ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My wife ขอโทษที คนนี้เมียกู [END]

    ลำดับตอนที่ #12 : .....My wife.....{12}

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15.2K
      22
      11 พ.ค. 56

    .....My wife.....{12}

     [Nein]

                “โอ๊ย!!....” ผมร้องออกมาทันทีที่รู้สึกได้ถึงความเจ็บบริเวณช่วงท้าย ผมไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขนาดไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนผมยังสติดีอยู่ตลอดแหละ แต่คิดแล้วก็น่าเจ็บใจตัวเองจริงๆ ยอมมันง่ายๆได้ไงเนี่ย เมื่อลกุนั่งได้แล้ว ผมก็พยายามมองเห็นไอ้เจ้าตัวปัญหา ที่มันควรจะอยู่ข้างๆผมบนเตียงของมันเองนี่ แต่ตอนนี้กลับว่างเปล่า มันหายหัวไปไหนของฟะ

    รออยู่ข้างล่างนะ

    โน้ตเล็กๆแป๊ะไว้ตรงหัวเตียงเพื่อบอกถึงสถามที่อยู่ของมัน ผมพยายามฝืนสังขารลุกออกจากเตียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป โธ่เว้ย ทำไมมันเจ็บงี้เนี่ยครั้งแรกของผมไหงกลายเป็นมันได้ซะงั้นล่ะ แต่ตอนนี้เจ็บแค่ไหนผมก็ต้องฝืนล่ะนะ ผมก้าวเข้าห้องน้ำไปอย่างยากลำบาก รอยเปื้อนบนที่นอนย้ำเตือนว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นจริง ผมไมมได้คิดไปเอง แต่มันก็ทำให้ผมแอบยิ้มออกมาเล็กน้อยได้ล่ะนะ เพราะรอยเปื้อนที่ปราศจากคราบสีแดงนั่น บอกได้ชัดเจนว่าแม้ในเวลาแบบนั้น ไอ้เซนท์กลับอ่อนโยนกลับผมซะงั้น

    “โอ๊ย!!” ผมร้องทันทีที่ความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ร่างกาย พร้อมกับบางสิ่งบางอยางที่เกิดขึ้นกับบริเวณนั้นของผม อ้อมกอดอบอุ่มของไอ้เซนท์ยังไม่ปล่อยผมแม้แต่น้อย

    “เฮ้ยไนน์ กูขอโทษ เจ็บหรอ” ดูมันจะกังวลมากกว่าผมซะอีกตกลงว่านี่มันทำโทษผมหรือผมยอมมันเองกันแน่เนี่ย ไอ้เซนท์หยุดการกระทำของมันแล้วก้มจูบผมอย่างบาๆ

    “มะ..ไม่เป็นไร” ผมบอกมันไปแบบนั้น ทั้งๆที่ความจริงผมเจ็บมากเลยล่ะ

    “แน่ใจนะ” มันถามผมเหมือนไม่เชื่อ ก็แน่ล่ะ ครั้งแรกใครมันจะไปสบายล่ะ ไอ้บ้านี่ น่าจะรู้อยู่แล้วจะมาถามทำเพื่อ ถ้าอยากทำก็ไม่ต้องถามดิ ง่ะ! ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย

    “อือ” ผมตอบมันแต่ไม่ยอมมองหน้ามันหรอก ตอนนี้ผมรู้น่าว่าผมกำลังหน้าแดงแค่ไหนกัน ผมทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าผมยอมมันเองน่ะสิ เป็นใครๆก็อาย บอกไม่ยอมแต่ไม่ขัดขืนซะงั้น

    “ถ้าเจ็บก็บอกนะ” มันบอกผมอย่างออ่นโยนแล้วเริ่มต้นกับหน้าที่ของมันต่อ แล้วใครมันจะไปกล้าบอกล่ะฟะ อายนะเว้ย บอกก็อดดิ เอ้ย!! ไม่ใช่

    “อะ...อื้อ..”

    พอๆ กลับสู่โลกของความเป็นจริงในเวลานี้ ผมมองกระจกอย่างอายๆ แหงล่ะ ตอนนี้หน้าผมแดงไปแล้ว ใครให้คิดเรื่องแบบนั้นล่ะ โอย ไม่ไหวจริงๆนะเนี่ย ผมอยากจะบ้าตาย ผมจัดการทำธุระส่วนตัวด้วยความยากลำบาก ผมเป็นคนเหมือนกันนะ ใครมันจะไปอึดขนาดไม่เป็นอะไรเลยล่ะ ชิ ตอนแรกว่าจะรอบเดียวจบม้วนแล้วผมจะได้พัก ดันเกิดมีมารมาขวางน่ะสิ ผมเลยไม่รอดเลยเห็นไหมล่ะ กี่รอบไม่รู้แหละ ไม่นับอ่ะ รู้แค่ว่าเล่นจนผมสลบจริงๆอ่ะ พอเถอะ ผมสลัดความคิดพวกนั้นออกจากหัวไป เดี๋ยวไอ้ฟุ้งซ่านอีก

    ผมลงมาชั้นล่าง พยายามมองหน้าเจ้าของข้อความที่มันบอกให้ผมลงมา ตอนนี้ผมอยู่ในชุดของผมแหละ เหมือนที่เคยบอก ผมมานอนที่นี่ออกบ่อย ไม่แปลกที่ชุดผมจะกองอยู่ที่นี่เยอะอยู่ ผมเดินไปจนเจอมันนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น บนไอ้โซฟาต้นเหตุตัวเมื่อวาน ไอ้เซนท์นั่งทำหน้าเครียด พร้อมกับบุหรี่ในมือ สัสเอ้ย ผมเกลียดบุหรี่ที่สุดเลย แต่มันก็ไม่ได้สูบบ่อยนะ เฉพาะเวลามันเครียดๆเท่านั้นแหละ และก็เวลาที่อยู่กับผมไม่มีสูบเลยล่ะ ผมนั่งอยู่อย่างนั้นสายตาจับจ้องไปที่โทรศัพท์เครื่องเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะ เอ่อ นั่นของผมเองแหละ

    “ทำไม นอนกับกูแล้วครียดเลยหรือไง” ผมว่ามันอย่างประชด อะไรวะ ทำหน้าเหมือนอยากตายงั้นแหละ ชิ ทำหน้าแบบนี้รู้งี้เมื่อคืนฆ่ามันทิ้งก่อนซะก็ดี

    “อ๊ะ มาแล้วหรอ” มันรีบเขี่ยบุหรี่ทิ้งทันทีเลยครับ ก็นะ มันรู้อยู่ว่าผมไม่ชอบนี่

    “แล้วทำไมมึงไม่ใส่เสื้อเนี่ย ไม่อายบ้างหรอวะ” ใช่เลย ไอ้บ้าเซนท์นี่ใส่แค่กางเกงขาสั้นตัวเดียวแล้วโชว์แผงออกที่มีกล้ามของมันอย่างไม่ปิดบัง

    “อายทำไม ก็มีกันแค่สองคน พูดอย่างกับไม่เคยเห็น” คำพูดนี่ฟังแล้วน่าเตะชะมัด

    “อย่ามากวนเฮ้ย ทำไม นั่งหน้าเครียด กูมันไม่เร้าใจเท่าเด็กมึงหรือไง” ไอ้เซนท์หันมามองผมอย่างปรามๆ ชิ อะไรวะ ไม่จริงแล้วทำหน้าเครียดทำเชี่ยอะไรล่ะ

    “เปล่า แค่มีเรื่องสงสัย” มันไม่เถียงตอบแฮะ เออ แปลกดีเหมือนกัน ผมเลือกนั่งลงบนโวฟาตัวเดียวกับมัน แค่ทิ้งระยะห่างเล็กน้อย ผมยังไม่อยากอยู่ใกล้มันไหรอกนะตอนนี้น่ะ ไอ้วันนั้นแค่นอนกอด ผมยังแทบอยากหนีหน้ามันไปไกลแล้ว ยิ่งเมื่อคืน เอ่อ...อ่ะนะ ยิ่งทำให้ผมไม่อยากอยู่ใกล้มันเข้าไปอีก ทำไมน่ะหรอ ไอ้เด็กบ้านี่ จอมฉวยโอกาสตัวพ่อเลย

    “สงสัยเชี่ยไร” มันหันหน้ามามองผมก่อนจะพูด

    “กราฟคือใคร” มึงมาทำหน้าเครียดเพราะแค่นี้อ่ะนะ ผมมากกว่าที่ควรจะเครียด ไอ้กราฟเนี่ยแหละ มารผจญล่ะ เมื่อคืนแทนที่ผมจะได้หลับสบายหน้อยหลังจากอย่างนั้นอ่ะนะ ไอ้เด็นรกแตกนี่ดันส่งข้อความเข้าเครื่องผมแบบไม่รู้เวลาอะไรกับเข้าบางเลย

    ฝันดีนะครับ พี่ไนน์คนสวย

    แค่นั้นแหละ พอไอ้เซนท์เห็น(มันแย่งจากผมไปเปิดดูแล้วอ่านอ่ะ) มันก็จัดการผมต่อแบบไม่หยุดเลย ผมเลยต้องมานั่งปวดอยู่อย่างนี้ไงล่ะ ไอ้ตัวซวยแท้ๆเลย

    “จะใครอีกล่ะ ก็คนที่มันลากกูออกไปด้วยเมื่อวานไง” พูดจบไอ้เซนท์ตวัดสายตามามองผมทันทีเลย คิ้วของมันขมวดเข้าหากัน เขื่อเลยว่าไม่มีเข้าใจ

    “ลาก?? หมายความว่าไง” ทีนี้เป็นมันที่ทำหน้าเหมือนจะตกใจ สงสัยคงเริ่มเข้าใจ

    “ก็มันยึดมือถือกูไป จะให้กูทิ้งหรือไง” เอ๊ะ เดี๋ยวนะมือถืออยู่ตรงหน้าไอ้เซนท์ เวรแล้วไง

    “เดี๋ยวนะ มึงค้นมือถือกูหรอ” ผมคว้าโทรศัพท์มาแล้วถามมันย่างระแวง

    “มึงใส่รหัสไว้แบบนั้นกูคงเปิดได้มั้ง” มันพูดแล้วทำหน้าเอือมใส่ผม เออ จริง

    “แล้วมึงเอามันมาทำไมล่ะ งั้นอ่ะ” ไม่ใช่ว่ามันโกหกผมนะ

    “กูเอามาเพื่อจะเปิดมันไงล่ะ” เออ นับถือความพยายามมึงจริงๆ

    “แล้วเปิดได้ไหม”  ผมถามมัน แต่มันกลับมองผมแบบแปลกๆ

    “ถ้าได้กูจะมานั่งจ้องมันงี้หรอ อย่าโง่ดิวะ” ได้ทีก็ด่ากูเลยนะ ไอ้เด็กกวนประสาท

    “เออๆ กูมันโง่นี่” โง่ที่ยอมมึงง่ายๆเนี่ยแหละ

    “แต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มึงบอกว่ามึงไปกับมันเพราะมันเอามือถือมึงไปงั้นหรอ”

    “เออ” ผมตอบมันไปแบบเน้นๆ แต่ไอ้เซนท์ดันยิ้มกริ้มแล้วเอื้อมตัวมาดึงผมเข้าไปหามัน

    “เฮ้ย เดี๋ยวเด้ อะไรมึงเนี่ย” ด้วยแรงฉุดทำให้ผมมานั่งกองอยู่บนตักมันแถมไม่พอโดนมันรวบตัวผมไปกอดเรียบร้อย อย่ามาคึกอะไรตอนนี้นะเว้ย

    “แล้วทำไมไม่บอกก่อนล่ะ แถมยังโกหกด้วย” มันถามผม เชี่ย ใกล้เกินไปแล้ว

    “แล้วมึงฟังกูไหมล่ะ.....เฮ้...ยิ้มเชี่ยไรมึง” ผมหันไปว่ามันที่นั่งยิ้มอยู่อย่างไม่สนใจผมเลย เฮ้ย กูกำลังพูดให้มึงสำนึกผิดที่ทำโทษกูโดนไม่ไต่สวนอยุ่นะ มายิ้มทำซากอะไรมึงล่ะ

    “อ๊ะ....อะไรมึงเนี่ย” ผมบ่นทันทีที่ไอ้คนที่นั่งยิ้ม อยู่ๆก็หอมแก้มผมซะดื้อๆเลยซะงั้น

    “นึกว่าเมียมีชู้ซะอีก” เอ่อ คิดอะไรของมึงเนี่ย  เมียมีชู้ เดี๋ยวนะ! ไอ้กราฟเป็นชู้

    “นี่มึงว่ากูเป็นเมียมึงหรอ” มันไม่ตอบแถมยังหัวเราะแถมมาด้วย ไอ้เวร

    “มาขนาดนี้แล้วจะเรียกว่าอะไรล่ะ” ไม่พูดเปล่า ไอ้เซนท์ให้มือของมันที่ดูจะว่างจัด เล่นลูบๆแถวๆสะโพกผมอย่างสนุกมือ จนผมต้องรีบจับไว้ก่อนที่มันจะมุดเข้าไปในเสื้อผมได้

    “ว่างมากหรือไงมึง” ผมหันไปถามมันอย่างหาเรื่อง

    “ตอนนี้ว่าง แต่อีกเดี๋ยวไม่แน่” ไอ้เซนท์ให้สายตาโลมเลียผมอีกแล้ว เดี๋ยวควักทิ้งเลยนี่

    “พอเลยมึง ไม่ต้องมาคึกอะไรตอนนี้ กูเหนื่อยเว้ย แค่เมื่อคืนก็จะตายแล้ว” ผมบ่นอุบเลย ไอ้มือปลาหมึกของมึงเนี่ย เก็บๆไปบ้างก็ได้ เยอะไปละ  หื่นเกินอ่ะมึง

    “อะไรอ่ะ ทีเมื่อคืนไม่เห็นขัดขืนอะไรเลยนี่ ยอมตลอด ไอ้เราก็นึกว่า.....” เว้นวรรคทำซากตึกอะไรมึงแบบนี้ฮะ คนฟังมันหวิวๆนะเฮ้ย

    “นึกว่าอะไร  พูดดีๆนะมึง” ไอ้เซนท์เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผมอย่างช้าก่อนจะกระซิบบอก

    “นึกว่ามึงชอบซะอีก” ไอ้เชี่ยเซนท์!!!

    “โอ๊ย! อย่ารุนแรงดิวะ สามีที่รักทั้งคนนะ” มันร้องโอดทันทีที่โดนศอกผมเข้าเต็มแรง

    “ที่ลักไปฆ่านะสิมึง อารมณ์เสียเว้ย ชิ แล้วนี่มึงไม่ไปเรียนหรือไง” ผมสะบัดตัวสุดแรงแต่ก็ไม่หลุดอยู่ดี อะไรวะเนี่ย อย่าให้กูได้แรงเยอะกว่าบ้างนะ จะเอาคืนให้หนักเลย

    “ไม่เอา โดด อยากอยู่กับเมีย” เหตุผลส้นตีนมากครับไอ้น้องรัก

    “เชี่ยไรมึงล่ะ แม่ง โดดโง่อ่ะมึง ไปเรียนเลยนะไม่งั้นได้เจอกูวันนี้วันสุดท้ายแน่”

    “เฮ้ย! ไม่เอา โหดไป” มันแย้งขึ้นมาทันทีเลยครับ คนอย่างผมถ้าตั้งใจหลบหน้ามันจริงๆ มันไม่เจอผมง่ายๆหรอก ยกเว้นว่าแค่ไม่อยากเห็นหน้าแบบที่ผ่านมาอ่ะนะ จะไปยากอะไรล่ะ แค่ให้ผู้ใหญ่ช่วยแค่นั้นแหละ ไอ้เซนท์ก็ไม่กล้าแล้ว

    “งั้นมึงก็ไปเรียนซะไป ไปเลยๆ คาบบ่ายมึงยังทันอยู่” ผมหันไปมองนาฬากาแล้วพูด

    “ไหงงั้นอ่ะ พึ่งได้กันแบบนี้ไล่ผัวตัวเองไปเรียนเนี่ยนะ” พูดมาได้ไม่อายปากเลยนะมึง

    “ถ้าผัวมันทำตัวเชี่ยแบบนี้กูมีชู้ยังดีกว่าซะอีก” ผมพูดประชดใส่มัน

    “ไม่เอานะ ถ้ามึงมีชู้ กูไม่ยอมจริงๆด้วย” ไอ้เซนท์พูดแล้วดิ้นเป็นเด็กงอแง โอย โตเท่าไรแล้วมึงเนี่ย เจียมอายุตัวเองซะมั่ง แม่ง ทำไปมันก็ เอ่อ น่ารัก แต่กูไม่ใจอ่อนเว้ย แล้วมึงอย่ามาดิ้นตอนกอดกูอยู่ได้ไหม อะไรๆของมึงมันโดนกูเนี่ย เอ๊ะ หรือมันตั้งใจให้โดน

    “งั้นก็ลุกไปเปลี่ยนชุดแล้วไปเรียน ” ผมยื่นคำขาดกับมัน แล้วพยายามแกะมือมันออก 

    “ก็ได้ๆ ใจร้ายชะมัด” ไอ้เซนท์ทำหน้าเบ้บ่นอุบแล้วปล่อยผมออกลุกยืน จากนั้นก็เดินทำหน้างอนขึ้นไปข้างบนแต่โดยดี มันว่าผมแต่ผมไม่ตอบมันหรอก แต่แค่ผมให้มันไปเรียนเนี่ยนะ ใจร้ายตรงไหนฟะ อยากงอนก็งอนไปเหอะ ไม่ง้อโว้ย ฮึ่ย!! ไอ้ตัวป่วน

    “นับวันยิ่งดื้อนะมึงเนี่ย” ผมบ่นเบาๆตามท้ายไป เฮ้อ เหนื่อยใจจริงๆเลย แม้ว่าเมื่อคืนเราสองคนจะ เอ่อ นะ แต่ผมก็ไม่อยากให้อะไรๆมันเปลี่ยนไปนี่นา เป็นปกติอ่ะดีที่สุดแล้ว บางสิ่งบางอย่างมันก็แค่ถูกเพิ่มเข้ามาในสิ่งที่อยู่ก่อนแล้ว ไม่จำเป็นว่าต้องเปลี่ยนแปลงเสมอไปนี่

     

     [Saint]

    ผมเดินขึ้นมาด้วยสีหน้างอนๆ แหงละ ทำไมทำกับผมแบบเดิมงี้ล่ะ มันน่าน้อยใจนะ แต่มันก็ดีเหมือนกัน แบบนี้ ก็ดีกว่าผมต้องเสียไอ้ไนน์ไป ผมกลัวมากเลยล่ะ ตอนที่บอกว่าจะทำมันน่ะ แต่ไปๆมาๆทำไมมันยอมผมะงั้นอ่ะ แม้จะไม่ค่อยเข้าใจแต่มันก็ดีแล้วล่ะนะ แต่ที่ยังสงสัยอย่างคือทำไมมันต้องในรหัสปิดเครื่องไว้ด้วย ผมว่าในนั้นต้องมีความลับอะไรแน่ๆ สักวันผมต้องรู้ให้ได้ มันคาใจอย่างบอกไม่ถูก ผมมองไปรอบห้องของตัวเองแล้วยิ้มออกมา อยากมีไอ้พี่ไนน์อยู่ด้วยกันกับผมทุกคืนเลย ผมหวังมากเกินไปไหมเนี่ย แต่ก็นะ ต่อจากนี้ไปก็ไม่แน่ หึหึ

    “อ๊ะ อะไรเนี่ย” ผมร้องออกมาทันทีเลยที่เห็นใครอีกคนกำลังนั่งรอผมในชุดที่ไม่เหมือนเมื่อกี้ ดูเหมือนจะไปเปลี่ยนชุดมาด้วยความเร็วสุดๆ แถมถือกุญแจรถเขี่ยโต๊ะเล่นไปมาด้วย

    “กว่าจะมานะมึง” ไอ้ไนน์ลุกขึ้นยืนแล้วเดินนำผมออกไป เฮ้ย เดี๋ยวนะ

    “เดี๋ยวก่อนๆ นี่อะไรมึงเนี่ย” ผทรีบแย้งก่อนที่มันจะเปิดประตูรถ

    “ก็ไปส่งมึงไง”  ไอ้ไนน์ตอบผมแล้วทำไหน้าแบบไม่เดือดไม่ร้อนอะไรเลย

    “ได้ไงล่ะ บังคับกูไปเรียนไปพอยังตามไปคุมกูอีกหรอเนี่ย เกินไปว่ะ”

    “ไม่เกี่ยวเว้ย กูมีธุระของกู ให้มึงไปเองแม่งก็ชิ่งหนีดิวะ” อ่าวนั้น ดันรู้ทันอีก

    “ไหงงั้นอ่ะ เมื่อคืนยังยอมกูทั้งคืนเลย ทำไมตอนนี้มาโหดงี้วะ” ผมแอบทันสังเหตไอ้พี่ไนน์สะดุ้งไปนิดหนึ่ง ก่อนที่หน้าจะเริ่มแดงเพราะความอาย แต่มันก็ชั่วขณะหนึ่งแค่นั้นแหละ

    “คะ...คนละเรื่องกันว่ะ” หึ ถึงกับไปไม่ถูกเลยหรือไงเนี่ย น่ารักจริง เมียใครวะ

    “เออๆ กูยอมมึงก็ได้ จะเห็นแก่เมื่อคืนละกัน” ผมพูดเหมือนว่าจำใจยอม

    “ไอ้เชี่ยเซนท์!!!!  นั่นไงล่ะ โดน เชี่ย กลับมาเลยทันที หึหึ ถ้าผมรู้ว่าไอ้ไนน์โดนแล้วจะกลายเป็นน่ารักแบบนี้ ผมไม่ปล่อยมให้มันรอดมาได้นานขนาดนี้หรอกน่า

    “ด่าคนอื่นเขาแล้วหน้าแดงเองเนี่ยนะ ไม่ไหวๆ” ผมแกล้งพูดแบบปลงๆ แล้วเดินผ่านไอ้ไนน์ไปที่รถ ปล่อยให้มันยืนโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว ก่อนที่มันจะเดินตามผมออกมา

    “ยืนเอ๋อทำเชี่ยไรล่ะ ขึ้นรถไป!” แหงะ ไหงโหดชิบหายเลยฟะ ผมมองตามไอ้ไนน์ที่เดินไปขึ้นรถ แล้วแอบลอบยิ้มออกมานิดๆ  รู้อยู่น่าว่าเขิน ไม่เห็นต้องโกรธบังหน้าเลย

    “จริงสิ อยากถามไรหน่อย ได้มะ” หลังจากรถออกตัวสักพัก ผมก็หันไปถามคนข้างๆที่กำลังนั่งเงียบๆจ้องเส้นทางข้างหน้าอยู่

    “ถ้าจะถามเรื่องเมื่อคืน ไม่ต้องถาม เพราะไม่ตอบ” ไม่ทันที่ผมจะได้อ้าปากถามอะไร ไอ้ไนน์ก็พูดดักคอผมขึ้นมาซะงั้น รู้ด้วยหรอเนี่ย

    “อ่าว ทำไมอ่ะ” เฮ้ ไม่ตอบไม่ได้นะ มันเป็นอะไรที่คาใจมากเลยตอนนี้

    “ไม่ตอบก็คือไม่ตอบ มันไม่มีอะไรทั้งนั้น จบไหม” ไอ้ไนน์พูดเสียงหนักแน่นบอกผม

    “ไม่จริง กูว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ อย่างมึงไม่มีทางยอมกูง่ายแบบนั้นแน่” ผมแอบเห็นไอ้ไนน์สะดุ้งไปนิดหน่อยกับประโยคพิฆาตของผม เมื่อคืนผมว่าจะลงโทษมันหนักๆหน่อยละนะ แต่อยู่ๆไอ้บ้านี่ก็ดันยอมผมง่ายๆซะงั้น ทำผมตกในจริงๆอ่ะ

    “สัส กูยอมก็บอกกูง่าย ทีกูไม่ยอมก็บอกกูเล่นตัว มึงจะเอายังไง” ไอ้ไนน์หันมามองผมเล็กน้อยแล้วหันกลับไปมองทางเหมือนเดิม ก่อนจะถามผมเสียงเข้ม

    “แค่นี้ทำไมต้องโกรธด้วยวะ ก็แค่อยากรู้” ผมดีใจนะ แต่เมื่อคืนไอ้ไนน์ยอมผมแบบนั้น แถมยังน่ารักสุดๆอีกด้วย แต่ผมว่ามันต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ๆ

    “ก็เรื่องที่มึงอยากรู้คือเรื่องที่กูไม่ตอบแน่ๆไง”

    “นั่นไงล่ะ แปลว่ามึงปิดบังอะไรอยู่ใช่ไหม” ผมพยายามตื้อเต็มที่ ผมต้องไอ้ไนน์พูดมาเองให้ได้เลยคอยดู ผมไม่มีทางปล่อยให้มันคาใจไปแบบนี้หรอก

    “ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องมาตื้อ คิดซะว่ากูเมา”

    “เมาเชี่ยไรมึงถึงขั้นเสียตัวเนี่ย ห๊ะ” มึงจะบอกว่าให้กูเลิกคิดเรื่องเมื่อคืนหรอ เกินไปว่ะ

    “แล้วใครเสีย กูเสีย มึงมีแต่ได้ แล้วจะมาเดือดร้อนแทนกูทำซากไรล่ะ”  ไอ้ไนน์เริ่มขึ้นเสียง อะไรวะ ผมรู้นะว่ามันทำกลบเกลื่อนไปเท่านั้นแหละ มันไม่ได้โกรธจริงหรอ

    “ก็...”

    “ไม่ต้องพูดเลยมึง ลงไปได้แล้ว!!” ไอ้ไนน์พูดแทรกก่อนผมจะพูดแล้วไล่ผมลงจากรถ

    “ชิ เออ ไปก็ได้เว้ย!!  

    ปัง!!

                ผมปิดประตูรถมันเสียงดังในขณะที่ไอ้ไนน์ขับรถออกไปอย่างเร็ว ผมมองตามไปอย่างไม่สบอารมณ์ ทำไมผมรู้สึกเหมือนโดนปั่นหัวเล่นเลยเนี่ย นี่ตกลงว่าเมื่อคืนคนที่ผมเห็นเป็นไอ้ไนน์แน่หรือเปล่าวะเนี่ย ทำไมมาเช้านี้มันคนละเรื่องเลยฟะ แถมยังมาทะเลาะกันหลังจากที่แบบนั้นกันอีกเนี่ยนะ ก่อนออกบ้านก็ยังดีๆอยู่แท้ๆ พอผมถามเท่านั้นแหละ ฮึ่ย! มีอะไรนักหนาวะ

                “โห่ ไรวะเนี่ย มึงมาสายขนาดนี้กูว่าอย่ามาเลยเหอะว่ะ” พอผมเดินขึ้นตึกมาก็เจอไอ้ตัวดีนี่เลย ไอ้วิคเตอร์ รู้สึกหลังๆมานี่ไอ้เวรนี่มันเก็บตัวแปลกๆนะ เหมือนจะไม่ค่อยออกสังสรรค์เท่าไร แถมยังออกแนวเป็นพวกขี้ระแวงอีกด้วย โดยเฉพาะโทรศัพท์ มีความลับอีกคนละไอ้นี่

    “ชิ คิดว่ากูอยากมานักหรือไง” ไอ้วิคเตอร์ที่กำลังจะเดินลงตึกเพราะตอนนี้พักเที่ยงพอดี ยังอุตส่าห์เดินตามไปส่งผมขึ้นตึกไปเก็บของอีกนะ เพื่อนรักตัวจริงเลยไอ้นี่ แต่ทำไมหลังๆมานี่ผมกลับรู้สึกสังหรณ์ใจว่ากำลังจะโดนแย่งเพื่อนยังไงไม่รู้  เอ๊ะ หรือผมคิดไปเอง

    “โดนพี่ไนน์บังคับมาอ่ะดิ” รู้ทันตลอด จนบางทีก็แทบอยากฆ่าทิ้งซะนี่

    “เออ แล้วมึงอ่ะ เมื่อวานรีบไปไหนนักวะ” ไอ้วิคเตอร์หยุดเดินไปเลยทันทีที่ผมพูดจบ แต่ผมทำเป็นไม่สนใจมันแล้วเดินต่อ เมื่อวานผมทันเห็นอาการลุกลี้ลุกลนของมันอยู่นะ

    “อะ เอ่อ คือ มีธุระด่วนน่ะ”  ไอ้วิคเตอร์ตอบผมเสียงเบา

    “แน่ใจ? เสียงมึงๆสั่นนะ มีอะไรหรือเปล่า” ผมวางกระเป๋าลงแล้วหันมาถามมัน

    “เปล่า ไม่มีอะไรจริงๆ มึงนี่คิดมากว่ะ” มันยิ้มให้ผมแทนแล้วตบบ่าผมเบาๆ ไอ้วิคเตอร์หันหลังเดินนำผมออกจากห้องไป เดี๋ยวนี้มึงพูดน้อยลงนะวิคเตอร์

    “หึ เออ เอาเป็นว่ากูจะไม่ถามมึงละกัน แต่ถ้ามีอะไรอยากพูดก็บอกกูได้นะ”

    “ขอบใจนะ” ไอ้วิคเตอร์พึมพำออกมาอยู่คนเดียว ถ้าไม่อยากให้กูได้ยินแล้วพูดทำเพื่อ

    “ห๊ะ มึงพูดเชี่ยไรมึงนะ” ผมบอกมันแต่มันกลับเดินกลับมาตบหลังผมแทน

    “คิดอะไรมึงอยู่เนี่ย คิดมากไปไม่ดีต่อสมองนะมึง” ไอ้วิคเตอร์พูด

    “โอ๊ย แล้วทำไมมึงต้องตีกูด้วย เจ็บนะเว้ย” เห็นตัวเล็กแบบนี้ก็เถอะแต่แรงเยอะชิบหาย

    “ฮะฮะ ก็มึงเสือกคิดอะไรไม่เข้าท่าเองนี่หว่า” ผมว่าตอนนี้คนรอบตัวผมต้องมีความลับอะไรกับผมแน่ๆเลย ไอ้ไนน์ก็คนหนึ่งละนะ นี่มาไอ้วิคเตอร์อีกหรอเนี่ย ทำไมแค่คืนเดียวทำคนเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียว คิดแล้วปวดหัวจริงๆเว้ย

    “เออจริงสิ วันนี้ถ้ามีคนถามถึงกู ให้มึงบอกว่าไม่รู้นะ” ไอ้วิคเตอร์พูดกับผมเสียงเครียด

    “ทำไมวะ พูดเหมือนมึงเจอเจ้าหนี้ตามฆ่าอย่างนั้นแหละ” ผมพูดติดตลกกับมันแต่ดูเหมือนมันจะไม่ตลกกับผมด้วยนะสิ สีหน้าเคร่งเครียดของมันทำเอาผมเครียดไปด้วยเลย

    “ถ้าเป็นอย่างที่มึงพูดก็ดีสิ” ไอ้วิคเตอร์พึมพำเสียงเบา

    “มึงว่าไงนะ” เดี๋ยวนี้พูดคนเดียวบ่อยจริงนะมึง

    “ไม่มีอะไร เอาเป็นว่ามึงทำตามที่กูบอกได้ไหม” ไอ้วิคเตอร์หยุดเดินแล้วหันมาขอร้องผม ผมมองหน้ามันแล้วตอบรับไปอย่างจนปัญญา

    “เออ ก็ได้ๆ แล้วบอกกูได้ไหมว่ามึงเจออะไรมาแล้วมึงจะไปไหน”

    “เอาไว้กูพร้อมแล้วจะบอกมึง แต่เรื่องที่วันนี้กูจะไปอยู่ไหนกูขอไม่บอกมึงละกัน”

    “อะไรวะ มึงไม่ไว้ใจกูหรือไง” ผมแอบพูดกับมันอย่างงอนๆ

    “กูไว้ใจมึงแน่ แต่ที่กูไม่ใว้ใจคือหัวใจมึงต่างจาก ถ้าคนที่ถามคือพี่ไนน์มึงจะฟังใคร”

    “อะเออว่ะ โทษทีๆ” ไอ้วิคเตอร์มันก็รู้หรอกน่า ว่าสำหรับผม ไอ้ไนน์สำคัญที่สุดอยู่แล้ว ถ้าไม่นับพ่อกับแม่ผมนะ มันก็จริงเหมือนที่มันพูด

     “แล้วไอ้ไนน์ไปเกี่ยวอะไรด้วยอ่ะ” คนอื่นถามผมไม่บอกแน่ๆ แต่ถ้าไอ้ไนน์ถามผมไม่รู้

    “ไม่รู้เหมือนกัน กูรู้สึกไม่ค่อยดี ตอนนี้กูไว้ใจใครยากว่ะ โทษทีนะ”

    “ไม่เป็นไรๆ” ผมพึ่งเห็นไอ้วิคเตอร์มีท่าทางหวาดกลัวแบบนี้เป็นครั้งแรกนะเนี่ย เบื้องหลังเรื่องนี้ต้องหนักหนาสำหรับมันพอควรแหงๆ ไม่งั้นมันไม่กลัวหรอก  

    “แค่นั้นแหละ ตกลงมึงทำได้ใช่ไหม”

    “เออ ได้ดิวะ กูเพื่อนมึงทั้งคนนะ” ผมพูดพลางตบบ่ามันอย่างสนิทสนม

    “ขอบใจ”แล้วไอ้วิคเตอร์ก็เลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องไปทันที เหมือนมันไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้สักเท่าไร มีความหลังไม่ดีมาแหงๆเลย แต่เห็นมีหน้ามันแล้วผมเลือกที่จะไม่ถามอะไรต่อดีกว่า

    พอเลิกเรียนมา เอาเข้าจริง ไอ้วิคเตอร์ก็ชิ่งหนีหายหัวไปไหนไม่รู้ของมัน เหมือนมันจะกลัวโดนตามมากเลยนะนั่น แต่ผมก็พอจะรู้อยู่แหละนะ มีไม่กี่ที่ๆมันจะไปได้หรอก ผมเดินลงตึกมาเงียบๆ ปกติจะมีไอ้ตัวกวนประสาทวิคเตอร์คอยยุให้ผมไปเที่ยวอยู่นั่นแหละ แต่ตอนนี้มันหายไปละ ผมเดินไปที่รถไอ้ไนน์ที่จอดรออยู่ วันนี้ไหงมาเร็ววะ ทีเมื่อวานละลืมกูเลยนะมึง

    “วันนี้มาเร็วนี่” ผมขึ้นรถมาก็ทักเข้าให้ ไอ้ไนน์หันมามองผมนิดหน่อย แบบนิดจริงๆอ่ะ

    “พูดเหมือนทุกทีกูมาช้างั้นแหละ” มันก็จริงนะ ไอ้ไนน์ไม่เคยมาช้าเลยเวลามารับผม หรือถ้ามีจริงๆมันก็จะโทรบอกผมก่อน ยกเว้นเมื่อวานอ่ะนะ

    “เฮ้ๆ ทำไมทำหน้างองั้นล่ะ ยังไม่หายโกรธอีกหรือไง”

    “เปล่า กูปวดหัวนิดหน่อยน่ะ” ไอ้ไนน์พูดแล้วยกมือข้างหนึ่งจับหัวตัวเองไปด้วย

    “เฮ้ย กูไม่เกี่ยวนะ” ผมทำท่าบอกปัดแต่ไอ้ไนน์กลับหันมาค้อนใส่ผมซะงั้น

    “กูไม่สบายก็เพราะมึงนั่นแหละ ไอ้เด็กเลว” ไอ้ไนน์หันมาด่าผม ทำเอาผมงงไปเลยทันที

    “อะไรวะ กูได้ไปทันทำอะไรมึงเนี่ย” ผมบอกมันแต่มองค้อนผมหนักกว่าเดิม จนผมเริ่มเอะใจกับตัวเอง ไม่น่าจะนะ ถึงกับไม่สบายเลยนี่ก็เกินไปไหมเนี่ย

    “อย่าบอกนะว่าเพราะเมื่อคืนน่ะ” ผมถามมันอย่างมีความหวังว่าไม่ใช่เพราะผม

    “แล้วมันจะมีอะไรอีกล่ะ” ไอ้ไนน์ตอบผมตรงๆ เล่นเอาผมต้องรีบพูด

    “เฮ้ๆ เมื่อคืนกูไม่ได้รุนแรงกับมึงซักนิดเลยนะ” เมื่อคืนผมออกจะอ่อนโยนนะ

    “เออ มึงไม่รุนแรง แต่กี่รอบกันวะ ห๊ะ!! แม่ง ปวดทั้งตัวเลยไอ้เวรเอ้ย!!

    “แล้วไหวไหมเนี่ย” ผมถามอย่างเป็นห่วง เอาไงได้ นี่เป็นเพราะผมจริงๆใช่ไหมเนี่ย

    “ยังไม่ตายว่ะ มึงนั่งเงียบๆไปเหอะ” และในขณะที่กำลังจะออกรถไปนั่นเอง อยู่ๆเสียงโทรศัพท์ของไอ้ไนน์ก็ดังขึ้นมาก่อน

     ว่าไงพาสหืม ไอ้พาสต้างั้นหรอ โทรมาทำไมวะ

    อ่า อืมๆ โรงเรียนหรอ เลิกแล้วนี่

    อ่าวหรอ อยากเจอหรือไง

    ไม่รู้นะ ไอ้เซนท์คงรู้อยู่มั้งนั่น คุยกันอยู่สองคนแล้วมาเกี่ยวอะไรกับผมเนี่ย

    ก็ได้ เดี๋ยวถามให้ แล้วจะโทรกลับนะ

    ‘.....’ ไอ้ไนน์วางสายไปแล้วหันมาหาผมแทน

    “มีอะไรอีกล่ะ ทำหน้าเครียดๆ” เรื่องของมึงคุยกันสองคน มาเครียดใส่กูทำไม

    “เซนท์....”  มันถามผมเสียงเรียบ

    “อะไร” ผมเริ่มเห็นลางไม่ดีลอยมาอยู่ตรงหน้ายังไงก็ไม่รู้สิ คงไม่เหมือนที่คิดนะ

    “กูขอถามมึงนะ” สีหน้าแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ นี่พวกมึงสองคนคุยอะไรกันเนี่ย

    “ว่า...”

    “ไอ้วิคเตอร์อยู่ไหน”  เวรแล้วไงกู!

    เชี่ย!!! ไอ้วิคเตอร์  มึงแม่นเกินไปแล้ว



    **********************************************************


    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะครับผม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×