คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : 22 Days ♡
22 Days ♡
#เพื่อนรักเตียงสั่น
“พวกมึงนั่งรอตรงนี้แหละ เดี๋ยวกูกับไอ้ประธานไปเอาอุปกรณ์เอง..”
“ออ.. หรือไอ้คุณประธานมึงจะหอบเมียไปด้วยก็ได้นะครับ ห่างนานเดี๋ยวสมรรถภาพด้านล่างไม่ดี เดี๋ยวไม่แข็ง ฮ่าๆ”
โอเซฮุนวาดแขนโอบไหล่เพื่อนรักเบาๆพร้อมกับตบสองสามที ก่อนจะยักคิ้วให้คนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างผู้ชนะ โดยที่ชายหนุ่มคงจะลืมไปทุกทีว่า ไม่มีใครเคยเอาชนะความเย็นชาและฝีปากกล้าของหมอนี่ได้เลยแม้เพียงครั้งเดียวตั้งแต่คบกันมาเป็นสิบๆปี..
เพราะต่อให้คุณจะลงทุนใช้เวลาคิดคำด่า คำเหน็บแนม หรือประโยคต่างๆนาๆสารพัดเพื่อแซะหมอนี่โดยใช้เวลาเป็นครึ่งชั่วโมงหรือเป็นสิบๆปีก็เถอะ..
สุดท้าย.. หมอนี่ก็สามารถตอกกลับคุณให้หน้าหงายได้ในเวลาเพียงแค่ไม่ถึงห้าวินาทีอยู่ดี..
“มึงไม่จำเป็นต้องห่วงกูหรอกไอ้ฮุน.. ห่วงตัวเองเถอะ..”
“เพราะกูบริหารสมรรถภาพด้านล่างกับเมียกูทุกวัน แถมวันละหลายรอบ..”
“อีกอย่าง..”
“แค่เมียมานั่งใกล้ๆและได้กลิ่นเมีย ของกูก็พร้อมใช้งานแล้ว..”
“ไม่เหมือนมึงหรอกที่เวลานั้นทีไรต้องใช้น้องอาโออิยั่วแล้วยั่วอีก..”
“แต่ก็อ่อนปวกเปียกเป็นหนอนไม้ไผ่ ใช้การไม่ได้เหมือนเดิม..”
!!!!
“ฮ่าๆ..”
สิ้นสุดคำพูดของท่านประธานเพื่อนๆในคณะ อีกทั้งยังผู้คนที่นั่งอยู่ในละแวกนั้นถึงกับหัวเราะร่าออกมาทันที และดูท่าว่าคุณชายโอเซฮุนที่อยากจะเอาชนะมนุษย์สุดยอดอีคิวและไอคิวอย่างปาร์คชานยอลแทบอยากจะเอาหน้ามุดและไถๆไปกับพื้นซีเมนต์ให้ได้เสียตอนนี้..
ก็หมอนี่มันเล่นเอาเรื่องที่เขาโทรไปปรึกษามันเมื่อคืนก่อน ตอนที่แอบปีนไปหาอิเหี่ยวศรีแก๊งหมีแพนด้าที่หอเพื่อทำการซัมบาราเห้ แต่แล้วจู่ๆลูกชายของเขากลับกลายเป็นเด็กอนุบาลยั่วเท่าไหร่ก็ไม่ทำงาน จนต้องใช้น้องอาโออิเป็นตัวเพิ่มสมรรถภาพเป็นสิบๆรอบ..
แต่ถึงกระนั้น.. ก็ไม่มีวี่แววว่าเจ้าลูกชายสุดหล่อล่ำบึกของโอเซฮุนจะใช้งานได้เสียที เขาจึงตัดสินใจที่จะโทรไปปรึกษาท่านปรมาจารย์ด้านการซัมบาราเห้อย่างปาร์คชานยอลและก็ได้คำตอบกลับสั้นๆมาว่า..
“ไม่แข็งก็ไม่ต้องทำ..”
“แค่นี้นะกูจัดท่ายากอยู่..”
“เมียกูมองตาเขียวแล้ว.. ทำได้ไม่เต็มที่เพราะมัวแต่คุยกับมึงนี่แหละ..”
“โอ้ยย!! เบบี๋หยิกยอลทำไมครับเนี่ย แรงกระแทกไม่แรงพอหรอ โอ้ยย!!”
ตู้ดๆ..
นั่นแหละครับ.. ปาร์คชานยอลมันตอบผมมาแค่นั้นจริงๆทั้งๆที่ผมอุดส่ารีบร้อนโทรไปเล่าอาการทุกอย่างให้มันฟังอย่างละเอียดยิบ แต่คำตอบที่ได้มาคือมันกำลังเล่นท่ายากกับเมียมันอยู่ ผมได้คำตอบกลับมาแค่นั้นจริงๆครับ..
มิหนำซ้ำวันนี้มันยังเอาเรื่องนี้มาล้อผมได้อย่างหน้าตาเฉย ทำให้เพื่อนๆและสาวๆที่นั่งอยู่บริเวณหลังตึกคณะที่พวกผมสิงสถิตอยู่ในตอนนี้ ถึงกับหันมามองผมเป็นตาเดียวและหัวเราะกันอย่างเอาเป็นเอาตาย..
ปาร์คชานยอล!! ไอ้ปรมาจารย์ด้านการซัมบาราเห้!!
มึงกำลังทำให้ลูกชายกูขายหน้านะครับ!!
มึงกำลังทำให้ลูกชายกูไม่มีอันจะกินนะครับมึง!!
เพราะสาวๆที่กูอุดส่าซุ่มเล็งไว้เขาได้ยินกันหมดแล้วครับว่าลูกชายกูมันอ่อนเป็นหนอน!!
ปาร์คชานยอล!! ไอ้เพื่อนยาก!! กูไม่น่าเล่นมึงเลยจริงๆครับ!! กูไม่น่าเลยจริงๆ T_____T
“อะไรไอ้ฮุน มัวแต่ยืนบื้ออะไร ไปได้แล้วเดี๋ยวงานไม่เสร็จ..”
“ออ.. แล้วมึงจะแวะไปรับน้องเหี่ยวศรีที่ตึกนิเทศก่อนก็ได้นะเว้ย เดี๋ยวไม่แข็ง..”
“ฮ่าๆ..”
อู๋อี้คริสฟิตปึ๋งปั๋งที่นั่งหัวเราะเอาเป็นเอาตายอยู่ในตอนแรก อดที่จะเอ่ยแซวเพื่อนรักบ้างไม่ได้ นี่เขาพึ่งรู้นะเนี่ยว่าไอ้แฝดจอมกามของเขานกเขาไม่ขัน แบบนี้นี่รู้ถึงไหนเสียสาวๆไปถึงนั่นเลยนะ แถมยังเสียดีกรีเจ้าพ่อความเจ้าชู้และเถื่อนกามอย่างพวกเขาหมด..
โอ้ยยย.. หม่อมแม่ครับอู๋ขำไอ้ฮุนครับ
อู๋ขำไอ้ฮุนไม่ไหวแล้วครับหม่อม..
“หยุดหัวเราะได้แล้วอิเงิง! ฟันมึงนี่จะเฉาะหน้ากูอยู่แล้วเนี่ย!”
“หัวเราะคนอื่นแบบนั้นทำยังกะของตัวเองแข็งตายอ่ะ กูไม่เห็นมันจะ..”
อุ๊บ!!
จางอี้ชิงที่พึ่งรู้ตัวว่าตัวเองพลั้งปากพูดอะไรบางอย่างออกไป รีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้แทบไม่ทัน นี่ดีนะที่มือของเขามันทำงานไวกว่าปากประมาณครึ่งของครึ่งวินาที ไม่อย่างนั้นละก็..
ความลับที่จางอี้ชิงอุดส่าเกือบมาเป็นแรมปีคงจะแตกทันทีและทันใด
และจางอี้ชิงก็ไม่อยากจะนึกเล้ย.. ว่าถ้าหากอิจอกเพื่อนรักของเขาที่กำลังนั่งเอียงคอจ้องเขาสลับกับจ้องไอ้หัวทองที่กำลังยืนทำหน้าเอ๋ออยู่กับที่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้แอนด์สงสัยแบบนี้..
ถ้ามันรู้เรื่องนี้เข้าละก็..
มีหวังคนทั้งโลกได้รับรู้ถึงสุดยอดแห่งความลับ..
ระหว่างจางอี้ชิงกับอู๋อี้ฟานแน่ๆ!!
30%
“มึงรู้ได้ไงวะอี้ว่าของไอ้อู๋ไม่เอ่อ.. ไม่..เอ่อ.. อื้อ~”
ลูกชายคนเล็กของเจ๊พยูนที่นั่งเงียบมานานเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนรักตาแป๋ว ก่อนที่ริมฝีปากบางๆจะเอ่ยถามในสิ่งที่คิดแต่ก็เอ่ยออกมาได้ไม่เต็มปากเพราะมันคงจะตรงเกินไปหากเขาจู่ๆเขาจะตามว่า มึงรู้ได้ไงว่าของไอ้อู๋ไม่แข็ง
แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยถามจนจบประโยคก็ถูกจางอี้ชิงประกบปากเอาไว้เสียก่อน ซึ่งจู่ๆคนเป็นเพื่อนรักของเขาก็เล่นโถมตัวเข้ามาตะครุบและปิดปากเขาแน่นจนอากาศเข้าไม่ได้แบบนี้..
งั้นแสดงว่าคืนนั้นที่เกาะเชจู.. อู๋อี้ฟานกับจางอี้ชิงต้องมีความลับอะไรกันแน่ๆ..
“อ๊ะ~ ดะ เดี๋ยวโย่งนี่มึงจะลากกูไปไหน เห้!! ปล่อยกูลงเดี๋ยวนี้นะกูจะทำ..”
“มึงจะทำอะไรก็ทำ แต่ต้องนั่งทำตรงนี้..”
“มัวแต่ไปนั่งนัวเนียกอดรัดฟัดเหวี่ยงถึงเนื้อถึงตัวกันแบบนั้นแล้วเมื่อไหร่งานมันจะเสร็จ..”
จบคำพูดของท่านประธาน ซึ่งก็หมายความว่ามันได้จัดการอุ้มหมาน้อยของมันออกมาจากอี้ชิงที่รัดคอปิดปากอยู่เมื่อครู่เรียบร้อยแล้ว
มิหนำซ้ำมันยังวางหมาน้อยของมันให้นั่งจุมปุกอย่างงงๆอยู่ห่างจากเพื่อนคนอื่นๆประมาณยี่สิบเซ็นได้ ก่อนที่จะปรายตามองไปยังเพื่อนๆที่นั่งอยู่รอบๆด้วยใบหน้าเรียบนิ่งและพูดว่า..
“ถ้ากูกลับมาแล้วเห็นใครเข้าใกล้พยอนแบคฮยอนเกินยี่สิบเซ็น..”
“ไม่เข้าไอซียูก็นอนหยอดน้ำข้าวต้มที่บ้านเลือกเอา..”
!!!!
ถึงกับสะดุ้งโหยงและขนลุกกันเป็นแถบๆ ก็แน่ล่ะในคณะนี้ใครเป็นใหญ่และมีอิทธิพลที่สุดก็น่าจะรู้ดี และถ้าได้ประกาศออกมาชัดเจนแบบนี้แล้ว ลองเข้าไปใกล้ดูสิ รับรองตายห่ากันเป็นแถบๆแน่มึง T____T
“หมา..”
“นี่มาถึงขนาดนี้แล้วไอ้ประธานมันเคยขอมึงเป็นแฟนเป็นทางการยังวะ..”
เมื่อต่างคนต่างก้มหน้าก้มตาทำงานในมือมาได้สักพัก หลังจากที่พ่อหนุ่มเนื้อทองทั้งสามเดินออกไปจากบริเวณนั้นแล้ว ในที่สุดอี้ชิงก็ตัดสินใจเปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นอีกครั้ง นั่นทำให้ฝ่ามือเล็กที่กำลังขีดเขียนแบบงานในมืออยู่ถึงกับชะงักทันที..
“แล้วมึงคิดว่ามันจะทำแบบนั้นไหมอี้..”
“หมอนั่นนิสัยยังไงมึงก็รู้..”
“รู้จักกันมาเกือบ 20 ปี กูยังไม่เคยได้ยินปาร์คชานยอลมันบอกรักใครเลยซักครั้ง..”
นั่นสินะ.. สุดท้ายแล้วคนที่รู้จักปาร์คชานยอลดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้นพยอนแบคฮยอนอยู่ดี แต่ถึงจะรู้จักดีแค่ไหนบางทีคนตัวเล็กก็ไม่อาจเดาได้เลยว่าความจริงแล้วในใจของหมอนี่มันคิดอะไรอยู่..
ถึงแม้บางทีหมอนี่จะแสดงออกว่าหึงหวง จะแสดงออกกับเขาว่ารักหรือแม้กระทั่งดูแลเขาดีและพิเศษกว่าผู้หญิงคนอื่นๆที่เคยคบมา แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ารักซะหน่อย..
จะให้เชื่อได้ยังไงว่าหมอนี่รักเขาจริง ถึงแม้ว่าจะแสดงออกมากแค่ไหนว่ารัก แต่ถ้าไม่เคยคิดที่จะบอก ถ้าไม่เคยคิดที่จะขอเป็นแฟนหรือเป็นคนรักอย่างจริงจัง..
พยอนแบคฮยอนก็คงไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆของปาร์คชานยอลอยู่ดี..
“อุปกรณ์ในการทำโมเดลมาแล้วครับสาวๆ นี่ขอบอกเลยนะว่าอู๋เป็นคนเลือกเองกับมือ..”
“เพราะฉะนั้นรับรองว่างานกลุ่มเราไม่มีพลาด ได้คะแนนโมเดลเครื่องยนต์รุ่นนี้เต็มชัวร์ๆอู๋คนเฟิร์ม..”
อี้ชิงถึงกับทำหน้าเบื่อโลกทันที ก่อนจะปรายตามองเพื่อนรักหัวทองที่กำลังยืนหอบกล่องโมเดลยืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้าพวกเขาด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก..
หรือถ้าจะให้พูดง่ายๆก็คือตอนนี้จางอี้ชิงกำลังโมโหจนแทบจะกินหัวอู๋อี้ฟานเข้าไปได้ทั้งหัวแล้ว คนบ้าอะไรไม่รู้จักดูสถานการณ์บ้านเมืองเอาเสียเลย นี่คนอื่นเขากำลังเงียบและทำหน้าเครียดกันอยู่..
แต่หมอนี่มาถึงก็แหกปากดังลั่นอย่างอารมณ์ดี..
แบบนี้มันน่าเอาค้อนทุบหัวให้มันไปเข้าเฝ้าหม่อมแม่ของมันที่กาแล็คซี่ชะมัด!
“อะ.. เอ่อ.. มะ.. มีอะไรกันรึเปล่า..”
“คะ.. คืออู๋ขอโทษที่เสียงดัง อู๋จะหุบปากเดี๋ยวนี้ครับ อย่าลงโทษอู๋เลยนะ T_____T”
“เออนั่นดิ.. พวกมึงเป็นไรกันวะ ทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นมีอะไรรึเปล่า..”
เซฮุนที่เดินตามหลังอู๋ฟานมาติดๆก้มลงวางกล่องโมเดลข้างต้นไม้ ก่อนจะเอ่ยถามเพื่อนตัวเล็กทั้งสามคนด้วยความเป็นห่วง ก็ปกติสามสาวขาเม้าประจำกลุ่มนี่เคยเงียบปากได้ที่ไหนกัน ถึงงานจะเครียดและเยอะแค่ไหนกลุ่มของพวกเขาก็ไม่เคยเครียดเลยซักนิดมีแต่หัวเราะเฮฮากันตลอดหรือว่า..
“แล้วนี่พวกมึงจะไม่นั่ง? จะทำไหมงานเนี่ย ไม่ทำก็ไม่ต้องเอาคะแนน จบนะ..”
เป็นอี้ชิงเองที่เป็นคนปิดประเด็นตึงเครียดนี้เอาไว้ก่อน โดยการแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำถามเหล่านั้น เพราะถึงยังไงปัญหาแค่นี้พวกเขาก็แก้เองได้อยู่แล้ว เพราะคืนนี้จางอี้ชิงกับคิมมินซอกมีแผนเตรียมไว้สำหรับการลงเอยของเพื่อนรักทั้งสองแล้ว ถ้าไม่งั้นอี้ชิงคงไม่เปิดประเด็นให้เพื่อนรักของตัวเองเครียดแบบนี้หรอก..
ก็เพราะมีแผนเอาไว้แล้วไง ถึงได้เปิด..
ที่เหลือก็แค่รอเวลาเท่านั้น.. วันเกิดมินซอกคืนนี้..
ปาร์คชานยอลจอมปากแข็ง มึงเสร็จพวกกูแน่ J
“มึงแล้วไอ้ประธานละวะ ไอ้ประธานไปไหน..”
“กูไม่เห็นมันจะมาทำอะไรกูอย่างที่มันพูดไปเลย โด่!! ป๊อดนี่หว่า ฮ่าๆ”
คิมมินซอกที่นั่งเงียบมานานตัดสินใจเอ่ยประโยคชวนขำออกมาเพื่อหวังจะช่วยให้บรรยากาศหายตึงเครียด เห็นไหมว่าจอกก็มีประโยชน์นะ จอกไม่ได้คิดจะถ่ายแค่ฉากซัมบาราเห้อย่างเดียวนะ จอกกำลังช่วยให้เพื่อนหายเครียดเห็นไหม..
แต่ทำไม.. บรรยากาศมันถึงได้ดูเครียดกว่าเดิมหลังจบคำพูดของจอกล่ะ??
“ไม่รู้เหมือนกันว่ะมันไม่ได้บอก..”
“ตอนที่พวกกูเลือกโมเดลกันอยู่เห็นมีคนโทรเข้ามาหามัน..”
“จากนั้นมันก็ทำหน้าเครียดแล้วเดินออกจากห้องไปเลย ไม่บอกพวกกูซักคำว่ามันจะไปไหน..”
คำพูดของโอเซฮุนทำให้คนตัวเล็กที่ก้มหน้าอยู่กับแผ่นร่างโมเดลบนตักถึงกับชะงัก ไปไหนก็ไม่รู้ไม่ได้บอกอย่างนั้นหรอ.. ปกติแล้วปาร์คชานยอลเวลาจะไปไหนหมอนี่ต้องรายงานเขาทุกครั้ง ไม่สิ.. ถ้าไม่รายงานเขาอย่างน้อยก็ต้องบอกเซฮุนกับอู๋ฟานที่ไปด้วยกันไม่ใช่เดินออกไปเฉยๆแบบนี้..
แบบนี้มันจะไม่แปลกไปหน่อยหรอ.. หรือจะมีธุระด่วนที่บ้านก็ไม่น่าใช่..
แล้วทำไมเขาถึงได้รู้สึกแบบนี้ ทำไมพยอนแบคฮยอนถึงรู้สึกว่าการหายตัวของปาร์คชานยอลในครั้งนี้มันแปลกๆ ทำไมเขาถึงได้รู้สึกหนึบๆที่อกข้างซ้ายแบบนี้
อาจเป็นเพราะคำพูดของอี้ชิงที่ทำให้เขาฉุกคิดเรื่องนั้นเมื่อครู่และอาการเหล่านั้นยังไม่หายไป หรืออาจเป็นเพราะคนตัวโตไม่เคยหายไปไหนโดยที่ไม่บอกกล่าวแบบนี้ตั้งแต่รู้จักกันมา..
เพราะอะไรกันนะที่ทำให้รู้สึกว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น เพราะอะไรกันพยอนแบคฮยอนถึงได้ร้อนใจและรู้สึกแปลกๆแบบนี้.. จะเป็นฝ่ายโทรถามก็ไม่กล้าเพราะถ้าเขาอยากบอกเขาคงจะบอกเองตั้งแต่แรก..
“หมามึงเป็นไรรึเปล่า.. โอเคไหม..”
จบคำพูดของอี้ชิง สายตาของเพื่อนทุกคนต่างก็ทอดมองไปยังเพื่อนตัวเล็กที่กำลังนั่งก้มหน้าอยู่กับแผ่นกระดาษ ถ้าดูเผินๆอาจจะเหมือนกับพยอนแบคฮยอนกำลังตั้งใจทำงานต่อและไม่ได้คิดอะไร ทว่าดินสอเขียนแบบที่มือเล็กๆนั้นกำอยู่กลับไม่ขยับเขยื้อน แต่มันกำลังสั่น..
สั่นและเงียบจนเพื่อนๆที่เห็นต่างก็อดเป็นห่วงไม่ได้..
เพราะปกติแล้วพยอนแบคฮยอนไม่เคยเป็นอย่างนี้ ถ้าจะมีเรื่องเครียดหรือไม่สบายใจคนตัวเล็กจะปรับอารมณ์ได้เร็วและกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมในเวลาเพียงไม่ถึงครึ่งนาทีด้วยซ้ำ..
แต่ครั้งนี้มัน..
“อือกูโอเค.. ไม่เป็นไร..”
“แค่รู้สึกแปลกๆนิดหน่อย.. ไม่ต้องห่วงนะ..”
ดวงตากลมเงยขึ้นมาสบตากับเพื่อนๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างจนตาหยีตามแบบฉบับของคนตัวเล็กที่อารมณ์ดีที่สุดในกลุ่มและปรับเปลี่ยนแววตาที่เศร้าในตอนแรกเป็นแววตาใสๆที่ถูกสายทอดออกมาผ่านทางม่านตากลมๆคู่นั้นได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งวิ..
ซึ่งถ้าหากเป็นคนอื่นคงจะดูไม่ออกหรอกว่าคนตัวเล็กกำลังเศร้า แต่คิดหรือว่าแก้วตาใสแป๋วคู่นั้นจะปิดจางอี้ชิง คิมมินซอก โอเซฮุน และอู๋อี้ฟานได้ อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ ทำไมจะไม่รู้ว่าตอนนี้เพื่อนตัวเล็กกำลังรู้สึกอย่างไร..
“เอาหน่า.. อย่าคิดมากเลย ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวอู๋ฟานพาไปกินอมยิ้มดีไหม..”
“ไปซื้ออมยิ้มที่ตึกนิเทศกัน เดี๋ยวอู๋ฟานเลี้ยงหมาน้อยเองเนอะ จะซื้อให้หลายๆอันเลยดีไหม..”
ขายาวก้าวเข้าไปใกล้ๆลูกหมาตัวน้อยที่นั่งจุมปุกอยู่ตรงหน้า ก่อนที่ฝ่ามืออุ่นๆจะลูบเรือนผมนิ่มเพื่อปลอบหมาน้อยของเขาให้อารมณ์ดีขึ้น และการกระทำของอู๋อี้ฟานก็ดูท่าว่าจะได้ผลไม่น้อย เพราะตอนนี้ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักกำลังพยักขึ้นลงพร้อมกับยิ้มกว้างกลับมาอย่างน่ารักและอารมณ์ดี..
จนเพื่อนๆทุกคนต่างลงมติเป็นเอกฉันท์ในใจว่า..
อิอู๋เกิดมายี่สิบกว่าปี พึ่งจะมีประโยชน์ก็วันนี้แหละ..
“มึงซื้อโคล่ามาให้จอกด้วยนะจอกอยากกิน..”
“เอาโคล่าเย็นๆนะเว้ย อย่ามัวแต่ไปสวีทวี้ดวิ้วกัน จนโคล่าจอกหายเย็นนะ ฮ่าๆ..”
จบคำพูดของคิมมินซอกเพื่อนๆทุกคนต่างก็ระเบิดหัวเราะกันทันที ก็เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่านอกจากไอ้ประธานแล้วก็จะมีแค่อิอู๋อี้คริสนี่แหละที่สามารถแตะเนื้อต้องตัวและสามารถปลอบหมาน้อยได้เวลามันเศร้า..
และที่สำคัญสองคนนี้มันก็มักจะเรียกชื่อกันเพราะๆหวานๆซึ้งๆและเข้าอกเข้าใจกันมาตั้งแต่แต่ไหนแต่ไร แถมหมาน้อยยังชอบอ้อนไอ้หัวทองนี่มากกว่าใครๆ เลยไม่มีใครคิดอะไรเวลาที่สองคนนี้ใกล้ชิดหรืออยู่ด้วยกัน เพราะมันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว..
จะมีก็แต่ไอ้ประธานคนเดียวนั่นแหละ ที่ชอบหวงแล้วระรานคนอื่นไปทั่วจนอิอู๋พระรองสุดหล่อต้องเดือดร้อนอยู่บ่อยๆ แต่ครั้งนี้ไอ้ประธานมันหายตัวไปอย่างไม่บอกกล่าว ก็ช่วยไม่ได้ที่อิอู๋พระรองจะคาบน้องหมาของมันไปแดรกอย่างสบายใจ..
“อยากไปสวนดอกไม้ก่อนไหม? / เอ่อ..คือ..แล้วงาน..”
“ไปดีกว่าเนอะ งานเดี๋ยวให้พวกนั้นทำไปก่อนก็ได้ ไม่ได้รีบส่งซะหน่อย..”
จบคำพูดมืออุ่นๆก็ยื่นมากุมมือเล็กเอาไว้ ก่อนจะพาเดินตรงไปยังสวนดอกไม้หลังมหาลัยทันที เพราะอู๋อี้ฟานรู้ดีว่าเพื่อนตัวเล็กของเขาชอบมาที่นี่เวลามีเรื่องไม่สบายใจ พามาปาก้อนหินลงน้ำซักก้อนสองก้อนเดี๋ยวก็หาย..
“อู๋ฟานแกะนี่ให้หน่อย เราอยากกิน~”
เหลืออีกไม่ถึงครึ่งเมตรก็จะถึงโต๊ะที่นั่งกันประจำแล้ว ทว่ามือเล็กๆกลับยื้อเขาให้หยุดเดิน ก่อนที่ดวงตาใสแป๋วคู่นั้นจะเงยขึ้นสบตาอย่างออดอ้อน นี่เด็กน้อยคงจะอยากกินอมยิ้มจนเต็มแก่ ดูทำหน้าเข้าสิหมั่นเขี้ยวชะมัด..
“อ๊ะ~ นี่มาบีบจมูกทำไมเนี่ยเจ็บนะ T___T / นี่จะบีบเยอะกว่านี้อีก จะหยิกแก้มด้วยถ้าไม่เลิกทำตัวน่ารัก..”
กว่าจะได้กินอมยิ้มรสโปรดสมใจหวังก็ต้องเจ็บตัวไปอีกหลายต่อหลายรอบ ก็คนตัวโตตรงหน้าเล่นทั้งบิดแก้ม บิดปรายคาง แถมยังบีบจมูกไม่หยุดราวกับว่าลูกชายคนเล็กของเจ๊พยูนเป็นตุ๊กตาหมายังไงยังงั้น..
แต่ถึงอย่างนั้น..ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเวลาอยู่กับผู้ชายตัวโตคนนี้พยอนแบคฮยอนรู้สึกดีทุกครั้ง..
มันรู้สึกดี รู้สึกอบอุ่นเหมือนกับอยู่กับพี่ชายแท้ๆ..
“อะนี่กินดีๆนะโตแล้ว ถ้าทำเลอะอู๋ฟานจะไม่เช็ดให้จริงๆ..”
คลี่ยิ้มกว้างจนตาหยีทันทีเมื่อคนตัวโตแกะอมยิ้มรสช็อคโกแลตแล้วยื่นมาตรงหน้า ก่อนจะรับมันเข้าปากแล้วดูดเบาๆอย่างอารมณ์ดี กินเหมือนเด็กน้อยที่หิวขนมมากๆจนมันเลอะปากทุกทีสินะ บอกเท่าไหร่ก็ไม่เคยฟังเลยหมาน้อย มันน่าจับตีก้นจริงๆแบบนี้..
“มาเช็ดให้ทำไม.. ไหนอู๋ฟานบอกว่าจะไม่เช็ดให้แล้วไง~ ”
รู้ว่าคนตัวโตทำเป็นขู่ไปแบบนั้นสุดท้ายก็เช็ดให้เหมือนเดิมอยู่ดี คนตัวเล็กก็เลยจงใจดูดอมยิ้มแรงๆจนมันเลอะมุมปาก ก่อนจะยักคิ้วให้สองทีแล้วก้มดูดอมยิ้มตรงหน้าต่อ ทว่า..
“อืม.. หวานดีแฮะว่าแล้วทำไมหมาน้อยถึงได้ชอบกิน..”
“อู๋ฟาน!! ไอ้บ้าใครบอกให้ทำแบบนี้กันเล่า!! .//////. ”
“ฮ่าๆเขินรึไง หน้าแดงแบบนี้นี่เขินใช่ไหมหมาน้อย.. / ก็มัน..”
“เหอะ.. นี่หรอเพื่อนสนิท.. เพื่อนสนิทหน้าท้องติดกันทุกวันนะสิไม่ว่า..”
“มาจู๋จี๋กันกลางวันแสกๆหลังมหาลัยแบบนี้ ไม่อายฟ้าอายดินบ้างหรือไง หน้าด้าน..”
!!!!
Writer Talk ♡
ค้างไหม.. มันค้างไหม 55 ไม่ค้างใช่ไหม..
เจอกันตอนต่อไปเร็วๆนี้ บ๊ายๆ ซัมบาราเห้ ฉึกๆ ^^
ความคิดเห็น