คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : แนวเรื่อง : ชอบแบบไหน เขียนแบบนั้น(2)
(ภาคต่อ)
9. สงคราม
คนกลุ่มหนึ่ง สู้กันคนอีกกลุ่มหนึ่ง หรือคนหลายกลุ่มที่มาสู้รบกัน แน่นอนว่าไม่ได้จำกัดว่าต้องย้อนยุคหรือไปในโลกอนาคตเท่านั้น ความหมายของมันก็คงจะประมาณนี้
จะเขียนแนวนี้ ควรมีความถนัดด้านการเขียนฉากใหญ่ๆ (ลองเปรียบเทียบอารมณ์เวลาเราเขียนฉากมีคนเดินมากินน้ำบนตู้เย็น กับฉากที่เกิดระเบิดที่ตึกใบหยกดูสิ) การเขียนบรรยายก็สำคัญ(ในการต่อสู้อาจไม่ได้พูดกันมากนัก การแสดงออก การเคลื่อนไหวร่างกายน่าจะเกิดขึ้นบ่อยกว่า) การใช้คำเปรียบเทียบ (เช่น คมง้าวฟาดฟันลงผ่านร่างของแม่ทัพฝ่ายเหนืออย่างรวดเร็วปานแสงอสุนี) แต่ส่วนใหญ่แนวนี้ก็มักมีการใช้คำพูดที่กินใจด้วย สรุปแล้วไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเก่งทั้งสองอย่างแหละน่า...แต่ถ้าบรรยายคุณไม่ได้ เรื่องมันก็ไม่ได้อารมณ์หรอก
หากเขียนแนวย้อนยุค ควรตระเตรียมข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ให้ดีเพื่อความสมจริง หากเขียนแนวอนาคต ลองร่างความเป็นอยู่ของคนยุคนั้นคร่าวๆ เช่น ที่อยู่อาศันเป็นไง การกินเป็นไง เสื้อผ้า การเดินทาง พลังงานใช้พลังงานจากไหน
เหตุผลที่สู้รบ ถ้าลองคิดเหตุใหม่ๆขึ้นมาบ้างก็ดีนะ แนวนี้จะยังไม่ค่อยยากเท่าไหร่ถ้าเป็นแฟนตาซี เพราะเมคข้อมูลได้ จะยากก็เพราะจะเขียนอย่างไรไม่ให้มันเกร่อ ส่วนสงครามที่เขียนตามประวัติศาสตร์ จะได้เปรียบตรงเรามีแกนหลักของเรื่องอยู่แล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง เพียงแต่เรื่องรายละเอียดเราต้องจัดการเอาเอง
แนวนี้ในเด็กดีก็ไม่ได้เป็นที่นิยมนักนะเท่าที่ดู แต่ถ้าชอบแต่งก็ลองดูเถอะ เพราะเวลาบก.เขาพิจารณาผลงานเรา เขาไม่ได้ดูความดังเป็นข้อใหญ่ แต่ดูว่าเขาอ่านแล้วชอบมั้ย น่าอ่านน่าพิมพ์มั้ย แค่นั้นแหละ^^
10. ตลกขบขัน
ถ้าคุณมุกเยอะ อยากเขียนเรื่องราวที่สนุกสนานขบขัน หรือชอบคิดเหตุการณ์ที่อ่านแล้วฮา อาจจะประหลาดๆ ไปหมดทั้งเรื่อง นี่ก็เหมาะดีนะ
แนวนี้เท่าที่ดูก็ไม่ได้ดังอะไรนักจะเห็นเป็นพวกเรื่องสั้นขำๆ กลอนฮาๆ อะไรทำนองนี้เยอะกว่า แต่ก็มีนิยายอยู่ด้วย บังเอิญไม่ถนัดแนวนี้ ไม่รู้ว่าจะให้คำแนะนำอะไรดีจริงๆ
แต่การเขียนแนวนี้ คนที่เป็นคนตลกมักเขียนได้ดีกว่าคนที่ปกติไม่ได้ตลก แต่ฝืนเขียนเสมอ เท่าที่สังเกตดู ไม่ว่าจะการ์ตูนหรือนิยาย คนที่เป็นคนตลกอยู่แล้วมักจะมีความคิดสร้างสรรค์เรื่องมุกได้มากกว่า
การหามุกมาเขียน ลองอ่านหนังสือหลายๆแนว ไม่จำกัดว่าเป็นนิยายเท่านั้น เมื่อมีข้อมูลเยอะ เราก็มีอะไรมาเขียน มาสร้างสรรค์มากขึ้น เอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาล้อเป็นมุกก็ทำได้ง่าย เพราะข้อมูลในหัวมีเยอะ
ที่เหลือขึ้นอยู่ที่ลูกเล่นในการเขียนแล้ว การบรรยายของนิยายแนวนี้อาจต้องรวบรัดมากกว่าแนวอื่น เพื่อความไม่ยืดเยื้อ กระชับ ถ้ายืดยาดเกินไป จากที่น่าจะขำก็อาจไม่ขำได้เหมือนกัน
11. กลอน
เหมาะสำหรับคนที่มีอารมณ์ศิลป์จริงๆ (ฮา) จะกลอนวิจิตรเป็นกวี หรือกลอนห้วนๆเอาฮา ก็น่าสนใจทั้งนั้น
แต่เท่าที่เห็นในเด็กดีตอนนี้ จะเป็นประเภทรวบรวมของคนอื่นมาโพสมากกว่า อยากลองอ่านแบบที่เขียนกลอนเป็นเรื่องยาวๆเหมือนกันนะ (เหมือนพวกวรรณคดี พระอภัยมณี ทำนองนั้น) แต่ท่าทางจะหายาก
การแต่งแนวนี้ไม่มีอะไรมาก จำฉันทลักษณ์ให้แม่น เขียนให้บ่อย หาคำใหม่ๆใส่บ้างจะได้ไม่น่าเบื่อ หลายคนในเด็กดีก็มีบทความแนะนำเรื่องการแต่งกลอนเหมือนกัน ลองหาดูนะคะ^^
12. อดีต ปัจจุบัน อนาคต
เมื่อก่อนมันเคยเป็นคล้ายๆหมวดไดอารี่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นการรวมแนวหลงมิติ ย้อนอดีต หลุดไปอนาคต ไม่ก็เป็นเรื่องราวการบันทึกความทรงจำ
จริงพล็อตย้อนเวลาก็ใช้กันเกร่อนะ แต่ไม่ใช่ว่าจะนำมาเขียนอีกไม่ได้ ลองคิดการย้อนเวลาหรือไปในอนาคตที่แปลกออกไป นิยายของเราจะโดดเด่นขึ้นมาอีกเยอะ (ไม่มีใครอยากอ่านเรื่องเดิมๆหรอก จริงมั้ย?)
แต่จริงๆแนวย้อนเวลานี่มันน่าจะรวมกับแฟนตาซีหรือวิทยาศาสตร์ได้นะเนี่ย = ="
13. จิตวิทยา
จริงๆแล้ว นี่เป็นนิยายแนวที่คนชอบอ่าน แต่คนไม่ค่อยเขียน เพราะข้อมูลหายาก ที่คนชอบอ่าน เพราะชอบที่จะได้รู้เรื่องการทำงานของจิตใจ ความคิด เช่น ข้อมูลว่า ฆาตกรต่อเนื่อง70% จะขาดแม่ตั้งแต่วัยเด็ก (อันนี้เราเมคขึ้นเองนะ) แล้วเนื้อเรื่องไปเกี่ยวโยงในจุดนี้ว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น หรือพลังจิต ก็น่าจะรวมในหมวดนี้ได้
ถ้าคุณปึ้ก มีข้อมูลที่น่าสนใจในมือ เขียนดีๆ น่าจะมีคนติดตามไม่น้อย เป็นอีกแนวที่น่าสนใจ แต่ข้อมูลก็หายากเหมือนกันนะ
ทั้งที่หมวดนี้น่าจะเป็นแบบที่ว่ามา แต่ตอนนี้กลับมีแต่พวกแบบทดสอบนั่นนี่เอามาลงกัน = =" หมายถึงในแง่นิยายหมวดนี้กำลังตกต่ำทีเดียวแหละ ใครสนใจจะฟื้นฟู ก็เตรียมโครงเรื่อง + ข้อมูลเข้าไปตีกระแสได้นะจ๊ะ
แนวทางการเขียน ก็คงออกมาในแนวนิยายวิทยาศาสตร์ที่เครียดหน่อยๆ แต่ใครจะลองเขียนแนวจิตวิยาแบบไม่เครียดดูก็ดีนะ น่าสนใจดี^^
14. สังคม
ประชดประชันสังคม เขียนเพื่อสื่อถึงเหตุที่เกิดขึ้นในสังคม ความเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรม ยุคสมัย เป็นอีกแนวที่น่าสนใจ และมีเส้นทางการสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ได้มากมาย
แนวนี้ก็เหมือนเป็นแนวดราม่าสังคมนั่นแหละ ส่วนใหญ่น่าจะเขียนเสียดสีสังคมหรือตีแผ่ความจริงของสังคมมากกว่า แต่ก็นะ ตอนนี้หมวดนี้มันปนเปไปหมด มั่วๆชอบกล สถานการณ์เหมือนข้อ13 รอคนไปกอบกู้สถานการณ์อยู่นะ ^^"
คนที่ชอบแต่งแนวทดลอง หรือคิดว่าอยากนำเสนอมุมมองของตนเองที่มีต่อสังคม แนวนี้อาจจะเหมาะดีก็ได้ ข้อมูลก็หาเอาจากรอบๆตัวนี่แหละ
15. หักมุม
หลอกคนอ่านให้คิดว่า อ๊ะ มันต้องเป็นแบบนี้ แต่ก็จะมีอีกพวกนึงที่คิดแบบตรงข้ามกับพวกแรก เพราะงั้นการเขียนแนวหักมุม ไม่ใช่แค่หักไม่ให้พวกแรกเดาได้ แต่พวกที่สองก็ต้องเดาไม่ได้ด้วย มันถึงจะสนุก
หมวดนี้ยังพอมีคนเขียนบ้าง น่าแปลกที่เห็นพวกนิยายYเยอะเหมือนกัน = =" เอาเป็นว่าใครชอบเขียนให้คนอ่านประหลาดใจ อันเหมาะมากๆเลยล่ะ
16. แฟนตาซี
อีกหนึ่งหมวดยอดนิยม.... รองจากรักหวานแหวว
แฟนตาซีก็มีหลายแบบ ทั้งแบบเครียดๆ (เช่นแบบเดอะลอร์ด) หรือแฟนตาซีใสๆ (เช่นเลียร์ จอมเวทย์อ่อนหัด) แต่ที่เกร่อแล้วคือแนวโรงเรียนเวทมนตร์ ใครคิดจะแต่งแนวโรงเรียนเวทมนตร์ ลองคิดดูหใหม่เถอะ หรือถ้ามั่นใจจริงๆว่าของเราโดดเด่นกว่าคนอื่นแน่ ก็เขียนไปก็ได้
แฟนตาซีแบบต่างๆ มีสไตล์ไม่เหมือนกัน แต่เรื่องบรรยาย คุณต้องดีในระดับหนึ่ง และอีกประการ เท่าที่ดูมา นักเขียนแฟนตาซีมักเกลียดการใช้อีโมชั่น เพราะมันจะไม่เหลืออารมณ์แฟนตาซี ดังนั้นอย่าใช้อีโมเลยนะจ๊ะ ^^
นอกจากนี้ ถ้าคุณจะเขียนแฟนตาซีที่พูดถึงพวกยุคสมัยในยุโรป(หรือไทย) ก็ควรศึกษาข้อมูลของยุคนั้นมาบ้างนะ เว้นแต่จะเป็นแฟนตาซีโลกสมมติ
คาแรกแตอร์หลักของแนวนี้สวยใหญ่จะสวยๆหล่อๆทั้งนั้น = =" แต่จริงๆมันไม่ใช่กฏตายตัวหรอกนะ จริงๆพล็อตแฟนตาซีบางทีก็คล้ายๆกันเยอะ ถ้าจะเริ่มเขียนแฟนตาซีสักเรื่อง ลองมองๆเรื่องรอบข้างก่อนนะจ๊ะว่าคล้ายของคนอื่นเขาเกินไปหรือเปล่า
17. กำลังภายใน
จริงๆแล้วไม่นิยมนักในเวบเด็กดี และในแง่ของตลาดหนังสือ วัยรุ่นมักไม่ค่อยอ่านกัน ทั้งที่บางเรื่องในเวบนี้สนุกมากทีเดียว
ภาษาของนิยายแนวนี้ มีความเป็นเอกลักษณ์อยู่ คนที่ชอบดูหนังจีน อ่านนิยายจีน จะได้เปรียบ และถ้าชอบเขียนโดยใช้ภาษาทำนองหนังจีนอยู่แล้ว ก็อาจเป็นแนวที่เหมาะกับคุณนะ ^^
ไม่ก็ลองศึกษาจากในเวบนี้ก็ได้ มีคนเขียนเก่งๆอยู่เยอะ การใช้คำศัพท์ก็แตกต่างจากแนวอื่น วาทะคำคม ต้องมีบ้างเพื่อเสริมความน่าประทับใจ
แม้จะไม่นิยมในวงกว้าง แต่ก็มีกลุ่มคนอ่านพื้นฐานอยู่ ถ้าคุณเขียนสนุก กลุ่มนี้เขาก็พร้อมจะติดตามเรื่องของคุณด้วย คล้ายแนวระทึกขวัญน่ะแหละ
ข้อแนะนำถ้าคุณจะเขียนเรื่องแนวนี้ คงบอกได้แค่ว่า ลองเขียนอะไรที่แปลกออกไปบ้าง และอ่านแนวนี้บ้าง เพื่อจะได้ซึมซับการใช้คำ เพราะมันมีเอกลักษณ์ของมันอยู่ (ประมาณว่า ถ้าไม่เขียนไม่ใช่ศัพท์ประมาณนี้แล้วมันไม่ได้อารมณ์น่ะ)
18. วิทยาศาสตร์
อารมณ์คล้ายแนวจิตวิทยา แต่คนอ่านคนเขียนก็ยังเยอะกว่า ความรู้คุณต้องแน่นในระดับหนึ่ง จะเขียนเกี่ยวกับอะไร เก็บข้อมูลเรื่องนั้นให้มากที่สุด วางแกนเรื่องให้ดี แล้วระวังอย่าให้น้ำเน่ามาก (เคยเจอแบบแนววิทยาศาสตร์ความรัก มันจะว่าโรแมนติกก็ยังไงไม่รู้ เน่าๆชอบกลนะเราว่า)
การใช้ภาษาก็น่าจะออกมาแฟนตาซี+จิตวิทยา ขึ้นอยู่กับว่าจะเขียนแนววิทยาศาสตร์สนุกสนานหรือเครียด
ยังไม่ค่อยมีคนมาเขียนแนวนี้เท่าไหร่นัก ถ้าคุณชอบแนวนี้ อย่าลังเลที่จะลองเขียน
19. อื่นๆ
ถ้านิยายที่คุณคิดพล็อตได้ มันพิศดารจนเข้าหมวดไหนไม่ได้ชัดเจน นี่เป็นทางเลือกสุดท้าย แต่หมวดนี้คนอื่นไม่มีเป็นหลักแหล่งเท่าไหร่นัก ที่เห็นตอนนี้จะเป็นพวกฟิคต่างๆมาลงไว้มากกว่า
การจะเลือกแต่งแนวไหน อย่าเลือกแต่งด้วยการตามกระแสความนิยม หรือความต้องการคนอ่านอย่างเดียว เลือกสิ่งที่เราถนัดที่สุด สิ่งที่เราอยากแต่งที่สุด นั่นล่ะ งานถึงจะออกมาดีจริงๆ
เริ่มแรกอาจเขียน "สิ่งที่เรามีความรู้มากที่สุด" ก่อน เช่นเรา ที่ถนัดเรื่องผี รู้เรื่องผีเยอะ เลยแต่งแนวระทึกก่อน หรือถ้าใครสนใจศึกษาเรื่องการวิวัฒนาการของมนุษย์ ก็จับจุดนั้นมาเป็นประเด็นเขียนได้ หรือใครเก่งครอสเวิร์ด หมากรุก หมากฮอส จะเอามาเป็นประเด็นก็แปลกใหม่ดี หรือวอลเล่ย์ ว่ายน้ำ ถ้าคุณเรียนเทคนิกการเล่นกีฬาบางอย่างมา จะเอามาใช้สร้างตัวละครก็ดีนะ จะเกิดความน่าสนใจมากขึ้น แถมเป็นสิ่งที่คุณรู้อยู่แล้ว ข้อมูลก็จะแน่นปึ้ก เขียนง่ายขึ้นด้วยนะจ๊ะ ^^V
ความคิดเห็น