คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : 07 Days ♡
07 Days ♡
#เพื่อนรักเตียงสั่น
บรรยากาศมืดสลัวในยามใกล้รุ่งสางรวมทั้งอุณหภูมิในตอนเช้าประมานสิบองศาเช่นนี้ ช่างเหมาะกับการนอนพักผ่อนมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาหนุ่มยิ่งนักและยิ่งเป็นเช้าแห่งวันหยุดสุดสัปดาห์เช่นนี้ละก็ไม่ต้องพูดถึง..
พยอนแบคฮยอนและปาร์คชานยอลขอนอนกอดกันต่อจนถึงเที่ยงเลยก็แล้วกัน.. z Z Z
ปังๆ!!
ปังๆ!!
“ไอ้ประธาน!”
“หมา!”
“หมา!”
“ไอ้ประธาน!”
“ไอ้ประธานหน้าหมา!”
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ! ตื่นๆนี่มันใกล้จะถึงเวลาแล้วนะเว้ย! ไอ้เห้ตื่นดิวะ!”
คิมมินซอกและจางอี้ชิงที่พยายามกดออดหน้าห้องกี่ครั้งก็แล้ว โทรหาจนมือแทบจะเป็นง่อยก็แล้ว แต่กลับไม่มีสัญญาณตอบรับจากเพื่อนรักทั้งสองที่อยู่ในห้องเสียที จึงตัดสินใจทุบประตูห้องรัวๆพลางประสานเสียงกันตะโกนเรียกไม่หยุดราวกับกำลังบรรเลงเพลงโอเปร่าเป็นทำนองเพราะแสนเสนาะหู
จนทำให้ห้องข้างๆถึงกับเปิดประตูออกมามองหน้าพวกเขากันเป็นแถบๆและแทบจะขว้างปาหม้อ ไห กะละมัง ออกมาฟาดหัวเพื่อเป็นรางวัลของการประสานเสียงอันไพเราะในช่วงเวลาตี 5 ของวันหยุด แต่ก็ช่างเถอะ เรื่องนี้แค่มันไม่ได้ทำให้คิมมินซอกและจางอี้ชิงหวาดหวั่นได้หรอก เพราะตอนนี้มันมีเรื่องให้คนตัวเล็กทั้งสองสนใจมากกว่านั้น..
นั่นคือการปลุกเพื่อนรักทั้งสองที่อาจจะมัวแต่ซัมบาราเห้รอบเช้าตรู่กันอยู่อย่างเมามันจนลืมไปว่าวันนี้พวกเขานัดรุ่นน้องที่หน้ามหาลัยไว้ตอนตีห้าครึ่งเพื่อไปเข้าค่าย
“เอาไงดีวะจอก? กูว่าไอ้สองคนนี้แมร่งต้องมัวแต่ซัมบาราเห้กันอยู่แน่ๆถึงไม่ยอมส่งเสียงกลับมาแบบนี้”
อี้ชิงยกมือขึ้นกุมขมับด้วยความร้อนรนเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร ที่จริงกุญแจห้องสำรองของพวกมันเขาก็มีนะแถมยังตอนนี้ยังกำอยู่ในมือด้วย แต่ก็ไม่อาจเป็นตัวช่วยที่ดีได้เลย ในเมื่อปาร์คชานยอลและพยอนแบคฮยอนมันล็อคประตูจากด้านในอีกชั้น ซึ่งปกติมันไม่เคยล็อค นั่นทำให้อี้ชิงสามารถตั้งสมมติฐานได้ว่า..
เพื่อนรักทั้งสองอาจจะกำลังซัมบาราเห้กันอยู่ก็เป็นได้..
“มึงแน่ใจหรอวะอี้ว่ามันกำลังซัมบาราเห้กันอยู่ กูจะได้ปีนระเบียงไปดู”
“!!”
เอ่ยออกมาในขณะที่ดวงตากลมสีน้ำตาอ่อนกำลังลุกวาวเปล่งประกาย พลางยกมือขึ้นกุมหน้าตัวเองเอาไว้แล้วบิดไปมา นั่นทำให้จางอี้ชิงอยากจะเอาหัวชนประตูห้องให้ดับอนาถไปตอนนี้เสียให้รู้แล้วรู้รอด
ขอบคุณ.. มึงช่วยกูได้เยอะเลยอิจอก!
“ถีบประตู! กูนึกออกแล้วต้องถีบประตูเว้ย!”
“กูเห็นละครหลังข่าวเวลาที่พระเอกจะเข้าไปช่วยนางเอกจากการถูกข่มขืน เค้ามักจะใช้วิธีนี้กัน เออกูว่าวิธีนี้แหละเวิร์คสุดละ จอกมึงมาช่วยกูทีดิ เร็วๆเข้า! ไม่งั้นมึงอดดูไอ้ประธานกับไอ้หมาซัมบาราเห้กันแน่!”
อี้ชิงเดินวนไปเวียนมาหลายรอบกว่าจะคิดแผนพังประตูได้ นี่โชคดีนะที่จางอี้ชิงเป็นคนฉลาดแถมยังชอบดูละครหลังข่าวเยี่ยงชีวิต ไม่อย่างนั้นละก็.. คงจะคิดแผนดีๆเช่นนี้ไม่ได้หรอก
แล้วอีกอย่างแค่คิดแผนการพังประตูห้องอย่างเดียวไม่พอ อี้ชิงต้องคิดวิธีปลุกขุมพลังของเพื่อนจอกในการถีบประตู โดยการใช้เรื่องซัมบาราเห้มาอ้าง และมันก็คงจะได้ผลอยู่ไม่น้อยเพราะในตอนนี้ไอ้จอกมันกำลังยืนรวบรวมกำลังภายในเพื่อที่จะถีบประตูช่วยเขา..
“ยอล~ ยอลได้ยินเสียงใครเอะอะโวยวายอยู่หน้าห้องไหม?”
เสียงหวานเอ่ยถามพลางเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าคมคายที่อยู่หางกันไม่ถึงคืบแล้วกระพริบตาปริบๆอย่างรอคอยคำตอบ ทำให้ปาร์คชานยอลที่พึ่งงัวเงียลืมตาตื่นขึ้นมาถึงกับตาสว่างในทันที
พยอนแบคฮยอนแมร่งโคตรน่าจับกดเลยว่ะ..
“ไม่เห็นจะได้ยินเลย.. ป๋ายหูฝาดแน่ๆเลยยอลว่า..”
แกล้งทำเสียงงัวเงียพลางกระชับร่างนุ่มนิ่มในอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีก คือที่จริงก็ได้ยินแหละว่ามีใครมาเคาะประตู และปาร์คชานยอลก็รู้ด้วยว่าเป็นคิมมินซอกกับจางอี้ชิงที่ตั้งใจจะมาขัดจังหวะซัมบาราเห้ของเขากับหมาน้อยสินะ หึ!
แต่ขอแสดงความเสียใจด้วยเพราะวันนี้เป็นวันหยุดของสัปดาห์แรกตั้งแต่เปิดเทอมเพราะฉะนั้นปาร์คชานยอลจะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินและนอนกอดร่างหอมนุ่มนิ่มนี่ต่อ เขาจะไม่ยอมให้ใครมากวนเวลาแห่งความสุขของวันหยุดสุดสัปดาห์ที่แสนจะสยิวกิ้วและมีความสุขของเขาหรอก..
แต่เอ๊ะ!
วะ..ว่าแต่ อะไรนะ??
วะ..วันนี้..วันหยุดอย่างนั้นหรอ??
“เชี่ยยยย! ลุกเร็วเบบี๋วันนี้เราต้องพาน้องๆไปเข้าค่ายที่เชจู!”
“!!”
คนทั้งสองที่นอนกอดกันกลมอยู่บนเตียงเมื่อครู่รีบกระเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงนอนนุ่มๆทันที จากนั้นจึงวิ่งวุ่นไปทั่วห้องเพื่อหาอุปกรณ์เข้าไปอาบน้ำแต่งตัว นี่โชคดีนะที่พวกเขาช่วยกันจัดกระเป๋าเตรียมไปค่ายเอาไว้เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืน ไม่อย่างนั้นคงไม่ทันการแน่ๆ
“อ๊ะ! อะไรยอลออกไปเลย ป๋ายจะอาบน้ำ..”
เอ่ยด้วยความจริงจังพลางเงยหน้าขึ้นสบตากับร่างสูงที่กำลังโอบกอดจากทางด้านหลัง ทำให้ลำแขนแกร่งค่อยๆคลายออกจากเอวคอดด้วยความอ้อยอิ่ง ในขณะที่หน่วยตาคมในตอนนี้กำลังหลุบต่ำมองพื้นด้วยความน้อยอกน้อยใจ
“นี่ งอนหรอ?”
ขาเรียวที่กำลังจะก้าวเข้าไปในห้องน้ำต้องหยุดชะงักเอาไว้ จากนั้นจึงค่อยๆหันกลับมามองร่างสูงที่ยืนคอตกไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตาอยู่ตรงหน้าประตู ก่อนจะส่งนิ้วไปจิ้มๆที่ลำแขนแกร่งแล้วเอ่ยถามด้วยความกังวล
“ยอลไม่งอนดิ หายงอนนะ~”
“ก็เราต้องรีบไปที่มหาลัยก่อนตีห้าครึ่งแล้วนี่มันก็เหลืออีกแค่ 15 นาทีเอง ป๋ายก็เลยต้อง..อื้อ~”
เสียงหวานขาดห้วงไปในทันทีเมื่อจู่ๆก็ถูกลำแขนแกร่งรั้งเอวคอดเข้าไปแนบชิดแถมยังบดเบียดริมฝีปากพร้อมกับสอดแทรกเรียวลิ้นร้อนเข้ามาดูดกลืนน้ำหวานจากปากของเขาไม่หยุด จนตอนนี้ร่างกายแทบทรุดหวบลงกับพื้น
ปาร์คชานยอลมันตัวอันตรายสำหรับร่างกายของลูกชายคนเล็กของเจ๊พยูนจริงๆ..
“ยอลไม่ได้งอนนะ แค่อยากหาความชุ่มชื้นให้ปากก็เท่านั้น..”
“มองหน้ายอลแบบนี้ไม่เชื่อยอลอ่ะดิ อยากลองดูอีกรอบไหมเดี๋ยวจะดูดให้ปากนุ่มๆนี่แดงมากกว่านี้อีก”
“!!”
ไม่ว่าเปล่าแต่กำลังโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ คนตัวเล็กจึงตัดสินใจหลับตาปี๋แล้วรีบวิ่งดุกๆเข้าไปในห้องน้ำปิดประตูลงกลอนทันทีเพื่อป้องกันคนเจ้าเล่ห์ ส่งผลให้ปาร์คชานยอลได้แต่ยืนหัวเราะเบาๆในลำคออยู่หน้าห้องน้ำเพียงคนเดียวราวกับคนบ้า
หมาน้อยตัวนี้..ทำให้อนาคอนด้ายักษ์ตื่นแต่เช้าเชียวนะ..
“ลูเก่อ นี่เราจะแต่งตัวแบบนี้กันจริงหรอๆ?”
“ถ้าพยอนเหมียวเห็น พยอนเหมียวจะหัวเราะเทาๆไหม?”
“แล้วทำไมเราต้องใส่คุณแว่นอันเท่าจานดาวเทียมนี่ด้วยล่ะ เทาๆมองไม่เห็นอะไรเลย..”
“แล้วคุณเสื้อผ้ากับคุณหมวกนี่ด้วยเทาๆว่ามันดูแปลกๆ มันดูเหมือนหมวกแม่มดยังไงไม่รู้..”
ฮวางจื่อเทาเอ่ยถามพลางก้มลงมองเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่อยู่สลับกับเงยขึ้นมองเหล่าลูกสมุนฝั่งซ้ายขวาด้วยความไม่มั่นใจ ทำให้ได้รับคำตอบที่แสนเอ็นดูกลับมา จนทำให้แพนด้าไม่อย่านมถึงกับลูบหัวป้อยๆด้วยความเจ็บ
“ฮวางจื่อเทา! หยุดพูดมากแล้วใส่หมวกซะ! เราต้องรีบตามพวกนั้นเดี๋ยวไม่ทัน..”
เสี่ยวลู่คนแมนแดนปักกิ่งสบถออกมาเสียงดังด้วยความรำคาญ ก่อนจะยกหมวกสีเขียวเข้มขึ้นสวมปิดใบหน้าแมนๆเอาไว้จนมิด เหลือเพียงแค่ลูกกะตาหวานๆสองข้างที่โผล่พ้นออกมา ไม่รู้ว่าฮวางจื่อเทามันจะกังวลอะไรมากมายเสียขนาดนั้น..
ก็แค่พวกเขาใส่ชุดสีเขียวทับทิมกันทั้งตัว สวมถุงมือสีเขียว ใส่แว่นกันแดดแมลงปอไซน์ใหญ่ที่สุดเพื่อบดบังดวงตา สวมรองเท้าบู้ทที่ละม้ายคล้ายคลึงกับเหล่าทหารที่กำลังจะออกรบนิดหน่อย และสุดท้ายก็แค่สวมหมวกสีเขียวคลุมทั้งหน้าเพื่ออำพลางตัวก็แค่นั้น..
ไม่เห็นจะแปลกและน่าอายตรงไหน..
“ขึ้นมาสิขอรับท่านจื่อ จะมัวแต่ยืนทื่อหาพระแสงง้าวอะไรหรือขอรับ..”
เฉินลี่ฟงลูกสมุนเบอร์ 2 ของแก็งค์แพนด้าเอ่ยเรียกหัวหน้าแก็งค์ที่กำลังยืนถดๆถอยๆเพื่อเร่งให้อีกคนก้าวขึ้นมาบนรถ ทว่าคนที่ถูกเรียกกลับเอาแต่กอดแพนด้าตัวโปรดเอาไว้แน่นพลางส่ายหัวไปมาอยู่อย่างนั้นเพื่อปฏิเสธ
“ไม่เอา ไม่ขึ้น เทาๆไม่ไป คุณรถคันนี้มันดูแปลกๆยังไงไม่รู้เฉินลี่ฟง”
เอ่ยปฏิเสธพลางส่ายหัวไปมาไม่หยุด ทำให้เสี่ยวลู่คนแมนที่ได้ยินหันไปจ้องหน้าเฉินลี่ฟงเพื่อให้ลงไปจัดการกับหัวหน้าแก็งค์ ก่อนจะจัดการเบิ้ลเครื่องรถเสียงดังแล้วกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเท่ห์ๆ
ฮวางจื่อเทามันมองยังไงว่ารถคันนี้แปลก ไม่เห็นจะแปลกเลยสักนิด แบบนี้ผู้ชายแมนๆอย่างเสี่ยวลู่หานเรียกมันว่าเท่ห์ต่างหาก รถบรรทุกหกล้อของทหารคันใหญ่ๆแบบนี้ มันไม่ใช่ง่ายๆเลยนะที่บุคคลธรรมดาทั่วไปจะได้ทดลองฝีมือและเป็นคนขับเช่นเขา
และกว่าจะได้รถคนนี้มาเขาต้องให้ป๊าโทรไปขอลุงที่อยู่ในกรมทหารตั้งหลายวันกว่าจะได้ ซึ่งคนธรรมดานี่ไม่มีสิทธิ์นะจะบอกให้ แค่คิดก็รู้สึกภูมิอกภูมิใจจะแย่ ไม่เห็นจะน่าอายและแปลกอย่างที่ฮวางจื่อเทาว่าเลยสักนิด..
ฮวางจื่อเทานี่แมร่งไม่อินดี้เลยว่ะ..
“มาถึงแล้วกรุณามาเช็คชื่อทางด้านนี้ด้วยครับ..”
“เร็วๆเข้าสิครับน้องอย่ามัวแต่เดินทอดน่อง นี่มันได้เวลาที่รถต้องออกแล้ว..”
เสียงทุ้มที่กำลังป่าวประกาศอยู่ในตอนนี้ ทำให้เหล่านักศึกษาน้องใหม่ของคณะวิศวกรรมกว่าร้อยชีวิตที่พึงมาถึง ถึงกับหอบสัมภาระวิ่งวุ่นไปหมด เพราะอีกห้านาทีก็จะหมดเวลาเช็คชื่อแล้ว และถ้าพวกเขาเช็คชื่อไม่ทันต้องโดนรุ่นพี่ลงโทษหนักแน่ๆ
“นี่ไอ้ประธานเมื่อคืนมึงเขมือบหมาน้อยหลายรอบรึไง? ถึงได้ดูไร้เรี่ยวแรงถึงขนาดนั้น..”
อู๋ฟานละริมฝีปากออกมาจากโทรโข่งในมือเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามเพื่อนรักตัวสูงที่ยืนกอดอกเช็คความเรียบร้อยอยู่ข้างๆพลางทำปากยื่นชี้ไปที่น้องหมาตัวน้อยที่กำลังนั่งซบไหล่อี้ชิงอยู่ไม่ไกล โดยที่ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ตัวเองพูดออกมานั้นกำลังทำให้ผู้คนที่อยู่วิ่งวุ่นอยู่เมื่อครู่ถึงกับหยุดชะงักเพราะได้ยินในสิ่งที่รองประธานพูดออกมาอย่างชัดเจน..
อู๋อี้ฟานลืมปิดสวิทซ์โทรโข่ง!
“เปล่า..เมื่อคืนกูไม่ได้ทำอะไร”
“พอดีหมาน้อยมันไม่ค่อยสบายตั้งแต่เมื่อวาน หลังจากที่โดนน้ำในห้องน้ำไปนั่นแหละ”
“!!”
จ๊ะ.. ไม่จำเป็นต้องอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ลึกซึ้งไปมากกว่านี้ เพราะแค่ได้ยินประธานมาดขรึมพูดออกมาแบบนี้ก็ทำให้ทุกคนที่ได้ยินหน้าแดงหูแดงไปหมดแล้ว สงสัยหมาน้อยท่าจะโดนน้ำไอ้ประธานไปหลายรอบจริงๆว่ะ..
“ไหวไหม? นั่งรถไหวรึเปล่า ถ้าไม่ไหวไม่ต้องไปก็ได้นะ เดี๋ยวกูจะไปส่งที่บ้าน..”
เอ่ยถามด้วยความกังวลพลางยื่นมือไปแตะหน้าผากมนเบาๆด้วยความเป็นห่วง ทำให้หมาน้อยที่นอนซบกับไหล่อี้ชิงอยู่ได้แต่ส่ายหัวไปมาเบาๆในขณะที่ดวงตากลมมนช้อนขึ้นมองร่างสูงอย่างออดอ้อน..
“ไม่เอา~ ถึงไม่ไหวยังไงก็ต้องไป ถ้ากูไม่ไปมึงต้องยิ้มหล่อโปรยเสน่ห์ให้รุ่นน้องแน่ๆ”
เอ่ยออกมาเบาๆพลางหลุบตาต่ำมองมือตัวเองด้วยความน้อยอกน้อยใจ ทำให้ริมฝีปากอิ่มถึงกับพรูลมหายใจหนักๆออกมา ก่อนจะเอื้อมไปคว้าร่างบอบบางเข้ามากอดเอาไว้หลวมๆอย่างไม่แคร์สายตาของคนนับร้อย
เพราะตอนนี้ลูกหมาตัวน้อยย่อมสำคัญที่สุด..
“ทำไมถึงพูดแบบนี้วะ..”
“คิดว่ากูจะมีอารมณ์ไปโปรยยิ้มให้คนอื่นหรือไง ในเมื่อหมาเตี้ยของกูกำลังไม่สบายแบบนี้..”
เอ่ยเสียงนุ่มพลางยกมือขึ้นกดศีรษะทุยๆให้ซบลงกับอกโดยไม่คิดจะแคร์สายตาหลายคู่ที่กำลังมองมา ก่อนจะค่อยๆกดจูบลงบนเรือนผมนิ่มซ้ำๆเพื่อวัดอุณหภูมิกายของลูกหมาตัวน้อยด้วยความเป็นห่วง
ราวกับโลกนี้มีเพียงเราสองก็มิปาน..
“งั้นถ้ากูไม่ป่วย มึงก็คงไม่.. / อย่าพูดแบบนี้สิเตี้ย กูเคยทำแบบนั้นหรือไง นี่กำลังน้อยใจกูอยู่หรอ? โอเคกูสัญญาว่าจะไม่เข้าใกล้คนอื่นเกินร้อยเมตรถ้าไม่จำเป็น แล้วก็จะไม่ยิ้มให้คนอื่นด้วยนอกจากมึง แบบนี้โอเคไหม?”
เอ่ยบอกด้วยความจริงจังในขณะที่สายตายังคงสบประสานกันอยู่ไม่ห่าง จนทำให้ลูกหมาตัวน้อยในอ้อมกอดและจางอี้ชิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลแทบหลุดขำพรืดออกมา เพราะแววตาของหมอนี่มันช่างเต็มไปด้วยความจริงจังและแน่วแน่ซะเหลือเกิน..
และแน่นอนว่าตอนนี้พยอนแบคฮยอนและจางอี้ชิงกำลังขยิบตาพลางยกมือขึ้นมาทำท่าโอเคให้กันเมื่อแผนการของพวกเขาสำเร็จ เพราะที่จริงแล้วลูกหมาตัวน้อยไม่ได้ป่วยเสียหน่อย เขาหายป่วยตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
แต่เพราะอี้ชิงบอกว่าการไปเข้าค่ายในครั้งนี้จะต้องมีพวกรุ่นน้องถือโอกาสเข้าใกล้และอ่อยหมอนี่แน่ๆ อี้ชิงจึงจำเป็นต้องนอนคิดแผนการสกัดดาวยั่วเอาไว้ให้เพื่อนรักตั้งแต่เมื่อเย็นวาน และดูท่าว่ามันจะได้ผลเกินคาดเชียวล่ะ เพราะปาร์คชานยอลกำลังพ่ายแพ้ลูกอ้อนของพยอนแบคฮยอนอย่างราบคาบโดยที่ไม่คิดเอะใจเลยแม้แต่นิด..
เพราะฉะนั้นงานนี้..
ลูกชายคนเล็กของเจ๊พยูนก็ชนะแบบใสๆอีกเช่นเคย J
“ไม่ทราบว่าท่านตรวจเช็คอาการเมียเสร็จเรียบร้อยหรือยังขอรับท่านประธานปาร์ค?”
“เพราะถ้าเสร็จแล้วกระผมจะได้บอกให้รถเคลื่อนตัวเสียที เพราะนี่มันก็เลยเวลารถออกมาจวนจะห้านาทีแล้วขอรับท่านประธานที่เคารพรัก..”
เสียงทุ้มของคริสที่เอ่ยขึ้นทำให้คนทั้งสองที่กอดกันกลมท่ามกลางสายตานับร้อยผละออกจากกันด้วยความเก้อเขิน ทว่าสำหรับประธานมาดขรึมที่เก็บอาการเก่งขั้นเทพ จึงทำให้ทุกคนไม่มีวาสนาพอที่จะได้เห็นริมฝีปากอิ่มระบายยิ้มอ่อนๆออกมาหรอก เพราะตอนนี้หมอนี่กำลังทำหน้าตายและหันไปบอกเพื่อนๆที่ยืนรออยู่ด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งว่า..
“ไปก็ไปดิ จะได้พาหมาขึ้นไปกินต่อบนรถ..”
“!!”
อึ้งแดรกอีกแล้วสิครับพี่น้อง.. ในเมื่อไอ้ประธานมันพูดหน้าตายเสียขนาดนี้ แถมยังไม่ได้แค่พูดเปล่าแต่กำลังยกมือขึ้นขยับเรแบนสีดำขลับบนดั้งโด่งให้เข้าที่ ก่อนจะโอบไหล่น้องหมาตัวน้อยของมันเดินตรงไปยังรถทัวร์ที่จอดอยู่ตรงหน้า ส่วนมืออีกข้างก็กำลังล้วงกระเป๋ากางเกงยีนแบรนด์ดังอย่างเท่ห์ๆ นั่นทำให้ทุกคนได้แต่ยืนอ้าปากค้าง..
หมอนี่แมร่งโคตรหล่อสัด!
“พี่ชานยอลลล! อย่าพึ่งไปค่ะรอซูยอนด้วย อะโอ้ย..”
เสียงแหลมแสนจะคุ้นเคยที่กำลังแผดแว้ดๆตามหลังท่านประธานร่างสูง ทำให้เหล่านักศึกษาทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่ที่ขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้วถึงกับหันไปมองหล่อนเป็นตาเดียว ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำลายกันแทบไม่ทัน..
เนื่องจากหญิงสาวอกสะบึ้มสวมเดรสสีแดงสดรัดรูป แหวกตรงเนินอกขาวๆตู้มๆของหล่อนลงไปลึกพอสมควรจนกระทั่งเห็นว่าอะไรเป็นอะไร แถมในยามนี้หล่อนก็กำลังพยายามยั่วยวนเพศตรงข้ามอย่างเต็มที่โดยการแกล้งทำเป็นกระเป๋าหลุดมือและก้มลงไปเก็บ ซึ่งไม่บอกก็คงรู้ว่าอะไรต่อมิอะไรกำลังโผล่ออกมาอวดสายตานับร้อยคู่ในตอนนี้บ้าง
และถึงแม้ว่าคนที่หล่อนตั้งใจจะยั่วมีแค่รุ่นพี่ตัวสูงรูปหล่อดีกรีประธานคณะเพียงคนเดียวก็เถอะ ทว่าสำหรับคิมซูยอนการที่ได้อวดเนินอกสะบึ้มให้ผู้ชายนับร้อยดูเช่นนี้ ถือเป็นการบริหารเสน่ห์และความเซ็กซี่ของหล่อนไปในตัวก็แล้วกัน..
บอกแล้วว่าตัวกระเปี๊ยกยังกะลูกหมาแถมแบนเป็นไข่ดาวอย่างพยอนแบคฮยอนมีหรือจะสู้คิมซูยอนเซ็กซี่เกิร์ลของมหาวิทยาลัยได้
ไม่มีวันหรอกย่ะ (สบัดอกและแสยะยิ้มร้ายกาจ..)
“ยัยแม่มดโนตม จะตามมาหาพระแสงง้าวอะไรแถวนี้วะ”
อี้ชิงปรายตามองรุ่นน้องอกสะบึ้มพลางบ่นขมุบขมิบออกมาด้วยความเบื่อหน่าย ถึงจะรู้ดีแก่ใจและคิดแผนการไว้สกัดยัยแม่มดโนตมจอมยั่วนี่ไว้แล้วก็เถอะ เพราะรู้ดีว่ายังไงงานนี้หล่อนต้องไม่พลาดแน่ๆ แต่มันก็อดจะรำคาญเสียงแว้ดๆของหล่อนไม่ได้อยู่ดี
ยัยชะนีโนตมร้องหาผู้ชาย..
นางคือศัตรูตัวฉกาจของลูกตากลมๆและเยื่อแก้วหูบางๆทั้งสองข้างของจางอี้ชิงจริงๆนะ ให้ตายสิ..
“นี่เรามาได้ไงซูยอน? ค่ายนี้เป็นของน้องปีหนึ่งพี่คงอนุญาตให้เราไปด้วยไม่ได้หรอกนะ อีกอย่างตอนนี้ที่นั่งมันก็เต็มแล้วด้วยถึงเรายืนยันที่จะไปพี่ก็ไม่สามารถหาที่นั่งให้เราได้หรอกนะ..”
ปาร์คชานยอลเอ่ยถามน้องรหัสคนสวยในขณะที่ยังคงยืนอยู่บนรถเช่นเคยไม่ได้ลงไปไถ่ถามอย่างที่สมควรจะทำ เนื่องจากเขาได้ให้สัญญากับลูกหมาตัวน้อยเอาไว้แล้วว่าจะไม่เข้าใกล้ผู้หญิงคนไหนในระยะร้อยเมตรหากไม่จำเป็น..
และอีกอย่างก็เพราะมือนุ่มนิ่มที่กำลังลูบไล้แผงอกแกร่งเบาๆกับสายตาออดอ้อนของลูกหมาในตอนนี้ด้วย ทำให้ชายหนุ่มวัยยี่สิบเอ็ดได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อกลืนน้ำลายลงคออย่างอยากลำบาก นี่ดีแค่ไหนแล้วที่ยังนึกคำถามที่จะถามน้องรหัสออก เพราะตอนนี้ชีพจรและกระแสประสาทการรับรู้ของปาร์คชานยอลกำลังไหลรวมกันอยู่ที่หน้า จนใบหน้าหล่อคมถึงกับแดงก่ำ และที่สำคัญมันกำลังไหลรวมไปยังจุดๆนั้น
ซึ่งมันทำให้ปาร์คชานยอล แข็ง ไปทั้งร่างกายแล้วตอนนี้..
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะพี่ชานยอล เพราะซูยอนมีใบอนุญาตในการไปร่วมค่ายครั้งนี้เรียบร้อย เพราะฉะนั้นขึ้นไปหาที่นั่งกันเถอะค่ะ ซูยอนเมื่อยอยากนอนซบไหล่ของใครสักคนจะแย่..”
เอ่ยเสียงอ่อนหวานพลางยกมือขึ้นลูบไล้เนินอกสะบึ้มอย่างยั่วยวน ก่อนที่จะเดินมาจับมือถือแขนผู้ชายเพื่อที่จะก้าวขึ้นไปบนรถ นั่นทำให้ปาร์คชานยอลชายหนุ่มผู้หล่อเลือกได้ได้แต่ยืนอ้ำอึ้ง เพราะกำลังถูกเกาะแขนเอาไว้ทั้งสองข้าง
ข้างหนึ่งเป็นน้องหมาตัวน้อย..
ส่วนอีกข้างเป็นสาวเซ็กซี่อวบอึ๋ม..
แล้วแบบนี้ปาร์คชานยอลควรจะเลือกฝั่งไหนดีละครับ ??
“งั้นมึงไปนั่งกับซูยอนเถอะ เดี๋ยวกูนั่งคนเดียวก็ได้..”
เอ่ยเสียงเบาพลางเงยหน้าขึ้นสบตากับร่างสูงด้วยความน้อยใจนิดหน่อย ก่อนจะค่อยๆปล่อยมือจากอีกคนแล้วก้าวขึ้นไปบนรถ ทว่า..
“เดี๋ยวสิเตี้ยรอกูด้วย กูขอโทษ..”
เอ่ยเรียกเบาๆพลางยื่นมือไปคว้าข้อแขนเล็กเอาไว้ด้วยความรู้สึกผิด นั่นทำให้คนถูกเรียกถึงกับแอบอมยิ้มน้อยๆก่อนจะทำเป็นตีหน้าเศร้าหันกลับไปสบตากับหน่วยตาคมด้วยความน้อยใจ
“ไม่เป็นไร ถ้ามึงไม่อยากนั่งกับกูก็ไม่ต้องฝืนหรอก เดี๋ยวกูนั่งคนเดียวก็.. / ไม่เอาสิครับเบบี๋ ไม่เอาไม่งอนนะ ยอลจะนั่งกับป๋าย นั่งกับป๋ายของยอลคนเดียวนะครับ..”
โน้มลงไปกระซิบเบาๆที่ข้างใบหูพอให้ได้ยินเพียงแค่สองคน ทำให้คนที่ได้ฟังถึงกับหน้าขึ้นสีระเรื่ออย่างน่ารัก จนทำให้ปาร์คชานยอลแทบจะอดใจไม่ไหว อยากจะกดจมูกลงบนแก้มหอมๆนิ่มๆนี่เสียให้รู้แล้วรู้รอด..
“อืม..ได้โปรดเกรงใจคนทั้งคณะที่รอมึงสองคนอยู่ด้วยครับหรือจะไม่ไปแล้วค่าย ไม่ไปก็ได้นะ กูจะได้ลงไปหาที่ซัมบาราเห้ให้พวกมึงแถวนี้ ก่อนที่ไอ้ประธานหล่อเลือกได้จะลงแดงตายซะก่อน..”
โอเซฮุนที่นั่งไขว่ห้างอยู่เบาะเกือบหลังสุดเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ทำให้เพื่อนๆที่ได้ฟังถึงกับพยักหน้าเห็นด้วย เพราะไม่อยากจะให้เพื่อนทั้งสองต้องทรมาน โดยการอดซัมบาราเห้กัน..
“ขอบคุณที่หวังดี แต่มึงไม่ต้องลำบากหาที่ให้กูหรอก เดี๋ยวกูเขมือบหมาบนเบาะรถนี่แหละเร้าใจดี..”
“ออ..อีกอย่างถ้าจะให้ดีกูฝากมึงเตรียมน้ำไว้ให้ด้วยนะ เพราะร่างกายกูอาจจะเกิดภาวะขาดน้ำได้ ถ้าหลายรอบจัด..”
“!!”
ครับ..ไม่ต้องบอกก็คงรู้นะครับว่าตอนนี้พวกผมกำลังอึ้งแดรกกันทุกคน แมร่งจะอินดี้ไปไหนวะไอ้ประธานจะปล้ำหมาบนรถทัวร์ที่มีคนเป็นร้อยๆเนี่ยนะ แมร่งคิดได้ไง.. ไอ้หล่อ! กูยอมเลย!
ยอมยกให้เป็นไอดอลเรื่องซัมบาราเห้จริงๆเลยสัด เย้เฮท~!
“พี่ชานยอลคะอย่าพึ่ง.. นี่ปล่อยฉันนะจะลากฉันไปไหนเนี่ย!”
หลังจากที่คู่รักซัมบาราเห้เดินไปนั่งด้านหลังเรียบร้อยแล้วอี้ชิงกับมินซอกก็จัดการลากนางร้ายโนตมมานั่งตรงกลาง เพราะเบาะของพวกเขาสามารถนั่งได้สามคน นั่นทำให้คิมซูยอนได้แต่ดิ้นพล่านๆส่งเสียงแว้ดๆออกมาไม่หยุด เพราะหล่อนอยากไปนั่งกับผู้ชายของหล่อนไม่ใช่กับสองแคระจอมแสบนี่..
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้แฝดแคระ ฉันจะไปหาพี่ชานยอลของฉัน ปล่อยสิ!”
ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดแผดเสียงแว้ดๆออกมาไม่หยุด ทำให้จางอี้ชิงที่เตรียมแผนการกำราบนางร้ายมาเรียบร้อยรีบยกน้องไอแพดขึ้นโชว์ยัยนางร้ายโนตม ทำให้หล่อนได้แต่ปรายตามองกลับมาอย่างไม่อาจเข้าใจ
“ถ้าเธอยังไม่หยุดพูดและเลิกดิ้น ฉันจะกดส่งรูปเด็กมัธยมปรายซองนัม ตัวดำๆ หน้าตาอัปลักษณ์นี่ไปให้คนทั้งคณะดู แล้วดูสิว่า เธอยังจะมีหน้ามาแว้ดๆแบบนี้อีกไหมถ้าคนอื่นรู้ว่าก่อนศัลยกรรมหน้าตาเธอมัน..คิก~”
อี้ชิงกับมินซอกยกมือขึ้นมาปิดปากแล้วทำท่าหัวเราะคิกคัก ทำให้หญิงสาวโนตมที่โดนขู่ถึงกับนิ่งค้างเพราะไม่คิดว่าจะไม่ใครไปขุดคุ้ยรูปของหล่อนก่อนทำศัลยกรรมมาได้
“มะ ไม่จริง! เป็นไปไม่ได้หรอกพวกแกโกหก ฉะ ฉันสวยธรรมชาติย่ะ พ่อแม่ให้มาล้วนๆเพราะฉะนั้นปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันจะไปหาพี่ชานยอลของฉัน!”
หญิงสาวเอ่ยเสียงดังพลางทำหน้ามั่นอกมั่นใจเต็มที่ ในขณะที่ตอนนี้หัวใจของหล่อนกำลังตรงกันข้ามเนื่องจากมันเต้นแรงราวกับทะลุออกมาจากอกเพราะไม่รู้ว่าไอ้สองแสบนี่จะเล่นไม้ไหนกับหล่อนกันแน่..
“นี่จอกมึงดูนี่ดิ.. เด็กดำที่ไหนก็ไม่รู้เนอะ ตัวก็ดำ แถมหน้าอกก็แบนยังกับกระทะทอดไข่ดาวแหนะมึงว่าไหม เดี๋ยวกูขอส่งให้เพื่อนคนอื่นๆในคณะดูก่อน จะได้ช่วยกันพิจารณาว่านี่ใช่ คิมซูยอน ดาวเซ็กซี่ปีสองของคณะเรารึเปล่า..”
อี้ชิงว่าพลางยื่นรูปเด็กผู้หญิงมัธยมตัวดำหน้าตาน่าเกลียดผ่านหน้ายัยโนตมไปให้มินซอกดู ทำให้ดวงตาคมกริบที่เต็มไปด้วยอายไลเนอร์ของเจ้าหล่อนถึงกับเบิกโพลงขึ้นมาทันทีด้วยความตกใจ
“จะกดแชร์ละนะ.. / ยะ อย่า! อย่าทำแบบนั้นเด็ดขาดนะ! ฉะ ฉันไม่ยุ่งกับพี่ชานยอลแล้วก็ได้”
อี้ชิงกับมินซอกถึงกับกระตุกยิ้มขึ้นมาทันทีหลังได้ยินคำจำนนจากปากนางร้าย คิดจะแย่งผู้ชายของเพื่อนรักเขาอย่างนั้นหรอ ไม่มีวันเสียหรอก รอข้ามแผนการสกัดดาวยั่วโนตมของจางอี้ชิงไปให้ได้ก่อนแล้วกัน..
แม่นางปิศาจโนตม..หึหึ J
“เป็นยังไงบ้างยังหนาวอยู่ไหมหืม?”
เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงพลางยกมือขึ้นลูบเรือนผมนิ่มแล้วกดจูบลงไปบนกระหม่อมบางซ้ำๆเพื่อวัดอุณหภูมิ เพราะตั้งแต่ขึ้นมานั่งบนรถลูกหมาตัวน้อยก็เอาแต่กอดเขาไม่ปล่อย..
“ไม่เป็นไรแล้ว แค่กๆ~ แต่ว่าคอแห้งจัง อยากกินน้ำ..”
เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบาพลางเงยหน้าขึ้นสบกับหน่วยตาคมแล้วกระพริบตาปริบๆอย่างออดอ้อน นั่นทำให้ปาร์คชานยอลถึงกับใจสั่นระรัว ก่อนจะตั้งสติได้และรีบควานหาขวดน้ำอย่างสะเปะสะปะ
“ไม่เอา~ ไม่ใช่น้ำเปล่าแบบนี้ อยากกินน้ำหวานๆต่างหาก”
ลูกหมาตัวน้อยถึงกับส่ายหัวไปมาทันทีเมื่อเห็นว่ามือหนากำลังยื่นขวดน้ำเปล่ามาจ่อที่ริมฝีปาก แล้วทีนี้ปาร์คชานยอลจะทำยังไงดีละครับ เพราะเมื่อเช้าพวกเขามาสายก็เลยไม่ทันได้เตรียมของว่างให้หมาน้อยทานระหว่างทางเช่นทุกครั้ง
เพราะฉะนั้นก็คงจะเหลือแค่วิธีนี้วิธีเดียวแล้วล่ะ..
ถ้าหมาน้อยยืนยันว่าอยากกินน้ำหวานๆ ปาร์คชานยอลก็จะจัดให้ หึหึ.. J
“ยะ ยอล อื้อ~ ”
ปาร์คชานยอลยกผ้าห่มผืนบางขึ้นคลุมหัว ก่อนจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นลูบแก้มเนียนเบาๆแล้วประกบริมฝีปากลงไปบนกลีบเนื้อนุ่มอย่างดูดดื่มทันที ทำให้น้องหมาตัวน้อยผู้ถูกกระทำเผลอครางออกมาดังลั่นด้วยความตกใจ เนื่องจากชายหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์ไม่ได้บอกเขาล่วงหน้าว่าจะจูบเลยสักนิด
“แค่นี้หวานพอไหม.. หรืออยากดูดอีก?”
“แต่ถ้าอยากได้หวานกว่านี้ต้องดูดข้างล่างนะ ไอติมกูไง หวานกว่ากันเยอะ..”
“!!”
ครับ..แบบนี้ก็ไม่ต้องทำอย่างอื่นกันแล้วครับไอ้พวกเพื่อนๆที่นั่งอยู่ด้านหลังเนี่ย เพราะตอนนี้ทุกคนกำลังจดจ่ออยู่กับก้อนผีผ้าห่มของคุณประธานกับน้องหมาตัวน้อยที่กำลังดิ้นดุกดิกไปมาไม่หยุดอยู่เบาะหลังสุด..
สงสัยคงต้องเตรียมน้ำไว้ให้ไอ้ประธานจริงๆ..
เพราะดูแล้วน่าจะเสียน้ำหลายรอบ กว่าจะถึงเชจู..
!!
…. TBC ….
ช่วงนี้หน้าร้อนอ่ะเนอะ..
ประธานก็เลยหวังดีอยากให้หมาน้อยได้กินไอติมบ่อยๆ ^^
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ เจอกันอีกทีวันเสาร์น๊า โปรยจูบ..
ใครที่เล่นทวิตแล้วเอ็นดูฟิคเรื่องนี้ฝาก #เพื่อนรักเตียงสั่น กันด้วยนะค๊า ^^
ความคิดเห็น