คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Episode 3 : Counting on
Insecure #สวี่คุนเป็นโอเมก้า
Ep.3 Counting on
.
.
ช่ายสวี่คุนอยู่ในวัยกำลังกิ
นอน-กิน-นอน-กิน วนไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงเวลาเข้
แต่บางที…
เขาก็เผลอทำบางอย่างมากเกินไป
07.47
นั่นคือเวลาที่เห็นได้จากหน้
ให้ตาย
อยากสบถออกมาดังๆแต่เกรงใจคุณป้
เอาเข้าจริงแปดโมงก็ไม่ใช่ช่
ร้านของทอดหน้าทางเข้าค่ายฝึก
ร้านคุณลุงใจดีที่จะแน่นขนั
ตี๊ด
บัตรรถไฟฟ้าที่เขาถือแนบลงกั
มือเรียวยกขึ้นกระชับผ้าปิ
“จะใช่หรือเปล่า”
“ไม่รู้สิ แต่ตอนเขาขึ้นมาเมื่อกี้เหมื
“ลองเข้าไปใกล้ๆไหม”
“บ้าหรอ ไม่ใช่ขึ้นมาก็ไปรบกวนเขาน่ะสิ”
สวี่คุนอยากบอกสุภาพสตรีคนนั้
“แต่ว่า…”
สถานีต่อไป สถานี…
“ถึงแล้วๆ ไปกันเถอะ”
“เสียดายจัง”
หลังสิ้นเสียงประกาศ รองเท้าส้นสูงที่อยู่ใกล้ตั
…
สวี่คุนลงรถไฟที่สถานีที่สองถั
โจ๊กปาท่องโก๋ก็น่าสนใจ
ติ่มซำตอนเช้าก็ดูดี
แต่คนเยอะเกินไป ในช่วงเวลาแบบนี้สวี่คุนไม่
“คุนคุน”
เสียงทุ้มที่คุนเคยทำให้คนที่ยื
“สั่งสิ เดี๋ยวเลี้ยง”
“รวยนักเหรอ”
“เลี้ยงได้ก็แล้วกัน”
สวี่คุนยอมรับว่าเผลอหัวใจเต้นแรงกับประโยคก่อนหน้า
เขาโทษว่ามันเป็นผลของความรู้สึกดีเวลามีใครสักคนมาเอาใจ
ถึงจะรู้ว่าตัวเองเผลอหน้าแดงนิดหน่อยแต่คงไม่แปลกอะไรสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้รับการเอาใจใส่เช่นเขา
จื่ออี้รับแก้วชานมไข่มุกที่เขาเพิ่งสั่งไปแทน ร่างสูงหยิบเงินทอนบางส่วนซึ่งได้รับมาเมื่อครู่ส่งให้กับหญิงสาวที่ยิ้มทั้งแก้มแดงปลั่ง
ก่อนจะยื่นแก้วเครื่องดื่มขนาดใหญ่มาให้
“ขอบคุณนะ”
“ไม่เป็นไร
ได้ดิบได้ดีแล้วอย่าลืมกันก็พอ”
ช่ายสวี่คุนอดจะรู้สึกตลกกับการทวงบุญคุณผ่านแก้วชานมไข่มุกของอีกฝ่ายไม่ได้
ชานมรสไม่หวานไม่เข้มจนเกินไปไหลผ่านลิ้นลงคอ ตามด้วยกลิ่นชาไหม้ห้อมฟุ้งและสัมผัสหนุบหนับในปาก
ชานมในมืออร่อยอย่างที่ไม่ได้คาดหวังเอาไว้แต่แรก ทำให้กระเพาะอาหารที่เริ่มจะบีบตัวประท้วงมาสักพักพออกพอใจและคลายตัวลงบ้าง
สวี่คุนเดินตามรองเท้าสีเทาดำของคนข้างหน้าไปเรื่อยพลางดูดไข่มุกขึ้นมาเคี้ยวโดยไม่ทันได้มองทาง
รู้ตัวอีกทีจื่ออี้ก็พาเขามายืนอยู่หน้าป้ายรถประจำทางที่มีคนวัยทำงานยืนรอรถอยู่บ้างประปราย
“ปกติไม่เคยเห็นมาแถวนี้”
“วันนี้ตื่นสาย ตกรถเลยต้องมาทางนี้
อดร้านคุณลุงใจดีหน้าค่ายเลย”
จื่ออี้จิบกาแฟเย็นในมือตัวเองเล็กน้อยพอให้รสขมซ่านในปากก่อนจะหันมาแสดงสีหน้าแปลกใจระคนไม่เข้าใจให้คนอ่อนวัยกว่าที่กำลังพยายามดูดไข่มุกที่กองเป็นกระจุกอยู่ที่ก้นแก้ว
“ทำไมล่ะ นี่เพิ่งจะ. . . อืม แปดโมงสี่สิบ”
“กว่าจะถึงก็เกือบสิบโมง
แวะกินตอนนั้นคงกลายเป็นปลาซาดีนในซอสมะเขือเทศ”
“ก็ว่าไปนั่น แล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง”
“ยัง ไว้แวะซื้อที่ร้านสะดวกซื้อแถวนั้น
รถมาโน่นแล้ว ขึ้นสิ”
จื่ออี้ที่กำลังจะเอ็ดคนที่อดข้าวมาตั้งแต่เช้าจำต้องปิดปากเงียบเมื่อรถคันที่ต้องการมาจอดเทียบป้าย
มือใหญ่กว่ากึ่งดึงกึ่งจูงอีกคนให้มานั่งตรงแถวเกือบหลังสุดที่ยังว่างอยู่
แม้จะจับผ่านผ้าฝ้ายเนื้อหนาแต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงไออุ่นๆที่แผ่มาจากผิวกายของอีกฝ่าย
จื่ออี้ไม่อยากฟันธงว่าสวี่คุนกำลังป่วยหรือเปล่า ตราบใดที่สภาพร่างกายภายนอกของอีกฝ่ายโอเค
และเจ้าตัวไม่มีทีท่าว่าจะไม่ไหว เขาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมีสิทธิ์ไปยุ่มย่าม
รถประจำทางเคลื่อนตัวออกจากป้ายหลังจอดเทียบอยู่ไม่นานนัก วันนี้รถค่อนข้างว่างเฉกเช่นเดียวกับท้องถนนที่ไม่ได้แน่นขนัดไปด้วยรถราเหมือนเมื่อตอนบ่ายวันเสาร์
คนเพราะวันนี้เป็นวันอังคาร ไม่ใช่วันที่ผู้คนจะใช้รถใช้ถนนเดินทางกันในช่วงสายเท่าใดนัก
จื่ออี้มองฟ้ามองถนนที่ทอดไปสู่ปลายทางคือสถานที่ฝึกของพวกเขาได้พักใหญ่
หันมาหาคนข้างตัวอีกทีคนข้างกายก็หลับคอพับไปเสียแล้ว
ดูสมเป็นเด็กอายุสิบเก้ายี่สิบขึ้นหน่อย
จื่ออี้มองคนที่เอาหัวตัวเองไปโขกกระจกรถซ้ำไปซ้ำมาแล้วก็สงสาร
ครั้นจะให้อุตริโยกหัวอีกฝ่ายมานอนซบอยู่ที่บ่าก็ดูจะไม่ควรเท่าไหร่
เมื่อสวี่คุนตื่นมาคงจะรู้สึกไม่ดีนักหากอยู่ในท่าแบบนั้น หลังคิดวนไปมาหลายตลบสุดท้ายหวังจื่ออี้ก็เลือกจะหยิบเสื้อคลุมของตัวเองที่ถือมาตั้งแต่เช้าขึ้นมาพับเป็นหมอนแล้วสอดเข้าไประหว่างศีรษะของสวี่คุนกับกระจกรถ
ไม่แน่ใจว่าก้อนผ้าจะช่วยอีกฝ่ายได้มากแค่ไหน แต่อย่างน้อยที่สุดเขาก็สบายใจได้ว่าช่ายสวี่คุนจะไม่หัวกระแทกจนความจำเสื่อมแน่นอน
.
พอเดินทางมาถึงหน้าค่ายฝึกอย่างแรกหลังกล่าวขอบคุณคนที่เสียสละเสื้อคลุมตัวเองมาให้ใช้ต่างหมอนแล้ว
ช่ายสวี่คุนก็รีบพุ่งตัวเข้าไปในร้านสะดวกซื้อเหมือนเด็กได้ของเล่นถูกใจ
จื่ออี้เดินตามเข้าไปบ้างหลังจากทักทายเพื่อนๆที่เดินขวักไขว่ไปมาเพราะใกล้ถึงเวลารวมตัว
เขาเลือกแซนวิชมาห่อหนึ่งกับเครื่องดื่มชูกำลังหนึ่งขวดจากตู้แช่ จากนั้นก็เดินวนไปมาอีกสองรอบเพื่อรอคนที่กำลังตัดสินใจเลือก(โกย)อาหารทำการหยิบขนมโน่นนี่จนเสร็จสิ้น
จื่ออี้ยื่นบัตรเงินสดให้พนักงานแทนเงินสดจริงๆที่ดูท่าว่าจะไม่พอจ่ายค่าอาหารของคนสองคน
สวี่คุนทำหน้ามุ่ยเมื่อเห็นว่าตัวเองโดนเลี้ยงอีกแล้ว ก็ถูกที่ว่ากินฟรีมันดีแต่ก็แอบรู้สึกเกรงใจอีกฝ่ายไม่น้อยที่ตัวเองทำตัวเหมือนเด็กที่ต้องคอยให้จื่ออี้ตามดูแล
“กินให้หมดก็แล้วกัน”
จื่ออี้พูดแค่นั้นก็เดินตัวปลิวเข้าตึกไปไม่รอคนที่ยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าประตูอัตโนมัติ
สวี่คุนไม่ว่าอะไรหากนั่นแทนข้อแลกเปลี่ยนของจื่ออี้ ตราบใดที่เขายังยัดทุกอย่างลงท้องเหมือนมีหลุมดำเป็นของตัวเองแล้วล่ะก็กินของในถุงให้หมดแค่นี้แค่วันเดียวก็น่าจะเกินพอ
สวี่คุนเดินเข้าตึกพร้อมๆกับเหล่าเด็กๆจากเยฮวา เขาหยิบขนมให้จัสตินที่มองถุงร้านสะดวกซื้อตาละห้อยแล้วเดินไปเข้าแถวแสกนลายนิ้วมือรายงานตัวเข้าสู่หอพัก
มองผ่านประตูกระจกเข้าไปคือเด็กฝึกหลายสิบคนที่เปลี่ยนจากชุดไปรเวทเหมือนกันกับคนด้านนอกไปเป็นชุดวอร์มตามสีที่ถูกกำหนด
การแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้งและสวี่คุนรู้ดีว่ามันจะไม่มีวันง่ายดายอย่างที่ฝัน
.
.
ให้เด็กฝึกที่เป็นเซนเตอร์ของเรามีสิทธิ์เลือกทีมก่อน
.
.
ช่ายสวี่คุนมองแผ่นป้ายที่เขียนชื่อเพลงที่จะถูกใช้ในการแข่งขันรอบทีมแบทเทิลให้เต็มตาอีกครั้ง
ตัวอย่างเพลงที่ได้ฟังเมื่อครู่ทำให้เขาตัดสินใจง่ายขึ้น
ถึงอย่างนั้นก็คิดว่าตัวเองควรพิจารณาให้ถ้วนถี่เสียก่อน แต่ไม่ว่าจะมองอีกกี่ครั้ง
ทำนองแปลกแต่ติดหูของเพลงPPAPก็ยังดึงดูดเขาได้มากกว่าเพลงไหน
ในจินตนาการของช่ายสวี่คุนมันคงจะเท่แน่ๆถ้าได้ทำเพลงแบบนั้นออกมาให้คนได้ตื่นตาตื่นใจ
ในตอนสุดท้ายเขาจึงเลือกเดินไปยังแผ่นป้ายเพลงPPAPตามความคิดแรกที่แวบขึ้นมาในหัว
เบื้องหน้าของเขาคือเด็กฝึกร่วมร้อยชีวิตยืนเรียงรายกันอยู่
แต่ละกลุ่มถูกจัดแบ่งตามสีเสื้อที่ตนสวมใส่
บ่งบอกสถานะและความสามารถที่แสดงออกมาในภารกิจแรกของแต่ละคน
สวี่คุนอยากชนะและเขาเชื่อว่าทุกคนในที่นี้คิดแบบเดียวกัน
เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่เขาคิดถึงเมื่อกระหายอยากที่จะชนะก็คืออาวุธที่ร้ายกาจพอจะคว้าชัยเหนือคู่แข่ง
“คนแรกที่ผมจะเลือกคือ หวังจื่ออี้”
ไม่มีข้อโต้แย้ง เขาพอใจอย่างที่สุด
จื่ออี้เดินมาสวมกอดเขาพร้อมกล่าวขอบคุณ
ระยะห่างที่ใกล้กว่าทุกครั้งทำให้รู้สึกได้ว่าเราสนิทกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อนแค่ไหน
จื่ออี้เดินไปยืนอยู่ข้างหลังเขา
กระซิบเบาๆพอให้ได้ยินกันเพียงสองคนในขณะที่เขาเอ่ยชื่อสมาชิกคนที่สาม
“โจวเยี่ยนเฉิน”
“ขอบคุณนะ”
เยี่ยนเฉินผู้สวมเสื้อสีน้ำเงินแบบเดียวกับจื่ออี้เดินเข้ามาด้วยสีหน้าแปลกใจไม่น้อย
เพื่อนๆเด็กฝึกต่างก็โห่ร้องและปรบมือให้กับคนที่ถูกเลือกแม้จุดโฟกัสจะผิดแผกจากความเป็นจริงจนกลายเป็นการเรียกเสียงหัวเราะก็ตาม
เขายิ้มให้สมาชิกคนใหม่ก่อนจะกระซิบตอบคนที่เอ่ยคำขอบคุณกับเขาเมื่อครู่
.
“ค่าชานมไข่มุกก็แล้วกัน”
.
.
“คุณพระคุณเจ้าช่วย”
เยี่ยนเฉินอุทานเบาๆหลังทุกคนในทีมที่เขาเลือกมาดูวิดีโอสำหรับฝึกซ้อมร่วมกัน
โจวรุ่ยที่มีสติ๊กเกอร์กัปตันแปะอยู่มีท่าทีลำบากใจไม่น้อยกับท่าเต้นและทำนองเพลงแสนน่ารักขัดกันกับเพลงที่ได้ยินในตอนแรก
สวี่คุนทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกขณะหันไปมองหน้าจื่ออี้ที่กำลังทำหน้าลำบากใจไม่แพ้กัน
นึกอยากจะซื้อกาแฟเย็นแทนคำขอโทษให้อีกฝ่ายสักสามแก้วแต่ก็ทำได้เพียงส่งสายตาขอโทษขอโพยให้คนที่โดนดึงมาลำบากด้วยกัน
“ไม่เป็นไรหรอกน่า”
จื่ออี้พูดแบบนั้นได้ยังไงทั้งที่ตัวเองยังแก้คิ้วที่ขมวดเป็นปมไม่ได้
ถึงอย่างนั้นฝ่ามือที่ลูบอยู่บนแผ่นหลังก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง
หรือเปล่านะ
ความรู้สึกร้อนผะผ่าวแผ่ซ่านออกมาจากร่างกาย
สวี่คุนเหลือบตามองจื่ออี้ที่ขมวดคิ้วมากกว่าเดิม ก่อนจะเบียดตัวเข้าหาโจวรุ่ย ความเงียบที่ดูจะอึดอัดกว่าปกติดำเนินไปพักหนึ่ง
ก่อนเจิ้งถิงที่นั่งอยู่ไม่ห่างกันเดินมานั่งแทรกกลางระหว่างเขากับอัลฟ่าที่กำลังทำหน้าเครียด
จื่ออี้คำรามต่ำ หน้าตาไม่พอใจกว่าเดิม เป็นอันรู้กันว่าสถานการณ์ไม่ปกติอย่างที่เขาคิด
เจิ้งถิงที่มีอายุมากกว่าเขาถึงสองปีแต่ดูอ่อนเยาว์กว่าวัยปลอบใจทุกคนเรื่องเพลงภารกิจก่อนจะหัวเราะเสียงใสคล้ายพยายามจะทำให้บรรยากาศดีขึ้น
สัญลักษณ์โอเมก้าที่ดูคล้ายตัวดับเบิ้ลยูหวัดๆที่หลังหูของอีกฝ่ายเห็นได้ชัดจากมุมนี้
“ฉันว่าแยกย้ายกันพักสักแปปหนึ่งดีกว่า”
โจวรุ่ยใช้สิทธิ์การเป็นกัปตันทีมประกาศให้ทุกคนพักผ่อน
หากแต่สายตาที่มองมายังเยี่ยนเฉินและจื่ออี้กับหมายความมากกว่านั้น จะว่าไล่ก็ไม่เชิง
มันคล้ายจะเป็นแววตาที่บอกเป็นนัยๆว่าเหล่าโอเมก้าสามคนในห้องกำลังต้องการเวลาส่วนตัว
เยี่ยนเฉินสะกิดจื่ออี้ที่ยังดูหัวเสียระคนสับสนให้ลุกขึ้นเดินออกไปด้วยกัน
ชายที่สวมแว่นตาทรงแฟชันหันมาพูดกับสมาชิกอัลฟ่าอีกคนของทีมด้วยเสียงตื่นเต้น
“ฉันพูดว่าคุณพระคุณเจ้าช่วยอีกรอบได้ไหม”
จื่ออี้ก็อยากจะพูดคำนั้นออกมาบ้างเหมือนกัน
.
“อยู่ใกล้อัลฟ่ามากๆมันไม่ดีนะ”
โจวรุ่ยเริ่มเปิดประเด็นหลังจากที่ตัวเองเปิดสมุดบันทึกที่สวี่คุนยื่นให้จนครบทุกแผ่นแล้ว
ชายร่างเล็กยื่นสมุดให้เจิ้งถิงที่กำลังนั่งดูสมุดของตัวเองหน้าเครียดอยู่เหมือนกัน
“ยังไม่ยี่สิบก็ปกติแล้วล่ะที่ไม่ฮีท แต่ใกล้แล้วนะ
รู้ตัวใช่ไหม ภายในปีนี้แน่ๆนายควรจะระวังตัวไว้”
“แต่จื่ออี้ไว้ใจได้”
“ฉันรู้
จริงอยู่ที่มีเขาทำให้นายปลอดภัยจากอัลฟ่าตัวอื่น
แต่มันก็กระตุ้นสัญชาตญาณของนายเองด้วย”
สวี่คุนเม้มปากแน่น ไม่พอใจนักเมื่อตนถูกบอกเป็นนัยให้เลิกตัวติดกับอัลฟ่าที่เปรียบได้กับเพื่อนสนิทที่สุดเพียงคนเดียวในการแข่งขัน
และเพราะอารมณ์ยังไม่นิ่งจากฤทธิ์ฮอร์โมนทำให้เขาเผลอแสดงสีหน้าข่มขู่โจวรุ่ยไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
ร้อนถึงเจิ้งถิงที่ต้องมาปลอบให้ใจเย็นลง
โดยปกติโอเมก้าจะฮีทได้อย่างสมบูรณ์เมื่อมีอายุอย่างน้อยยี่สิบปี และรอบการฮีทของโอเมก้าแต่ละคนแตกต่างกันไปตั้งแต่เดือนละครั้งไปจนถึงสามถึงสี่เดือนครั้ง
ทรมานพอๆกับประจำเดือนของผู้หญิงในความคิดของสวี่คุน ส่วนอัลฟ่าเองก็มีภาวะอาการติดสัดที่คล้ายคลึงกันแต่ถูกเรียกว่ารัท
โดยปกติอัลฟ่าจะถูกกระตุ้นได้ง่ายเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับโอเมก้าที่กำลังจะฮีทหรือฮีทอยู่
แต่นั่นไม่ใช่คำนิยามของคำว่ารัทตามแบบที่หนังสือสุขศึกษาหมายถึง
อาการรัทที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้เองแม้ไม่มีโอเมก้าและมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นหากมีปัจจัยในส่วนของโอเมก้าร่วมด้วย
ทั้งนี้อัลฟ่าจะรัทเพียงปีละสองถึงสามครั้ง อันเป็นความถี่ที่น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของการฮีทของโอเมก้าพอสมควร
ทั้งนี้ก็เพื่อควบคุมประชากรไม่ให้มากหรือน้อยเกินไป
จริงอยู่ที่ช่ายสวี่คุนซึ่งยังอายุไม่ครบยี่สิบปี
เพราะฉะนั้นอาการฮีทอย่างจริงจังเขายังไม่เคยได้สัมผัส แต่ทุกๆสามเดือนสวี่คุนจะมีอาการตัวร้อนผ่าว
ส่งกลิ่นหอมตามธรรมชาติออกมามากกว่าปกติ สติและสัมผัสที่รับได้จะมึนชา บางครั้งรู้สึกคล้ายกึ่งตื่นกึ่งฝัน
อาการที่คล้ายกับการฮีทแต่ไม่รุนแรงเท่าเพราะไม่มีอาการกำหนัดทางเพศที่ชัดเจนไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณให้สืบพันธุ์
ทว่าเป็นกลไกที่เกิดขึ้นเพื่อให้โอเมก้าได้เตรียมตัวและเพื่อให้อัลฟ่าได้รู้ว่าโอเมก้าแต่ละคนกำลังจะพรั่งพร้อมสำหรับการเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
“ช่วงนี้อยู่กับฉันไปก่อนนะสวี่คุน”
โจวรุ่ยลูบกลุ่มผมสีอ่อนกว่าเฉดธรรมชาติไปโขด้วยความเอ็นดู
ชายหนุ่มที่สูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรซุกหน้าลงกับเข่าที่ชันขึ้น มือทั้งสองกำแน่นอย่างอึดอัดใจ
อาการที่รุนแรงขึ้นจากทุกครั้งทำให้เขาครั่นเนื้อครั่นตัวและรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแออย่างน่าเกลียด
ไม่ชอบตอนนี้เลย...
“จื่ออี้ให้นายยืมเสื้อได้ไหม
ใส่เสื้อเขาไว้อย่างน้อยกลิ่นนั่นก็ช่วยกันพวกอัลฟ่าโรคจิต”
สวี่คุนไม่ตอบ เขาเพียงซุกหน้านิ่งค้าง
หวังให้ทุกอย่างดีขึ้นเพียงดีดนิ้ว แต่ตัวเองย่อมรู้ดีว่าอาการนี้จะใช้เวลาราวๆสองถึงสามวันจึงจะทุเลา
ที่ห่วงที่สุดคือการซ้อมการแสดงที่อาจเกิดปัญหา และเหมือนเจิ้งถิงจะได้ยินความคิดของเขา
เจ้าตัวจึงเอ่ยเบาๆขณะลูบมือบนไหล่ให้คลายกังวล
“ช่วงนี้ก็ซ้อมแยกกันไปก่อน
ดีขึ้นค่อยรวมดีไหม”
สวี่คุนพยักหน้าหงึกแต่ก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตา
เขาไม่ชอบเวลาตัวเองอ่อนแอ ยิ่งท่าทางไม่ประสาที่หลบเลี่ยงไม่ได้ของตนเขาก็ยิ่งเกลียด
แต่สิ่งที่แย่ที่สุดในนาทีนี้ก็คือ
“ห่างกับจื่ออี้สักวันสองวันนะ เดี๋ยวฉันไปคุยให้”
สวี่คุนครางหงิง หวังเหลือเกินว่าจะไม่มีใครได้ยิน
ฮอร์โมนที่ไม่ปกติทำให้เขารู้สึกเศร้า เขาต้องอยู่คนเดียวอีกแล้วทั้งๆที่กำลังรู้สึกไม่ดีเอามากๆแท้
ทำไมกันนะ ทั้งๆที่ถ้าเป็นจื่ออี้. . . มันจะไม่มีวันที่รู้สึกแย่ได้แบบนี้หรอก
TBC.
-------------------------------------------------------------------------------
อ่ะน่ะ น้องไม่ได้ฮีทค่ะ แค่เหมือนจะฮีท เลยกินยากดไม่ได้ เพราะจะมีปัญหาในอนาคตค่ะ
สงสารเขานะคะ อย่างงี้ต้องส่งพี่จื่ออี้ไป(โดยโจวรุ่ยตบ)
ตอนนี้แปลกๆยังไงไม่รู้ ไม่รู้ว่าเรื่องเดินไหม เอาเป็นว่าช้าแต่ชัวร์ละกันเนาะ5555
หวังว่าจะชอบกันนะคะ แม้นี่จะมาดึกมากก็ตาม คอมเม้นให้กำลังใจ ติชมได้แต่อย่าให้ถึงกับหน้าสั่นพันริกเตอร์เลยนะคะ
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นค่ะ น่ารักกันมากๆปาใจใส่ ส่วนคนที่ทวิตในแท็กก็น่ารักมากกกกกกเหมือนกันค่ะ
เลิฟทุกคนเบย
ฝากติด #สวี่คุนเป็นโอเมก้า ด้วยจ้า ฟิคไม่อัพก็ปารูป ปาคลิปที่เข้ากันกับความอัลฟ่าโอเมก้านี้ก็ได้ค่ะ ชอบเสพ555
ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะ คราวหน้าเจอกันวันอาทิตย์นะคะ คิสสส
ความคิดเห็น