ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My wife ขอโทษที คนนี้เมียกู [END]

    ลำดับตอนที่ #14 : .....My wife.....{14}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.4K
      19
      10 มี.ค. 55

    .....My wife.....{14}

     

       [Victor]

    “กูต้องการมึง!!” ผมนิ่งอึ้งไปกับประโยคของไอ้พาสต้าที่ตอบคำถามของผมมา สายตาที่มองมาดูเคร่งเครียด ราวกับว่ามันไม่ใช่แค่การพูดเล่นๆ

    “มะ..มึงว่าไงนะ” ผมถามย้ำอีกครั้งอย่างติดขัด ใช่ว่าจะไม่ได้ยินแต่อยากให้มันไม่จริงมากกว่า ทำไมผมถึงรู้สึกแปลกๆล่ะเนี่ย ผมหวังว่ามันจะเปลี่ยนคำพูดนะ

    “หึ ให้กูพูดอีกสิบรอบกูก็จะตอบเหมือนเดิมว่ากูต้องการตัวมึงนั่นแหละ” ไอ้พาสต้าพูดเน้นอย่างชัดเจน นี่มันคิดอะไรของมันอยู่กัน

    “ทะ...ทำไม” แทนที่ผมจะพูดโต้กลับไป   กลายเป็นผมเลือกที่จะถามคำถามแทน

    “มันต้องมีเหตุผลด้วยหรือไง” มันตอบกลับมาอย่างกวนๆ เพราะควาไม่มีเหตุผลของมึงเนี่ยแหละที่จะทำกูเป็นบ้าน่ะ ทำอะไรแม่งไม่เคยสนใจคนอื่นอ่ะ

    “มึงต้องบ้าแล้วแน่ๆ” เสียงสะอื้นของผมหายไปเพราะความตกใจกลายเป็นเสียงปกติ

    “ถ้าจะบ้าก็เพราะมึงแหละสัส หัดทำตัวดีๆไม่ได้หรือไงวะ แม่ง” อ่าว เชี่ยเกี่ยวอะไรกูล่ะ 

    “มึงก็แค่อยากแก้แค้นแค่นั้นแหละ” มันเป็นข้อสรุปที่ดูมีเหตุผลมากที่สุดแล้ว

    “จะคิดงั้นก็เรื่องของมึง ยังไงซะมึงก็ต้องเป็นของกูอยู่ดี” ไอ้พาสต้าพูดแล้วยิ้มเยาะใส่ผม ผมไม่เข้าใจเลยว่ามันจะมาอะไรกับผมนักหนา ทั้งๆที่ผมแค่แย่งแฟนมันเนี่ยนะ  

    “ไอ้สัส มึงคิดจะทำอะไรกันแน่” ผมถามมันออกไปอย่างระแวง ท่าทางของมันในวลานี้มันน่ากลัวยิ่งกว่าสถานการณ์ล่อแหลมบนเตียงตอนนี้เสียอีก

    “ทวงสิทธิของกูคืนไง” มันตอบผม ผมไม่เข้าใจมันจริงๆนะตอนนี้น่ะ

    “สิทธิเชี่ยไรมึง” ไอ้พาสต้ายิ้มเยาะก่อนจะตอบออกมา

    “สิทธิการเป็นเจ้าของมึงไงล่ะ!!  ร่างสูงตอบเสียงหนัก ก่อนจะก้มลงมาใช้จมูกโด่งของมันคลอเคลียอยู่ที่แก้มผม แล้วเลื่อนต่ำลงไปซุกไซร้ที่ซอกคอของผม มือหนาเริ่มลูบไล้ไปตามร่างกายผมอีกครั้ง ความรู้สึกแปลกๆ แล่นซ่านไปทั่วร่างกาย มะ..ไม่มีทาง ผมจะไม่ยอมมันแน่

    “อื้อ ไอ้เชี่ยพาส!!! หยุดนะ” ผมร้องบอกให้อีกคนหยุดการกระทำอุกอาจนั้น แต่เหมือนอีกคนจะไม่สนใจกับคำขอนั้นเลย แถมมือสากของร่างสูงตอนนี้เริ่มสอดเข้ามาใต้เสื้อผมแล้ว  

    “อ๊า....พะ...พาส” มือหนาที่ลูบไปตามร่างกายบางใต้เสื้อนักเรียน ความรู้สึกที่กระจายทั่วทำเอาผมถึกับพูดชื่อของไอ้วายร้ายที่กำลังลวนลามผมอยู่ตอนนี้ออกมา

    “หือ ว่าไง” มันเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมแล้วยิ้มให้ผมอย่างล้อๆ นี่มันตั้งใจให้ผมกลายเป็นแบบนี้ใช่ไหม ถึงได้มองหน้าผมแบบนี้เนี่ย

    “กูเกลียดมึง” ผมพูดกับมันเสียงหอบ ตอนนี้ผมแทบไม่มีแรงแล้วเสียด้วยซ้ำ 

    “แล้วไงล่ะ”  มันตอบกวนผมกลับ แม้ในเวลานี้เท้าผมจะว่างและเป็นอิสระ เพาะมันแก้มัดให้ผมตั้งแต่มันโยนผมขึ้นเตียงมานี่แล้ว แต่ผมกลับทำอะไรมันไม่ได้เสียงอย่างนั้น

    “สนุกมากหรือไง”

    “หึหึ อย่าพูดแบบนั้นสิ สนุกคนเดียวมันจะไปได้อะไร” ถ้าชีวิตนี้ผมต้องการฆ่าใครมากที่สุดนี่อย่ามาถามผมเลย ต้องเป็นไอ้เวรพาสต้าที่มันกำลังกวนประสาทผมตอนนี้คนเดียวแหละ

    “งั้นก็ปล่อยกูซะ” ผมพูดกับมันเสียงเฉียบ

    “เอะอะก็ให้กูปล่อย ทั้งๆที่มึงก็ต้องการเนี่ยนะ” ไม่พูดเปล่าไอ้พาสใช้มือลูบไปตามต้นขาผมอย่างสนุกมือ แม้จะมีกางเกงกั้นอยู่แต่มันก็แทบไม่ช่วยอะไรเลย

    “อ๊ะ  ปะ...ปล่อยนะ” ผมถึงกับบิดตัวหนีแต่มันกลับจับขาผมไว้ แล้วพูด

    “เห็นไหมล่ะ ปากไม่ตรงกับความเป็นจริงเลยนะมึงน่ะ” มันพูดแล้วเลื่อนตัวมาหอมแก้มผม โธ่เว้ย!! ทำไมผมถึงต้องเป็นรองไอ้บ้านี่ตลอดเลยล่ะ

    “เออ เอาเลย มึงอยากทำอะไรก็ทำ สนุกมากนักนี่ รังแกคนที่สู้ไม่ได้นะ” ผมพูดท้าทายมันออกไปอย่างเหลืออด เอาสิ เสียตัวมาครั้งหนึ่งแล้ว จะโดนอีกสักครั้งก็ไม่เห็นเป็นไร

    “คนที่ควรจะพูดคำนั้นคือกูมากกว่านะ” ไอ้พาสต้าทำหน้าตึงทันทีที่ผมพูดจบ แรงบีบที่ข้อมีทำให้ผมถึงกับนิ่วหน้า อะไรของมันเนี่ย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย

    “โอ๊ย เจ็บนะ” ผมร้องออกมา ไอ้พาสจึงยอมลดแรงลง พอเห็นหน้ามันแล้วผมถึงกับคิดได้ เวรแล้วไง ในวันนั้นที่ผมรุมกระทืบมัน สภาพมันก็ไม่ต่างจากผมตอนนี้หรอก คำร้องขอที่ไร้ผล มีเพียงความสะใจบนความเจ็บปวดของคนอื่น

    “มึงนี่ทำไมร้องรนหาที่เจ็บตัวตลอดเลยวะ” มันถามผมอย่างหน้าด้านๆ

    “แล้วไม่ใช่เพราะมึงหรือไงที่คอยแต่ทำกูอ่ะ กูเจ็บตัวก็ฝีมือมึงทั้งนั้นแหละ” จากตอนแรกที่ผมร้องไห้เพราะมันมาตอนนี้ผมไม่คิดจะมันแล้ว คำพูดล้อเล่นของมันยิ่งทำให้ผมเกลียดมัน ผมไม่คิดที่จะร้องขอมันอีกแล้ว อย่าคิดว่าคนอย่างไอ้วิคเตอร์จะยอมโดนอยู่ฝ่ายเดียวล่ะ

    “มึงเจ็บแม่งก็หัดจำบ้างสิวะ ทำตัวดื้อด้านอยู่ได้”

    “สัส กูไม่ได้โง่นะ ถึงต้องมายอมมึงอยู่ฝ่ายเดียวเนี่ย” ตอนนี้มึงคิดจะแรงมากูก็แรงกลับได้อ่ะ เพราะคำพูดมันแท้ๆเลยเชียว ใครกันแน่ที่ทำตัวไม่ดีน่ะ

    “กูว่า สงสัยคงคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว แบบนี้น่ะ” มันพูดแล้วทำสายตาเตือนผม

    “กูก็ไม่รู้เรื่องกับมึงมาตั้งแต่แรกแล้ว“ แต่คนอย่างผมไม่ยอมหรอก ไอ้พาสลุกออกไปจาก ทำให้ผมรีบเด้งตัวขึ้นมาทันที แล้วมองมันอย่างงงๆ บทมันจะไปก็ไปแม่งง่ายๆงี้เลยหรอ แต่ผมกลับต้องผิดคาด เมื่อมันไปค้นอะไรบางอย่างในลิ้นชัก โดนหันหลังให้ผมแล้วถือเดินกลับมา

    “อะไรของมึง” ผมถามมันอย่างระแวง ผมเชื่อคงไม่ใช่อะไรที่มันจะธรรมดาสามัญแน่ๆ

    “อะไรก็ได้ที่ทำให้มึงคุยกับกูรู้เรื่องได้ไงล่ะ” รอยยิ้มอย่างน่ากลัวฉายชัดขึ้นบนใบหน้าหล่อนั่น ผมจ้องมองไปยังมือที่กำอยู่ของมันอะไรบางอย่างที่อยู่ในนั้นล้วนไม่น่าไว้ใจ

    “ไอ้พาส!!” ผมพอจะเดาออกแล้ว แต่ผมว่ามันคงไม่น่าจะใช่หรอก

    “หึ อยากดื้อด้านดีนักก็ช่วยไม่ได้” ใบหน้าหล่อเปลี่ยนเป็นใบหน้าท้าทาย เหมือนมันจะยั่วโมโหผมมากกว่า มันมีอะไรที่มัน่ใจนักหนาว่ามันจะจัดการกับคนอย่างผมได้เนี่ย

    “ถ้ามึงไม่ชอบแล้วมายุ่งกับกูก่อนทำไมล่ะ” ผมถามมันออกไป หาว่าผมดื้อบ้างล่ะ ง้องแง้งบ้างล่ะ ก็ถ้ามันไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้มันจะมายุ่งกับผมแต่แรกทำไม

    “ก็แค่อยากยุ่ง มึงมีปัญหาอะไรหรือไง” ไอ้พาสต้ายื่นหน้าเข้ามาใกล้จนผมต้องขยับหนีมัน แล้วตอบคำถามผมแบบกวน สัสเอ้ย มึงตอบแบบนี้มึงอย่าตอบเลยเหอะ

    “เออ มี มีที่กูเดือดร้อนเนี่ยแหละ” ผมกวนมันกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ แต่มันกลับยิ้มกริ่ม

    “เห็นไหมล่ะ บอกแล้วว่ากูกับมึงต้องคุยกันหน่อย ต่างคนต่างมีปัญหา จริงไหม”

    “ไม่เกี่ยวเหอะว่ะ เรื่องของมึงเกี่ยวเชี่ยไรกู” มึงจะเหมารวมไปเองว่ากูอยากคุยกับมึงหรอไง เกินไปไหม ทึกทักเอาเองแบบนี้แม่งสันดานสุดๆอ่ะ

    “เดี๋ยวก็รู้” คนตรงหน้าส่งสิ่งที่พึ่งไปหยิบมาเมื่อกี้เข้าปากตัวเองไปอย่างช้าๆ เหมือนอยากให้ผมเห็นว่ามันคืออะไร และเป็นอย่างที่คิดไว้ มันไม่ใช่เรื่องดีจริงด้วย

    “ไอ้เชี่ยเอ้ย!!” พอเห็นเท่านั้นแหละผมถึงกับต้องถอยหนีแล้วพยายามลงจากเตียงทันที แต่ไปได้ไม่เท่าไรก็โดนแรงจากอีกคนกระชากเข้าหาตัว แล้วบดจูบอย่างแรงลงบนกลีบปากบาง

    “อุ๊บ....อื้อ...” มือที่ถูกมัดทำให้ผมทำอะไรไม่ได้มาก แต่ก็ใช้ความพยายามเท่าที่มี ทุบอกไอ้พาสต้าให้มันปล่อยผมไป แต่มันกลับไม่มีประโยชน์เลย ลิ้นหนาดันเม็ดยาแปลกปลอมเข้าไปในโพรงปากผม มือข้างหนึ่งของไอ้พาสรั้งท้ายทอยผมไว้ ส่วนอีกข้างที่ดุงผมเทื่อกี้เลื่อนมาบีบปากผมแทน ด้วยจูบที่ร้อนแรงและผมกำลังจะหายใจไม่ออก ผมใช้แรงที่มีผลักอีกคนออกอย่างแรง เมื่อจูบถูกถอนออกไปผมกลับลืมตัวกลืนมันลงไปเสียอย่างนั้น

    “สุดท้ายก็กลืนไปจนได้สิน่า” ไอ้พาสยิ้มเยาะเย้ยผม

    “มึงเอาอะไรให้กูกิน!” แม้จะรู้ๆอยู่ แต่ผมอยบากถามเพื่อความมั่นใจ

    “ก็น่าจะรู้นะว่ามันคืออะไร พูดเหมือนมึงไม่เคยใช้ หึหึ” ใช่ ผมอาจจะเคยให้บ้าง แตจ่มันต้องไม่ใช่ในเวลาแบบนี้สิ เวลาที่ผมกำลังเป็นคนที่เสียเปรียบแบบนี้

    “ไอ้สารเลว” ผมกัดฟันด่าไอ้คนตรงหน้าออกมา ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าจะด่ามันว่าอะไรแล้ว

    “ด่าไปเหอะ เดี๋ยวก็รู้ว่าใครแน่กว่ากัน” เพราะมันไม่คิดที่จะสำนึกเลยนี่สิ แถมยังเห็นเป็นเรื่องสนุกเสียด้วย ทำไมชีวิตผมต้องมาเจอกับคนแบบนี้ด้วยเนี่ย จะขยับหนีไปไหนก็ไม่ได้แล้วด้วย ที่แค่นี้ยังไงก็ไม่มีทางพ้นไปได้ง่ายแน่ๆ

    “เฮ้ย ปล่อยนะเว้ย!!” ผมร้องออกมาทันทีที่มันรวบตัวผมเข้าไปกอด แผ่นหลังของผมชนเข้ากับอกแกร่งของมัน แขนสองข้างรวบผมไว้กับตัวมันอย่างแน่นหนา

    “อย่าดิ้นเลยเหอะวิคเตอร์ เดี๋ยวก็ได้สนุกเต็มที่แล้ว” ผมพยายามดิ้นเต็มแรงภายในอ้อมกอดแน่น แต่มันก็ไม่เป็นผล เพราะผมเป็นคนตัวเล็กด้วยแหละ ไอ้บ้าพาสต้านี่กอดทีก็รวบผมได้หมดทั้งตัวเลย ขยับก็ไม่ได้ แต่มันต้องมีทางสิ ผมต้องหนีไปให้ได้ก่อนที่ยาบ้าๆนั่นจะออกฤทธิ์

    “มึงจะอะไรกับกูนักหนาวะ” ผมถามมันออกไป รำคาญเต็มทนแล้วนะ

    “หึ ไม่รู้ว่า แค่แกล้วมึงแล้ว ...สนุก” ไอ้เวรพาสต้าตอบผมมา แถมไม่พอยังเน้นคำสุดท้ายให้ผมได้ยินชัดๆอีกด้วย มึงจะตอกย้ำกูไปไหน

    “แค่เนี้ยนะ เหตุผลของมึงอ่ะ” ที่มึงทำกับกูมาขนาดนี้ แค่มึงอยากสนุก  แค่นี้อ่ะนะ

    “เอ้า กูไม่ตอบก็ว่ากู พอตอบก็แม่งไม่พอใจอีก เรื่องมากจริงนะมึงเนี่ย” มันบ่นออกมา เหมือนจะเนื่อยใจกับผม ไอ้เชี่ย กูต่างหากที่ควรจะเหนื่อยใจมึงนะ

    “อ๊ะ...” ผมส่งเสียงร้องออกมาแปลกๆ เพราะตอนนี้ดูเหมือนไอ้ยาบ้านั่นเริ่มจะส่งผลแล้ว

    “อ้าวๆ ไม่ต้องรีบร้อนๆ ยังไงภายในก็คืนนี้แหละว่ะ ” มันพูดแล้วมองมาที่ผมอย่างเหนือกว่า แต่ทั้งๆที่มันบอกไม่รีบร้อน แต่มือของมันกลับเริ่มลวนลามผมแล้วเนี่ยนะ

    “เนอะ ว่าไงล่ะ” ไอ้พาสต้ากระซิบถามอย่างยั่วๆที่ข้างหูผม กับมือที่ตอนนี้เริ่มเลื่อนต่ำลงมาเกาะเข็มขัดผม มือหนาพยายามปลดมันออกจากกางเกงนักเรียนผม

    “หยุดนะเว้ย!!” สายเข็มขัดถูกดึงออกจากกางเกงผมอย่างช้าๆ ปลายจมูกของมันเริ่มซุกไซร้อยู่ที่คอผมอย่างแผ่วเบา ในขณะที่ภายในร่างกายผม กลับพยายามที่จะตอบรับมันซะงั้น ทั้งๆที่จิตใจกำลังขัดขืนอย่างสุดชีวิต ทำไมร่างกายผมเองมันกลับทำงานไม่เข้ากันเนี่ย

    “ไม่เห็นต้องฝืนเลย” เสียงพูดเบาๆยังคงกรอกหูผมอยู่อย่างนั้น ไม่ฝืนแม่งกูก็เสียตัวให้มึงอีกดิวะ  ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว สำหรับคนอย่างมึงน่ะ

    “ไม่ฝืนกูก็ควายแล้ว อื้อออ..” ทำไมร่างกายผมมันร้อนแบบนี้เนี่ย มึงจะทรยศกูให้ได้จริงๆใช่ไหม ไอ้ร่างกายเฮงซวยเอ้ย

    “ทั้งๆที่ร่างกายมึงออกจะต้องการขนาดนี้เนี่ยนะ”

    “อ๊า..อย่านะเว้ย!! ไม่เอา” ผมร้องออกมาทันทีที่ไอ้พาสต้าปลดตะขอกางเกงนักเรียนผมออกแล้วสัมผัสกับส่วนนั้นของผม ร่างกายผมถูกรวบแน่นกว่าเดิมเพื่อไม่ให้ขัดขืนได้ มือหนาปัดป่ายไปมาทำเอาผมต้องพยายามบิดตัวหนี ไม่ไหวแน่ เป็นแบบนี้ต่อไปผมต้องยอมมันเองแหงๆ

     

    [Pasta]

    ไอ้ตัวเล็กดิ้นบิดตัวไปมาเพราะถูกผมกระตุ้น ถ้ารอฤทธิ์ยาอย่างเดียวมันจะไปสนุกอะไรล่ะ มันต้องมีตัวช่วยหน่อย ไม่รู้เหมือนกันว้าป็นอะไร แต่ดูเหมือนผมจะชอบแกล้งไอ้เด็กที่สุดๆเลยล่ะ สีหน้าตอนมันพยายามฝืนตัวเองนี่น่ารักชะมัด จะว่าผมโรคจิตก็ได้นะ แต่ว่าแค่ตอนปกติมันก็น่ารักแล้วนะ  ยิ่งในเวลาแบบนี้ยิ่ง ... หึหึ  ใครมันจะไปอดใจไหวล่ะ

    “อื้อ..” เสียงร่างบางที่กำลังฝืนตัวเองดังออกมา นับถือจริงๆเลย อะไรจะขนาดนั้นก็ไม่รู้ ยอมๆไปซะไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ไม่ใช่ครั้งแรกของมันเสียหน่อย

    “จะดื้อไปถึงไหนเนี่ย มึงอ่ะ” ผมปรามมันเบาๆ ถ้าคนในอ้อมกอดผมตอนนี้ไม่ใช่ไอ้วิคเตอร์แล้วทำตัวดื้อแบบนี้นะ โดนผมเตะโด่งออกนอกห้องไปนานแล้ว เป็นมันเฉยๆเหอะ

    “มึงก็ปล่อยกูสักทีสิวะ”

    “ถ้าปล่อยจริงๆ คนที่จะทรมานคือมึงมากกว่ามั้ง” ยาแม่งลงท้องไปแล้วยังคิดว่ามึงจะรอดคืนนี้ไปได้ง่ายๆหรือไงล่ะ ความอดทนมากไปก็ไม่ดีนะ

    “กูยอมเหอะ ดีกว่าต้องมาเจอกับมึงละกัน” ที่ปากเก่งแบบนี้ได้เพราะผมไม่สัมผัสมันแล้วเฉยๆเถอะ ไม่งั้นมันก็ร้องครางอย่างเดียวแล้ว

    “หึ โดนกระตุ้นนิดเดียวก็ร้องแบบมึงเนี่ยนะ ให้กูช่วยดีกว่ามั้ง” ผมพูดแล้วจับส่วนนั้นอีกครั้ง ทำเอาไอ้ตัวเล็กถึงกับบิดตัวเลยทีเดียว ดิ้นก็ไม่ได้ ยิ่งดิ้นก็ยิ่งโดนมือผมน่ะสิ

    “มะ...ไม่ มีทะ.ทาง อื้ออออ  ปะ..ปล่อยดิวะ” ยังไงๆผมก็ได้เปรียบอ่ะ มันดิ้นมือผมก็โดนมัน มันบิดตัวแม่งก็อ้อมกอดของผมเต็มๆอ่ะ  ไอ้เด็กนี่จะตัวหอมไปไหนวะ

    “หึ น่ารักจริงๆเลยมึงเนี่ย” ผมพูดล้อมันเล่นๆเสียงแผ่วเบาข้างใบหู แต่ทว่า

    “เฮ้ยๆ หน้าแดงเลยหรอวะ เขินกูจริงอ่ะ” อึ้งเลยครับ ผมเห็นหน้าไอ้วิคเตอร์แดงขึ้นนิดๆ แม่ง เอาจริงอ่ะ ถ้าเขินจริงนี่กูดีใจตายห่า นี่กูกอดคนหรือลูกแมววะ น่ารักสัสๆ

    “เขินพ่องมึงดิ!!! ไอ้สารเลวเอ้ย! อื้อ...”

    “อ่าวๆ ไอ้เชี่ยนี่อยากลองดีละ เล่นแรงนะมึงอ่ะ” คำพูดแม่งไม่เข้ากับหน้าจริงๆอ่ะ ก็พอรู้แหละว่ามันไม่ได้เขินผมจริงๆหรอก แต่เป็นเพราะยานั้นต่างหากล่ะ

    “ระ..เรื่องของมึงดิสัส ปล่อยมือนะเว้ย ” มือเล็กของมันพยายามจับมือของผมออกจากส่วนอ่อนไหวของมัน แต่ผมก็รวบกลับมาทันที ปากเก่งแบบนี้ต้องสั่งสอนกันก่อนละ

    “อุ๊บ...อื้อ..” ผมจับหน้าเล็กๆนั่นให้หันมาแล้วประทับริมฝีปากลงไป ว่าจะรอยาออกฤทธิ์เต็มที่ก่อนละนะ แต่แกดีแบบนี้ต้องจัดการก่อนเลยละกัน  ยิ่งจูบนานไอ้วิคเตอร์ยิ่งเริ่มหมดแรง ตัวเองก็ใช่ว่าจะมีแรงเหลือนะ สู้จนโอกาสสุดท้ายจริงๆมันเนี่ย พอผมถอมจูบ ไอ้วิคเตอร์ถึงกับหอบหายไปแฮกกันเลยทีเดียว แถมยังไม่มีแรงพอจะตีจะด่าผมอีกด้วยนะ แต่เห็นมันแบบนี้แล้ว

    “วิคเตอร์  กูว่าเลิกเล่นเหอะว่ะ” ผมพูดออกมาแล้วจับไอ้ตัวเล็กพลิกตัวแล้วกดลงกับเตียง ไอ้วิคเตอร์เบือนหน้าหนีทันทีไม่ยอมสบตาผม ปากเปิดออกเพื่อช่วยหายใจ

    “หลบหน้ากูทำไมมึงอ่ะ” อย่าคิดว่าไม่เห็นนะ ตาแม่งเคลิ้มอ่ะ ยาคงออกฤทธิ์เต็มที่แล้วล่ะสิ ไหมนจะร่างกายเล็กๆมันที่บิดเต็มที่นี่อีก เหมือนพยายามข่มอะไรบางอย่างไว้

    “เรื่องของกู อ๊ะ...ปะ..ปล่อยกูนะ” เสียงไม่แข็งกร้าวแล้ว แต่ว่านะ แม่ง ทำเสียงอ่อนแบบนี้มึงจะห้ามหรือจะยั่วกูเหอะ ถามจริงๆ เสียงอ่อยเกินไปละ

    “พูดอะไรไม่สนโลกเลยนะมึงเนี่ย ทั้งๆที่ต้องการขนาดนี้อ่ะนะ” ไอ้วิคเตอร์ร้องบอกให้ผมปล่อย เพราะผมเล่นกางขาของมันที่รวบกันอยู่ออก เล่นข่มอาราณ์ตั้งขนาดนั้นมึงไม่ทรมานตายเลยหรอไงวะ ไม่เข้าใจไอ้เด็กนี่จริงๆเว้ย!!

    “ยะ..อย่านะ กะ...กู ขอร้อง” จะว่าไปยานี่ก็แรงจริงนะะ ขนาดไอ้ตัวร้ายอย่างวิคตอร์เจอเข้าไปยังอ่อนแรงได้ขนาดนี้เลย ผมคงไม่ได้ทำเกินไปหรอกใช่ไหม

    “มาถึงขนาดนี้แล้วยังจะพูดแบบนี้อีกนะมึง” ผมถอดกางเกงนักเรียนของมันออกในขณะที่มันไม่เหลือแรงจะขัดขืนผมแล้ว ได้แต่ร้องห้ามผมอย่างเดียว

    “ไม่เอานะ อ๊า...อื้อ..” ผมเลื่อนตัวแล้วบดจูบลงบนกลีบปากบางทันที ผมว่าถ้ารอต่อไปแม่งทรมานทั้งคู่อ่ะ คนหนึ่งก็เพราฤทธิ์ยา ส่วนผมจะไม่ไหวเพราะแรงยั่วมันเนี่ยแหละ

    “ทะ...ทำไมมึง ตะ..ต้องทะ..ทำแบบนี้ด้วย” มันใช่แรงเค้นเสียงออกมาถามผมพร้อมกับแววตาขอร้อง มันคงรู้ตัวแล้วล่ะว่ามันไม่มีแรงเหลือพอแล้ว

    “โทษที กูไม่มีเหตุผลว่ะ เพราะเป็นมึงไอ้วิคเตอร์กูถึงทำแบบนี้” ผมตอบไปตรงๆ เพราะเป็นมันผมถึงทำ ถ้ากับคนอื่นผมก็ไม่ตื้อแม่งขนาดนี้หรอก ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร

    “กะ....กู กะ..เกลียดมึง” มันพูดครับ ประโยคคลาสสิกจริง ฟังจนเบื่อแล้ว

    “กูรู้ แล้วไงล่ะ พูดว่าเกลียดแล้วกูจะปล่อยมึงหรือไง”

    “อะ..ไอ้” ร่างกายต้องการสุดๆแล้ว ยาแกฤทธิ์เต็มที่ ยังจะพยายามเค้นฃเสียงอีกนะ

    “หึ เก็บเสียงไว้ครางเหอะ ยาแม่งหมดฤทธ์เมื่อไรมึงก็รอดเมื่อนั้นแหละว่ะ” ผมพูดกับมันในระยะประชิค ถ้ากูปล่อยมึงไปคืนนี้แม่งกูก็โง่เต็มทนแล้ว ไอ้เด็กบ้า

    “อะ..ไอ้เลว” แน่ะ ยังจะด่ากูได้อยู่อีกนะ

    “ด่าไปเหอะว่ะ กูว่ายันเช้าอ่ะ หึหึ” ผมพูดเสร็จแล้วจัดการปิดปากมันทันที  มึงกินยาไปแล้วถ้าขัดขืนกูได้นี่แม่งก็เกินไปอ่ะ เสียใจด้วยนะไอ้วิคเตอร์ มึงเป็นคนเลือกเองนะ แทนที่จะได้คุยกันดีๆเสือกหนีกูอีก ช่วยไม่ได้จรองว่ะ หึหึ

    “อื้อออ...” ผมเลิกสนใจเสียงของมันแล้วจัดการร่างบางตรงหน้าอย่างกระหาย หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกูไม่อยากเดา แต่เวลานี้มีมึงกับกูเท่านั้นแหละว่ะ ไอ้ตัวร้าย

    “กูจะย้ำให้มึงชัดๆเลยนะวิคเตอร์ ว่ามึงน่ะ  เมียกู!!!

    [Saint]

                ผมรู้สึกสังหรณ์ไม่ค่อยยังไงไม่รู้สิเกี่ยวกับไอ้วิคเตอร์เนี่ย พอขับรถออกมาแล้วมันกระวนกระวายแปลกๆ เพื่อนรักผมทั้งคนนะ ไม่ให้ห่วงได้ไงล่ะ แต่มันคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ไอ้ไนน์ออกจะรับประกันไอ้พาสต้าตั้งขนาดนั้น แต่ถ้าเพื่อนผมเป็นอะไรไปละก็ มันไม่ตายดีแน่

    ครับ พี่โมสพอถึงบ้านก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามา  พอมองเห็นชื่อแล้วถึงกดรับ

    เซนท์หรอ คิดถึงจังเลยเนี่ยเริ่มมาก็อ้อนเลยซะงั้น แสดงว่าต้องชวนไปเที่ยวแหงๆ

    พรุ่งนี้เซนท์ว่างไหมเนี่ยนั่นไงล่ะ เดาผิดที่ไหน เป็นงี้ทุกคนแหละครับ กิ๊กผมน่ะ

    ก็ว่างอยู่นะครับ ทำไมหรอ

    พี่เบื่ออ่ะ ไปเที่ยวเป็นเพื่อนหน่อยสิถ้าไอ้ไนน์เป็นแบบนี้บ้างผมจะดีใจมากเลยนะเนี่ย

    ได้ครับ ผมก็เบื่อๆเหมือนกันต่อให้พี่โมสไม่โทร ผมว่าจะนัดไอ้วิคเตอร์แล้วเชียว

    ดีจัง งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ

    ครับผมผมตอบรับไป เฮ้อ ไปเที่ยวกับพี่โมสบ้างก็ดีนะ เดี๋ยวแม่ง ง้องแง้งอีก

    พี่....ชอบเซนท์นะ .. เฮ้ๆ อะไรเนี่ย  พูดทิ้งท้ายแล้วก็วางสายไปเนี่ยนะ แม้จะได้ยินบ่อยแล้วก็เถอะ แต่พักหลังๆมานี่ไม่รู้ทำไมผมรู้สึกไม่ค่อยดีกับคำๆนี้เลยแฮะ อาจเพราะ

    “เชี่ยไรมึงอีกเนี่ย อยู่บ้านคนเดียวแค่นี้จะตายหรอวะ” นั่นไง เสียงมาตั้งแต่เข้าประตูมาเลย วันนี้บ้านผมโล่งอีกตามเคย ระหว่างขับรถกลับมาผมเลยโทรเรียกไอ้พี่ไนน์ให้มาอยู่ด้วยหน่อย หึหึ แต่ก็อย่างว่าแหละนะ บ่นแค่ไหนสุดท้ายก็มาอยู่ดี เพราะถ้าไม่มาแล้วผมจะกินอะไรล่ะ เห็นอย่างนี้นะ ห่วงผมจะตาย แต่ปากแข็งชะมัด

    “โด่ แค่นี้ทำเป็นบ่น คนแก่ก็เงี้ย”

    “อ้าว พูดงี้กูกลับว่ะ” เจอผมแซวเข้าไปถึงกับจะหันหลังเดินกลับเลยเรอะ

    “เฮ้ย เดี๋ยวดิๆ ” ผมรีบวิ่งไปดึงแขนให้กลับเข้ามาก่อนที่จะออกไปจริงๆ

    “ทำไมมึง” มันหันหน้ากลับมาถามผมแบบหาเรื่องเลยซะงั้น มันไปอารมณ์เสียอะไรที่ไหนมาเนี่ย ถึงมาระเบิดลงกับผมแบบนี้น่ะ

    “อย่างี้ดิวะ แซวนิดแซวหน่อยทำเป็นงอน เกินไปว่ะ” ผมบอกมันแล้วแกล้งทำหน้าเซ็ง

    “ก็เรื่องของกูอ่ะ”

    “เออๆ เรื่องของมึง ขี้เกียจเถียงด้วยแล้ว” ผมพูดแล้วหันหลังไปเตรียมจะขึ้นชั้นบน

    “เฮ้ย โทรเรียกกูมาแล้วก็เดินหนีเนี่ยนะ อะไรของมึง”   

    “ก็ทำเหมือนปกตินั่นแหละ พูดแม่งเหมือนไม่เคยมา” ผมหันกลับไปตอบมัน

    “อ๋อ ปกติ งั้นก็แปลว่ากูต้องอยู่บ้านใช่ไหม” อ่าวเฮ้ย ผมว่าจะทำเป็นเมินซักหน่อย ไอ้นี่กลับจะกลับบ้านไปซะงั้น ต้องรีบไปดึงกลับเข้ามาอีกรอบเลย

    “อะไรมึงเนี่ย ก็บอกทำตามปกติ นี่ก็ปกติกูแล้วไง” ไอ้ไนน์เถียงผมกลับมา

    “โอย โอเคครับๆ ไม่แกล้งแล้วๆ อยู่ก่อนเถอะนะครับ”

    “ก็แค่นั้น พูดงี้แต่แรกก็จบ” มันยิ้มอย่างสะใจให้ผมแทน สบัดแขนจนผมปล่อยมือ ก่อนจะเดินผ่านผมไป นี่สรุปว่าผมโดนมันแกล้งกลับใช่ไหม   

    “โอย จะมีไหมที่ไม่ต้องทะเลาะกับมึงเนี่ย” ผมบ่นออกมาเบาๆแต่เจ้าตัวดันได้ยินซะงั้น

    “ก็ถ้ามึงไม่เริ่มก่อนนั่นแหละ” แต่ก่อนจะเดินเข้าเข้าครัว เหมือนมันจะนึกอะไรขึ้นได้บางอย่าง เลยเดินกลับมาที่ผมที่ยืนมองมันอยู่งๆๆ

    “จริงสิ ลืมบอกมึงไปอย่างนึง”  มันทำท่าเหมือนกำลังคิดหนัก

    “อะไร” ผมภาวนาให้มันไม่ตรงกับที่ผมคิดอยู่นะ

    “น่าจะรู้นะ ว่าคนอย่างกูน่ะ ไม่ทำอะไรฟรีๆ” เชี่ยแล้ว ทำไมมึงต้องคิดทันด้วยเนี่ย

    “เอ่อ คือ”  ผมอุตส่าห์ดีใจนึกว่ามันลืมไปแล้วซะอีก เป็นปกติครับ ถ้าผมเรียกมันมาทำอะไรให้สักอย่าง จำเป็นต้องได้ตอบแทนมันอ่ะ อย่างกับค่าจ้างมันนั่นแหละ กับประโยคเด็ดของมันที่น่ารำคาญมากเลยสำหรับผม ไม่ฟรีว่ะแต่บางทีทมันก็ลืมๆไปนะ

    “ไม่ต้องมาเอ่ออะไรเลย รอบนี้ไม่ลืมเว้ย” ไอ้ไนน์รีบแย้งเลย เพราะทุกทีมันออกจะลืมบ่อย ซึ่งก็เป็นโชคดีของผมไป แต่คราวนี้เหมือนจะไม่

    “จะเอาอะไรอ่ะ” ผมบอกมันโดนยทำหน้าเซ็งๆ ทุกทีมักเป็นของที่ใช้ผมออกไปซื้อไง มันเลยน่าเบื่อมาก เพราะมันทำผมเสียเวลาอ่ะ

    “พรุ่งนี้ว่างไหม” เฮ้ๆ อะไรเนี่ย อย่าบอกว่าจะมาลากผมไปข้างนอกอีกคนนะ

    “มะ...” ผมที่กำลังจะตอบว่าไม่ อยู่ๆมันก็แทรกขึ้นมาก่อนทันที

    “ไม่สิ ยังไงพรุ่งนี้ก็วันหยุด ยังไงมึงก็ต้องว่าง” นั่นไง รวบรัดให้กูเสร็จเลย

    “อ่าวเฮ้ย อย่าคิดไปเองดีวะ” ผมแย้งออกไป เพราะนัดกับพี่โมสเมื่อกี้แล้วนะ

    “หรือมึงจะอด” ไอ้ไนน์ขู่ผมทันทีเลยครับ งี้ตลอดอ่ะ พอผมจะปฏิเสธก็พูดแบบนี้ทุกที

    “ก็กูไม่ว่างจริงๆนะ กูมีธุระ”  ผมพยายามพูด แต่ไอ้ไนน์ก็หันมามองผมอย่างรู้ทัน

    “นัดเด็กเที่ยวละไม่ว่า  ไม่รู้ ถ้าไม่ไปเป็นเพื่อนกู งั้นคราวหน้าอย่าหวังว่ากูจะมาอีก”

    “เฮ้ย!!!!!”   ชิบหายแล้วไง เมียกูเผด็จการซะงั้นอ่ะ


    **********************************************************
    กลับมาแล้ววววววววววววววว 

    มาเพิ่มนิสนึง ก่อนจะไปตอนใหม่ อิอิ



    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะครับผม


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×