ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Triveser Manigator Saga: HyperStar Trooper

    ลำดับตอนที่ #76 : ตอนที่ 28 ศึกดวลเดือด ไทรเวเซอร์ปะทะเอฟซีตรอน โฉมหน้าที่แท้จริงที่คาดไม่ถึง และการเสียสละอันยิ่งใหญ่อีกครั้ง พาร์ทแรก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 24
      0
      22 ก.ค. 63

              ภายในฐานทัพของพวกเอฟซีตรอน เวลา 2 ทุ่มครึ่ง
              "ทางซ้ายเคลียร์" พีวิลกล่าว โดยส่ายปืนอาร์มชู้ตเตอร์ไปยังฝั่งซ้าย
              เช่นเดียวกับ "ฝั่งขวาเคลียร์" ลิเนียร์ตี้กล่าว โดยที่เธอเช็คอีกทางหนึ่ง "ในฐานทัพไม่มีทหารเอฟซีตรอนอยู่เลยสักนายน่ะ"
              "พวกนี้คงไม่อยู่ในฐาน เพื่อให้เราสอยร่วงกันไปได้หรอกน่ะ" คลอเวฟกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "คงมีแต่พวกที่อยู่ข้างนอก ซึ่งกำลังรบกับพวกผบ.บัลโต้และพวกสเตฟอร์ดกันเท่านั้นเอง ดังนั้น ภายในฐานทัพ คงมีแต่นายพลกาโกรินและสมาชิกตัวหลักเท่านั้นน่ะ" แล้วก็หลับตาลง ก่อนจะลืมตาขึ้น "ฉันรู้สึกได้ถึงพลังของดาบอังเซนคิของโทชิอิ อยู่ภายในฐานทัพแห่งนี้แหละ"
              "ฐานทัพแห่งนี้ ไม่เพียงสร้างเหล่าทหารโคลนของโฟมเมคขึ้นเพื่อใช้แก้แค้นพวกเรากันอย่างเดียว แต่ฉันรู้สึกได้ว่า ฟูมดาห์ไคท์ คงต้องใช้ที่นี้ฟื้นฟูพวกเวมท็อกซินกันแน่ๆ เพราะฉันรู้สึกได้ถึงจิตสังหารของมันเลยน่ะ" แอบไบออสบอก
              เจเนลบอก "เดรฟมัสค์ด้วย จากรูปการณ์ในตอนนี้ กาโกรินคงให้มันมาเพื่อเชือดพวกเราเรียงตัวแน่นอน เพราะว่าอาครีม่าหรือเดรฟมัสค์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อฆ่าแมนิเกเตอร์ไทป์ต่อสู้โดยเฉพาะเลยน่ะ"
              "ยัยมิสตี้คงจะรอเล่นงานพวกเรากันแน่ๆ" โฟรซ่าบอก
              สเปียริทกล่าว "ถึงเวลาที่รุ่นพี่อย่างเราต้องสั่งสอนรุ่นน้องตัวดีผู้นี้กันเสียแล้วน่ะ"
              "ตอนนี้ รุ่นพี่สตีฟ พลัสเชอริท จายด์และฟิเกซอยู่ขัดขวางพวกทหารไฮบริดจ์กันแล้ว ดังนั้น พวกเราเองก็ต้องระวังตัวไว้ให้มากแล้วกันน่ะ" พีวิลบอก
               เนคมาดูซัมบอก "พีวิลพูดถูกแล้ว เรื่องจับกุมนายพลกาโกรินนั้นสำคัญ แต่เรื่องรับมือกับลูกน้องของกาโกรินเอง ก็ไม่ควรพลาดด้วยเช่นกันน่ะ" แล้วก็บอก "แม้เราจะไม่มีแบบแปลนภายในฐานทัพนี้ กาโกรินต้องอยู่ชั้นบนสุดอย่างแน่นอน"

              "งั้นพวกเรารีบไปกันดีกว่า" มาสวาร์ทาร์กล่าว แล้วทั้งหมดก็วิ่งไปตามทางกัน
              "แฟ้ววววววววว" ไม่ทันไร ตะกวดคอยาวพุ่งออกจากมุมทางเดินเข้าใส่แอนเดรีย "เคร้งงงงง" แอบไบออสใช้โบนเซเบอร์ง้างปากไว้ "สิบเอก" พีวิลตะโกนลั่น
              "ดูท่าว่า ฟูมดาห์ไคท์ชิงลงมือกันแล้วละ พวกเรา" แอบไบออสบอก โดยพยายามใช้เล็บเท้าจิกพื้น แต่หัวตะกวดกลับดึงตัวแอบไบออสให้เข้ามา "ร้อยเอก ทุกๆคน รีบล่วงหน้าไปก่อนเลย" แอบไบออสกล่าว
              พีวิลพยักหน้า "ระวังตัวด้วยละครับ สิบเอก" แล้วแอบไบออสก็ "เหวอออ" ถูกดึงหายไป โดยถูกดึงเข้ามา "ฟ้าวววว หวับๆๆๆๆๆ ตึก" อยู่ในห้องกว้าง ซึ่งแอบไบออสรีบตีลังกาลงพื้นโดยเร็ว หลังจากที่หัวตะกวดสบัดแอบไบออสให้กระเด็นไปแล้ว
              "เหอะๆๆๆๆๆ สมแล้วที่เป็นเดธเทน ผลงานชิ้นเป้งของเวสเทรซ แม้ว่าแกไม่ได้ควบคุมคู่หูของแกมาด้วยเลยก็ตามน่ะ" ฟูมดาห์ไคท์กล่าว โดยที่แขนข้างซ้ายเป็นหัวตะกวดคอยาวที่ยืดกลับมา "กึกๆๆๆๆ ครี้ดดดด" กลายสภาพเป็นแขนตามเดิม
              "ดูจากรูปร่างของตะกวดงูคอยาวที่ดึงฉันเข้ามาหาแกนั้น แสดงว่า แกเองสิน่ะ ที่เล่นงานพวกเวโนมิไนซ์วัยรุ่นแสบในป่ากันน่ะ" แอบไบออสกล่าว
              "ฉันแค่ส่งข้อความไปให้ทรอลลอฟและพวกเวโนมิไนซ์ที่ลอร์เดเซรอธรับทราบถึงการกลับมาของพวกเราแล้วนะสิ แม้ว่าฉันต้องลงมือปฏิบัติการณ์แบบไม่ให้ใครเห็นตัว ภายใต้คำสั่งของท่านกาโกรินที่ช่วยคุ้มครองฉันไว้เลยก็ตาม ถ้าเพื่อให้ฉันมีโอกาสฟื้นฟูเผ่าพันธุ์ของฉันได้อีกครั้ง ฉันยินดีทำทุกวิถีทางกันอยู่แล้วละ" ฟูมดาห์ไคท์บอก
              แอบไบออสบอก "พวกแกนะหรือ อย่าบอกน่ะ ว่าแกสร้างลูกๆของแกไว้ในฐานทัพแห่งนี้น่ะ"
              "เป๊าะ" ฟูมดาห์ไคท์ดีดนิ้วเพื่อเปิดผนังที่อยู่ข้างๆ เผยให้เห็นหลอดแคปซูลจำนวนมาก ที่มีอมนุษย์แมนิเกเตอร์ผิวเกล็ดสีเทาทั้งชายและหญิงอยู่ข้างใน "ในขณะที่พวกแกอยู่ที่โลกอันเฮงซวยเพื่อหยุดการสร้างกองรบของเกซิคนั้น ฉันได้ใช้เวลามีค่านี้ สร้างลูกๆของฉันขึ้นมาไว้ในนี้ โดยใช้เครื่องมือสร้างทหารโคลนที่นายพลวอลเลนซ์ได้จากพวกเดลอาเนี่ยน มาใช้เพื่อเพิ่มจำนวนลูกๆของฉันไปพร้อมกับรวบรวมรหัสพันธุกรรมของเวโนมิไนซ์ หรือหาวัตถุดิบที่เหมาะสมมาให้ลูกๆของฉันแข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกแกด้วย ซึ่งฉันตั้งใจจะกินแกและกิซเซเบอร์เพื่อเอาสารอาหารมาเลี้ยงดูลูกๆของฉันไว้แล้ว" ฟูมดาห์ไคท์บอก "แต่ดูเหมือนว่า ฉันมีวัตถุดิบที่จำเป็นครบไว้ให้ลูกๆของฉันลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วละ ฉะนั้น แกเป็นได้แค่อาหารที่ช่วยทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นมานี้แหละ" จากนั้นก็ดีดนิ้วเพื่อปิดผนังลง
              แอบไบออสบอก "ถึงฉันจะถูกแกเขมือบ เกรงว่าแกคงไม่มีทางชนะฉันได้หรอก เพราะฉันจะจัดการกับแก แล้วก็ลูกๆของแกด้วย" แล้วก็จับดาบโบนเซเบอร์เตรียมสู้
              "ต่อให้นายจัดการกับฉันได้ ทุกอย่างมันก็สายไปแล้วละ เดธเทน ดังนั้น เตรียมตัวตายได้เลย" ฟูมดาห์ไคท์กล่าว
              แอบไบออสบอก "ฉันไม่เกรงกลัวแกหรอก แน่จริงก็เข้ามาเลยสิ"

              "ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" พวกเนคมาดูซัมวิ่งไปตามเส้นทางจนมาถึงลานกว้าง ซึ่งก็.... "การ์ดเชสเตอร์" คลอเวฟกล่าวเมื่อเห็นอดีตเพื่อนเก่ายืนประจัญหน้าไว้ "ฉันมีธุระกับคลอเวฟเพียงผู้เดียวเท่านั้น ถ้าพวกนายอยากจะหยุดนายพลกาโกรินละก็ รีบไปก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจในภายหลังน่ะ" การ์ดเชสเตอร์ยืนกรานขึ้นมา
              "คลอเวฟ รู้ใช่มั้ยว่านายต้องทำเช่นไร" เนคมาดูซัมกล่าว
              คลอเวฟบอก "มึงไม่ย้ำก็ได้น่ะ เนคเกอร์ มึงพาพวกรีบไปจับไอ้เตี้ยกาโกรินโดยเร็วดีกว่า" เนคมาดูซัมพยักหน้า แล้วรีบพาพวกพีวิลเดินผ่านการ์ดเชสเตอร์ตรงไปยังอาคารอีกฝั่งโดยเร็ว ส่วนคลอเวฟนั้น "ดูเหมือนว่าจะมีแต่เราทั้งคู่แล้วสิน่ะ พี่น้อง แม้ฉันไม่อยากจะสู้กับนายเลยก็ตาม"
              "ถึงแม้ว่านายจะตัดพันธะของเกซเฟลิคลงไปได้ แต่....ฉันต้องสะสางเรื่องที่นายทำลายพวกไพล์มเทคลง และต้องเป็นตอนนี้เท่านั้นแหละ" การ์ดเชสเตอร์กล่าวโดยถือดาบตั้งท่า
              คลอเวฟนำขวานสมอสองอันออกมา "และฉันไม่มีทางหลีกหนีการปะทะครั้งนี้เลยสิน่ะ" แล้วก็กำด้ามขวานทั้งสองไว้แน่นๆ "ถ้าเช่นนั้น เรามาตัดสินให้รู้ผลกันไปเลยดีกว่า"
              "ครั้งก่อน ฉันขัดคำสั่งพี่แพนแทคและพี่เกลดีนจนถูกไซมาเทนเฉดหัวส่ง จนฉันกลับมาพบกับความผิดหวังที่เกิดจากน้ำมือของนายมา ซึ่งนั้นหมายถึง ฉันเสียโอกาสที่จะได้ปะทะกับนายกันเลยก็ตาม คราวนี้ฉันไม่ออมมือให้แล้วละ คลอเวฟ" การ์ดเชสเตอร์บอก
              คลอเวฟกล่าว "เกรงว่า กำแพงอันแข็งแกร่งของนายจะต้องพังด้วยน้ำมือของฉันแล้วละ การ์ดเชสเตอร์" แล้วก็ "ตรึงๆๆๆๆๆๆๆ" วิ่งเข้าใส่ การ์ดเชสเตอร์ก็ "ตรึงๆๆๆๆๆๆ" วิ่งเข้าปะทะตาม แล้วก็ "หวับบบ หวับบบ เคร้งงงงงง เปรี้ยงงงง" ทั้งคู่หวดอาวุธปะทะจนเกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วลานกว้างด้วยกัน

              "ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" พวกเนคมาดูซัมเดินขึ้นบันไดวนไป จนถึงชั้นสามกัน แต่ทว่า.... "แฟ้ววววว ป้ากกกก เคร้งงง" เดรฟมัสค์พุ่งเข้าจู่โจมโฟรซ่า แต่เจเนลเข้ามาขวางด้วยเมทัลเบลดไว้ "อาเจ้ พีท เนคมาดูซัม รีบไปเร็วสิ" เจเนลบอก พีวิลพยักหน้า
              "อย่าพลาดท่าจนตายก่อนแล้วกันน่ะ เจมส์" โฟรซ่ากล่าว โดยตอนนี้ เดรฟมัสค์ "ตึกๆๆๆๆๆๆๆ" ผลักเจเนลเข้ามาในห้องฝึกกันแล้ว
              "รีบไปต่อเหอะ พวกเรา" เนคมาดูซัมกล่าว แล้วนำทีมบุกต่อไปตามทางเดิน จน
              "อ้า...." สเปียริทถูกพลังแสงดึงตัวไว้ เช่นเดียวกับ
              "ลิเนียร์ตี้" เนคมาดูซัมอุทาน เมื่อเห็นลิเนียร์ตี้ถูกพลังแสงมัดตัว เช่นเดียวกับจิล ไซโคลเนีย โฟรซ่าด้วย
              "แว้งงงง แกร็กๆๆๆ เพล้งงง หมับบบ" ขนาดแอนเดรียที่รีบใช้โปรเทคชั่นสเฟียร์ก็ต้านวงแหวนพลังแสงที่บีบรัดจนสนามพลังแตกและมัดตัวเธอไว้ โฟรซ่าโดนปลดอาวุธปืนออก เช่นเดียวกับพวกลิเนียร์ตี้ด้วย "พีท มาสวาร์ทาร์ เนคมาดูซัม ไม่ต้องห่วงพวกเรา รีบไปเร็วสิ" โฟรซ่ากล่าว
              "เรื่องจับกุมนายพลกาโกรินนั้นสำคัญที่สุด พวกเรารับมือได้อยู่แล้วน่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก ก่อนที่เธอและจิล "แว้งๆ" หายตัวไป
              "ยัยมิสตี้คิดจะเล่นงานพวกเรากันอยู่แล้ว นายเองต้องชนะเบลซาร์ทให้ได้ด้วยละ พีวิล" สเปียริทบอก แล้วเธอก็ "แว้งงง" หายตัวไปพร้อมกับไซโคลเนีย
              แอนเดรียบอก "ฉันมั่นใจว่าคุณต้องหยุดโทชิอิและดาบต้องสาปได้แน่นอนนะคะ คุณมาสวาร์ทาร์" แล้วเธอกับโฟรซ่า "แว้ง" หายตัวไปทันที
              ".........." เนคมาดูซัม มาสวาร์ทาร์และพีวิลยืนอยู่ โดยตอนนี้เหลือเพียงสามทหารเสือไทรเวเซอร์แล้ว
              "พีท มาส ไปต่อเหอะ" เนคมาดูซัมกล่าว พีวิลและมาสวาร์ทาร์พยักหน้า
              โดยที่พวกโฟรซ่านั้น "แว้งๆๆๆๆๆ" ถูกส่งมาอยู่บนลานจอดเฮลิคอปเตอร์นอกฐานกัน "เธอคงจะมีพลังเยอะมากละสิน่ะ ถึงได้วาร์ปพวกเรามาเจอกับเธอเลยน่ะ" โฟรซ่าบอก เมื่อเห็นมิสตี้ยืนอยู่ตรงหน้า
              "ถ้าให้เดาน่ะ เธอคงจะฝึกฝนพลังไซเฟรอนของเธอให้กล้าแกร่ง ในช่วงที่เธออยู่ในความดูแลของนายพลกาโกรินเลยสิน่ะ" ลิเนียร์ตี้บอก
              มิสตี้กล่าว "ที่เธอรู้โฉมหน้าของฉันได้นั้น แสดงว่า แกนหัวใจของเธอคงเป็นของฮัลลี่ ผู้ที่ฆ่าพี่จูโดจาร์ดและคัลลิฟาร์ดตายไปเลยสิน่ะ ดีเลย ฉันจะไม่ต้องเสียเวลาเล่าเรื่องความเจ็บปวดของฉันให้พวกเธอรับรู้หรอก"
              "แต่เธอตัดสินใจผิดที่ร่วมมือกับนายพลกาโกรินแล้วละ มิสตี้ เพราะการที่เธอเป็นส่วนหนึ่งในการก่อปฏิวัติในครั้งนี้ ได้ทำให้ไซเฟรอนที่อยู่ในความควบคุมนั้นต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วยน่ะ" สเปียริทบอก
              มิสตี้กล่าว "ฉันแค่กระตุ้นให้พวกที่เหลือลุกขึ้นมาต่อสู้กันอีกครั้งยังไงละ จนกว่าพวกแมนิเกเตอร์ทั้งมาจากโลกและซัลคาเลี่ยนจะได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่พวกเราได้รับกันไว้ แน่นอน ว่าองค์หญิงผู้ปิตุฆาตและมาตุฆาตอย่างเธอ ก็คือเป้าหมายที่ฉันจะกำชัยชนะนี้พร้อมกับสหายของเธอด้วยน่ะ"
              "ที่เธอกล้าหาเรื่องกับสเปียริทรวมถึงพวกเรานิ แสดงว่าเธอมั่นใจในพลังของเธอมากเลยสิยะ" ไซโคลเนียบอก
              แอนเดรียกล่าว "เกรงว่า เราจำต้องหยุดยั้งคุณไม่ให้สร้างความเดือดร้อน จนไซเฟรอนที่ไม่อยากจะสู้ด้วยต้องพลอยซวยไปด้วยนะคะ"
              "ฉันไม่กลัวพวกเธอกันหรอก เพราะตอนนี้ฉันมีพลังที่กล้าแกร่งมากชนิดที่ฉันสามารถข้ามผ่านพี่จูโดจาร์ดและคัลลิฟาร์ดไปไกลกันแล้ว ถึงเวลาที่พวกเธอจะต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสกันบ้างแล้วละ" มิสตี้กล่าวและเปล่งพลังขึ้นที่ฝ่ามือสองข้าง
              จิลบอก "เราไม่ยอมให้เธอบีบบังคับให้คนอื่นรู้สึกเหมือนกับเธอไปได้หรอกนะยะ"
              "ในฐานะของผู้สืบทอดแกนหัวใจของคุณฮัลลี่ ถึงเวลาที่ฉันกับทุกๆคนต้องหยุดยั้งเธอแล้วละ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              สเปียริทบอก "ถ้าเธอกล้าท้าทายได้แม้กระทั่งบุตรีลำดับสุดท้ายของมารดรเทพกันละก็ มิสตี้ แน่จริงก็เข้ามาเลยสิยะ"

              "ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆ" พีวิล มาสวาร์ทาร์ เนคมาดูซัมวิ่งไปตามทางเดิน ซึ่งก็
              "ดูเหมือนว่าพวกพ้องของเราจะทำให้พวกนายเหลือน้อยลงไปตามคาดเลยน่ะ" เบลซาร์ทบอก โดยเขายืนจังก้าอยู่ตรงหน้า
              พีวิลบอก "เบลซาร์ท ที่นายมาโผล่ตรงหน้านั้น แสดงว่า นายพลกาโกรินอยู่ข้างหลังนายเลยสิน่ะ"
              "ใช่ ท่านนายพลกาโกรินอยู่ในห้องสั่งการที่อยู่หลังฉันไปนี้แหละ" เบลซาร์ทบอก มาสวาร์ทาร์กล่าว "แต่ดูเหมือนว่า นี้คงไม่ได้ง่ายสำหรับพวกเราเลยละสิน่ะ"
              ไม่ทันไร "แฟ้วววว" มีคลื่นคมดาบสีแดงพุ่งเข้ามา "เชร้งงง เปรี้ยงงงง" มาสวาร์ทาร์สบัดดาบทำลายคลื่นคมดาบทิ้ง "แชดดด" ลำแสงสีม่วงทะลุจากผนังอีกฝั่งเข้า "แว้งงงง ป้ากกกก" เนคมาดูซัมป้องกันด้วยโบลท์รีเฟรคเตอร์โดยทันที
              "ซ้าย ซอลดอช ขวา เดโบรม นั้นเป็นแผนดักซุ่มที่ขี้โกงมากๆเลยน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              เบลซาร์ทกล่าว "เกรงว่า พวกนายคงไปถึงตัวท่านกาโกรินกันไม่ได้แล้วละ เพราะ....ห้องที่ท่านกาโกรินอยู่นั้น ไม่มีทางเปิดออกได้ ตราบใดที่พวกนายโค่นพวกเราทั้งสามลงไม่ได้ ซึ่ง....ต่อเป็นสามทหารเสือเวเซอร์ ก็ไม่มีทางเอาชนะได้หรอก"
              "ดูท่าว่า นายจะมั่นใจอย่างมากเลยสิน่ะ เบลซาร์ท" พีวิลบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "และพวกเราคงไม่มีทางเลือกอื่นใดเลยสิน่ะ" แล้วก็เดินเข้าประตูห้องฝั่งซ้ายไป
              "พีวิล แสดงพลังของนายให้เบลซาร์ทเห็นกันไปข้างหนึ่งเลยน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว แล้วก็เดินเข้าประตูห้องฝั่งขวา ซึ่งเดโบรมยืนอยู่ โดยฝ่ามือซ้ายมีควันขึ้นมา "ดูท่าว่า นายจะทำทุกอย่างเพื่อสู้กับฉันเลยสิน่ะ" เนคมาดูซัมกล่าว
              เดโบรมบอก "ฉันแค่กระตุ้นให้นายตัดสินกับฉันอีกรอบ หลังจากที่นายทำลายโมบิลลอยด์ของฉันไปแล้ว คราวนี้ฉันจะไม่แพ้นายอีกน่ะ"
              "นายคงจะมั่นใจมากเลยสิน่ะ เดโบรม" เนคมาดูซัมกล่าว แล้วก็นำดาบสีทองออกมา "สงสัยว่าเบรฟัลสปาดัสเล่มนี้ คงได้ใช้สู้กับนายแล้วละ"
              เดโบรมกล่าว "ถ้าเช่นนั้น ฉันขอกำชัยชนะเหนือผู้โค่นพี่ชายฉันเลยแล้วกัน เนคเกอร์ มาสซั่ม"
              "นึกแล้ว ว่าพี่ต้องโต้ตอบผมได้น่ะ หึๆๆๆๆ" ซอลดอชกล่าว
              มาสวาร์ทาร์บอก "ต่อให้อยู่หลังผนังที่ปิดทึบจนบังประสาทสัมผัสอย่างการฟังได้ แต่กลิ่นไอแห่งการฆ่าจากดาบนี้ มันโชยออกมาก่อนให้ฉันรับรู้ได้แล้วละ โทชิอิ"
              "อย่าเรียกผมเช่นนี้เลยน่ะ พี่มัสด้า ผมคือซอลดอช ยอดนักดาบทรงพลังและกล้าแกร่งที่สุดของเอฟซีตรอน ผู้ซึ่งใช้ดาบจัดการกับศัตรูทุกประเภทมานับต่อนับแล้ว รวมถึง ไอ้พวกโง่ที่คิดว่าตนเองฉลาดนั้น ล้วนตายด้วยดาบของผมมาแล้วละ" ซอลดอชกล่าว "แน่นอน ว่าดาบเรียกร้องผมเชือดพี่เพื่อเป็นข้อพิสูจน์ว่าผมคือยอดนักดาบที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงนี้แหละ"
              มาสวาร์ทาร์ส่ายหน้า "เกรงว่าเธอไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งที่กำชัยชนะเหนือผู้อื่นกันหรอกน่ะ โทชิอิ เพราะฉันมองเธอเป็นผู้ปราชัยกันแต่แรกแล้วต่างหากละ"
              "ไม่ว่ายังไง พี่ก็เหมือนกับพวกคนที่มาดูถูกผมกันอยู่ดีนี้แหละ และผมเองก็จะไม่ฟังใครแล้ว นอกเสียจาก ตัวผมเองนี้แหละ" ซอลดอชกล่าวและชักดาบอังเซนคิออกมา "ต่อให้พี่ท้าดวลกับวิญญาณอาจารย์ตาจนชนะได้ แต่เกรงว่าพี่จะต้องกลายเป็นเหมือนอาจารย์ตาของพี่เสียเอง จากนั้น ผมจะตามไปเชือดเทนยะและพวกต่อซะ"
              มาสวาร์ทาร์ชักดาบของตนออกมา "เธอทำลายทางเลือกอื่นของฉัน ที่นอกเหนือจากต้องปลิดชีพเธอไปพร้อมกับดาบเสียแล้วละ โทชิอิ"

              "นี้คือเวทีประลองที่เหมาะสมกับการต่อสู้ระหว่างฉันและนายน่ะ พีวิล" เบลซาร์ทบอก โดยพามายังห้องที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งมีประตูบานใหญ่โดยมีล็อกกุญแจสามอันติดอยู่
              "ที่นายพูดมา ว่าถ้าเราชนะพวกนายทั้งสามลงได้ ล็อกประตูก็จะเปิดเลยสิน่ะ" พีวิลบอก
              "ความจริงแล้ว มันมิใช่สามอันหรอกน่ะ" เบลซาร์ทกล่าว แล้วก็ดีดนิ้ว เผยล็อกกุญแจโผล่มาอีกห้าอัน โดยมีอันบนที่เรืองแสงไปแล้ว "แม้ว่าพวกนายจะโค่นทรูปสตรัคเทเซอร์ สมาชิกที่ชาญฉลาดมาก จนสามารถทำให้พวกนายเกือบถูกปลดจากกองทัพ พร้อมกับกองทหารอื่นๆที่โง่เง่าพอกันลงไปได้ แต่ตราบใดที่พวกพ้องที่เหลือของฉันไม่ถูกโค่น พวกนายก็ไม่มีทางเข้าใกล้ท่านกาโกรินได้หรอก"
              พีวิลบอก "ฉันน่าจะรู้น่ะ ว่านายคงไม่มีเงื่อนไขอะไรที่ง่ายดายอยู่เลยสินะ เบลซาร์ท"
              "แน่นอน ว่าทุกภารกิจที่พวกนายต้องเจอ มันไม่ได้ง่ายดายกันอย่างที่คิดไว้หรอกน่ะ และการที่พวกนายผ่านมันไปได้ โดยอาศัยความช่วยเหลือของผู้อื่นนั้น ถือว่าเป็นเรื่องโง่เง่าที่สุด เพราะมันบ่งบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่า พวกนายมันกระจอกมากที่สุดตามไปด้วย ถึงขั้นที่ต้องขอแรงผู้อื่น โดยเฉพาะกับพวกมนุษย์โลกเลยน่ะ" เบลซาร์ทกล่าว
              พีวิลบอก "แล้วนายคิดว่า นายแข็งแกร่งมากถึงขั้นสามารถสู้กับศัตรูหมู่มากได้เพียงลำพังเลยสิน่ะ แต่บอกตามตรงน่ะ ว่าแมนิเกเตอร์ที่คิดแบบนายนั้น ล้วนลงเอยไม่สวยกันที่โฟรเดริม-4 กันมาหลายรายกันไม่ว่า ยังลากผู้อื่นที่เข้ามาช่วยให้ต้องรับเคราะห์กันเช่นนี้ นายซึ่งเป็นอัศวินของแรซัลก้าเอง ไม่ควรจะดูถูกการเสียสละกันเสียเลยน่ะ"
              "ถ้าแรซัลก้ามันดีจริง จักรวรรดิ์ก็คงจะชนะเฮซเทิร์ซไปได้ตั้ง 7 ปีกันแล้ว ไม่น่าต้องลงเอยด้วยความปราชัยกันได้หรอก และพวกเขาคงจะจัดการกับหนอนบ่อนไส้อย่างไอ้แก่วอลเดนนี้ลงได้ไปนานแล้ว ไม่น่าจะปล่อยให้รอดมาจนสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกนาย ซึ่งฉันมองดูแล้วว่าพวกนายโง่มากที่พึ่งมารู้และรีบจัดการในภายหลังจากที่เราสูญเสียอะไรมาเยอะเลยน่ะ" เบลซาร์ทบอก
              พีวิลบอก "รู้อะไรมั้ย เบลซาร์ท แม้ฉันกับพวกเราบางส่วนจะเป็นแมนิเกเตอร์มาจากโลกนั้น มิได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกเนคมาดูซัมในช่วงสงครามโฟรเดริม-4 กันเลยก็ตาม รวมถึงรู้เรื่องหนอนบ่อนไส้อย่างวอลเดนสไตน์และนายพลวอลเลนซ์ ที่สมคบคิดกับพวกศัตรูเพียงเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงที่สูญหายไปถึงสองครั้งด้วยกันนั้น มิได้หมายความว่าพวกเราโง่กันหรอก เพียงแต่ เรารู้เรื่องนี้ไปแบบช้าๆ และค่อยเป็นค่อยไป เพราะอีกฝ่ายนั้น เคยเป็นนายทหารที่ชาญฉลาดมากที่สุดในช่วงที่แรซัลก้าเป็นแค่ราชอาณาจักรเล็กๆกัน และยังอยู่คู่แรซัลก้ามาตลอด 40 ปีกันเช่นนี้ พวกเราเลือกที่จะรับมืออย่างช้าๆ รวบรวมหลักฐานให้แน่นหนา จนสามารถเปิดโปงวอลเดนสไตน์ลงได้ ดีกว่ารีบลงมือจนพลาดท่าเสียทีแบบไม่น่าให้อภัยกันนี้แหละ"
              "แต่ถึงยังไง ฉันก็ยังมองนายและพวกว่าโง่และอ่อนแอวันยังค่ำนี้แหละ ถ้าพวกนายมีอำนาจมากกว่านี้ มีพลังมากกว่านี้ ปานนี้พวกนายก็แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นลงได้ไปนานแล้ว ไม่น่าจะยอมจำนนต่อการกระทำของไอ้โง่คัลลาร์ด ที่คิดจะใช้อำนาจทางการเมืองเอาชนะฝ่ายทหารไปได้น่ะ" เบลซาร์ทบอก
              พีวิลบอก "ดูท่าว่า ยิ่งฉันพยายามพูดกับนาย นายคงไม่เปลี่ยนใจ ไม่สิ ไม่คิดจะรับฟัง เพราะนายยังคิดว่านายเป็นฝ่ายถูกเลยสิน่ะ" แล้วก็กำหมัดขึ้นมาและตั้งท่าพร้อมสู้ "ถึงเวลาที่กำปั้นแห่งลูกผู้ชายจะได้เตือนสตินายเสียที"
              "อดีตมนุษย์อย่างนาย ยังกล้าพูดถึงเรื่องลูกผู้ชายกันอีกนิ ฉันมองว่าเป็นพวกโง่และอ่อนแอ เพราะยังยึดติดกับความเชื่อโง่ๆเลยสิน่ะ ฉันจะแสดงให้เห็นว่า ความแข็งแกร่งและอำนาจที่ยิ่งใหญ่นั้น อยู่เหนือกว่าพวกโง่อย่างพวกนายนี้แหละ" เบลซาร์ทกล่าวและชักดาบของตนออกมา
              พีวิลบอก "รู้อะไรมั้ย เบลซาร์ท แมนิเกเตอร์ที่พูดแบบนี้ จบลงไม่สวยมาหลายรายแล้ว ซึ่งฉันจะแสดงให้นายเห็นเองแหละ" แล้วก็ "แฟ้วววว ป้ากกกก" พุ่งเข้าชกใส่เบลซาร์ทที่ชักดาบป้องกัน จนแรงสั่นสะเทือนกระจายไปทั่ว
              การต่อสู้ระหว่างไทรเวเซอร์และเอฟซีตรอนเริ่มขึ้นแล้ว กับ....

    TriVeser Manigator Saga: Hyperstar Troopers
    ตอนที่ 28 ศึกดวลเดือด ไทรเวเซอร์ปะทะเอฟซีตรอน โฉมหน้าที่แท้จริงที่คาดไม่ถึง และการเสียสละอันยิ่งใหญ่อีกครั้ง


              "แฟ้ววววว ฉั้วะๆๆๆๆๆๆ" พลัสเชอริทใช้แฟงค์สไลเซอร์กรีดตัดแขนของวอร์คิไมรอสจนขาด แต่ "กึกๆๆๆๆๆ พรวดดด" มันงอกแขนกลับมาใหม่ได้ "แฟ้วววว กรี้กกกก ฉั้วะ" จายด์ใช้สปินนิ่งเบลดคัตเตอร์กรีดผ่าท่อนบนของวอร์คิไมรอส แต่ "ครืดดดด กึก" ร่างที่ถูกผ่าสมานตัวอย่างรวดเร็ว
              "ถ้าให้เดา แกนกลางในร่างคงจะเยียวยากันแน่ๆเลยละ" สเตฟอร์ดบอก
              พลัสเชอริทบอก "และคงไม่ได้อยู่ในหัว ซึ่งเป็นเป้าหมายการโจมตีที่ง่ายที่สุดกันร้อยเปอร์เซนต์แน่นอน"
              "สงสัยว่างานนี้เราต้องประสานการโจมตีกันเสียแล้วละ" ฟิเกซบอก
              จายด์กล่าว "แม้เราอาจจะอ่อนแรงชนิดที่ไปช่วยทุกๆคนกันไม่ได้ก็ตาม เรายอมให้พวกมันหลุดออกนอกเกาะไม่ได้หรอก"

              "วะฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ฟูมดาห์ไคท์ยืดแขนสองข้าง ซึ่งเปลี่ยนมือเป็นหัวตะกวดพุ่งเข้า "แฟ้วววว โครมมมม โครมมมม" ปะทะใส่แอบไบออส ซึ่งรีบโผหลบออกมาอย่างรวดเร็ว "กึกๆ หวืดดดด" แล้วก็หดแขนเข้ามา แต่ "ฟึ่บบบ ตึก" แอบไบออสกระโดดเกาะบนปล้องแขนซ้ายที่ยืดเข้ามา แล้วก็ "หวับบบบ เกร้งงงง" หวดดาบโบนเซเบอร์เข้าใส่ แต่ฟูมดาห์ไคท์ใช้ฟันกัดคมดาบไว้ "ฟึ่บบบบ ป้ากกก" แอบไบออสเลยแทงเข่าซ้ายอัดหน้าฟูมดาห์ไคท์ไปเต็มๆ แล้วโดดตีลังกากลับหลังมาตั้งหลัก พร้อมกับ "ว้ากกกก เชร้งงงง" ฟันใส่ลำตัวของฟูมดาห์ไคท์ไปเต็มๆ
              "หึๆๆๆๆ ไม่เลวนิ ที่รีบทำให้ฉันมึนด้วยการโจมตีใส่หน้าแล้วฟันซ้ำให้ฉันเดี้ยงในดาบเดียวเลยน่ะ แต่เกรงว่ามันจะไม่ได้ผลแล้วละ" ฟูมดาห์ไคท์กล่าว แอบไบออสเลยหันหน้ามา เห็นลำตัวของฟูมดาห์ไคท์มีเกราะหัวมังกรปกคลุมตั้งแต่บ่าลงมาถึงสะโพก โดยที่มีรอยฟันของโบนเซเบอร์เพียงผิวเพิ่นประทับ ก่อนที่รอยฟันหายไป
              แอบไบออสบอก "นั้นคงจะเป็นความสามารถของเวมท็อคซินอย่างพวกนาย แม้จะเป็นแบบเดียวกันกับเวโนมิไนซ์เลยสิน่ะ"
              "ถูกต้อง นี้คือไฮด์การ์ด เกราะเกล็ดอันแข็งแกร่งของพวกเรา ซึ่งแข็งแกร่งมากชนิดที่คมเขี้ยวของเวโนมิไนซ์ร่างอสูรใหญ่ยังทำอะไรเราไม่ได้เลยนะสิ" ฟูมดาห์ไคท์บอกอย่างมั่นใจมากๆ แล้วก็ "กรอออออ" อ้าปากตะกวดที่แขนซ้าย "ตรุ้งๆๆๆๆ" ยิงกระสุนเพลิงขนาดใหญ่ออกไป "อีวิลเฟรมคลอว์" แอบไบออสตวัดเพลิงกรดเข้าแผดเผากระสุนเพลิงไปสามนัด แล้วก็ "ฮา" หมุนตัวถีบคลื่นเพลิงกรดให้พุ่งไป "ตรูมๆ" เป่าระเบิดกระสุนเพลิงอีกสองนัดให้สลายไป "แฟ้วววววว แคว้กกกก" จากนั้นก็พุ่งข่วนด้วยเบลดทาลอนใส่หน้าอกของฟูมดาห์ไคท์ให้เป็นรอย "แฟ้วววว แฟ้วววว" ฟูมดาห์ไคท์ยืดแขนหัวตะกวดพุ่งเข้าใส่ "หวับบบบ โครมมมม ฉึกกกก" แอบไบออสตีลังกาหลบและแทงดาบปักหัวตะกวดให้ติดกับพื้น แล้วก็ "ฟึ่บบบ พรวดด กึกๆๆๆๆ ครี้งงงงง ฉึกกกก ป้ากกก" วิ่งเข้ามาดึงโบนเซเบอร์และแปรสภาพให้เป็นดาบใหญ่ซัมเบอร์เข้าแทงใส่ฟูมดาห์ไคท์ไปเต็มๆ แต่มันถีบแอบไบออสให้ถอยไปด้วย
              "ดูท่าว่า แกก็มีอุ้งเท้ามหาภัยด้วยสิน่ะ" แอบไบออสกล่าว เมื่อเห็นฝ่าเท้าสามเล็บข้างขวาของฟูมดาห์ไคท์อยู่ โดยมันกระชากหัวตะกวดที่ถูกปักพื้นกลับเข้ามา
              "แกนิไม่เลวเลยนะ ที่สามารถเล่นงานส่วนแขนของฉันไว้ แล้วอาศัยการจู่โจมอย่างรวดเร็ว เพื่อจบเกมส์ให้ได้ในคราวเดียวน่ะ" ฟูมดาห์ไคท์กล่าว "แต่เกรงว่า แกไม่มีทางชนะฉันได้หรอก" โดยที่มันสมานแผลบนฝ่ามือที่กลายสภาพกลับคืนตามเดิม
              แอบไบออสจับดาบโบนซัมเบอร์พาดหลังคอไว้ "ไอ้ที่นายพูดมาทำนองนี้ ล้วนสิ้นชีพไปด้วยมือของพวกเราทั้งนั้นแล้วนะ"

              "แชดดดด แชดดดด แชดดดด แชดดดด ตรูมๆๆๆ" มิสตี้สาดลำแสงจากฝ่ามือทั้งสองเข้าใส่จิลและลิเนียร์ตี้ ซึ่งรีบโดดหลบออกมา "ฟรีซสแปรชเชอร์" "ฟอสโบลท์" สวนกลับด้วยกระสุนน้ำแข็งและกระสุนพลัง "เพล้ง เปร้งงงง" มิสตี้สร้างบาเรียป้องกันเอาไว้ แล้วก็บุกเข้าจู่โจมด้วยดาบแสงพลังไซเฟรอน "ย้า" แอนเดรียกระโดดใช้อัมเบรแลนซ์แทงพร้อมกางร่มปะทะใส่มิสตี้ไปเต็มๆ โดยมิสตี้พยายามใช้หมัดทิ้มทะลุร่มพลังไว้ "เบิร์ดแทคเกิ้ล" "ลูกถีบมังกรบิน" ไซโคลเนียและสเปียริทพุ่งเข้า "ป้ากกก เปรี้ยงงงง" หมัดคู่ของไซโคลเนียและฝ่าเท้าของสเปียริทปะทะกับบาเรียของมิสตี้ไว้ "โท้ว" โฟรซ่ากระโจนพร้อมกับ "โซนิคคัตเตอร์" ฟาดเคียวโซลริปเปอร์ซัดคลื่นใบมีดความถี่สูง "ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงงง" พุ่งปะทะกับบาเรียของมิสตี้จนแตกกระจุย แต่เธอรีบลอยถอยออกมาก่อน
              "กระบวนท่าจู่โจมประสานของพวกเธอนิ แม้จะเน้นไปที่การปะทะเพื่อกดฉันให้ล้มโดยเร็ว แต่มันไม่มีประโยชน์อยู่ดีน่ะ" มิสตี้บอก
              สเปียริทกล่าว "เพราะว่าพลังของเธอมีมากชนิดที่สามารถโจมตีและป้องกันได้ในคราวเดียวเลยสิน่ะ"
              "แย่หน่อยน่ะ เพราะต่อให้คุณทรงพลัง แต่ก็คงต้านทีมเวิร์คของพวกเราไม่ได้นะคะ" แอนเดรียบอก
              จิลกล่าว "เพราะในขณะที่เธอพยายามป้องกันการโจมตีจากแอนเดรียที่อยู่ด้านหน้า สเปียริทและไซโคลเนียที่ประสานจากด้านข้างนั้น พลังการป้องกันของเธอลดลงจนโดนโฟรซ่าตีแตกได้เช่นนี้ เธอไม่มีทางใช้พลังเพื่อจัดการกับพวกเราตนใดตนหนึ่งลงได้ หากที่เหลือเข้าขวางไว้น่ะ"
              "ถึงกระนั้น วิธีการรุมสกัมยำหมู่ของพวกเธอนั้น มันเป็นวิธีต่อสู้ของพวกอ่อนแอกัน ซึ่งไม่มีทางเอาชนะฉันที่ทรงพลังมากที่สุดกันหรอกน่ะ" มิสตี้กล่าว แล้วก็ "หวืมมมม หวับบบ ป้ากกกก" ใช้แส้พลังแสงขึ้นที่แขนซ้ายหวดฟาดลงพื้นจนทำให้พวกสเปียริทโดดหลบออกข้างไป "หวับบบบ แฟ้ววว หมับบบบ" จากนั้นก็ใช้แส้พลังแสงมัดพลองของสเปียริทตรงกลาง
              "เสร็จละ ยัยบ้า" สเปียริทยิ้มแล้วก็กระชากตัวมิสตี้มา ซึ่งมิสตี้ใช้หมัดสร้างดาบแสงหลังมือเพื่อแทงสเปียริท "ลิเนียร์ตี้เฮดแอทแทค" ลิเนียร์ตี้พุ่งชาร์จหัวโขกใส่มิสตี้ให้กระเด็น มิสตี้เลยหวดเท้าเพื่อตอกส้นใส่หัวลิเนียร์ตี้ "โปรเทคชั่นสเฟียร์ เอนเคจเมนต์" แอนเดรียซัดลูกบอลสนามพลังกักตัวมิสตี้เอาไว้ โดยที่ลิเนียร์ตี้กลิ้งหลบออกไป "ฮึยยยย" มิสตี้ยั้วะเลยรั่วต่อยสนามพลังที่กักตัวเธอจน "เพล้งงง" สนามพลังแตกกระจุย "ไซโคลนเรซเซอร์" ไซโคลเนียซัดพลังพายุใบมีดเข้า "ชรี้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" กรีดใส่มิสตี้อย่างต่อเนื่อง "ซาวนด์สครีมเมอร์" จิลใช้คลื่นเสียงเล่นงานมิสตี้ตาม จนเธอ "แว้งงงง" หายตัวมาด้านหลังเพื่อชกจิล "หวับบบ หมับบบบ" โฟรซ่าใช้เคียวเกี่ยวเอวของมิสตี้ "หวับบบ ป้ากกก" แล้วดึงเข้ามากระโดดถีบใส่หน้ามิสตี้ไปเต็มๆ
              "อันนี้แรงกว่าตบหน้าตั้งเยอะเลยน่ะ มิสตี้" โฟรซ่ากล่าว
              "ก็คุณเล่นถีบใส่เลยนิคะ" แอนเดรียบอก
              สเปียริทกล่าว "ว่ายังไงละ มิสตี้ ต่อให้เธอแน่แค่ไหน เธอล้มพวกเราหมดนี้ไม่ได้หรอกนะยะ"
              "พวกเธอ.....ฉันจะตอบแทนพวกเธออย่างสาสมกันไปข้างหนึ่งเลย" มิสตี้กล่าว แล้วเธอก็ "เปรี้ยงงง" ระเบิดพลังจนออร่าโพยพุ่งขึ้นมา
              "พวกเรา ระวังด้วยละ มิสตี้เอาจริงแล้ว" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              "เรื่องนั้นฉันรู้แล้วละ ลิเนียร์ตี้ เพราะพลังจากตัวมิสตี้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมน่ะ" สเปียริทบอกอย่างจริงจัง
              โฟรซ่าบอก "อย่าประมาทยัยนั้นเสียละ เพราะยัยนั้นพร้อมจะเอาคืนพวกเราแบบหนักหนาสุดๆเลยน่ะ"

              "ตึกๆๆๆๆๆ แฟ้วววว แฟ้ววว แฟ้ววว แฟ้ววว" เดรฟมัสค์วิ่งเข้าใส่เจเนลพร้อมกับหายตัว โดยพุ่งวนรอบเจเนลอย่างรวดเร็ว "ฟ้าวววว" จากนั้นเดรฟมัสค์ก็กระโจนเข้าจู่โจมด้านหลัง "รีเวิร์สเครเซนท์คิก" เจเนลเลยตีลังกาหลังเตะเสยหน้าเดรฟมัสค์ไปเต็มๆ โดยที่มันตีลังกาทรงตัวไว้
              "ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า ไอ้ซัลวาส แก แกทำลายชีวิตของฉัน" เจเนลได้ยินเสียงดังเข้าหัว
              เจเนลบอก "นายพูดออกทางหลอดเสียงที่ถูกตัดขาดไม่ได้ แต่ใช้กระแสจิตได้เลยสิน่ะ"
              "แกบังอาจมาหลอกลวงฉันไว้ ทั้งๆที่ฉันคือซัลคาเลี่ยนธรรมดา แต่แกหาว่าฉันเป็นพวกเซเวคชั่นแบบนี้ อภัยให้ไม่ได้แล้ว" เดรฟมัสค์กล่าวแล้วก็ "ฟิ้วๆๆๆๆๆ" ยิงใบมีดกงเล็บออกจากปลอกแขนเข้าใส่ "ฟ้าวววว ปั้กๆๆๆๆๆ" เจเนลรีบแดชออกด้านข้างหลบใบมีดที่ปักพื้นไว้ "ดังนั้น ฉันจะฆ่าแกและพวกแมนิเกเตอร์ที่ทำให้ฉันต้องมีสภาพเช่นนี้ รวมถึงพวกทหารเฮงซวยกันด้วย" เดรฟมัสค์บอกพร้อมกับกระโจนใช้กงเล็บใส่ "ฟ้าวววว" เจเนลเลยกระโดดข้ามตัวเดรฟมัสค์พร้อมกับ "ทิ้วๆๆๆๆๆๆ" กระหน่ำยิงจีบัสเตอร์ลงพื้นใส่กลางหลังเดรฟมัสค์จนล้ม แต่มันก็ลุกขึ้นมา
              "ถ้าหมายถึงพวกดัสท์คิลเลอร์และนายพลวอลเลนซ์ละก็ พวกนี้ตายหมดแล้ว นายไม่จำเป็นต้องแก้แค้นหรือทำตามคำสั่งของนายพลกาโกรินไปได้หรอก"
              "ฉันไม่ได้ทำตามคำสั่งของนายพลแคระนั้น เพราะฉันจะฆ่าพวกแมนิเกเตอร์ทุกตัวรวมถึงพวกเซเวคชั่นให้ราบคาบไปซะ เพื่อให้น้องสาวของฉันรอดอยู่ไปได้" เดรฟมัสค์กล่าว แล้วก็พุ่งเข้า "ฟึ่บๆๆๆๆ เคร้งๆๆๆๆๆ" รั่วแทงใส่เจเนล โดยที่ใช้เมทัลเบลดปัดป้องการโจมตีแทบไม่ทัน "เปรี้ยงงงงง" เจเนลเลยถีบใส่หน้าอกของเดรฟมัสค์ให้ล้มไป
              "ดูท่าว่า สภาพของนายนั้น พูดยังไงก็ไม่ฟังอย่างเดียวเลยสิน่ะ ช่วยไม่ได้ ฉันคงต้องส่งนายไปให้น้องสาวของนายแล้วละมั่ง" เจเนลบอก

              "เคร้งงงง เคร้งงงง เคร้งงงง เคร้งงงง เคร้งงงงง" การ์ดเชสเตอร์และคลอเวฟปะทะอาวุธใส่กันอย่างหนักหน่วง "เฮ้ยยยยย วอร์ชีฟดรอป" คลอเวฟกระโจนเข้าถีบใส่การ์ดเชสเตอร์ "แว้งงงง ป้ากกกกก" ซึ่งความแรงของลูกถีบขาคู่ของกราดิเอเตอร์มารีนนั้นได้ถีบกำแพงพลังไฮโดรฟอสของการ์ดเชสเตอร์แตก "ฮา วอลเวฟ" การ์ดเชสเตอร์เลยซัดฝ่ามือปล่อยพลังกำแพงคลื่นไฮโดรฟอส "ป้ากๆๆๆๆๆๆๆๆ" ผลักคลอเวฟให้ถอยไป 20 เมตร "ว้ากกกกก" จากนั้นการ์ดเชสเตอร์พุ่งเข้าแทงดาบใส่ "เคร้งงงงง ป้ากกก" คลอเวฟเลยใช้แองเกอร์แอ็กซ์กดดาบของการ์ดเชสเตอร์ให้ปักลงพื้น แล้วก็หวดขวานในมือซ้ายฟาดใส่ "กร้องงงงง" การ์ดเชสเตอร์ยกหลังแขนขวารับคมขวานของคลอเวฟ "เปรี้ยงงงง" แล้วถีบคลอเวฟให้ถอย พร้อมกับดึงดาบขึ้นจากพื้น "วอเตอร์เวฟ" คลอเวฟซัดพลังคลื่นเข้าใส่การ์ดเชสเตอร์ไป "ฮา ฮา โฮ่" การ์ดเชสเตอร์ใช้ดาบฟันคลื่นน้ำที่คลอเวฟซัดมาสามคลื่นให้สลายไป "เพรชเชอร์บุลเล็ต" แล้วก็แทงดาบปล่อยพลังกระสุนแรงดันน้ำพุ่งเข้า "หวับบบ ป้ากกก" คลอเวฟรีบก้มหลบกระสุนที่พุ่งเข้ามาจนทะลุกำแพงที่อยู่ด้านหลังให้เป็นรู
              "นายเริ่มเป็นฝ่ายรุกได้เลยนะ สหาย" คลอเวฟกล่าว
              การ์ดเชสเตอร์บอก "นายตั้งรับการโจมตีของฉันได้เช่นนี้ แสดงว่าพี่แพนแทคส่งคนมากระทืบนายจนเข็ดหลาบแล้วสิ"
              "ถึงนายจะรอดจากการรุมกระทืบของพวกน้องๆของไอ้คุณพี่แพนแทคหรือไอ้คุณพี่อิงก็อต แต่ตอนนี้นายเป็นคนทรยศของพวกเราไปแล้วละ" คลอเวฟบอก
              การ์ดเชสเตอร์บอก "ฉันอาจจะเป็นเหมือนกับนายก็จริง แต่ฉันต่างกับนาย ตรงที่ฉันจะไม่ลงมือทำลายพี่น้องของเราด้วยความแค้นส่วนตัว เหมือนที่นายทำหรอกน่ะ" แล้วก็ชักดาบมาชูตรงหน้าคลอเวฟ "บัดนี้ ฉันจะใช้วิคตอเรียสเซเบอร์นี้ จัดการกับนายลงไปซะ ราดิเอเตอร์มารีนคลอเวฟ"
              "แม้ว่านายจะตอบแทนฉันด้วยการส่งมอบนอร์ติลุสและปล่อยให้ฉันพาพวกหนีไปได้ สงสัยว่าฉันคงต้องตอบแทนนายเสียบ้างแล้วละ" คลอเวฟกล่าว
              การ์ดเชสเตอร์บอก "งั้นก็เข้ามาเลย คลอเวฟ"

              "กร้องงง กร้องงงง เกร้งงงง ป้ากกก" เดโบรมหวดดาบสู้กับเนคมาดูซัมไปสามที ก่อนจะถีบเนคมาดูซัมให้ถอย "ว้ากกกกก" จากนั้นก็บุกชาร์จเพื่อแทงใส่ "ฮึยยยย" เนคมาดูซัมกระโดดหวดดาบไปด้านข้าง "กร้องงงง ป้ากกก" ปัดดาบแทงของเดโบรมออกและถีบใส่เดโบรมให้ล้มลง "ฮึย" เดโบรมเลยยิงกระสุนพลังออกจากบ็อกซ์บัสเตอร์ไป "หวับๆๆๆๆๆๆ ปิ้วๆๆๆๆๆ" เนคมาดูซัมหมุนดาบเบรฟัลสปาดัสปัดกระสุนพลังของเดโบรม แล้วก็ "หวับ ฉึก แฟ้วววว เปรี้ยงงง" แทงดาบให้เกิดคลื่นพลังวิ่งตรงไปเป่าเดโบรมจนต้องโดดขึ้นมา "กร้องงงงง" ฟาดดาบลงใส่เนคมาดูซัม ซึ่งตั้งรับด้วยการตั้งดาบในแนวขวาง "ฮึยยย ย้า" เนคมาดูซัมแสดงลูกฮึดด้วยการตวัดดาบขึ้นปัดดาบของเดโบรมให้ปลิวไป
              "นายเก่งสมชื่อเลยนะ เนคเกอร์ แม้นายจะปะทะกับพี่ชายเพียงแค่สองหนในการรบเพียงหนึ่งครั้ง ฉันก็ยังชนะนายได้อยู่น่ะ" เดโบรมกล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "ท่วงท่าดาบของนายเน้นไปที่การชนะมากเกินไปน่ะ เดโบรม ยิ่งนายสู้ด้วยแรงแค้นมากเท่าไหร่ นายยิ่งเสียเปรียบฉันอยู่ดี"
              "นายพูดเหมือนพี่ชายฉันเป๊ะๆ แม้นายจะเป็นแกตไทซ์ขาวเลยก็ตาม แต่นั้นมันไม่หยุดฉันให้ต้องชนะนายลงได้หรอกน่ะ" เดโบรมกล่าว
              เนคมาดูซัมบอก "ต่อให้นายมีความตั้งใจที่จะเอาชนะฉัน แต่นายกำลังทำให้เดโรคผิดหวังเสียแล้วละ"

              "ฮา....." ซอลดอชวิ่งเข้าใส่มาสวาร์ทาร์และหวดดาบฟาดใส่ "เกร้งงงงง" มาสวาร์ทาร์ใช้ดาบปัดรับคมดาบอังเซนคิไว้ "ฮาๆๆๆๆๆๆ" ซอลดอชรั่วฟันใส่มาสวาร์ทาร์ไปหลายครั้ง แต่ดาบมือหนึ่งปัดดาบฝ่ายตรงข้ามไปหลายที "หวับบบบ" มาสวาร์ทาร์หวดดาบฟาดใส่ซอลดอชจนเกราะเป็นรอย "เฮ้ยยยยย" ซอลดอชเลยกระโจนเข้าแทงดาบใส่ "หวับๆๆๆๆ ป้ากกก" มาสวาร์ทาร์เลยซัดฟักดาบอัดใส่หน้าซอลดอชจนเสียจังหวะ
              "พี่มัสด้า พี่เล่นโกงด้วยการซัดฟักดาบอีกแล้วน่ะ" ซอลดอชบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "ฉันอาจจะเล่นโกง แต่มันเพราะว่าเธอร้ายกาจเกินกว่าจะใช้วิธีปกติสู้ได้ต่างหากละ" โดยรับฟักดาบที่ปลิวกลับมา
              "เพราะว่าพี่กลัวพลังของดาบเทพเล่มนี้ละสิ แน่ละ เพราะว่าดาบเล่มนี้ทำให้ผมไร้เทียมทานกันนี้แหละ" ซอลดอชรั่วฟาดดาบซัดพลังคลื่นคมดาบสีเลือดเข้าใส่ "แฟ้วววว ป้ากๆๆๆๆ" มาสวาร์ทาร์โต้ตอบด้วยการซัดเรซเซอร์เอดจ์ทำลายคลื่นคมดาบสีเลือดทั้งห้าทิ้งทั้งหมด
              "ดาบที่เธอได้มานั้น กำลังทำลายตัวเธอไปทีละนิด โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยนะ โทชิอิ ต่อให้เธอรู้สึกกล้าแกร่งแค่ไหน แต่สีหน้าเหมือนป่วยตลอดเวลานั้น มันสวนทางกับสิ่งที่เธอคิดอย่างมากเลยน่ะ"
              "ผมไม่มีทางเป็นอย่างที่พี่ว่ามาหรอก เพราะว่าผมมีร่างกายแบบเดียวกับพี่เป็นนี้แหละ และต่อให้ผมมีสภาพเหมือนศพเดินได้ พี่เองก็ไม่ต่างกันหรอก" ซอลดอชกล่าวแล้วก็วิ่งเข้ามาฟาดดาบใส่ "เกร้งงงงง" มาสวาร์ทาร์ใช้มือเดียวหวดดาบปัดซอลดอชให้ถอยไป
              "ฉันรู้ดี ว่าพลังในตัวของฉันอาจเป็นเหมือนดาบสองคม แต่นายกำลังหลงระเริงกับพลังต้องห้ามที่ไม่สมควรนำออกมาใช้ และมันได้ทำลายนายไปทีละนิดๆเช่นนี้ นายไม่มีสิทธิ์พูดเข้าข้างตนเองไปได้หรอก"
              "พี่ก็เป็นเหมือนไอ้พวกเพื่อนเห็นแก่ตัวและปากดีกันนี้แหละ แน่นอน ว่าผมจะฟันพี่ให้ขาดเป็นชิ้นๆด้วยดาบเล่มนี้เองแหละ" ซอลดอชบอก
              มาสวาร์ทาร์กล่าว "นายไม่มีทางฟันฉันให้เป็นชิ้นๆ ด้วยดาบต้องสาปที่นายถือมาได้หรอก โทชิอิ"

              "ย้ากกกกก" เบลซาร์ทวิ่งเข้าชาร์จพร้อมกับหวดดาบยาวฟันใส่พีวิล "ป้ากกกก" แม้เบรซซิ่งฟิสท์ไขว้แขนป้องกัน แต่ก็โดนฟันไปจนหลังแขนซ้ายเป็นรอย "เฮ้ยยยย" เบลซาร์ทได้โอกาสเลยพุ่งแทงใส่ "แฟ้วววว เปรี้ยงงงง" พีวิลเลยพุ่งเข้าต่อยหน้าเบลซาร์ทไปทีหนึ่ง แล้วก็ "แฟ้วววว ป้ากกก" พุ่งไปอยู่ด้านข้างซ้ายแล้วเตะตัดขาเบลซาร์ทให้ล้ม จากนั้นก็รีบโดดถอยหลังมาตั้งหลักไว้
              "โอกาสมีให้ซ้ำ แต่ไม่ทำเช่นนี้ ช่างโง่เสียจริงๆเลยน่ะ" เบลซาร์ทกล่าวโดยกลิ้งหลบและลุกขึ้นมาตั้งหลักไว้
              พีวิลบอก "ถ้าฉันกระโจนเพื่อชกซ้ำ แล้วนายหลบได้นั้น เท่ากับว่าฉันเสียแรงและเจ็บมือฟรีๆ ซึ่งฉันไม่ยอมเสียท่าแบบนั้นหรอก"
              "คิดว่าตนเองฉลาดมากพอ ถึงรู้ว่าตอนไหนจะลงมือหรือไม่ลงมือกันน่ะ" เบลซาร์ทบอก "แต่ คนที่ไม่ลงมือทั้งๆที่มีโอกาสเช่นนี้ ก็คือคนโง่นี้แหละ" แล้วก็ฟาดดาบซัดพลังคลื่นใส่ "เอนเนอจี้โบลท์" พีวิลซัดลูกบอลพลังเข้าปะทะใส่พลังคลื่นให้สลายไป "แฟ้ววววว หวับบบบ" เบลซาร์ทพุ่งเข้ามาด้านข้างเพื่อฟาดดาบใส่พีวิล "หวับบบบ เคร้งงง ป้ากกก" พีวิลเลยหมุนตัวเตะดาบของเบลซาร์ทจนสบัดออกและเตะก้านคอใส่เบลซาร์ทให้ล้มลง จากนั้นก็สาวเท้าถอยหลังไปสามก้าวด้วยกัน
              "คนที่ใช้โอกาสรีบลงมือจู่โจมฝ่ายตรงข้ามให้ได้โดยเร็วแล้วพลาดท่าเช่นนี้ จะให้เรียกยังไงมิทราบละ เบลซาร์ท"
              "สมแล้วที่เป็นแมนิเกเตอร์อดีตมนุษย์ตนที่สองที่เก่งกาจมากที่สุด และเป็นหนึ่งในสามตัวแรกที่เข้าร่วมกับสหพันธมิตรของผู้นำแอคเมนโด้ จนเป็นตัวตั้งตัวตีในการก่อกบฎต่อโอเวอร์เดสกำชัยชนะมามากกันก็ตาม" เบลซาร์ทบอก "แต่....สำหรับฉัน แมนิเกเตอร์อย่างนายก็คือแมนิเกเตอร์ที่โง่เขลาและอ่อนแอกันอยู่ดีนี้แหละ"
              พีวิลบอก "เกรงว่า นายต้องโดนมากกว่าฝ่าเท้าเสียแล้วละมั่ง เบลซาร์ท"

              "เหอะๆๆๆๆๆ แอบไบออส นายอาจจะคิดว่านายเป็นฝ่ายชนะกันก็จริง แต่เสียใจด้วย เพราะว่าฉันจะบดขยี้นายเองแหละ" ฟูมดาห์ไคท์กล่าว พร้อมกับ "แฟ้วววววววว" ยืดแขนตะกวดเข้าใส่
              แอบไบออสบอก "มากี่รอบ ฉันก็ผ่าให้ขาดได้ทุกรอบละน่า" แล้วก็ "หวับบบบบ กรี้กกกกกกก เปรี้ยงงงง หวับบบ ฉับบบบบ" หวดดาบผ่าหัวตะกวดข้างซ้ายให้ขาดสองซีก จากนั้นก็ผ่าหัวตะกวดด้านข้างให้ขาดครึ่งซีก จากนั้นก็ "ว้ากกกกกก" จับดาบเพื่อแทงใส่ฟูมดาห์ไคท์ "นายไม่มีทางหุ้มเกราะได้ทันก่อนที่คมดาบจะแทงทะลุร่างของนายแน่ๆน่ะ" แอบไบออสกล่าวแล้วจ้วงแทงใส่
              "หึๆๆๆๆๆ เสร็จฉันละ ไอ้โง่" ฟูมดาห์ไคท์แสยะยิ้ม แล้วก็ "กึกๆๆๆๆๆๆ พรวดดดด" หน้าอกกระตุกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับยืดหัวมังกรขนาดใหญ่และอ้าปากออก "กรรรรรรรร หวับบบ" แล้วก็ "กร็อบบบบ" ขย้ำแขนสองข้างของแอบไบออสพร้อมกับโบนซัมเบอร์ "อ้ากกกกกกก" ซึ่งร้องลั่นเพราะหัวมังกรขบกัดแขนทั้งสองข้างไว้ "กร็อบๆๆๆๆๆ" จากนั้นหัวมังกรก็ขย้ำแขนของแอบไบออสไปหลายที "ฮึยยยย" จนเดธเทนต้องใช้สองเท้าถีบตัวออกมา แต่แขนสองข้างกุดขาดพร้อมกับแผลฉกรรจ์ โดยเลือดไหลอย่างต่อเนื่อง
              "ฉันคิดแล้วเชียว ว่านายเหมือนกับเวโนมิไนซ์ ตรงที่นายแปรสภาพอวัยวะให้เป็นอวัยวะของสัตว์ประหลาดกันได้น่ะ" แอบไบออสบอก
              "สมแล้วที่นายปะมือกับพวกเวโนมิไนซ์ในฐานะอดีตมนุษย์ชีวภาพที่ถูกดัดแปลงกันเลยนะ เดธเทน แน่นอน ว่านายได้ทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นยิ่งกว่าเดิมแล้วละ" ฟูมดาห์ไคท์กล่าว โดยตอนนี้ "กร็อบๆๆๆๆ อึก" หัวมังกรได้เคี้ยวแขนสองข้างของแอบไบออสพร้อมกับโบนซัมเบอร์ แล้วก็กลืนเข้าร่าง "กึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ครี้งงง" จากนั้นแขนขวาก็แปรสภาพเป็นดาบหัวมังกรขึ้นมา "เป็นไงละ เดธเทน ตอนนี้ฉันขโมยดาบกระดูกขาวยักษ์ของนายไปแล้ว ฉันจะใช้มันผ่าร่างของนายให้ขาด ก่อนที่นายจะงอกแขนสองข้างกลับมาได้น่ะ" แล้วก็ "แฟ้ววววว หวับบบ" หวดแขนดาบที่ยืดยาวเข้าใส่ "ฮึยยยย" แอบไบออสกัดฟันแล้วก็กระโดดหลบ "หวับบบบบ หวับบบ หวับบบบ" ฟูมดาห์ไคท์รั่วจู่โจมแบบต่อเนื่อง บีบให้เดธเทนต้องรีบโดดหลบเพียงฝ่ายเดียว "แฟ้ววววววว ฉึกกกก หวับบบ กึก" ฟูมดาห์ไคท์ยืดแขนดาบเข้าแทงใส่แอบไบออส แต่แอบไบออสกระโดดหลบออกมาอย่างฉิวเฉียด แล้วเหยียบบนแขนดาบยาวด้วยปลายเล็บ "กรี้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก" จากนั้นก็สไลด์บนคมดาบเข้า "หวับบบ แคว้กกกก" พุ่งเข้าข่วนใส่ฟูมดาห์ไคท์เข้าที่หน้าอก จากนั้นก็ "ฟึ่บบบ ป้ากกก หวับบบ แฟ้วววว" เหยียดขาถีบกำแพงดีดตัวเข้ามา "ทูซไบค์ สครูว์แคลชเชอร์คิก" หมุนควงสว่านถีบใส่ฟูมดาห์ไคท์ "เปรี้ยงงงง" เข้ากลางหลังจนทำให้มันล้มลง แล้วก็ "เบลดทาลอน คลอว์ไบค์เพนวิลคิก" หมุนตัวตีลังกาเตะข่วนใส่ฟูมดาห์ไคท์ที่ล้มอย่างต่อเนื่อง "หวับ ป้ากก" จากนั้นก็ถีบหน้าฟูมดาห์ไคท์ไปเต็มๆ
              "ถึงฉันจะแขนกุดทั้งสองข้าง นึกหรือว่าฉันจะไม่ข่วนนายด้วยอุ้งเล็บเท้าเลยน่ะ" แอบไบออสแม้จะเสียแรงไปไม่น้อย แต่ก็กัดฟันสู้ต่อ
              "นายมันดันทุรังไม่น้อยเลยน่ะ เดธเทน ที่ฝืนสู้ทั้งๆที่สภาพของนายสาหัสไปไม่น้อยน่ะ" ฟูมดาห์ไคท์กล่าว แล้วก็ "ตรุ้งๆๆๆๆๆๆ" ระดมยิงกระสุนเพลิงออกจากปากตะกวดข้างซ้ายเข้า "หวับบบ หวับบบบ หวับบบ หวับบบ" แอบไบออสตีลังกาหลบด้านข้างไปมา แล้วก็ "แฟ้วๆๆๆๆๆๆ" พุ่งเข้าจู่โจมด้วยความเร็วสูง "ป่วยการเปล่าน่า" ฟูมดาห์ไคท์ยืดแขนซ้ายเข้า "กร็อบบบบ" ขย้ำขาท่อนล่างทั้งสองของแอบไบออสที่กระโดดถีบขาคู่จากด้านข้าง
              "อะไรเนี้ย นายไม่น่าจะเล่นงานฉันที่จู่โจมใส่นายในมุมบอดเลยนิน่า" แอบไบออสอุทาน

              "นายคิดว่าฉันสามารถเปลี่ยนแขนและลำตัวให้เป็นหัวสัตว์ประหลาดได้ละก็ คิดผิดแล้ว เพราะว่าฉันสามารถเปลี่ยนแปลงส่วนศีรษะให้มีดวงตาหลายดวง ที่มองหานายได้ทุกทิศทางกันนี้แหละ" ฟูมดาห์ไคท์กล่าวโดยหัวของมันยืดยาว และมีดวงตาโผล่มา 2 แถว แถวละ 6 ดวงจากด้านบนลงมา "และตอนนี้ ฉันจะกินขานายก่อนเลยแล้วกัน" ฟูมดาห์ไคท์กล่าว แล้วก็ "กร็วมๆๆๆๆๆๆๆๆ" หัวตะกวดขย้ำขาของแอบไบออสอย่างต่อเนื่อง "อ้ากกกกกก" เดธเทนร้องลั่นขึ้น แต่ก็กัดฟันฮึดสู้พร้อมกับ "กึกๆๆๆๆๆ พรวดดดด พรวดดดด ครี้งงงง ฉึกกกกก ครี้งงงงง" งอกแขนสองข้างออกมา โดยแขนซ้ายถือโบนเซเบอร์มาแทงใส่หัวตะกวดและขยายคมดาบให้เป็นซัมเบอร์โดยเร็ว
              "สายไปแล้ว ฉันกลืนขาของนายไปแล้วละ เดธเทน" ฟูมดาห์ไคท์กล่าวแล้วก็ "กึกๆๆๆๆๆ อึก" ส่วนคอขยับโดยกลืนขาสองข้างของแอบไบออสเข้าไปในตัว จน "กึกๆๆๆๆๆๆ ครี้งๆ" ส่วนขาของฟูมดาห์ไคท์กระตุกและขยายใหญ่จนมีหัวมังกรติดตรงหัวเข่า ส่วนเท้ายืดยาวและมีกงเล็บยาวสามซี่แบบเดียวกับของแอบไบออสไว้ "หวับบบบ ป้ากกกก ฟ้าววว โครมมม" จากนั้นฟูมดาห์ไคท์ก็หวดขาเตะแอบไบออสจนปลิวไปอัดกับกำแพงจนแตกร้าว "ยังหรอกน่า นี้แน่ๆๆๆๆๆ" จากนั้นก็รั่วเตะใส่ไม่ยั้งจน "เคร้งๆๆๆๆๆๆๆๆ" ข่วนใส่แอบไบออสจนกำแพงพังเป็นแถบๆ แม้แอบไบออสจะบล็อกด้วยโบนซัมเบอร์ แต่ก็โดนข่วนจนเป็นแผลไปด้วย
              "ฉันไม่แปลกใจแล้วละ ว่าทำไมเวโนมิไนซ์ถึงต้องกวาดล้างพวกนายให้ราบคาบ เพราะว่านายใช้สิ่งที่กลืนกินมาแล้ววิวัฒนาการให้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมเลยสิน่ะ" แอบไบออสกล่าว โดยใช้ดาบโบนซัมเบอร์ปักพื้น และประคองร่างที่บอบช้ำให้ลุกขึ้น
              "ช่าย พวกเราควรจะเป็นผู้ที่ปกครองลอร์เดเซรอธ แทนที่ไอ้พวกผิวกระดูกขาวกันไปนานแล้ว ถ้าไม่เพราะว่าพวกมันเล่นรุมพวกเรา กำจัดพวกเด็กๆทิ้ง ฆ่าเพศเมียของพวกเราให้เหี้ยน ทั้งๆที่มีลูกในท้องอยู่มากมาย ขนาดพี่น้องเพศผู้ที่พยายามจะสร้างลูกๆเองก็โดนเชือดกันเช่นนี้ แม้พวกเราจะหนีข้ามทวีปเพื่อสร้างชนเผ่ากลับมาใหม่และหลบซ่อนอย่างเงียบๆ ไม่คิดเลยว่าพวกซัลคาเลี่ยนก็หาเรื่องบดขยี้พวกเรา จนเหลือฉันเพียงตนเดียว ที่เป็นแค่เวมท็อคซินวัยเด็กกันน่ะ" ฟูมดาห์ไคท์บอก "แน่นอน ว่าถ้าท่านกาโกรินไม่ทำเป็นหูทวนลมและช่วยปิดบังพวกทหารที่ไล่ล่าให้หนีไป พร้อมกับให้ความคุ้มครองแก่ฉันในฐานะข้ารับใช้ของท่านกาโกรินแล้วละก็ ฉันคงไม่มีโอกาสฟื้นฟูเผ่าพันธุ์ของฉัน จนสามารถเล่นงานนายและพวกลงได้แล้วละ"
              แอบไบออสบอก "ต่อให้นายจัดการพวกเราได้ นึกหรือว่าทรอลลอฟและพวกเวโนมิไนซ์ที่เหลือจะไม่ปล่อยให้นายและพวกลูกๆของนายรอดไปได้น่ะ"
              "ปากดีไปเหอะ เดธเทน สภาพของนายนั้น แม้จะสามารถฟื้นฟูบาดแผลไปได้ แต่เสียใจด้วย เพราะว่าฉันแข็งแกร่งกว่านายอย่างมาก จากการกินพวกมนุษย์อันทรงพลังบนโลกเลยน่ะ" ฟูมดาห์ไคท์บอก
              แอบไบออสกล่าว "นายกินพวกนิวเมนอยด์อย่างงั้นนะหรือ"
              "ฉันกินพวกเด็กฝึกในโครงการพลังจิต ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ G-3 กันนี้แหละ โดยฉันได้หลอกพวกนักเรียนที่มีขีดความสามารถด้านพลังจิตกล้าแกร่งให้ออกมา ด้วยการอ้างว่า ฉันสามารถทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นในเวลาอันสั้น โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการสร้างที่ยุ่งยากและใช้เวลานานเป็นเดือนกันด้วย ซึ่งพวกมนุษย์หน้าโง่เหล่านี้ นอกจากจะเชื่อง่ายแล้ว พลังจิตของพวกนี้ช่วยให้ฉันสามารถควบคุมร่างกายให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น และแปรสภาพได้เร็วขึ้นถึง 10 เท่าด้วยกัน" ฟูมดาห์ไคท์บอก "และด้วยสปีดที่ฉันได้รับนั้น ฉันไม่จำเป็นต้องให้ลูกๆฉันมีพลังแบบเดียวกัน แล้วฉันไม่สามารถควบคุมพวกนี้ได้เองหรอก เพราะฉันจะใช้จัดการกับนาย แล้วก็พวกพ้องที่เหลือ รวมถึงพวกเวโนมิไนซ์กันด้วยน่ะ"
              แอบไบออสยิ้มขึ้นมา "ถ้านายคิดจะเอาชนะฉันด้วยวิธีแบบนั้นละก็ เกรงว่านายคิดผิดอย่างมหันต์ และนั้นจะทำให้นายพ่ายแพ้อย่างไม่น่าให้อภัยเลยน่ะ"

              "ซัลวาส เตรียมตัวตายได้แล้ว เปิดโหมดเอ็กซ์เดธริปเตอร์" เดรฟมัสค์กล่าว โดย "แว้งๆๆๆๆ ควี้งงงง" ร่างเปล่งแสงสีแดงขึ้นโดยหน้าอกเปล่งแสงเป็นรูปตัวเอ็กซ์สีแดงก่า พร้อมกับ "แฟ้ววววววว" พุ่งเข้าใส่เจเนลมาอย่างเร็ว "ป้ากกก" จนเจเนลถูกถีบกระเด็นไป "แฟ้วๆๆๆๆๆๆ เคร้งๆๆๆๆๆ" จากนั้นก็พุ่งจู่โจมใส่เจเนลจนเกราะตามตัวถูกข่วนยับไปหลายที "เฮ้ยยยย" เจเนลเลยถีบเข้าใส่เดรฟมัสค์ที่พุ่งเข้ามา แต่ "หวืบบบบบ" ถีบถูกร่างเงาจนร่างเงาสลายไป "ฟิ้วๆๆๆๆๆ ฉึกๆๆๆๆ" เดรฟมัสค์โผล่มารั่วยิงมีดสั้นเข้าใส่เจเนลจนถูกแทงใส่ตรงต้นขา หน้าแข้ง ต้นแขน และหน้าอกไปพร้อมกัน "ตายซะ ซัลวาส" เดรฟมัสค์กระโจนเข้าจู่โจมด้วยกงเล็บมีดทั้งสองข้างใส่ "ฉึกกกกกกก" จนใบมีดทั้งหกแทงทะลุร่างเจเนลไปข้างหลัง แต่....ที่เดรฟมัสค์แทงทะลุไปนั้น เป็นแค่เกราะกลวงๆ ส่วนตัวเจเนลนั้น "แว้งงงง เปรี้ยงงงง" พุ่งถีบด้วยไฮเปอร์ชาร์จคิกใส่เดรฟมัสค์จนล้มกลิ้ง โดยตอนนี้ตนอยู่ในสภาพของกิก้าเจเนลแล้ว
              "ดีที่ฉันแปลงร่างแทรนซิ่งแล้วรีบลอกคราบออกมาก่อน ไม่งั้นแย่แน่ๆเลยละ" เจเนลกล่าวโดยที่สภาพร่างของเขาฟื้นตัวกลับมาหลังจากแปลงร่างไปแล้ว
              "ซัลวาส สุดท้ายแกก็กลับมาจนได้ ฉันจะได้ฆ่าแก เพื่อชดใช้ในสิ่งที่แก ทำให้ชีวิตของฉันเป็นเช่นนี้น่ะ" เดรฟมัสค์บอก พร้อมกับพุ่งจู่โจมด้วยกงเล็บมีดใส่ "แฟ้วววว หวับๆๆ" เจเนลเลยกระโดดหลบออกมา
              "พอกันทีแล้วละ เดรฟมัสค์ ไม่สิ เซเวคชั่นฮันเตอร์อาครีม่า ถึงแม้ว่าฉันมีรูปร่างเหมือนกับซัลวาส ตรงที่มีเขาสองข้างที่มันมอบให้ฉันก็จริง" แล้วก็สบัดมือขวาให้เป็นดาบฟูลเมทัลเบลด "แต่ ซัลวาสไม่อยู่แล้ว ที่นายกำลังสู้อยู่นี้ คือเจเนล แมนิเกเตอร์อดีตมนุษย์แบบเดียวกับนาย ผู้เป็นแมนิเกเตอร์แบบครีซีแทนผสมกับสโทรเพธ ฉันมานี้ เพื่อที่จะมาจัดการส่งนายไปหาซัลวาส เกรวิล แล้วก็น้องสาวของนายด้วยน่ะ"
              "ต่อให้นายเป็นใคร ฉันไม่สน ฉันสนอย่างเดียว คือกำจัดคนที่เหมือนซัลวาสลงไปซะ" เดรฟมัสค์บอก แล้วก็พุ่งเข้าใส่เจเนล "ป้ากกก" แต่เจเนลพุ่งเข้าเสยฝ่าเท้าเตะใส่เดรฟมัสค์ไปเต็มๆ
              "สงสัยนายต้องโดนมากกว่าลูกถีบแล้วละมั่ง"

              "ดูให้ดี นี้คือพลังที่แท้จริงของฉันละ" มิสตี้กล่าวแล้วก็ "แว้งๆๆๆๆๆ เปรี้ยงงงง" เปร่งแสงจนร่างของเธอเรืองแสงสีม่วงแกมชมพู โดยที่หัวของเธอกลมและมีดวงตาสีเหลือง จากนั้นก็ "แฟ้ววววววว" พุ่งเข้ามา "เปรี้ยงงงง" ถีบจิลจนกระเด็นไป
              "อะไรเนี้ย" ไซโคลเนียร้องลั่น แล้วก็ "ป้ากกกก เปรี้ยงงง" โดนมิสตี้โผล่มาชกที่ท้องและถีบให้ร่วงตาม "ย้า ย้า" สเปียริทและโฟรซ่าหวดอาวุธใส่ "แว้งงงง ครี้งงงงง" มิสตี้สร้างดาบพลังแสงจากหลังแขนปัดรับแล้วก็ "ย้า" สาดพลังอัดใส่โฟรซ่าและสเปียริทจนปลิว แล้วก็ "นี้แน่" สาดพลังเข้า "ป้ากกก เปรี้ยงงง" อัดใส่ลิเนียร์ตี้และแอนเดรียจนร่วงตาม
              "เป็นยังไงละ พลังไซเฟรอนอันรุนแรงของฉัน แรงมากพอที่เธอจะใช้นิ้วเกี่ยวขอบพื้นก่อนร่วงละสิ แย่หน่อย ที่ฉันจะทำให้พวกเธอร่วงกันนี้...." มิสตี้กล่าว "แชดดดด ป้ากกกก" แต่เธอถูกลำแสงยิงเข้ากลางหลัง "ฟ้าววว ป้ากๆๆๆๆๆ" จากนั้นก็ถูกจู่โจมด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง "ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ ป้ากๆๆๆๆๆ" ตามด้วยอาวุธบินพุ่งอัดใส่มิสตี้ไปหลายที "ไฮย้า นี้แน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" แอนเดรียในร่างเดมอนเนสพุ่งเข้ามารั่วถีบและต่อยใส่มิสตี้แบบไม่ยั้ง แม้เธอจะกางบาเรียต้านไว้ แต่ก็ "เพล้ง ปั้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" โดนหมัดและเท้าต่อยแบบไม่ยั้ง "ย้า" เพรแคทลิเนียร์ตี้พุ่งเข้าใช้โฮลี่คิวตี้เซเบอร์ฟันใส่มิสตี้เข้าด้านข้าง แม้มิสตี้จะเสยหมัดใส่ แต่ "ป้ากกกก หวับบบบ โครมมม" ดรากูเนสสเปียริทใช้คริสทรัลทวินแลนเซอร์ฟาดเข้าที่สีข้างฝั่งขวา แล้วก็จับโยนขึ้นพร้อมกับเหวี่ยงข้ามหัวฟาดกระแทกกับพื้นไป จากนั้นก็ถอยมาพร้อมกับพวกโฟรซ่าที่แปลงร่างเรียบร้อยแล้ว
              "เกรงว่าแผนถีบเราร่วงจากเวที มันไม่ได้ผลแล้วละ มิสตี้" โฟรซ่าบอก
              "ต่อให้เธอระเบิดพลังไซเฟรอนให้แรงกล้าแค่ไหน แต่พวกเรา มีพลังแทรนซิ่งอยู่นะยะ" ไซโคลเนียบอก
              จิลกล่าว "ยอมแพ้ตอนนี้ ยังทันเวลาเลยน่ะ มิสตี้ ก่อนที่เธอจะเจ็บตัวและเสียฟอร์มไปมากกว่านี้เลยน่ะ"
              "หึๆๆๆๆๆๆๆ ฉันนึกอยู่แล้ว ว่าพวกเธอไม่มีทางเลือกนอกจากใช้ไพ่ตายใบนี้ เพื่อที่จะทำให้ฉันล้มกลิ้งกับพื้นไปได้น่ะ" มิสตี้กล่าว "แต่ พวกเธอโง่มากเลยนะ ที่ประมาทพลังที่แท้จริงของฉันไว้น่ะ"
              สเปียริทบอก "ถ้าคิดจะระเบิดตัวเองเพื่อลบพวกเราทั้งหมดนี้ละก็ เกรงว่าเธอทำไม่ทันหรอก เพราะพวกเราทั้งหกจะชิงลงมือจัดการกับเธอก่อนนี้แหละ"
              "การโจมตีของพวกเรานั้นทำเธออ่วมขนาดนี้ เธอไม่มีทางโต้ตอบอะไรได้หรอกน่ะ" โฟรซ่ากล่าว
              แอนเดรียบอก "คุณคนเดียวสู้พวกเราทั้งหมดนี้ไม่ได้แน่ๆ ดังนั้น คุณหยุดตอนนี้เลยดีกว่า"
              "ที่ควรหยุดนั้น มันพวกเธอเองต่างหากละ" มิสตี้กล่าวแล้วก็ "แว้งงงงง" เปล่งพลังขึ้นมาจน "กึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ส่งเสียงดังอย่างต่อเนื่อง
              "กึก" ไซโคลเนียเข่าทรุดลงกับพื้น "ตะ ตัวหนักขึ้น เหมือนมีบางอย่างกดฉันให้ล้มน่ะ"
              "กึกๆๆๆๆๆ โครมมมม" จิลตัวคว่ำกับพื้นจนพื้นคอนกรีตยุบและร้าวลง
              โฟรซ่ากล่าว "นี้เธอ สามารถควบคุมแรงดึงดูดได้นะหรือ" แล้วก็ทรุดตัวลง
              มิสตี้กล่าว "หึๆๆๆๆ ต่อให้พวกเธอมีพลังจิตที่สามารถหายตัว มีความสามารถในการบิน มีพละกำลังและมีพลังมหาศาล มีสายตาเฉียบคมและเฉียบไวพอที่จะโจมตีได้อย่างต่อเนื่อง หรือมีร่างกายอันแข็งแกร่งจากการกลายพันธุ์ระดับอันตรายยิ่งยวดแค่ไหน ไม่มีใครหน้าไหนรอดพ้นจากเพรชเชอร์พิสซอนโซนของฉันไปได้หรอกนะยะ"
              "แสดงว่า เธอคิดจะบดขยี้พวกเราให้แหลกไปในคราวเดียวเลยสิยะ" สเปียริทกล่าว โดยพยายามประคองตัวเองด้วยการปักหอกสองคม แต่ "โครมมม" เธอกลับเป็นฝ่ายถูกกดเอง
              ลิเนียร์ตี้เองก็ถูกกดพร้อมกับปีกที่ถูกบีบให้ขนนกกระจาย "ที่คุณทำให้พวกเราเจ็บตัวเช่นนี้ เพื่อให้พวกเรารู้สึกเหมือนที่คุณรู้สึกเลยสิน่ะ" แอนเดรียบอก
              "จะบอกอะไรให้ก็ได้น่ะ เหตุผลที่ฉันต้องทำให้ตัวเองเหนือกว่าพวกเธอนั้น ก็เพื่อให้พวกเธอรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดของพวกเรา ที่ต้องสูญเสียเวลาแห่งวัยเด็ก ต้องถูกพวกผู้ใหญ่กดขี่ข่มเหง บีบบังคับให้พวกเราต้องกลายเป็นฆาตกรฆ่าคน ต่อให้อีกฝ่ายเป็นพวกเฮซเทิร์ซเลยก็ตาม สำหรับพวกแมนิเกเตอร์ไทป์ต่อสู้ที่เป็นสุนัขรับใช้ของฝ่ายรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นแรซัลก้าหรือที่นี้ พวกเขาก็เห็นพวกเราเป็นภัยคุกคามกันนี้แหละ" มิสตี้บอก "แน่นอน ว่าชัยชนะของฉันนั้น จะกระตุ้นให้พวกพี่น้องที่ยอมแพ้เหล่านั้นให้ลุกขึ้นมาต่อสู้อีกรอบ และแสดงให้พวกเขาเห็นว่า การยอมจำนนให้กับพวกทหารหน้าโง่ด้วยการให้พวกนั้นดูดพลังที่อยู่ในตัวไปจนหมดนี้ เป็นเรื่องโง่เง่าอย่างมาก ในเมื่อพวกเรา คือแมนิเกเตอร์ที่ทรงพลังมากที่สุด แข็งแกร่งที่สุด และเป็นอิสระจากการควบคุมใดๆ โดยไม่มีใครหน้าไหนกล้าต่อต้านพวกเราทั้งนั้นเลยน่ะ"
              ลิเนียร์ตี้กล่าว "แม้กระทั่งพวกเพรแครทที่คิดจะช่วยคุ้มครองพวกคุณด้วยนะหรือ พวกเขามิได้มีเจตนาร้ายอย่างที่คิดเสียหน่อย"
              "ด้วยการส่งพวกเราไปให้เบื้องบนดูดพลังออกไปจนไม่เหลือไว้ใช้ต่อต้านใดๆเลยหรือ สำหรับพวกเรา พลังที่พวกเรามีนั้นคือสิ่งเดียวที่ช่วยคุ้มครองพวกเรา การที่พวกเราถูกช่วงชิงพลังไป ก็เหมือนเป็นการทำร้ายพวกเราให้ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้กันอยู่แล้ว แน่นอน ว่าพวกเธอ ไม่ว่าจะเป็นอดีตมนุษย์จากโลก มิวแทนอยด์ตัวอันตรายที่สุด ผู้สืบทอดแกนหัวใจของฆาตกรที่ฆ่าพี่ชายและแฟนของฉัน แล้วก็องค์หญิงองค์สุดท้องของมารดรเทพที่เป็นผู้นำพาหายนะนั้น ไม่มีทางเข้าใจความเจ็บปวดที่พวกเราต้องมีสภาพเป็นเช่นนี้ไปได้หรอก" มิสตี้กล่าว "หลังจากที่ท่านกาโกรินช่วยเหลือฉันและดูแลฉันไว้เป็นอย่างดี ฉันจึงสาบานกับตนเองไว้ ว่าจะต้องโค่นล้มรัฐบาลทั้งสองฝ่าย เพื่อประกาศอิสระภาพให้กับพวกพ้องลุกขึ้นมาต่อสู้กันนี้แหละ"
              โฟรซ่ากล่าว "เธอเลยยัดเยียดความเจ็บปวดของเธอและพวกมาให้พวกเรารับรู้เลยสิน่ะ มิสตี้ แต่....ถ้าเธอคิดว่าพวกเราไม่เจ็บปวดละก็ คิดผิดแล้วละยะ"

              "เธอรู้บ้างมั้ย ว่าถึงแม้เธอจะมีพลังกล้าแกร่งอยู่ในตัว และเป็นอาวุธเพียงหนึ่งเดียวที่เธอมี เพื่อที่จะใช้ต่อสู้กันได้ก็จริง แต่เธอไม่รู้เลยหรือ ถึงความเจ็บปวดของผู้ที่มีพลังอันยิ่งใหญ่ แต่ไม่สามารถควบคุมมันไปได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดๆก็ตาม แม้จะสามารถบรรเทาลงไปได้ แต่ก็ไม่สามารถแก้ให้หายไปได้เอง โดยที่เพื่อนพ้องของเธอบางราย ถ้าไม่ตายก็ต้องเจ็บปวดและทรมาน เหมือนที่ฉันเคยเกือบตายเพราะพลังอันยิ่งใหญ่ที่ฉันได้รับจากคุณฮัลลี่ โดยที่ฉันไม่รู้วิธีหยุดมันไปได้น่ะ" ลิเนียร์ตี้กล่าว
              ไซโคลเนียบอก "และเธอรู้มั้ย ว่าแขนขาของฉันนั้น มาจากเพื่อนสนิทที่เสียสละให้กับฉันไว้ใช้ต่อสู้ต่อ เมื่อเขารู้ว่าสภาพของเขาไม่สามารถซ่อมแซมให้เป็นปกติได้ ซึ่งนั้นหมายถึง ฉันได้เสียเพื่อนที่ดีที่สุดตนหนึ่งไปแล้ว แม้จะเหลือแขนขาไว้ ฉันยังใช้สู้ต่อ โดยระลึกถึงการจากไปของเขาเลยน่ะ"
              "เธอคงไม่รู้หรอกน่ะ ว่าร่างของฉันในตอนนี้ มันควรจะเป็นสภาพหลังจากที่ฉันลืมตาตื่นขึ้นมา หลังจากที่ฉันเสียสละตนใช้พลังเพื่อปกป้องทุกๆคนให้อยู่รอด แต่กลายเป็นว่าฉันไม่สามารถควบคุมพลังจิตที่แรงกล้าในร่างนี้ไปได้ในทีแรก จนผู้ชุบชีวิตต้องทำให้ฉันกลายเป็นเด็กสิบขวบไป ซึ่งมันรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยในทีแรก ที่ฉันต้องอยู่ในสภาพแบบนั้นไปเลยก็ตาม ถ้าไม่เพราะโชคช่วยบวกกับการฝึกฝนให้ควบคุมตนเองไว้ ฉันคงไม่สามารถกลับเป็นผู้ใหญ่ได้หรอกน่ะ" จิลบอก
              แอนเดรียบอก "ฉันเองก็รู้สึกเจ็บปวดเช่นกัน ที่ต้องกลายเป็นแมนิเกเตอร์ หลังจากที่สูญเสียคุณพ่อไป จากนั้น ฉันก็ประสบอุบัติเหตุจนร่างกายของฉันกลายเป็นปีศาจมิวแทนอยด์ที่อันตรายและไร้การควบคุม ชนิดที่สามารถฆ่าทุกคนให้ตายไปได้ กว่าฉันจะรู้เรื่อง ต้องใช้เวลา 4 ปี เพราะคนที่ฉันให้ความเคารพยอมปิดบังเรื่องนี้ต่อทุกๆคน เพื่อปกป้องฉันไว้ โดยที่ฉันหลงเข้าใจผิดและตัดสินใจเข้าร่วมรบเพื่อตอบแทนในสิ่งที่เขาช่วยฉันไว้ ถ้าไม่เพราะทุกๆคนที่คอยช่วยเหลือและแนะนำให้ฉันสู้กับตัวตนที่อันตรายของฉันได้เอง ฉันคงไม่ได้มาสู้กับเธอได้หรอกน่ะ"
              "เธอมิได้เจ็บปวดเพียงลำพังหรอกน่ะ มิสตี้ เมื่อก่อน ฉันถูกพวกแมนิเกเตอร์ฆ่าตายและนำตัวมาชุบชีวิต พร้อมกับดัดแปลงให้ฉันเป็นเพชรฆาตที่เลือดเย็น และฆ่าคนตายไปหลายรายโดยที่ฉันไม่มีสติที่ห้ามปรามตัวฉันไปได้ กว่าฉันจะรู้สึกตัว ฉันก็ต้องตายอีกรอบแล้วก็ได้รับการคืนชีพอีกครั้ง เพื่อที่จะชดใช้สิ่งที่ฉันได้ทำลงไป แม้นั้นหมายถึง การที่ฉันสูญเสียที่ยืนในฐานะมนุษย์ไปแล้วก็ตาม ถ้าไม่เพราะว่าฉันยังมีเพื่อนร่วมชาตะเดียวกันอีกหลายคนอยู่ด้วย ฉันคงไม่มาโดนเธอกดให้จมดินได้หรอกน่ะ" โฟรซ่ากล่าว
              สเปียริทบอก "และ เธอคงไม่เข้าใจความเจ็บปวดของฉันได้หรอกน่ะ เพราะนับตั้งแต่ฉันเกิดมา ฉันต้องโดดเดี่ยวเดียวดาย จากการถูกตราหน้าว่าเป็นองค์หญิงตัวซวยที่นำพาหายนะมาให้ทุกฝ่าย แม้ฉันพยายามไม่น้อยที่จะทำให้ทุกๆคนยอมรับในตัวฉัน ว่าฉันมิได้เป็นตัวอันตรายอย่างที่กล่าวอ้างมา แต่สุดท้าย ฉันก็ต้องผิดหวังไปเลยนี้แหละ"
              "แล้วเธอก็กลายเป็นตัวซวยกันอย่างแท้จริงเลยสิน่ะ ไม่แปลกเลยที่เธอทำให้เพื่อนพ้องของเธอซวยไปด้วย" มิสตี้ดูถูก
              สเปียริทโวยลั่น "ฉันยังพูดไม่จบ แม้ฉันจะพบพานกับความผิดหวัง จนฉันต้องสูญเสียความดีในตนเอง ด้วยการลุกขึ้นมาต่อสู้กับคนเลวๆทั้งหลาย เพื่อให้พวกเขารู้ว่าฉันมีตัวตนอยู่ แม้นั้นจะทำให้ฉันถูกทุกคนในแรซัลก้ามองเป็นตัวซวยกันเป็นส่วนมาก จนกระทั่งฉันพลาดพลั้งจนเกือบตายและต้องสูญเสียความทรงจำในอดีตไป แต่เจตจำนงและความเป็นนักสู้ของฉันยังคงอยู่ และกระตุ้นให้ฉันต้องสู้ต่อไป แม้ฉันจะจำอดีตของฉันไม่ได้เลยก็ตาม จนฉันต้องทำให้ท่านพ่อท่านแม่ต้องพ่ายแพ้ และทำให้บ้านเกิดถูกปิดตายเอาไว้ กว่าฉันจะรู้เรื่องในตอนนี้ ฉันก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากกับสิ่งที่ฉันได้ทำลงไปเลยน่ะ" แล้วก็เงยหน้าขึ้น "แต่ฉันมิได้รู้สึกเจ็บปวดเพียงลำพัง ในเมื่อเพื่อนพ้องของฉัน ต่างก็มีบาดแผลความเจ็บปวดด้วยกันทั้งนั้น แม้จะต่างเรื่อง ต่างเหตุการณ์ และต่างสาเหตุเลยก็ตาม แต่พวกเรายังยืนหยัดที่จะสู้ต่อโดยมีความเจ็บปวดเป็นแรงผลักดันกันนี้แหละ" จากนั้นสเปียริทก็ลุกขึ้น โฟรซ่า ไซโคลเนียก็พยายามฮึดสู้ เช่นเดียวกับจิล แอนเดรีย และลิเนียร์ตี้ด้วย

              "พวกเธอคิดว่าพวกเธอเป็นเหมือนฉันนะหรือไงน่ะ ถึงกล้าอ้างความเจ็บปวดกันได้น่ะ" มิสตี้ใช้พลังของเธอกดพวกโฟรซ่าให้จมยิ่งกว่าเดิม
              แอนเดรียบอก "พวกเราต่างจากคุณเองต่างหากละ ที่เราใช้ความรู้สึกเจ็บปวดเป็นแรงผลักดันให้พวกเราต่อสู้กับตนเอง และต่อสู้กับฝ่ายอธรรม เพื่อปกป้องรอยยิ้มของทุกๆคนและป้องกันมิให้ทุกๆคนต้องมาเดือดร้อน กับการใช้ความเจ็บปวดของคุณสนองต่อความแค้นในสิ่งที่พวกคุณทำกับผู้อื่นไว้ แม้ว่าพวกคุณเป็นฝ่ายถูกกระทำก็ตาม พวกคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะทำร้ายใครได้เลยนะคะ"
              "สิ่งที่เธอทำอยู่นี้ มันไม่ได้ช่วยให้ทุกๆคนที่ไม่อยากจะต่อสู้ ลุกขึ้นมาตามที่เธอคิดหรอก เพราะว่าพวกเขาไม่คิดที่จะเป็นศัตรูเหมือนที่เธอกับพวกคิดกันได้หรอก" ไซโคลเนียกล่าว
              จิลบอก "และถ้าเธอหาว่าพวกเราโง่เง่าและมีจุดเสียเยอะแล้วละก็ เกรงว่า เธอเองต่างหากละ ที่ใช้อารมณ์และความแค้นที่เธอสูญเสียคนที่เธอรัก เป็นเครื่องมือให้เธอลุกขึ้นต่อสู้เพียงเพื่อสนองความแค้นบ้าๆของเธอนี้แหละ" จากนั้นก็พยายามคุกเข่าขึ้นยืนตามแอนเดรียไปด้วย
              "อีกอย่าง ที่พวกเพื่อนพ้องของเธอเป็นเช่นนี้ เพราะว่าพวกเขาไม่ยอมรับในการช่วยเหลือ และหวาดกลัวว่าพวกเขาจะต้องสูญเสียพลังที่พวกเขาได้รับมา โดยคิดว่าพวกเขาจะต้องอ่อนแอ เลยต้องโต้ตอบจนต้องกลายเป็นศัตรูเช่นนี้ ซึ่งเธอก็ทำตัวแบบเดียวกับพวกเขากันนี้แหละ" โฟรซ่ากล่าว
              ลิเนียร์ตี้บอก "การตายของพี่ชายของคุณและแฟนของคุณนั้น ไม่ใช่เพราะว่าคุณฮัลลี่เป็นคนจัดการ แต่ถ้าคุณฮัลลี่ไม่หยุดยั้งพวกเขา พวกเขาก็ฆ่าประชาชนให้ตายไปจนหมดแรซัลก้า คุณต้องการเป็นแบบนี้นะหรือ คุณอยากเป็นฝ่ายอธรรม ทั้งๆที่คุณถูกสร้างมาเพื่อเป็นนักรบฝ่ายธรรมะกันเลยน่ะ" แล้วทั้งคู่ก็ฮึดสู้กับแรงดึงดูดจนลุกขึ้นมา
              "แม้ว่าพวกเราจะมีจุดเสียที่น่ากลัวหรือร้ายแรงจนแลดูไม่เป็นฝ่ายธรรมะกัน ซึ่งพวกเรายอมรับในข้อเสียนี้ และยืนหยัดต่อสู้ต่อไปได้ โดยที่มีทุกๆคนคอยช่วยและส่งเสริม หากแต่เธอกับพวกที่หวาดกลัวจะสูญเสียพลังที่เธอได้มาแบบผิดๆนั้น ได้ตัดโอกาสดีๆที่จะช่วยให้พวกเธอกลับตัวเสียใหม่ไปแบบไม่น่าให้อภัยกันนั้น เธอไม่ควรมาโทษว่าเป็นความผิดของทุกๆคน ไม่ว่าจะเป็นประชาชน หรือคนที่เคยทำกับพวกเธอให้เป็นเช่นนี้เลยก็ตาม" สเปียริทบอก แล้วก็ตบพื้นไปเต็มแรงจนมิสตี้หวาดกลัว และมิสตี้ยิ่งกลัวมากกว่านี้ เมื่อสเปียริทพยายามลุกขึ้นมา "แมนิเกเตอร์ที่กล้าใช้ความเจ็บปวดเพียง เพื่อสนองความแค้นในสิ่งที่พวกพ้องของเธอทำกับชาวซัลคาเลี่ยนทั้งดีและเลวอย่างเธอนั้น อย่าว่าแต่ฉันเลย...."
              แล้วเธอกับแอนเดรีย ลิเนียร์ตี้ โฟรซ่า จิลและไซโคลเนียกล่าวพร้อมกันไปว่า "พวกเราทั้งหมดนี้ ไม่มีทางยอมสยบให้เธอกันได้หรอก!!!!!!!!!!!!" จากนั้นก็ "แว้งงงงงง เปรี้ยงงงง" เปล่งพลังขึ้นเป่าสนามพลังแรงดึงดูดของมิสตี้ให้หายไป
              "เป็นไปไม่ได้น่า พลังควบคุมแรงดึงดูดของฉัน ไม่มีทางถูกทำลายไปได้เลยนิน่า" มิสตี้กล่าว
              โฟรซ่าบอก "มันเป็นไปแล้วละ มิสตี้ ต่อให้เธอกดให้เราจนอยู่ใต้ดาวไปครึ่งดวง เธอไม่มีทางชนะพวกเราที่ยอมรับในความเจ็บปวดกันและลุกขึ้นยืนหยัดสู้ต่อไปได้หรอกน่ะ"
              "ถึงเธอทรงพลังแค่ไหน และมีความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนสำคัญไปมากเพียงไร มันเทียบกับของพวกเรากันไม่ได้หรอก" จิลบอก
              ไซโคลเนียกล่าว "นั้นบ่งบอกได้ว่า เธอมันอ่อนแอกว่าพวกเราอย่างเห็นได้ชัด ถึงเธอจะปากดีดูถูกพวกเรามากแค่ไหน นั้นตอกย้ำให้พวกเรารู้ว่าเธอแย่กว่าเราเพียงไรไปด้วยนะสิ"
              "ถ้าคุณคิดว่าพวกพ้องของคุณในตอนนี้จะชนะพวกพ้องของเราได้ละก็ เกรงว่าคงไม่มีทางหรอกคะ" แอนเดรียกล่าว
              ลิเนียร์ตี้บอก "เพราะว่าพวกเขา เชื่อมั่นในตัวพวกพ้องของเราทั้งหมด ว่าต้องฟันฝ่าอุปสรรค์และกำชัยชนะมาได้แน่นอน"
              "ต่อให้เธอมีพลังแรงกล้ามากพอชนิดที่สามารถคว่ำท่านแม่ลงได้อย่างง่ายดายกันละก็ เธอคิดผิดแล้ว เพราะเธอจะโดนพลังขององค์หญิงแห่งการต่อสู้และพวกพ้องทั้งห้าลงทัณฑ์ จากการสานต่อความแค้นของพวกพ้องที่เลือกทางผิดเองนี้แหละ" สเปียริทบอก
             มิสตี้ยั้วะยิ่งกว่าเดิม "สามหาวนักน่ะ ถ้าพวกเธอคิดเช่นนั้น งั้นฉันจะทำลายพวกเธอให้ราบคาบไปข้างหนึ่งเลยสิ"
    ต่อพาร์ทสอง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×