ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic exo] ♡ 30 Days ♡ { ChanBaek }

    ลำดับตอนที่ #31 : 27 Days ♡

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.28K
      28
      30 ส.ค. 57



    27  Days 




    #เพื่อนรักเตียงสั่น













     

     

     

                      ผมก้าวเข้ามาในห้องสี่เหลี่ยมที่มืดสนิทและทิ้งตัวลงบนเตียงด้วยความอ่อนล้า.. ทุกๆก้าวของผมเหมือนมันเป็นไปโดยอัตโนมัติมากกว่าการถูกสมองสั่งการ.. ผมไม่รู้ว่าควรเดินไปทางไหน.. ผมควรทำอะไรต่อ.. เนื่องจากสมองของผมมันไม่ยอมสั่งการ  โชคดีที่ขับรถมาถึงคอนโดและเดินมาถึงที่ห้องได้เพราะความเคยชิน..

     

                  “ยอลไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะ!!”

     

                  “จะมานอนแบบนี้ได้ไง ลุกเดี๋ยวนี้นะ!!”

     

                  “ถ้ายอลไม่ไปอาบน้ำป๋ายจะไม่ให้นอนกอดจริงๆด้วย!!”

     

                     ผมฟุบหน้าลงกับเตียงยังไม่ทันไร.. เสียงหวานที่คุ้นหูก็ดังขึ้นไม่หยุดหย่อน.. แรงฟาดเบาๆที่บ่าจากเจ้าตุ๊กตาลูกหมาตัวนุ่มที่ชื่อเจ้ามูมู่ถูกฟาดลงบนไหล่และหลังของผมไม่ยั้ง.. แต่ผมก็ไม่เคยรู้สึกเจ็บหรอกครับ..

     

                     เพราะแรงฟาดของพยอนแบคฮยอนที่ตัวเล็กยังกะลูกหมาจะฟาดผมได้แรงแค่ไหนกันเชียว อย่างมากก็แค่ทำให้ผมหัวเราะเพราะความจักจี๋ได้ก็เท่านั้นหรือบางทีที่ผมหัวเราะและไม่รู้สึกอะไรเลยในตอนนี้..

     

                     อาจเป็นเพราะแรงฟาดกับเสียงหวานๆที่ดังข้างหูผม..

     

                     มันเป็นความเคยชิน.. ทุกอย่างเป็นเพียงแค่ความเคยชิน ภาพทุกๆภาพ เสียงทุกๆเสียง ของคนตัวเล็กที่กำลังประดังเข้ามาในหัวของผมไม่หยุดหย่อนตั้งแต่ที่ผมก้าวเข้ามาในที่แห่งนี้..

     

                     ที่ๆผมกับพยอนแบคฮยอนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในทุกๆวันมาเกือบ 3 ปีเต็ม..

     

                     ที่ๆมีความสุข.. ที่ๆมีเสียงหัวเราะ.. ที่ๆมีคนตัวเล็กๆคอยก่อกวนผมในทุกๆเช้าและก่อนนอน..

     

                     แต่ตอนนี้.. เวลานี้.. ทุกอย่างกลับเป็นเพียงแค่อดีต..

     

                     พยอนแบคฮยอนไม่ได้อยู่ที่นี่.. กับผม.. อีกต่อไปแล้ว..

     

                     “ยอลขอนอนสักพักแปบนึงนะครับคนดี..

     

                     “วันนี้ยอลเหนื่อยมากเลยครับ.. ขอนอนกอดป๋ายแบบนี้สักพักก่อนได้ไหม..

     

                     “อยู่นิ่งๆนะครับอย่าขยับนะ ถ้าขยับแล้วอนาคอนด้ายอลตื่นขึ้นมา เดี๋ยวจะโดนกินทั้งคืนนะครับรู้ไหม..

     

                     ผมยิ้มให้กับคำพูดของตัวเอง ก่อนจะดึงเจ้าลูกหมาขนปุยหน้าเหมือนเจ้าของเข้ามาใกล้ๆ กลิ่นหอมอ่อนๆอันคุ้นเคยจากตัวเจ้ามูมู่ทำให้น้ำตาของผมไหลลงมาอาบแก้มอีกรอบอย่างไม่รู้ตัว..

     

                     “ไง.. หมาอ้วน.. คิดถึงแฝดแกไหม..

     

                     “วันนี้คนที่นอนกัดนิ้วแก คนที่ชอบนอนครางหงิงๆเหมือนแกเค้าไม่มาแล้วนะ..

     

                     “เค้าคง.. ไม่อยากกลับมา.. อยู่ที่นี่กับเราสองคนอีกแล้ว..

     

                     ผมวางเจ้ามูมู่ลงบนหน้าพร้อมกับหลับตาลงช้าๆแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาอย่างไม่คิดจะห้าม.. สิบกว่าปีที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดจะกอดหรือคุยกับหมอนี่เลยด้วยซ้ำเพราะคิดว่ามันแย่งความรักของพยอนแบคฮยอนไปจากผม..

     

                     แต่วันนี้ผมกลับอยากคุยกับมัน.. อยากกอดมัน.. อยากมีมันอยู่ใกล้ๆและหลับไปพร้อมกับมัน.. เพียงเพราะต้องการซึมซับกลิ่นหอมจากตัวเจ้าหมาน้อยขนปุกปุย อยากระบายความรู้สึก..

     

                      และใช้มันเป็นตัวแทนของใครบางคน ที่ผมรัก..

     

     

     

     

     

     

     

     

                      ก๊อกๆ!!

     

     

                      ก๊อกๆ!!

     

     

                      “เฮ้~ มายบราเธอร์เปิดประตูให้ไอหน่อย..”

     
     

                      ก๊อกๆ!!

     
     

                      “เร็วๆหน่อยได้ไหมมายบราเธอร์ ไอหนักนะ!!”

     

                      เสียงแหลมๆตามแบบฉบับลูกผู้ชายที่ยังไม่ถึงวัยแตกหนุ่มดังขึ้นพร้อมกับเสียงเคาะประตูห้องรัวๆ เรียกให้ผมที่นอนจมอยู่กับเตียงตั้งแต่เมื่อคืนโดยที่ไม่ได้อาบน้ำและสภาพไม่ต่างจากศพถึงกับนิ่ง..

     

                      ผมกระพริบตาสองสามครั้งเพื่อไล่ความมึน ก่อนจะถอนหายใจอย่างยาวเหยียด..

     

                      ผมไม่อยากลุกไปเปิดประตูให้หมอนี่เลยถึงแม้ว่าตอนนี้หมาน้อยจะไม่อยู่ให้ผมหวงก็เถอะ.. แต่ถึงยังไงตอนนี้ผมก็ไม่พร้อมที่จะมาเล่นหรือโชว์ความเก่งกาจอันเหนือกว่าเพื่อเกทับหมอนี่อยู่ดี..

     

                      เพราะตอนนี้ผมกำลังเสียใจอยู่..

     

     

                      ก๊อกๆ!!

     

     

                      “มายบรา.. / นายจะเคาะอะไรนักหนา กลับไปเล่นที่ร้านไป วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์โชว์ความเก๋าว่ะ..”

     

                       ผมเปิดประตูออกไป ก่อนจะปรายตามองเด็กลูกครึ่งหน้าตาละม้ายคล้ายกันที่ยืนแบกกระเป๋าเป้ใบโตแหกปากเรียกผมอยู่หน้าห้องด้วยความรำคาญ ให้ตายเถอะหมอนี่มันแต่งตัวบ้าบออะไรของมันวะ..

     

                       ว่าแต่.. มันก็ดูคุ้นๆเหมือนเคยเห็นใครแต่งที่ไหน..

     

                       เสื้อเชิ้ตสีดำยี่ห้อดังไม่พับแขน..

     

                       กางเกงผ้าเลื่อมสีดำรัดรูป พร้อมเสื้อเข้าในกางเกงรัดเข็มขัดโชว์ความแมน..

     

                       หมวกสีน้ำเงินทรงเต่าลายสก๊อต.. เรแบนสีดำกริบแถมมีใสหูฟังอันใหญ่ๆคล้องคอ.. แบบนี้มัน..

     

                       “ไอเห็นยูวใส่แบบนี้เมื่อหลายวันก่อนไอเลยสั่งมามิ๊ตัดชุดแบบยูวให้..

     

                       “เป็นไง.. มองตาค้างเลย.. ไอหล่อใช่ไหมล๊า..

     

     

                        โป้ก!!

     

     

                       “อย่าเยอะ ไอ้เด็กแก่แดด..”

     

                       ปาร์คชานยอลอยากจะปล่อยมะเหงกลงบนหัวหลานแท้ๆของตัวเองหลายทีถ้าไม่ติดที่ว่าเขาไม่มีเรี่ยวแรงพอ เพราะกำลังเศร้าเรื่องหมาน้อยที่หายไปอยู่..

     

                       ไม่รู้หมอนี่มันไปได้เชื้อแก่แดดจริตจะกร้านมาจากไหน เขาว่าเขาก็ไม่เคยเสี้ยมสอนเรื่องแบบนี้ให้เสียหน่อย เลี้ยงมาเองกับมือตั้งแต่แบเบาะก็แค่มีแอบเปิดหนังอย่างว่าให้ดูตั้งแต่หมอนี่อายุได้เดือนกว่าๆก็เท่านั้น..

     

                       ไม่เห็นจะเป็นการเสี้ยมสอนตรงไหน..

     

                       “จะเข้าไม่เข้า.. ไม่เข้าจะไปนอนต่อ..”

     

                       ผมพูดทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้นก่อนจะหันหลังกลับเข้ามาในห้องเพื่อคิดทบทวนอะไรต่อมิอะไรต่อ.. แต่ไม่วายโดนเจ้าลูกลิงนี่ตามมาประกบแถมยังยื่นถุงบางอย่างในมือมาให้ผมพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง..

     

                       “ต้มให้หน่อยนะมายบราเธอร์ไอหิวจนจะเป็นลมอยู่แล้ว..

     

                       ไม่ต้องก้มมองผมก็รู้ว่าเจ้าถุงนี่มีอะไรซ่อนอยู่  ผมถอนหายใจยาวเหยียด.. เป็นธรรมดาที่เวลาหมอนี่มาที่ห้องผมทีไรก็จะซื้อไอ้เจ้าราเม็งยี่ห้อโปรดนี่มาทุกครั้ง.. แต่ครั้งนี้กลับมีอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม..

     

                       เพราะทุกครั้งที่กินราเม็ง..

     

                       เราสามคนจะแย่งกันกินและหมาน้อยจะเป็นคนทำตลอด..

     

                       แต่ตอนนี้หมาน้อยจอมขี้บ่นไม่อยู่..

     

                       “เอาคืนไป.. อยากกินไปต้มเอง.. ฉันจะนอน..

     

                       ผมพูดแค่นั้นก่อนจะทิ้งถุงที่เต็มไปด้วยราเม็งหลายห่อลงกับพื้น.. ผมไม่อยากเห็นเจ้านี่.. ไม่อยากเห็นมัน.. เพราะเวลาเห็นมันทีไรผมมักจะนึกถึงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเวลาที่พวกเราสามคนเข้าครัวด้วยกัน..

     

                       ถึงแม้ว่าผมกับเจ้าหลานชายตัวแสบจะเป็นลูกมือที่ไม่ได้เรื่องเท่าไหร่ แต่ทุกครั้งเราก็มักจะแย่งกันช่วยพยอนแบคฮยอนทำเสมอ และแน่นอนว่ามันทำให้คนตัวเล็กทั้งไม่พอใจและหงุดหงิดที่โดนพวกผมก่อกวนเวลาที่เขาตั้งใจทำ

     

                       คนตัวเล็กที่ชอบยืนเท้าเอวคิ้วขมวดราวกับหมาน้อยกำลังขู่เวลาที่พวกผมทำเครื่องปรุงต่างๆนาๆหกเลอะเทอะ.. รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดีใจและตื่นเต้นเวลาที่ต้มราเม็งเสร็จและพร้อมที่จะแย่งกันกิน..

     

                       ทุกอย่างมันประทังเข้ามาในหัวผมไม่หยุด..

     

                       ภาพคนตัวเล็กทำหน้ามุ่ย ภาพคนตัวเล็กคลี่ยิ้มอย่างน่ารัก..

     

                       มันทำให้สมองและร่างกายของผมแทบจะหยุดทำงานอีกรอบ..

     

                       “คิดถึงก็ไปหาเค้าสิ.. ไปง้อเค้า..

     

                       “มามัวแต่ฟอร์มจัดขี้เก๊กแบบนี้ระวังจะไม่ได้กินราเม็งฝีมือพยอนตัวเล็กไปตลอดชีวิตนะ..

     

                       !!!!

     

                       ผมหยุดเดินทันที.. ก่อนจะหันกลับไปมองเจ้าหลานชายตัวแสบที่กำลังนั่งไขว่ห้างบนโซฟาและสั่งสอนผมปาวๆราวกับเด็กนี่เป็นน้าผม.. ทั้งๆที่ผมต่างหากที่เป็นน้ามัน..

     

                      “ไม่ต้องมาห่วงฉัน.. ห่วงตัวนายเถอะ..

     

                      “ไปทำอะไรหมูกึ๋นเอาไว้วันนั้น อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ..”

     

                      “ถุงยางในรถของฉันมีเหลือกี่อันฉันจำได้ดีเพราะตั้งแต่มีพยอนแบคฮยอนฉันก็ไม่เคยใช้มันอีก..”

     

                      “แต่วันที่ไปคฤหาสน์ตระกูลพยอนมันหายไปทั้งกล่อง.. และแน่นอนว่ามีนายคนเดียวที่รู้ที่ซ่อนของมัน..”

     

                       !!!!

     

                      เด็กชายวัยหกขวบถึงกับหน้าถอดสี.. มายบราเธอร์ของเขารู้ความลับอันยิ่งใหญ่เข้าให้แล้ว นี่เขาอุดส่าปิดบังเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพยอนมูกึนมาได้ตั้งสองปีกว่า.. แบบนี้หากทางผู้หลักผู้ใหญ่รู้เข้า..

     

                      เขาจะไม่โดนจับแต่งงานตั้งแต่อายุ 6 ขวบเลยหรือ ??

     

                      “มะ.. มายบราเธอร์ ไอ.. ไอ..

     

                      “ไม่ต้องพูดมากขอแค่นายไม่กวนฉันก็พอ.. นายก็รู้ว่าตอนนี้ชีวิตฉันเป็นยังไง..

     

                      ผมพูดกับเจ้าหลานชายตัวแสบด้วยความจริงจัง.. แน่นอนว่าตอนนี้ผมเศร้าจริงๆผมไม่เคยเป็นแบบนี้.. และหวังว่าหลานชายตัวดีของผมจะเข้าใจ แต่ทำไมมันมองหน้าผมยิ้มกรุ้มกริ่มล้อเลียนแบบนั้นวะ..

     

                      นี่ผมปาร์คชานยอลน้าชายแท้ๆของมันกำลังเศร้าเพราะโดนเมียทิ้งอยู่นะเว้ย..

     

                      “มองหน้าฉันแบบนี้มีปัญหาอะไรวะ.. มีปัญหาอะไรก็ว่ามาเลยไอ้เด็กแสบ..”

     

                      ผมก้าวเข้าไปหาหลานชายตัวดีที่กำลังมองหน้าผมยกมือปิดปากหัวเราะคิกคักอยู่อย่างเหลืออด.. และกำลังจะกระชากคอเสื้อหมอนี่เขวี้ยงลงจากโซฟา ถ้าไม่ติดที่ว่า..

     

                      “อ่ะ.. แกรนด์มาเธอร์ให้เอานี่มาให้..

     

                      “บอกว่าให้มายเธอร์เอาอันนี้ไปง้อพยอนตัวเล็ก..

     

                      ผมยืนอ้าปากค้าง.. ในขณะที่หมอนี่หัวเราะคิกคักชอบใจยกใหญ่ตอนที่ยื่นสมุดบันทึกเล่มยักษ์สีชมพูมาให้.. นี่มันคือสมุดไดอารี่ของผม ไดอารี่ที่ผมเขียนถึงคนที่ชอบตั้งแต่อนุบาล 3 และเพราะคนที่ผมชอบเขาชอบสีชมพูผมเลยต้องสั่งให้แม่ทำสมุดสีชมพูเล่มใหญ่ให้หนึ่งเล่ม เพื่อเอาไว้เขียนความรู้สึกถึงใครคนนั้น..

     

                      และผมตั้งใจเอาไว้ว่าจะมอบให้เขาตอนวันที่เราสองคนเรียนจบ..

     

                      และแน่นอนว่าผมเก็บเจ้านี่เอาไว้ในกล่องใต้เตียงแล้วล็อคกุญแจเอาไว้อย่างดีไม่ให้ใครเห็นเพราะมันคือความลับขั้นสุดของผม แล้วแบบนี้แม่ผมไปเอามันมาได้อย่างไร..

     

                      อีกอย่างถ้าแม่ผมเห็น.. แม่ผมรู้.. ถ้าคุณนายปาร์ครู้.. ถ้าคุณนายปาร์คเห็น..

     

                      มีหวังทุกคนในตระกูลผมได้..

     

     

                      “มายบราเธอร์นี่ร้ายไม่เบานะ..”

     

                      “แอบชอบเพื่อนตัวเองมาตั้งแต่อนุบาล 3 แถมยังแอบขโมยจุ๊บเขาทุกวันด้วย..

     

                      “แกรนด์มาเธอร์บอกว่าถ้าชอบเขาขนาดนั้นล่ะก็..

     

                      “อีก 3 วัน แกรนด์มาเธอร์จะยกขันหมากไปสู่ขอพยอนตัวเล็ก ให้ยูวเตรียมตัวไว้ได้เลย..”

     

                      !!!!

     
     

                   50%



     





     

     

     

                     “หมวย.. กินข้าวหน่อยดีไหมลูก..”

     

                     “นี่ดูซิ วันนี้ม๊าทำข้าวต้มกุ้งของโปรดมาให้หนูด้วยนะ..”

     

                     “กุ้งตัวใหญ่ๆทั้งนั้นเลย ลุกกินข้าวดีกว่าเนอะเดี๋ยวม๊าป้อนนะครับ..

     

                     เจ๊พยูนเปิดประตูเข้ามาในห้องลูกชายคนเล็กด้วยรอยยิ้ม หากแต่หัวใจของคนเป็นแม่กลับรู้สึกตรงกันข้าม หัวใจของเธอรู้สึกเจ็บปวดไปหมดยามที่เห็นลูกน้อยที่เธอเฝ้าทะนุถนอมมาตั้งแต่อยู่ในท้องและดูแลอย่างดีมาเป็นยี่สิบกว่าปี นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มร้องไห้ตัวสั่นเครืออย่างน่าสงสาร..

     

                     คนเป็นแม่รีบจองไฟท์ด่วนพิเศษกลับเกาหลีทันที เมื่อลูกชายคนโตโทรไปบอกว่าเกิดเรื่องขึ้นกับน้องเมื่อคืน ทั้งๆที่เธออยู่อีกซีกหนึ่งของโลก.. คุณนายพยอนและสามีบินไปคุยโปรเจคยักษใหญ่ของเครือตระกูลพยอนที่อเมริกา

     

                     โปรเจคนี้เป็นโปรเจคสำคัญของบริษัทเพราะต้องมีการคุยและเซ็นต์เอกสารตกลงร่วมหุ้นกับทางบริษัทในเครือของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอันดับต้นๆของโลกอย่างมิสเตอร์วิลเลี่ยม..

     

                     แต่แน่นอน.. ต่อให้อะไรจะยิ่งใหญ่แค่ไหนมันก็คงไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับคำว่าแม่ หัวใจของคนเป็นแม่จะไม่เจ็บได้อย่างไร คนเป็นแม่จะกินอิ่มนอนหลับและสามารถนึกถึงเรื่องอื่นได้อย่างไร.. หากแก้วตาดวงใจของตนเป็นเช่นนี้..

     

                     ลูกเจ็บแค่ไหน.. แน่นอนว่ามันเทียบกับความเจ็บของคนเป็นแม่ไม่ได้แม้เพียงครึ่ง..

     

     

                     “ม๊า..

     

                     ลูกชายคนเล็กเรียกเธอเบาๆ.. ก่อนจะค่อยๆพลิกตัวกลับมาหาผู้เป็นแม่ แววตาที่เคยเต็มไปด้วยความสดใสในตอนนี้กลับมีแต่ความเศร้าหมองและความว่างเปล่าจนทำให้คนเป็นแม่หัวใจกระตุกวูบราวกับกำลังดำดิ่งลงสู่เหวลึก..

     

                     ดวงใจของเธอไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน..

     

                     แก้วตาใสคู่นั้นเต็มไปด้วยความเศร้าหมองและหยาดน้ำตา..

     

                     แล้วอย่างนี้เธอจะทนมองหน้าดวงใจของเธอที่เต็มไปด้วยความบอบช้ำ..

     

                     พยอนจีพยูนจะทนดูลูกร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด โดยที่เธอไม่ร้องตามได้อย่างไร..

     

     

                     “ว..วันนี้ม๊ามีประชุมสำคัญกับมิสเตอร์วิลเลี่ยม มะ..ไม่ใช่หรอฮะ.. แล้ว.. ฮึก..

     

                     “ชู่ว.. ไม่เอาไม่ร้องนะครับคนเก่งของม๊า..”

     

                     “เรื่องนั้นช่างมันเถอะลูก ป๊าก็คอยรับหน้าแทนม๊าอยู่ที่นู่นแล้วนี่นา อีกอย่าง..”

     

                     “ต่อให้อะไรจะสำคัญแค่ไหน มันก็ไม่สำคัญเท่าหมวยเล็กของม๊าหรอก เพราะหนูคือดวงใจของม๊า..

     

                     พยอนจีพยูนโอบกอดลูกชายคนเล็กของเธอเอาไว้อย่างหวงแหน คนเป็นแม่นั่งพิงหลังกับพนักเตียงเพื่อให้ลูกได้นอนซบกับอุกอุ่นๆ เธอพยายามคลี่ยิ้มและลูบกลุ่มผมนิ่มเพื่อปลอบโยนลูกชาย..

     

                     ทั้งๆที่ในใจก็เจ็บไม่ต่างกัน.. ทว่า..

     

     

                     “หมวยเป็นคนไม่ดีมากเลยใช่ไหมฮะ.. หมวยนิสัยไม่ดีมากๆเลยใช่ไหมฮะม๊า..

     

                     “หมวยแอบรักเพื่อนตัวเอง.. หมวยแอบรักไอ้โย่ง.. แอบรัก.. มานานแล้ว.. ฮึก..

     

                     คุณนายพยอนจีพยูนถึงกับอมยิ้ม.. ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้ฟังคำนี้จากเจ้าลูกหมาหมวยน้อย คนเป็นแม่ลูบกลุ่มผมนิ่มเบาๆก่อนจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าลูกชายคนเล็กของเธอกับลูกชายเพื่อนสนิทคนเดียวของเธอรู้สึกอย่างไรต่อกัน.. ทั้งๆที่เธอกับคุณนายปาร์คเพื่อนสนิทของเธอคนรู้มาตั้งนานแล้วว่า..

     

                     เด็กน้อยทั้งสองรู้สึกอย่างไรต่อกัน..

     

                     และตอนนี้มันคงมากกว่าคำว่าเพื่อนแน่นอน..

     

     

                     “รักแล้วทำไมไม่บอกตายอลไปตรงๆล่ะลูก.. บางทีม๊าว่าตายอลอาจจะคิดเหมือนหนูก็ได้นะ..

     

                     จากที่โศกเศร้าอยู่ในตอนแรก ตอนนี้พูดได้เลยว่าเจ๊พยูนแทบกลั้นยิ้มไม่อยู่ เป็นเพราะในสมองของเธอกำลังนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณนายปาร์คเพื่อนสนิทของเธอตอนก่อนนั่งเครื่องกลับมา..

     

                     และแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูล..

     

                     ที่พวกเธอทั้งสองใฝ่ฝันเอาไว้ตั้งแต่เด็กน้อยทั้งสองยังแบเบาะ..

     

                     คู่จิ้นคู่ใหม่ของคุณแม่สายวาย..

     

                     ปาร์คชานยอลและพยอนแบคฮยอน  ^[++++]^

     

     

                     “ม๊า!! ทำไมต้องยิ้มแบบนั้นด้วยฮะ นี่หมวยไม่ตลกนะ ไม่ตลกเลยสักนิด ฮึก..

     

                     หมาน้อยหมวยเล็กของตระกูลที่ร้องไห้อยู่ในตอนแรก เงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นมารดา ก่อนจะเบะปากร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กน้อยถูกขัดใจ เมื่อเห็นผู้เป็นมารดาหัวเราะคิกคักกับคำพูดของตน..

     

                      นี่ผมหลงรักไอ้โย่งนั่นจริงๆ..

     

                      ที่สำคัญผมก็ยอมมันไปแล้ว..

     

                      ม๊าไม่เข้าใจหรอกฮะ ว่าการเสียตัวครั้งแรกให้ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเพื่อนสนิทมันเป็นยังไง  L

     

     

                      “เอ้า.. โอ๋ๆไม่ทำหน้าอย่างนั้นสิลูก ทำหน้าแบบนี้เหมือนลูกหมาหิวซีเรียลบดเลย เอาไหมเดี๋ยวม๊าลงไปทำให้

     

                      “ว่าแต่..

     

                      “ทำเสร็จแล้วจะใส่ถ้วยคน หรือจะใส่ถ้วยของเจ้ามูมู่ให้หนูดีนะ..

     

                      “ม๊า!! หมวยไม่ใช่หมานะฮะ นี่หมวยลูกคนนะ หรือม๊าไปเก็บหมวยมาจากท้องน้องหมาหรอฮะ ฮึก..

     

                      คุณนายพยอนกลั้นขำ นี่แหล่ะนิสัยของพยอนแบคฮยอน พอเสียใจเข้าหน่อยก็ตีโพยตีพายขี้น้อยใจไปเรื่อย ทั้งๆที่ปกติไม่ใช่คนแบบนี้หรอก นิสัยแบบนี้จะแสดงเฉพาะตอนอยู่กับแม่เท่านั้น..

     

                      ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทำให้เจ๊พยูนหลงลูกชายคนเล็กจนโงหัวไม่ขึ้น..

     

                      เพราะการกระทำทั้งหมดของลูกชายคนเล็ก มันน่ารักมาก!!

     

                      แบบนี้จะไม่ให้ตาอุ๋งยอลยอลจับทำเมียได้อย่างไร..

     

     

                      “ยัง..ยังไม่เงียบอีก..

     

                      “ถ้ายังไม่เงียบม๊าจะจับใส่ถุงมัดปากถุงแน่นๆแล้วใส่รถเข็นไปให้ตายอลเลยดีไหม..

     

                      เจ๊พยูนกลั้นขำ เมื่อมองหน้าลูกหมาตาตกที่กำลังทำปากคว่ำด้วยความไม่พอใจ สองมือน้อยๆของลูกรักผละออกจากอ้อมกอดเธอ กลายมาเป็นกอดอกทำหน้าบึ้งงอง้ำเป็นลูกหมาขี้น้อยใจแทนเสียอย่างนั้น..

     

                      หื้ม.. น่าฟัดจริงๆเลยลูกใครวะ??

     

     

                      “ม๊า!! ม๊าไม่ต้องมาพูดแบบนี้เลยนะฮะ หมวยไม่มีทางกลับไปหาหมอนั่นหรอก..

     

                      “คนใจร้ายแบบนั้นน่ะ.. หมวย.. ฮึก.. ไม่กลับไปหรอก.. ไม่คิดถึงด้วย.. ฮึก..

     

                      คนตัวเล็กพูดออกมาอย่างที่ใจคิด ก็ใครใช้ให้หมอนั่นมันมาดูถูกเขาก่อน นี่ไม่รู้หรือไงว่าพยอนแบคฮยอนน่ะยอมตกเป็นของมันคนแรก เป็นเมียมันคนเดียว ไม่เคยคิดจะอ่อยใครนอกจากมัน ทั้งๆที่หมอนั่นก็รู้ แต่ทำเป็นไม่รู้..

     

                      คนแบบนี้น่ะ..

     

                      จะไม่รักอีกต่อไปแล้ว..

     

                      จะไม่คิดถึงด้วย  ฮึก..  T_____T

     

     

                      “ม๊ายังไม่ได้ถามสักคำเลยว่าคิดถึงตายอลไหม.. พูดแบบนี้แสดงว่าคิดถึงสินะ..

     

                      “งั้นดีเลย..

     

                      “ม๊าจะได้โทรไปเร่งคุณนายปาร์คให้มาสู่ขอลูกหมาของม๊าเป็นไปสะใภ้บ้านข้างๆเร็วกว่ากำหนด..”

     

                      “ม๊ากับคุณนายปาร์คจะได้มีเบบี้ลูกหมาตัวใหม่มาให้เล่นเร็วๆ..

     

                      !!!!

     


     

     
     

     

    Hello Hello Talk 55

    ตอนนี้ที่จริงไรท์กะจะสื่อให้เห็นความรักของครอบครัวและความรักของพ่อแม่.. แต่!!

    แน่นอนว่าสำหรับสองตระกูลนี้มันไม่มีคำว่าธรรมดา.. สุดท้ายเลยคงคอนเซ็ปความฮาแฝงสาระนิดๆมากกว่า

    ส่วนแม่.. ไม่มีมนุษย์คนไหนหรอกค่ะที่ยอมทำเพื่อเราได้ทุกอย่าง ถึงแม้ปากจะบ่นจะว่ายังไง แต่ก็ยอมทำอะไรเพื่อเราทุกอย่าง ท่านยอมเหนื่อยเพื่อเราทำทุกอย่างเพื่อเราโดยไม่เคยหวังผลตอบแทน

    และไรท์ก็เชื่อว่า บนโลกนี้มีเพียงสองคนเท่านั้นที่รักเราจริงๆอย่างไม่มีข้อแม้ เขาคือ.. พ่อกับแม่..


     สั่งจองฟิคตั้งแต่วันนี้ - 20 ก.ย. คลิกที่นี่!!
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×