ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "..Insecure.." WangZiyi x CaiXukun จื่อคุน

    ลำดับตอนที่ #19 : Episode 18 : Rush off

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.75K
      156
      10 มิ.ย. 61

    Insecure

    #สวี่คุนเป็นโอเมก้า

    Episode 18 - Rush off -







    .



    ถามว่าโชว์รอบคอนเส็ปเป็นยังไง


    คำตอบที่เขาจะตอบได้คงไม่ใช่อะไรที่เจ้าของคำถามคาดหวังไว้นัก ไม่ใกล้เคียง หรืออาจจะใกล้เคียงทว่าขาดส่วนสำคัญไปบางส่วน เหมือนถาดพิซซ่าที่เว้าแหว่งทั้งที่ยังไม่ควรมีใครแตะต้อง คงไม่ใช่อะไรที่คนสั่งคิดเอาไว้ว่าจะเห็นเวลาที่เปิดกล่องออกดู มันก็ยังเป็นพิซซ่าอยู่วันยังค่ำ แน่ล่ะ ใครจะเถียง ตราบใดที่แป้งบางๆนั่นยังเป็นแป้งพิซซ่าและรสชาติซึ่งได้รับการพิสูจน์ด้วยปลายลิ้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

    เอ๊ะ เขาลืมตอบไปหรือเปล่านะว่าโชว์รอบคอนเส็ปของตัวเองเป็นยังไง

    หวังจื่ออี้อยากจะบ้าตายวันละสิบรอบเวลาที่สมองโง่เง่าของตัวเองประมวลผลผิดพลาดไปหมดแบบนี้ เล่นเอาความคิดที่อยู่ในหัวมาปนกับรสชาติคุ้นลิ้นของพิซซ่าหน้าเปเปอโรนี่ในปากเสียได้ ริมฝีปากที่กำลังเคี้ยวอาหารจากร้านเดลิเวอรี่ชื่อดังหยุบหยับแค่นยิ้ม ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าจนแล้วจนรอดตัวเองก็ยังไม่ได้คำตอบของคำถามแรกสุดอยู่ดี

    โชว์รอบคอนเส็ป… 

    มีอยู่สามอย่างที่จื่ออี้จำได้จากการแสดงเมื่อตอนหัวค่ำ ที่จริงเขาควรจำได้ทุกรายละเอียดเสียด้วยซ้ำ ในเมื่อความเป็นจริงแล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันเพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงครึ่งวัน แต่เอาเป็นว่าด้วยประสิทธิภาพทางร่างกายที่ถดถอยจนเกือบเข้าขั้นวิกฤต จื่ออี้ภูมิใจที่ตัวเองยังพอจำอะไรได้และยังรักษาสติสตางค์มาจนถึงวินาทีนี้โดยไม่แสดงอาการ


    อย่างแรกที่จื่ออี้จำได้แม่นคือทีมของเขาไม่ใช่เจ้าของอันดับท้ายสุดในการแข่งขันรอบนี้ ไม่รู้ว่าตัวเองไม่ค่อยคาดหวังด้วยหรือเปล่าจื่ออี้จึงได้รู้สึกยินดีกับอันดับสี่ที่ได้นักหนา แปลกอยู่เหมือนกันที่ทุกคนในทีมดูจะไม่ได้ผิดหวังนัก ซึ่งหากพิจารณาดูดีๆแล้วนี่อาจเป็นครั้งแรกในชีวิตของหวังจื่ออี้ที่ต้องจำใจยอมรับว่าตัวเขาเองอาจจะเข้าไปยืนอยู่บนขอบเหวของบุคคลที่เกือบจะพาทีมตกต่ำ ไม่มีใครพูด ทุกคนดูพอใจ แต่ความจริงข้อนี้ตัวเขาเองย่อมรู้ดีแก่ใจมากที่สุด


    อย่างที่สองที่จื่ออี้จำได้คือช่ายสวี่คุนและจัสตินเป็นสองคนสุดท้ายที่ยังไม่ถูกประกาศผลคะแนน นั่นหมายถึงทีมของสองคนนั้นเป็นทีมเข้าชิงอันดับหนึ่งในรอบนี้ จื่ออี้ดีใจที่มันเป็นอย่างนั้น ถึงความจริงที่ว่ามันไม่ใช่ทีมของเขาจะทำให้ริมฝีปากยกขึ้นไม่สุดก็ตามที แต่อย่างน้อยสองทีมนั่นก็พอจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาอยู่บ้าง แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม


    อย่างสุดท้ายพอจะปะติดปะต่อได้ในห้วงสติไม่สมประกอบของเขาก็คือบทสนทนาสั้นๆกับเจ้าของรอยยิ้มที่ทำให้จื่ออี้อาการหนักขึ้นในทุกเสี้ยววินาที เจ้าของเดียวกับกลิ่นคุ้นจมูกในช่วงสองสามเดือนมานี้ เจ้าของเดียวกันกับชื่อที่อยู่ในความฝัน ชื่อที่เขาร้องเรียกหาดังขึ้นและดังขึ้นทุกวัน ในภาพจินตนาการมีเพียงไอหมอกปกคลุมทั่วทัศนียภาพที่พอจะมองเห็น ทั้งนาสิกประสาทยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นเย็นสะอาดโชยอ่อน ร่างกายของเขานอนแผ่อยู่บนผืนดิน มีหญ้าต้นเล็กๆขยับไหวเสียดสีผิวแก้มพอให้สากระคาย จื่ออี้เห็นมือของตัวเองไขว่คว้าไปในอากาศ ในความว่างเปล่าที่เขาแสนจะคาดหวังว่าจะคว้าได้ร่างกายอบอุ่นของคนในความคิด ผิวกายของเขาร้อนผ่าวราวกับถูกพิษไข้รุมเร้าทั้งที่บรรยากาศภายนอกเย็นฉ่ำ ความต้องการบางอย่างพวยพุ่งจนเกือบแตะถึงเพดานทว่าตกดิ่งลงมาเมื่อเสียงก้องสะท้อนของตนเองเป็นสิ่งเดียวที่รับรู้

    ในห้วงคำนึงยามราตรี ทุกรายละเอียดเหล่านั้นชัดเจนขึ้นในทุกวัน เริ่มจากผิวเนื้อเรียบลื่นบนปลายนิ้ว มันยังเป็นไอหมอกในคราแรก ก่อนคืนต่อมาใบหน้าแสนคุ้นเคยจะปรากฏชัด จื่ออี้รู้สึกได้ถึงความรุ่มร้อนที่แล่นผ่านไขสันหลังและเขารู้ดีว่าสักวันหนึ่งสัญชาตญาณตามธรรมชาตินั่นจะวิ่งไวกว่าคำสั่งการจากสมอง

    ระยะเวลา22ปีบนโลกสอนให้อัลฟ่าอย่างเขารู้ว่าวันนั้นกำลังจะมาถึง

    มันอาจไม่สลักสำคัญอะไรหากเป็นยามปกติ

    ก็แค่ความฝัน

    ก็แค่สัญญาณเตือนให้ระวัง

    แต่จื่ออี้ก็เข้าใจธรรมชาติของการจับคู่ ทันทีที่ความต้องการนั้นปรากฏขึ้นภายใต้ความรู้สึกโหยหาต่อใครบางคน อันตรายจากมันย่อมมากขึ้นอีกหลายเท่า และใช่

    เขาไม่กล้าเสี่ยง


    พรุ่งนี้ออกจากค่ายไปเราไปดูหนังด้วยกันไหม


    บทสนทนาในความทรงจำชัดเจนเพียงแค่ส่วนของผู้ตั้งคำถาม เพราะคนทำหน้าที่ตอบอย่างเขาได้แต่เผลอไผลไปกับเรือนผมดำขลับที่ถูกดัดเป็นลอนไว้ของอีกฝ่าย สีเข้มจัดแปลกตาจากการย้อมทับยิ่งขับให้ผิวหน้าเนียนดูขาวจัด ริมฝีปากอิ่มเอ่ยเจื้อยแจ้วถึงบางสิ่งที่จื่ออี้ไม่ได้ตั้งใจฟัง เขาจดจ้องอยู่ที่เนื้ออ่อนสีชมพูเรื่อที่ขยับไปมาจนเห็นฟันขาวๆด้านใน ดวงตาคู่นั้นก็ดูสุกสว่าง น่ามองเกินไปจนจื่ออี้ไม่รู้ว่าตัวเองควรพิจารณาตรงส่วนไหนก่อนดี


    เฮ้ ว่ายังไง


    สวี่คุนถามย้ำ ชกกำปั้นเข้าใส่ไหล่ข้างขวาของเขาเบาเสียจนแทบไม่รู้สึก จื่ออี้จำไม่ได้ว่าตัวเองตอบอะไรไป เขาอาจจะปฏิเสธเพราะรู้แก่ใจเกี่ยวกับสภาพร่างกายของตน หรืออาจตอบตกลงไปเพราะทนแววตาออดอ้อนนั้นไม่ไหว คำตอบที่เป็นปริศนาไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มปวดหัวเท่าเสียงเพรียกจากความต้องการสะท้อนก้องในหัวที่ได้ยินซ้ำราวกับเกิดอาการประสาทหลอน 


    คราวนี้มันไม่ได้อยู่ในความฝันอีกต่อไป


    ดูท่าจะไม่ไหวเท่าไหร่นะนั่น

    จื่ออี้กะพริบตาเร็วๆ ไล่ความคิดที่ทำให้ตัวเองสูญเสียการควบคุมออกไปจากหัวเมื่อได้ยินเสียงเอ่ยกลั้วหัวเราะของเจฟฟรี่ พิซซ่าหน้าไก่และชีสเหลืออยู่อีกสองชิ้นในถาด ขณะที่เปเปอโรนี่ในมือเขาเป็นชิ้นสุดท้ายพอดิบพอดี จื่ออี้เพ่งมองเบต้าที่พ่วงตำแหน่งรูมเมทของตนด้วยสายตาอ่านยาก ไม่ได้ซับซ้อนด้วยความรู้สึกแต่กำลังสับสนเพราะเจ้าของมันกำลังต่อสู้กับกลไกทางธรรมชาติอยู่ในใจ

    ไหวอยู่ ยังไม่วิ่งออกไปปล้ำใคร

    เขาตอบหลังกระแอมไออยู่ครั้งสองครั้ง เยี่ยนเฉินยื่นแก้วน้ำมาให้ด้วยความหวังดีก่อนเจ้าตัวจะขอตัวออกไปเก็บของบางส่วนเพื่อกลับบ้านเลยในคืนนี้ มันเป็นทางเลือกของเด็กฝึกที่จะกลับบ้านตอนไหนก็ได้ในช่วงพัก เหตุเพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันบางคนจึงอาจใช้เวลาช่วงนี้อยู่ที่ค่ายฝึกไปก่อนเพื่อฝึกซ้อมเพิ่มเติมในส่วนที่ตนสนใจ โดยปกติแล้วจื่ออี้จะกลับคอนโดของตัวเองทันทีที่เสร็จงาน แต่เพราะคราวนี้สถานการณ์มันค่อนข้างต่างออกไปนิดหน่อย เป็นสถานการณ์ที่หากจะเรียกว่าสุ่มเสี่ยงก็คงไม่ผิดไปนัก หวังจื่ออี้จึงขอใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งคืนตั้งสติอยู่ที่ค่ายฝึก

    ในกรณีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น บางทีเขาอาจจะเรียกผู้จัดการให้มารับกลับในช่วงบ่ายของวันถัดไป


    ตานายแดงๆนะ ไม่ไหวยังไงก็บอกจะได้ขนของกินออกไปข้างนอกเผื่อนายจะพังห้องขึ้นมา เสียดายของแย่

    รุ่ยปินที่ขยับตัวถอยเพื่อให้เพื่อนได้ออกจากห้องไปง่ายๆพูดขึ้นมาก่อนจะคว้าน่องไก่ทอดไปวางบนจานกระดาษของตัวเอง จื่ออี้เอนหลังพิงเตียงนอนอันไร้ผ้าปูผิดจากที่ควรจะเป็น ผืนผ้าสีน้ำเงินที่ฟ่านเฉิงเฉิงยืมไปคราวก่อนยังไม่ได้คืนแต่จื่ออี้เองก็ไม่คิดจะใส่ใจ ถ้าอยากซักให้ก็นับเป็นเรื่องดีๆในชีวิตผู้ชายขี้เกียจอย่างเขาล่ะนะ ชายหนุ่มเคี้ยวขอบขนมปังที่จงใจยัดมันเข้าปากทั้งชิ้นพลางหวังว่าคืนนี้จะผ่านไปอย่างปกติสุข ก่อนที่เสียงทุบตึงตังจะดังออกมาจากภายนอกตามมาด้วยเสียงคำรามที่แค่ได้ยินเบาๆยังรับรู้ได้ถึงความทรมานจากต้นเสียง

    เหวินจวิ้นรัทน่ะ พวกนั้นขังเจ้านั่นไว้ในห้อง ที่เหลือพากันกลับค่ายหมดเลย

    เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่พอจะเข้าใจได้เมื่อนึกไปถึงสภาพของฟ่านเฉิงเฉิง

    ทีมพวกนายโชคดี อัลฟ่าสองตัวเกือบจะรัทบนเวทีเลยนะเนี่ย

    รุ่ยปินยังคงฉอเลาะ ริมฝีปากหยักมันแผล่บจากน้ำมันส่วนเกินบนชิ้นไก่ทอด เจฟฟรี่ตบไหล่ของเพื่อนผู้มีคำพูดติดปากว่าcool broก่อนจะหันไปโวกับรุ่ยปินต่อโดยไม่ได้สนใจสีหน้าแปลกประหลาดจากจื่ออี้เลยแม้แต่น้อย

    ช่าย ทำบุญมาเยอะล่ะมั้ง

    รู้ไหมว่าทุกคนเครียดแทบแย่เพราะรุ่ยเจี๋ยบอกว่าได้กลิ่นแปลกๆจากสองคนนี้ รอดมาได้นี่ฉันแทบร้องไห้กลางเวที

    อ่า

    นี่สินะเหตุผลที่ทุกคนดูจะพออกพอใจนักแม้จะได้ลำดับที่สี่


    นึกว่าพวกนายจะอยากได้ที่หนึ่งเสียอีก

    ไอ้อยากมันก็อยาก แต่เอาจริงนะ ตัวฉันเลิกหวังตั้งแต่รู้ว่าต้องรับเพื่อนรักเข้ามาในทีมแล้ว

    จื่ออี้เห็นว่าปลายนิ้วชี้ของเจฟฟรี่ชี้ตรงมาที่ตัวเอง ถ้อยคำที่เกือบจะเป็นการดูแคลนไม่ได้ทำให้คนที่กำลังมองภาพทุกอย่างบิดเบี้ยวสนใจ มือที่ถือแก้วเครื่องดื่มวางแก้วพลาสติกในมือลงช้าๆก่อนจะยกขึ้นนวดวนบนขมับตัวเอง

    ปวดหัวแล้วว่ะ ฉันว่าฉันต้องพัก

    เกิดความเงียบขึ้นเป็นระยะเวลาสั้นๆภายในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ จื่ออี้หลับตาแน่นหวังไล่อาการปวดหนึบออกจากหัวตัวเองในหูได้ยินเสียงสวบสาบของฝีเท้าสลับกับเสียงครืดคราดคล้ายคนกำลังโยกย้ายของ พอลืมตาขึ้นอีกทีก็เห็นรุ่ยปินเต๊ะท่าเท่อยู่ที่กรอบประตู ใกล้กันนั้นคือเจฟฟรี่ที่หอบทั้งพิซซ่า ไก่ทอด ขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มเอาไว้เต็มสองแขน


    น่าจะต้องพักยาว ขอให้โชคดีอย่าไปกัดคอใครก็แล้วกัน

    เออใช่จื่ออี้ ระวังลังไข่ฉันด้วย

    จื่ออี้อยากรับปากเจฟฟรี่แต่เขาเองก็ไม่มั่นใจเลยแม้แต่นิดว่าตัวเองจะควบคุมมันได้


    ไม่ยุติธรรม ทำไมอัลฟ่าไม่มียาแก้รัทเหมือนพวกโอเมก้ากันนะ



    .



     ทั้งหมดยังคงถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิดและอุณหภูมิเหน็บหนาว

    ใช่ มันหนาวจนขนอ่อนลุกชัน

    แต่ภายในของเขากลับร้อนผ่าวเหมือนธาตุไฟในตัวกำลังปะทุ


    ใครสักคนกำลังจุดพลุขึ้นมาในสมองของจื่ออี้

    สว่างวาบ ก่อนจะดับไป เกิดขึ้นอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง พร้อมด้วยลมหายใจหอบกระชั้น

    ทุกอย่างเงียบงันและมืดสนิทเหมือนในความฝันเพียงแต่คราวนี้ชายหนุ่มไม่ได้สูญสิ้นสติไปในยามราตรี เขายังคงตื่นอยู่ และความมืดที่เห็นก็กำลังถูกทดแทนด้วยภาพของฝ้าเพดานคุ้นตา จื่ออี้พลิกศีรษะลงกับหมอนใบเดิมที่เคยใช้ หน้าผากมนรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นของเม็ดเหงื่อที่ซึมออกจากรูขุมขน ดวงหน้าจางๆปรากฏขึ้น เป็นภาพที่เกือบจะแยกไม่ออกระหว่างความฝันและความจริง

    แม่-เอ๊ย

    จื่ออี้สบถออกมาด้วยเสียงต่ำทุ้มกว่าที่ตัวเองจำได้ ความต้องการบางอย่างกำลังไต่ระดับขึ้นจนเสียวปลาบไปทั้งไขสันหลัง ราวกับเซลล์เล็กๆในร่างกายกำลังระเบิดพรูเพื่อปลดปล่อยฮอร์โมนตามธรรมชาติออกมาในกระแสเลือด และหากมีเครื่องมือวัดระดับความต้องการนั้นได้ จื่ออี้เชื่อว่าเสียงร้องเตือนแสบแก้วหูคงจะดังขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า


    จื่ออี้ นอนแล้วเหรอ

    เฮ้ พรุ่งนี้จะออกกี่โมง


    F*ck

    เสียงเรียกของช่ายสวี่คุนดังมาจากที่ไกลๆ มันดูก้องกังวานคล้ายกับต้องการจะปลุกสัญชาตญาณสัตว์ป่าในร่างของเขาให้ตื่นขึ้น จื่ออี้จิกมือลงบนเบาะเปลือยแรงจนได้ยินเสียงเอี๊ยดของผิวยาง ข้อนิ้วเกร็งแน่นและชาดิกขณะพยายามผ่อนอาการตึงเครียดในร่างให้ทุเลา แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวยุ่งที่หน้าประตูจะไม่ให้ความร่วมมือด้วยสักเท่าไหร่

    จื่ออี้นอนแล้วเหรอ

    อัลฟ่าหนุ่มอยากให้ใครสักคนมัดตัวเขาเอาไว้กับเตียง เสียงร้องเรียกจากภายในที่กระตุ้นเร้าให้วิ่งไปกระชากประตูออกเพื่อคว้าร่างที่สมควรจะเป็นของตนเข้ามาในอาณาเขตรุนแรงจนแทบจะห้ามไว้ไม่ไหว สันครามคมที่ใครต่อใครต่างก็อิจฉาปรากฏขอบนูนชัดยามกระดูกภายในขบกรอด

    ออกไปเสียที

    วิ่งหนีไปเสียที

    หมัดหนักๆชกลงบนเตียง พอดีกับจื่ออี้รู้สึกเจ็บปลาบบนผิวฝ่ามือ บางทีปลายเล็บของเขาคงจะกดลึกบาดเข้าไปในร่างตัวเองเสียแล้ว แต่ก็ดีที่อย่างน้อยความเจ็บปวดนั้นยังช่วยยึดกายหยาบของเขาเอาไว้กับที่ แม้ว่ากายละเอียดอันควบคุมไม่ได้จะแตกกระจัดกระจายจนไม่อาจประกอบเป็นรูปเป็นร่างได้แล้วก็ตาม

    กลิ่นมิ้นต์ติดจมูกลอยห่างออกไป

    เจือจางทว่ายังฝังแน่นบนอณูความรู้สึก

    หวังจื่ออี้เกลียดที่ตัวเองตกปากรับคำอีกฝ่ายไปทั้งอาการอย่างนั้น

    แต่ก็ขอบคุณความอดทนอันน้อยนิดที่ไม่ปล่อยให้สัตว์ร้ายในตัวเขาลุกขึ้นมาในเวลาอันไม่สมควร


    แต่ละวินาทีช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า

    จื่ออี้หวังเหลือเกินว่าเสียงเรียกในหัวนั้นจะถูกส่งไปถึงใครสักคนไม่ใช่เพียงความมืดสนิทอย่างที่เป็นอยู่



    .



    สวี่คุนกำลังหลับ

    หรืออย่างน้อยที่สุดเขาก็ใกล้จะหลับเต็มแก่ในวินาทีที่เสียงหมุนแกรกของลูกบิดประตูดังขึ้นในยามวิกาล ดวงตาหรี่ปรือพลันต้องหยีลงเมื่อแสงสว่างจากทางเดินสาดเข้ามาภายในห้อง ชายหนุ่มกำลังจะเอ่ยทักผู้มาเยือนด้วยความคุ้นชินก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ารูมเมททุกคนของตนกลับบ้านกันไปหมดแล้ว ความฉงนสงสัยผุดขึ้นในใจเพียงเสี้ยววินาทีก่อนกลิ่นขนมอบเจือรสกาแฟจะเป็นคำตอบให้กับทุกสิ่ง

    อ้าวจื่ออี้ ตกลงว่าพรุ่งนี้ เหวอ

    คำถามขาดห้วงเมื่อร่างสูงของหวังจื่ออี้โถมกายทับเข้าใส่คนที่กำลังนอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม สวี่คุนขมวดคิ้วเป็นปมยามที่ปลายจมูกรับกลิ่นฟีโรโมนของคนบนร่างได้มากกว่าที่เคย

    มันมากกว่าปกติ

    ไม่สิ

    มันมากเสียจนไม่ปกติ

    จะ จื่ออี้

    ลมหายใจร้อนผ่าวหอบกระชั้นพ่นไออากาศระอุระบนผิวแก้มเนียน ช่ายสวี่คุนไม่แน่ใจว่าเครื่องปรับอากาศทำงานได้ดีจนเกินไปหรือร่างด้านบนตัวร้อนจัดจนแผ่ไออุ่นผ่านผืนผ้าห่มมาได้กันแน่ ความคิดกระจัดกระจายเริ่มเรียงตัวเป็นระเบียบเมื่อจื่ออี้ยันกายขึ้นโดยใช้ท่อนแขนกักร่างเขาไว้ด้านใต้

    เพราะประตูถูกปิดจนสนิทแล้วจึงมีเพียงแสงจันทร์เป็นแหล่งกำเนิดแสงเพียงหนึ่งเดียวในขณะนี้

    ถึงกระนั้นแววตาลึกล้ำและเสียงครางต่ำๆในคอที่เขาได้ยินก็พอบอกอะไรได้รางๆ

    สติสัมปชัญญะเริ่มละลายหายไปช้าๆเมื่อโดนสายตาของผู้อยู่เหนือกว่าสั่งการให้ยินยอม ปลายนิ้วเรียวยกขึ้นแตะบนลาดไหล่กว้างหมายจะผลักออกในคราแรกแต่กลับต้องเปลี่ยนเป็นจิกเล็บลงบนผ้ายืดชื้นเหงื่อทันทีที่ริมฝีปากหยักจาบจ้วงลงมา

    อื้อ

    เสียงประท้วงดังให้ได้ยินเพียงเท่านั้นก่อนเสียงเฉอะแฉะของริมฝีปากที่กำลังโรมรันอย่างตะกรุมตะกรามจะเข้ามาแทนที่ สวี่คุนกะพริบตาถี่หมายจะรั้งสติตัวเองเอาไว้ให้ได้มากที่สุดเพราะรู้ดีว่าคนบนร่างไม่ได้อยู่ในสภาวะสมประกอบเท่าใดนัก

    ทว่ามันช่างยาก

    ยากเหลือเกิน

    ตราบใดที่ฟีโรโมนเข้มจัดยังคงปลุกเร้าความรู้สึก ปลายนิ้วอุ่นร้อนยังคงลากไล้บนใบหน้าและลำคอ รวมถึงเรียวลิ้นที่กำลังดูดกลืนความเป็นเขาออกไปจากร่างที่ละน้อย


    ยากเกินไปที่โอเมก้าอย่างเขาจะอดทน


    สวี่คุนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังนอนอยู่บนเปลวไฟ

    ชายผ้าห่มที่ถอยร่นลงไปตามแรงดันของคนเหนือกว่าดูเกะกะเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อร่างกายที่โผล่พ้นชายผ้านั้นกำลังถูกริมฝีปากอุ่นแตะเล็มไปทั่ว 

    เดี๋ยว อึก

    มือเขาสั่นริก สั่นเสียจนไม่แน่ใจว่าหากออกแรงผลักคนตรงหน้าจะกระเทือนบ้างหรือเปล่า ถึงกระนั้นนิ้วยาวก็ยังรวบรวมพลังงานเฮือกสุดท้ายจิกกระชากปอยผมยาวของอีกฝ่ายขึ้นมา โชคดีที่แรงนั้นมากพอจะทำให้จื่ออี้เงยหน้าออกจากเรือนร่างนุ่มมือ ริมฝีปากบางคายผ้าเนื้อบางที่เปียกชุ่มเพราะเข้าไปอยู่ในปากของใครบางคนอยู่นานสองนานออก สวี่คุนเห็นปลายลิ้นของคนบนตัวขยับเลียบนริมฝีปากก่อนร่างนั้นจะเคลื่อนตัวกลับขึ้นมาด้านบน สอดประสานสายตาเข้ากับเขาอีกครั้ง

    และตรึงเขาไว้กับที่ราวกับต้องการจะหยุดลมหายใจ


    ฉันกำลังแย่

    เสียงของจื่ออี้เบายิ่งกว่าเสียงการทำงานของเครื่องทำความเย็นภายในห้อง มันทุ้มต่ำและเต็มไปด้วยความกระหายลึกล้ำที่ช่ายสวี่คุนไม่เคยพานพบ

    มันกำลังมา

    ฉันสู้มันไม่ไหว

    สวี่คุนลูบปอยผมชื้นเหงื่ออย่างหลงใหลยามที่เห็นคลื่นความรู้สึกเคลื่อนขยับในดวงตาเรียวรี มันดูเหนื่อยอ่อนทว่าดุกร้าว ราวกับคนสองคนที่เป็นอีกด้านของกันและกัน ชายอายุน้อยกว่าแปลกใจไม่น้อยที่ตัวเองขยับได้ตามใจคิดแม้สายตาจะยังถูกตรึงเอาไว้กับที่ก็ตาม


    จื่ออี้กำลังรัท

    หรือไม่

    ก็อาจสู้กับอาการรัทของตัวเองอยู่


    อยากให้ฉันทำอะไร

    เขาเอ่ยถามทั้งที่รู้คำตอบดีแก่ใจ ถึงอย่างนั้นแววตาอ้อนวอนและกลิ่นหอมที่โอบร่างเขาอยู่ก็ทำให้เผลอใจยินยอมทำตามคำร้องขอได้อย่างไม่ยากนัก


    นายอยากได้นาย

    เกือบไปแล้ว

    เกือบหยุดหายใจไปแล้วจริงๆ

    สวี่คุนคิดว่าตัวเองลืมวิธีการหายใจไปชั่วขณะเมื่อถ้อยคำนั้นถูกเอื้อนเอ่ยออกมาจากริมฝีปากที่ตนหลงใหล จื่ออี้โน้มใบหน้าลงใกล้ เกือบจะกดจูบทว่าหยุดชะงักในระยะเพียงลมหายใจกั้น ดวงดาวพร่างพรายอยู่ในตาของเขาตอนที่รู้สึกได้ถึงฝ่ามือที่ลูบไล้บนกรอบหน้า แอ่งชีพจรถูกนิ้วของอีกฝ่ายปัดผ่านอย่างแผ่วเบารวมไปถึงพื้นที่หลังใบหูอันเป็นจุดบ่งบอกวรรณนะของทั้งสองฝ่าย

    แต่ตอนนี้ฉันอยากให้นายช่วยอะไรสักอย่าง


    “…อะไร


    บอกทีว่านายจะเป็นของฉันคุนคุน

    เป็นโอเมก้าของฉันได้ไหม

     ลิ้นชื้นแฉะแลบออกมาเลียไล้ผิวอ่อนที่บวมเจ่อ ขออนุญาตเข้าไปสำรวจด้านในอีกรอบ สวี่คุนหลับตาพริ้ม เผยอปากให้คนตรงหน้าได้เข้าไปกระทำตามใจยามวัตถุแข็งถูกส่งผ่านจากร่างด้านบนเข้ามาอยู่ในกำมือของเขา วัตถุที่โอเมก้าอย่างเขารู้จักดี แต่ช่างน่าแปลกที่มันถูกหยิบยื่นมาให้ด้วยฝีมือของคนที่ควรจะเกลียดมันที่สุด

    สวี่คุนไม่รู้ว่าจื่ออี้รู้ที่เก็บมันได้ยังไง

    แต่เขาคิดว่าในที่สุดตัวเองพอก็จะเข้าใจความต้องการของอีกฝ่าย


    นายเป็นของฉันใช่ไหม


    เสียงเพรียกดังขึ้นอีกครั้งเมื่อริมฝีปากอิ่มถูกปล่อยเป็นอิสระ คำร้องขอที่พร่ำออกมาด้วยน้ำเสียงวิงวอนดูน่าเห็นใจเสียจนเขาอดไม่ได้ที่จะยกศีรษะขึ้นจูบปลายคางของคนที่ร้องฮึมฮัมอยู่ในคอ

    .


    เป็นของนายฉันเป็นของนาย


    .

    ประโยคจบลง

    ความเงียบเข้าแทนที่ ก่อนรอยยิ้มจะระบายชัดบนใบหน้าของชายทั้งสอง สวี่คุนเห็นว่าจื่ออี้กำมือแน่นจนสั่น ส่วนล่างที่ทาบทับอยู่บนผืนผ้าก็กำลังขยับไถลกายเสียดสีเรียกร้อง ใบหน้าคมเชิดขึ้นคำรามด้วยเสียงที่ทำให้เขาแทบอยากจะฝังตัวเองลงบนฟูก

    ตอนนี้เลย

    “…ได้โปรด


    จื่ออี้พูดออกมาเป็นคำสุดท้ายก่อนทุกอย่างจะกลายเป็นลมหายใจถี่และเสียงกรีดร้องทุรนทุรายของอัลฟ่าที่พยายามที่ฉีกกระชากเสื้อผ้าบนกายเขาออก สวี่คุนปิดตาแน่นขณะเลื่อนวัตถุแข็งมาไว้เหนือศีรษะของตัวเอง เขาไม่กล้าแม้แต่จะมองตาอีกฝ่าย กลัวเกินไปที่จะยอมรับว่าตนเองพร้อมจะสละทุกอย่างในวินาทีนั้น

    ขอโทษนะ


    ตื้ด


    เครื่องช็อตไฟฟ้าถูกเปิดให้อยู่ในระดับไฟแรงสุดก่อนจะกดประทับลงบนแผ่นหลังของหวังจื่ออี้ ร่างที่กำลังขาดสติอย่างถึงที่สุดหลุดเสียงร้องโหยหวนที่คงจะปลุกให้เพื่อนหลายคนตื่นจากฝันหวาน อัลฟ่าบนตัวของเขากระตุกเกร็งก่อนจะหมดสติและฟุบหน้าลงกับอกของเขาในวินาทีต่อมา


    เกิดอะไรขึ้น!”

    เยว่เยว่เปิดประตูพรวดพร้อมทั้งเปล่งเสียงตะโกนอย่างตกอกตกใจ ภาพที่ชายหนุ่มเห็นคือร่างของหวังจื่ออี้ที่นอนสลบไสลอยู่บนตัวของสมาชิกคนดังของรายการ 

    ความเงียบสงบคือสิ่งที่เขาไม่ได้คาดคิด

    ช่ายสวี่คุนกำลังตระกองกอดร่างอันไม่ได้สติของชายบนร่างตัวเองราวกับกำลังกล่อมให้คนนอนฝันร้ายสงบลง

    ดวงตากลมโตสั่นริกยามหันมาสบ ก่อนประโยคถัดมาจะทำให้หนึ่งในพี่ใหญ่ของรายการต้องรีบกุลีกุจอเข้ามายกจื่ออี้ออกจากร่างนั้น


    เขาไม่สบาย


    .


    พี่ช่วยเขาที เขากำลังรัท







    TBC.





    —————-


    ผิดหวังกันล่ะสิ อย่าตบเราค่ะประชาชน

    สรุปอิพี่นี่คนดีหรือคนไม่ดี ทำไมไม่อ่อนโยน เอ๊ะ หรืออ่อนโยนแล้ว


    สำหรับคนที่กำลังตะกุยจอและอยากจะเขวี้ยงอุปกรณ์สื่อสารของท่านมาใส่หัวไรท์เตอร์ ทางเราอยากให้ท่านหยุดไว้ตรงนั้นก่อน บางทีตอนหน้าเราอาจจะมีรางวัลสำหรับคนอดทนก็ได้นะคะ


    เอาน่า

    ต้องมีวันที่อัลฟ่าได้กินน้องแหละ

    แต่แค่ไม่ใช่วันนี้เท่านั้นเองค่ะ ฮริ้ง



    #สวี่คุนเป็นโอเมก้า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×