ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My wife ขอโทษที คนนี้เมียกู [END]

    ลำดับตอนที่ #25 : .....My wife.....{25}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.46K
      7
      8 พ.ค. 56

     

    .....My wife..... {25}

    [Nein]

                หลังจากที่ผมชิ่งออกมาจากบ้านไอ้เซนท์ได้ ผมก็ตรงเข้ามหาวิทยาลัยทันทีเลยครับ เพราะงานที่สุมเอาไว้ตอนไม่อยากเจอหน้าไอ้เซนท์มันยังคงอยู่ แม้ตอนนี้เราสองคนจะเปลี่ยนสถานะไปแล้ว แต่นี่ก็หน้าที่ของผมอย่างหนึ่งนะครับ จะให้ทิ้งไปเลยก็ได้ที่ไหนล่ะ โชคดีที่วันนี้เลิกเร็วหน่อย ไม่ถึงกับค่ำ แค่เย็นๆก็เลิกแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องชังกคือคนที่มารอผมที่คณะมากกว่า ร่างสูงที่คุ้นเคย ทำเอาผมถึงกับมองอย่างงงๆ เพราะดูเหมือนจะมารอผมนานแล้ว

    “เฮ่ย มาทำอะไรแถวนี้วะ” ผมเอ่ยทักไอ้กราฟครับ ผมไม่กลัวจะมีใครวิ่งโร่ไปบอกไอ้เซนท์มันหรอกนะ เพราะถ้าแค่คุยกันแค่นี้มันก็งอนละก็ ผมไม่ง้อมันหรอก

    “มารอพี่ไง” มันตอบผมอย่างนิ่งๆ ไม่มีสีหน้าขี้เล่นเหมือนตอนที่เจอกันคราวก่อนเลย

    “ทำไมวะ กูว่ามึงน่าจะเข้าใจ...” ไม่ทันจะพูดจบทไอ้กราฟมันก็แทรกผมขึ้นมาก่อน

    “ผมไม่ได้มาเรื่องพี่หรอก ผมแค่อยากขอความช่วยเหลือ”

    “ความช่วยเหลือ? เรื่องอะไรวะถึงถ่อมาถึงนี่น่ะ” ผมถามมันอย่างงงๆ โทรเอาก็ได้นี่หว่า

    “พี่ไนน์ ผมพูดตามตรงนะ ผมไม่เคยคิดจะจีบพี่เลยสักนิด” คำพูดของไอ้กราฟทำเอาผมอ้าปากค้าง อ่าว แล้วที่มึงทำไปนั่นล่ะ หมายความว่าไงเนี่ย คำพูดมึงนี่มันแปลกๆแล้วนะ

    “แล้วที่มึงทำอ่ะ” มึงพูดเองไม่ใช่หรือไงว่ามึงจะจีบกูน่ะ

    “ผมแค่อยากแกล้งคนๆหนึ่งเท่านั้นเอง” คำพูดของไอ้กราฟทำให้ผมงงหนักกว่าเดิมอีก 

    “ใครวะ? มึงรู้จักไอ้เซนท์หรือไง” ผมเดาไม่ออกจริงๆนะ รอบตัวผมคนที่เดือดร้อนเพราะไอ้กราฟ เห็นจะมีก็แต่ไอ้เซนท์คนเดียวเท่านั้นแหละ แต่ทว่าไอ้กราฟก็ส่ายหัว

    “โมส” ชื่อของคนๆเดียวทำเอาผมชะงัก จะว่าไปแล้ว จริงสิ ผมยังไมได้เคลียร์เรื่องไอ้โมสกับไอ้เซนท์เลยนี่กว่า ก็ว่า ทำไมมันมีอะไรติดใจค้างๆคาๆอยู่แปลกๆ

    “เอ่อ เรื่องมันยาวน่ะ ไปคุยที่อื่นได้ไหมครับ” ผมพยักหน้าแล้วให้เดินมันนำไป ร้านหมูกระทะหน้ามหาวิทยาลัยเป็นอะไรที่ใกล้ที่สุดและสะดวกที่สุดล่ะนะในตอนนี้

    “ไปตักมาก่อนเลย เดี๋ยวค่อยคุยก็ได้” ผมบอกมันครับทันทีที่เราสองคนนั่งลง เพราะเอาจริงๆผมก็เริ่มหิวแล้วนะ ไอ้หมอนี่มันเดาใจผมได้หรือไงกัน ถูกใจจริงๆที่มากร้านครับ

    “ครับ” มันตอบผมแล้วเดินไปตักของ ผมมองตามมันด้วยสายตาแปลกๆ ไอ้นี่ไม่หลงเหลือความขี้เล่นเมื่อตอนนั้นเลยแฮะ สงสัยจะมีเรื่องเครียดแบบจริงจัง

    และทันใดนั้นเสียงโทรเข้าของผมก็หยุดความคิดทั้งหมดของผมทันที 

    “ไอ้เซนท์...อะไรมันวะ” ผมมองชื่อคนโทรเข้าอย่างหน่ายๆแล้วรับสาย

    อยู่ไหน ไอ้เซนท์ถามผมด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

    อยู่มอ มึงจะทำไมแปลกๆนะครับ แม้เราสองจะคัดสินใจคบกันแล้วก็ตามที แต่ทำไมมันกลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยสักนิด เหมือนว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ยังไม่ถูกเติมเต็

    กูอยู่คนเดียว เหงาไอ้เซนท์พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ แต่คิดหรอว่าผมเดาทางไม่ออกน่ะ

    กำลังจะบอกกูว่าขอออกไปเที่ยวว่างั้นมันคงไม่ให้ผมรีบกลับหรอก มันรู้ว่าผมไม่ทำ

    เฮ้ย! แม่นเป๊ะว่ะ รู้ได้ไงเนี่ยมันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหมือนตกใจเต็มที่

    เวลาแบบนี้อย่างมึงจะมีอะไรอีกล่ะ จะไปก็ไปดิ มาบอกกูทำไมผมพูดอย่างหน่ายๆ

    ก็รายงานหน่อยไง อย่างน้อยก็คบกันแล้วนะคำพูดของไอ้บ้าเซนท์ทำเอาผมชะงักค้างไปนิดๆ ก่อนจะรู้สึกร้อนๆที่ใบหน้า ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอาการอะไร ไอ้เด็กบ้านี่

    เออ กูรู้แล้วแม่ง พูดมากว่ะผมตอบกลับไปเหมือนไม่ใส่ใจอะไรนัก

    หึ เขินอ่ะดินั่นไงล่ะ ว่าแล้วเชียว ไอ้บ้านี่มันตั้งใจแกล้งผมชัดๆเลยนี่  

    เพ้อหรอมึง พูดมาก แค่นี้นะไม่รอให้มันพูดต่อผมกดตัดสายในทันที ชิ เสียรู้มันจนได้

    “ไอ้เซนท์หรอครับ” ไอ้กราฟที่กลับมาเมื่อไรไม่รู้ถามผม ซึ่งผมก็พยักหน้ากลับไปแค่นั้นก่อนจะเดินไปตักของบ้าง ผมมองไปทั่วร้าน ก็มีบ้างที่ผู้ชายจะมาเป็นคู่น่ะ มันดูออกน่าครับว่าเพื่อนกันหรือมากกว่านั้นน่ะ เห็นคนสองคนยิ้มให้กันแบบนั้น ทำไมผมถึงรู้สึกแปลกๆล่ะ เหมือนว่ามันจะไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้ระหว่างผมกับไอ้เซนท์น่ะ  พวกผมขาดอะไรไปงั้นหรอ

    “โห กินเยอะ” ไอ้กราฟพูดทันทีที่เห็นของที่ผมตักมา ทำเอาผมมองมันตาขวางเลย

    “ยุ่ง แล้วว่าไงเรื่องมึงอ่ะ” ผมว่ามันนิดหน่อยแล้วเปิดฉากถามมันในทันที

    “ก็อย่างที่บอก ความจริงคนที่ผมชอบคือโมสต่างหาก” มันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

    “พูดเป็นเล่น พวกมึงรู้จักกันด้วยหรือไง” เจอหน้าพร้อมกันคราวก่อน ไม่เห็นมันจะทำตัวสนิทสนมรู้จัดกันมาก่อนเลยสักนิด มีแต่ผมกับไอ้เซนท์ที่เขม่นกันเองสองคน

    “รู้สิครับ รู้จักกันดีด้วยล่ะ” ไอ้กราฟตอบผมด้วยความมั่นใจ

    “งั้นเล่ามา” ผมพูดแค่นั้นไอ้กราฟมันก็โซโล่เรื่องราวของมันเลยครับ ตั้งแต่ที่ว่ามันเคยคบกับโมสมาก่อน เรื่องที่ว่าทำไมถึงเลิกกัน แล้วก็เรื่องที่โมสพยายามหนีมันด้วย ทำไมเรื่องมันยาวนักวะ แต่พอมันเล่าจบผมก็มองมันแบบอึ้ง จะว่าไงดีอ่ะ ผมไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลยแฮะ

    “ทำหน้าแบบนั้นไม่เชื่อผมหรอครับ” ชะ ไอ้นี่ เดาออกด้วยเว้ย

    “ก็มึงเล่าอยู่คนเดียวอ่ะ ไอ้โมสไม่เห็นเคยเล่าให้กูฟังเลย” ผมไม่เห็นเคยรู้เรื่องนี้เลย

    “คงไม่อยากรื้อฟื้นความทรงจำมั้งครับ ออกจะเป็นคนที่เปราะบางตั้งขนาดนั้น” สายตาตอนที่พูดของไอ้กราฟนี่ทำไมมันถึงดูเศร้าได้ขนาดนั้นวะเนี่ย

    “แล้วที่ว่าให้ช่วยอ่ะ คือช่วยอะไร ไอ้โมสหนีมึงไปแบบนี้ กูจะช่วยไรได้วะ”

    “ก็เพราะเป็นพี่ไงล่ะ ผมถึงบอกว่าช่วยได้แน่นอน” สายตาของไอ้กราฟมุ่งมั่นมากครับ

    “อย่าบอกนะว่าจะให้กูถามที่อยู่มันมาให้น่ะ เฮ้ย ไม่เอานะเว้ย เกิดเป็นมึงคนเดียวที่ตามตื๊อไอ้โมสนี่กูทำไงอ่ะ มีหวังกูได้รู้สึกผิดไปตลอดชีวิตกันพอดี” ผมบอกมันอย่างกลัวๆ

    “พี่ไนน์! ช่วยคนรักันให้มาเจอกันเนี่ย ไม่เห็นจะผิดอะไรเลยนะครับ”

    “แล้วถ้าไอ้โมสไม่ได้คิดแบบมึงล่ะ” คำถามของผมทำเอาไอ้กราฟถึงกับเงียบไปในทันที

    “ผมเลยอยากจะลองไงครับ ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้ว ถ้าโมสไม่รู้สึกอะไรกับผมแล้วจริงๆผมจะเลิกตามเขาแล้วครับ” เห็นหน้ามันในตอนนี้แล้วผมก็อดสงสารมันไม่ได้จริงๆ

    “แล้วถ้าเจอโมสแล้วมึงจะทำไง” ผมถามก่อนครับเพื่อความแน่ใจ

    “ผมก็จะทำดีกับเขาให้มากที่สุด แล้วทำให้เขากลับมารักผมให้ได้สิครับ”

    “โอ้ยแม่ง พอเลยมึง กูจะอ้วก” ไอ้เชี่ยนี่เพ้อเหรอวะ พึ่งเคยเจอจริงๆคนแบบมันเนี่ย

    “โหย พี่ไนน์ อย่าพูดงั้นสิครับ นี่เป็นความตั้งใจจริงของผมเลยนะ”

    “แล้วกูเชื่อมึงได้หรือไง ว่าจะไม่ทำร้ายไอ้โมสน่ะ” เห็นแบบนี้ผมก็ห่วงรุ่นน้องของผมนะ

    “พี่ไนน์เห็นผมเป็นคนแบบไหนกันแน่เนี่ย นี่ผมเป็นคนใจร้ายขนาดนั้นเลยหรอครับ” ก็จริงของมันนะ เจอมันทีไรนี่ก็ขี้เล่นเกินอ่ะ จนน่ารำคาญไปเลยทีเดียว   

    “ของแบบนี้มันเชื่อถือได้ยากนี่หว่า” ใช่ครับ ดูอย่างไอ้พาสสิ ตอนอยู่กับผมก็ดีๆอยู่หรอกนะ แต่สายตาในตอนนั้นที่มันถามเรื่องวิคเตอร์ผมยังจำมันได้ดีเลยล่ะว่ามันน่ากลัวแค่ไหนน่ะ

    “พี่ไนน์! ผมจริงใจจริงๆนะครับ ตอนนี้มีแค่พี่ไนน์นะครับที่ช่วยผมได้น่ะ”

    “แล้วทุกทีมึงหาเจอได้ไงวะ ตอนนั้นมึงยังไม่รู้จักกูเลยนี่” ผมหรี่ตามองมันอย่างสงสัย

    “ผมก็ขอเพื่อนช่วยบ้าง หาเองบ้าง แต่พี่ไนน์ ตอนนี้ผมร้อนใจจริงๆนะครับ ผมพึ่งบอกไปเองนะว่าพึ่งจะดีกันได้นิดเดียว ก็หนีผมไปอีกแล้วน่ะ ผมอยากเจอโมสให้เร็วที่สุดเลยน่ะครับ” ฟังไปฟังมา แม่ง ผมว่าเหมือนหนังน้ำเน่าว่ะ หนีกันไปหนีกันมา โอย เลี่ยนสัสๆอ่ะ

    “เออๆ กูจะลองถามมันให้ละกัน แต่มึงต้องสัญญากับกูนะ ว่าจะไม่ทำร้ายไอ้โมสมันน่ะ” ผมยอมมันจนได้สิน่า เห็นมันแบบนี้แล้วผมสงสารมันจริงๆนะครับ ไม่มีความขี้เล่นเหลืออยู่เลย ให้ตายสิ มันไปผจญความรู้สึกผิดหวังแบบไหนมากันนะ อต่จะว่าห่วงโมสมันผมก็ห่วงนะ

    “ขอบคุณครับพี่ไนน์ ผมสัญญาเลยครับ” ไอ้กราฟยิ้มออกมาอย่างดีใจ แต่เป็นผมเองสิที่ต้องคิดหนัก ผมทำแบบนี้จะเป็นการทำร้ายไอ้โมสทางอ้อมไหมเนี่ย จากที่เล่ามา ถ้าบอกก่อนว่าไอ้กราฟขอ ไอ้โมสต้องไม่บอกแหงๆ แต่ถ้าไอ้กราฟมันทำอะไรแปลกๆมาล่ะ โอ้ย! คิดหนัก

    “กูเชื่อใจมึงได้แน่นะ อย่าให้กูรู้นะว่ามึงโกหก ไม่งั้นเจอดีแน่มึง” แต่อย่าหาว่าผมชั่วร้ายอะไรเลยนะครับ ถ้าสองคนนั่นคืนดีกันได้ ผมก็หมดเรื่องที่ต้องกังวลไปด้วยเหมือนกัน ทั้งทางของไอ้เซนท์ที่น่าจะหมดปัญหาเรื่องไอ้โมสมัน และผม ที่ไอ้กราฟก็คงไม่มากวนใจแล้วล่ะ จะว่าผมเห็นแก่ตัวก็ได้นะครับ แต่ทำไมผมถึงต้องไปขวางความรักของคนอื่นเขาล่ะ  

    “ได้แน่นอนสิครับ ทำไมผมต้องโกหกพี่ไนน์ด้วยล่ะ”

    “เออ ให้มันจริงเถอะว่ะ” ผมส่ายหัวอย่างระอากับรอยยิ้มของไอ้กราฟ ไอ้บ้านี่ บทน่าสงสารก็โคตรน่าเห็นใจอ่ะ แต่บทจะยิ้มดีใจนี่ก็ดูกวนเกินไปจริงๆ ให้ตายเหอะ ผมว่าอยู่กับมันนานๆนี่ผมคงจะเป็นบ้าไปแน่เลย ดีนะที่วันนี้มันไม่กวนประสาทผมน่ะ เฮ้อ ผมก็หวังว่าผมจะเชื่อใจมันได้จริงๆอ่ะนะ อย่าให้ผมต้องมารู้สึกผิดที่หลังที่ลงมือช่วยมันไปเลยเหอะ

    หลังจากคุยกับไอ้กราฟจบ จนผมตอบตกลงจะช่วยมันไปเรียบร้อยแล้ว ก็ตรงกลับบ้านทันทีครับ วันนี้เหนื่อยเกินอ่ะ ผมไม่อยากไปไหนแล้ว ให้ตายเหอะ พอรถจอดสนิทในบ้านเท่านั้นแหละครับ ผมอดไม่ได้ที่จะแอบหันไปมองไอ้บ้านหลังข้างๆ ที่ตอนนี้ปิดไฟสนิทเลยครับ รถของไอ้เซนท์กลับมาแล้ว แต่ประตูบ้านไม่ปิดแฮะ เป็นอะไรของมันวะ

    “ไหนว่าไปกินเหล้าไงวะ อย่าบอกนะว่าแฮงค์หนักน่ะ” ผมพูดบ่นกับตัวเองออกมาแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เลยแทนที่จะเข้าบ้านตัวเอง กลับเดินไปที่บ้านข้างๆแทน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องมา เอาน่าแต่อย่างน้อยมาปิดประตูบ้านให้มันหน่อยก็ยังดีล่ะนะ

    “เอ้า ก็อยู่นี่หว่า ทำไมไม่มาปิดให้เรียบร้อยวะ” ผมพูดออกมาเมื่อเห็นรองเท้าของมันกองอยู่ที่หน้าประตู แต่ดูจากสภาพแล้วต้องเรียกได้ว่าถูกถอดทิ้งไว้ตรงนี้มากกว่าตั้งใจนะ

    “อะไรของมันวะ... เฮ้ย!!” ผมที่เดินไปเปิดไฟอย่างรู้ตำแหน่ง ก็ต้องอุทานออกมาทันที เพราะเมื่อไฟติด ผมดันเห็นเจ้าของบ้านมันนอนกองอยู่ที่โซฟาซะงั้น

    “มานอนทำเชี่ยไรมึงตรงนนี้เนี่ย” ผมพูดพลางเขย่าตัวมันเพื่อปลุก อาการหนักเว้ยเฮ้ย

    “อือ...ใครวะ” มันส่งเสียงออกมาแบบรำคาญครับ ตานี่แทบจะลืมไปขึ้นกันเลยทีเดียว

    “ไหวป่ะเนี่ยมึงอ่ะ” ผมตบหน้ามันเบาๆเพื่อให้มันตื่นเต็มที่กว่านี้หน่อย เหมือนจะรู้สึกตัวบ้าง ไอ้เซนทส่ายหน้าตัวเองแรงๆสองสามที  ก่อนจะขยี้ตาตัวเองเพื่อดูหน่าคนปลุกให้ชัดๆ

    “อ่าว ไอ้ไนน์เองหรอ” มันพูดออกมาเหมือนคนไม่ค่อยได้สติมากนัก

    “ขโมยมั้งสัส มานอนทำเอมวีอะไรมึงตรงนี้เนี่ย” ไอ้เซนท์มองหน้าผมอย่างงงๆ ก่อนจะมองดูรอบตัวเองช้าๆ แล้วหลับตาเหมือนจะนึกอะไรบางอย่าง

    “คงเมามั้ง พวกมันเลยเอามาทิ้งไว้นี่” พวกมันที่ว่านี่สงสัยเพื่อนมันแหงเลย

    “กูไม่น่าให้มึงไปเลย ให้ตายสิ กินแม่งไม่รู้จักคิด ไปๆ ขึ้นห้อง” ผมช่วยไอ้เซนท์พยุงตัวขึ้นแล้วลุกเดินครับ แม้จะอยากปล่อยมันทิ้งไว้ก็ตามเถอะ แต่ยังไงผมก็เป็นพี่มันนะ ก็ต้องดูแลมันหน่อย ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อยครับที่ผมต้องมาดูแลมันแบบนี้น่ะ

    “อื้อ ปวดหัวว่ะ” มันบนทันทีเลยครับที่ตัวมันสัมผัสเตียง ผมส่ายหน้าอย่างระอา

    “ก็มึงกินเอง จะไปโทษใครล่ะวะ แล้วนี่ลุกไปอาบน้ำไหวไหมเนี่ย” ผมถามมันครับ

    “เช็ดตัว นะ” ไอ้เซนท์ส่ายหัว ก่อนจะบอกอะไรบางอย่างออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม

    “ยิ้มแบบนี้กูคงทำให้หรอก ไอ้สัส! ไปอาบน้ำเลยไป๊” ผมดึงตัวมันขึ้นมาก่อนจะผลักไปอย่างแรงครับ จนไอ้เซนท์เซเลยทีเดียว ดีที่มันเอามือยันตู้เสื้อผ้าไว้ทัน ไม่งั้นคงหัวชนไปแล้ว

    “อะไรวะ ใจร้ายว่ะ แค่นี้ก็ทำให้ไม่ได้” มันทำปากยื่นแล้วพูดออกมาแบบงอนๆ

    “ตัวเท่าควายนี่คิดว่าน่ารักนักหรอวะ ไม่ต้องพูดมาก ไปอาบน้ำได้แล้ว” ผมบอกมันแล้วเดินผ่านตัวมันไป แต่ได้ไม่กี่ก้าวมันก็จับแขนผมไว้หก่อนพร้อมคำถาม

    “เดี๋ยว จะไปไหน”  สายตานิ่งๆที่มองมานี่ทำให้ผมรู้เลย ว่าถ้ากลับก่อนมันงอนผมแน่ๆ

    “หาหญ้าให้ควายแดก จบป่ะ” พูดแค่นั้นแล้วก็สะบัดแขนจนมือมันหลุดแล้วเดินออกมาจากห้อง ให้ตายสิ ผมพึ่งกลับมาเหนื่อยๆอยู่นะ ทำไมต้องมาดูแลมันด้วยเนี่ย

    ผมเดินเข้าไปในครัวแล้วทำอะไรบางอย่างในนั้น สักพักผมก็ออกมาไล่ปิดบ้านให้ไอ้เซนท์ก่อจะเดินขึ้นชั้นบนพร้อมกับน้ำปริศนา สงสัยว่าวันนี้ผมอาจจะต้องนอนที่นี่อ่ะนะ สภาพแบบนี้ผมว่าพรุ่งนี้มันไม่ตื่นง่ายแหงๆอ่ะ แถมมันต้องไปโรงเรียนด้วยนี่สิ โอย ลำบากกูอีกนะ

    “อะไรวะนั่น” ไอ้เซนท์ที่กำลังนั่งเป่าผมบนเตียงถามผมครับ

    “ไม่ต้องถาม แดกๆไป แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าดีๆวะ” เชี่ยนี่ นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวอีกละ

    “เดี๋ยวดิ อะไรวะเนี่ย ปกติต้องเป็นชาไม่ใช่หรือไง ทำไมเป็นไอ้น้ำขุ่นๆนี่วะ” น่ะ ไอ้นี่ ถามมากจริงว่ะ ทันทีที่รับแก้วจากผมไปมันก็ถามทันทีเลยครับ ผมรับไดร์เป่าผมจากมันมาแทน

    “ไม่ต้องถาม แดกๆไป” ผมเปลี่ยนมานั่งซ้อมหลังไอ้เซนท์แล้วเป่าผมให้มันแทน

    “ชิ เออ ก็ได้ๆ” ไอ้เซนท์ทำท่าลังเลนิดๆก็จะยกแก้วนั้นขึ้นดื่ม

     “อื้อหือ....แหวะ..น้ำเหี้ยไรมึงเนี่ย” ทันทีที่จิบไปนิดเดียว ไอ้เซนท์ก็เอาแก้วออกห่างตัวทันที มันเอี้ยวตัวพร้อมกับทำหน้าเหมือนกินยาขมมาถามผม แล้วแลบลิ้นออกมาอย่างแหยๆ

    “มะนาวไงสัส แค่นี้ต้องถามด้วยหรือไง” ผมวางไดร์เป่าผมแล้วหยิมแก้วมาแทน

    “โอ้โห แล้วมึงก็เล่นมาสดๆแบบไม่ผสมอะไรเลยอ่ะนะ” ไอ้เซนท์มองหน้าผมอย่างเคืองๆ

    “ไม่ต้องเว้ย แบบนี้เนี่ยแหละ หมดแก้วมึงหายมึนแน่นอน เอ้า แดกไป” ผมเอาแก้วไปจ่อปากไอ้เซนท์แบบบังคับเลยครับ ไม่งั้นมันไม่ยอมดื่มแน่ๆล่ะ

    “เฮ้ย ไม่เอาเว้ย หมดนี่กูตายพอดี” มันหันหน้าหนีแล้วพูดออกมา ผมเลยจับใบหน้ามันให้หันกลับมา ไอ้เซนท์มองหน้าผมอย่างตื่นกลัว ผมมองหน้ามันอย่างรำคาญ ก่อนจะวางเข่าตัวเองไปกลางหว่างขาของมัน ไม่โดนน้องมันนะ แค่บริเวรขาด้านในเอง

    “อ๊าก.. ไอ้เชี่ยไนน์....อึก อื้อ...” ผมบีบปากไอ้เซนท์ให้อ้าออก ระหว่างที่มันกำลังพยายามจับขาผมให้ออกห่างจากขามัน ผมก็จัดการเทน้ำในแก้วลงไปในปากมันทันเทีเลยครับ

    “พูดมากน่ารำคาญว่ะ แดกไป ให้หมดแก้วนะมึง ใครใช้ให้มึงแดกมาเกินเอง” ผมมองหน้าไอ้เวนท์ด้วยสายตาโคตรสะใจ ดูหน้ามันตอนนี้สิครับ อย่างกับคนอยากจะตายให้ได้น่ะ

    “แค่ก แคก โอ้ย!! เหี้ย!!” ทันทีที่หมดแล้วผมก็ถอยห่างจากมันทันทีเลยครับ ไอ้เซนท์ไอเล็กน้อย คงจะสำลักหน่อยแหละ มันยกมือปิดปากพลางมองหน้าผมอย่างโกรธๆ

    “เอาไป โทษกูไม่ได้นะ คุยกันแล้วนะ ว่าถ้ามึงเมาหนักมาจะเจออะไรน่ะ” ผมหยิบแก้วน้ำอุ่นให้มัน ไอ้เซนท์รีบดื่มตามในทันทีเลยครับ ต่อให้มันอยากจะเอาคืนก็เหอะ แต่ทำไม่ได้หรอกครับ เพราะผมเคยตกลงกับมันแล้วว่าถ้ามันเมาหนักกลับมาเมื่อไร ต้องเจอแบบนี้

    “แต่แบบนี้ก็เกินไปว่ะ เอากรอกปากกูเลยเนี่ยนะ” ผมยักไหล่แบบไม่แคร์แล้ววางแก้วมะนาวที่หมดเกลี้ยงลง ก่อนจะกลับไปนั่งเป่าผมให้มันต่อ

    “เลอะเลยเนี่ย กูพึ่งอาบน้ำเสร็จนะเว้ย” มันบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ

    “ถ้ามึงยอมแดกดีๆก็ไม่เลอะหรอกสัส เล่นตัวเองนี่หว่า” พอเห็นว่าผมมันแห้งแล้วผมก็เดินเอาไดร์ไปเก็บครับ แต่พอหันกลับมาเท่านั้นแหละ

    “เฮ้ย!! ทำอะไรของมึงเนี่ย” ผมร้องออกมาอย่างตกใจแล้วยกมือปิดหน้าตัวเองครับ ก็ไอ้เซนท์บ้านี่อ่ะดิ มันเล่นลุกขึ้นมาแบบถอดผ้าขนหมูออกแบบนี้น่ะ โอ้ย หน้าด้านเกินไปแล้ว

    “หึหึ ทำอะไรงั้นหรอ เวลาเอาคืนไงล่ะ” ไอ้เซนท์ดึงมือที่ปิดหน้าผมออกแล้วดึงผมเข้าไปกอดแทน ความอบอุ่นจากร่างกายที่เปลือยเปล่าของอีกคนทำเอาผมนิ่งค้าง ไม่กล้าขยับตัว

    “อะ..เอาคืนอะไรมึง นะ ไหนตกลงกันแล้วไงล่ะ” ผมเถียงไอ้เซนท์กลับ
    “แต่กูไม่ได้บอกสักคำว่าจะไม่เอาคืนนี่หว่า” พอพูดจบมันก็จับผมกดลงกับเตียงทันที

    “ไอ้เซนท์.....อื้อ” ริมฝีปากหนาประกบจูบผมในทันทีที่ผมพูดชื่อมันออกมา มือหนาที่ไล้ผ่านร่างกาย ทำเอาผมเผลอเปิดปากให้ลิ้นร้อนสามารถเข้าสำรวจในโพรงปากผมได้อย่างเอาแต่ใจ แต่แทนที่ผมจะหลีกหนี ลิ้นของผมเองกลับตอบรับการหยอกล้อของอีกคนไปเสียอย่างนั้น ผมรับรู้ได้ถึงความขมของเหล้าที่ส่งผ่านมาทางปลายลิ้น ด้วยอารมณ์ที่พาไป ผมกลับยกมือตัวเองขึ้นโอบหลังเปลือยเปล่าของอีกคนไว้ ผมหลับตาลงช้าๆอย่างคล้อยตาม เนิ่นนานจนไอ้เซนท์ถอนจูบออกไป เมื่อลืมตาขึ้น ผมก็เจอกับรอยยิ้มอย่างล้อๆให้กับผมในฐานะผู้ที่เหนือกว่า

    “ปะ  เปล่านะ คะ คือกู....” ผมรีบปล่อยมืออกจากไอ้เซนท์แล้วพยายามหาข้ออ้างกับการกระทำนั้น แต่ก็ถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเจอสายตาที่ถูกส่งมาจากคนที่คร่อมผมไว้อยู่

    “หึหึ กูว่าคืนนี้ไม่รอดว่ะ” ผมหันหน้าหนีพลางกัดริมฝีปากตัวเองอย่างข่มความรู้สึกในขณะที่ในขณะที่ไอ้เซนท์ใช้มือตัวเองไล้ผ่านเสื้อนักศึกษาของผมไปอย่างช้าๆ

    “เก็บไว้แบบนั้นมันจะดีหรือไง” มือข้างเดิมที่ลูบผ่านตัวผมไปยกขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากผมเบาๆ ไอ้เซนท์ค้างอยู่แบบนั้น มันไม่ทำอะไรเลยราวกับรอให้ผมพูดอะไรสักอย่างก่อน

    “กะ...ก็ได้” ผมพูดพลางหันไปมองหน้ามันช้าๆก่อนจะหันหน้าหนีในทันที บ้าเอ้ย ดูสายตาที่มันมองมาที่ผมสิ แบบนั้นใครจะไปกล้าสบตาด้วยวะ แม่ง น่ากลัวเป็นบ้า

    “ไม่หนีสิ มองหน้าด้วย” มันจับใบหน้าผมให้หันกลับมาสบตากับมัน พร้อมกับเลื่อนมือลงไปที่คอเสื้อผมก่อนจะค่อยๆปลดกระดุมออกช้าๆทะลเม็ด และเมื่อแกะถึงหน้าอกผม ไอ้เซนท์แกล้งเอามือตัวเองไปแตะโดนจุดเล็กบนหน้าอกที่ซ่อมอยู่ใต้เสื้อสีขาวจนผมสะดุ้ง

    “อ๊ะ!” ผมรับคว้ามือปลาหมึกจอมซนของไอ้เซนทไว้ทันที ก่อนที่มันจะลงมือทำอะไรไปมากกว่านี้ ผมสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อยเพื่อตัดสินใจตัวเองก่อนจะบอกออกไป

    “รอบเดียวพอนะ” อีกคนยิ้มกว้างออกมาจนผมถึงกับร้อนวูบบนใบหน้าตัวเอง

    “ไม่รุ” พูดจบมันก็ลงมือจู่โจมผมทันทีแบบไม่ทันให้ตั้งตัว โอ้ย อะไรของผมเนี่ย ไอ้อายมันก็อายอยู่หรอกนะครับเรื่องแบบนี้น่ะ แต่ว่ามาถึงขนาดนี้แล้วมันก็...... ผมไม่รู้ด้วยแล้ว....

     

    [Victor]

    ค่ำคืนที่แสนสงบสุขสำหรับคนหลายคน แต่มันคงไม่ใช่กับผมในเวลานี้หรอกนะ เพราะเวลานี้ผมกำลังนอนเล่นอยู่บนเตียงตัวเอง พร้อมกับคำพูดของใครบางคนที่ดังก้องอยู่ในหัว

    “หึ หัวใจมึงไง”

    “ถ้าอยากรู้เรื่องทั้งหมดก็มา พี่สัญญาครับ ว่าพี่จะไม่ทำอะไรวิคเตอร์เลย”

    แม้ต้องการที่จะลืมไปมากแค่ไหน แต่มันก็กลับไม่ลืมสักที คำพูดของคนนิสัยไม่ดีน่ะ

    “ทำไมมันต้องพูดอะไรแปลกๆแบบนั้นด้วยวะ” คิดเท่าไรผมก็คิดไม่ออกนะเนี่ย แล้วยิ่งคำพูดที่น่าสงสัยยิ่งว่านั้น ก็คือ

    “เรื่องของมึงกับกูมันมีมากกว่านั้น แค่ผู้หญิงคนเดียวที่มึงพูดน่ะ กูไม่แคร์หรอก”

    “มึงอยากจะบอกอะไรกู ทำไมไม่พูดมาตรงๆวะ” ผมกุบขมับอย่างปวดหัว ทำไมเรื่องแค่นี้มันถึงทำให้ผมคิดมากได้ขนาดนี้เนี่ย แล้วทำไมตอนที่มันพูดกับผมเมื่อเช้านี้ ทำไมมันต้องทำเววตาเศร้าๆแบบนั้นด้วยล่ะ การที่มันทำแบบนั้นยิ่งทำให้ผมมีคำถามมากว่าเดิมอีกนะ

    “นี่เจ้านายมึงคิดอะไรอยู่กันแน่วะ ทำไมต้องทำตัวลับๆล่อๆด้วย” ผมกันไปบ่นกับไอ้หมีขาวที่โดนผมต่อยกก่อนออกบ้านไป ซึ่งตอนนี้มันกลับมานั่งเสนอหน้าอยู่บนเตียงผมเรียบร้อยแล้ว ตอนแรกก็ว่าจะทิ้งนะ ผมไม่กลัวคำขู่ของไอ้พาสต้าหรอก แต่คิดอีกทีก็เสียดาย เลยเก็บไว้

    “น่ะ แกนี่ก็เงียบอีกคนละแม่ง ถามอะไรไม่ตอบ น่ารำคาญว่ะ พอๆกับเจ้านายแกเลย” ใครจะว่าผมเป็นบ้าก็ช่าง แต่ในจอนนี้ผมไม่มีใครให้ปรึกษาเลยจริงๆนี่ จะให้ไปถามไอ้วินเนอร์หรอ ไม่มีทางหรอกครับ รับรองว่ามันได้เค้นคอถามเรื่องทั้งหมดก่อนมันจะตอบแน่ๆ

    ย้อนกลับไปเมื่อเช้า ผมกลับบ้านทันทีเลยที่เจอไอ้พาสต้าหาเรื่อง ความจริงผมว่าจะไปที่อื่นแทน แต่พอเจอมันพูดอะไรแปลกๆแบบนั้น เหมือนกับไม่ใช่มันเลยอ่ะ ผมก็เลยหมดอารมณ์ทันที ตรงกลับบ้านแทน หมกตัวอ่านการ์ตูนอยู่แต่ในห้องเนี่ยแหละ เซ็งแบบสุดๆอ่ะ จนกระทั่งเมื่อตอนเย็น อยู่ๆไอ้เดย์มันก็โทรเข้ามา

    เฮ้ย อยู่ไหนมึงวะเสียงไอ้เดย์ที่เรียกได้ว่าผมจำได้ทันทีดังมาตามสัญญาณ

    อยู่บ้านสิวะ ทำไมผมตอบกลับไปทั้งๆที่นอนอ่านการ์ตูนบนเตียงอยู่

    แดกเหล้าผมน่าจะเดาออกแต่แรกเลยนะ ให้ตายสิ อย่างมันจะโทรมาเรื่องอะไรได้

    ที่....ผมเว้ยช่วงคำถามเพื่อให้มันถาม ขี้เกียจถามอะไรยาวๆครับ

    เดิมๆซึ่งมันก็ตอบกวนตีนผมมาไม่ต่างกัน ร้านเดิมงั้นหรอวะ ผมเงียบไปสักพัก ในสมองกำลังประมวลผลอะไรบางอย่างออกมา เหตุการณ์ในความทรงจำเล็กๆที่ไม่มีวันลืม กับเสียงของใครบางคนที่ผมจำมันได้ขึ้นใจเลยล่ะ ......“พาสต้าครับ”........

     งั้น.....ไม่เอาว่ะผมตอบกลับไอ้เดย์ออกไป

    อ่าวเฮ้ย ไหงงั้นวะ ทิ้งเพื่อนนะมึงอ่ะ หลายรอบแล้วนะ ตั้งแต่วันนั้นแล้วนะ วันที่มึงไปเจอ ไอ้คนที่ชื่อพาสๆ อะไรที่มึงมาโม้ให้ฟังนั่นอ่ะ ใช่ไหม แม่ง จากนั้นชวนไปก็ไม่ไปอีกเลย ไอ้คนทิ้งเพื่อนนี่ไอ้เดย์พูดว่าผมออกมาครับ พวกผมสนิทกันจะตาย แม้ไม่เท่าไอ้เซนท์ก็เหอะ แต่ว่าผมแค่นี้ผมไม่สนใจหรอก แต่มันก็จริงนะ ตั้งแต่เจอไอ้พาสที่ผับนั่น ผมก็ไม่เคยไปที่นั่นกับใครอีกเลย แม้แต่ไอ้พวกที่สนิทกันสุดๆแบบได้พวกนี้ก็เถอนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร

    พูดมากว่ะ เอาไว้วันหลัวเหอะ วันนี้กูเหนื่อยๆข้ออ้างเดิมอีกตามเคยครับ

    พูดแบบนี้อีกละ ตลอดอ่ะมึงอ่ะแล้วมันก็รู้ทันผมด้วย สมเป็นเพื่อกันจริงๆ

    วันนี้กูเหนื่อยจริงๆ ออกไปข้างนอกทั้งวันเลยเนี่ยเสียที่ไหนล่ะ แป๊ปเดียวเอง

    กับยัยแฟร์อีกอ่ะดิไอ้เดย์พูดเหน็บผม เรื่องที่มันพอจะเดาออก

    เออสิวะ จะมีใครได้อีกล่ะผมยอมรับไป ก็มันจริงอ่ะนะ แม้จะครึ่งเดียวก็เถอะ

    ชิ เห็นแฟนดีกว่าเพื่อน เออๆ ไม่ไปก็ไม่ไป แค่นี้นะ มันพูดอย่างรำคาญ แล้วก็วางสายไปครับ ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก วันนี้ขอผ่านเหอะ ยังไม่อยากเจอหน้าใครจริงๆว่ะ

    นึกแล้ว แม่ง งงตัวเองจริงๆ อย่างกับกว่าผมพยายามที่จะหนีอะไรบางอย่างงั้นแหละ

    “ทำไมกูต้องคิดถึงมึงด้วยวะ” ผมมองหน้าไอ้หมีขาวก่อนจะเห็นหน้าใครบางคนลอยมาซ้อมทับ ทำให้ผมมองอย่างประหลาดใจ ทำไมความทรงจำแรกที่นึกออกเกี่ยวกับเรื่องในผับนั้นต้องเป็นไอ้คนสารเลวคนนี้ด้วย ทั้งๆที่ผมออกจะมีเรื่องมากมายเกิดขึ้นในผับที่นั่น แถมแทนที่ผมจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ทำไมผมกลับต้องมานั่งคิดมากเกี่ยวกับเรื่องคำพูดของมันด้วยล่ะ มันจะไปตายที่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องของผมไม่ใช่หรือไง ดีเสียอีก ผมเกลียดขี้หน้ามันโคตรๆเลยล่ะ

    “เฮ้ย!! เดี๋ยวนะ นี่มัน.....” แต่ก่อนที่จะคิดอะไรไปมากกว่านั้น อยู่ๆผมก็คิดอะไรออก

    ตุบ!!!

    “ไอ้เหี้ย!!! มึงอีกแล้ว เลิกยุ่งกับชีวิตกูสักที!!” ผมต่อยอัดหน้าไอ้หมีขาวสุดแรงทันทีที่ผมนึกได้ว่า ใบหน้าของไอ้คนที่ผมมองเห็นผ่านไอ้หมีขาวตัวนี้มันเป็นคนที่ผมเกลียดที่สุด นี่หน้าของไอ้เลวนั่นลอยอยู่ตั้งนานสองนาน ผมพึ่งจะมาเอะใจหรอเนี่ย ไม่นะ ผมไม่ได้คิดถึงมันเลยนะ ห้ามเข้าใจคผิดกันไปเองนะครับ คนอย่างผมเนี่ยนะ ไม่มีทาง อ๊ากกก  ผมเป็นบ้าไปแล้ว!!!


    **********************************************************

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะครับผม

    ใครเห็นด้วยบ้างว่ากราฟกำลังโกหกพี่ไนน์อยู่  555

    เรื่องคำผิด แหะๆ ต้องขอโทษจริงๆครับ รู้ว่าผิดเยอะมาก แต่ยังไม่มีเวลาตรวจอย่างละเอียด ตอนนี้ขอเดินหน้าไปก่อนนะครับ ถ้าไว้มีเวลาจะรีทีเดียวทั้งเรื่องเลย ตอนนี้ยังไม่อยากกลับไปแก้ของเดิม ขอไว้จบเรื่องนี้ก่อนละกันนะครับ  

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×