ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic exo] ♡ 30 Days ♡ { ChanBaek }

    ลำดับตอนที่ #26 : 22 Days ♡

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.53K
      19
      8 ส.ค. 57



    22  Days 




    #เพื่อนรักเตียงสั่น









     

     

     

                      “พวกมึงนั่งรอตรงนี้แหละ เดี๋ยวกูกับไอ้ประธานไปเอาอุปกรณ์เอง..

     

                      “ออ.. หรือไอ้คุณประธานมึงจะหอบเมียไปด้วยก็ได้นะครับ ห่างนานเดี๋ยวสมรรถภาพด้านล่างไม่ดี เดี๋ยวไม่แข็ง ฮ่าๆ

     

                      โอเซฮุนวาดแขนโอบไหล่เพื่อนรักเบาๆพร้อมกับตบสองสามที ก่อนจะยักคิ้วให้คนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างผู้ชนะ โดยที่ชายหนุ่มคงจะลืมไปทุกทีว่า ไม่มีใครเคยเอาชนะความเย็นชาและฝีปากกล้าของหมอนี่ได้เลยแม้เพียงครั้งเดียวตั้งแต่คบกันมาเป็นสิบๆปี..

     

                      เพราะต่อให้คุณจะลงทุนใช้เวลาคิดคำด่า คำเหน็บแนม หรือประโยคต่างๆนาๆสารพัดเพื่อแซะหมอนี่โดยใช้เวลาเป็นครึ่งชั่วโมงหรือเป็นสิบๆปีก็เถอะ..

     

                      สุดท้าย.. หมอนี่ก็สามารถตอกกลับคุณให้หน้าหงายได้ในเวลาเพียงแค่ไม่ถึงห้าวินาทีอยู่ดี..

     

                     “มึงไม่จำเป็นต้องห่วงกูหรอกไอ้ฮุน.. ห่วงตัวเองเถอะ..

     

                     “เพราะกูบริหารสมรรถภาพด้านล่างกับเมียกูทุกวัน แถมวันละหลายรอบ..

     

                     “อีกอย่าง..”

     

                     “แค่เมียมานั่งใกล้ๆและได้กลิ่นเมีย ของกูก็พร้อมใช้งานแล้ว..

     

                     “ไม่เหมือนมึงหรอกที่เวลานั้นทีไรต้องใช้น้องอาโออิยั่วแล้วยั่วอีก..”

     

                     “แต่ก็อ่อนปวกเปียกเป็นหนอนไม้ไผ่ ใช้การไม่ได้เหมือนเดิม..”

     

                     !!!!

     

                     “ฮ่าๆ..

     

                     สิ้นสุดคำพูดของท่านประธานเพื่อนๆในคณะ อีกทั้งยังผู้คนที่นั่งอยู่ในละแวกนั้นถึงกับหัวเราะร่าออกมาทันที และดูท่าว่าคุณชายโอเซฮุนที่อยากจะเอาชนะมนุษย์สุดยอดอีคิวและไอคิวอย่างปาร์คชานยอลแทบอยากจะเอาหน้ามุดและไถๆไปกับพื้นซีเมนต์ให้ได้เสียตอนนี้..

     

                    ก็หมอนี่มันเล่นเอาเรื่องที่เขาโทรไปปรึกษามันเมื่อคืนก่อน ตอนที่แอบปีนไปหาอิเหี่ยวศรีแก๊งหมีแพนด้าที่หอเพื่อทำการซัมบาราเห้ แต่แล้วจู่ๆลูกชายของเขากลับกลายเป็นเด็กอนุบาลยั่วเท่าไหร่ก็ไม่ทำงาน จนต้องใช้น้องอาโออิเป็นตัวเพิ่มสมรรถภาพเป็นสิบๆรอบ..

     

                    แต่ถึงกระนั้น.. ก็ไม่มีวี่แววว่าเจ้าลูกชายสุดหล่อล่ำบึกของโอเซฮุนจะใช้งานได้เสียที เขาจึงตัดสินใจที่จะโทรไปปรึกษาท่านปรมาจารย์ด้านการซัมบาราเห้อย่างปาร์คชานยอลและก็ได้คำตอบกลับสั้นๆมาว่า..

     

                  “ไม่แข็งก็ไม่ต้องทำ..

     

                  “แค่นี้นะกูจัดท่ายากอยู่..

     

                  “เมียกูมองตาเขียวแล้ว.. ทำได้ไม่เต็มที่เพราะมัวแต่คุยกับมึงนี่แหละ..

     

                  “โอ้ยย!! เบบี๋หยิกยอลทำไมครับเนี่ย แรงกระแทกไม่แรงพอหรอ โอ้ยย!!”

     

                  ตู้ดๆ..

     

                     นั่นแหละครับ.. ปาร์คชานยอลมันตอบผมมาแค่นั้นจริงๆทั้งๆที่ผมอุดส่ารีบร้อนโทรไปเล่าอาการทุกอย่างให้มันฟังอย่างละเอียดยิบ แต่คำตอบที่ได้มาคือมันกำลังเล่นท่ายากกับเมียมันอยู่ ผมได้คำตอบกลับมาแค่นั้นจริงๆครับ..

     

                     มิหนำซ้ำวันนี้มันยังเอาเรื่องนี้มาล้อผมได้อย่างหน้าตาเฉย ทำให้เพื่อนๆและสาวๆที่นั่งอยู่บริเวณหลังตึกคณะที่พวกผมสิงสถิตอยู่ในตอนนี้ ถึงกับหันมามองผมเป็นตาเดียวและหัวเราะกันอย่างเอาเป็นเอาตาย..

     

                      ปาร์คชานยอล!! ไอ้ปรมาจารย์ด้านการซัมบาราเห้!!

     

                      มึงกำลังทำให้ลูกชายกูขายหน้านะครับ!!

     

                      มึงกำลังทำให้ลูกชายกูไม่มีอันจะกินนะครับมึง!!

     

                      เพราะสาวๆที่กูอุดส่าซุ่มเล็งไว้เขาได้ยินกันหมดแล้วครับว่าลูกชายกูมันอ่อนเป็นหนอน!!

     

                      ปาร์คชานยอล!! ไอ้เพื่อนยาก!! กูไม่น่าเล่นมึงเลยจริงๆครับ!! กูไม่น่าเลยจริงๆ  T_____T

     

                      “อะไรไอ้ฮุน มัวแต่ยืนบื้ออะไร ไปได้แล้วเดี๋ยวงานไม่เสร็จ..”

     

                      “ออ.. แล้วมึงจะแวะไปรับน้องเหี่ยวศรีที่ตึกนิเทศก่อนก็ได้นะเว้ย เดี๋ยวไม่แข็ง..”

     

                      “ฮ่าๆ..

     

                      อู๋อี้คริสฟิตปึ๋งปั๋งที่นั่งหัวเราะเอาเป็นเอาตายอยู่ในตอนแรก อดที่จะเอ่ยแซวเพื่อนรักบ้างไม่ได้ นี่เขาพึ่งรู้นะเนี่ยว่าไอ้แฝดจอมกามของเขานกเขาไม่ขัน แบบนี้นี่รู้ถึงไหนเสียสาวๆไปถึงนั่นเลยนะ แถมยังเสียดีกรีเจ้าพ่อความเจ้าชู้และเถื่อนกามอย่างพวกเขาหมด..

     

                       โอ้ยยย.. หม่อมแม่ครับอู๋ขำไอ้ฮุนครับ

     

                       อู๋ขำไอ้ฮุนไม่ไหวแล้วครับหม่อม..

     

                      “หยุดหัวเราะได้แล้วอิเงิง! ฟันมึงนี่จะเฉาะหน้ากูอยู่แล้วเนี่ย!”

     

                      “หัวเราะคนอื่นแบบนั้นทำยังกะของตัวเองแข็งตายอ่ะ กูไม่เห็นมันจะ..

     

                       อุ๊บ!!

     

                      จางอี้ชิงที่พึ่งรู้ตัวว่าตัวเองพลั้งปากพูดอะไรบางอย่างออกไป รีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้แทบไม่ทัน นี่ดีนะที่มือของเขามันทำงานไวกว่าปากประมาณครึ่งของครึ่งวินาที ไม่อย่างนั้นละก็..

     

                      ความลับที่จางอี้ชิงอุดส่าเกือบมาเป็นแรมปีคงจะแตกทันทีและทันใด

     

                      และจางอี้ชิงก็ไม่อยากจะนึกเล้ย.. ว่าถ้าหากอิจอกเพื่อนรักของเขาที่กำลังนั่งเอียงคอจ้องเขาสลับกับจ้องไอ้หัวทองที่กำลังยืนทำหน้าเอ๋ออยู่กับที่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้แอนด์สงสัยแบบนี้..

     

                      ถ้ามันรู้เรื่องนี้เข้าละก็..

     

                      มีหวังคนทั้งโลกได้รับรู้ถึงสุดยอดแห่งความลับ..

     

                      ระหว่างจางอี้ชิงกับอู๋อี้ฟานแน่ๆ!!

     

     

     
                      30%


     

     

     

                     “มึงรู้ได้ไงวะอี้ว่าของไอ้อู๋ไม่เอ่อ.. ไม่..เอ่อ.. อื้อ~”

     

                     ลูกชายคนเล็กของเจ๊พยูนที่นั่งเงียบมานานเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนรักตาแป๋ว ก่อนที่ริมฝีปากบางๆจะเอ่ยถามในสิ่งที่คิดแต่ก็เอ่ยออกมาได้ไม่เต็มปากเพราะมันคงจะตรงเกินไปหากเขาจู่ๆเขาจะตามว่า มึงรู้ได้ไงว่าของไอ้อู๋ไม่แข็ง

     

                     แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยถามจนจบประโยคก็ถูกจางอี้ชิงประกบปากเอาไว้เสียก่อน ซึ่งจู่ๆคนเป็นเพื่อนรักของเขาก็เล่นโถมตัวเข้ามาตะครุบและปิดปากเขาแน่นจนอากาศเข้าไม่ได้แบบนี้..

     

                     งั้นแสดงว่าคืนนั้นที่เกาะเชจู.. อู๋อี้ฟานกับจางอี้ชิงต้องมีความลับอะไรกันแน่ๆ..

     

                     “อ๊ะ~ ดะ เดี๋ยวโย่งนี่มึงจะลากกูไปไหน เห้!! ปล่อยกูลงเดี๋ยวนี้นะกูจะทำ..

     

                     “มึงจะทำอะไรก็ทำ แต่ต้องนั่งทำตรงนี้..

     

                     “มัวแต่ไปนั่งนัวเนียกอดรัดฟัดเหวี่ยงถึงเนื้อถึงตัวกันแบบนั้นแล้วเมื่อไหร่งานมันจะเสร็จ..”

     

                    จบคำพูดของท่านประธาน ซึ่งก็หมายความว่ามันได้จัดการอุ้มหมาน้อยของมันออกมาจากอี้ชิงที่รัดคอปิดปากอยู่เมื่อครู่เรียบร้อยแล้ว

     

                    มิหนำซ้ำมันยังวางหมาน้อยของมันให้นั่งจุมปุกอย่างงงๆอยู่ห่างจากเพื่อนคนอื่นๆประมาณยี่สิบเซ็นได้ ก่อนที่จะปรายตามองไปยังเพื่อนๆที่นั่งอยู่รอบๆด้วยใบหน้าเรียบนิ่งและพูดว่า..

     

                    “ถ้ากูกลับมาแล้วเห็นใครเข้าใกล้พยอนแบคฮยอนเกินยี่สิบเซ็น..

     

                    “ไม่เข้าไอซียูก็นอนหยอดน้ำข้าวต้มที่บ้านเลือกเอา..

     

                    !!!!

     

                    ถึงกับสะดุ้งโหยงและขนลุกกันเป็นแถบๆ ก็แน่ล่ะในคณะนี้ใครเป็นใหญ่และมีอิทธิพลที่สุดก็น่าจะรู้ดี และถ้าได้ประกาศออกมาชัดเจนแบบนี้แล้ว ลองเข้าไปใกล้ดูสิ รับรองตายห่ากันเป็นแถบๆแน่มึง T____T

     

     

     

     

     

                     “หมา..

     

                     “นี่มาถึงขนาดนี้แล้วไอ้ประธานมันเคยขอมึงเป็นแฟนเป็นทางการยังวะ..

     

                     เมื่อต่างคนต่างก้มหน้าก้มตาทำงานในมือมาได้สักพัก หลังจากที่พ่อหนุ่มเนื้อทองทั้งสามเดินออกไปจากบริเวณนั้นแล้ว ในที่สุดอี้ชิงก็ตัดสินใจเปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นอีกครั้ง นั่นทำให้ฝ่ามือเล็กที่กำลังขีดเขียนแบบงานในมืออยู่ถึงกับชะงักทันที..

     

                    “แล้วมึงคิดว่ามันจะทำแบบนั้นไหมอี้..

     

                    “หมอนั่นนิสัยยังไงมึงก็รู้..

     

                    “รู้จักกันมาเกือบ 20 ปี กูยังไม่เคยได้ยินปาร์คชานยอลมันบอกรักใครเลยซักครั้ง..”

     

                    นั่นสินะ.. สุดท้ายแล้วคนที่รู้จักปาร์คชานยอลดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้นพยอนแบคฮยอนอยู่ดี แต่ถึงจะรู้จักดีแค่ไหนบางทีคนตัวเล็กก็ไม่อาจเดาได้เลยว่าความจริงแล้วในใจของหมอนี่มันคิดอะไรอยู่..

     

                    ถึงแม้บางทีหมอนี่จะแสดงออกว่าหึงหวง จะแสดงออกกับเขาว่ารักหรือแม้กระทั่งดูแลเขาดีและพิเศษกว่าผู้หญิงคนอื่นๆที่เคยคบมา แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ารักซะหน่อย..

     

                    จะให้เชื่อได้ยังไงว่าหมอนี่รักเขาจริง ถึงแม้ว่าจะแสดงออกมากแค่ไหนว่ารัก แต่ถ้าไม่เคยคิดที่จะบอก ถ้าไม่เคยคิดที่จะขอเป็นแฟนหรือเป็นคนรักอย่างจริงจัง..

     

                     พยอนแบคฮยอนก็คงไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆของปาร์คชานยอลอยู่ดี..

     

                     “อุปกรณ์ในการทำโมเดลมาแล้วครับสาวๆ นี่ขอบอกเลยนะว่าอู๋เป็นคนเลือกเองกับมือ..

     

                     “เพราะฉะนั้นรับรองว่างานกลุ่มเราไม่มีพลาด ได้คะแนนโมเดลเครื่องยนต์รุ่นนี้เต็มชัวร์ๆอู๋คนเฟิร์ม..

     

                     อี้ชิงถึงกับทำหน้าเบื่อโลกทันที ก่อนจะปรายตามองเพื่อนรักหัวทองที่กำลังยืนหอบกล่องโมเดลยืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้าพวกเขาด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก..

     

                     หรือถ้าจะให้พูดง่ายๆก็คือตอนนี้จางอี้ชิงกำลังโมโหจนแทบจะกินหัวอู๋อี้ฟานเข้าไปได้ทั้งหัวแล้ว คนบ้าอะไรไม่รู้จักดูสถานการณ์บ้านเมืองเอาเสียเลย นี่คนอื่นเขากำลังเงียบและทำหน้าเครียดกันอยู่..

     

                     แต่หมอนี่มาถึงก็แหกปากดังลั่นอย่างอารมณ์ดี..

     

                     แบบนี้มันน่าเอาค้อนทุบหัวให้มันไปเข้าเฝ้าหม่อมแม่ของมันที่กาแล็คซี่ชะมัด!

     

                     “อะ.. เอ่อ.. มะ.. มีอะไรกันรึเปล่า..

     

                     “คะ.. คืออู๋ขอโทษที่เสียงดัง อู๋จะหุบปากเดี๋ยวนี้ครับ อย่าลงโทษอู๋เลยนะ T_____T”

     

                     “เออนั่นดิ.. พวกมึงเป็นไรกันวะ ทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นมีอะไรรึเปล่า..

     

                     เซฮุนที่เดินตามหลังอู๋ฟานมาติดๆก้มลงวางกล่องโมเดลข้างต้นไม้ ก่อนจะเอ่ยถามเพื่อนตัวเล็กทั้งสามคนด้วยความเป็นห่วง ก็ปกติสามสาวขาเม้าประจำกลุ่มนี่เคยเงียบปากได้ที่ไหนกัน ถึงงานจะเครียดและเยอะแค่ไหนกลุ่มของพวกเขาก็ไม่เคยเครียดเลยซักนิดมีแต่หัวเราะเฮฮากันตลอดหรือว่า..

     

                     “แล้วนี่พวกมึงจะไม่นั่ง? จะทำไหมงานเนี่ย ไม่ทำก็ไม่ต้องเอาคะแนน จบนะ..

     

                     เป็นอี้ชิงเองที่เป็นคนปิดประเด็นตึงเครียดนี้เอาไว้ก่อน โดยการแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำถามเหล่านั้น เพราะถึงยังไงปัญหาแค่นี้พวกเขาก็แก้เองได้อยู่แล้ว เพราะคืนนี้จางอี้ชิงกับคิมมินซอกมีแผนเตรียมไว้สำหรับการลงเอยของเพื่อนรักทั้งสองแล้ว ถ้าไม่งั้นอี้ชิงคงไม่เปิดประเด็นให้เพื่อนรักของตัวเองเครียดแบบนี้หรอก..

     

                     ก็เพราะมีแผนเอาไว้แล้วไง ถึงได้เปิด..

     

                     ที่เหลือก็แค่รอเวลาเท่านั้น.. วันเกิดมินซอกคืนนี้..

     

                     ปาร์คชานยอลจอมปากแข็ง มึงเสร็จพวกกูแน่ J

     

                     “มึงแล้วไอ้ประธานละวะ ไอ้ประธานไปไหน..

     

                     “กูไม่เห็นมันจะมาทำอะไรกูอย่างที่มันพูดไปเลย โด่!! ป๊อดนี่หว่า ฮ่าๆ

     

                     คิมมินซอกที่นั่งเงียบมานานตัดสินใจเอ่ยประโยคชวนขำออกมาเพื่อหวังจะช่วยให้บรรยากาศหายตึงเครียด เห็นไหมว่าจอกก็มีประโยชน์นะ จอกไม่ได้คิดจะถ่ายแค่ฉากซัมบาราเห้อย่างเดียวนะ จอกกำลังช่วยให้เพื่อนหายเครียดเห็นไหม..

     

                     แต่ทำไม.. บรรยากาศมันถึงได้ดูเครียดกว่าเดิมหลังจบคำพูดของจอกล่ะ??

     

                     “ไม่รู้เหมือนกันว่ะมันไม่ได้บอก..

     

                     “ตอนที่พวกกูเลือกโมเดลกันอยู่เห็นมีคนโทรเข้ามาหามัน..”

     

                     “จากนั้นมันก็ทำหน้าเครียดแล้วเดินออกจากห้องไปเลย ไม่บอกพวกกูซักคำว่ามันจะไปไหน..

     

                     คำพูดของโอเซฮุนทำให้คนตัวเล็กที่ก้มหน้าอยู่กับแผ่นร่างโมเดลบนตักถึงกับชะงัก ไปไหนก็ไม่รู้ไม่ได้บอกอย่างนั้นหรอ.. ปกติแล้วปาร์คชานยอลเวลาจะไปไหนหมอนี่ต้องรายงานเขาทุกครั้ง ไม่สิ.. ถ้าไม่รายงานเขาอย่างน้อยก็ต้องบอกเซฮุนกับอู๋ฟานที่ไปด้วยกันไม่ใช่เดินออกไปเฉยๆแบบนี้..

     

                     แบบนี้มันจะไม่แปลกไปหน่อยหรอ.. หรือจะมีธุระด่วนที่บ้านก็ไม่น่าใช่..

     

                     แล้วทำไมเขาถึงได้รู้สึกแบบนี้ ทำไมพยอนแบคฮยอนถึงรู้สึกว่าการหายตัวของปาร์คชานยอลในครั้งนี้มันแปลกๆ ทำไมเขาถึงได้รู้สึกหนึบๆที่อกข้างซ้ายแบบนี้

     

                     อาจเป็นเพราะคำพูดของอี้ชิงที่ทำให้เขาฉุกคิดเรื่องนั้นเมื่อครู่และอาการเหล่านั้นยังไม่หายไป หรืออาจเป็นเพราะคนตัวโตไม่เคยหายไปไหนโดยที่ไม่บอกกล่าวแบบนี้ตั้งแต่รู้จักกันมา..

     

                     เพราะอะไรกันนะที่ทำให้รู้สึกว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น เพราะอะไรกันพยอนแบคฮยอนถึงได้ร้อนใจและรู้สึกแปลกๆแบบนี้.. จะเป็นฝ่ายโทรถามก็ไม่กล้าเพราะถ้าเขาอยากบอกเขาคงจะบอกเองตั้งแต่แรก..

     

                     “หมามึงเป็นไรรึเปล่า.. โอเคไหม..”

     

                     จบคำพูดของอี้ชิง สายตาของเพื่อนทุกคนต่างก็ทอดมองไปยังเพื่อนตัวเล็กที่กำลังนั่งก้มหน้าอยู่กับแผ่นกระดาษ ถ้าดูเผินๆอาจจะเหมือนกับพยอนแบคฮยอนกำลังตั้งใจทำงานต่อและไม่ได้คิดอะไร ทว่าดินสอเขียนแบบที่มือเล็กๆนั้นกำอยู่กลับไม่ขยับเขยื้อน แต่มันกำลังสั่น..

     

                     สั่นและเงียบจนเพื่อนๆที่เห็นต่างก็อดเป็นห่วงไม่ได้..

     

                     เพราะปกติแล้วพยอนแบคฮยอนไม่เคยเป็นอย่างนี้ ถ้าจะมีเรื่องเครียดหรือไม่สบายใจคนตัวเล็กจะปรับอารมณ์ได้เร็วและกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมในเวลาเพียงไม่ถึงครึ่งนาทีด้วยซ้ำ..

     

                     แต่ครั้งนี้มัน..

     

                     “อือกูโอเค.. ไม่เป็นไร..

     

                     “แค่รู้สึกแปลกๆนิดหน่อย.. ไม่ต้องห่วงนะ..

     

                     ดวงตากลมเงยขึ้นมาสบตากับเพื่อนๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างจนตาหยีตามแบบฉบับของคนตัวเล็กที่อารมณ์ดีที่สุดในกลุ่มและปรับเปลี่ยนแววตาที่เศร้าในตอนแรกเป็นแววตาใสๆที่ถูกสายทอดออกมาผ่านทางม่านตากลมๆคู่นั้นได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งวิ..

     

                     ซึ่งถ้าหากเป็นคนอื่นคงจะดูไม่ออกหรอกว่าคนตัวเล็กกำลังเศร้า แต่คิดหรือว่าแก้วตาใสแป๋วคู่นั้นจะปิดจางอี้ชิง คิมมินซอก โอเซฮุน และอู๋อี้ฟานได้ อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ ทำไมจะไม่รู้ว่าตอนนี้เพื่อนตัวเล็กกำลังรู้สึกอย่างไร..

     

                     “เอาหน่า.. อย่าคิดมากเลย ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวอู๋ฟานพาไปกินอมยิ้มดีไหม..

     

                     “ไปซื้ออมยิ้มที่ตึกนิเทศกัน เดี๋ยวอู๋ฟานเลี้ยงหมาน้อยเองเนอะ จะซื้อให้หลายๆอันเลยดีไหม..

     

                     ขายาวก้าวเข้าไปใกล้ๆลูกหมาตัวน้อยที่นั่งจุมปุกอยู่ตรงหน้า ก่อนที่ฝ่ามืออุ่นๆจะลูบเรือนผมนิ่มเพื่อปลอบหมาน้อยของเขาให้อารมณ์ดีขึ้น และการกระทำของอู๋อี้ฟานก็ดูท่าว่าจะได้ผลไม่น้อย เพราะตอนนี้ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักกำลังพยักขึ้นลงพร้อมกับยิ้มกว้างกลับมาอย่างน่ารักและอารมณ์ดี..

     

                      จนเพื่อนๆทุกคนต่างลงมติเป็นเอกฉันท์ในใจว่า..

     

                   อิอู๋เกิดมายี่สิบกว่าปี พึ่งจะมีประโยชน์ก็วันนี้แหละ..

     

                      “มึงซื้อโคล่ามาให้จอกด้วยนะจอกอยากกิน..

     

                      “เอาโคล่าเย็นๆนะเว้ย อย่ามัวแต่ไปสวีทวี้ดวิ้วกัน จนโคล่าจอกหายเย็นนะ ฮ่าๆ..”

     

                      จบคำพูดของคิมมินซอกเพื่อนๆทุกคนต่างก็ระเบิดหัวเราะกันทันที ก็เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่านอกจากไอ้ประธานแล้วก็จะมีแค่อิอู๋อี้คริสนี่แหละที่สามารถแตะเนื้อต้องตัวและสามารถปลอบหมาน้อยได้เวลามันเศร้า..

     

                      และที่สำคัญสองคนนี้มันก็มักจะเรียกชื่อกันเพราะๆหวานๆซึ้งๆและเข้าอกเข้าใจกันมาตั้งแต่แต่ไหนแต่ไร แถมหมาน้อยยังชอบอ้อนไอ้หัวทองนี่มากกว่าใครๆ เลยไม่มีใครคิดอะไรเวลาที่สองคนนี้ใกล้ชิดหรืออยู่ด้วยกัน เพราะมันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว..

     

                      จะมีก็แต่ไอ้ประธานคนเดียวนั่นแหละ ที่ชอบหวงแล้วระรานคนอื่นไปทั่วจนอิอู๋พระรองสุดหล่อต้องเดือดร้อนอยู่บ่อยๆ แต่ครั้งนี้ไอ้ประธานมันหายตัวไปอย่างไม่บอกกล่าว ก็ช่วยไม่ได้ที่อิอู๋พระรองจะคาบน้องหมาของมันไปแดรกอย่างสบายใจ..

     

     

     

     

     

     

                      “อยากไปสวนดอกไม้ก่อนไหม? / เอ่อ..คือ..แล้วงาน..

     

                      “ไปดีกว่าเนอะ งานเดี๋ยวให้พวกนั้นทำไปก่อนก็ได้ ไม่ได้รีบส่งซะหน่อย..

     

                      จบคำพูดมืออุ่นๆก็ยื่นมากุมมือเล็กเอาไว้ ก่อนจะพาเดินตรงไปยังสวนดอกไม้หลังมหาลัยทันที เพราะอู๋อี้ฟานรู้ดีว่าเพื่อนตัวเล็กของเขาชอบมาที่นี่เวลามีเรื่องไม่สบายใจ พามาปาก้อนหินลงน้ำซักก้อนสองก้อนเดี๋ยวก็หาย..

     

                       “อู๋ฟานแกะนี่ให้หน่อย เราอยากกิน~”

     

                       เหลืออีกไม่ถึงครึ่งเมตรก็จะถึงโต๊ะที่นั่งกันประจำแล้ว ทว่ามือเล็กๆกลับยื้อเขาให้หยุดเดิน ก่อนที่ดวงตาใสแป๋วคู่นั้นจะเงยขึ้นสบตาอย่างออดอ้อน นี่เด็กน้อยคงจะอยากกินอมยิ้มจนเต็มแก่ ดูทำหน้าเข้าสิหมั่นเขี้ยวชะมัด..

     

                       “อ๊ะ~ นี่มาบีบจมูกทำไมเนี่ยเจ็บนะ T___T  /  นี่จะบีบเยอะกว่านี้อีก จะหยิกแก้มด้วยถ้าไม่เลิกทำตัวน่ารัก..

     

                      กว่าจะได้กินอมยิ้มรสโปรดสมใจหวังก็ต้องเจ็บตัวไปอีกหลายต่อหลายรอบ ก็คนตัวโตตรงหน้าเล่นทั้งบิดแก้ม บิดปรายคาง แถมยังบีบจมูกไม่หยุดราวกับว่าลูกชายคนเล็กของเจ๊พยูนเป็นตุ๊กตาหมายังไงยังงั้น..

     

                      แต่ถึงอย่างนั้น..ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเวลาอยู่กับผู้ชายตัวโตคนนี้พยอนแบคฮยอนรู้สึกดีทุกครั้ง..

     

                      มันรู้สึกดี รู้สึกอบอุ่นเหมือนกับอยู่กับพี่ชายแท้ๆ..

     

                      “อะนี่กินดีๆนะโตแล้ว ถ้าทำเลอะอู๋ฟานจะไม่เช็ดให้จริงๆ..”

     

                      คลี่ยิ้มกว้างจนตาหยีทันทีเมื่อคนตัวโตแกะอมยิ้มรสช็อคโกแลตแล้วยื่นมาตรงหน้า ก่อนจะรับมันเข้าปากแล้วดูดเบาๆอย่างอารมณ์ดี กินเหมือนเด็กน้อยที่หิวขนมมากๆจนมันเลอะปากทุกทีสินะ บอกเท่าไหร่ก็ไม่เคยฟังเลยหมาน้อย มันน่าจับตีก้นจริงๆแบบนี้..

     

                      “มาเช็ดให้ทำไม.. ไหนอู๋ฟานบอกว่าจะไม่เช็ดให้แล้วไง~ ”

     

                      รู้ว่าคนตัวโตทำเป็นขู่ไปแบบนั้นสุดท้ายก็เช็ดให้เหมือนเดิมอยู่ดี คนตัวเล็กก็เลยจงใจดูดอมยิ้มแรงๆจนมันเลอะมุมปาก ก่อนจะยักคิ้วให้สองทีแล้วก้มดูดอมยิ้มตรงหน้าต่อ ทว่า..

     

                      “อืม.. หวานดีแฮะว่าแล้วทำไมหมาน้อยถึงได้ชอบกิน..

     

                      “อู๋ฟาน!! ไอ้บ้าใครบอกให้ทำแบบนี้กันเล่า!! .//////. ”

     

                      ฮ่าๆเขินรึไง หน้าแดงแบบนี้นี่เขินใช่ไหมหมาน้อย.. / ก็มัน..”

     

                      เหอะ.. นี่หรอเพื่อนสนิท.. เพื่อนสนิทหน้าท้องติดกันทุกวันนะสิไม่ว่า..

     

                      มาจู๋จี๋กันกลางวันแสกๆหลังมหาลัยแบบนี้ ไม่อายฟ้าอายดินบ้างหรือไง หน้าด้าน..”

     

                      !!!!

     

     

     







     

    Writer Talk 

    ค้างไหม.. มันค้างไหม 55 ไม่ค้างใช่ไหม..
    เจอกันตอนต่อไปเร็วๆนี้ บ๊ายๆ ซัมบาราเห้ ฉึกๆ ^^

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×