ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (sf/os) fellas ★ chanbaek

    ลำดับตอนที่ #1 : - most nights I pray for you to come home -

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.88K
      29
      11 ก.ค. 59

     

     





    The things you own end up owning you.
    สิ่งที่คุณครอบครอง สุดท้ายแล้วมันจะย้อนกลับมาครอบครองคุณเอง

               

                ในบรรดาวลีจากภาพยนตร์ที่เคยดูมาเป็นร้อย ๆ เรื่อง ชานยอลจำประโยคนี้ได้อย่างขึ้นใจ อันที่จริงแล้ว เขาไม่ได้รู้สึกชอบหรือคิดว่าประโยคนี้ซาบซึ้งขนาดนั้นหรอก แต่เป็นเพราะมันตรงกับชีวิตของเขามาก มากจนถึงขนาดที่ว่าผ่านมาแล้วกว่าหกปีประโยคนี้ก็ยังกระเด้งกระดอนอยู่ในซอกของความทรงจำ

     

                ที่นี่เริ่มจะหนาวแล้ว อยากกลับเกาหลีจังเลย

     

                เสียงหงอย ๆ ของชายหนุ่มบอกกับชานยอลแบบนั้น สเว็ตเตอร์สีเหลืองอ่อนที่เจ้าตัวสวมใส่ทำให้ชานยอลนึกถึงลูกเจี๊ยบขนปุยที่ตัวสั่นในฤดูหนาว แม้คนตัวเล็กจะบอกว่าอยากกลับมายังประเทศบ้านเกิด แต่ชานยอลรู้ดีว่านัยยะที่แท้จริงนั้นคืออะไร

     

                ชานยอลรู้ว่าแบคฮยอนคิดถึงเขา เช่นเดียวกับที่เขาก็คิดถึงแบคฮยอน

     

                ตอนนี้เกาหลีก็หนาว ถึงนายกลับมามันก็ไม่อุ่นขึ้นหรอก

     

                ดวงตาเรียวตวัดมองเขาผ่านโปรแกรมสไกป์ แบคฮยอนทำปากขมุบขมิบ ชานยอลเห็นริมฝีปากเล็ก ๆ นั่นเบะลงจนน่าหมั่นเขี้ยว สาบานได้เลยว่าถ้าอยู่ใกล้กันในตอนนี้ชานยอลคงจับคนน่ารักฟัดจนช้ำไปแล้ว

     

                แต่นายก็รู้นี่แบคฮยอนพูดเสียงแผ่วอย่างประหม่าแต่มันช่างชัดเจนระหว่างพวกเขาทั้งสอง ว่าที่นี่ไม่มีกอดอุ่น ๆ ของนาย

     

                แผ่นหลังของชานยอลแนบชิดไปกับพนักพิงของเก้าอี้เพื่อดูเด็กดื้อของเขาที่เขินจนแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อแต่ก็ยังอยากจะพูดสิ่งที่คิดไว้ เหมือนกับเด็กน้อยที่รู้ว่าถ้ากินทอฟฟี่แล้วฟันจะผุแต่ก็ขอให้ได้กิน

     

                ถึงที่เกาหลีจะหนาว แต่ถ้า...แต่ถ้าเรากอดกันมันก็จะอุ่นนะ

     

                แบคฮยอนหันหน้าหนีกล้องทันทีหลังจากพูดจบ เขาก็แค่หลบสายตาชานยอล แบคฮยอนรู้ดีว่าคนตัวสูงจะต้องมองเขาด้วยสายตาแพรวพราวที่เต็มไปด้วยความเจ้าชู้ซึ่งนั่นจะทำให้เขาเขินกว่าที่เป็นอยู่ แต่คนตัวเล็กไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ตนพูดออกไปนั้นได้ทำให้เกิดแผ่นดินไหวระดับร้ายแรงที่สุดในหัวใจของชานยอล

     

                และรอยยิ้มที่หลุดออกมาจากริมฝีปากน่ารักนั่นก็คืออาฟเตอร์ช็อค

     

                ปาร์คชานยอลโดนน็อคเอาท์กลางอากาศไปแล้ว

     

                ด้วยเหตุผลนี้ ประโยคจากภาพยนตร์ข้างต้นจึงเข้ากับชีวิตของคนตัวสูงยิ่งกว่าอะไร ช่วงที่คบกันแรก ๆ ชานยอลคิดว่าเขาเป็นผู้นำและเป็นผู้ครอบครองแบคฮยอน แต่หลังจากเวลาผ่านไปกลับกลายเป็นเขาที่ถูกคนตัวเล็กครอบครองไปทั้งร่างกายและหัวใจ ชานยอลยอมรับว่าเขาน่ะรักแบคฮยอนแบบที่เรียกได้ว่าหัวปักหัวปำ รักแบบถอนตัวไม่ขึ้น

               

                สิ่งที่คุณครอบครอง จะย้อนกลับมาครอบครองคุณ

     

                แบคฮยอนทำให้ชานยอลเข้าใจอย่างสุดซึ้งเลยล่ะ

     

                ใครสอนให้พูดจาเลี่ยน ๆ แบบนี้หือ?

     

                เมื่อคนตัวสูงถามร่างเล็กจึงหันกลับมามองกล้องอีกครั้ง เสียงของชานยอลทุ้มเป็นเอกลักษณ์ แบคฮยอนน่ะชอบเสียงของชานยอลมากกว่าเพลงของบรูโน่ มาร์สซะอีก

     

                ก็ฉันคิดถึงนายนี่นา

     

                และเสียงของแบคฮยอนเองก็เป็นสิ่งที่ชานยอลชอบฟังมากกว่ากีตาร์ตัวโปรดเช่นกัน

     

                อีกสามวันนายก็จะกลับมาแล้วนี่ อดทนหน่อย

     

                ถ้าฉันไปถึงแล้วนายจะทำสปาเกตตี้ให้ฉันกินใช่ไหม?

     

                “แน่นอนครับดวงตาเรียวเป็นประกายวิบวับเมื่อได้ยินดังนั้น สปาเกตตี้ของชานยอลน่ะอร่อยที่สุดในโลกเลยนะ!

     

     แล้วแล้วนายจะไม่ใส่มะเขือเทศใช่ไหม

     

                “ครับ ไม่ใส่

     

                แล้วเราก็จะนั่งดู about time ด้วยกันเนอะ

     

     ดวงตาเรียวเล็ก สันจมูกโด่งกับแก้มยุ้ย ๆ นั่นมันน่าฟัดเป็นบ้า แถมยังดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะย้อมสีผมใหม่อีกด้วย แบคฮยอนน่ะน่ารักจนชานยอลแทบคลั่ง แต่เขาไม่เคยชมให้คนตัวเล็กได้ใจหรอก ถ้าให้พูดกันตามตรงแล้วล่ะก็ นิสัยของแบคฮยอนไม่ได้มีอะไรที่เหมือนกับหญิงสาวเลย แต่คงเป็นเพราะหางตาตก ๆ นั่นล่ะมั้งที่ทำให้ชานยอลเอ็นดูแบคฮยอนมากขนาดนี้

     

                “นายจะได้ทำทุกอย่างที่อยากทำเลย

     

                “ฮื่ออยากให้สามวันนี้ผ่านไปเร็ว ๆ จัง

     

                เสียงงุ้งงิ้งทำให้คนตัวสูงระบายยิ้มบางเบา  ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแต่แบคฮยอนก็ยังน่ารักเสมอ นั่นเองที่ทำให้เขานึกถึงวันแรกที่ได้พบกัน

     

    ชานยอลจำได้ดีว่าวันนั้นเขาเกือบต่อยแบคฮยอนที่ทำน้ำแดงหกใส่เสื้อนักเรียนตัวใหม่ของเขา แบคฮยอนขอโทษเขาไม่หยุด แต่แน่นอนว่าคนใจร้อนอย่างปาร์คชานยอลยังคงโวยวายอย่างไม่ลืมหูลืมตาสุดท้าย แบคฮยอนที่ยอมอ่อนข้อให้มาโดยตลอดจึงถามเขากลับด้วยสีหน้าเนือย ๆ ราวกับไม่ทุกข์ร้อนกับอารมณ์ขุ่นมัวของคนตัวสูง

     

    ก็ขอโทษแล้ว จะเอาอะไรอีกวะ?

     

    มันเป็นประโยคที่กวนประสาทจนน่ากระทืบในความคิดของชานยอล หลังจากวันนั้นเขาจึงพยายามหาเรื่องแกล้งแบคฮยอนทุกครั้งที่มีโอกาสให้สมกับความหมั่นไส้ที่มีต่อคนตัวเล็กนั่น แต่ทุกคนก็ต้องประหลาดใจเมื่อพวกเขาตกลงคบกันในวันปิดเทอมของม.ต้นปีสุดท้าย ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขารักกันตอนไหนหรือใครเป็นฝ่ายตกหลุมรักใครก่อน ชานยอลและแบคฮยอนเองก็ไม่เคยต้องการที่จะเฉลยข้อสงสัยเหล่านั้น

     

                เมื่อจบม.ปลายแบคฮยอนตัดสินใจไปเรียนต่อด้านศิลปะที่ฝรั่งเศส ส่วนชานยอลเลือกเรียนสถาปัตย์ต่อที่โซล เขาไม่เคยห้ามที่คนตัวเล็กจะจากเขาไปไกลถึงคนละฟากทวีป แม้ความคิดถึงและความเหงาจะเกาะกินจิตวิญญาณเขาในทุกวันก็ตาม

     

    แต่ชานยอลเชื่อ เชื่อว่าความรักที่แท้จริงมันจะไม่ทำลายความฝันของกันและกัน

     

                ฉันจะกลับไปให้ทันวันเกิดนายนะชานยอล ฉันจะได้ให้ของขวัญนายเป็นคนแรก

                                                   

                เสียงใสบอกชานยอลพร้อมกับกระชับผ้าพันคอสีขาว กำหนดการณ์กลับเกาหลีของแบคฮยอนคือวันที่ 26 พฤศจิกายน และชานยอลเองก็จำไฟลท์บินของแบคฮยอนได้ขึ้นใจ

     

                สัญญาแล้วนะ

     

                อื้อ สัญญาเลย คนตัวเล็กยิ้มกว้างเป็นเครื่องยืนยันก่อนจะอ้าปากหาวโดยไม่ปิดปาก ไม่แคร์ว่าชานยอลจะเห็นไปถึงที่ครอบฟันของเขา ฉันจะไปนอนแล้วนะ แล้วก็สามวันนี้คงยุ่งอยู่กับการเก็บของอ่ะ เราคงไม่ได้คุยกันแน่ๆ

     

                ตาของแบคฮยอนปรือมากแล้วในขณะที่พูดประโยคนี้ เวลาที่ฝรั่งเศสช้ากว่าที่เกาหลีถึงแปดชั่วโมง ชานยอลเข้าใจดีหากว่าแบคฮยอนจะง่วงระหว่างที่คุยกับเขา

     

                ไปนอนเถอะ ไว้เจอกันนะ

     

                “ครับ แล้วเจอกัน J

     

    แบคฮยอนโบกมือลาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะออฟไลน์ สิ่งที่ชานยอลทำในตอนนี้ก็เพียงแค่นับเวลาถอยหลังเท่านั้น

     

                ชานยอลไม่เคยเสียดายเวลาสี่ปีที่ไม่ได้เจอกัน เพราะนับแต่นี้ต่อไปพวกเขาจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งชีวิต

     

                ชานยอลตั้งใจไว้แล้วว่าเมื่อคนตัวเล็กมาถึงเขาจะขอแบคฮยอนแต่งงาน

     

    ………

     

     

    26 พฤศจิกายน 08:22 .

     

                แบคฮยอนจะมาถึงสนามบินอินชอนในเวลาสิบโมง เมื่อคืนนี้ชานยอลตื่นเต้นจนนอนแทบไม่หลับแถมยังตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดีเลยด้วยซ้ำ คนตัวสูงวางแผนไว้ว่าจะไปซื้อวัตถุดิบทำสปาเกตตี้และพาแบคฮยอนไปเช่าหนังมาดูด้วยกัน แต่บางทีเขาน่าจะให้แบคฮยอนนอนพักผ่อนก่อนสิ อ่า เขานี่มันตื่นเต้นเกินไปแล้ว

     

                ชานยอลดื่มกาแฟกับขนมปังปิ้งเป็นอาหารเช้าก่อนจะปิดโทรทัศน์ที่กำลังฉายเพลงของเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่ บางทีเขาน่าจะอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปสนามบินเสียตั้งแต่ตอนนี้ ถึงแม้ว่าจะเหลือเวลาอีกกว่าสองชั่วโมงก็ตาม

     

                คนตัวสูงใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่แบคฮยอนเคยซื้อให้ในวันเกิดอายุครบสิบแปดปี ชานยอลเคยใส่มันไม่กี่ครั้งด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวมันจะเก่า  แบคฮยอนต้องแปลกใจแน่ ๆ ที่เขาใส่เสื้อตัวนี้ไปรับเจ้าตัวที่สนามบิน แค่นึกถึงใบหน้าน่ารักก็ยิ่งทำให้เขาอยากเจอคนตัวเล็กเสียเดี๋ยวนี้

     

    ในกระเป๋ากางเกงของชานยอลวันนี้ไม่ได้ว่างเปล่าแต่กลับบรรจุแหวนวงสวยที่ถูกเก็บไว้ในกล่องอย่างดี ชานยอลหลงรักนิ้วเรียวสวยของแบคฮยอน และเขามั่นใจว่าแหวนของเขาเหมาะกับนิ้วของคนตัวเล็กที่สุดแล้ว

     

                ระหว่างที่ชานยอลเดินลงมาจากบันได ในตอนนั้นเองที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาเดาว่าต้องเป็นคนตัวเล็กที่โทรมาส่งเสียงใส ๆ ถามเขาว่าออกจากบ้านหรือยัง แต่ผิดคาด ไม่ใช่แบคฮยอนแต่เป็นลู่หาน เพื่อนสนิทของเขาแทน

     

                ไง

     

                [มึงอยู่ไหน?!] ลู่หานตะคอกถามจนชานยอลต้องละให้โทรศัพท์ออกจากใบหู มันไม่ใช่การตะคอกที่โกรธเกรี้ยวแต่เป็นการร้อนใจเสียมากกว่า

     

                อยู่บ้าน มึงมีอะไร?

     

                [เดี๋ยวกูไปหา มึงรอแป๊บนะ]

     

                “เดี๋ยวไอ้ลู่ มึงจะมาหากูทำไม วันนี้กูไม่ว่าง มึงก็รู้

     

                [ชานยอลมึง…]

     

                “กูไม่อยากให้แบคฮยอนรอนาน มึงค่อยมาวันหลังละกัน

     

                [ไอ้ชาน มึงเปิดทีวีอยู่เปล่าวะ] เสียงของลู่หานอ่อนลง นั่นยิ่งทำให้คิ้วเข้มของชานยอลขมวดเข้าหากันอย่างใคร่สงสัย

     

                “เปล่า

     

                [ชิบหาย…]

     

                “มีไรวะ

     

                [มึงไปเปิด]

     

                คำสั่งของลู่หานทำให้ชานยอลแปลกใจมากยิ่งขึ้น เขาก้มดูนาฬิกาข้อมือ ยังพอเวลาอีกมากก่อนที่จะไปรับคนรัก ชานยอลถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเปิดโทรทัศน์ มันมีอะไรน่าสนใจพองั้นหรือ เพื่อนรักของเขาจึงได้โทรศัพท์มาขนาดนี้  ตอนนั้นเองที่ภาพบนจอปรากฏขึ้น มันไม่ได้ฉายรายการเพลงอย่างก่อนหน้าแต่กลับถูกแทนที่ด้วยข่าวด่วน

     

                เมื่อเวลา 08:40 . เครื่องบินโบอิ้ง 221 RE-H3 เที่ยวบิน AR19 ของสายการบินโคเรียฟรานซ์แอร์ไลน์ ได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องตกหลังจากเกิดเหตุขัดข้อง หลังการตรวจสอบไม่พบผู้รอดชีวิต ในขณะนี้ทางการได้…”

     

                เหมือนมีเสียงหวีดแหลมเกิดขึ้นในแก้วหูของชานยอล คล้ายว่าถูกมือที่มองไม่เห็นเหวี่ยงเขาไปกระแทกกับผนังจนเสียศูนย์ ชานยอลไม่สนใจว่าผู้ประกาศข่าวพูดอะไรหลังจากนั้น ไม่สนใจแม้แต่เสียงของลู่หานที่ตะโกนอยู่ข้างหูว่าจะมาหาเขา

     

                ไฟลท์ที่ชานยอลจำได้ขึ้นใจ จำได้แม้กระทั่งตัวเลขทุกตัวของชื่อเครื่อง มันต้องเป็นเที่ยวบินที่พาแบคฮยอนกลับมาหาเขาไม่ใช่เหรอ แล้วทำไม...

     

                ไม่พบผู้รอดชีวิต

               

                เขาไม่อยากเชื่อว่าทุกอย่างคือเรื่องจริง ในหัวใจของชานยอลชาหนึบไปทุกส่วน เขายังคงยืนนิ่งเหมือนกับว่าเท้าได้ถูกตรึงติดไว้กับพื้น

     

                แต่ภายหลังจากความสงบนิ่ง คลื่นยักษ์ก็ถาโถมซัดทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง

     

     ความโศกเศร้าครอบงำจนชานยอลขาดสติ เขาปาโทรศัพท์ในมือทิ้ง ขายาวถีบทีวีจนหล่นจากชั้นวาง เขากรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ความเจ็บปวดกัดกินหัวใจจนยากที่จะรับมือไหว  ชานยอลปัดของทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะหรือแม้แต่กรอบรูปของแบคฮยอนก็ถูกเขาเขวี้ยงจนแตกกระจาย

     

    เหมือนไม่ใช่เพียงแค่กรอบรูปที่แตกละเอียด

     

    แต่หัวใจของชานยอลก็เช่นกัน

     

    เขาเหมือนคนบ้าคลั่งที่ทำลายข้าวของ เป็นดังพายุเฮอร์ริเคนที่พร้อมจะทำลายล้างทุกอย่าง

     

                ในตอนนั้นเองที่น้ำตาหยดแรกไหลออกมากระทบผิวแก้ม แต่ชานยอลไม่ได้สนใจจะปาดมันออกเสียด้วยซ้ำ เขาหยิบรูปแบคฮยอนที่แตกกระจายด้วยฝีมือของตัวเองขึ้นมากอดไว้แนบอก ชานยอลทรุดลงกับพื้นราวกับขายาวนั้นไร้ซึ่งเรี่ยวแรง

     

    ทำไม…”

     

                ภายในใจของชานยอลนั้น เขากำลังกล่าวโทษต่อพระเจ้าว่าทำไมถึงได้พรากคนที่เขารักไป เหตุใดพระองค์จึงไร้ซึ่งเมตตา ทั้ง ๆ ที่อีกไม่ถึงสองชั่วโมงพวกเขาจะได้เจอกันแล้วแต่พระองค์ก็ทำลายทุกความสุข ชานยอลรู้สึกถึงกล่องสี่เหลี่ยมในกระเป๋ากางเกงที่มาสัมผัสกับต้นขา เขาหยิบมันออกมาก่อนจะขว้างมันลงพื้นอย่างไม่ใยดี

     

                แบคฮยอนตายแล้ว

     

                “ทำไมทำไมมมมมมม!!!!!”

     

                พร้อมกับชานยอลที่เหมือนตายทั้งเป็น

     

    ……

     

                00:00.

     

                27 พฤศจิกายน วันเกิดครบรอบยี่สิบสามปีของชานยอล

     

                ‘ฉันจะกลับไปให้ทันวันเกิดนายนะชานยอล ฉันจะได้ให้ของขวัญนายเป็นคนแรก

     

                สัญญาแล้วนะ

     

                อื้อ สัญญาเลย

     

                สัญญาที่แบคฮยอนให้ไว้ฝังอยู่ในหัวใจของชานยอล คนตัวเล็กบอกว่าจะเป็นคนแรกที่นำของขวัญมาให้ แต่แบคฮยอนก็ผิดสัญญา

     

                ‘ครับ แล้วเจอกัน J

     

                แบคฮยอนบอกว่าเราจะได้เจอกัน แต่คนตัวเล็กก็ผิดคำพูด

     

                ชานยอลขดตัวนอนร้องไห้ข้างโซฟาสีน้ำตาลซึ่งเป็นสีโปรดของแบคฮยอน เขาไล่ลู่หานที่มาหาด้วยความเป็นห่วงให้กลับไป ชานยอลไม่แม้แต่จะปิดประตูบ้านที่ลู่หานเปิดทิ้งไว้ เขาไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะลืมตาด้วยซ้ำ

     

                ชานยอล...

     

                เสียงใสที่เขาจำได้ดีดังขึ้นจากหน้าประตู ชานยอลเบิกตาโพลง แบคฮยอนยิ้มให้เขาก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้ามาหา

     

                มานั่งทำอะไรตรงนี้?

     

                นายนายยังไม่ตายนอกเหนือจากความงุนงงคือความดีใจ ชานยอลปาดน้ำตาทิ้งก่อนจะคุกเข่าแล้วจับไหล่ของแบคฮยอนทั้งสองข้างอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง แบคฮยอนยิ้มขำพลางจับมือใหญ่มากอบกุมไว้

     

                ลุกขึ้นมาเถอะชานยอล ฉันมีของขวัญจะให้นายด้วยนะ

     

                ชานยอลลุกขึ้นพร้อมกับคนตัวเล็ก แบคฮยอนสวมแหวนเงินเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายของเขาก่อนจะจุมพิตลงบนฝ่ามือ เขาจับตามองทุกความเคลื่อนไหวของคนตัวเล็ก รอยยิ้มที่ชานยอลตกหลุมรักประดับอยู่บนใบหน้าจิ้มลิ้ม แบคฮยอนสบตาราวกับต้องการบอกทุกความรู้สึกในใจ ในวินาทีนั้นเองที่คนตัวเล็กเขย่งปลายเท้าเพื่อมอบสัมผัสอบอุ่นที่ริมฝีปาก  ความสุขทำให้ชานยอลตระหนักได้ว่าแบคฮยอนยังไม่ตาย แบคฮยอนกลับมาหาเขา และพวกเขาจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปด้วยกัน

     

                และวันเกิดของชานยอลในปีนี้ แบคฮยอนก็ยังคงอยู่เคียงข้างเขา

     

                27 พฤศจิกายน 16:50 .

     

                ชานยอลลืมตาขึ้นมาพร้อมอาการเจ็บคอและคัดจมูกคล้ายจะเป็นหวัด มือใหญ่ส่งไปควานหาคนตัวเล็กข้างกายแต่มันกลับว่างเปล่า ดวงตากลมโตลืมขึ้นก่อนจะมองไปรอบ ๆ  เขาจำได้ว่าเมื่อคืนนี้เขาพร่ำบอกรักแบคฮยอนและนอนกอดไว้ทั้งคืน แต่ชานยอลกลับพบว่าเขายังคงอยู่ที่ข้างโซฟาและมีรูปแบคฮยอนที่เขากอดไว้แนบอกไม่ต่างจากเมื่อวานสักนิด

     

    คนตัวสูงลุกขึ้นรวดเร็วจนอาการปวดหัวเข้าเล่นงานแต่เขาไม่สนใจ ชานยอลเดินตามหาคนรักจนทั่วแต่ไม่พบ เขาพยายามนึกจนคิ้วเข้มขมวดเป็นปมแน่น ก้มดูนิ้วนางข้างซ้ายของตัวเองแต่มันกลับไร้ซึ่งแหวนที่สมควรจะอยู่

     

     ไม่มีแหวน ไม่มีแบคฮยอน ไม่มีของขวัญ มีเพียงตัวเขาที่ยังคงโง่งมอยู่แบบนั้น

     

    เขาก็แค่ฝันไป แบคฮยอนไม่ได้กลับมา

     

    น้ำตาไหลออกมาจากดวงตากลมโตอีกครั้งเมื่อความจริงกระจ่าง  ในวินาทีนั้นเองที่ชานยอลคิดว่าเขาควรทำอะไรสักอย่าง อะไรก็ได้ที่จะทำให้เขาได้พบกับแบคฮยอน

     

                ชานยอลหยิบกระปุกยานอนหลับที่เขาเก็บไว้ออกมาจากตู้ยา เม็ดยามากกว่ายี่สิบเม็ดอยู่ในมือใหญ่และอีกไม่กี่วินาทีมันก็จะเข้าไปอยู่ในร่างกายของเขา

     

                รอฉันอีกนิดนะที่รัก ฉันจะไปหานายแล้ว

     

                โครม!!!

     

                เสียงโครมครามจากหน้าประตูทำให้ชานยอลสะดุ้งจนยาหล่นจากมือ เขาถอนหายใจแรง ๆ อย่างหัวเสียที่ถูกขัดจังหวะ บางทีอาจจะเป็นแมวของคุณลุงคิมบ้านข้าง ๆ ที่ชอบมาทำลายข้าวของบ้านเขา วันนี้ล่ะเขาจะจัดการมันให้สิ้นซาก

     

                แต่เมื่อเขาเดินมาจนถึงหน้าประตู มันกลับไม่ใช่แมว ไม่ใช่อะไรอย่างที่เขาจินตนาการเอาไว้

     

                ชานยอล…”

     

                เสียงใส ๆ ของคนตรงหน้าเอ่ยเรียกแผ่วเบา ชานยอลแค่นหัวเราะอย่างสมเพชตัวเอง นี่เขาคงใกล้บ้าไปแล้วจริง ๆ ถึงได้เห็นภาพหลอนของแบคฮยอนสองครั้งภายในวันเดียว แถมภาพหลอนครั้งนี้ยังใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงินที่เขาเคยซื้อให้เสียด้วย แต่แน่นอนว่าเขาจะไม่หลงกลมโนภาพเหล่านี้อีกแล้ว ชานยอลเดินเข้าไปใกล้ร่างเล็กก่อนจะลูบหัวด้วยความทะนุถนอม

     

                รอฉันหน่อยนะแบคฮยอน ฉันกำลังจะไปหานายแล้ว

     

                หาอะไร? ฉันก็มาแล้วนี่ไง แล้วทำไมบ้านรกแบบนี้?

     

                แบคฮยอนจับข้อมือใหญ่ให้ออกจากศีรษะ ดวงตาเรียวคู่นั้นเต็มไปด้วยความสงสัย สัมผัสอุ่นตรงข้อมือทำให้ชานยอลชะงัก เขาจ้องมองคนตัวเล็กนิ่งจนแบคฮยอนเริ่มหวั่นใจ

     

                โกรธที่ฉันมาช้าเหรอ ขอโทษ...

     

                “…”

     

                “ยังไม่มีใครให้ของขวัญตัดหน้าฉันใช่ไหม?

     

                “…”

     

                ชานยอลโกรธฉันเหรอ…” น้ำเสียงหงอย ๆ บวกกับหางตาตก ๆ นั่นทำให้ชานยอลนิ่งมากกว่าเดิม สมองของเขากำลังประมวลผลว่านี่คือเรื่องจริงหาใช่ความฝัน

     

                “…”

     

     คือเมื่อวานฉันตกเครื่องแล้วก็ทำโทรศัพท์หายตอนที่จะไปสนามบินอีก กว่าจะจัดการเรื่องเที่ยวบินใหม่ได้มันก็เลยช้าแบบนี้อ่ะ แล้วฉันก็อยากเซอร์ไพรส์นายด้วยเลยไม่ได้บอกให้นายไปรับ

     

                “…”

     

                “ย่าห์พูดอะไรบ้างเซ่

     

                ไร้ซึ่งคำพูดชานยอลดึงร่างเล็กเข้าไปกอดจนคนตัวเล็กแทบจมหายไปในอก น้ำตาไหลออกมาจากดวงตากลมโตอีกครั้ง ความสุขและความโล่งใจเอ่อล้นจนเขาไม่อาจเก็บไว้ได้

     

                เห้ย ร้องไห้ทำไมเนี่ย?แบคฮยอนถามอย่างตกใจเมื่อคนเห็นน้ำตาของคนรัก

     

                ดีใจดีใจที่นายกลับมา

     

                โอ๋ ๆ  ไม่ร้องนะ เป็นคนขี้แยตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ

     

                มือเล็กเช็ดน้ำตาให้คนตัวสูงพร้อมกับยิ้มขำ เขาไม่คิดมาก่อนว่าชานยอลจะดีใจขนาดนี้ แบคฮยอนผละออกจากอ้อมแขนของชานยอลก่อนจะหยิบกล่องของขวัญให้คนตัวสูง

     

                “สุขสันต์วันเกิดนะคนเก่งของฉัน มีความสุขมาก ๆ ล่ะ แล้วก็รักฉันให้มาก ๆ ด้วย

     

                “นี่คำอวยพรเหรอหือ?

     

                “ใช่!”

     

                ชานยอลขำออกมาน้อย ๆ เมื่อคนตัวเล็กยิ้มจนตาหยีเพื่อยืนยันคำพูดของตน แบคฮยอนพยักหน้าเร็ว ๆ เป็นเชิงสั่งให้ชานยอลแกะห่อของขวัญในมือ คนตัวสูงทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะพบว่าข้างในนั้นบรรจุสร้อยคอที่มีจี้สลักตัว CB ไว้ด้วยกัน

     

                ฉันรู้ว่านายไม่ชอบใส่ แต่เราไม่ได้เจอหน้ากันตั้งเกือบสี่ปีนะ เพราะฉะนั้นนายต้องตามใจฉัน

     

                คนตัวเล็กหยิบสร้อยออกจากมือหนาก่อนจะเขย่งเพื่อใส่สร้อยให้ชานยอล กลิ่นกายหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของแบคฮยอนที่ชานยอลโหยหามาตลอดลอยเข้าจมูกเหมือนเป็นเครื่องยืนยันว่าแบคฮยอนอยู่ตรงหน้าเขาจริง ๆ  แบคฮยอนยืนอยู่ตรงนี้และยึดครองพื้นที่ทุกตารางนิ้วในหัวใจของเขา

     

                แบคฮยอนกลับไปยืนตามเดิมเมื่อใส่สร้อยให้คนรักเรียบร้อย ชานยอลมองตามทุกการกระทำของคนตัวเล็กที่ส่งยิ้มอ่อนหวานให้เขา วินาทีนั้นเองที่เหมือนกับว่าชานยอลจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

     

                “แป๊บนะ

     

                ชานยอลเดินไปทั่วชั้นล่างแหวกตามเศษซากข้าวของที่พังกระจายจากฝีมือของเขาท่ามกลางสายตางุนงงของแบคฮยอน ไม่นานคนตัวสูงก็หยิบเอากล่องเล็ก ๆ จากพื้นมาถือไว้ในมือ

     

                เขากุมมือเล็กเอาไว้ เคยมีคนบอกว่าขนาดมือของพวกเขานั้นเหมาะสมกันจนน่าอิจฉา แต่ชานยอลคิดว่าคนเหล่านั้นคิดผิด เพราะพวกเขาไม่ได้เหมาะสมกันเพียงแค่ขนาดมือ แต่เหมาะสมกันทุกสัดส่วนไม่เว้นแม้กระทั่งปลายเส้นผม

     

                แต่งงานกับฉันนะ แบคฮยอน

     

                แบคฮยอนอ้าปากค้างไปแล้วตอนที่เขาเอ่ยปากแบบนั้น ราวกับเกิดแผ่นดินไหวระดับร้ายแรงที่สุดในหัวใจของชานยอลเมื่อแบคฮยอนเอ่ยเสียงใส ๆ ออกมา

     

                “อื้อ

     

                และรอยยิ้มของแบคฮยอนนั้นก็เป็นดังอาฟเตอร์ช็อค

     

     เขาบรรจงสวมแหวนลงไปที่นิ้วเรียวก่อนจะมอบจุมพิตประทับลงไปที่หลังมือนุ่ม การสบตาของทั้งสองเป็นเหมือนขั้วแม่เหล็กที่ดึงดูดเข้าหากันจนกระทั่งริมฝีปากของพวกเขาแนบสนิทและมอบสัมผัสอันแสนหวานให้ซึ่งกันและกัน

     

                ฉันรักนาย

     

                “ฉันก็รักนาย

     

                พวกเขารักกันนั่นคือข้อเท็จจริง

     

                แต่ก่อนอื่นไปเก็บบ้านเลยชานยอล แล้วอธิบายด้วยว่าเป็นบ้าอะไรข้าวของถึงพังแบบนี้

     

                “ได้เลยครับ

     

                แค่มีกันและกันพวกเขาก็พอใจ

     

    ชานยอลกำลังวางแผนว่าในอีกสี่สิบปีข้างหน้า เขาก็จะยังคงลืมตาขึ้นมาเพื่อบอกรักแบคฮยอนอีกอยู่ดี

     

    เพราะบยอนแบคฮยอน คือของขวัญที่พิเศษที่สุดสำหรับปาร์คชานยอล 

     

     

    END

     

    สุขสันต์วันเกิดนะชานยอล  

    นี่คือชอร์ทฟิคเรื่องแรกของเราค่ะ ภาษาและเนื้อเรื่องอาจจะยังไม่ดีนัก แต่เราจะพยายามพัฒนานะคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ

    Up: 27/11/2014  #fellascb

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×