ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sensei Tiamo♥ผมรักคุณครูครับ!(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #5 : คาบเรียนที่ 4 :: Something'll happen soon?

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.64K
      10
      22 ก.พ. 56

    4

     

     

      

     

               

               

                สุดท้ายแล้ว...ผมก็ออกมายืนคอยเจ้าเด็กนั่นตามสัญญา

                .

                .

                เอ่อ แต่รู้สึกว่าโรงเรียนเลิกมาเกือบชั่วโมงนึงแล้วนะ ทำไมยังไม่เห็นใบหน้ากวนๆ นั่นโผล่มาสักที!(เริ่มหงุดหงิดเฟ้ย) ผมหยิบแว่นขึ้นมาเช็ดรอเวลา แต่รอนานขนาดเช็ดไปเช็ดมาแว่นจะใช้ส่องกระจกได้ละ คิดดู...ถึงผมจะเป็นคนชอบมาสาย แต่ก็ไม่ปลื้มคนมาสายเท่าไหร่หรอก ฮึ่ย! พูดถึงเรื่องนี้แล้วมันก็อดอารมณ์เสียไม่ได้ ไอ้เฟมอะชอบบ่นผมเรื่องนี้อยู่เรื่อย เออ ก็ผมไม่มีรถขับอย่างมันนี่หว่า เชอะ~(เชิดใส่)

                รอ รอ รอ

                ...

                หมับ! จู่ๆ ก็มีมือมาแตะที่ไหล่ของผม “อ้าว! น้องสาว มายืนรอใครเหรอจ๊ะ?”

                ...” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นเจ้าของประโยคเสี่ยวๆ แบบนี้ เมอร์แกน! ผมหันไปทำหน้าเบื่อหน่ายประหนึ่งมองฝ้าเพดานโล่งๆผืนหนึ่ง(....เห็นภาพอย่างแรงฮ่ะ) หมอนั่นชะงักเล็กน้อยถึงน้อยที่สุด หน้าหนาโคตร(ฮา) ว่าแต่นายมายืนหายใจอยู่ตรงนี้ได้ไงฟะ บ้านช่องไม่มีกลับเรอะออกจะเย็นย่ำค่ำพลบถึงเพียงนี้ เอิ่ม สำนวนลิเกไปมั๊ย

                “กลับบ้านไปๆ(ถือโอกาสไล่มันทางอ้อม)” ผมพูด

                “ไปส่งที่บ้านหน่อยสิ” เมอร์แกนเลิกคิ้วเจ้าเล่ห์

                ผมยักไหล่ (ทำท่าเลียนแบบโอปอลล์อ่ะ ฮ่าๆ) “อ๋อ(เสียงสูง) ลืมไป...บ้านนายอยู่แถวๆ ใต้ทางด่วนเอกมัยนี่เนอะ รถมันสวนไปสวนมาเยอะ” นี่ผมพูดบ้าอะไรออกไปเนี่ย ปากขยับอัตโนมัติ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าถ้าคุณคิดจะสู้กับคนปากหมา จงเป็นผู้ที่ปากหมากว่าให้จงได้!

                “คงลำบากแย่เลย” ยังมิวายหยอดส่งท้าย

                “ฮึ? ไม่หรอก...ถ้ามี ใครบางคนอยู่ด้วยถึงลำบากแค่ไหนก็ไม่กลัว” เมอร์แกนเน้นหนักคำนั้นเป็นพิเศษ พร้อมกับสบตากับผมอย่างลึกซึ้ง(อ้วก!) เออ โจ่งแจ้งขนาดนี้ใครหน้าไหนก็รู้ว่ามันหมายถึงผม! ถามจริงนายเคยเห็นฉันในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษาบ้างมั๊ย หรือฉันเป็นแค่ที่ปรึกษา เหมือนเพลงของกอล์ฟไมค์อ่ะ ...พระเจ้าช่วย ผมติดเชื้อเสี่ยวไอ้บ้านี่มาแล้ว อุ๊อ๊ากก

                ก่อนผมจะพูดอะไรออกไป ครามเด็กหนุ่มที่ผมรอคอยก็วิ่งเหยาะๆ เข้ามาแทรกระหว่างกลางของเรา(แลดูคล้ายชื่อเพลง) เขาโค้งหัวให้ผมลวกๆ หยาดเหงื่อไหลซึมรอบแก้มเนียนขาว เดี๋ยวก่อนนะ นายไปทำอะไรมาเนี่ย!

                “ขอโทษที่มาช้านะครับ เมื่อกี้ผมเพิ่งไปช่วยอาจารย์ดำรงศักดิ์ย้ายกระถางต้นไม้มา” ครามเอ่ยขึ้น เหตุผลของนายฟังดูดีกว่าไอ้เด็กเสี่ยวมอร์แกนมากเป็นล้านเท่า! เมอร์แกนมองหน้าครามแล้วหันมามองผมต่อ มีอะไรฮะ? ฮึ่ย แค่เห็นหน้าหมอนี่ก็รู้สึกอารมณ์เสียละ ทำหน้ากวนโคตร!

                “เมอร์แกน พวกนั้นยังไม่มาเหรอ” ครามถาม

                พวกนั้น?

                “กำลังมาอยู่ แม่งโดนเจ๊เรียกว่ะโคตรซวย” เมอร์แกนตอบพลางทำหน้าแหยๆ

                “ฮะๆ นั่นสิ”

                ???

                เอิ่ม พวกคุณอย่าลืมสิครับว่ายังมีบุคคลผู้ไร้เดียงสา(?)ยืนฟังอยู่ข้างๆ

                “เจ๊คือใครเหรอ” อดไม่ได้เลยถามออกไป

    “อ้อ อาจารย์หมวดวิชาภาษาไทยที่เป็นสาวประเภทสองน่ะ เลยโดนนักเรียนเรียกอย่างนี้ แต่เจ๊แกก็ชอบนะ บอกให้เรียกแบบนั้นบ่อยๆ ฮ่าๆๆ” เมอร์แกนอธิบาย พอดีจังหวะที่สายตาของผมเลื่อนไปพบกับใบหน้าเรียบๆ ของลันเข้า เขาเดินสะพายถุงกระดาษบางอย่างด้วยไหล่ข้างเดียวมุ่งมาทางนี้ ตามด้วยหัวหน้าห้อง ‘เอ็ม’ ที่วิ่งหอบกล่องลูกฟูกเดินตามมา นี่คือ พวกนั้นในความหมายขอครามสินะ

    “โทษว่ะ ซวยชิบ” เอ็มพูดปลงๆ “ไม่น่าเดินผ่านห้องพักครูเลย โดนสั่งให้ช่วยงานอีกละ”

    “ไม่เป็นไร มากันครบก็ดีแล้ว” ครามโบกมือ

    “เออ งั้นไปกันเหอะ!” เมอร์แกนร้องขึ้นพร้อมกับโดดไปกอดคอลัน คนหนึ่งพูดมากจนน้ำท่วมทุ้งผักบุ้งติดท่อ ส่วนอีกคนดันไม่พูดเงียบเป็นป่าดงดิบ(?) สำนวนเพี้ยนนิดหน่อยอย่าได้ใส่ใจ เข้าใจแล้วว่าสองคนนี้คบกันได้ยังไง...แต่ว่านะ ถึงลันจะเห็นเป็นคนเงียบๆ แต่ก็แสบเข้าเส้น อย่างเหตุการณ์เมื่อเช้านี้ก็เป็นตัวพิสูจน์ได้อย่างดีครับ เอ๊ะ! ว่าแต่พวกนายไม่พาจินมาด้วยเรอะ อย่างน้อยเขาก็เป็นกำลังสำคัญในการกอบกู้ชื่อเสียง(?)ของฉันนะ

     

    “พวกนายจะพาฉันไปไหน?”

    ...

    เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา สุดท้ายลันเป็นคนตอบให้ “เดี๋ยวก็รู้”

    ... ขอบคุณมากครับ

     

    เอาเป็นว่าหลังจากนั้นผมก็เดินตามเจ้าเด็กพวกนี้ตลอดทาง จนกระทั่งเรามาหยุดอยู่หน้าสถานที่แห่งหนึ่ง...ถนนคนเดินนั่นเอง! ขณะนี้เวลาประมาณเกือบๆ หกโมงร้าน ร้านรวงต่างๆ จึงเริ่มเปิดไฟหลายสีเพื่อดึงดูดลูกค้า เสียงพูดคุยเคล้าเสียงหัวเราะดังก้องไปทั่วบริเวณ ประชากรส่วนใหญ่ที่สิงสถิตอยู่ที่นี่ล้วนเป็นพวกนักเรียนนักศึกษาจากโรงเรียนใกล้ๆ หืม? อย่าบอกนะว่าเจ้าเด็กพวกนี้พาผมมาเที่ยว

    “เราไม่ได้มาเที่ยวหรอกนะ แต่มาเดทต่างหาก” เมอร์แกนผละจากลันแล้วเข้ามาคล้องแขนผมหลวมๆ ถ้านายเป็นสาวน้อยใสๆ คนหนึ่งฉันจะไม่ว่าเลย แต่นี่...เด็กหนุ่มม.ปลายผู้มีส่วนสูงเฉียด 180 ซม.(แถมยังหน้าตาดีขัดกับนิสัยอีก!) ผมก็รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนพอควร

    ...กับอาจารย์คนอื่นนายไปตีซี้แบบนี้ป่าวเนี่ย?” ผมถามเสียงเนือยๆ

    “โหยทำไมครูพูดอย่างนี้อ่ะ! ถึงผมจะเล่นๆ แบบนี้แต่ก็เลือกคนนะครับ ขืนไปทำตัวสนิทสนมผิดโอกาสเข้าความหายนะจะมาเยือนเอาได้ นี่ผมทำตัวสบายๆ กับครูมากที่สุดแล้วนะ” เมอร์แกนทำท่างอนๆ อย่า...โปรดอย่าทำหากคุณไม่มั่นใจว่าตัวเองน่ารักพอ เตือนแล้วนะเฮ้ย! หยุดเถอะขอร้อง มันไม่เข้าอย่างแรง ระหว่างพูดคุยกันเท้าของพวกเราก็ขยับเดินไปด้วย ในที่สุดฝีเท้าก็หยุดลงอีกครั้งหน้าร้านขายเบเกอรี่ที่ตั้งอยู่ริมทาง ลันผลักประตูเข้าไป มีเสียงกรุ๊งกริ๊งของระฆังดังต้อนรับกลับมา

    “ยินดีต้อนรับจ้ะ...อ๊ะ!” เจ้าของร้านเป็นหญิงสาวผู้ดัดผมลอนใส่ชุดเดรส เธอลุกขึ้นมาพลางอุทานแปลกใจเมื่อเห็นผู้มาเยือนรายนี้ “ลันลัน เอ็มเอ็ม เมอร์แกน...ไม่เห็นบอกกันเลยน้าว่ามา พี่จะได้เตรียมขนมไว้ให้ทาน” ฉีกยิ้มหวานให้

    “โอ๊ยย ไม่ต้องหรอกครับ แค่เห็นหน้าพี่ผมก็อิ่มใจแล้ว” คราวนี้เอ็มเป็นฝ่ายพูดแฮะ

    “พี่โบว์ครับ ผมฝากของหน่อยสิ” ลันพูดพร้อมกับวางถุงกระดาษลง เอ็มจึงเดินไปวางกล่องไว้ข้างๆ ด้วย นี่พวกนาย...รู้จักพี่สาวคนนี้ด้วยเหรอ? (เนียนเรียกว่าพี่สาวซะเลย ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าอายุเท่าไหร่)

    “อื้ม ได้สิ เอ้อลัน! เด็กคนนี้คือใครเหรอจ๊ะ?” หญิงสาวเดินเข้ามายิ้มทักทายผม คือแบบว่า...ขอยืมตังค์หน่อยสิ จะโทรไปบอกแม่ว่าเจอเนื้อคู่แล้ว เอ๊ย! มุกควายโบราณยังจะกล้าเล่นได้อีกเนอะคนเรา ฮะๆ (ดีนะที่เล่นเองขำเองในใจ) ผู้หญิงคนนี้มีรอยยิ้มพิฆาตเป็นอาวุธประจำกายแน่ๆ เลย เพราะเห็นแล้วใจมันจะละลาย แค่กๆ พอเหอะ...

    “อาจารย์น่ะ” ลันตอบ

    “หา? อาจารย์...” เธอเอามือป้องปากเล็กน้อย “แต่ดูแล้วยังเด็กอยู่เลยนี่ อายุเท่าไหร่เหรอ?”

    21 ครับ”

    “เด็กกว่าฉันอีก! งั้นขอทำความรู้จักเลยนะจ๊ะ พี่ชื่อเรนโบว์ เรียกสั้นๆ ว่าโบว์ก็ได้จ้ะ อีกไม่กี่วันก็จะอายุครบ 23 แล้ว...” พี่จ๋ายิ้มบางๆ “ขอเรียกเธอว่า อาจารย์แล้วกันนะ ฟังแล้วมันรู้สึกกระชุ่มกระชวยดี ฮ่าๆๆ”

    ตามสะดวกเลยครับ

    “อื้ม อาจารย์ น้องชายพี่ซนมั๊ยคะ?”

    “หือ น้องชาย...” ใครอ่ะ

    “อ้าว ลืมบอกไป ครามเป็นน้องชายพี่เอง” จริงเหรอ! ผมหันควับไปมองหน้าคราม จะว่าไปทั้งสองคนก็มีโครงหน้าคล้ายๆ กันอยู่พอควร “ว่าไงอาจารย์ นักเรียนพวกนี้ดื้อมากมั๊ย?”

    ผมยิ้มเจื่อนๆ เอ่อ... ซนและดื้อเหรอครับ ใช้คำได้น่ารักมากเลย...แต่อย่างไอ้พวกนี้มันต้อง กวนตีน’ ‘เจ้าเล่ห์และ ชั่วร้ายสุดๆ ลันกับเอ็มมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาไม่ทราบสาเหตุ เออ คงกำลังคิดอยู่สินะว่าผมจะตอบไปยังไง

    “พี่โบว์ งั้นพวกผมขอตัวก่อนนะ ไว้เดี๋ยวค่อยมาเอาของครับ บาย” เอ็มพูดตัดบทพร้อมกับคว้าตัวผมออกมาจากร้าน เดี๋ยวก่อนสิ! ฉันยังไม่ได้เปิดโปงพวกนายเลยนะ กร๊าสส(พ่นไฟ) พวกเขาลากผมออกมายืนอยู่ริมฟุตบาท ผู้คนเดินขวักไขว่สวนกันอย่างหนาแน่น ตอนนี้เหลือกันอยู่เพียงสี่คน ครามไม่ได้ตามมาเพราะจะช่วยพี่สาวขายของที่ร้าน

    ผมพยายามสะบัดมือที่ยึดแขนเสื้อออก “...”ปล่อย”

    “เออๆ ปล่อยก็ได้” เอ็มคลายมือออก

    “ตกลงนายพาฉันมาทำอะไรที่นี่!” ที่ฉันคาใจมีอยู่แค่นี้แหละ

    “ก็...เอ่อ...” เอ็มเสมองไปทางอื่น “เอางี้! ไปกินข้าวก่อนละกัน”

    “ใช่ๆ ไปกินข้าวกันก่อนเนอะ” เมอร์แกนพยักหน้าหงึกหงัก

    โคตรมีพิรุธ...

    หมับ! ลันไม่พูดเปล่าแต่คว้ามือผมเดินไปด้วยเสียดื้อๆ เลย ไอ้เด็กพวกนี้...ขี้เกียจขัดมัน เดี๋ยวอยากบอกเมื่อไหร่มันคงจะบอกผมเองล่ะ จากนั้นพวกเราอาจารย์กับลูกศิษย์ที่น่ารักก็เดินหาร้านกินข้าว สุดท้ายก็เข้ามานั่งสิงอยู่ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างถนน เอ็มแสดงสปิริตของหัวหน้าห้องเอ่ยถามเมนูจากทุกคน

    “มึงเอาไร”

    แอบสะดุ้งเล็กน้อย พูดรวมผมเข้าไปด้วยรึเปล่าอ่ะ คำว่า มึง น่ะ

    “เส้นเล็กต้มยำ ไม่ใส่ถั่วงอก ไม่ใส่ผักชี ไม่ใส่ต้นหอม ไม่ใส่กระเทียม ไม่ใส่ถั่วลิสง” ลันพูดขึ้นคนแรก แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าจะสั่งอย่างนี้...บอกแค่ใส่หมูกับเส้นก็พอแล้วมั้ง สั้นกว่าตั้งเยอะ เด็กหนอเด็ก โตจนควายเตี้ยกว่าแล้วยังจะไม่กินผักอีก! ไม่ดีต่อสุขภาพนะ

    “ส่วนกู เหมือนเดิม”

    ...แล้วอาเฮียแกจะรู้กับ เหมือนเดิมของมึงมั๊ยเมอร์แกน” เอ็มเคาะปากกากับโต๊ะ

    “งั้นบอกไปยังงี้ ขอเส้นหมี่น้ำใส ใส่แค่ใจก็พอ...ฮิ้ววววววว”

    ...โนคอมเม้นต์กับหมอนี่จริงๆ ไปดีมาดีครับ

    “รั่วจริงเลยเมิง(แอบหัวเราะ) แล้วอาจารย์ ไม่สิ...เพนตะจะเอาอะไรเหรอครับ?”

    นึกว่าลืมกันไปซะแล้ว

    “เส้นเล็กแห้ง”

    “อืมๆ โอเค...ส่งโพยละนะ” เอ็มตวัดลายมือสุดอาร์ต(โคตรเละ)ของตัวเองลงกระดาษขาว ลุกขึ้นจากโต๊ะไปวางแหมะอยู่ที่กล่องใส่รายการ ไม่นานนักก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ 4 ชามก็มาเสิร์ฟถึงโต๊ะ แล้วอาหารมื้อเย็นก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ส่วนเรื่องค่าอาหารเราแชร์ส่วนของตัวเองกันครับ อย่าเพิ่ง...ผมไม่ได้ขี้งกแต่อย่างใด ก็เจ้าเด็กพวกนี้มันไม่ยอมให้ผมออกเงินให้อ่ะ (ก็ดีเหมือนกันนะ)

    ท้องอิ่ม ก็เริ่มมีแรงเดินชมข้าวของที่วางขายอยู่ทั้งริมถนนและในร้านต่อไป เดินได้สักพักก็หันกลับไปมองนักเรียนตัวเองสักหน่อย เอิ่ม แต่ละคนถือถุงกันคนละ 2-3 ถุงเรียบร้อย ซื้อตอนไหนวะเนี่ยไม่ทันสังเกต ไม่ได้ๆ พอเห็นคนอื่นซื้อก็อยากซื้อบ้าง ...เสียเงินบ้างอะไรบ้าง(มันบ้า)

    อ๊ะ! ผมสะดุดกับคุกกี้ยักษ์ที่ชิ้นใหญ่เท่าฝ่ามือ นี่ล่ะสิ่งที่ผมคู่ควร(?) ผมเดินรี่เข้าไปถามราคาทันที เห 50 บาทเองเหรอ ซื้อหน่อยละกัน พอได้มันมาปุ๊บผมก็แกะห่อพลาสติกหมายจะหยิบมากัด ทว่า...

    “แบ่งมั่งดิ” ลันยื่นหน้ามาพร้อมกับแบะมือซ้าย

    ...” โธ่เว้ย! นึกว่าจะได้กินคนเดียวอย่างสุขีเปรมปรีหฤทัย ก็ได้ฟะ ถือว่าเป็นนักเรียนห้องของผม  คุณเลยได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้(ไม่ค่อยลำเอียง) ผมจับคุกกี้ทั้งสองด้านจะหัก แต่จู่ๆ ลันก็คว้ามันไปจากมือผมแล้วจัดการหักซะเอง กร๊อบ! คุกกี้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน...ไม่สิ สี่ต่อสองส่วนชัดๆ เขาส่งชิ้นเล็กกว่าให้ผม ชิ้นใหญ่กว่าก็โยนเข้าปากตัวเอง

    เฮ้ย ทำงี้ได้ไง

    “ลัน! นี่นาย...

    “โอ๊ะ เพนตะ ซื้ออะไรมาน่ะ” เอ็มเดินเข้ามามองคุกกี้ในมือผม ที่ขนาดกลายเป็นเท่านิ้วมือ

    “คุกกี้”

    “กินคนเดียวไม่แบ่งเลยนะครับ มะขอนิดนึง” พูดจบก็ดึงคุกกี้ในมือผมไปหักเองหน้าตาเฉย ผมอ้าปากเหวอ อีกแล้วนะ กร๊อบ! คุกกี้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนที่ไม่เท่ากัน แน่นอน ไอ้เด็กบ้านี่มันโยนชิ้นเล็กกว่าให้ผม จากขนาดเท่านิ้วมือกลายเป็นเท่าข้อต่อของนิ้วไปซะแล้ว

    ฮึ่ย! คราวนี้จะไม่รีรออะไรทั้งนั้น กินล่ะ

    หมับ!

    มือของใครบางคนรั้งแขนของผมไว้ เมอร์แกนชะโงกหน้ามามองคุกกี้ในมือ แสยะยิ้มมุมปาก “แบ่งผมด้วย”

    โอ้ว ไม่นะ!!

    กร๊อบ

    ...

    ......

    สุดท้ายแล้ว ผมก็เหลือคุกกี้ในมือขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว

                 ย้ากก พวกแกGo to hell now!!

               

                “สรุปจะไปไหน?” ผมถามเสียงเข้ม ยังเคืองๆ เรื่องโดนแย่งขนมอยู่ เอิ่ม มองเศษคุกกี้ในมือแล้วก็รู้สึกสงสารตัวเองในใจ ทีหลังบอกดีๆ ก็ได้ว่าอยากกิน ผมจะซื้อมาเลี้ยงเอง อาจารย์มีไว้สอนหนังสือนะไม่ใช่มีไว้แกล้ง

                 “เอ่อ คือผมอยากจะลองเข้าร้านนั้นดูน่ะ” เอ็มชี้นิ้วไปทางขวา ผมมองตาม... ‘@20+ Only’ ชื่อร้านถูกแขวนไว้เด่นหรา ส่อถึงสินค้าที่มีขายอยู่เป็นอย่างมาก ภายนอกร้านตกแต่งด้วยผ้าม่านสีดำทึบแสงทำให้เกิดกิเลสอยากเข้าไปสัมผัส มีเด็กวัยรุ่นชายจำนวนมากยืนออกันหน้าร้านด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่พนักงานคุมก็ยังพอมีสำนึกบ้าง เขาคัดแต่ผู้ที่อายุถึงเกณฑ์เท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ผ่านประตู เอิ่ม นี่คือเหตุผลที่พวกเขาพาผมมาใช่มั๊ย ตั้งใจจะใช้ผมเป็นตั๋วผ่านทางใช่ม้ายย!?

                “ที่นั่นไม่เหมาะกับเด็กอย่างนาย” ไอ้เด็กแก่แดด - -‘

                “ไม่ใช่ๆ ผมไม่ได้สนใจของหน้าร้าน จะเข้าไปซื้อของหลังร้านต่างหาก” เอ็มรีบอธิบาย

                ...ดูไม่น่าไว้วางใจเลย เด็กพวกนี้”

                “ผมกับอาจารย์อายุห่างกันไม่กี่ปีเอง อย่ามาทำตัวเป็นผู้ใหญ่หน่อยเลย”

                “คะ..ใครบอก จริงๆ แล้วฉันอายุ 26 นะ” ผมแสร้งโกหกเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง

                “หึ หน้าอย่างครูเนี่ยน้าใครเค้าจะเชื่อ” ดูมัน! เมอร์แกนทำท่ายักไหล่

                “เออ แต่ยังไงฉันก็ไม่เข้า” ผมยืนกราน

                “อะไร ใจไม่ถึงอะดิ”

                “ไอ้!!

                ฟุ่บ...

                .

                .

                ผมชะงักคำพูดเมื่อเห็นอาการผิดปกติของเด็กหนุ่มตรงหน้า จู่ๆ เอ็มก็มีแววตาน่ากลัวจนไม่กล้าสบตาด้วย เขาทอดสายตามองไปทางด้านซ้ายมุมตึก เอ๋? ผะ..ผมทำอะไรผิดเหรอ หันไปมองคนข้างๆ ด้วยท่าทีเลิกลั่ก ปรากฏว่าลันกับเมอร์แกนก็มีแววตาแบบนั้นเช่นกัน รึว่าพวกเขาจะโกรธผม โกรธเรื่องอะไรน่ะ ผมนึกหวั่นขึ้นในใจ “มี...อะไรรึเปล่า?”

                ...

                ...

                ...

     

               

                “คุณครู ผม...ขอตัวไปสะสางธุระส่วนตัวก่อนนะ”

     

    # มีปัญหาขนาดของ Font หรือบรรทัดติดกันบอกไรท์เตอร์ได้นะคะ :D
    (ปล. หนุ่มกางเกงน้ำเงินนี่มันโฮกกจริงๆ -////-)


    Theme by; super cell

     

               

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×