ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "..Insecure.." WangZiyi x CaiXukun จื่อคุน

    ลำดับตอนที่ #25 : Episode 24 : Xylograph

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.83K
      124
      30 มิ.ย. 61

    INSECURE

    #สวี่คุนเป็นโอเมก้า

    Episode 24 - Xylograph -








    ไม่มีอะไรที่แน่นอนและไม่แน่นอนในธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต


    บางสิ่งที่เที่ยงตรงอย่างการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรมภายใต้ลักษะของยีนเด่นบนโครโซมยังมีข้อยกเว้น ส่วนสิ่งที่แสนจะไม่แน่นอนอย่างจิตใจมนุษย์ก็ยังมีการศึกษาถึงทิศทางของอารมณ์ที่ค่อนข้างจะเป็นแบบแผนได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    ช่ายสวี่คุนไม่ได้จะมาสอนเลกเชอร์วิชาพันธุศาสตร์หรือจิตวิทยาเบื้องต้นเพื่อการเรียนรู้ใดๆทั้งสิ้น เขาแค่พยายามจะอธิบายสภาวะอาการที่ตนกำลังประสบอยู่ด้วยการบอกเล่าอย่างซับซ้อนขึ้นกว่าการพูดไปตรงๆว่า โอเมก้ามีระยะเวลาฮีทเฉลี่ยประมาณสองถึงสามวันทั้งนี้ขึ้นกับปัจจัยภายนอกและภายในที่อาจทำให้ช่วงเวลานั้นสั้นลงหรือยืดยาวออกไปได้มากขึ้น มันง่ายกว่าที่จะบอกอย่างตรงไปตรงมา แต่สวี่คุนพบว่ามันยากขึ้นเมื่อเขาพูดออกไปแล้วโดนคนที่กำลังเคาะส่วนบนของเปลือกไข่เพื่อกระดกไข่ลวกลงคอถามกลับมาว่าปัจจัยที่ว่ามีอะไรบ้างแล้วมันส่งผลยังไง

    หวังจื่ออี้ควรรู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ และที่สำคัญคือนี่เป็นการฮีทครั้งแรกของเขา

    ไม่รวมปัญหาจากความพยายามที่จะกระโจนข้ามเคาน์เตอร์ครัวแบบบิวด์อินราคาแสนแพงของอีกฝ่าย นั่นทำให้การอธิบายโดยใช้เรื่องยากๆดูจะเป็นทางเลือกที่ดีเพราะมันทำให้อัลฟ่าตรงหน้าได้หยุดคิดไปสักพักใหญ่ๆ


    อย่างน้อยก็ช่วยให้ปากช้ำๆของเขาได้พักสักแปปหนึ่ง


    แล้วพรุ่งนี้นายจะหายไหม


    ถึงนั่นจะไม่ได้นานเลยก็เถอะ


    ไม่รู้สิ อยู่ใกล้ๆนายตลอดคงหายยาก แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นมาก

    คงงั้น นายไม่ได้ปีนขึ้นมาบนตักฉันทุกห้านาทีเหมือนเมื่อวานแล้วนี่นะ

    สวี่คุนรู้ว่าตัวเองต้องหน้าแดงจากคำพูดที่เหมือนจะไม่คิดอะไรแต่ชวนให้คิดลึกของจื่ออี้ เขาจะไม่ปฏิเสธเพราะมันคือเรื่องจริงที่ช่ายสวี่คุนคนนี้พยายามพาตัวเองขึ้นไปอยู่บนตัวของอัลฟ่าทุกห้านาทีเพื่อที่สุดท้ายตัวเองจะต้องสลับมาอยู่ใต้ร่างของอีกฝ่ายแทน ชายหนุ่มร่างเล็กกว่าพยายามเลี่ยงประเด็นสนทนาด้วยการแบมือขอไข่ลวกจากจื่ออี้บ้าง

    กี่ฟอง

    สอง เอาเบคอนด้วย เยอะๆเลย

    วาฟเฟิลราดน้ำผึ้งหรือไซรัป

    อะไรก็ได้แต่เอามาสองชิ้น

    กินจุจริง

    จื่ออี้พูดไปอย่างนั้น เขาไม่ได้แปลกใจกับปริมาณอาหารที่ช่ายสวี่คุนร้องขอถึงจะแอบคิดอยู่หน่อยๆว่าควรเป็นเขาไม่ใช่หรือที่ต้องการพลังงานมากกว่า เครื่องทำวาฟเฟิลส่งเสียงตึ๊งออกมาเบาๆพร้อมกับกลิ่นแป้งหอมๆที่โชยกรุ่นทันทีที่มือแกร่งกดเปิดมันออก จื่ออี้วางแผ่นวาฟเฟิลร้อนๆลงบนจานของสวี่คุนก่อนจะจัดการเทแป้งที่เหลือลงไปใหม่สำหรับส่วนของตัวเอง ชายหนุ่มหันไปยกขวดเมเปิลไซรัปกับน้ำผึ้งแบบบรรจุหลอดขึ้นถามคนที่นั่งท้าวแขนกับเคาน์เตอร์อีกรอบ

    อะไรก็ได้

    สวี่คุนตอบก่อนจะไถลตัวลงจากเก้าอี้ ร่างสูงในกางเกงนอนขาสั้นกับเสื้อยืดประจำทีมบาสเก็ตบอลชื่อดังเดินลากสลิปเปอร์ไปหยิบเครื่องมือสื่อสารของตนเองขึ้นมาเช็คข้อมูลข่าวสาร ขณะที่อัลฟ่าซึ่งกำลังง่วนอยู่หน้าเตาตัดสินใจเทน้ำหวานลงบนวาฟเฟิลอย่างละครึ่ง ไข่ลวกที่ดูจะกลายเป็นไข่ต้มเพราะเขาลืมตักขึ้นจากหม้อนอนอยู่ในชามขนาดเล็กที่วางเอาไว้บนจานที่กว้าง จื่ออี้วางเบคอนกรอบๆอย่างที่อีกฝ่ายชอบลงไปใกล้กับชิ้นวาฟเฟิลก่อนจะวางแอปเปิลลงไปด้วยเป็นอันเสร็จพิธี ชายหนุ่มกะเวลาได้พอดีกับที่วาฟเฟิลของตนส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายอย่างไม่น่าเชื่อ ใช้เวลาไม่นานอาหารเช้าแบบง่ายๆสองจานก็ถูกยกมาวางบนเคาน์เตอร์ด้านหลัง ต้องขอบคุณคุณแม่ของสวี่คุนที่ใจดีหย่อนอาหารเอาไว้ในตู้เย็นบ้าระหว่างที่หล่อนมาพักที่นี่ชั่วคราวในช่วงก่อนเวทีไฟนอล สองสามวันที่พวกเขาติดอยู่ในคอนโดแห่งนี้จึงไม่ได้ลำบากอะไรนัก

    นายน่าจะเป็นเชฟ

    ถ้าทุกคนที่ทำวาฟเฟิลกึ่งสำเร็จรูปอร่อยเป็นเชฟได้ล่ะก็ ฉันว่าเพื่อนฉันคงเป็นเชฟไปแล้วครึ่งนึง

    สวี่คุนยักไหล่อย่างไม่ได้สนใจประโยคนั้นนัก จะเกี่ยวอะไรที่ใครๆก็ทำวาฟเฟิลได้ สำหรับเขาแล้วอาหารที่จื่ออี้ทำก็ยังอร่อยกว่ามาตรฐานอยู่ดี อาหารมื้อแรกในรอบหลายชั่วโมงหายไปจากจานอย่างรวดเร็วเหลือทิ้งไว้เพียงคราบน้ำผึ้งและไซรัปเป็นมันเงาอยู่บนผิวกระเบื้องสีขาว  สวี่คุนลูบท้องป้อยๆขณะลุกขึ้นเก็บจานทั้งสองชุดไปล้าง

    พรุ่งนี้ต้องเดินทางแล้วใช่ไหม นัดแต่เช้าเลยนี่นะ

    ชายหนุ่มที่กำลังง่วนอยู่กับการปิดเปิดก๊อกน้ำและขัดคราบสกปรกออกจากจานเอ่ยถามขึ้นมาหลังปล่อยให้ความเงียบทำหน้าที่ของมันได้พักใหญ่ กลิ่นหอมอุ่นๆชวนให้สบายใจลอยเข้ามาเตะจมูกและมันก็ชัดเจนเกินกว่าจะเป็นกลิ่นกาแฟยามเช้ากับวาฟเฟิลอบเมื่อครู่ วงแขนแข็งแรงของอัลฟ่าที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองทำให้อาการฮีทของเขายืดเวลาออกไปรัดช่วงเอวบางกว่าเดิมเล็กน้อยเอาไว้แน่น ก่อนจะวางคางลงบนไหล่มนพลางกดจมูกลงบนผิวกายที่ยังคงเอาไว้ซึ่งกลิ่นหวานเชื่อมแบบที่ปลุกสัญชาตญาณอัลฟ่าของชายหนุ่มให้ตื่นขึ้นได้อย่างง่ายดาย

    ล้างจานอยู่

    ให้เวลาหนึ่งนาที

    เสียงต่ำทุ้มไม่พูดเปล่า แต่ยังทิ้งน้ำหนักลงบนผิวอ่อนบริเวณลำคอของร่างในอ้อมแขนด้วยการกดริมฝีปากลงไปซ้ำๆ จื่ออี้ยกยิ้มยามที่ได้ยินเสียงร้องต่ำๆในคออีกฝ่าย ฝ่ามือที่ดูจะซุกซนไม่แพ้ริมฝีปากหยักสอดเข้ามาใต้เสื้อบาสตัวโคร่ง ปะป่ายลากไล้ผ่านหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อประดับบางๆขัดกับความนุ่มนิ่มของผิวเนื้อที่ปลายนิ้วรู้สึก จื่ออี้เลื่อนใบหน้าไปยังหัวไหล่ขาวที่อยู่นอกตะเข็บเสื้อ ฟันคมกัดย้ำลงไปแรงๆอย่างหมั่นเขี้ยวทว่าไม่ถึงขนาดทำให้เกิดแผลก่อนจะลากปลายลิ้นผ่านคล้ายจะปลอบประโลมผิวกายละเอียดที่ถูกคุกคามซ้ำเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจรู้

    อีกสิบวิ

    สะเสร็จแล้ว

    จานเซรามิกวางบนชั้นสำหรับตากอย่างงดงามหลังเสียงน้ำเงียบหายเพียงชั่วลมหายใจ จื่ออี้รู้สึกถึงแรงกระทบจากการสั่นสะเทือนภายในอกของคนตรงหน้า ฝ่ามือที่วางทาบบนตำแหน่งของหัวใจไล้ไปมาพลางกระชับแน่นคล้ายยืนยันกับตัวเองว่าสิ่งที่สัมผัสคือชีวิตจิตใจของช่ายสวี่คุนจริงๆไม่ใช่เพียงความฝันแสนหวาน

    ใบหน้าที่เห่อแดงหลังจากได้รับการกระตุ้นไม่เท่าไหร่พอจะบอกได้ว่าสวี่คุนยังหื้นตัวจากอาการฮีทได้ไม่เต็มที่ นับเป็นข่าวดีสำหรับเขาที่จะทำให้ไม่รู้สึกผิดต่อตัวเองและอีกฝ่ายมากนักเวลาที่เผลอขย้ำแรงๆ แรงดูดดึงที่กลีบปากเรียกร้องหาการปรนเปรอที่มากขึ้นจื่ออี้จึงต้องละมือออกจากแผ่นอกอุ่นขึ้นมาประคองใบหน้าได้รูปให้รับสัมผัสของตนได้อย่างเต็มที่

    พรุ่งนี้ต้องไปแต่เช้า

    ช่ายสวี่คุนเพ้อออกมาด้วยสายตากึ่งล่องลอย ลูกแก้วที่สะท้อนแสงไฟเป็นประกายวิบวับช่างเชื่อมหวานยิ่งกว่าตอนไหนๆ จื่ออี้ชอบที่จะมองหน้าสวี่คุนเวลาแบบนี้ เวลาที่อีกฝ่ายเรียกร้องหาความอบอุ่นจากเขา เวลาที่อีกฝ่ายเปิดเผยซึ่งความต้องการอย่างเต็มที่ สิ่งที่เห็นสุดแสนจะงดงามราวกับภาพวาดในพิพิธภัณฑ์ อันที่จริงนี่คงสวยกว่านั้นด้วยซ้ำเพราะมันคืองานศิลปะชิ้นเอกที่เขาสรรสร้างมันขึ้นมากับมือตัวเอง


    ตอนนี้เลยต้องรีบทำไง


    แล้วจื่ออี้ก็ได้รีบจริงๆอย่างที่พูดเอาไว้ เพราะดันกลัวเกินไปว่าวันพรุ่งนี้จะมาถึงโดยที่เขายังตักตวงไม่เต็มอิ่ม

    คงต้องยอมรับแบบหน้าด้านๆว่าตัวเองออกจะเห็นแก่ตัวไปสักหน่อย แต่จะโทษใครได้ในเมื่อช่ายสวี่คุนไม่ยอมบอกเขาว่าโดยปกติโอเมก้าหายฮีทได้เมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นแล้วเวลาที่เหลืออยู่จื่ออี้ก็จะอนุมานไปเองก็แล้วกันว่าอีกคนยังอยู่ในสภาวะไม่ปกติ


    เห็นไหมรู้สึกผิดน้อยลงกึ่งหนึ่งเลยทีเดียว



    .



    ทำไมนายถึงไม่กัดฉันล่ะ

    เสียงแหบแห้งดังขึ้นมาจากคนข้างกายทำให้จื่ออี้ละสายตาจากข่าวเศรษฐกิจช่วงกลางวันมายังใบหน้าของร่างที่นอนตะแคงอยู่บนหมอนใบเดียวกัน ไม่รู้ว่าสวี่คุนขี้เกียจก้มลงไปหยิบหมอนอีกใบที่ตกลงไปนอนอยู่บนพื้นห่างจากเตียงไปประมาณก้าวหนึ่งหรืออย่างไร อีกฝ่ายถึงได้ตัดสินใจขอใช้พื้นที่บนเครื่องนอนอันเดียวกันกับเขาเสียอย่างนั้น ที่จริงจื่ออี้ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรหรอก เพียงแค่ความรู้สึกอบอุ่นในอกที่ดูจะมากเกินไปยามที่จ้องมองใบหน้าได้รูปกับผมยุ่งเหยิงของอีกฝ่ายในระยะใกล้ขนาดนี้ทำให้สงบจิตสงบใจยากไปสักหน่อยก็เท่านั้น

    อยากให้กัดเหรอ

    ช่ายสวี่คุนเม้มปากแน่น แววตาวูบไหวสั่นสะท้านคล้ายความมั่นใจที่มีกำลังพังทลายดูน่ารังแกเสียจนจื่ออี้อดหม่ได้ที่จะกดจูบลงไปบนริมฝีปากบวมช้ำแรงๆอีกสักที

    แล้วไม่อยากกัดเหรอ

    โอเมก้าตัวยุ่งไม่ยอมตอบคำถามของเขา แต่กลับตั้งคำถามขึ้นใหม่แทน กลิ่นหวานที่จางลงจากเมื่อเช้าเล็กน้อยทำให้ไอสดชื่นของมิ้นต์เด่นชัดขึ้นมาทีละน้อย จื่ออี้ลากปลายนิ้วผ่านใบหูของอีกฝ่าย แตะลงบนรอยสัญลักษณ์ที่กำลังเต้นตุบด้วยดวงตาอ่อนโยน

    ไม่ใช่แค่รักแล้วจะกัดได้นะรู้รึเปล่า

    “…”

    ฉันไม่อยากให้มันเป็นครั้งแรกที่จบลงด้วยการผูกชีวิตนายเอาไว้ทั้งชีวิต สมมติว่านายเกลียดเซ็กซ์ของฉัน นายก็จะไม่มีทางหนีไปจากมันได้ สมมติว่ามันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ นายจะรู้สึกผิดหวังกับตัวเองไปทั้งชีวิต ฉันแค่อยากให้เวลานายได้คิดอีกสักหน่อย ไม่อยากให้มาเสียใจทีหลัง

    ฉันไม่ได้เสียใจ

    สวี่คุนเอ่ยขึ้นเบาๆ เบามากเสียจนจื่ออี้คิดว่าตัวเองอาจจะไม่ได้ยินเสียด้วยซ้ำหากเร่งเสียงโทรทัศน์ขึ้นอีกแม้เพียงระดับเดียว ดวงตาที่เคยสั่นไหวหลุบต่ำ กลิ่นมิ้นต์ที่เคยหวานหอมก็เจืออารมณ์โศกเศร้ามากกว่าเดิม จื่ออี้รู้ว่าโอเมก้าที่ถูกอัลฟ่าปฏิเสธคงไม่ได้รู้สึกดีสักเท่าไหร่ ติดที่ว่าเขาไม่ได้ปฏิเสธอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากทำลายความตั้งใจของตนเองไปมากกว่านี้

    ฉันรู้ แต่ตอนนี้ถ้าให้พูดว่ากัดฉันสิ ฉันอยากให้นายกัดฉันเดี๋ยวนี้ นายก็ทำไม่ได้ใช่ไหมล่ะ

    คราวนี้สวี่คุนเงียบเสียงไปก่อนจะวางท่อนแขนลงเหนือเอวเปลือยเปล่าของเขา จื่ออี้โอบร่างของชายหนุ่มเข้ามาชิด เขาลูบท่อนแขนแน่นกระชับหวังจะคลายอารมณ์ขุ่นมัวของอีกฝ่ายให้เบาบางลง ไม่มีอัลฟ่าดีๆที่ไหนอยากให้คนรักของตัวเองเศร้า ถึงมันจะเป็นความเศร้าที่มาจากการกระทำของเขาจื่ออี้ก็ไม่ต้องการจะมองเห็น เสียงทุ้มเอ่ยคำรักอย่างที่เรียกดวงตากลมให้เงยมอง

    ฉันรักนายมาก รู้ใช่ไหม

    อื้อ ฉันก็รักนายเหมือนกัน

    จื่ออี้ระบายรอยยิ้มอ่อนหวานให้คนที่เกยแก้มไว้บนตัวของเขา รู้สึกดีขึ้นหน่อยจากกลิ่นแปร่งๆที่จางลงไปในที่สุด เขาเองเชื่อมั่นในความรู้สึกและรอคอยวันที่จะได้ฝังเขี้ยวลงบนคอขาวอยู่ไม่ต่างกัน เพียงแค่ขอเวลาสักนิด ขอให้โอเมก้าของเขาร้องขอมันจากเขาได้เต็มปากเสียก่อน ต่อให้มันจะเป็นวันพรุ่งนี้ มะรืนนี้ ปีหน้า หรืออีกสิบปี จื่ออี้ก็ยังเชื่อว่าสิ่งตนตัดสินใจเลือกล้วนแล้วแต่คุ้มค่าที่จะเฝ้ารอ



    .



    มาช้า

    เสียงเอ็ดของฟ่านเฉิงเฉิงทำให้คนที่วุ่นอยู่กับการเลือกกางเกงยีนส์หน้าตู้เสื้อผ้าอยู่เกือบครึ่งชัวโมงมุ่ยหน้า นอกจากอีกฝ่ายจะไม่ทักกางเกงยีนส์ตัวเก่งของเขาแล้ว พ่ออันดับสามตลอดกาลยังให้ความสนใจกับไนกี้รุ่นใหม่ที่วางโชว์อยู่บนเคาน์เตอร์มากกว่าหน้าหล่อๆของเขาอีกต่างหาก ลี่หนงส่งเสียงเหอะเบาๆอย่างไม่สบอารมณ์ในขณะที่มองฟ่านเฉิงเฉิงหยิบรองเท้าไปลองสวม

    ต้องขอโทษไหม

    ขึ้นอยู่กับว่ารู้สึกเป็นคนดีมากขึ้นรึยัง

    คำตอบแบบกวนประสาทของเฉิงเฉิงทำให้ความพยายามจะทำตัวดีด้วยของลี่หนงพังครืน ดวงตาเรียวเล็กใจใต้แว่นสายตามองกลุ่มผมของคนที่กำลังก้มๆเงยอยู่กับสนีกเกอร์สีขาว ก่อนจะส่ายศีรษะออกมาเมื่อระลึกได้ว่าบางทีการสนิทกับใครสักคนอาจต้องใช้เวลามากกว่าที่คิด โดยเฉพาะเมื่อคนๆนั้นเป็นคนที่คุณเผลอทำตัวแย่ใส่มาเป็นระยะเวลาหลายเดือน เด็กหนุ่มที่วันนี้เลือกสวมกางเกงยีนส์ตัวโปรดกับเสื้อยืดที่ดูดีที่สุดในตู้หย่อนกายนั่งลงข้างกันกับโอเมก้าที่ดูไม่เหมือนโอเมก้า(และไม่ควรจะเป็นโอเมก้า)เลยสักนิด เขายื่นมือออกไปรับรองเท้าหน้าตาคล้ายกันอีกคู่จากพนักงานขาย ส่งยิ้มพอให้หล่อนเดินบิดตัวด้วยความเขินอายเล็กน้อยก่อนจะยื่นมันให้คนข้างๆต่อไป

    สีไหนสวยกว่า

    เฉิงเฉิงยื่นเท้าที่สวมรองเท้ารุ่นเดียวกันแต่คนละสีมาตรงหน้าเขา ท่าทางสบายๆของคนที่ลี่หนงเผลอคิดไปว่าอาจจะโกรธที่ตนมาสายทำให้เหวอไปหน่อยๆ ก่อนเสียงเรียกซ้ำจะทำให้ปลายนิ้วชี้ของเด็กหนุ่มจิ้มไปในอากาศมั่วๆ

    ใช่ไหม ฉันก็คิดว่าอันนี้สวยกว่า

    เฉิงเฉิงพยักหน้าหงึกหงักอยู่กับตัวเอง เหมือนจะพึงพอใจที่รสนิยมของตนได้รับการรับรองจากความคิดเห็นของอีกฝ่าย เด็กหนุ่มถอดรองเท้าคืนให้พนักงานสาวก่อนจะกวักมือเรียกคนที่ยังนั่งงงอยู่ให้ลุกขึ้นเดินตาม ลี่หนงมองหน้าโอเมก้าตรงหน้าด้วยความสงสัย เขานึกว่าเจ้าตัวจะหยิบสักคู่ไปจ่ายเงินจึงไม่ได้เตรียมใจที่จะลุกขึ้นหลังทิ้งตัวได้ไม่ถึงสิบนาที แต่สุดท้ายสายตาเร่งเร้าอันแสนหนักแน่นก็ทำให้ลี่หนงยอมเดินตามออกมาในที่สุด

    นึกว่านายจะซื้อ

    เปล่า ลองเฉยๆ ได้นี่มาแล้วอ่ะ

    ถุงอเล็กซานเดอร์แมคควีนถูกยกขึ้นมาในระดับสายตา ตอกย้ำคำว่าสายที่อีกฝ่ายบ่นมาตั้งแต่แรกได้ชัดเจนเสียจนคนผิดหน้าเสีย ลี่หนงเงียบไปพักใหญ่ สองขาทำหน้าที่เพียงก้าวตามเสียงฝีเท้าของคนข้างๆไปเรื่อยๆในณะที่ประโยคชวนคุยนับสิบวิ่งวนอยู่ในหัวทว่าไม่ถูกเอื้อนเอ่ยออกมาเพราะกลัวว่าอีกคนจะไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะเสวนาด้วย


    ทำไมตอนกวนประสาทกันมันไม่ยากขนาดนี้กันนะ


    เพราะคำแนะนำของโหยวจ่างจิ้ง เบต้าที่มีศักดิ์เป็นโวคอลที่เขาเคารพแนะนำมาว่าเขากับเฉิงเฉิงควรใช้เวลาพัฒนาความสัมพันธ์กันสักเล็กน้อยหลังจากถูกเลือกให้ทำงานอยู่ในวงเดียวกัน เพราะสมาชิกส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าไม่มีใครพร้อมจะรองรับอารมณ์เวลาที่พวกเขาทะเลาะกัน แล้วก็ไม่มีใครอยากรับหน้าที่ตามเก็บศพสมาชิกในวงเพิ่มอีก สุดท้ายเวลาว่างอันน้อยนิดที่สมควรจะเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนของเขาจึงถูกใช้ไปกับการมาเดินเล่นกับเฉิงเฉิงเสียอย่างนั้น


    นายจะซื้ออะไรรึเปล่า

    คำถามที่ถูกส่งมาทำให้คนที่กำลังคิดอะไรเพลินๆสะดุ้งโหยง ลี่หนงได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากอีกฝ่ายแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง คนตรงหน้าก็เก็บทุกอย่างเอาไว้ใต้สีหน้าเรียบเฉยเสียแล้ว

    ไม่รู้สิ นายจะดูรองเท้าไม่ใช่เหรอ

    ก็ได้แล้าไง เอาคู่เดียวนี่แหละ เปลือง แต่ถ้านายอยากดูเพิ่มก็ไปดูก็ได้

    ฟ่านเฉิงเฉิงตอบกลับมาอย่างนั้น ทำให้คนที่วางสายตาว่างเปล่าไว้บนถุงใบโตในมืออีกฝ่ายคิดหนักเพราะไม่ได้นึกเอาไว้ก่อนว่าตัวเองอยากได้อะไร ลี่หนงพลิกข้อมือดูนาฬิกาก่อนจะพบว่ามันใกล้เที่ยงเข้าไปทุกที เขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายจากการเดินเล่นไปเป็นการหาอะไรยัดลงท้องแทน

    กินข้าวไหม

    เอาสิ กินอะไรดี

    ใบหน้าที่พยักขึ้นลงเร็วๆไม่ใช่ปฏิกิริยาแปลกตาของฟ่านเฉิงเฉิงที่มีต่ออาหาร ในทางตรงกันข้าม ความกระตือรือร้นนั้นเป็นเรื่องปกติของคนตรงหน้าไปเสียด้วยซ้ำ เฉิงเฉิงยิ้มร่าตอนที่เขาบอกว่ามอบหน้าที่เลือกร้านอาหารให้กับอีกฝ่าย คงเพราะคิดว่าเขารู้สึกผิดเฉิงเฉิงถึงได้ทำสายตารู้ทันมาให้อย่างนั้น ก่อนขายาวๆของคนข้างๆจะก้าวนำไปยังทิศทางที่จะพาไปสู่โซนร้านอาหาร

    เด็กหนุ่มอดจะรู้สึกประหลาดไม่ได้เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ตนกับคนตรงหน้าพูดคุยกันโดยสันติได้เกินห้าประโยค ทั้งรอยยิ้มที่ได้รับมาบ่อยๆยังทำให้มวลในท้องปั่นป่วนแปลกๆ ความประดักประเดิดที่มาพร้อมกับอาการขัดเขินระคนตื่นเต้นไม่ใช่สิ่งที่ลี่หนงจินตนาการเอาไว้ในตอนแรก ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับว่าความพยายามจะขยับเข้าใกล้กันทีละนิดของเขาและอีกฝ่ายไม่ได้แย่อะไร


    นี่ กินข้าวเสร็จมาดูของเล่นในร้านนี้กัน

    อันที่จริงมันดีกว่าที่คาด

    ดีเสียจนรอยยิ้มผุดขึ้นมาโชว์หราบนหน้าของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ 


    .


    หน่งหนง หนังสีดำดีหรือแบบมีโซ่ดี

    ถึงจะบอกว่าจะไปดูของเล่น แต่หลังจากจัดการบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างไปแบบเต็มคราบแล้ว ฟ่านเฉิงเฉิงที่ดูจะอารมณ์ดีถึงขนาดที่ปล่อยกลิ่นส้มออกมาชัดจนเขารู้สึกได้แม้จะยืนห่างไปสองเมตรก็ลากเขามายังช็อปดีไซน์เนอร์แบรนด์หนึ่ง ก่อนจะไปหยุดยืนอยู่หน้าตู้โชว์โชคเกอร์กันกัดสำหรับโอเมก้าหลากหลายแบบ ลี่หนงจะโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่เผลอพลั้งปากไปว่าได้กลิ่นส้มออกมาจากตัวเฉิงเฉิงชัดเกินไป จึงทำให้เขาต้องมายืนปั้นหน้าไม่ถูกท่ามกลางความรู้สึกกระอักกระอ่วนในบทสนทนาระหว่างพนักงานที่แขวนป้ายโอเมก้า กับคนที่ยืนทำหน้ายุ่งอยู่หน้าตู้


    เอาอะไรก็เอาเหอะน่า

    ก็เลือกไม่ถูกนี่ ดูๆ อันไหนดีกว่า

    โชคเกอร์สองอันวางทาบลงบนลำคอของอีกฝ่ายในขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาหันมาส่งสายตาคาดหวังกับคำตอบ ลี่หนงกระแอมเล็กน้อยเพราะดันรู้สึกเหมือนเส้นเสียงจะหายไป โดยเฉพาะเมื่อพนักงานสาวส่งยิ้มแปลกๆมาให้ ดีไม่ดีพรุ่งนี้อาจมีข่าวออกมาว่าพวกเขาควงกันมาเลือกสร้อย


    ไม่มีโอเมก้าที่ไหนพาอัลฟ่ามาเลือกโชคเกอร์กันกัดหรอก

    นอกเสียจากกว่าอ่า ช่างเถอะ ถ้าฟ่านเฉิงเฉิงไม่คิดมาก เขาก็ควรที่จะไม่คิดอะไร


    สีดำ

    รุ่นสีดำมีตัวลิมิเต็ทออกมาด้วยนะคะ เป็นลายฉลุ เสริมฟังก์ชันล็อกได้ด้วยค่ะ

    ลี่หนงอยากจะขอตัวออกไปรอนอกร้านถ้าไม่ติดว่าแขนของเขาถูกใครบางคนดึงเอาไว้อยู่ เขาคงต้องนั่งลงยอมรับกับตัวเองแล้วล่ะว่าเผลอคิดมากจนหน้าร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเฉิงเฉิงขอให้เขาทดลองเป็นอัลฟ่าใจโฉดที่พยายามปลดล็อกสร้อยคอของอีกฝ่าย

    ชอบไหมคะ

    ก็ดีครับ นายว่าไง


    แล้วจะหันมาถามฉันทำบ้าอะไรเล่า


    เอ่อ จริงๆถ้าเรื่องระบบความปลอดภัยนี่ตัวท็อปของทางเราจะมีระบบส่งสัญญาณไปที่นาฬิกาของอัลฟ่าด้วยนะคะ รุ่นXD173 เรามีเป็นเซตสร้อยกับนาฬิกา แล้วก็มีแบบสร้อยกับรหัส สามารถนำไปตั้งค่าที่แอพพลิเคชันหรือตั้งค่าในสมาร์ทวอชได้ค่ะ


    เอาแบบปกติก็พอครับ

    ลี่หนงรีบโพล่งขึ้นมาในทันทีที่สายตาจับแววตื่นเต้นสนใจในผลิตภัณฑ์ของโอเมก้าข้างกายได้ เขาต้องเป็นบ้าตายแน่ๆถ้าเฉิงเฉิงขอลองไอ้ตัวท็อปที่ว่านั่น พนักงานสาวผละออกไปหยิบโชคเกอร์หนังมาให้ตามคำสั่งขณะที่อัลฟ่าวัยรุ่นได้แต่ลากคนที่ดูจะอยากรู้อยากเห็นมากเกินไปมาที่แคชเชียร์

    ยังไม่ได้ลองอันที่เขาว่าเลย

    เงียบเหอะน่า

    โมโหอะไรของนายเนี่ย

    เสียงบ่นอุบดังแว่วมาจากคนที่เซ็นชื่อยืนยันตัวตนหลังยื่นเครดิตการ์ดให้พนักงาน ลี่หนงอยากขยี้หัวตัวเองแรงๆสักทีแต่ติดที่กลัวว่าคนข้างกายจะคิดว่าเขาโมโหเข้าจริงๆ หัวใจที่เต้นกระหน่ำไม่ได้มาจากความรู้สึกโกรธ แต่ด้วยเหนื่อยใจเกินกว่าจะแก้ตัวลี่หนงจึงปล่อยให้เฉิงเฉิงเข้าใจผิดไปครึ่งๆกลางๆอย่างนั้นก่อนแล้วค่อยไปคิดหาวิธีทำให้อีกคนอารมณ์ดีขึ้นทีหลังก็ยังได้


    อันดับแรกในตอนนี้คือเขาต้องลากตัวเองออกจากสถานการณ์บ้าๆนี่เสียก่อน


    ใส่ให้หน่อยสิ


    โชคร้ายที่ฟ่านเฉิงเฉิงผู้ยื่นโชคเกอร์หนังอันใหม่แกะกล่องมาให้เขาช่วยสวมไม่ได้ให้ความร่วมมือเลยแม้แต่นิดเดียว




    TBC.


    ——————-


    ทุกคนเรามาแล้ววว

    เปิดเทอมแล้วเป็นบ้าเป็นบอ เรียนหนักมาก เปลี่ยนวิธีการเรียนอีกแล้วค่ะปีนี้

    นี่เปิดได้ไม่กี่วันแต่อ่านหนังสือเหมือนช่วงสอบเลย ช่วงนี้พยายามฝึกให้ตัวเองมีวินัยอยู่ค่ะ อยากจะพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ดีกว่านี้ อีกไม่กี่ปีก็ต้องรับผิดชอบมากมาย เราว่าถ้าฝึกตัวเองตอนที่ยังไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตใครก็น่าจะดีกว่ามานั่งเสียใจทีหลังอ่ะเนอะ


    ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องเล๊ยยย555


    ตอนนี้พี่จื่อได้อธิบายไว้แล้วนะคะว่าทำไมไม่กัดน้อง เราว่าคนแบบพี่จื่อ(ในฟิค) ก็คงประมาณนี้แหละค่ะ ส่วนที่ว่าคุนคุนใจแตก ยอมรับนะว่าใจแตกจริง แต่นางก็ใจแตกมานานแล้วอ่ะ ควรทำไงกับนางดี5555

    คู่รองงุ้งงิ้งน่ารัก ไม่มีอะไรจะพูดให้เรือนี้ คำว่าเรือผียังใหญ่ไปเลยค่ะ5555



    ย้ำเรื่องจองฟิค หมดเขตวันที่14นะคะ ใครยังไม่จองรีบจองเน้อ

    ส่วนคนที่จองแล้วเดี๋ยววันที่4เราจะทยอยส่งอีเมลตอบกลับให้นะคะ ใครที่ไม่ได้อีเมลล์ตอบกลับในวันนั้นก็ติดต่อได้ทางทวิตเตอร์ หรืออีเมล punnita233@gmail.com มีความคืบหน้ายังไงเราจะแจ้งอีกครั้งค่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×