คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : 27 Days ♡
27 Days
#เพื่อนรักเตียงสั่น
ผมก้าวเข้ามาในห้องสี่เหลี่ยมที่มืดสนิทและทิ้งตัวลงบนเตียงด้วยความอ่อนล้า.. ทุกๆก้าวของผมเหมือนมันเป็นไปโดยอัตโนมัติมากกว่าการถูกสมองสั่งการ.. ผมไม่รู้ว่าควรเดินไปทางไหน.. ผมควรทำอะไรต่อ.. เนื่องจากสมองของผมมันไม่ยอมสั่งการ โชคดีที่ขับรถมาถึงคอนโดและเดินมาถึงที่ห้องได้เพราะความเคยชิน..
“ยอลไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะ!!”
“จะมานอนแบบนี้ได้ไง ลุกเดี๋ยวนี้นะ!!”
“ถ้ายอลไม่ไปอาบน้ำป๋ายจะไม่ให้นอนกอดจริงๆด้วย!!”
ผมฟุบหน้าลงกับเตียงยังไม่ทันไร.. เสียงหวานที่คุ้นหูก็ดังขึ้นไม่หยุดหย่อน.. แรงฟาดเบาๆที่บ่าจากเจ้าตุ๊กตาลูกหมาตัวนุ่มที่ชื่อเจ้ามูมู่ถูกฟาดลงบนไหล่และหลังของผมไม่ยั้ง.. แต่ผมก็ไม่เคยรู้สึกเจ็บหรอกครับ..
เพราะแรงฟาดของพยอนแบคฮยอนที่ตัวเล็กยังกะลูกหมาจะฟาดผมได้แรงแค่ไหนกันเชียว อย่างมากก็แค่ทำให้ผมหัวเราะเพราะความจักจี๋ได้ก็เท่านั้นหรือบางทีที่ผมหัวเราะและไม่รู้สึกอะไรเลยในตอนนี้..
อาจเป็นเพราะแรงฟาดกับเสียงหวานๆที่ดังข้างหูผม..
มันเป็นความเคยชิน.. ทุกอย่างเป็นเพียงแค่ความเคยชิน ภาพทุกๆภาพ เสียงทุกๆเสียง ของคนตัวเล็กที่กำลังประดังเข้ามาในหัวของผมไม่หยุดหย่อนตั้งแต่ที่ผมก้าวเข้ามาในที่แห่งนี้..
ที่ๆผมกับพยอนแบคฮยอนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในทุกๆวันมาเกือบ 3 ปีเต็ม..
ที่ๆมีความสุข.. ที่ๆมีเสียงหัวเราะ.. ที่ๆมีคนตัวเล็กๆคอยก่อกวนผมในทุกๆเช้าและก่อนนอน..
แต่ตอนนี้.. เวลานี้.. ทุกอย่างกลับเป็นเพียงแค่อดีต..
พยอนแบคฮยอนไม่ได้อยู่ที่นี่.. กับผม.. อีกต่อไปแล้ว..
“ยอลขอนอนสักพักแปบนึงนะครับคนดี..”
“วันนี้ยอลเหนื่อยมากเลยครับ.. ขอนอนกอดป๋ายแบบนี้สักพักก่อนได้ไหม..”
“อยู่นิ่งๆนะครับอย่าขยับนะ ถ้าขยับแล้วอนาคอนด้ายอลตื่นขึ้นมา เดี๋ยวจะโดนกินทั้งคืนนะครับรู้ไหม..”
ผมยิ้มให้กับคำพูดของตัวเอง ก่อนจะดึงเจ้าลูกหมาขนปุยหน้าเหมือนเจ้าของเข้ามาใกล้ๆ กลิ่นหอมอ่อนๆอันคุ้นเคยจากตัวเจ้ามูมู่ทำให้น้ำตาของผมไหลลงมาอาบแก้มอีกรอบอย่างไม่รู้ตัว..
“ไง.. หมาอ้วน.. คิดถึงแฝดแกไหม..”
“วันนี้คนที่นอนกัดนิ้วแก คนที่ชอบนอนครางหงิงๆเหมือนแกเค้าไม่มาแล้วนะ..”
“เค้าคง.. ไม่อยากกลับมา.. อยู่ที่นี่กับเราสองคนอีกแล้ว..”
ผมวางเจ้ามูมู่ลงบนหน้าพร้อมกับหลับตาลงช้าๆแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาอย่างไม่คิดจะห้าม.. สิบกว่าปีที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดจะกอดหรือคุยกับหมอนี่เลยด้วยซ้ำเพราะคิดว่ามันแย่งความรักของพยอนแบคฮยอนไปจากผม..
แต่วันนี้ผมกลับอยากคุยกับมัน.. อยากกอดมัน.. อยากมีมันอยู่ใกล้ๆและหลับไปพร้อมกับมัน.. เพียงเพราะต้องการซึมซับกลิ่นหอมจากตัวเจ้าหมาน้อยขนปุกปุย อยากระบายความรู้สึก..
และใช้มันเป็นตัวแทนของใครบางคน ที่ผมรัก..
ก๊อกๆ!!
ก๊อกๆ!!
“เฮ้~ มายบราเธอร์เปิดประตูให้ไอหน่อย..”
ก๊อกๆ!!
“เร็วๆหน่อยได้ไหมมายบราเธอร์ ไอหนักนะ!!”
เสียงแหลมๆตามแบบฉบับลูกผู้ชายที่ยังไม่ถึงวัยแตกหนุ่มดังขึ้นพร้อมกับเสียงเคาะประตูห้องรัวๆ เรียกให้ผมที่นอนจมอยู่กับเตียงตั้งแต่เมื่อคืนโดยที่ไม่ได้อาบน้ำและสภาพไม่ต่างจากศพถึงกับนิ่ง..
ผมกระพริบตาสองสามครั้งเพื่อไล่ความมึน ก่อนจะถอนหายใจอย่างยาวเหยียด..
ผมไม่อยากลุกไปเปิดประตูให้หมอนี่เลยถึงแม้ว่าตอนนี้หมาน้อยจะไม่อยู่ให้ผมหวงก็เถอะ.. แต่ถึงยังไงตอนนี้ผมก็ไม่พร้อมที่จะมาเล่นหรือโชว์ความเก่งกาจอันเหนือกว่าเพื่อเกทับหมอนี่อยู่ดี..
เพราะตอนนี้ผมกำลังเสียใจอยู่..
ก๊อกๆ!!
“มายบรา.. / นายจะเคาะอะไรนักหนา กลับไปเล่นที่ร้านไป วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์โชว์ความเก๋าว่ะ..”
ผมเปิดประตูออกไป ก่อนจะปรายตามองเด็กลูกครึ่งหน้าตาละม้ายคล้ายกันที่ยืนแบกกระเป๋าเป้ใบโตแหกปากเรียกผมอยู่หน้าห้องด้วยความรำคาญ ให้ตายเถอะหมอนี่มันแต่งตัวบ้าบออะไรของมันวะ..
ว่าแต่.. มันก็ดูคุ้นๆเหมือนเคยเห็นใครแต่งที่ไหน..
เสื้อเชิ้ตสีดำยี่ห้อดังไม่พับแขน..
กางเกงผ้าเลื่อมสีดำรัดรูป พร้อมเสื้อเข้าในกางเกงรัดเข็มขัดโชว์ความแมน..
หมวกสีน้ำเงินทรงเต่าลายสก๊อต.. เรแบนสีดำกริบแถมมีใสหูฟังอันใหญ่ๆคล้องคอ.. แบบนี้มัน..
“ไอเห็นยูวใส่แบบนี้เมื่อหลายวันก่อนไอเลยสั่งมามิ๊ตัดชุดแบบยูวให้..”
“เป็นไง.. มองตาค้างเลย.. ไอหล่อใช่ไหมล๊า..”
โป้ก!!
“อย่าเยอะ ไอ้เด็กแก่แดด..”
ปาร์คชานยอลอยากจะปล่อยมะเหงกลงบนหัวหลานแท้ๆของตัวเองหลายทีถ้าไม่ติดที่ว่าเขาไม่มีเรี่ยวแรงพอ เพราะกำลังเศร้าเรื่องหมาน้อยที่หายไปอยู่..
ไม่รู้หมอนี่มันไปได้เชื้อแก่แดดจริตจะกร้านมาจากไหน เขาว่าเขาก็ไม่เคยเสี้ยมสอนเรื่องแบบนี้ให้เสียหน่อย เลี้ยงมาเองกับมือตั้งแต่แบเบาะก็แค่มีแอบเปิดหนังอย่างว่าให้ดูตั้งแต่หมอนี่อายุได้เดือนกว่าๆก็เท่านั้น..
ไม่เห็นจะเป็นการเสี้ยมสอนตรงไหน..
“จะเข้าไม่เข้า.. ไม่เข้าจะไปนอนต่อ..”
ผมพูดทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้นก่อนจะหันหลังกลับเข้ามาในห้องเพื่อคิดทบทวนอะไรต่อมิอะไรต่อ.. แต่ไม่วายโดนเจ้าลูกลิงนี่ตามมาประกบแถมยังยื่นถุงบางอย่างในมือมาให้ผมพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง..
“ต้มให้หน่อยนะมายบราเธอร์ไอหิวจนจะเป็นลมอยู่แล้ว..”
ไม่ต้องก้มมองผมก็รู้ว่าเจ้าถุงนี่มีอะไรซ่อนอยู่ ผมถอนหายใจยาวเหยียด.. เป็นธรรมดาที่เวลาหมอนี่มาที่ห้องผมทีไรก็จะซื้อไอ้เจ้าราเม็งยี่ห้อโปรดนี่มาทุกครั้ง.. แต่ครั้งนี้กลับมีอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม..
เพราะทุกครั้งที่กินราเม็ง..
เราสามคนจะแย่งกันกินและหมาน้อยจะเป็นคนทำตลอด..
แต่ตอนนี้หมาน้อยจอมขี้บ่นไม่อยู่..
“เอาคืนไป.. อยากกินไปต้มเอง.. ฉันจะนอน..”
ผมพูดแค่นั้นก่อนจะทิ้งถุงที่เต็มไปด้วยราเม็งหลายห่อลงกับพื้น.. ผมไม่อยากเห็นเจ้านี่.. ไม่อยากเห็นมัน.. เพราะเวลาเห็นมันทีไรผมมักจะนึกถึงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเวลาที่พวกเราสามคนเข้าครัวด้วยกัน..
ถึงแม้ว่าผมกับเจ้าหลานชายตัวแสบจะเป็นลูกมือที่ไม่ได้เรื่องเท่าไหร่ แต่ทุกครั้งเราก็มักจะแย่งกันช่วยพยอนแบคฮยอนทำเสมอ และแน่นอนว่ามันทำให้คนตัวเล็กทั้งไม่พอใจและหงุดหงิดที่โดนพวกผมก่อกวนเวลาที่เขาตั้งใจทำ
คนตัวเล็กที่ชอบยืนเท้าเอวคิ้วขมวดราวกับหมาน้อยกำลังขู่เวลาที่พวกผมทำเครื่องปรุงต่างๆนาๆหกเลอะเทอะ.. รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดีใจและตื่นเต้นเวลาที่ต้มราเม็งเสร็จและพร้อมที่จะแย่งกันกิน..
ทุกอย่างมันประทังเข้ามาในหัวผมไม่หยุด..
ภาพคนตัวเล็กทำหน้ามุ่ย ภาพคนตัวเล็กคลี่ยิ้มอย่างน่ารัก..
มันทำให้สมองและร่างกายของผมแทบจะหยุดทำงานอีกรอบ..
“คิดถึงก็ไปหาเค้าสิ.. ไปง้อเค้า..”
“มามัวแต่ฟอร์มจัดขี้เก๊กแบบนี้ระวังจะไม่ได้กินราเม็งฝีมือพยอนตัวเล็กไปตลอดชีวิตนะ..”
!!!!
ผมหยุดเดินทันที.. ก่อนจะหันกลับไปมองเจ้าหลานชายตัวแสบที่กำลังนั่งไขว่ห้างบนโซฟาและสั่งสอนผมปาวๆราวกับเด็กนี่เป็นน้าผม.. ทั้งๆที่ผมต่างหากที่เป็นน้ามัน..
“ไม่ต้องมาห่วงฉัน.. ห่วงตัวนายเถอะ..”
“ไปทำอะไรหมูกึ๋นเอาไว้วันนั้น อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ..”
“ถุงยางในรถของฉันมีเหลือกี่อันฉันจำได้ดีเพราะตั้งแต่มีพยอนแบคฮยอนฉันก็ไม่เคยใช้มันอีก..”
“แต่วันที่ไปคฤหาสน์ตระกูลพยอนมันหายไปทั้งกล่อง.. และแน่นอนว่ามีนายคนเดียวที่รู้ที่ซ่อนของมัน..”
!!!!
เด็กชายวัยหกขวบถึงกับหน้าถอดสี.. มายบราเธอร์ของเขารู้ความลับอันยิ่งใหญ่เข้าให้แล้ว นี่เขาอุดส่าปิดบังเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพยอนมูกึนมาได้ตั้งสองปีกว่า.. แบบนี้หากทางผู้หลักผู้ใหญ่รู้เข้า..
เขาจะไม่โดนจับแต่งงานตั้งแต่อายุ 6 ขวบเลยหรือ ??
“มะ.. มายบราเธอร์ ไอ.. ไอ.. ”
“ไม่ต้องพูดมากขอแค่นายไม่กวนฉันก็พอ.. นายก็รู้ว่าตอนนี้ชีวิตฉันเป็นยังไง..”
ผมพูดกับเจ้าหลานชายตัวแสบด้วยความจริงจัง.. แน่นอนว่าตอนนี้ผมเศร้าจริงๆผมไม่เคยเป็นแบบนี้.. และหวังว่าหลานชายตัวดีของผมจะเข้าใจ แต่ทำไมมันมองหน้าผมยิ้มกรุ้มกริ่มล้อเลียนแบบนั้นวะ..
นี่ผมปาร์คชานยอลน้าชายแท้ๆของมันกำลังเศร้าเพราะโดนเมียทิ้งอยู่นะเว้ย..
“มองหน้าฉันแบบนี้มีปัญหาอะไรวะ.. มีปัญหาอะไรก็ว่ามาเลยไอ้เด็กแสบ..”
ผมก้าวเข้าไปหาหลานชายตัวดีที่กำลังมองหน้าผมยกมือปิดปากหัวเราะคิกคักอยู่อย่างเหลืออด.. และกำลังจะกระชากคอเสื้อหมอนี่เขวี้ยงลงจากโซฟา ถ้าไม่ติดที่ว่า..
“อ่ะ.. แกรนด์มาเธอร์ให้เอานี่มาให้..”
“บอกว่าให้มายเธอร์เอาอันนี้ไปง้อพยอนตัวเล็ก..”
ผมยืนอ้าปากค้าง.. ในขณะที่หมอนี่หัวเราะคิกคักชอบใจยกใหญ่ตอนที่ยื่นสมุดบันทึกเล่มยักษ์สีชมพูมาให้.. นี่มันคือสมุดไดอารี่ของผม ไดอารี่ที่ผมเขียนถึงคนที่ชอบตั้งแต่อนุบาล 3 และเพราะคนที่ผมชอบเขาชอบสีชมพูผมเลยต้องสั่งให้แม่ทำสมุดสีชมพูเล่มใหญ่ให้หนึ่งเล่ม เพื่อเอาไว้เขียนความรู้สึกถึงใครคนนั้น..
และผมตั้งใจเอาไว้ว่าจะมอบให้เขาตอนวันที่เราสองคนเรียนจบ..
และแน่นอนว่าผมเก็บเจ้านี่เอาไว้ในกล่องใต้เตียงแล้วล็อคกุญแจเอาไว้อย่างดีไม่ให้ใครเห็นเพราะมันคือความลับขั้นสุดของผม แล้วแบบนี้แม่ผมไปเอามันมาได้อย่างไร..
อีกอย่างถ้าแม่ผมเห็น.. แม่ผมรู้.. ถ้าคุณนายปาร์ครู้.. ถ้าคุณนายปาร์คเห็น..
มีหวังทุกคนในตระกูลผมได้..
“มายบราเธอร์นี่ร้ายไม่เบานะ..”
“แอบชอบเพื่อนตัวเองมาตั้งแต่อนุบาล 3 แถมยังแอบขโมยจุ๊บเขาทุกวันด้วย..”
“แกรนด์มาเธอร์บอกว่าถ้าชอบเขาขนาดนั้นล่ะก็..”
“อีก 3 วัน แกรนด์มาเธอร์จะยกขันหมากไปสู่ขอพยอนตัวเล็ก ให้ยูวเตรียมตัวไว้ได้เลย..”
!!!!
50%
“หมวย.. กินข้าวหน่อยดีไหมลูก..”
“นี่ดูซิ วันนี้ม๊าทำข้าวต้มกุ้งของโปรดมาให้หนูด้วยนะ..”
“กุ้งตัวใหญ่ๆทั้งนั้นเลย ลุกกินข้าวดีกว่าเนอะเดี๋ยวม๊าป้อนนะครับ..”
เจ๊พยูนเปิดประตูเข้ามาในห้องลูกชายคนเล็กด้วยรอยยิ้ม หากแต่หัวใจของคนเป็นแม่กลับรู้สึกตรงกันข้าม หัวใจของเธอรู้สึกเจ็บปวดไปหมดยามที่เห็นลูกน้อยที่เธอเฝ้าทะนุถนอมมาตั้งแต่อยู่ในท้องและดูแลอย่างดีมาเป็นยี่สิบกว่าปี นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มร้องไห้ตัวสั่นเครืออย่างน่าสงสาร..
คนเป็นแม่รีบจองไฟท์ด่วนพิเศษกลับเกาหลีทันที เมื่อลูกชายคนโตโทรไปบอกว่าเกิดเรื่องขึ้นกับน้องเมื่อคืน ทั้งๆที่เธออยู่อีกซีกหนึ่งของโลก.. คุณนายพยอนและสามีบินไปคุยโปรเจคยักษใหญ่ของเครือตระกูลพยอนที่อเมริกา
โปรเจคนี้เป็นโปรเจคสำคัญของบริษัทเพราะต้องมีการคุยและเซ็นต์เอกสารตกลงร่วมหุ้นกับทางบริษัทในเครือของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอันดับต้นๆของโลกอย่างมิสเตอร์วิลเลี่ยม..
แต่แน่นอน.. ต่อให้อะไรจะยิ่งใหญ่แค่ไหนมันก็คงไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับคำว่าแม่ หัวใจของคนเป็นแม่จะไม่เจ็บได้อย่างไร คนเป็นแม่จะกินอิ่มนอนหลับและสามารถนึกถึงเรื่องอื่นได้อย่างไร.. หากแก้วตาดวงใจของตนเป็นเช่นนี้..
ลูกเจ็บแค่ไหน.. แน่นอนว่ามันเทียบกับความเจ็บของคนเป็นแม่ไม่ได้แม้เพียงครึ่ง..
“ม๊า..”
ลูกชายคนเล็กเรียกเธอเบาๆ.. ก่อนจะค่อยๆพลิกตัวกลับมาหาผู้เป็นแม่ แววตาที่เคยเต็มไปด้วยความสดใสในตอนนี้กลับมีแต่ความเศร้าหมองและความว่างเปล่าจนทำให้คนเป็นแม่หัวใจกระตุกวูบราวกับกำลังดำดิ่งลงสู่เหวลึก..
ดวงใจของเธอไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน..
แก้วตาใสคู่นั้นเต็มไปด้วยความเศร้าหมองและหยาดน้ำตา..
แล้วอย่างนี้เธอจะทนมองหน้าดวงใจของเธอที่เต็มไปด้วยความบอบช้ำ..
พยอนจีพยูนจะทนดูลูกร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด โดยที่เธอไม่ร้องตามได้อย่างไร..
“ว..วันนี้ม๊ามีประชุมสำคัญกับมิสเตอร์วิลเลี่ยม มะ..ไม่ใช่หรอฮะ.. แล้ว.. ฮึก..”
“ชู่ว.. ไม่เอาไม่ร้องนะครับคนเก่งของม๊า..”
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะลูก ป๊าก็คอยรับหน้าแทนม๊าอยู่ที่นู่นแล้วนี่นา อีกอย่าง..”
“ต่อให้อะไรจะสำคัญแค่ไหน มันก็ไม่สำคัญเท่าหมวยเล็กของม๊าหรอก เพราะหนูคือดวงใจของม๊า..”
พยอนจีพยูนโอบกอดลูกชายคนเล็กของเธอเอาไว้อย่างหวงแหน คนเป็นแม่นั่งพิงหลังกับพนักเตียงเพื่อให้ลูกได้นอนซบกับอุกอุ่นๆ เธอพยายามคลี่ยิ้มและลูบกลุ่มผมนิ่มเพื่อปลอบโยนลูกชาย..
ทั้งๆที่ในใจก็เจ็บไม่ต่างกัน.. ทว่า..
“หมวยเป็นคนไม่ดีมากเลยใช่ไหมฮะ.. หมวยนิสัยไม่ดีมากๆเลยใช่ไหมฮะม๊า..”
“หมวยแอบรักเพื่อนตัวเอง.. หมวยแอบรักไอ้โย่ง.. แอบรัก.. มานานแล้ว.. ฮึก..”
คุณนายพยอนจีพยูนถึงกับอมยิ้ม.. ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้ฟังคำนี้จากเจ้าลูกหมาหมวยน้อย คนเป็นแม่ลูบกลุ่มผมนิ่มเบาๆก่อนจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าลูกชายคนเล็กของเธอกับลูกชายเพื่อนสนิทคนเดียวของเธอรู้สึกอย่างไรต่อกัน.. ทั้งๆที่เธอกับคุณนายปาร์คเพื่อนสนิทของเธอคนรู้มาตั้งนานแล้วว่า..
เด็กน้อยทั้งสองรู้สึกอย่างไรต่อกัน..
และตอนนี้มันคงมากกว่าคำว่าเพื่อนแน่นอน..
“รักแล้วทำไมไม่บอกตายอลไปตรงๆล่ะลูก.. บางทีม๊าว่าตายอลอาจจะคิดเหมือนหนูก็ได้นะ..”
จากที่โศกเศร้าอยู่ในตอนแรก ตอนนี้พูดได้เลยว่าเจ๊พยูนแทบกลั้นยิ้มไม่อยู่ เป็นเพราะในสมองของเธอกำลังนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณนายปาร์คเพื่อนสนิทของเธอตอนก่อนนั่งเครื่องกลับมา..
และแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูล..
ที่พวกเธอทั้งสองใฝ่ฝันเอาไว้ตั้งแต่เด็กน้อยทั้งสองยังแบเบาะ..
คู่จิ้นคู่ใหม่ของคุณแม่สายวาย..
ปาร์คชานยอลและพยอนแบคฮยอน ^[++++]^
“ม๊า!! ทำไมต้องยิ้มแบบนั้นด้วยฮะ นี่หมวยไม่ตลกนะ ไม่ตลกเลยสักนิด ฮึก..”
หมาน้อยหมวยเล็กของตระกูลที่ร้องไห้อยู่ในตอนแรก เงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นมารดา ก่อนจะเบะปากร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กน้อยถูกขัดใจ เมื่อเห็นผู้เป็นมารดาหัวเราะคิกคักกับคำพูดของตน..
นี่ผมหลงรักไอ้โย่งนั่นจริงๆ..
ที่สำคัญผมก็ยอมมันไปแล้ว..
ม๊าไม่เข้าใจหรอกฮะ ว่าการเสียตัวครั้งแรกให้ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเพื่อนสนิทมันเป็นยังไง L
“เอ้า.. โอ๋ๆไม่ทำหน้าอย่างนั้นสิลูก ทำหน้าแบบนี้เหมือนลูกหมาหิวซีเรียลบดเลย เอาไหมเดี๋ยวม๊าลงไปทำให้”
“ว่าแต่..”
“ทำเสร็จแล้วจะใส่ถ้วยคน หรือจะใส่ถ้วยของเจ้ามูมู่ให้หนูดีนะ..”
“ม๊า!! หมวยไม่ใช่หมานะฮะ นี่หมวยลูกคนนะ หรือม๊าไปเก็บหมวยมาจากท้องน้องหมาหรอฮะ ฮึก..”
คุณนายพยอนกลั้นขำ นี่แหล่ะนิสัยของพยอนแบคฮยอน พอเสียใจเข้าหน่อยก็ตีโพยตีพายขี้น้อยใจไปเรื่อย ทั้งๆที่ปกติไม่ใช่คนแบบนี้หรอก นิสัยแบบนี้จะแสดงเฉพาะตอนอยู่กับแม่เท่านั้น..
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทำให้เจ๊พยูนหลงลูกชายคนเล็กจนโงหัวไม่ขึ้น..
เพราะการกระทำทั้งหมดของลูกชายคนเล็ก มันน่ารักมาก!!
แบบนี้จะไม่ให้ตาอุ๋งยอลยอลจับทำเมียได้อย่างไร..
“ยัง..ยังไม่เงียบอีก..”
“ถ้ายังไม่เงียบม๊าจะจับใส่ถุงมัดปากถุงแน่นๆแล้วใส่รถเข็นไปให้ตายอลเลยดีไหม..”
เจ๊พยูนกลั้นขำ เมื่อมองหน้าลูกหมาตาตกที่กำลังทำปากคว่ำด้วยความไม่พอใจ สองมือน้อยๆของลูกรักผละออกจากอ้อมกอดเธอ กลายมาเป็นกอดอกทำหน้าบึ้งงอง้ำเป็นลูกหมาขี้น้อยใจแทนเสียอย่างนั้น..
หื้ม.. น่าฟัดจริงๆเลยลูกใครวะ??
“ม๊า!! ม๊าไม่ต้องมาพูดแบบนี้เลยนะฮะ หมวยไม่มีทางกลับไปหาหมอนั่นหรอก..”
“คนใจร้ายแบบนั้นน่ะ.. หมวย.. ฮึก.. ไม่กลับไปหรอก.. ไม่คิดถึงด้วย.. ฮึก..”
คนตัวเล็กพูดออกมาอย่างที่ใจคิด ก็ใครใช้ให้หมอนั่นมันมาดูถูกเขาก่อน นี่ไม่รู้หรือไงว่าพยอนแบคฮยอนน่ะยอมตกเป็นของมันคนแรก เป็นเมียมันคนเดียว ไม่เคยคิดจะอ่อยใครนอกจากมัน ทั้งๆที่หมอนั่นก็รู้ แต่ทำเป็นไม่รู้..
คนแบบนี้น่ะ..
จะไม่รักอีกต่อไปแล้ว..
จะไม่คิดถึงด้วย ฮึก.. T_____T
“ม๊ายังไม่ได้ถามสักคำเลยว่าคิดถึงตายอลไหม.. พูดแบบนี้แสดงว่าคิดถึงสินะ..”
“งั้นดีเลย..”
“ม๊าจะได้โทรไปเร่งคุณนายปาร์คให้มาสู่ขอลูกหมาของม๊าเป็นไปสะใภ้บ้านข้างๆเร็วกว่ากำหนด..”
“ม๊ากับคุณนายปาร์คจะได้มีเบบี้ลูกหมาตัวใหม่มาให้เล่นเร็วๆ..”
!!!!
Hello Hello Talk 55
ตอนนี้ที่จริงไรท์กะจะสื่อให้เห็นความรักของครอบครัวและความรักของพ่อแม่.. แต่!!
แน่นอนว่าสำหรับสองตระกูลนี้มันไม่มีคำว่าธรรมดา.. สุดท้ายเลยคงคอนเซ็ปความฮาแฝงสาระนิดๆมากกว่า
ส่วนแม่.. ไม่มีมนุษย์คนไหนหรอกค่ะที่ยอมทำเพื่อเราได้ทุกอย่าง ถึงแม้ปากจะบ่นจะว่ายังไง แต่ก็ยอมทำอะไรเพื่อเราทุกอย่าง ท่านยอมเหนื่อยเพื่อเราทำทุกอย่างเพื่อเราโดยไม่เคยหวังผลตอบแทน
และไรท์ก็เชื่อว่า บนโลกนี้มีเพียงสองคนเท่านั้นที่รักเราจริงๆอย่างไม่มีข้อแม้ เขาคือ.. พ่อกับแม่..
สั่งจองฟิคตั้งแต่วันนี้ - 20 ก.ย. คลิกที่นี่!!
ความคิดเห็น