว พบว่ากลุ่มมือสังหารนี้ คือพวก มะลิเกราะเกล็ด หนึ่งในกลุ่มมือสังหารเงาสยามทมิฬ ซึ่งควรจะถูกพวกโซลูนาสตี้บุกไปถล่มทิ้ง พร้อมกับ กุหลาบเกราะเพชรเจ็ดสีมณีเด้ง มะยมเกราะแกรนด์เอ็กซ์วายแซด มะม่วงหาวมะนาวห่วย มะกอกสามร้อยยอด มะละกอวิกพระรามสิบ โม่งม่วง นักฆ่าพันธุ์ข้าวกล้อง แรงเด้า เหนือเมพ หนึ่งเด้าฟ้าเหี่ยว เพลิงป้างเปรี้ยง กลิ่นกาสะตอดอง กุหลาบไร้หนามทุเรียนหมอนทอง และอีก 20-30 กว่าชื่อ รวมไปถึง บ้านทรายดองสว่างคายายด้วยน่ะ"

          "สาบานได้มั้ย ว่าไอ้ที่ว่ามานิ เป็นชื่อกลุ่มมือสังหารน่ะ เพราะดูแล้ว เหมือนละครน้ำเน่าของไทยชัดๆ" โฟรซ่าบอก

          บัลโต้กล่าว "หวังว่าพวกนายคงจะเปิดสแกนเนอร์ติดตามหาพวกหน่วยรบวิหคและสติลลิมบ์ได้น่ะ เพราะพวกเขามีกำไลสวมเกราะอยู่ แม้ไม่เปิดเครื่อง ตัวกำไลก็ยังส่งสัญญาณมาได้น่ะ" แล้วก็กล่าว "นอกเหนือจากภารกิจช่วยเหลือแล้ว พวกนายรีบหาประตูมิติแล้วทำลายมันทิ้งไปซะเดียวนี้เลย"

          "แล้วเราไม่ใช่ประตูนั้น ส่งพวกเฟรดกลับดาวไปเลยหรือ" เจเนลบอก

          โดซี่กล่าว "โครงประตูถูกเซตให้มาที่ดาวแล้วกลับโลกเท่านั้นไม่ว่า ตัวประตูแม้จะเป็นอันเดียวกันที่ได้ข้อมูลจากแลมซีนีไนซ์มาสร้างไว้ แต่มันกลับถูกใส่รหัสไว้ มีแต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหพันธ์โลกใหม่และตัวผู้นำเท่านั้น ที่จะปลดล็อกมันได้น่ะ"

          "ถ้าให้เดาน่ะ เกซิคคงจะได้ข้อมูลของพวกเฟรดและน็อกกี้มาจากพวกริดโอที่เหลือรอด ซึ่งไปทำงานให้กับจีเนฟารี่มาละสิน่ะ" สเปียริทบอก

          โดซี่พยักหน้า บัลโต้บอก "ตอนนี้ พวกนายรีบตรงดิ่งไปช่วยพวกเฟรดกันเดียวนี้เลย ก่อนที่พวกมือสังหารเฮงซวยจะทำอะไรพวกเขากันอีกน่ะ และหวังว่าพวกนายคงจะคุมพวกน้องอีกกลุ่มของพวกบรอนเซอรูทไว้ด้วยละ" แล้วก็ "แคสเซเดี่ยน-3 ยุติการติดต่อ" ภาพโฮโลแกรมบนโต๊ะก็ดับลง

          "ว่าแต่ พวกนายจะออกปฏิบัติภารกิจเลยสิน่ะ" ลิ่วเซียงบอก

          กริมบัลค์กล่าว "ว่าแต่ จะให้เราไปทำอะไรกันมิทราบละ"

          "พวกนายอยากจะไปใช่มั้ย ได้ แต่....จะดีมากหากพวกเราวางแผนเตรียมพร้อมไว้ก่อนน่ะ" สเตฟอร์ดบอก

          เนคมาดูซัมกล่าว "เจเนล บอกแคร์เรี่ยนให้เตรียมยานออกได้ คลอเวฟ มุ่งหน้าไปเชียงใหม่ เริ่มภารกิจช่วยเหลือฉุกเฉินเดียวนี้เลย"

          ณ.ฐานลับขององค์กรมือสังหารเงาสยาม ที่ดอยสุเทพ เชียงใหม่ ประเทศไทย

          "นี้มันอะไรเนี้ย ฉันสั่งให้จับกุมลูกชายของเมย์และซุปเปอร์โซลเยอร์มา แล้วไปเอาหุ่นยนต์สิบตัวมาทำไม" หัวหน้าองค์กรที่เป็นชายวัยกลางคนหน้าเข้มกล่าวกับลูกสมุนที่เป็นชายสามคน คนหนึ่งดั้งหักแต่มีไซครอปสโคปแปะตาทั้งสองข้าง คนที่สองเป็นชายไว้หนวดแต่มีพุงยืนเหมือนหนังตลุงตัวเท่งและติดแบ็คแพ็คแบตเตอรี่ 60 โวลท์กลางหลัง คนที่สามหัวโล้นอ้วนตัวโตแต่มีหน้าตาทะเล้น ผิดกับพี่ชายที่เป็นคนหัวโล้นแต่หน้าตาเป็นโจร ทั้งสองมีแขนคีมขนาดใหญ่ข้างซ้ายและขวา พาตัวหน่วยรบวิหคและ

          "เออ ไอ้เด็กเวรเหล่านี้ มันแปลงร่างได้นะครับ แถมพวกมันเล่นงานลูกสมุนของเราจนหมอบเลยน่ะ" สมุนดั้งหักจากยโสธรรายงานมา

          "เราเลยต้องใช้ปืนไฟฟ้าช็อตให้พวกนี้ชะงักแล้วพาตัวมาทั้งอย่างงั้นนะครับ" สมุนไว้หนวดแต่ท้องบานติดแบ็คแพ็คไฟฟ้าแรงสูงบอก

          สมุนอ้วนหน้าทะเล้นบอก "อย่างน้อย โหม่งก็พาพวกนี้มาตามคำสั่งของหัวหน้าได้ละครับ"

          "แล้วจะรู้ได้ไง ว่าลูกชายของยัยเมย์มันตัวไหน" พี่ชายที่เป็นบุรุษหัวโล้นโวยลั่น

          หัวหน้าองค์กรบอก "เปิดหน้ากากออกเดียวนี้เลย" สมุนดั้งหักเลยเดินมา "แกร็ก ปี้บ ครืดดด" กดปุ่มตรงหูขวาของหมวกเพื่อเปิดหน้ากากเกราะเหยี่ยวดินระเบิด เผยใบหน้าของเฟรดออกมา แล้วก็เปิดหน้ากากของที่เหลืออีก 9 รายออก ตัวหัวหน้าเลยเดินมาตรงหน้าเฟรด แล้วกล่าวไปว่า "เธอนิ หน้าตาเหมือนแม่ของเธอมากเลยน่ะ เฟรด มาร์ติน แม่ของเธอควรจะถูกปรับปรุงให้เป็นมือสังหารที่ดีกว่านี้ ถ้าไม่เพราะว่าไอ้แดเนียลมันสอดยุ่งไม่เข้าเรื่องละก็ ฉันกับพวกคงไม่ถูกไอ้แมนิเกเตอร์สวมหน้ากากเชือดทิ้ง และถูกจับฟื้นคืนชีพกันในสภาพนี้หรอกได้หรอกน่ะ"

          "แต่อย่างน้อย พ่อก็ทำถูกที่ช่วยเหลือแม่และพาไปซ่อนไว้ จนผมถือกำเนิดมาให้เห็นน้ำหน้าคนที่บีบบังคับให้แม่ฆ่าคนกันในเวลานี้แหละ" เฟรดบอก

          หัวหน้าองค์กรกล่าว "เธอเหมือนแม่มาก แต่ก็มีความบ้าบิ่นและโอหังของพ่อของเธอด้วยน่ะ" แล้วสบัดหน้าให้สมุนหญิงหน้าปลวกแบกกล่องเหล็กมา "กึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เทอาวุธที่ยึดมาไว้ จนมาเห็น.... "ดาบซามูไรที่มีตราคล้ายกังหันลม หึ โชคดีจริงๆนะเนี้ย ที่หลานสาวของตาเฒ่าโยรุคาเซะ คนทรยศต่อวงศ์ตระกูลอยู่ในกลุ่มนี้สิน่ะ" ดาบฟุโรวกะของมาริ ซึ่งหัวหน้าองค์กรหันหน้ามาเจอมาริในชุดเกราะบริซสวอลโลว์

          "นายเป็นหัวหน้าองค์กรมือสังหารที่เป็นภัยต่อประเทศชาติ เพราะมีจุดมุ่งหมายจะครองประเทศด้วยการโค่นล้มสามสถาบันลงมาหลายต่อหลายครั้งนั้น แสดงว่านายคงจะมีหูตากว้างไกลพอหรือรู้จักชื่อเสียงตระกูลของฉันดีละสิน่ะ" มาริบอก

          หัวหน้าองค์กรบอก "ตาเฒ่านั้นตายยากมาก คนในตระกูลที่อยากจะเป็นใหญ่นั้น ต่างผิดหวังไม่น้อยเลยทีเดียวน่ะ" แล้วก็ชักดาบออกจากฟักมาตรงหน้า "จะดีกว่ามาก ถ้าเราส่งหัวของเธอไปให้ตาแก่ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันให้ตาเฒ่าส่งคนมาช่วยพวกเรายึดครองประเทศนี้เองแหละ"

          "แล้วนายคงไม่คิดที่จะเปลี่ยนพวกเราเป็นเหมือนเฟรดละสิวะ" น็อกกี้โวย

          หัวหน้าองค์กรบอก "ถูกแล้วละ เพราะการมีพวกเธออยู่นั้น ทำให้ฉันมีสมุนเพิ่มขึ้นนี้แหละ"

          แต่ทว่า.... รอบนอกฐานทัพนั้น

          "ซวบๆๆๆๆๆๆ" มีเสียงดังขึ้นที่พุ่มไม้ จนทำให้การ์ดสองรายได้ยินเสียงเข้า

          "เออ พี่ๆๆๆ เหมือนมีใครอยู่ใกล้หรือเปล่าละ" การ์ดคนหนึ่งบอกกับการ์ดอีกคน ซึ่งบอกไปว่า "เดียวฉันไปดูให้เลยแล้วกัน" แล้วก็ก้าวเข้าไปดูในพุ่มไม้ ซึ่งไม่เจออะไร "จึกกก" การ์ดคนแรกโดนจิ้มเข้าที่สีข้างซ้ายจนเป็นอัมพาตไป

           "เอ้ย เกิดอะไรขึ้นกัน" การ์ดคนที่สองหันมา แต่... "หมับบบบ กร็อบบบ" แขนขวาของการ์ดคนที่สองโดนหัก ตามด้วย "ฟึ่บบ กร็อบบบบ หมับบบ กร็อก" กริมบัลค์โผล่มาจากข้างหลังถีบสันหลังการ์ดคนที่สองให้หัก แล้วก็จับหักคอการ์ดล้มลง พลัสเชอริทโผล่มาพร้อมกับลูชิลี่ โดยที่กริมบัลค์ก้าวออกมา

          "ดูเหมือนง่ายกว่าที่คิดเลยน่ะ" ลูชิลี่กล่าว

          พลัสเชอริทบอก "แม้ว่าพวกเราจะจัดการได้เต็มร้อยเปอร์เซนต์ แต่....คงไม่ดีแน่ หากฝ่ายตรงข้ามรู้ว่าเรามาแล้วน่ะ" แล้วก็ติดต่อไปหา "ที่เหลือเป็นไงบ้างละ"

          "กึกๆๆๆๆ" อีกด้านหนึ่ง พวกการ์ดได้ยินเสียงก้อนหินที่โยนออกมาจากพุ่มไม้ เลยหันไป "ฟ้าวววววว ป้ากกกก" ฟงอี้พุ่งเข้ามาแทงศอกใส่การ์ดตนแรกจนล้มลงไปกองกับพื้น การ์ดที่เหลืออีก 3 เลยหันมา "ฟ้าวววว ป้ากกกก" พีวิลพุ่งเข้าต่อยใส่การ์ดคนที่สองจนหมวกแตกกระจุย "ฟึ่บบบบบบ ฉั้วะ ฉับ" เลนแชทต้าพุ่งเข้าใช้มีดหลังแขนฟันตัดแขนขาของการ์ดอีกสองราย จากนั้นก็ "ฟึ่บบบ ฉึกกกก" งอกมีดที่ฝ่าเท้าแทงซ้ำเข้ากลางหลังการ์ดคนที่ 3 ซ้ำ การ์ดคนที่สี่เตรียมชักปืนเพื่อยิง "เปรี้ยงงงง" ฟงอี้พุ่งขึ้นจากพื้นดิน แล้วอัปเปอร์คัตเข้าที่ท้องจนตัวการ์ดคนที่สี่กระเด้งขึ้นมา แล้วก็ "หมับบบบ ฟ้าววว โครมมม" จับขาหวดทุ่มใส่เสาที่มีกล้องวงจรปิดจนหักพังไป "ซวบๆๆๆๆๆๆ" ป่าฝั่งตะวันออกมีเสียงดังจนพวกการ์ดติดอาวุธจำนวน 15 รายเดินเข้าไปดู "ฟ้าวววว ป้ากกก" การ์ดถืออาวุธโดนคิจิโร่พุ่งเข้าต่อยจนเสื้อเกราะแตกกระจุย แล้วก็คว้าจับตัวมา "หวับบบบ โครมมม" ฟาดกับต้นไม้ไปเต็มๆ จนพวกที่เหลือรีบหันมา "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆๆๆ" จิลใช้ไซโคบิทพุ่งกระแทกใส่พวกการ์ดอย่างต่อเนื่อง "หวับๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆ" เปิดช่องให้คิจิโร่หมุนตัวเตะใส่การ์ดจนล้มไป 6 คน "ฟ้าววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าววว ฟ้าววว ป้ากๆๆๆๆ" ลิ่วเซียงซัดพลังปราณรูปมังกรออกจากฝ่ามือไป 5 ทีเข้าเล่นงานพวกการ์ดจนเป่าปืนกลกระจุยไป ที่เหลืออีกสามนั้น "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" โดนโฟรซ่าใช้เรซเซอร์อาร์มฟันทิ้งจนหมด

          ทางด้านหรดีนั้น พวกมือสังหารจำนวนมากรีบแห่ไปดู เพราะ.... "พวกตำรวจชายแดนมาเจอแบบนี้ รีบจัดการกับพวกมันก่อนเลยเร็ว" หัวหน้าทีมกล่าว โดยมันกับพวกถือดาบยาวแบบไทย แต่อาบพลังพลาสม่าเอาไว้ทุกเล่ม พร้อมกับสวมเกราะแบบนักรบไทย แต่ทำด้วยเหล็กไหลฮอนกฮูกผสมกับโลหะศักดิ์สิทธิ์ไทยเทเนี่ยมเอาไว้ ซึ่งก็.... "ฟูววววววว" มีหมอกควันปกคลุมภายในป่าอย่างรวดเร็ว พร้อมกับ "วึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ปรากฎดวงตาสีแดง เขียวและส้มอยู่ในป่า "ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" โดยเจ้าของดวงตาเหล่านั้นบุกเข้ามา "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ เคร้ง ฉับ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ ฉั้วะ ฉับ ฉึก ฉับ โครมมม ป้ากกก หวับบบ โครมมม ป้ากกก" ใช้ดาบฟันใส่พวกมือสังหารทั้งหลาย แม้จะมีส่วนหนึ่งถูกจับฟาดกับต้นสักไปเต็มแรงหรือโดนจับปักพื้นไปเลยก็ตาม "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" แอนเดรียบุกเข้าใช้ดาบซันเท็ตสึฟันใส่มือสังหาร จนผ่าเกราะเหล็กไหลฮอนกฮูกบวกศักดิ์สิทธิ์ไทยเทเนี่ยมขาดในดาบเดียว

          "ไอ้พวกแมนิเกเตอร์ กูมีดาบเทพฟ้าฟื้นในมืออยู่ กูสู้โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย" หัวหน้ามือสังหารเห็นมาสวาร์ทาร์จัดการกับลูกน้องตนเลยบุกเข้ามา "เคร้งๆๆๆๆๆๆ" ดาบมือหนึ่งใช้มาสวาร์ทาร์เบลดฟันโต้ตอบดาบของฝ่ายตรงข้ามไปหลายที จน "หวับบบ เคร้งง วึบๆๆๆๆๆ ปัก" ดาบเทพฟ้าฟื้นหักปลิวไปปักพื้นพร้อมกับ "หวับบบ ฉั้วะ" หัวหน้ามือสังหารถูกมาสวาร์ทาร์ผ่าขาดสะพายแล่งจนหัว หน้าอกซีกซ้ายและแขนซ้ายขาดลงกับพื้นในทันที

          "นายทำให้ดาบของขุนแผนเสียชื่ออย่างไม่น่าให้อภัยเสียเลยน่ะ" มาสวาร์ทาร์บอกพร้อมกับสบัดเลือดออกจากดาบและเสียบเข้าฟัก โดยตอนนี้แอนเดรียและพวกไทรเมร่าเคลียร์พวกมือสังหารไปแล้ว

          "เตรียมรถออกได้เลย บางอย่างไม่เข้าท่าเกิดขึ้นกับพวกเราแล้ว" สมุนในองค์กรที่อยู่ในโรงรถกล่าว โดยให้ลูกน้องเตรียมรถบรรทุกไป "ฟ้าวววววว เปรี้ยงงงง" แต่ดันมีก้อนหินขนาดใหญ่พุ่งทะลุกระจกอัดใส่คนขับรถคันหน้า คันที่สองและสามนั้น "ตึกๆๆๆๆๆ หวับบบบ ป้ากก โครมมมมมม" สเตฟอร์ดวิ่งเข้ามาหวดค้อนบรูทรัลแฮมเมอร์ปะทะกับหน้ารถจนรถบรรทุกคันที่สองกระจุย จนเป่าคนขับปลิวทะลุกระจก เครื่องยนต์ ที่นั่ง พวงมาลัย เกียร์ เบรคมือปลิวทะลุออกด้านหลัง "ฟ้าววว เปรี้ยงงง" คันที่สามถูกจายด์พุ่งขดตัวอัดเข้าหัวรถบรรทุกจนถอยไปชนกับต้นไม้ ในสภาพหัวรถยุบเหมือนโดนประสานงามา "ตรุ้งงงงง ซ่า หวับๆๆๆๆๆๆ โครมมมมม ตรูมมมม" คันที่สี่ที่พยายามจะขับออกไปโดนคลอเวฟใช้โอเชี่ยนเกย์เซอร์เป่าปลิวกระเด็นไปด้านหลัง เข้าตรงอาคารซ่อมบำรุงและเติมน้ำมันจนระเบิดวินาศสันตะโรไป "บรืนนนนนน" ลูกน้องคนหนึ่งรีบขับรถสปอร์ตสีดำเมี่ยมออกจากโรงรถ "ฟ้าวววว โครมมมมมม ตรูมมมม" แต่กลับเจอดัมเบลสีม่วงพุ่งทะลุกระโปรงรถจนเป่ารถสปอร์ตให้ระเบิด โดยที่ตัวลูกน้องกระเด็นมา "หวับๆๆๆๆๆ หมับ" ในจังหวะที่ดัมเบลปลิวและกลายเป็นพลองคริสทรัลร็อดที่กระเด็นมาให้สเปียริทรับ "ฟึ่บบบบ กร้องงงง" แล้วทิ้มขึ้นใส่ลูกน้องที่ปลิวกระเด็นมาเข้าที่ท้องแล้วก็ "หวับๆๆๆๆๆ ฟ้าววววว เพล้งงงงง" ซัดเข้าใส่รถบัสแบบสองชั่นที่พวกมือสังหารขับหนีออกมาพร้อมกับมือสังหารติดอาวุธหนักที่อยู่ในรถ จนอัดใส่คนขับและทำให้รถพุ่งตรงมายังสเปียริท "มิลเลี่ยนสไปค์ อาด้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งรั่วแทงใส่รถบัสสองชั้นอย่างต่อเนื่อง จนรถบัสอยู่ห่างจากสเปียริทไปเพียง 3 เมตรและตัวถังยับ กระจกรถแตกอย่างรวดเร็ว "ฟึ่บบบบ กึก หวับบบ ฟ้าวววว" จากนั้นเธอรีบใช้คริสทรัลร็อดสอดเข้าตรงใต้หัวรถแล้วใช้พละกำลังอันมหาศาลงัดให้รถบัสสองชั้นปลิวขึ้นไป "ฟึ่บบบบบ ตึก โครมมม" แล้วสเปียริทก็ชูแขนสองข้างรับรถบัสที่ร่วงลงมา แม้จะทำให้เท้าของเธอยุบลงดินไปเกือบถึงข้อเท้าแล้วก็ตาม

           "เออ แย่แล้วละ คอปเตอร์ 8 ลำจาก 20 ลำ หนีผ่านพวกเราไปแล้วน่ะ" ไซโคลเนียแจ้งผ่านหูฟังสื่อสารของสเปียริทไว้ ในช่วงที่เธอและเมย์เดย์เข้าถล่มสนามบินลับห่างจากดอยสุเทพไปทางทิศอีสานกันแล้ว

           สเปียริทกล่าว "ฉันเห็นแล้วละ" เพราะเธอได้ยินเสียงใบพัดของคอปเตอร์บินเข้ามา "นี้แน่" เธอจึงเขวี้ยงรถบัสสองชั้นขึ้นไป "เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย" นักบินคอปเตอร์ร้องลั่นเมื่อเห็นวัตถุสารขนาดใหญ่พุ่งขึ้นมา "โครมมมม ตรูมมมม" ปะทะกับคอปเตอร์จนเป่าระเบิดไปด้วยกัน แล้วร่วงลงมา "หวืออออ โครมมมม" กลางป่าไปเต็มๆ "บรืนนนนนนนนน" รถตู้ 5 คันพยายามจะขับหนี แต่... "ป้างงงงง หวืออ โครมมมม โครมๆ" ลิเนียร์ตี้ยิงอิมแพคชู้ตเตอร์เป่ารถตู้คันหน้าให้ปลิวไปชนกับอีกสี่คันที่ตามหลังมา "ฮึยยย ฮา.... เฮ้ยยยย ย้า" เนคมาดูซัม บ็อกไซน์ รอสซาย บิลเดรทและทอฟเฟล่าวิ่งเข้ามายกรถขึ้นเหนือหัว โดยที่สเตฟอร์ด คลอเวฟและจายด์ยกรถบรรทุกที่โดนบดขยี้ขึ้น "ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าววว ฟ้าววว ฟ้าวววว" แล้วมหกรรมการทุ่มรถใหญ่เข้าใส่คอปเตอร์ก็เริ่มขึ้นพร้อมกันจน "โครมๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆ" พาหนะภาคพื้นและภาคอากาศประสานงากันกลางอากาศจนระเบิดและร่วงลงมาเป็นฝนเศษเหล็กติดไฟกันไว้ "แว้งงงง เปร้ง โปร้งๆๆๆๆๆๆๆ" สเปียริทสร้างโฮลด์เซอเคิ้ลขนาดใหญ่เป็นร่มป้องกันไว้

          "พวกแมนิเกเตอร์มันถล่มด้านนอกแล้วละครับ" ลูกน้องคนหนึ่งเข้ามารายงานกับหัวหน้าองค์กร ซึ่งกล่าวไปว่า

          "ดูท่าว่า ฉันคงต้องรีบจัดการกันสักหน่อยแล้วละ" แล้วก็สั่งให้ลูกน้องที่อยู่ข้างหลังพวกเฟรด ซึ่งถือดาบไว้เพื่อเชือดคอตามคำสั่ง "วาระสุดท้ายของพวกเธอมาถึง พร้อมกับเวลาเกิดใหม่ในฐานะสมาชิกใหม่แล้วละ เพชรฆาต..."

          "ฉึกกกก" เพชรฆาตคนแรกถูกดาบยาวแทงเข้ากลางหลัง "ฉั้วะ อ้า ร้อนนนนนน" คนที่สองถูกฟันพร้อมกับโวยลั่นเมื่อกลางหลังมีไฟลุกขึ้นมา คนที่สามและสี่นั้น "ฉึก ฉึกๆ" โดนแทงด้วยดาบและมีดจากข้างหลัง "ฉึกๆ" คนที่ห้าและหกถูกหอกแทงจากข้างหลัง "ฉึก ฉั้วะ ฉับ ฉับ" ที่เหลือโดนเชือดตามกันหมด โดยฝีมือของ.....

          "พะๆๆๆ พวกแก บุกเข้ามาได้ไง ในเมื่อพวกแกไม่น่าตามหาพวกเราถึงฐานลับได้เลยนิ" หัวหน้าองค์กรบอก เมื่อเห็นเจเนล แคร์เรี่ยน แอบไบออส ฟิเกซ ทินเกาซี โทรวแนค เฟลาลี่ มิลเลย์และเบย์แลคโผล่มาข้างหลัง จนพวกเฟรดรู้สึกดีใจไม่น้อย

          เจเนลบอก "พวกแกอาจจะใช้แจมเมอร์บดบังเครื่องส่งสัญญาณจากชุดเกราะของหน่วยรบวิหคและสติลลิมบ์ได้ก็จริง แต่แย่หน่อย ที่เรารู้ตำแหน่งของพวกแก จากปากทางเข้าออกระหว่างโลกไปดาวของพวกเรากันแล้วนะสิ"

          "หนอยยย แต่ถึงไงเสีย พวกแกก็ไม่มีทางหนีไปไหนได้หรอก" หัวหน้าองค์กรบอก แล้วก็ตบมือเพื่อเรียกลูกน้องเข้ามา

          "พวกเธอลุกขึ้นได้แล้ว ผลการช็อตหมดลงไปแล้วละ" แคร์เรี่ยนกล่าว

          "เข้าใจแล้วละครับ หัวหน้าแคร์เรี่ยน" นิคบอก แล้วก็ลุกขึ้นพร้อมกับพวกหน่วยรบวิหคกัน

           มือสังหารดั้งหักบอก "พวกแกอย่าลืมสิ ว่าพวกเรามีอาวุธของพวกแกกันน่ะ" โทรวแนคเลย "หวับๆๆๆๆๆ ฉั้วะๆๆๆๆๆ" ซัดกงจักรเข้าตัดร่างมือสังหารสาวหน้าปลวกจน "โครมๆๆๆๆๆ" หลุดเป็นชิ้นส่วนกองกับพื้นไป "สปาร์คช็อค" เจเนลยิงกระสุนไฟฟ้าเข้าช็อตพวกมือสังหารทั้งหลายให้ชะงักงัน "ฟ้าวๆๆๆ เอี้ยดดดดดดด" เฟลาลี่ซัดวงล้อพุ่งไถลมือสังหารทั้งสี่ รวมถึงตัวหัวหน้าองค์กรไปด้วย เปิดช่องให้พวกหน่วยรบวิหคและสติลลิมบ์คว้าอาวุธที่กองกับพื้นไว้ได้ทัน แล้วก็ "เฮ้ยย ว้ากกกก" บุกเข้าใส่พวกมือสังหารที่มีดาบทำด้วยเหล็กไหลฮอนกฮูกกัน "ฉั้วะ ฉึก" แฮรี่หวดกริฟเครย์มอลฟันใส่มือสังหารตัวแรกจนท่อนบนขาดซีก แล้วก็แทงใส่ตัวที่สองจนสันหลังเหล็กหลุดออก "ฟึ่บบบ ป้ากกกก" จากนั้นแฮรี่ก็ต่อยด้วยหมัดเหล็กจนหนังหน้าเผยคางและกระโหลกเหล็กอยู่ข้างใน โดยส่วนหัวบิดหมุนไปข้างหลังตามแรงชกไป "ฉึก ฉั้วะ เคร้งงงง ฉั้วะ" รีฟใช้กราฟสเปียร์แทงและฟันใส่มือสังหารไปสองคน จากนั้นก็ตวัดขึ้นปัดดาบของมือสังหารรายที่สามให้ปลิวไปปักเพดาน พร้อมกับแทงใส่มือสังหารที่สวมเกราะเต็มยศ "เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆๆๆ" แล้วก็ช็อตร่างด้วยไฟฟ้าแรงสูงซ้ำจน "ตรูมมม" ร่างระเบิดมอดไหม้ไปทันที "ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว ป้ากก ป้ากกก ป้ากกก" นาเดียพุ่งกระโดดอัดใส่มือสังหารด้วยการใช้กริฟทอนฟ่าอัดใส่ไปสามราย แล้วก็กระโจนมา "หมัดเมขลาล่อแก้ว" ชกด้วยหมัดในขณะที่ถือกริฟทอนฟ่ามา จนโก่งอัดเข้าหน้ามือสังหารไปเต็มๆ

          "เฮ้ยยยยย พวกแก เตรียมตัวเจอสามซ่าสตรีมแอทแทคหน่อยสิโว้ย" มือสังหารดั้งหัก มือสังหารท้องมาน และมือสังหารอ้วนหน้ายิ้มวิ่งเรียงแถวบุกเข้าใส่นิคที่ไล่จัดการกับพวกมือสังหารด้วยกราฟเซเบอร์ แต่ "ฟ้าววววววว โครมมมมม" แด็กซ์พุ่งดรอปคิกใส่มือสังหารทั้งสามให้ล้มคว่ำ โดยมีน็อกกี้และแจ็สช่วยทุ่มใส่                "แย่หน่อยน่ะ ที่พวกเราดักทางท่าไม้ตายแบบสามดาวดำเมี่ยมได้แล้วละ" น็อกกี้บอก แล้วก็ "อ้านๆๆๆๆๆ" ใช้ไนโตรแอ็กซ์บุกเข้ามา "ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ ฉับ" ฟันซิกแซกใส่มือสังหารดั้งหักจนหัว หน้าอก ท้องและสะโพกขาดออกจากกัน "เลเซอร์โซนิคบีม" แจ็สยิงใส่มือสังหารหนวดท้องบวมจนท้องทะลุเป็นรูแล้วก็ล้มลงแน่นิ่งไป "เฮฟวี่ดริลอาร์ม" แด็กซ์บุกเข้าจัดการกับมือสังหารอ้วนหน้าทะเล้นจน "โหม่งจะปายนรกแว้วๆๆๆๆๆๆ" มันร้องลั่นก่อนที่เลือดดำไหลออกตา หู จมูกและปากไป

          "แกฆ่าน้องกู ตายไปพร้อมกันเสียเหอะ" มือสังหารหัวโล้นบุกมาด้วยแขนกล โดยพาลูกสมุนมาด้วย "เลเซอร์วิป" คีธใช้แส้พลังเลเซอร์ดึงตัวมือสังหารเข้ามา "วอลเจอร์เคาน์เตอร์แคลช" แล้วคีธก็กระโดดหมุนตัว "เปรี้ยงงงงง" เตะด้วยเท้าเล็บแร้งผยองเดช แยกท่อนบนและล่างของมือสังหารหัวเหม่งขาดสะบั้นลง "ฟ้าววววววว" ส่วนพวกลูกสมุนนั้น โดนมาริวิ่งผ่านโดยที่ปลอกแขนของเธอ มีมีดซ่อนเอาไว้จน "ฉืบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" พวกมือสังหารตัวขาดกันทั้งหมด ในขณะที่ส่วนหนึ่งโดนเจเนลและพวกจัดการไปแล้ว

          "ไฮย้าก" เฟรดกระโจนเข้ากระแทกเข่าใส่หัวหน้าองค์กรจนล้มเซถลาไป "ว้ากกกก" แม้มันจะหยิบมีดมาจ้วงแทง "หมับบบ ป้ากกก กร็อบบบ" เฟรดหลบและคว้าจับมือถือมีดแล้วแทงศอกตรงข้อศอกฝ่ายตรงข้ามให้หักไป "เฮ้ยยยย นาคาฟาดหาง" เฟรดกระโดดเตะก้านคอไป "ป้าก ป้าก ป้าก" สามทีเต็มๆจนหัวหน้าองค์กร "ฮึยยยย แกคงจะเรียนมวยไทยมาจากเซียนมวยมาละสิน่ะ แต่...." หัวหน้าองค์กรกล่าวพร้อมกับ "กึกๆๆๆๆๆๆ แคว้กกก แคว้กกก" ขยายร่างเผยให้เห็นร่างที่แท้จริง ซึ่งมีเกราะหัวไหล่แบบเกรมฮอร์ท ส่วนแขนแบบเบทชอนแต่มีขนาดเรียวยาวกว่า และสวมหมวกแบบเซนเครูทพร้อมแว่นดำด้วย

          "แกจะได้เจอกับร่างสุดยอดเอโกทศพลหิมพาลกันนี้แหละ" แล้วมันก็พุ่งเข้ามา "หวับบบ โครมมม" ชกใส่เฟรด ซึ่งรีบโพหลบออกมา "ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆๆ ทิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แชดๆๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เจเนล แอบไบออส ฟิเกซใช้อาวุธประจำตัวและเดริงเจอร์แมกนั่ม หน่วยรบวิหคและสติลลิมบ์ระดมยิงด้วยปืนสั้นดับเบิ้ลแมกนั่ม และแขนอาวุธปืนใส่เอโกทศพลหิมพาลอย่างหนักหน่วง ซึ่งก็ไม่ระคายผิวแต่อย่างใดเลย

          "มันเสริมเกราะให้กับผิวหนังหรือไง เราถึงยิงมันไม่เข้าเลยน่ะ" น็อกกี้โวย

          "มันไม่ได้เสริมเกราะหรอก แต่หัวหน้าองค์กร....มีออฟชั่นจากการสักยันต์นะสิ" นาเดียบอก เพราะเห็นรอยสักมหาอุตถ์ตรงกลางหลัง แถมยังมีห้าแถวติดรอบหน้าอก เว้นแต่ตรงกลางที่มีแกนกลางไว้ด้วย

           "ต่อให้แกมียันต์แปะจนผิวหนังแข็งเหมือนควายธนู ก็ไม่ช่วยให้แกลอยนวลไปได้หรอกน่ะ" เฟรดบอก

          "ถ้าคิดจะสวนทวารของฉันละก็ คงยากแล้วละ เพราะว่าฉันจะทำลายพวกแกก่อนนี้แหละ" หัวหน้าองค์กรบอกพร้อมกับแบมือเพื่อยิงเลเซอร์เข้าใส่ "แชดๆๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆๆ" พวกเจเนลและหน่วยรบสวมเกราะทั้งสองรีบถอยหนีออกมาโดยเร็ว "หวับๆๆๆๆๆ อ้านนนนน ป้ากกกกก กรี้กกกกก" เฟลาลี่และโทรวแนคซัดล้อรถซิ่งและกงจักรเข้าอัดใส่จนมันชะงักงัน "ฟิ้วๆๆๆๆ ตรุ้งๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆ" เบย์แลคและมิลเลย์ยิงจรวดและระเบิดใส่หัวหน้าองค์กรอย่างหนักหน่วง แต่ก็ไม่ระคายผิวแต่อย่างใด "ย้ากกกก เฮ้ยยย ย้า" เจเนล แคร์เรี่ยนและแอบไบออสบุกชาร์จเข้ามา หัวหน้าองค์กรเลยเตรียมจู่โจมด้วยฝ่ามือคลื่นความถี่

          "อีวิลเฟรมคลอว์" แอบไบออสหวดเคลื่นเพลิงกรดเข้าใส่ "หวับบบ ฟ้าววว" แต่มันหวดแขนผ่าคลื่นเพลิงกรดให้สลายไป "เอานี้ไปเลย วิหคเพลิงพิโรธ" ทินเกาซีกระโดดหวดง้าวซัดคลื่นนกเพลิงพุ่งเข้า "ป้ากๆๆๆๆๆๆๆ พรึ่บบบบ" ปะทะใส่หัวหน้าองค์กรอย่างต่อเนื่องและเป่าระเบิดจนไฟครอกทั้งร่าง "อะๆๆๆๆ อ้ากกกก ร้อนนนนนน ร้อนเหลือเกินโว้ยยยย" มันร้องลั่นขึ้นมา "ตอนนี้แหละ ควิกบูมเมอแรงชาร์จช็อต" นิคเห็นโอกาสเลยชิงลงมือด้วยการยิงบูมเมอแรงใบมีดสี่อันเข้า "ฉั้วะๆๆๆ" ตัดแขนขาขาดไป "กรอดดดดด" หัวหน้าองค์กรเลยยิงลำแสงจากปาก จมูกและดวงตาใส่ "ฟึ่บบบ เปร้งๆๆๆๆ" แฮรี่และแด็กซ์ป้องกันด้วยการกางโลห์พลังเอาไว้

          "เกรงว่าไฟคงจะทำลายรอยสักลงไปแล้วละ" เฟรดบอก

          น็อกกี้กล่าว "ด้านหน้าไหม้ไปแล้ว ขอด้านหลังหน่อยแล้วกัน ฮ็อดร็อดเบิร์นเนอร์" แล้วก็กระโดดเข้าพ่นเพลิงจากแขนซ้ายใส่กลางหลัง จนเผายันต์มหาอุตถ์ให้ไหม้ตาม จนทำให้ตัวหัวหน้าองค์กรทรมาน แต่มันก็พุ่งเข้าใส่แม้จะไม่มีขาแล้วก็ตาม "แอคเซลเวสท์" เฟรดกระโจนเข้าใส่พร้อมกับกริฟซอร์ดในมือที่อัดพลังไปแล้ว "ฟอลคอนไดนาไมท์แคลช" และ "หวับบบบ ฟ้าววว เปรี้ยงงง" ฟาดดาบลงผ่าเอโกทศพลหิมพาลขาดสะพายแล่งไปเต็มๆ

          "กะ แก....เฟรด มาร์ติน แกเป็นลูกผสมของซุปเปอร์โซลเยอร์และมือสังหารไม่สมบูรณ์แบบกัน แต่สุดท้าย แกก็ลงมือฆ่าคนตามที่ฉันต้องการจนได้สิน่ะ" หัวหน้าองค์กรบอก

          เฟรดกล่าว "ฉันไม่คิดจะฆ่ามนุษย์กันแต่แรกหรอก แต่ที่ฉันจัดการกับนายไปนั้น เพราะว่านายเป็นแค่คนตายที่ถูกชุบชีวิตให้มาเป็นเครื่องมือสังหารที่พ่ายแพ้อย่างยับเยิ่นกันนี้แหละ"

          "แกคิดว่าแกเป็นนักรบฝ่ายธรรมะนะหรือ คิดผิดแล้ว เพราะว่าแกกับพวก ยังไงก็เป็นแค่ ปีศา....."  หัวหน้าองค์กรกล่าวแล้วก็ "แวบบบบบ ตรูมมมม" ร่างระเบิดกระจุยไปในทันที

          "ต่อให้เราเป็นปีศาจ แต่นายก็เป็นปีศาจที่เลวกว่านี้แหละ" เฟรดบอก แล้วก็แบมือ "ไปสู่ที่ชอบๆเถอะ ผมอโหสิให้และอย่าจองเวรจองกรรมกันอีกเลย"

          "ดูท่าว่า หัวหน้ากับพวกคงช่วยเหลือพวกคุณเจเนลมาตลอดเลยสิคะ" รีฟบอก

          แคร์เรี่ยนกระแอ่มและบอกไปว่า "แค่เรารีบมาช่วยพวกเธอได้อย่างปลอดภัยก็เกินพอแล้วละ"

          "เออ ว่าแต่ หมอนี้เป็นใครกันหรือ ลุง หน้าตาเหมือนคุ้นๆอยู่น่ะ" แจ็สถาม เมื่อเห็นหน้าทินเกาซีมา

          แอบไบออสบอก "สงสัยว่าเราคงต้องอธิบายเรื่องนี้กันสักหน่อยแล้ว" และหันมาถาม "โครงประตูมิติอยู่ที่ไหนนะหรือ"

          "นั้นคงเป็นประตูมิติที่พวกศัตรูใช้บุกดาวของพวกนายสิน่ะ" ลิ่วเซียงบอก เมื่อเธอกับพวกมารวมกันที่โครงประตู

          ลูชิลี่กล่าว "ว่าแต่ เราใช้มันเดินทางไปอีกดาวกันได้มั้ยละ"

          "เกรงว่าเราจะใช้ไม่ได้หรอกน่ะ ประตูถูกล็อกด้วยรหัสที่มีแต่เจ้าหน้าที่สหพันธ์โลกใหม่เท่านั้นน่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว

          โฟรซ่าบอก "แต่สงสัยว่าเราคงจะปล่อยให้มันอยู่แบบนี้ไม่ได้แล้วละ" แล้วก็ "ฟึ่บบบ หวับบบบ" ชูเรซเซอร์อาร์มขึ้นและหวดฟาดลงไป "ฉืบบบบ โครมมม" เพื่อผ่าโครงประตูมิติให้ขาดสะบั้นลง

          "ว้า แบบนั้นก็แย่ละสิ เราไม่ได้ไปดาวของพวกนายกันเลยน่ะ" ฟงอี้บอก

          สเตฟอร์ดกล่าว "ถึงมีประตูแบบนี้อยู่ แต่คงไม่ได้ไปที่แคสเซรอนหรือแคสเซเดี่ยนแน่นอนละน่ะ" แล้วก็บอก "ตอนนี้ เรารีบไปจากนี้ก่อนที่กองรบเทอร่าสควอดอนจะมาเจอดีกว่า"

          "ฟึ่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" คอปเตอร์ของกองปราบปรามในเชียงใหม่พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่และ 4 จังหวัดใกล้เคียงเข้ามาในที่เกิดเหตุ ซึ่งคงเดชยืนอยู่กลางซากศพพวกมือสังหาร โดยที่ส่วนมากถูกใส่ในถุงศพที่มูลนิธีปอเท่งทึ่งและร่วมอกตัญญูแล้ว "ฟ้าวววววว ตรึงงง" ยานเทอร่าครุยเซอร์ลำหนึ่งแล่นลงจอดอยู่ห่างจากป่า "บรืนนนนนนนนนน" พร้อมกับรถจี้บอีก 4 คัน โดยมีหญิงผมยาวสีชมพูนั่งมาพร้อมกับหญิงแขกผมดำ ซึ่งมีชายผิวเข้มผมทรงเดดล็อคเป็นคนขับรถมาในที่เกิดเหตุด้วย โดยที่ทั้งสามเดินลงมาจากรถ เพื่อตรงมายังรถจี้บคันสีเทา เพื่อเปิดประตูให้นายทหารหญิงผมสีม่วงเข้มในชุดนายทหารสีขาวเดินลงมาพร้อมกับลิ่วเฟย เรดดิล บลูดัสท์ และเยลโลว์ไลน์ที่นั่งมาด้วย

          "ดูท่าว่าพวกไทรเวเซอร์จะเล่นงานเพื่อนร่วมชาติของนายเลยสิน่ะ" หญิงผมยาวสีชมพูกล่าว

          คงเดชส่ายหน้า "คนทรยศขายชาติตายยากพวกนี้ ไม่ใช่คนของพวกเราแล้วนะสิ จูอิน" แล้วก็ทำวันทยาหัตถ์ต่อนายทหารหญิงที่เดินมาด้วยกัน "ต้องลำบากท่านให้มาถึงนี้ได้นะครับ นายพลไวโอเลฟ"

          "ไม่เป็นไรหรอก คงเดช เรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านเกิดของเธอที่เกี่ยวข้องกับพวกไทรเวเซอร์นั้น พวกเราก็ต้องมาอยู่แล้วละ" ไวโอเลฟ มิลเดรล รองผู้บังคับบัญชาการของกองกำลังเทอร่าสควอดอนกล่าว แล้วสั่งการให้ "จูอิน กุนทรี เจย์เดน ลิ่วเฟย เรดดิล บลูดัสท์ เยลโลว์ไลน์ ไปตรวจเช็คเดียวนี้เลย" เจ้าหน้าที่ทั้งสี่เดินลงไปเช็คสภาพศพดู

          ชายไว้ผมเดดล็อคมาเช็คตรงซากรถและคอปเตอร์กล่าว "ลุง ดูท่าว่าพวกไทรเวเซอร์จะเล่นของหนักกว่าอาวุธกับคอปเตอร์นิ พวกเขาคิดว่าธนูติดหัวระเบิดไม่ได้ผลเลยหรือไงน่ะ"

          "นั้นบ่งบอกได้ว่า พวกตัวบึ้กๆในกองกำลังไทรเวเซอร์นั้น มีพละกำลังมากพอ ขนาดยกรถบรรทุก รถตู้ แม้กระทั่งบัสสองชั้นให้ปลิวขึ้นไปอัดกับคอปเตอร์ที่บินจนร่วงไปได้น่ะ เจย์เดน" คงเดชกล่าวกับชายไว้ผมเดดล็อคนาม เจย์เดน ซัลตัน เจ้าหน้าที่จากออสเตรเลีย

          "ไม่แปลกใจหรอกน่ะ ลุง เพราะพวกนี้มีแมนิเกเตอร์ตัวบิ้กเช่นนี้ ยักษ์เฝ้าวัดแถวลานกว้างในเมืองคงสู้ไม่ได้กระมั่ง"

          "ถ้ารัฐบาลไทยมีงบมากพอที่จะดัดแปลงยักษ์วัดแจ้ง ให้เป็นหุ่นรบต่อสู้เหมือนในหนังเก่าที่เอาไปโคออฟกับจัมโบ้เอได้ละก็ เราคงทำไปตั้งแต่ยุคทองแล้วละ เจย์เดนเอ้ย" คงเดชบอก

          หญิงแขกนามกุนทรี นาทราช เจ้าหน้าที่หญิงชาวอินเดียเช็คสภาพศพดู "พวกนี้คงไม่ใช่มนุษย์แล้วละ เพราะ เจ้าของแขนนี้ มีกระดูกคนเหล็กอยู่ด้วยน่ะ" แล้วก็บอก "คิดว่า พวกนี้ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่าละ คุณคงเดช"

          "ถ้าไม่เป็นไซบอร์คเหมือนในกลุ่มนักฆ่ามะยมเกราะแกรนด์เอ็กซ์วายแซดแล้วละก็ พวกนี้คงจะถูกฆ่าและเปลี่ยนเป็นแมนิเกเตอร์ไปแล้วแน่ๆน่ะ" คงเดชกล่าว "จูอิน เธอเจอตัวหัวหน้าแล้วหรือยังละ" โดยกล่าวต่อหญิงผมยาวสีชมพู นามปาร์ค จูอิน เจ้าหน้าที่ชาวเกาหลี ซึ่งมาพร้อมกับศพหัวหน้าองค์กรที่ถูกฟันขาดไป

          "นายไม่ต้องถามหรอก ว่าตัวหัวหน้าเป็นยังไงน่ะ"

          "แสดงว่าพวกไทรเวเซอร์มานี้ เพื่อจัดการกับพวกองค์กรร้ายที่เคยถูกฆ่าตายและเปลี่ยนเป็นแมนิเกเตอร์ไปเลยสิน่ะ" ไวโอเลฟบอก

          ลิ่วเฟยบอก "เออ ท่านนายพลคับ หน่วยศูนย์เจอบางอย่างแล้วละ" แล้วก็พาไปดูที่ "นี้มันอะไรกันเนี้ย" ไวโอเลฟอุทานเหมือนเห็นโครงประตูมิติ ที่ถูกโฟรซ่าผ่าทิ้งไปแล้ว

          "สงสัยว่านี้คงจะเป็นต้นเหตุที่พวกไทรเวเซอร์บุกมานี้เลยสิน่ะ" กุนทรีบอก

          คงเดชกล่าว "โครงเหล็กทรงครึ่งวงกลมนิ มันต้องเป็นอะไรสักอย่างที่ไม่เข้าท่าแน่ๆ" แล้วก็บอก "หนูเยลโลว์ไลน์ หนูหาคอมพิวเตอร์ในฐานและนอกฐานที่มันเชื่อมโยงกับเจ้านี้ได้มั้ยละ"

          "ฉันตรวจเช็คกับคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในนี้ แม้ว่าจะมีระบบทำลายตัวเองอยู่ แต่...." เยลโลว์ไลน์บอกพร้อมกับส่งแพดออกมา "....ข้อมูลในนั้นมันคือคำตอบที่พวกไทรเวเซอร์อยากให้เราดูนะคะ"

          คงเดชเช็คดูแล้วต้องตกใจไม่น้อย "ท่านนายพลไวโอเลฟครับ" แล้วก็ส่งให้นายพลหญิงพิจารณาดูอย่างละเอียด

          "แล้วพอจะบอกได้มั้ย ว่าพวกนี้ใช้สิ่งเหล่านี้ไปทำอะไรกันน่ะ" ไวโอเลฟบอก บลูดัสท์และเรดดิลพึ่งออกมา

          "พวกเราเจอแฟ้มข้อมูลเหล่านี้ในห้องทำงานนะคะ" เรดดิลกล่าวและส่งแฟ้มข้อมูลที่อยู่ในแพดมาให้ไวโอเลฟดู "คอมพิวเตอร์ภายในฐานนั้น เหมือนจะมีระบบทำลายตัวเองไว้ แต่ดูเหมือนว่าพวกไทรเวเซอร์จะลบโปรแกรมดังกล่าวเพื่อให้เราได้ข้อมูลเหล่านี้ไว้นะคะ"

          "ไหนดูสิ" ไวโอเลฟอ่านข้อมูลในแฟ้มอย่างละเอียด จนเธอตกใจไม่น้อย แล้วก็ถาม "คงเดช เธอยังมีเพื่อนที่อยู่ในกรมตำรวจหรือทหารบ้างมั้ยละ"

          คงเดชบอก "เพื่อนที่อยู่ชั้นประถมนั้น 8 คนเป็นหัวหน้ากองปราบและตำรวจชายแดน เพื่อนที่อยู่มัธยมนั้น มี 14 คนเป็นหัวหน้ากองทหารป่าไม้ ที่ว่ามานั้น ล้วนแล้วอยู่ภาคกลาง ภาคใต้ อีสานทั้งนั้นนะครับ"

          "ขอเฉพาะที่อยู่ในท้องที่ที่เป็นเขตเมืองเก่าสมัยโบราณหน่อยนะ เพราะฉันมั่นใจว่าพวกไทรเวเซอร์ต้องไปที่เหล่านั้นแน่นอน" ไวโอเลฟกล่าว "รีบจัดการที่เกิดเหตุนี้โดยเร็วเลย เราจะเตรียมพร้อมในปฏิบัติการณ์ที่ฝั่งยุโรปมอบให้น่ะ"

          ทั้งหมดกล่าว "รับทราบครับ/คะ"

          ที่ยานไทรแองเกิ้ล ตอนนี้หลบซ่อนอยู่ในเขตป่าเขา แถวจังหวัดสุพรรณบุรี

          "อะไรเนี้ย นี้พวกเราไม่ได้ตาฝาดใช่มั้ยละ" นาเดียบอก

           แจ็สพยักหน้า "พวกเขาเหมือนพวกคุณบรอนเซอรูทอย่างมากเลย เพียงแต่ สลับเพศชายหญิงกันเท่านั้นเองน่ะ"

          "งั้นเรื่องที่พวกคุณบรอนเซอรูทมีพี่น้องที่หลงเหลืออยู่บนโลกก็คงเป็นจริงละสิน่ะ" แฮรี่บอก "เท่าที่ทราบมา พวกคุณบรอนเซอรูทเป็น 8 ในเหล่าบุตรของแม่ทัพไวซ์ไมเซลและไวซ์แลงค์ ที่ถูกสร้างเป็นกองทัพมิวแทนอยด์ของเขาเอง หากแต่ไวซ์แลงค์พาพวกบรอนเซอรูทในสภาพทารกไปส่งที่หุบเขาหอเมฆา เพื่อให้ปรมาจารย์ที่นั้นเลี้ยงดูและฝึกฝนพวกเขาให้เป็นจอมยุทธ์กันนี้แหละ"

           เฟรดกล่าว "และไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะเจริญรอยตามไปเสียได้นะครับ"

          "เออ ว่าแต่ พวกเด็กๆที่สวมชุดหุ่นยนต์นิ เป็นพวกไหนกันมิทราบละ" กริมบัลค์ถาม

          เจเนลบอก "พวกเขาเป็นกองกำลังหลังฉาก ซึ่งเป็นกองกำลังพิเศษที่ปฏิบัติการณ์คู่ขนานกับพวกเรา โดยรับผิดชอบในการรับมือกับกลุ่มศัตรูที่ลอบเร้นหาเรื่องกับพวกเราจากด้านหลัง หรือศัตรูที่แฝงตัวเข้ามาในจุดที่เราไม่รู้ โดยพวกเขาสวมชุดเกราะต่อสู้อันทรงพลังไว้รับมือกับกลุ่มศัตรูดังกล่าวมาเมื่อ 4 ปีก่อนแล้วละ"

          "หากแต่ สองหน่วยนี้ หน่วยหนึ่งเป็นรุ่นที่สองต่อจากรุ่นแรกที่สมาชิกส่วนมากไม่สามารถปฏิบัติการณ์ต่อไปได้ อีกหน่วยนั้นจัดตั้งขึ้นมาใหม่เพื่อมารบร่วมกับหน่วยแรกกันเท่านั้นเองน่ะ" แอนเดรียบอก "แม้ว่าบางคนในหน่วยอาจจะไม่ฟังคำสั่ง แต่พวกเขาก็มีฝีมือการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่น้อยเลยน่ะ"

          ทินเกาซีบอก "ฉันก็เห็นมาบ้างน่ะ ว่ามีฝีมือต่อสู้ที่ใช้ได้ แต่ไม่คิดเลยว่าส่วนมากจะเป็นเด็กวัยรุ่นไปเสียได้น่ะ"

          "อย่างน้อย การที่พวกเขารอดจากการถูกลอบสังหารมาได้ ก็ถือว่าดีพอแล้วละ" ลิ่วเซียงบอก "แล้วพวกเราจะอยู่ที่นี้เลยมั้ยละ"

          พีวิลส่ายหน้า "ยัง เพราะเรายังถูกตามล่าอยู่ ต่อให้เราจัดการกับฐานที่มั่นขององค์กรเงาสยามลงได้ แต่นั้นก็ทำให้ฝ่ายสหพันธ์โลกใหม่ส่งเทอร่าสควอดอนมาไล่ล่าพวกเรากันอยู่ดีนี้แหละ"

          "ทั้งๆที่เราควรจะได้พักแล้วมิใช่หรือ" ลูชิลี่กล่าว

          สเปียริทบอก "สภาพการณ์ในตอนนี้เราคงไม่ได้พักกันหรอกน่ะ แม้เราจะลงจอดเพื่อซ่อมบำรุงยานทั้งสองลำไว้ให้พร้อมที่จะบินต่อไปได้ แต่การมาจอดกลางป่านั้น ก็สุ่มเสี่ยงที่จะเจอกับปัญหาอยู่ดีนี้แหละ"

          "หมายถึงพวกมนุษย์ที่อาจจะโผล่มาแถวนี้ แล้วมาเจอพวกเราละสิน่ะ" คิจิโร่กล่าว

          โฟรซ่ากล่าว "ทำนองนั้น แต่เราอาจจะมีตัวสอดยุ่งไม่เข้าเรื่องโผล่มาก็เป็นได้น่ะ"

          "ครืดดดดด ชรี้ดดด ชรี้ดดด ชรี้ดดดด เกร้งกร้องๆๆๆๆ" ทีมช่างของบริคซ์ที่ซ่อมยานไทรแองเกิ้ลอยู่รอบนอก โดยที่พวกเขาใช้เทอร่าเวิร์คเกอร์บินมาซ่อมแซมตรงเครื่องยนต์ เช่นเดียวกับบิลเดรทและพวกที่จัดการซ่อมสโตรม่ากริฟอย่างรวดเร็ว

          "แชดดดด" ไม่ทันไรก็มีลำแสงพุ่งออกจากต้นไม้เข้าใส่ด้านหลังเทอร่าเวิร์คเกอร์ของบ็อกไซน์ "แว้งงงง ป้ากกกก" แต่ลำแสงนั้นกระทบกับบาเรียที่ปกคลุมไว้ จนตัวการนั้นตกใจไม่น้อย

          "ไม่เป็นไรใช่มั้ยละ บ็อกไซน์" บิลเดรทบอก

          บ็อกไซน์พยักหน้า "โชคดีที่เราติดตั้งเครื่องสร้างบาเรียป้องกันไว้ที่กลางหลังกับหุ่นตัวนี้เสียก่อนน่ะ"

          "เออ พวกเรา ไอ้ตัวแสบนั้นมันอยู่ที่ 4 นาฬิกาน่ะ" เบย์แลคบอก โดยเห็นตัวการนั้นพยายามจะยิงลำแสงซ้ำ "ซูมมมมม ฟิ้วๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆ" ไซโคลเนียบินขึ้นพร้อมกับยิงมิเดี้ยมมิไซล์ลงไปถล่มใส่ตัวการดังกล่าว ซึ่งกางบาเรียป้องกันไว้ และพยายามยิงลำแสงใส่ ไซโคลเนียเลยบินหลบหลีกไป

          "มีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่มาป่วนพวกเราแล้วละ" บริคซ์กล่าว โดยที่เขารีบเรียกลูกทีมช่างกลับเข้ายานโดยเร็ว เช่นเดียวกับบิลเดรทและพวกด้วย

          "หึมๆๆๆๆๆๆๆ" ตัวการเตรียมสะสมพลังเพื่อยิงลำแสงจากฝ่ามือทั้งสองเข้าทำลายไซโคลเนีย "ฟ้าวววว ป้ากกกก" แคร์เรี่ยนกระโดดถีบใส่ตัวการจนล้มและ "แชดดด ตรูมมม" ยิงลำแสงจากฝ่ามือทั้งสองลงพื้นจนเป่าระเบิดใส่ตัวเอง ซึ่งทำให้หน้ากากปริแตกออกมา "หนอยยยย" ตัวการบุกด้วยการใช้มีดพลังงานที่หลังมือสองข้างเข้าสู้กับแคร์เรี่ยน "ฟึ่บบ เชร้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งใช้ทวินสแลชเชอร์ฟาดฟันสู้กันอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่องกัน

          "แก พอสู้ฉันไม่ได้ในครั้งก่อน เธอเลยเล่นทีเผลอกับฉันสิน่ะ" ตัวการบอก

          แคร์เรี่ยนได้ฟังก็ชะงัก "นี้หล่อน หรือว่า...." จน "ป้ากกกก โครมๆๆๆ" ถูกตัวการถีบให้ล้มลง พร้อมกับเตรียมพุ่งจู่โจมใส่แคร์เรี่ยนด้วยมีดพลังงาน "แว้งงงงง ป้ากกก" แต่มีดพลังงานกลับปะทะสนามพลังทรงกลมสีส้มที่พุ่งเข้ามาครอบตัวแคร์เรี่ยนอย่างจังๆ จนตัวการเตรียมจะแทงซ้ำ "ฟ้าวววว ป้ากๆ ซูมมมมม หวับบบ โครม" ไซโคบิทสองอันพุ่งผลักตัวการให้ถอยออกไปจนล้มกลิ้งกับพื้น "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆๆๆ" ไซโคลเนียที่บินอยู่พร้อมกับจิลที่ขี่หลังมาระดมยิงไมโครมิไซล์ลงพื้นถล่มใส่ตัวการให้ยับ จนตัวการคิดจะยิงลำแสงใส่ "ฟ้าววว แว้งง กรี้กกกกกก ป้ากกก" ลิเนียร์ตี้ซัดสลัคเกอร์กรีดใส่ตัวการ ที่รีบสร้างโลห์พลังงานป้องกันจนโลห์แตกกระจุยจากการไถลต่อเนื่องไป "ครี้งงงงงง ฉึกๆๆๆๆๆๆๆ" ตามด้วยหอกเรืองแสงหลายสิบเล่มพุ่งขึ้นจากพื้นตรึงตัวการเอาไว้ "ไฮย้า" โฟรซ่าเลยวิ่งเข้ามา "หวับบบ ฉั้วะ" ฟันใส่ตรงหน้ากากของตัวการจนเผยโฉมหน้าขึ้นมา

          "อะไรเนี้ย นี้เธอ จริงๆนะหรือ" โฟรซ่าอุทานเมื่อเห็นใบหน้าที่อยู่หลังหน้ากาก และเปิดช่องว่างให้ฝ่ายตรงข้ามยิงลำแสง "แว้งงงง วึ้งงงง ป้ากกกก" โลห์ทรงใบโคฟเวอร์และวงเวทย์พลังเข้าป้องกันลำแสงไม่ให้โดนตัวโฟรซ่าไว้ แต่ตัวการหนีไปได้เสียก่อน

          "ปลอดภัยดีนะคะ คุณแคร์เรี่ยน คุณโฟรซ่า" แอนเดรียกล่าว

          "ฉันไม่เป็นไรหรอกน่ะ แอนเดรีย ถ้าลิเนียร์ตี้และสเปียริทไม่มาช่วยละก็ คงแย่แน่ๆ" โฟรซ่าบอก

          แคร์เรี่ยนกล่าว "แต่ไม่คิดเลย ว่าตัวการที่ยิงลำแสงเล่นงานเธอนั้นจะเป็น ยัยนั้นไป...." ไม่ทันไร ก็มีดวงตาพุ่งมาจากในป่าสองคู่

          "แย่แล้วละ พวกเรา ตัวการยังมีอีกสองตัวน่ะ" จิลกล่าวเพราะเธอสังเกตุเห็นจิตสังหารขึ้นมา

          "ฟ้าววววววววววว" แต่ไม่ทันไร ก็มีหัวตะกวดสีเทายืดคอออกมาจากพุ่มไม้ตรงมายังแคร์เรี่ยน "เฮ้ยยยยย" แอบไบออสเลยกระโจนลงมา "ฉึกกกก" แทงด้วยโบนซัมเบอร์เข้ากลางหัวตะกวดอย่างจังๆ "กรอดดดด" ตัวการตัวที่สองสบถแล้วก็ "แฟ้วววววว" ยืดหัวตะกวดอีกหัวพุ่งออกมาจากพุ่มไม้เข้าใส่แอบไบออส "อีวิลเฟรมคลอว์" ซึ่งโต้ตอบด้วยการซัดคลื่นเพลิงกรดเข้าปากตะกวดจน "กี้กกกกก" หัวตะกวดที่พุ่งเข้ามาถูกแผดเผาลง แล้วก็ "ฮา" ใช้เพลิงกรดอาบคมดาบที่ปักคาหัวตะกวดหัวแรกให้มอดไหม้ไป

          "ลักษณะหัวแบบนั้น ไอ้พวกเวมท็อกซิน" แคร์เรี่ยนสบถ เมื่อตัวการที่สองโผล่ออกมาจากป่า โดยมีรูปร่างเป็นอมนุษย์ผิวสีเทา ซึ่งแขนสองข้างที่เป็นปล้อง มีรอยไหม้สีเขียวเข้ม "กึกๆๆๆๆๆ พรวด พรวด" โดยที่รอยไหม้นั้นสลายตัวและงอกแขนข้างใหม่ขึ้นมา โดยบุกเข้าใส่พร้อมกับตัวการที่สวมหน้ากากปิดหน้าสีดำกับหมวกกลมคลุมปิดทั้งหัว มีปลอกแขนทรงกลมสีขาวทั้งสองข้าง สวมกางเกงลายปล้องขดสีเงินกับสวมบู้ทขนาดใหญ่สีเทา ส่วนเท้ามีปลายสีแดงเข้ม

          "เด เดรฟมัสค์นะหรือ...." โฟรซ่าอุทานเมื่อเห็นตัวการตัวที่สาม ซึ่งบุกมาด้วย "ครี้งงงง" การนำมีดสี่เล่มซ่อนอยู่ในปลอกแขนทั้งสองข้างจ้วงเข้าใส่แอนเดรีย "ฟ้าวววววว ป้ากกกก" พลัสเชอริทโผล่มาใช้ไวเปอร์เชนพุ่งปะทะใส่เกราะลำตัวไปเต็มๆ จนทำให้ตัวการรายที่สามรีบถอยหนีไปก่อน

           "ดูท่าว่า พวกเอฟซีตรอนจะหาเรื่องแกล้งเรากันจริงๆสิน่ะ" แคร์เรี่ยนบอก แล้วรีบลุกไป

          "ไม่ต้องตามหรอก แคร์เรี่ยน ฝ่ายตรงข้ามต้องการให้เราไล่ตามเข้าไปในป่า แล้วโดนลอบเล่นงานเสียเองน่ะ" เนคมาดูซัมบอก โดยที่เขากับพวกรีบลงสนามมาแล้ว

          ลิเนียร์ตี้ถาม "แอมเบอร์ จับสัญญาณของตัวการทั้งสามได้มั้ยละ"

          "เกรงว่า ตัวการทั้งสามนั้น หายเงียบไปแล้ว เหมือนกับว่าพวกนี้หายตัวได้นะคะ" แอมเบอร์บอก "แต่เรดาห์กลับจับสัญญาณพลังงานแบบบุคคล ซึ่งมีลักษณะเหมือนหน่วยรบวิหคและสติลลิมบ์ เพียงแต่...."

          สเตฟอร์ดบอก "ขนาดพลังงานที่ตรวจจับเหมือนแมนิเกเตอร์ไทป์ต่อสู้อย่างงั้นสิน่ะ แอมเบอร์" เอไอประจำยานพยักหน้า

          "ฝ่ายตรงข้ามอยู่ใกล้เราแค่ไหนน่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก

          แอมเบอร์รายงาน "อีก 50 กิโลเมตรรอบทิศพวกคุณนะคะ" แล้วก็บอก "จะให้เรานำยานออกไปเลยมั้ยละคะ"

          "ถ้าอยู่ใกล้เราไม่ว่าจะเกินหรือน้อยกว่า 50 กิโลเมตร พวกเราไม่สามารถนำยานออกได้หรอกน่ะ" โฟรซ่าบอก

          เนคมาดูซัมบอก "ช่วยไม่ได้แล้ว ทั้งหมด เตรียมการป้องกันรอบยานเดียวนี้เลย" แล้วก็บอก "เราจะใช้มาตราการระดับกลาง นั้นคือโต้ตอบด้วยมือเปล่าและอาวุธทุบตีไม่รุนแรงไว้ เพราะอีกฝ่ายเป็นทหารสหพันธ์โลกใหม่อย่างเทอร่าสควอดอนน่ะ"

          จากนั้นทั้งหมดรีบวิ่งรอบยานโดยเร็ว

          "บอกตามตรงน่ะ ว่าเราเหมือนโดนดึงกลับสู่อดีต ที่ดาวฮิชเลไบน์-4 กันชัดๆน่ะ" น็อกกี้บอก โดยที่เขาอยู่กับเฟรดและนาเดีย ตรงทิศตะวันตก โดยมีแคร์เรี่ยน เจเนล สเปียริทและพีวิลคุม

          "ใช่ ครั้งแรกที่พวกเดลอาเนี่ยนแห่มารอบยานของพวกคุณโดซี่ โดยมีคุณแอนเดรีย คุณลุงแดน คุณทันกุน คุณนิคและคุณรีฟเฝ้าไว้ ส่วนพวกเราอยู่ในป้อมปืนป้องกันรอบยาน ช่วยลูกเรือเติมกระสุนและช่วยยิงสวนไปด้วยน่ะ" นาเดียกล่าว

          "เพียงแต่ครั้งนี้ ฝ่ายตรงข้ามเป็นทหารมนุษย์โลก ที่สวมชุดเกราะที่เหนือกว่าของเราอย่างเห็นได้ชัดเลยน่ะ" เฟรดบอก

          แฮรี่กล่าว "พยายามระมัดระวังด้วยละ เพราะเราจะต้องใช้มือเปล่าและความสามารถเฉพาะตัวโต้ตอบฝ่ายตรงข้ามให้ดีแล้วกัน" โดยตอนนี้ตน คีธ และรีฟอยู่ฝั่งตะวันออก มีโฟรซ่า ลิเนียร์ตี้ พลัสเชอริท และฟิเกซช่วย ทิศเหนือ นิค มาริ แจ็ส และแด็กซ์คุมพร้อมกับไซโคลเนีย มาสวาร์ทาร์ แอนเดรีย และจิล ทิศใต้ เนคมาดูซัม คลอเวฟ สเตฟอร์ด จายด์ และแอบไบออส คุมพร้อมกับบ็อกไซน์ บิลเดรทและโทรวแนค โดยที่อีกสี่ด้านคือ อีสาน หรดี พายัพและอาคเนย์ มีแปดพี่น้องยอดยุทธ์มิวแทนอยด์รุ่นสองช่วยคุมอีกที

          "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ทหารเทอร่าสควอดอนชุดแรกบุกมาทางทิศตะวันออก ซึ่งตรงหน้าอกชุดเกราะมีตราธงเกาหลีใต้และเหนือประทับไว้ "เฮ้ย ว้ากก ย้ากกก จ้ากกกก" ทหาร 4 คนพุ่งลงมาถีบใส่พวกคีธที่ยืนอยู่จน "ฟึ่บๆๆ" คีธ แฮรี่และรีฟรีบโดดถอยหลังหลบ แต่ชุดที่สองยังกระโดดพุ่งถีบลงมา "ทวิสเตอร์เบรค" ฟิเกซพุ่งถีบใส่ทหารเกาหลีเหนือที่เตรียมพุ่งถีบจนปลิวลงไปกองกับพื้น "ลิเนียร์ตี้คิกกกก" "ธันเดอร์โคเมทคิก" "โวลเทจชู้ต" ลิเนียร์ตี้ โฟรซ่าและพลัสเชอริทพุ่งเข้าถีบใส่ทหารเกาหลีอีกสามให้ล้มลง "หวับๆๆๆๆๆ" ทหารสี่รายแรกบุกเข้าต่อกรกับพวกแฮรี่อย่างรวดเร็ว "ย้ากกกก" แฮรี่เสยหมัดชกสวนใส่ทหารเกาหลีที่ถีบเข้าจน "เปรี้ยงงงงง" เกราะเท้าและขาของทหารเกาหลีแตกกระจุยพร้อมกับจับขาดึงขึ้นมา "ฟ้าวววว ป้ากกก" รีฟวิ่งเข้าถีบขาคู่ใส่จนตัวล้มกับพื้น "ป้ากๆๆๆๆๆๆๆ" ทหารเกาหลีรายที่สองรั่วเตะสู้กับคีธที่หวดขาเตะสบัดอย่างต่อเนื่อง "หวับบบบ" ทหารเกาหลีเลยถีบใส่คีธ ซึ่งตีลังกากลับหลัง "ป้ากกกก" ฟาดเท้าอัดใส่หลังหัวทหารเกาหลีจนตัวตีลังกากระแทกพื้นจนกระเด้งมา "เฮ้ยยยยยย" แฮรี่พุ่งเข้ามาอัปเปอร์คัตอัดใส่ท้องทหารเกาหลีจน "อะ" จุกและตัวปลิวขึ้นไป "วาช้ากกกกก" คีธกระโดดถีบอัดทหารเกาหลีให้ปลิวไป "โครมมมม" อัดใส่รายที่สามที่หมายจะเล่นงานรีฟที่ถูกล็อกตัวไว้ "ฟึ่บบ กร็อบบบ" รีฟเลยกระทืบเท้าขวาของทหารเกาหลีที่ล็อกตัวจนเจ็บแล้วก็ "ไฮย้า" รีบจับหัวทหารเกาหลีทุ่มข้ามหลังไปทันที "หมับ ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟึ่บบบ หมับ ฟ้าววว เปรี้ยงงง" พลัสเชอริทจับหัวทหารเกาหลีมาต่อยรั่วที่ท้องแบบไม่ยั้ง แล้วก็กระโดดใช้เท้าหนีบหัวเพื่อทุ่มฟาดกับพื้นไปเต็มแรง "ฟ้าวววว ป้ากกกก" ฟิเกซพุ่งสไลด์เตะกวาดตัดขาทหารเกาหลีจนล้มไป 2 คนแล้วก็ "ป้าก ฟ้าวววว หมับบบบ หวับๆๆๆๆๆ โครมมมม" กระโดดเหยียบทหารเกาหลีเป็นแท่นพุ่งขึ้นไปจับล็อกทหารเกาหลีใต้ที่พุ่งถีบลงมา แล้วใช้ท่าสแลมไดรเวอร์ทุ่มกลับหัวจัดการกับทหารเกาหลีให้น็อกสลบไป "เฮ้ยยยย" ทหารเกาหลีถีบใส่โฟรซ่า ซึ่งเธอหลบได้และ "หมับบบ เปรี้ยะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ใช้มือจับตรงข้อเท้าทหารเกาหลีเพื่อจู่โจมด้วยโคเลเดอร์ช็อตใส่ "ย้า" ไม่ทันไร ทหารหญิงสวมชุดเกราะกระโดดเข้ามา เห็นได้จากการมีเกราะกระโปรงยาวแบบชุดฮันบกหญิงติดมาด้วย โดยพุ่งลงมาถีบใส่ "แว้งงงง ป้ากกกก กร้องงง" ลิเนียร์ตี้ใช้ฟอสชิลด์ปรากฎขึ้นสกัดกั้นการถีบของทหารหญิงจนเธอต้องโดดลงพื้นมา

           "ถ้าให้เดาน่ะ เธอคงเป็นปาร์ค จูอิน เจ้าหน้าที่ชาวเกาหลีเหนือ ลูกสาวของนายพลปาร์ค คังซา น้องชายต่างแม่ของนายพลยุน ควางแซใช่มั้ยละ" โฟรซ่าบอก ทหารหญิงหรืออีกนัยหนึ่งคือจูอิน เปิดหน้ากากออก

          "สมแล้วที่เป็นคู่ปรับตัวเอ้ที่เล่นงานจูดิธจนเสียท่าไปได้น่ะ พันโทแลงครูท แม้ว่าคุณจะได้ข้อมูลจากฝ่ายมหาสหรัฐอเมริกามา แต่เกรงว่าฉันคงต้องจัดการกับพวกคุณเสียแล้วละ" แล้วก็วิ่งเข้ามา "หวับๆๆๆๆๆๆๆ" หวดขาเตะใส่โฟรซ่าจนเธอต้องรีบหลบ ลิเนียร์ตี้และพวกเลยรีบเข้ามา จูอินเลยหวดขาเตะสวนกลับมาอย่างเร็ว จนทั้งหมดต้องรีบถอยหนี "ฟ้าววว หมับบบบ หวืบบบบ" คีธใช้เลเซอร์วิปมัดขาของจูอินและดึงเข้ามา แต่เธอหวดขาติดหลอดนีอ้อนพลังแสงฟาดใส่ "แชบบบบบ" รีฟเลยใช้สปาร์คเซเบอร์ปัดออกอย่างทันควัน

          ในเวลาเดียวกันกับ.... "ฟ้าววววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าวววว ฟ้าววววว" ทหารเทอร่าสควอดอนชาวอินเดียพุ่งออกมาจากพุ่มไม้ทางทิศอาคเนย์ซึ่งมีเลนแชทต้ากับทอฟเฟล่า และหรดี อันมีคิจิโร่และฟงอี้คุม โดยพวกเขาบุกมาด้วยพระขรรค์ลำแสง หอกสว่าน ตะบองไฟฟ้าและขวานความร้อนสูง จนทั้งสี่ต้องรีบหลบแล้วก็ "แคร้งงงงง เคร้ง เคร้ง ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ" เลนแชทต้าใช้ใบมีดตรงหลังแขนฟันโต้ตอบพระขรรค์ลำแสงที่ฟาดมา แล้วก็หมุนตัวเตะด้วยใบมีดบนฝ่าเท้าจนเกราะมีรอยกรีดตัด ทอฟเฟล่าเสยหมัดที่แข็งดุจเพชรชกใส่ทหารอินเดียที่ใช้ตะบองไฟฟ้าจนตะบองแตกกระจุย แล้วก็ "หมับ หมับ โครมมม" จับหัวมากระแทกอัดใส่พร้อมกัน "ฮา" คิจิโร่รวบรวมพลังขึ้นที่หมัดขวา ในจังหวะที่ทหารอินเดียพุ่งเข้ามาพร้อมกับขวานความร้อนสูงที่เงื้อเหนือหัวเพื่อจ่ามใส่ "หมัดพิฆาตพยัคฆ์" แต่คิจิโร่เสยหมัดขวาเข้า "ป้ากกกก" อัดใส่พุงของทหารอินเดียไปเต็มๆจนส่วนเกราะร้าวและ "เปรี้ยงงงง โครมๆๆๆ" เป่ากระเด็นไปอัดใส่ทหารอินเดียอีก 4 คนจนล้มระเนระนาดไป "หวับๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆ" ฟงอี้หมุนตัวเข้าปะทะใส่ทหารอินเดียที่จ้วงแทงหอกไฟฟ้าจนหัวหอกหัก แล้วก็ "ปึกๆๆๆ ปั้กๆๆๆ เปรี้ยะๆๆๆ" ใช้ฝ่ามือซัดหัวหอกที่ปลิวอยู่พุ่งไปแทงใส่ทหารอินเดียพร้อมกับช็อตซ้ำอย่างจังๆ

          "ตรึงๆๆๆๆๆๆ" ทันใดนั้นเอง ทิศใต้ ทหารเทอร่าสควอดอนสวมเกราะหนาใหญ่จำนวน 30-40 คนโผล่มา เป็นทหารอินเดียและออสเตรเลีย ซึ่งทหารจากออสเตรเลียมีโลห์และหอกเป็นอาวุธ

          "พวกมันกะจะมากระทืบพวกเราเลยสิน่ะ" บ็อกไซน์กล่าว เพราะเห็นพวกออสเตรเลียมากับหัวหน้าที่สวมเกราะแบบเพียวบางพร้อมกับเปิดหน้ากากออกมา เช่นเดียวกับฝั่งอินเดียที่มีหัวหน้าสวมเกราะหนาใหญ่ แต่คนสวมเป็นผู้หญิง

          "ให้ตายสิ นึกว่าจะได้เจอกับแมนิเกเตอร์จากชาติเดียวกันกับฉันเสียอีก ดันผ่ามาผิดกลุ่มเสียได้น่ะ" ชายผิวดำกล่าวอย่างผิดหวังเล็กน้อย

          หญิงผิวเข้มมีใฝบนหน้าผากกล่าว "อย่างน้อยเราคิดถูกที่ใช้ชุดเกราะรากษสนี้มารับมือกับตัวใหญ่ โดยเฉพาะตัวยักษ์เลยน่ะ"

          "ถ้าให้เดาน่ะ เธอคนหนึ่งคงจะเป็นเจย์เดน เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างยนต์จากออสเตรเลีย อีกคนคือกุนทรี เจ้าหน้าที่พยาบาลทหารจากอินเดียละสิน่ะ" สเตฟอร์ดบอก "ทางที่ดี พวกเธอทั้งหมดนี้อย่าวอนหาเรื่องเจ็บตัวจากการปะทะกับเราจะดีกว่า"

          เจย์เดนบอก "คงยากกระมั่ง ลุง เพราะพวกเรามานี้เพื่อมาจับลุงกันนี้แหละ" แล้วก็ "ซูมมมมมม" พุ่งเข้าใส่สเตฟอร์ดโดยใช้หอกไฟฟ้า พร้อมกับเหล่าทหารเทอร่าสควอดอนกัน "วอร์ชิฟดรอป" คลอเวฟเลยพุ่งเข้าถีบใส่เจย์เดน ซึ่งรีบยกโลห์แทบไม่ทันจนล้มลง "ป้ากกก โครมมมมม เปรี้ยงงงง ป้ากกก" เนคมาดูซัมต่อยทหารออสเตรเลียเข้าที่ท้องแล้วก็จับตรงหน้ามาฟาดกับพื้น และซ้ำด้วยการทิ้งตัวหวดท่อนแขนอัดตรงหน้าอกตาม "ฟ้าววว ก้องงงง" สเตฟอร์ดสวนกลับด้วยการกระโดดเอาหัวโขกใส่หัวทหารออสเตรเลียจนล้ม แล้วก็ "หมับบบบ ฟึ่บบบบ โครมมมม" จับกอดและใช้ท่าซูเฟรคกระแทกกับพื้นไปเต็มๆ "ตรึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" คลอเวฟรีบวิ่งหนีทหารอินเดียที่ถือตะบองมา โดยวิ่งตรงมายังบ็อกไซน์ที่หนีทหารออสเตรเลียกันด้วย "โท้ววววว" คลอเวฟกระโดดข้ามหัวบ็อกไซน์ที่รีบก้มหัวหลบและ "ป้ากกก เปรี้ยงงงง" กระโดดถีบขาคู่ใส่ทหารออสเตรเลียจนหน้ากากเกราะกระจุย ส่วนทหารอินเดียถูกบ็อกไซน์ชกด้วยหมัดคู่อัดใส่จนตัวปลิวตาม "ย้า ย้า ย้า ย้า" กุนทรีบุกเข้ามาใช้ตะบองไล่ฟาดใส่คลอเวฟและบ็อกไซน์แบบไม่ให้ตั้งตัว ในขณะที่โทรวแนคและบิลเดรทโต้ตอบด้วย "หวับๆๆๆๆๆ โพละๆๆๆๆ" จานร่อนพลังแม่เหล็กซึ่งใช้ดึงพวกทหารอินเดียให้ปลิว บิลเดรทยิงกระสุนคอนกรีตเล่นงานทหารออสเตรเลียให้ชะงักไป เจย์เดนเลยบุกเข้ามากระแทกใส่บิลเดรทไปเต็มๆ "ฟ้าวววว กร้องงงง" จายด์สวนกลับด้วยจีแฮมเมอร์บอลอัดจนโลห์พังยับ "ย้า..." กุนทรีกระโดดหมายจะฟาดใส่คลอเวฟ "โบลท์รีเฟรคเตอร์ รีบาวน์" เนคมาดูซัมสร้างกำแพงสะท้อนกลับปัดการโจมตีของกุนทรีไป

        "เฮ้!!!!!!" ไม่ทันไรก็มีทหารชาวจีนของเทอร่าสควอดอนบุกเข้ามาจากทิศเหนือ พายัพและอีสานกัน โดยมีดาบจีน กระบี่ ง้าว หอก ขวานและตะบองในมือ                "ไม่คิดเลยว่าชาติแผ่นดินใหญ่จะมีพวกทหารสหพันธ์โลกใหม่น่ะ" ลิ่วเซียงบ่นเพราะเธอกับทินเกาซี อยู่ที่ฝั่งอีสาน เช่นเดียวกับลูชิลี่และกริมบัลค์อยู่ที่ทิศพายัพ

          "งานนี้ต้องช่วยกันหน่อยแล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก โดยให้ทั้งหมดใช้อาวุธ เนื่องจากฝ่ายทหารจีนมีอาวุธในมือและบุกเข้าใส่ด้วยเจ็ทบูสเตอร์กลางหลังและเท้า "ชรี้ดดดดดด กรี้กกก ป้ากกกก" แจ็สสวนกลับด้วยชาร์แครมคัตเตอร์กรีดใส่ทหารจีนจนเกราะหน้าอกพัง "ฟึ่บบบ แกร็ก" นิครีบสบัดกราฟสเปียร์เพื่อใช้สู้กับพวกทหารจีนที่ใช้หอกและง้าวสู้ "ซูมมมมม ป้ากกก หมับบบ ฟ้าววว โครมมม" ไซโคลเนียทะยานเข้าใส่ทหารจีนที่กระโจนมาด้วยกระบี่ โดยเธอชิงลงมือด้วยการต่อยเข้าที่ท้องแล้วก็ตะบบหน้าพร้อมกับทุ่มอัดใส่พวกที่พุ่งตามหลังมาจนล้ม "ตึกๆๆๆๆ ฉั้วะ ฉับ ฉั้วะ ฉับ" จิลใช้ความว่องไวและตัวที่เตี้ยจู่โจมใส่ข้อพับและเอวของทหารจีนที่ดาหน้ามาจนล้มลงไป "กร้องงงง" แอนเดรียโต้ตอบพวกทหารถือหอกด้วยอัมเบรแลนซ์ไปเต็มๆ "เชร้งๆๆๆๆๆๆๆ" ทหารจีนที่ถือดาบจีนและกระบี่ต่างโดนมาริและมาสวาร์ทาร์โต้ตอบด้วยดาบจนล้มลง "ป้ากๆๆๆๆๆๆๆ" ลิ่วเซียงใช้พลองสามท่อนฟาดโต้ตอบใส่ทหารจีน โดยที่ทินเกาซีหวดง้าวเพลิงฟาดฟันสู้กับทหารจีนจนล้มไป 4-5 คน "จึ้กๆๆๆๆๆๆๆ" ลูชิลี่จู่โจมด้วยการยืดแขนยางของเธอจิ้มใส่ทหารจีนจนตัวค้างชะงักไปกันหมด ในขณะที่บางส่วนนั้น "ฟ้าววว ฟ้าว กร็อบ กร็อบ กร็อบ กร็อบบบ กร็อบบบ" กริมบัลค์บุกเข้าหักหอก ง้าว และแขนขาของพวกทหารจีนจนล้มแน่นิ่งไป "วาโช้ววววว" นักรบชุดเกราะตนหนึ่งกระโดดเข้ามา "ป้ากกกก" ฟาดฝ่ามือใส่กริมบัลค์ ซึ่งรีบไขว้แขนป้องกันไว้แต่ก็ล้มลงกับพื้น จากนั้นเขาก็ตีลังกาเข้ามา

          "อาเจ้ ระวัง" ทินเกาซีซัดคลื่นนกเพลิงเข้าใส่ "พรึ่บบบบ" จนเผานักรบชุดเกราะชาวจีนให้ลงสู่พื้นไว้ แต่.... "โฮกกกกกก" นักรบชุดเกราะชาวจีนคำรามด้วยเสียงดังจนอัดทินเกาซีและลิ่วเซียงล้ม "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ" มาริใช้ชูริเคนชู้ตเตอร์ที่ปลอกแขนยิงดาวกระจายเข้าใส่นักรบจีน "ฟึ่บบบ หวับๆๆๆๆๆๆๆๆ ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ซึ่งโต้ตอบด้วยพลองสองท่อนตวัดปัดดาวกระจายให้กระเด็นไป

           "เคล็ดวิชาสิงโตคำราม ไม่คิดเลยว่า เธอจะใช้วิทยายุทธ์ในดาบมังกรหยกเป็นด้วยน่ะ เอี่ยนลิ่วเฟย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการณ์เทอร่าสควอดอนจากเสฉวน ผู้ชนะเลิศการประลองในจีนแผ่นดินใหญ่เมื่ออายุ 14 ปี" มาสวาร์ทาร์กล่าว

          "โอ้ว ลุงคงจะฉลาดมากจนถึงขั้นที่เล่นงานเฮียโรนัลด์กับพวกเลยสิน่ะ" ลิ่วเฟยเปิดหน้ากากออกมา "แต่เกรงว่า พวกลุงคงจะสู้กระผมไม่ได้หรอกน่ะ เพราะคุณป้าไวโอเลฟเตรียมพร้อมไว้แล้วน่ะ" แล้วก็งัดเอากระบี่สองเล่มมา

          "แย่หน่อยนะ ที่พวกเราเองรู้ทันไว้แล้วละ" มาสวาร์ทาร์บอก

          "แย่แล้วละ อีกพวกมาจากทิศตะวันตก แถมมีเยอะมาด้วยน่ะ" บริคซ์กล่าว "ฟ้าวๆๆๆๆๆๆๆๆ ตึงๆๆๆๆๆๆๆ" โดยเหล่าทหารเทอร่าสควอดอนจำนวนหนึ่งโผล่ออกจากป่ามาตรงหน้าพวกเฟรดไว้ ซึ่งทั้งหมดมีตราธงไตรรงค์ด้วย

          "เห็นแล้ว เจ้าถิ่นคงไม่ปลื้มที่เรามาเหยียบแผ่นดินขวานทองของพวกเขาหรอกน่ะ" พีวิลกล่าว

          "สงสัยว่างานนี้คงต้องใช้ไม้หนักแล้วละมั่ง" สเปียริทบอก เพราะทหารไทยมากับชุดเกราะหนากันทั้งนั้น หากแต่มีตัวหนึ่งที่ทาสีชุดเป็นสีดำเข้มและประทับตราหัวควายไว้บนหน้าอกด้วยกัน

          "เออ ไอ้ตัวนี้คงเป็นตัวหัวหน้าเลยสิน่ะ" น็อกกี้กล่าว

          "ไม่คิดเลยน่ะ ว่าจะได้เจอพี่กันจริงๆน่ะ แม้ว่าพี่กับพวกจะดูไม่แก่ลงไปเลยน่ะ" จ่าฝูงกล่าวขึ้น

          นาเดียบอก "พี่นะหรือ ใครช่วยบอกได้มั้ย ว่ามันหมายความว่าไงกันน่ะ"

          "พี่สาวขายาวเองก็ด้วยสิน่า ไม่คิดเลยว่าพี่สาวกับพี่เฟรดจะไปไกลจากโลกเสียได้น่ะ" จ่าฝูงบอกพร้อมกับเปิดหน้ากากออกมา เผยใบหน้าของชายผิวเข้มที่อยู่หลังหน้ากาก "แย่หน่อย ที่พี่ทั้งสองเองดันผ่าเป็นเป้าหมายให้ผมกับพวกมาจับกุมกันได้น่ะ"

          เฟรดเปิดหน้ากากออกดู "ปากหนาๆ คิ้วโค้งเหมือนสะพานพุทธ นายคือคงเดชนะหรือ"

          "แม่นแล้วละ พี่ชาย ที่ยังจำผมได้ แม้จะเจอเพียงครั้งสองครั้ง หลังจากที่พี่เอาชนะลูกกำนันสุดโหดบนเวทีในงานวัดเมื่อ 24 ปีก่อนก็ตาม แย่หน่อย ที่เวลาผ่านไปทำให้ผมดูแก่กว่าพี่ตั้งเยอะน่ะ" คงเดชบอก

           เฟรดกล่าว "คุณยังไม่ได้บอกผมเลยสิครับ ว่าคงเดช เติบโตแล้วไปเป็นทหารฝ่ายสหพันธ์โลกใหม่น่ะ"

          "เรากะจะบอกนี้แหละ เฟรด แต่เทอร่าสควอดอนไม่เปิดโอกาสให้เราอธิบายได้นะสิ" เจเนลบอก

          พีวิลกล่าว "คงเดชน่ะ หลังจากที่เจอเธอไปแล้ว เขาได้มุมานะเรียนต่อจนเข้าเป็นทหารกองปืนใหญ่ที่สุโขทัย จากนั้นก็เข้าประจำการในกองกำลังเทอร่าสควอดอนภายใต้การนำของบราวน์เดค คราฟตัน โดยทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหน่วยฝ่ายเอเชียในเวลานี้แหละ"

          "คุณไม่น่ารีบบอกก่อนเลยน่า ร้อยเอกแอนเดอร์สัน แม้ว่าคุณจะช่วยพี่เฟรดกับพี่สาวขายาวไว้ก็ตาม" คงเดชบอก แล้วก็ "กึก" ปิดหน้ากากไว้ "แย่หน่อย ที่ผมทำตามคำสั่้งของนายพลไวโอเลฟให้มาควบคุมตัวพวกคุณทั้งหมดนี้ รวมถึงพวกพี่เฟรดที่ถูกเงาสยามทมิฬลักพาตัวมาที่นี้ ด้วยพลังของ.....คาราบาวผู้ยิ่งใหญ่นี้แหละ กองพันถึกควายทุย เทอร่าสควอดอน ลุย!!!!!" แล้วเหล่าทหารไทยประจำเทอร่าสควอดอนพุ่งด้วยเจ็ทบูสเตอร์กลางหลังและหลังขาตรงมาอย่างรวดเร็ว โดยใช้ข้อศอกและเข่าเข้าโจมตี

          "โต้ตอบสวนกลับเดียวนี้เลย" สเปียริทบอก

          "รับทราบ" เฟรด นาเดียและน็อกกี้กล่าวแล้วก็ "ฟอลคอนเบรค" พุ่งเข้า "ป้ากกกก" เสยแทงเข่าอัดหน้าทหารไทยจนหมวกหลุดพร้อมกับหน้าผากแตก แต่แอนตาซิลไม่จ่าย แม้กระทั่งทิฟฟี่ด้วย "เฮ้ยยย" ทหารไทยคนที่สองแทงศอกลงมา "หวับบบบบบ ฟ้าวววว" นาเดียถอยหลังหลบและกระโจนเข้า "ไฮย้า ศอกบั้งไฟบิน" แทงศอกอัดใส่ทหารไทยคนที่สองจนเกราะหน้าอกแตกกระจุยไป "เทอโบฟิสท์" น็อกกี้ต่อยปะทะศอกฝ่ายตรงข้ามจนข้อศอกขวาหัก แล้วก็ "ป้ากๆๆๆๆๆ" จับต่อยใส่ท้องอย่างต่อเนื่องพร้อมกับ "โครมมม" จับหัวกระแทกกับพื้น "โป้งงงงงงง ป้ากกกกก ป้ากๆๆๆ กร้องงง" พีวิลและเจเนลต่อกรกับทหารไทยจนล้ม โดยที่สเปียริทใช้พลองโต้ตอบทหารไทยที่ถือดาบและหอกจนล้มไป "คาราบาวสแมช" คงเดชพุ่งด้วยไอพ่นเจ็ทกลางหลังและหลังขาเข้าแทงเข่าใส่เฟรด "แฟ้ววววว โครมมมม" เฟรดรีบใช้แอคเซลเวสท์พุ่งหลบจนคงเดชแทงเข่าปะทะใส่ต้นไม้หักโค่นลง

          "นายจำและฝึกท่าพุ่งแทงเข่าของฉันได้แบบนี้ คงมีความพยายามดีละสิน่ะ" เฟรดบอก

          "ด้วยชุดเกราะที่ทางเทอร่าสควอดอนมอบให้นั้น คงจะชนะร่างไซบอร์คของพี่ได้บ้างละน่ะ" คงเดชกล่าว

          เฟรดบอก "เกรงว่าฉันใส่เกราะเหมือนกับพวกนาย หากแต่ของนายพัฒนาไปไกลกว่าก็เท่านั้นแหละ" แล้วก็ "ฟึ่บบบบ กร้องงง" ไขว้แขนเพื่อป้องกันการพุ่งแทงเข่าของคงเดชไว้จนปลิวกระเด็น "ฮึยยยย" เฟรดเลยถีบต้นไม้และดีดตัวเข้ามา "นาคราชสบัดหาง" หวดขาเตะก้านคอใส่คงเดชไป "กร้องๆๆ" สามทีเต็มแล้วรีบโดดออกมาก่อน

          "ไม่คิดว่าพี่อยู่ดาวอื่นจะคิดไม้ตายใหม่ที่นอกเหนือจากท่าเข่าเหินหาวได้น่ะ" คงเดชบอก โดยที่ตนขยับคอไปมา แม้จะรู้สึกเจ็บตรงคอข้างซ้ายไปบ้างก็ตาม

          "ก็นายเลียนแบบไปทีหนึ่งแล้วนิ มีหรือที่ฉันจะไม่คิดไม้ตายใหม่ๆมารับมือหากท่าของฉันโดนเล่นทางไปน่ะ" เฟรดบอก

          คงเดชกล่าว "งั้นพวกพี่คงต้องเสียแรงเปล่าแล้ว เพราะนายพลไวโอเลฟจะมาพร้อมกับควบคุมตัวพวกพี่แล้วน่ะ"

          "คิดว่าเราไม่รู้ทันแผนการของนายเลยหรือ ว่าพวกเราโดนล้อมแล้วจะไม่สามารถส่งใครไปทำซ่าได้น่ะ" พีวิลบอก

          สเปียริทกล่าว "แย่หน่อยน่ะ ที่เราดักทางไว้แล้วน่ะ"

          ยานเทอร่าครุยเซอร์ของไวโอเลฟ ได้เคลื่อนตัวมายังยานไทรแองเกิ้ลและสโตรม่ากริฟกันอยู่

          "ครืดดด แครดดดดด" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่เป็นพลขับยานกล่าว "ท่านนายพลครับ เออ มีสัญญาณรบกวนการสื่อสารระหว่างเราและหน่วยแนวหน้ากันนะครับ"

          ไวโอเลฟบอก "บราวน์ไดซ์ ตรวจหาตำแหน่งต้นตอเดียวนี้เลย" แล้วก็สั่งการให้ "เรดดิล บลูดัสท์ รีบลงจากยานเข้าจัดการกับเป้าหมายกันก่อนเลย"

          "รับทราบแล้วครับ/คะ" เรดดิลและบลูดัสท์นำเทอรอทโซลาร์ดและลูนาร์ด "ครืดดดด แกร็กๆ" ลงจากใต้ท้องยานโดยแขนกล ซึ่งปลดหุ่นทั้งสองตัวให้ลงไปยังสนามรบ "ซวบ ซวบ ซวบ ซวบ ซวบ ซวบ" ไม่ทันไร หน่วย OD89 ทั้งหกหน่วยโผล่ขึ้นมาจากป่า โดยที่อิชเชเตียนและฟาร์โอเวี่ยนปลดกำบังหุบเขาเล็กๆที่ปกคลุมออกมา "อิชเชเตียนบีมมมมม" "ปริซึมอายบีม" ฟูลออเรสและเมดิน่าเปิดนำด้วยการยิงลำแสงเข้าใส่เทอร่าครุยเซอร์จน "แว้งงงงง เปร้งงงงง ป้างงงงง" ยานเปิดสนามพลังป้องกันลำแสงขนาดใหญ่และเล็กสองเส้นไว้ได้ "ตูมมมม บรึมมมม"

          โอเปเรเตอร์รายงาน "บาเรียป้องกันได้ 94 เปอร์เซนต์ แต่บล็อกที่ 4 ถึง 6 ระเบิดตามนะคะ"

          "ฟ้าวววววว ฟิ้วๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆ" วิลด้าบินวนรอบยานพร้อมกับยิงฟาสท์แทรคมิไซล์เข้าใส่

          "โต้ตอบด้วยป้อมปืนต่อต้านอากาศยานเดียวนี้ และเตรียมยิงใส่ภาคพื้นด้วย" ไวโอเลฟกล่าว แต่ "ตรุ้ง ตรุ้ง ป้ากกก พรึ่บบบบ ป้ากกก แกร็กๆๆๆ เพล้ง" เบติสยิงไกลด้วยพาร์ทลองค์ซีจเจอร์ใส่ใต้ท้องยาน เพื่อจัดการกับป้อมปืนต่อต้านภาคพื้นและป้อมมิไซล์ให้หลอมละลายและถูกแช่แข็งไปด้วย

          "นายพลไวโอเลฟ" เรดดิลบอก

            ไวโอเลฟกล่าว "ไม่ต้องสนใจพวกเรา รีบไปหยุดพวกไทรเวเซอร์กันก่อนเลย" โดยตอนนี้ "ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ป้อมปืนต่อต้านอากาศยานระดมไล่ยิงใส่วิลด้า ซึ่งเธอรีบบินหลบกระสุนอย่างรวดเร็ว "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ ตรูมๆๆๆๆๆๆ" เบติสเองก็รีบหลบมิไซล์ถล่มภาคพื้นไปด้วย

          "รับทราบแล้วละครับ" บลูดัสท์บอก แล้วเขากับเรดดิลก็นำเทอรอทลงมา "ฟ้าววววววว เคร้งงงง" บลูดัสท์เข้าใช้เทอรอทโปรตอนอาร์มมูนลองค์ซอร์ดปะทะกับอาร์มิคไนฟ์ที่มิลด์ยกมาป้องกันไว้ ส่วนเรดดิล "โปรตอนอาร์ม ซันเบลด" ใช้ดาบใหญ่พลังโปรตอน "แคร้ง แชบบบบบบ เกร้งงงง" ปะทะกับโซลิดเบลดของไกซ์ที่ชักออกมาอย่างทันควัน โดยที่ไกซ์รีบสบัดดาบปัดออกไป "หวับบบ ป้ากกก" มิลด์เลยถีบลูนาร์ดให้ถอยออกมา

           "ไม่คิดเลยว่าจะมีทักษะการป้องกันตัวเองอยู่ มากกว่าทำหน้าที่เป็นพลปืนตลอดเลยน่ะ" ลูนาร์ดบอก โดยเวลาพูดนั้น ดวงตาทั้งสองกระพริบตาม

          "ฉันแค่โต้ตอบการบุกของคุณไว้ แม้จะมาจากหุ่นติดระบบเอไอผสมกับการควบคุมของยอดนักบินที่อยู่ในตัวคุณด้วยก็ตาม แต่ต่อให้เป็นหุ่นเอไอหนึ่งในสองตัวสุดท้ายที่เหลือรอดไปได้ ฉันคงไม่ยอมแพ้ไปได้หรอก" มิลด์กล่าว

           โดยบลูดัสท์บุกเข้าใส่ด้วยมูนลองค์ซอร์ดฟาดฟันใส่ "ขนาดเป็นแอนดรอยผู้ช่วยผู้กระทำความผิดเมื่อ 24 ปีก่อนยังรู้เช่นนี้ สงสัยคงต้องสู้กันอีกนานแล้วละ"

          "เกร้งงง เคร้งงง เคร้งงงง ป้ากกก" เรดดิลและไกซ์ปะดาบกันจนเธอต้องเสยหมัดใส่ แต่ไกซ์รีบถีบสวนกลับจนถอยผงะออกไป

          "ขนาดเป็นโคลนนิ่งของเอสไพล็อตฉาวโฉ่ยังแสดงความเก่งกาจแบบนี้ นายคงไม่ได้ครูดีมาสอนเลยสิน่ะ" เรดดิลบอก

           ไกซ์กล่าว "ฉันได้ครูดีมาสอนก็จริง แต่อย่างน้อยเธอคงมีครูที่นอกเหนือจากคู่หูของเธอละสิ"

          "ดูท่าว่าต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลที่ไม่อยากให้ใครรู้ถึงอาจารย์เลยสิน่ะ" โซลาร์ดบอก

          เรดดิลกล่าว "แต่เกรงว่า นายกับพวกคงต้องโดนจัดการแล้วละมั่ง" แล้วก็ "ฟ้าวววววว กร้องงงง" ใช้โลห์ไฮเพเรี่ยนชิลด์นัคเคิ้ลชกใส่ไกซ์ ซึ่งใช้ดาบโซลิดเบลดปัดรับไว้ ส่วนบลูดัสท์พุ่งซิกแซกไปมาพร้อมกับใช้ลองค์ซอร์ดฟันใส่ "เปรี้ยะๆๆๆๆ แชบบบ แชบบบ" มิลด์โต้ตอบด้วยอาร์มิคไนฟ์สองเล่มอัดพลังไฟฟ้าอย่างทันควัน แม้จะไม่ชำนาญเรื่องการสู้ประชิดตัวเท่าไกซ์เลยก็ตาม ทั้งคู่จึงรับมือกับเรดดิลและบลูดัสท์กันต่อ

          "ไม่ได้การแล้ว ฟูลออเรส เมดิน่า เล่นแรงใส่ยานรบสักหน่อยเถอะ" เบติสบอก

           ฟูลออเรสพยักหน้า เมดิน่ากล่าว "หวังว่า คงจะไม่สร้างความเสียหายจนมีคนตายกันบ้างน่ะ" แล้วก็ "ปริซึมสไลเซอร์" ซัดบูมเมอแรงผลึกพุ่งขึ้นไป "หวับๆๆๆๆๆ เกร้งๆๆๆๆๆ" ไถลใส่เทอร่าครุยเซอร์ ซึ่งรีบกางบาเรียป้องกันไว้จนแตกร้าว "ซัดเด้นนัคเคิ้ล" ฟูลออเรสซัดหมัดจรวดความเร็วสูงพุ่งเข้า "ป้ากกก เพล้งงงง ฟ้าวววว เปรี้ยงงงง" เสยตรงปีกยานด้านซ้ายจนพังทะลุไป

          "ตะกี้นี้ เสียงมันอะไรกันน่ะ" เจย์เดนได้ยินเสียงดังมาแต่ไกล

          จูอินกล่าว "เดียวสิ ยานเทอร่าครุยเซอร์ของนายพลไวโอเลฟนิน่า" แล้วหันมายังพวกโฟรซ่า "อย่าบอกน่ะ ว่าพวกนายส่งหน่วยโมบิลลอยด์ไปดักทางไว้น่ะ"

          "คิดว่าเราไม่รู้แผนการของนายพลไวโอเลฟที่ส่งพวกนายบุกเข้าจู่โจมพวกเราแบบล้อมกรอบ เพื่อขวางมิให้พวกเราส่งพวกโมบิลลอยด์ออกจากยานไปหยุดยั้งพวกนายพลไวโอเลฟได้น่ะ" สเตฟอร์ดบอก

          มาสวาร์ทาร์กล่าว "อีกอย่าง กำลังพลของพวกคุณบุกเข้ามาเป็นจำนวนมากด้วยแล้ว ถ้ายานของพวกคุณถูกสอยก่อน นอกจากพวกคุณจะเสียเทอร่าทรูปเปอร์และเทอรอททรูปเปอร์ที่อยู่ในยาน เผลอๆ บุคลากรที่เป็นญาติและเพื่อนพ้องนับร้อยเองจะพลอยซวยไปด้วยเลยน่ะ"

          "เอาไงกันดีละ ลุง เพราะนายพลไวโอเลฟเหลือแค่เรดดิลและบลูดัสท์อยู่น่ะ" ลิ่วเฟยบอก

          คงเดชได้ฟังก็ตอบไปว่า "ยุติการปิดล้อม แล้วรีบไปช่วยเทอร่าครุยเซอร์โดยเร็วเลย"

          "แต่ หัวหน้า เราเกือบจะไล่ต้อนไปได้แล้วนะครับ" ทหารชาวไทยใต้บังคับบัญชาของคงเดชกล่าว

          คงเดชตอบ "พวกเราพลาดเองที่คิดว่าเราจะปิดล้อมพวกไทรเวเซอร์ไว้ โดยมิได้รู้เลยว่า พวกเขาโต้ตอบด้วยการวางกำลังซ่อนไว้อีกด้วย" แล้วก็บอก "อีกอย่าง ถ้าเราเสียยานและนายพลไวโอเลฟไปละก็ ต่อให้เราปฏิบัติภารกิจสำเร็จได้จริง เราจะเสียมากกว่าที่เราคิดไว้เลยน่ะ เว้นเสียแต่ เรายอมเสียโอกาสทองนี้เพื่อโอกาสปะทะครั้งต่อไปกันนี้แหละ"

          "มันก็จริงอยู่นะคะ เพราะพวกเราส่วนมากล้วนสาหัสด้วย ถ้าไม่มียาน เท่ากับว่าเราต้องไปสถานพยาบาลที่อยู่ไกลมากแน่ๆน่ะ" กุนทรีกล่าว

          คงเดชมองมายังเฟรดซึ่งตั้งท่าเตรียมสู้ไว้ "ยกนี้ พี่ชายกับพวกโชคดีมากน่ะ ที่รอดมาได้ แต่โอกาสหน้า คงไม่อ่อนข้อให้แล้วละ" แล้วก็บอก "ทุกหน่วย พาคนเจ็บตรงไปที่ยานก่อนเลย พวกที่ยังดีอยู่ คุ้มกันไว้ เผื่อมีการตลบหลังด้วย"

          "รับทราบครับ/คะ" ทั้งหมดกล่าวแล้วรีบล่าถอยออกไปกันหมด คงเดชเลยพาสมาชิกเอลีททเวลฟ์สี่คนถอยตามไปด้วย

          คลอเวฟบอก "ดูท่าว่า เราจะวัดดวงสำเร็จแล้ววะ"

          เนคมาดูซัมพยักหน้า "ลุงเบติส ป้าวิลด้า ยานรบของนายพลไวโอเลฟเจ็งมากแค่ไหนละ"

          "เราแค่ทำให้กราบยานทั้งสองข้างและปีกขวาของยานพังไว้แล้ว ซึ่งก็ทำให้กัลสตาร์ซีโร่รีบกลับไปซ่อมแซมยานโดยเร็ว ตามที่คาดการณ์ไว้แล้วละ" เบติสบอก

          เนคมาดูซัมกล่าว "ดี งั้นพวกลุงรีบกลับยานมาได้เลย" แล้วก็แจ้งให้ "เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการณ์ทั้งหมด ขึ้นยาน เตรียมถอนตัวเดียวนี้เลย"

          "ดูท่าว่า พวกไทรเวเซอร์จะโต้ตอบการบุกของพวกเธอกันเสียแล้วสิน่ะ" บราวน์เดคติดต่อเข้ามาหาไวโอเลฟ ซึ่งตอนนี้ได้นำยานมาจอดในป่าห่างจากจุดจอดเดิมของพวกไทรเวเซอร์ไปอีก 45 กิโลเมตร

          ไวโอเลฟพยักหน้า "ที่ถูกนั้น พวกเขาเดาทางพวกเราได้ต่างหากละคะ ว่าเราจะใช้กำลังคนในการปิดล้อมพวกไทรเวเซอร์ไว้ เพราะแน่ใจว่าพวกเขาคงสู้ฝ่ายเราไม่ได้แน่ๆน่ะ"

          "พ่อน่าจะอนุมัติให้ผมออกไปร่วมรบในแนวหน้า มากกว่ามาคุมหางเสือยานกันบ้างน่า" บราวน์ไดซ์บอก

          บราวน์เดคส่ายหน้า "คราวก่อนลูกเกือบโดนพวกเฮซเทิร์ซไล่ฆ่าไปแล้วทีหนึ่ง ยังไม่เข็ดเลยหรือ บราวน์ไดซ์" แล้วก็บอก "อีกอย่าง พวกเขาคงรู้ว่าฝ่ายเราคงไม่อยากจะให้คุณและลูกเรือที่อยู่ในยานต้องพลาดพลั้งด้วย เลยส่งหน่วยเพียงเล็กน้อยมาสร้างความเสียหายให้กับยานของพวกคุณ จนบีบให้กำลังรบส่วนมากรีบกลับมาช่วยโดยเร็ว จนเปิดช่องให้พวกไทรเวเซอร์หนีไปได้น่ะ"

          "สมแล้วที่เป็นกองกำลังหัวหอกของฝ่ายสหพันธมิตรแมนิเกเตอร์เลยน่ะ ถ้าพวกเขาหลอกล่อให้พวกคุณออกห่างไปได้ พวกเขาก็หาทางเอาตัวรอดได้เช่นกันน่ะ" ไวโอเลฟบอก "คิดว่าพวกเขาจะหนีเข้าแผ่นดินใหญ่ต่อหรือเปล่าละคะ"

          บราวน์เดคกล่าว "ทางเดียวที่พวกเขาหนีไปได้นั้น คือเกาหลีและญี่ปุ่นเท่านั้นแหละ ซึ่งล้วนแล้วมีคนของเราอยู่ทั้งนั้นแหละ"

          "ดีแล้วละ ที่ฉันให้เทนยะอยู่ที่ญี่ปุ่นเอาไว้ เผื่อพวกไทรเวเซอร์ลี้ภัยหนีเข้ามาได้น่ะ" ไวโอเลฟกล่าว "เพียงแต่ เราต้องใช้เวลาเพียง 2-3 วันในการซ่อมแซมยานให้กลับมาตามเดิม แม้นั้นหมายถึงจะทำให้พวกไทรเวเซอร์หนีไปได้ก็ตามนะคะ" บราวน์เดคพยักหน้า

          บราวน์ไดซ์บอก "ว่าแต่ พ่อจะให้พวกจูดิธมาสมทบเลยมั้ยละครับ"

          "หลังจากที่พวกเขาเขียนรายงานเสร็จ พวกเราจะมุ่งหน้าไปสมทบกันได้เลย แม้จะมาถึงช้าหน่อยก็ตามน่ะ" บราวน์เดคบอก แล้วก็ถอนใจขึ้นมา "ไม่คิดเลย ว่าเราต้องมาเสียท่าให้กับพวกไทรเวเซอร์ตั้งสองครั้งแล้วน่ะ"

          ไวโอเลฟพยักหน้า "สงสัยว่าเราต้องพิจารณาเรื่องจัดการกับพวกไทรเวเซอร์แล้วละคะ"

          ส่วนยานไทรแองเกิ้ลและยานสโตรม่ากริฟ ได้บินไปกบดานกันที่เกาะเชจู เกาหลีใต้

          "ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าเด็กที่นายเจอตอนอยู่บ้านเกิด ดันโตขึ้นมาเป็นปัญหาตัวใหญ่ในตอนนี้ไปเสียได้น่ะ" น็อกกี้บ่น

          เฟรดกล่าว "ก็ฉันไม่รู้นิ ว่าคงเดชจะก้าวเดินเส้นทางเป็นทหารไปเสียได้น่ะ"

          "แต่อย่างน้อย แผนที่พวกลูกพี่วางไว้นั้นได้ผลก็ถือว่าดีพอแล้วละ" ไกซ์กล่าว

           ไลเอิร์ทบอก "แน่ละ เพราะว่าพวกเราส่วนใหญ่อ่อนแรงจากการไล่ฟันพวกมือสังหารในเชียงใหม่มา พวกอาจารย์เลยต้องใช้แผนการโต้ตอบยานรบของฝ่ายตรงข้ามไว้นี้แหละ"

          "นั้นสิ ถ้าพวกเราไม่พลาดท่าถูกลักพาตัวมาเสียก่อนน่ะ" แฮรี่บอก

          แจ็สกล่าว "แต่พวกมือสังหารมันรู้ได้ไง ว่าพวกเราอยู่ที่ดาวแคสเซรอน-4 ทั้งๆที่พวกศัตรูที่ส่งตรงจากโลกมาไม่ถึงพวกเราน่ะ"

          "เกรงว่าพวกเงาสยามทมิฬจะได้รับคำสั่งแบบนี้มานะสิ" เมดิน่าส่งแพดข้อมูลมาแล้วก็กดปุ่ม เพื่อเปิดภาพโฮโลแกรมชายผมบลอนด์

          "เมย์ มาร์ตินอยู่ในเขตเมืองเฟิร์สฮิลล์ ซึ่งมีทหารแมนิเกเตอร์จากดาวแรซัลก้าคุ้มกัน ไม่เหมาะที่จะเสียกำลังคนไปโดยใช่เหตุ ไม่ว่าจะเสียชีวิตหรือถูกจับกุมเลยก็ตามน่ะ" ชายผมบลอนด์กล่าว

          "แล้วจะให้ทำเช่นไรละ คงไม่ใช่ให้ไปลักพาตัวเธอด้วยการปลอมเป็นทหารละสิ" อีกเสียงซึ่งเป็นเสียงของหัวหน้าองค์กรบอก

          ชายผมบลอนด์บอก "เมย์ มาร์ตินแต่งงานกับแดเนียล มาร์ติน ลูกน้องของเฮลิค นอร์มังดี ซึ่งเป็นซุปเปอร์โซลเยอร์ที่เก่งกาจ จนมีลูกนามเฟรด มาร์ตินอยู่ ตอนนี้ ลูกชายเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยลับของแดเนียล ผู้เป็นพ่อไว้ แน่นอน ว่าเขามีเพื่อนพ้องที่เก่งกาจอย่างมาก และมีประโยชน์มากกว่าเมย์ มาร์ตินเสียอีกน่ะ"

          "ได้แม่ไม่ได้ ขอแค่ตัวลูกมาก็ดีแล้วละ" หัวหน้าองค์กรบอก "แล้วลูกมันอยู่ไหนละ"

          ชายผมบลอนด์กล่าว "นี้คือพิกัดที่ใช้กับประตูมิติไว้ ขอแค่ส่งมือสังหารมือเยี่ยมพร้อมกับปืนช็อตไฟฟ้า เข้าจัดการกับเฟรดและพองเพื่อน แล้วนำตัวมาที่นี้โดยเร็ว อย่างน้อย ท่านก็มีบุคคลากรที่ดีกว่าเมย์ มาร์ตินตั้งสิบคนเลยน่ะ"

          "ระยำมากเลยน่ะ แล้วไอ้ชายผมบลอนด์นั้นมันอยู่ไหนกันละ" น็อกกี้โวยลั่น

          ไกซ์กล่าว "เกรงว่านายคงไปเอาเรื่องกับชายผมบลอนด์นี้ไม่ได้หรอกน่ะ เพราะ เขาคือเกซิค ผู้คุมกฎของโอเวอร์เดส ซึ่งรอดพ้นจากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนี้แหละ"

          "แถมตอนนี้ ไอ้เกซิคอะไรนั้น ดันผ่าเป็นผู้นำของฝ่ายสหพันธ์โลกใหม่เสียด้วย ถ้าเราหรือพวกนายไปหาเรื่อง ย่อมหมายถึงเราติดกับของเกซิค ที่ได้ใส่ไฟให้มนุษย์โลกเกลียดชังพวกเราให้พร้อมใจเป็นกำลังรุกรานอีสทาล่าฟรอนเทียร์ได้แน่นอนน่ะ" ฟลาแน็กซ์บอก "ที่สำคัญ มาตราการป้องกันภัยคุกคามโลกอยู่ในระดับ 3 ถ้าผ่านระดับ 5 ขึ้นไป พวกเราจะโดนสถานีอวกาศยิงเลเซอร์เป่าใส่ยานได้ในทันทีเลยน่ะ"

          ฟูลออเรสบอก โดยนำภาพสถานีอวกาศบนวงแหวนวงโคจร ซึ่งมีปืนใหญ่ยิงลำแสงอยู่ใต้สถานีและด้านข้างด้วย นิคบอก "แล้วสถานีดังกล่าวนั้น มียิงใส่ภาคพื้นไปแล้วหรือยังละ"

          "มี นายพลเชอริตัลยิงถล่มใส่สถาบันลับด้านหลังนครหลวงของแทแรนเซีย จนทำให้ ดร.เดลวีแองนูที่ควรจะเสียชีวิตไปแล้วนั้น เสียชีวิตไปจริงๆเลยน่ะ" มิลด์บอก

          คีธกล่าว "ดร.เดลวีแองนู พ่อของคุณแอนเดรียนะหรือ เออ เรื่องมันยังไงกันแน่ละ" แล้วฟูลออเรสและพวกเลยต้องเล่าเรื่องให้ฟังทั้งหมด

          "แทแรนเซียไม่น่าหาเรื่องนำความเดือดร้อนมาให้เลยนะ ถึงแม้จะอ้างว่าการกักซากของโอเวอร์เดสไว้นั้น เป็นการควบคุมอาชญากรสงครามไว้ก็ตามทีน่ะ" มาริกล่าว "แล้วตอนนี้....คุณแอนเดรียส่งศพดร.เดลวีแองนูกลับประเทศแล้วละสิ"

           เทรอนเร็กซ์บอก "บ้านเกิดพ่อของครูแอนเดรียที่รัสเซีย มีทหารฝ่ายสหพันธ์โลกใหม่ประจำการอยู่เยอะ พวกครูเลยต้องนำเถ้ากระดูกของพ่อครูแอนเดรียไปโปรยที่หุบเขาเอเวอเลส เพื่อให้อยู่กับดร.รีไลฟ์เวอรี่เองนะ เจ้"

          "แบบนั้นก็ดีแล้วละ เพราะอย่างน้อย เราก็ให้ดร.เดลวีแองนูอยู่กับเพื่อนเก่าของเขาได้นี้แหละ" แฮรี่กล่าว

          แด็กซ์บอก "แต่ไม่รู้ว่าพวกคุณพีวิลจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีละสิ"

          "บอกตามตรงน่ะ ว่าพวกนายลำบากไม่น้อยกับการที่พวกเทอร่าสควอดอนไล่ต้อนพวกนายกันได้เลยนะ" บัลโต้บอก โดยที่พวกพีวิลติดต่อไปที่แคสเซเดี่ยน-3 ด้วยช่องทางสื่อสารที่โปรเทคไว้แล้ว

          เพอซิอัสบอก "จริงอยู่ที่พวกเธอเลือกส่งพวกเบติสลงไปหยุดยานรบที่มีกำลังรบเพียงแค่ 2 หน่วยจนทำให้กลุ่มที่ล้อมกรอบพวกเธอนั้นต้องล่าถอยไปได้ก็จริง แต่ถ้าพวกเทอร่าสควอดอนมีกำลังหนุนเป็นโมบิลทรูปเปอร์หลายเครื่องกันละก็ เกรงว่าแผนของพวกเธอคงล้มเหลวแน่นอนน่ะ"

          "เราทราบดีครับ ว่าเราอาจจะล้มเหลวจากการเตรียมพร้อมของนายพลไวโอเลฟที่คาดไม่ถึงเลยก็ตาม เราจึงหวังว่านายพลไวโอเลฟรีบไล่จับพวกเราโดยไม่เตรียมพร้อมในเรื่องกำลังรบให้ดีพอเลยนะครับ" มาสวาร์ทาร์บอก

           เนคมาดูซัมกล่าว "เรายอมเสี่ยงวัดดวงและลงมือทำ ดีกว่าอยู่นิ่งตกเป็นเป้าแล้วถูกจับกุมกันได้นะครับ ท่านนายพล"

          "ถ้าไม่เพราะว่าตอนนี้พวกเธออยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากมากเลยก็ตามน่ะ คราวหน้าพวกเธอต้องเตรียมพร้อมรับมือให้ดีกว่านี้หน่อยน่ะ" เพอซิอัสบอก

          บัลโต้กล่าว "ตอนนี้หน่วยรบวิหคและสติลลิมบ์ปลอดภัยดีใช่มั้ยละ"

          "ทุกคนปลอดภัยดีหมดนะครับ ผบ.บัลโต้ แม้ว่าพวกเขาจะช่วยเราในการโต้ตอบฝ่ายตรงข้ามกันได้เลยก็ตาม" พีวิลบอก "แต่จากรูปการณ์ในตอนนี้ เราจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยพวกแคร์เรี่ยน หน่วยรบวิหค สติลลิมบ์และพวกลิ่วเซียงออกไปจากโลกนี้โดยเร็วที่สุด ก่อนที่เทอร่าสควอดอนหรือกองกำลังสหพันธ์โลกใหม่จะจับตัวหรือจัดการกับพวกเขาได้นะครับ"

          บัลโต้ได้ฟังก็บอกไปว่า "ว่าแต่ ลิ่วเซียงรู้ที่ตั้งเกาะลับของไวส์ไมเซลได้หรือยังละ"

          "น่าจะรู้นะครับ เพราะแม้พวกเขาจะออกจากเกาะไปตั้ง 20 กว่าปี พวกเขาก็ต้องจำทางได้แน่นอน" สเตฟอร์ดบอก "อีกอย่าง เรายังมีพวกอากาชิคอยู่ จึงน่าจะช่วยนำทางไปยังเกาะนั้นได้ละครับ"

          บัลโต้กล่าว "แบบนั้นก็ดีแล้วละ เพราะ วูลลิเซียให้ทางแก้ปัญหากับพวกนายไว้แล้ว แม้ว่านี้จะเป็นวิธีที่เหลือเชื่อเอามากๆ แต่ยังดีกว่าเราไม่มีทางแก้ใดๆเลยน่ะ"

          "ว่าแต่ ทางแก้ที่ว่านั้น มันคืออะไรละครับ" พีวิลถาม

          บัลโต้บอก "เราจะย้ายทั้งหมู่เกาะจากโลก ไปสู่ดาวแคสเซเดี่ยน-3 กันนะสิ ใช่ หมู่เกาะของไวส์ไมเซล ที่ใช้สร้างพวกสัตว์เทพนิยาย เพาะเลี้ยงไดโนเสาร์ และเป็นที่ตั้งของพวกพี่น้องของพวกบรอนเซอรูทนั้น ทั้งหมดต้องออกจากโลกกันเดียวนั้นแหละ"

          "เออ ผบสส.บาโธโรมิว คุณพูดเหมือนกับว่า ทางเลือกนี้ทำได้ละสิน่ะ" เพอซิอัสกล่าวอย่างกังวลและทึ่งไปไม่น้อย

          บัลโต้บอก "ถ้าขนาดตาแก่วอลเดน ใช้การโยกย้ายเกาะลับของตนเองจากแรซัลก้ามายังแคสเซเดี่ยน-3 ได้ มีหรือ ที่พวกเราจะไม่ทำเช่นนั้นได้ เพราะขนาดเราสามารถโยกย้ายเวลเซน่าเดิมทั้งหมดให้เข้ามามาอยู่ในเอ็กโซดัสอาร์คได้เลยน่ะ"

          "คุณคงไม่ได้คิดที่จะ ใช้การเทเลพอร์ตทั้งหมู่เกาะไปเลยละสิคะ" แอนเดรียบอก

          บัลโต้กล่าว "ถ้าขนาดพวกนายสามารถเทเลพอร์ตย้ายเรือชั้นแคร์แลนด์สามสิบลำจากเบอมิวด้ามาหาพวกเราได้ มีหรือที่พวกนายจะไม่ทำเช่นนั้นได้น่ะ" แล้วก็บอก "แม้ว่านี้เป็นเรื่องบ้าๆที่เป็นไปไม่ได้เลย ที่จะทำเช่นนั้นได้จริง แต่ถ้าพวกนายออกปฏิบัติการณ์โดยมีทั้งพวกลิ่วเซียง พวกกองกำลังหลังฉากสองหน่วยที่ไม่มีโมบิลลอยด์ แล้วก็พวกแคร์เรี่ยนกันมากกว่า 5 รอบขึ้นไป กลัวว่าพวกนายคงแย่แน่นอนน่ะ"

          "ผบ.พูดมาก็มีเหตุผลนะครับ ยิ่งตอนนี้เรายั่วโมโหพวกเทอร่าสควอดอนตั้งสองครั้งแล้ว ครั้งต่อไป พวกเขาเล่นหนักแน่นอน" เนคมาดูซัมบอก "ว่าแต่ แผนนี้จะทำเช่นไรดีละครับ"

          บัลโต้กล่าว "ฉันจะส่งรายละเอียดแผนการและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พวกนายแล้ว แน่นอน ว่ามินอร์ตี้และพวกอีธานอยู่กับพวกนายนั้น ต้องจัดการกับเรื่องนี้ได้แน่นอนน่ะ" โดยตอนนี้มีแฟ้มข้อมูลเข้ามาแล้ว

          "ไหนดูสิ สเตซิสสเฟียร์เจเนเรเตอร์ เทเลพอร์ตเตอร์ทริปเปิ้ลเอ็กซ์แอลไทป์ ไฮเปอร์ไดร์ฟยูนิต แล้วก็ เนวิเกเตอร์รีซีฟเวอร์ด้วยน่ะ" เจเนลบอก

          แอนเดรียกล่าว "เทเลพอร์ตเตอร์นั้นมีไว้เพื่อโยกย้ายเกาะออกจากโลก โดยใช้ไฮเปอร์ไดร์ฟยูนิตเป็นตัวขับเคลื่อน เนื่องจากว่าโลกอยู่ห่างจากแคสเซเดี่ยน-3 กันอย่างมาก เลยต้องใช้รีซีฟเวอร์เพื่อช่วยนำทางหมู่เกาะเหล่านั้นมาถึงที่หมาย แล้วก็สเตซิสสเฟียร์เจเนเรเตอร์นั้น สร้างฟิลด์รักษาสภาพของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในเกาะ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการเคลื่อนย้ายผ่านห้วงมิติในระยะทางไกลได้ ซึ่งแต่ละอย่างนั้น ใช้พลังงานไม่น้อยเลยละคะ"

          "และอุปกรณ์แต่ละอย่างนิ ล้วนหาอุปกรณ์ได้ยากทั้งนั้นน่ะ" สเปียริทบอก

          บัลโต้กล่าว "ภาวนาว่าพวกริดิวิเนี่ยนคงจะเหลือโกดังอุปกรณ์ลับที่อยู่บนโลก ซึ่งยังไม่ถูกพวกเฮซเทิร์ซทำลายทิ้งไปได้ละน่ะ" แล้วก็บอก "หวังว่าพวกนายคงตระเตรียมแผนการไว้พร้อมบ้างน่ะ"

          "พวกเธอเองก็อย่าปฏิบัติภารกิจพลาดอีกแล้วกันน่ะ" เพอซิอัสกล่าว "แคสเซเดี่ยน-3 ยุติการติดต่อ" แล้วโฮโลแกรมของบัลโต้และเพอซิอัสดับลง

          คลอเวฟกล่าว "ถึงผบ.บัลโต้ไม่บอก ยังไงเราต้องใช้แผนนี้จนได้สิน่ะ"

          "หากแต่ คราวก่อน เราโยกย้ายเรือทุกลำออกจากฐานใต้น้ำไปส่งที่เวลเซน่า ซึ่งมีระบบเทเลพอร์ตระบุปลายทางไว้ที่นั้นไว้น่ะ" โฟรซ่ากล่าว "มาคราวนี้ เรามีหมู่เกาะที่ต้องโยกย้ายจากโลกไปสู่ดาวของเราเช่นนี้ คงเป็นงานช้างแน่ๆเลยละ"

          แอมเบอร์บอก "ว่าแต่ เราพอจะส่งโดรนไปตรวจสอบหาได้มั้ยละคะ"

          "เราใช้โดรนส่วนมากไปกับการหลอกล่อพวกเทอร่าสควอดอนฝั่งยุโรปกันแล้วน่ะ แอมเบอร์ ถ้าเราใช้อีก เกิดสหพันธ์โลกใหม่ส่งกองทัพอากาศมาสอยร่วงขึ้นมาละ" สเปียริทบอก

          พีวิลบอก "เราก็ต้องให้พวกลิ่วเซียงนำทางให้ก่อน เพียงแต่ เราต้องเช็ควัตถุดิบสำหรับสร้างเครื่องมือแต่ละอย่างไว้ด้วยน่ะ"

          "ดีเหมือนกัน แม้นั้นจะเป็นการซื้อเวลาให้พวกเทอร่าสควอดอนเจอตัวพวกเราก่อน แต่เราคงเลี่ยงการปะทะไปไม่ได้อยู่ดีน่ะ" เนคมาดูซัมบอก "แอมเบอร์ ช่วยเรียกคุณอีธานและคุณมินอร์ตี้ขึ้นมา เราต้องหารือเรื่องอุปกรณ์เหล่านี้สักหน่อย"

          แอมเบอร์พยักหน้า "รับทราบแล้วละคะ"

          ด้วยแผนการอันแยบยลของพวกไทรเวเซอร์ ที่ซื้อเวลาให้พวกเขารอดพ้นการตามล่าของพวกเทอร่าสควอดอนฝั่งยุโรปไป จนพวกเขาได้นำตัวพวกพี่น้องของพวกบรอนเซอรูท ซึ่งเป็นรุ่นที่สองมาได้ แต่ด้วยเหตุไม่คาดคิดอย่างการลักพาตัวสติลลิมบ์และหน่วยรบวิหคมาที่โลกนั้น ทำให้การปฏิบัติภารกิจของพวกไทรเวเซอร์หนักหนามากขึ้น หลังจากที่ผ่านการปะทะกับเทอร่าสควอดอนฝั่งเอเชียมามาดๆ เลยก็ตาม แต่พวกเขายังจะสู้ต่อไปอีก

โปรดติดตามในตอนต่อไป กับตอนที่ 21 ยุทธการลับบนโลก ขั้นที่ 6 พักร้อนที่แดนอาทิตย์อุทัย ไฟท์ใหญ่ใกล้หุบเขาฟุจิ
ตอนหน้า หลังจากการปฏิบัติการณ์บุกฐานทัพในเขตเอเชียอย่างหนักหน่วง ไทรเวเซอร์จึงมุ่งหน้าไปเที่ยวออนเซน แม้มาสวาร์ทาร์และมาริจะมีเรื่องในครอบครัวที่ต้องสะสาง จนมีการปะทะกับเทอร่าสควอดอนกัน แต่...เหล่านักรบอีเนอไมนด์และครอสตรีมรุ่นใหม่บุกเข้ามาหาเรื่องกับพวกเขากัน