ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "..Insecure.." WangZiyi x CaiXukun จื่อคุน

    ลำดับตอนที่ #9 : Episode 8 : Hard and fast rule

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.05K
      139
      27 เม.ย. 61

    Insecure 

    #สวี่คุนเป็นโอเมก้า

    Episode08 -Hard and fast Rule-





    เสียงนาฬิกาปลุกของโจวรุ่ยดังขึ้นเป็นครั้งที่สามแล้วในเช้านี้ แม้ตัวเลขที่โชว์อยู่จะห่างไกลจากเวลานัดหมายของทางรายการไปหลายชั่วโมง แต่การที่ต้องได้ยินเสียงแหลมสูงหวีดซ้ำขึ้นถึงสามครั้งทำให้ช่ายสวี่คุนที่กำลังซุกกายอยู่บนเตียงอย่างสบายอารมณ์ยอมสละผ้าห่มผืนบางเพื่อลุกขึ้นมากดหยุดมัน แผ่นเท้าเปล่าเปลือยสัมผัสได้ถึงผืนกระเบื้องเย็นเยียบในทุกย่างก้าวที่ขยับตัว สวี่คุนอ้าปากหาวหวอดแล้วจึงเอนกายบิดไล่ความขี้เกียจจนได้ยินเสียงกรอบแกรบมาจากข้อต่อในร่าง นิ้วเท้าขาวซีดงองุ้มตามกลไกรีเฟลกซ์ต่อความเย็นของร่างกาย ท่อนแขนยาวสมส่วนยื่นออกไปเขย่าร่างรุ่นพี่ที่ยังคงหลับสนิท

    “รุ่ยเกอ รุ่ยเกอ นาฬิกาดังสามรอบแล้วครับ”

    โจวรุ่ยพลิกตัวกลับมาหาคนที่ยืนอยู่ข้างเตียง ดวงตาบวมตุ่ยของคนที่ร้องไห้มาค่อนคืนเปิดเผยอขึ้นได้เพียงน้อยนิดก่อนจะปิดลงอีกครั้งพร้อมกับร่างเล็กที่พลิกตัวหนีแสงแดดนอกหน้าต่าง ในเมื่อแสงแดดแรงๆข้างนอกยังไม่สามารถปลุกพี่ชายของเขาขึ้นจากนิทราได้ ช่ายสวี่คุนจึงคิดว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทู่ซี้ลากคนสะลึมสะลือขึ้นมาจากเตียง สุดท้ายเขาจึงหันกลับไปจัดการความยุ่งเหยิงบนเตียงตัวเองก่อนจะลุกไปอาบน้ำแทนเจ้าของนาฬิกาปลุกเสียงแสบหู

    ทั้งที่เพิ่งจะเจ็ดโมงครึ่งแท้ๆ แต่กระเพาะอาหารเจ้ากรรมดันบิดตัวเรียกร้องความสนใจเสียดังลั่นขณะที่สวี่คุนกำลังล้างฟองสบู่ออกจากตัว ร่างสูงรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยที่ตัวเองดันเกิดมาเป็นคนหิวง่ายขนาดนี้ เขาภาวนาให้โจวรุ่ยลุกจากเตียงมาจัดการตัวเองไวๆจะได้ไม่ต้องรอนานนัก

    “รุ่นเกอ ตื่นรึยัง”
    “ตื่นแล้วๆ ทำไม นายหิวแล้วเหรอ”
    สวี่คุนใช้เสียงแปรงฟันแทนคำตอบของคำถามนั้น เพราะหากจะให้ยอมรับว่าหิวไส้แทบขาดทั้งที่เพิ่งตื่นนอนก็ดูจะเป็นคนตะกละตะกลามไปหน่อย (ถึงเขาจะมั่นใจว่าตัวเองแค่อยู่ในวัยที่ต้องการพลังงานมากกว่าปกติเท่านั้น) โจวรุ่ยที่ไม่ได้ตะโกนอะไรกลับมาอีกทำให้ชายหนุ่มต้องเงี่ยหูฟังเสียงที่อาจจะลอดเข้ามาโดยรู้ตัว ใบหูขาวกระดิกยึกยักหลังจากได้ยินเสียงวิ่งตึงตังมาจากข้างนอก กลิ่นกาแฟสดเจืออายหวานละมุนอยู่ลึกๆทำให้สวี่คุนเผลอกำแปรงสีฟันในมือแน่น


    อัลฟ่าอยู่ที่นี่
    จื่ออี้อยู่ที่นี่. . .


    และด้วยเหตุผลบางประการทำให้เจ้าของพวงแก้มขาวเนียนที่เปรอะฟองยาสีฟันรีบล้างหน้าล้างตาจนสะอาด สวี่คุนวาดแขนไปหยิบชุดที่ต้องสวมในวันนี้มาใส่ภายในเวลาอันรวดเร็ว ก่อนประตูห้องน้ำจะเปิดออกในไม่กี่วินาทีต่อมา

    ไม่มีจื่ออี้อยู่ในห้องแล้ว แต่กลิ่นที่เหลืออยู่ยังไม่จางไปมากนัก ดูท่าว่าใครคนนั้นคงเพิ่งจะออกไปได้ไม่นาน สวี่คุนเลื่อนสายตามายังโจวรุ่ยที่นั่งทำหน้ามุ่ยทั้งยังตาบวมฉึ่งอยู่บนเตียงของตัวเอง ร่างเล็กกว่ายื่นถุงพลาสติกสกรีนลายยี่ห้อร้านสะดวกซื้อมาให้พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
    “มีคนฝากมาให้ เอาไปเลย ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว”
    พูดจบเจ้าตัวก็เดินกระแทกส้นหายเข้าไปในห้องน้ำ สวี่คุนกำถุงพลาสติกในมือเอาไว้ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนเตียงของรูมเมทอย่างถือวิสาสะ คนฝากมาให้ที่ดมแค่กลิ่นก็จำได้แล้วว่าเป็นใครหย่อนการ์ดที่ทำจากกระดาษสมุดบันทึกประจำวันลงไปในถุงนั้นด้วย ลายมือหวัดๆที่เขากำลังพยายามอ่านอยู่ทำให้ขมวดคิ้วมุ่นแล้วพยายามเพ่งสายตาไปบนตัวอักษรสีดำสนิทนั้นอย่างตั้งใจ ข้อความที่หวังจื่ออี้เขียนมาไม่ได้ยาวมากนัก เป็นเพียงประโยคสั้นๆสองสามประโยคที่เจ้าตัวคงจะเขียนมันอย่างเร่งรีบก่อนเอาถุงนี่มาฝากให้เขา หากแต่ปัญหาก็คือตัวหนังสือแสนเอนเอียงบิดเบี้ยวนี่ต่างหากที่ทำให้คนอ่านปวดหัว ถึงจะต้องใช้ความพยายามอย่างหนักแต่อย่างไรก็ตามรอยยิ้มบางๆก็วาดขึ้นบนริมฝีปากอิ่มอยู่ดี

    ‘ฉันไปดูกับข้าวมาแล้ว คงไม่ถูกปากนายเท่าไหร่ ก็เลยออกไปซื้อขนมมาเผื่อไว้ให้’

    ขนมปังลูกเกดกับมันฝรั่งทอดกรอบรสออริจินัลถูกช่ายสวี่คุนหยิบขึ้นมาพิจารณา ชายหนุ่มมองลอดปากถุงเข้าไปยังกล่องนมจืดที่นอนแอ้งแม้งอยู่ตรงที่ถุงพลาสติก เขาวางบรรดาคาร์โบไฮเดรตทั้งหลายลงบนเตียงของโจวรุ่ยแล้วจึงหยิบกล่องนมขึ้นมาพลิกดู
    จะกินเลยดีไหมนะ 
    แต่รุ่ยเกอก็อาจจะใกล้เสร็จแล้ว

    เหมือนต้องการจะตอบคำถามในความคิด ประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทเปิดออกอย่างทันทีทันใด ก่อนคนที่คงจะลืมหยิบชุดเข้าไปเปลี่ยนจะเดินพันผ้าเช็ดตัวไว้บนบั้นเอวออกมาคว้าเสื้อผ้าและชั้นในกลับเข้าไปในห้องแคบๆนั่นอีกครั้ง โจวรุ่ยชะโงกหน้ากลับมามองเด็กน้อยในสายตาเขาจ้องนมทีจ้องขนมทีพลางฉีกยิ้มไปด้วยแล้วก็ได้แต่พ่นประโยคด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก

    “จะกินก็กินไปเถอะ แล้วก็บอกพี่นายด้วยว่าคราวหลังให้แขวนไว้หน้าประตู ฉัน!ขี้!เกียจ!เปิด!”


    พอพูดจบประโยคก็ปิดประตูห้องน้ำใส่หน้าเขาดังปัง สวี่คุนปักหลอดลงไปบนกล่องนมสีฟ้าขาวก่อนจะดูดเอาเครื่องดื่มรสหวานมันเข้าไปเต็มปาก ในใจยังสงสัยไม่หายว่าสองคนนี้ไปมีเรื่องกันตอนชาติปางไหนถึงได้เอาแต่เขม่นหน้ากันอยู่เรื่อย ทั้งที่ตอนอยู่ในทีมก็ดูจะช่วยเหลือกันดีอยู่แท้ๆ พอยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งปวดหัว สุดท้ายสวี่คุนจึงตัดใจจากการพยายามคิดหาคำตอบนั้นแล้วปีนขึ้นเตียงตัวเองเพื่อสอดแผ่นกระดาษในมือไว้ในสมุดไดอารี่

    พอโจวรุ่ยออกมาจากห้องน้ำ เสียงหวานๆของโวคอลคนเก่งก็งอแงว่าหิวข้าว ช่ายสวี่คุนจึงอดถามข้อข้องใจกับเจ้าตัวพร้อมกับเก็บก้อนขนมปังที่โดนโจวรุ่ยปฏิเสธ โดยบอกว่าหิวให้ตายก็จะไม่ยอมกินเด็ดขาด เอาไว้ในกระเป๋าเดินทางส่วนตัวด้วย 


    .


    ภารกิจที่สอง
    คำที่มีความหมายได้ถึงสองอย่างได้รับการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการโดยผู้แทนโปรดิวเซอร์จางที่กำลังยืนประจันหน้าอยู่กับเหล่าเด็กฝึกหกสิบชีวิต ความหมายแรกอันหมายถึงโอกาสครั้งที่สองที่จะได้ขึ้นไปบนเวทีและแสดงความสามารถต่อหน้าแฟนๆทำให้พวกเราทุกคนยิ้มตาเป็นประกายด้วยความรู้สึกตื่นเต้น ก่อนประโยคถัดมาของตัวแทนจางจะย้ำเตือนถึงความหมายที่สองที่ทำให้ทุกใบหน้าซีดเผือด

    จะมีพวกเราเพียง35คนได้ไปต่อหลังจบภารกิจนี้
    นั่นหมายถึงมันคือภารกิจสุดท้ายสำหรับเด็กฝึกถึง 25 คน 

    จื่ออี้หันหน้ากลับไปมองเด็กฝึกจากjoy music ผู้ซึ่งมีเลข36ปรากฏอยู่บนแผ่นสติ๊กเกอร์ครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับมาจ้องปลายเท้าของตนเอง หลี่หรางคงจะกังวลใจกับอันดับของตนในขณะนี้อยู่ไม่น้อย ในขณะที่เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกนิ่งนอนใจกับหมายเลข11ของตนเองสักเท่าไหร่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ในรายการเรียลลิตี้ประเภทนี้ บางที25คนที่ต้องกลับบ้านอาจจะเป็นคนที่ไม่มีใครคาดคิดก็ได้และจื่ออี้ต้องทำทุกอย่างเพื่อยืนยันว่าตนเองไม่ใช่หนึ่งในนั้น 
    แม้ว่ามันจะหมายถึงการอดหลับอดนอนเพื่อซ้อมหามรุ่งหามค่ำก็ตามที

    50000คะแนนสำหรับทีมที่ดีที่สุดในแต่ละโพสิชันกับอีก100000คะแนนให้กับอันดับ1ในโพสิชันนั้นๆ อาจไม่มากพอจะขยับอันดับของเขาขึ้นไปยังตำแหน่งที่ปลอดภัยกว่านี้ แต่อย่างน้อยคะแนนนั่นคงจะการันตีได้ว่าเขามีคุณสมบัติพอที่จะยืนอยู่ในรายการ

     . . . หรือกระทั่งยืนอยู่ใน9อันดับแรก

    จื่ออี้มองแผ่นหลังของคนที่ยืนอยู่แถวหน้าสุดเพียงคนเดียว โอเมก้าที่ยังรักษาตำแหน่งเซนเตอร์ของรายการเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ช่ายสวี่คุนที่อยู่ห่างไกลกับเขา ระยะห่างที่มองไม่เห็นถูกเส้นที่เรียกว่าอันดับเดบิวต์ยืดออกไปจนไกลลิบ ไกลเสียจนจื่ออี้คิดเอาเองในหัวว่าไม่อาจปล่อยให้มันห่างไกลไปมากกว่านี้ได้อีกต่อไปแล้ว ทว่าอุปสรรคที่ยังกั้นขวางเขาอยู่มีเพียงสิ่งเดียว 
    สิ่งที่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนบนแผ่นป้ายด้านหลัง อุปสรรคที่พวกเราทุกคนเรียกมันรวมกันว่าโจทย์เพลง เพลงที่ถูกเลือกเอาไว้โดยทีมโปรดิวเซอร์แล้วถูกแบ่งออกไปเป็นสามกลุ่มตามโพสิชันที่กำหนด ทั้งโวคอล แดนซ์ และแรป ทางเลือกสามทางที่คนอันดับสูงมีสิทธิจะเลือกก่อน ส่วนคนที่ยืนอยู่ท้ายแถวอาจไม่มีโอกาสเลือกเสียด้วยซ้ำ จื่ออี้วิเคราะห์ความสามารถและความเป็นไปได้ที่ตัวเองจะชนะหากเลือกโจทย์เพลงแต่ละเพลงอยู่ในใจ เขาไม่เสียเวลาที่จะตัดกลุ่มโวคอลออกจากห้วงความคิด ทว่าการต้องเลือกระหว่างเต้นกับแรปทำให้จื่ออี้คิดหนัก บีบอยที่ซึมซับอยู่ในสายเลือดมานานหลายปีจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นทักษะเฉพาะตัวของเขา กับการแรปที่เปรียบเสมือนจิตวิญญาณบนเวทีของหวังจื่ออี้ มันเลือกยากมากจริงๆโดยเฉพาะเมื่อความกดดันและความโลภในผลคะแนนเข้ามาครอบงำความคิด จื่ออี้กลัวตัวเองจะเลือกพลาดพอๆกับที่กลัวว่าตัวเองจะไม่มีโอกาสได้เลือก  สองสามทางเลือกสำรองวิ่งวนอยู่ในหัว พลันชื่อของช่ายสวี่คุนก็ดังขึ้นจากปากของจางพีดี

    “ผมจะเลือกแรป...”

    เพราะสวี่คุนมีความสามารถที่หลากหลาย ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเลือกโพสิชันไหนก็ไม่อาจสร้างความประหลาดใจให้กับจื่ออี้ แต่ทว่าโพสิชันที่สวี่คุนเลือกบังเอิญมาตรงกันกับความคิดของเขาเสียได้ ซึ่งนั่นก็แปลความได้ว่า ทั้งเขาและช่ายสวี่คุนกำลังจะกลายเป็นคู่แข่งของกันและกัน แม้มีโอกาสเป็นทีมเดียวกันแต่ก็ไม่สามารถหลบหลีกความจริงที่ว่าเราทั้งคู่ต่างก็ต้องแย่งชิงตำแหน่งอันดับหนึ่งในด้านแรปกันอยู่ดี

    “คนที่ผมอยากเจอน้อยที่สุดอย่างนั้นหรือครับ… อย่างจื่ออี้ล่ะมั้ง ทั้งอยากเจอแล้วก็ไม่อยากเจอเลย ผมอยากร่วมงานกับเขานะแต่ผมก็ไม่อยากแข่งกันกับเขา”

    แนวคิดที่ใกล้เคียงกันทำให้จื่ออี้ที่จ้องดวงตากลมใสกลับไปตรงๆเริ่มจะลังเลในทางเลือกของตัวเอง บางทีเขาน่าจะลองคิดถึงแดนซ์โพสิชันดูสักหน่อย…

    แต่ว่า
    แต่ว่าในใจของเขามัน…

    “แย่แล้วล่ะ ในเก้าอันดับแรกมีแรปเปอร์มากไป”
    รุ่นพี่ฉินเฟิ่นที่ยืนอยู่ที่ตำแหน่งติดกันเอ่ยขึ้นหลังจากที่สมาชิกอันดับต้นๆเริ่มทยอยเลือกเพลงกันไปบ้างแล้ว จื่ออี้มองแผ่นป้ายสีน้ำเงินที่ระบุชื่อเพลง Papillon เอาไว้ด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ ชื่อของเพลงแรกที่แวบเข้ามาในหัวตั้งแต่เห็นโจทย์เพลงทั้งหมดทำให้จื่ออี้รู้สึกเหมือนตัวเองจะต้องเสียใจหากไม่ได้เลือกมัน อาจจะเสี่ยงไปหน่อยถ้าต้องแข่งกับสมาชิกอันดับสูงเหล่านั้นในโพสิชันแรปทั้งที่ตัวเองสามารถเลือกไปทางอื่นได้ แต่เมื่อลองหักลบกับเสียงเรียกร้องในใจแล้ว จื่ออี้ก็พบว่ามันคุ้มที่จะลองเสี่ยงดูสักตั้ง

    แรปเปอร์อีกหนึ่งคนเดินเข้าไปเลือกเพลง แรปเปอร์คนสุดท้ายก่อนเป็นโวคอลสองคนแล้วจึงจะถึงคิวของจื่ออี้ ท่ามกลางเสียงอื้ออึงของเหล่าเพื่อนร่วมรายการที่ยังคงตัดสินใจไม่ได้ จื่ออี้กุมมือตัวเองแน่น ขอร้องกับใครก็ตามที่มีอำนาจดลบันดาลใจให้ใครคนนั้นเหลือที่ในเพลงpapillonไว้ให้กับเขาบ้าง และหากจื่ออี้โชคดีพอจะได้อยู่ในทีมPapillon ชายหนุ่มสัญญากับตัวเองไว้เลยว่าจะทำมันให้เป็นสเตจที่ดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

    และเหมือนคำขอร้องนั้นจะเป็นผล
    ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้Papillonยังคงว่างอยู่ในตอนที่ชื่อของหวังจื่ออี้ถูกเรียกให้ก้าวออกไป

    .

    จื่ออี้ไม่ได้คาดหวังอะไรนักเกี่ยวกับสมาชิกในทีม แต่ทันทีที่ก้าวพ้นขอบเส้นทางเดินคดเคี้ยวแล้วพบกับสมาชิกทั้งสามคนที่ยืนรออยู่ จื่ออี้รู้ในทันทีว่าทีมของเรามีความสามารถพอจะชนะภารกิจนี้ แต่ก็อีกนั่นแหละ เป็นทีมที่อาจจะดับฝัน150000คะแนนของเขาได้เลย เสียงของจัสตินที่ถามขึ้นมาว่าเขาพอใจกับทีมตอนนี้ไหม ทำให้จื่ออี้ไม่ลังเลใจเลยที่จะตอบใช่ออกไป จะมีอะไรดีไปกว่าการเป็นส่วนหนึ่งในทีมอเวนเจอร์ ถึงจะต้องตายอย่างน้อยเขาก็ได้ตายในฐานะวีรบุรุษ ช่างเป็นความคิดที่เพ้อฝันเสียไม่มี
    ช่ายสวี่คุนเสหน้าหลบสายตาสื่อความหมายแสนพิเศษที่จื่ออี้ส่งให้ กระแสความรู้สึกหวานๆของคนมอบปะปนกับความเคอะเขินของผู้รับทำให้ความรู้สึกจักจี้ในอกทวีความรุนแรงขึ้นจนไม่อาจสบตาได้นานอย่างเคย จื่ออี้อยากเอ่ยถามคนที่ไม่ได้คุยกันมาตั้งแต่เมื่อวานว่าอีกฝ่ายได้รับของที่เขาฝากโจวรุ่ยไว้ให้หรือยัง แต่เพราะติดจัสตินกับปู่ฝานที่ยืนคั่นกลางอยู่จื่ออี้จึงได้แต่เงียบเสียง เสียงโหวกเหวกของทุกคนดังขึ้นทุกครั้งที่มีสมาชิกคนใหม่ปรากฏตัวขึ้นมาสร้างบรรยากาศสนุกสนานระคนตื่นเต้นเป็นระรอก ช่ายสวี่คุนเองก็ดูจะสนอกสนใจการเลือกทีมของคนอื่นมากจนลืมคนที่ยืนอยู่ข้างหลังไปเสียแล้ว ท่าทางไม่แยแสนั้นทำให้จื่ออี้อดคิดไม่ได้ว่าถุงขนมของเขาอาจถูกโจวรุ่ยโยนออกนอกระเบียงไปแล้วก็เป็นได้
    เป็นความสงสัยที่จื่ออี้ก็สุดจะหาคำตอบ

    .

    “จะมองอะไรนักหนา”
    จื่ออี้ยิ้มให้เจ้าของเสียงห้วนที่ตวัดขึ้นมาเบาๆ ช่ายสวี่คุนเคาะปึกกระดาษที่ปรากฏตัวอักษรขยุกขยิกอยู่เต็มไปหมดลงบนท่อนขายาวที่ทอดสบายอยู่บนพื้นห้อง หน้าตาที่ดูมีความสุขเกินจริงนั้นทำให้เขาหมั่นไส้ ส่วนสายตาที่เอาแต่มองมาอยู่ตลอดเวลานั่นก็ทำให้เขาเสียสมาธิ 
    “ก็ฉันเสร็จแล้ว”
    จื่ออี้ยกกระดาษที่เรียบเรียงเนื้อแรปส่วนของตนเองเอาไว้จนจบขึ้นมาเป็นหลักฐานยืนยันคำพูดของตัวเอง ก่อนร่างสูงจะหดขาชันขึ้นแล้วกอดเข่ามองวงหน้าเคร่งเครียดที่ดูจะสมบูรณ์แบบเกินมาตรฐานต่อไปอย่างไม่ยี่หระ แม้จะได้ยินเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจมาจากอีกฝ่ายหนึ่งก็ตาม

    หลังจากที่แต่ละทีมได้รับอนุญาตให้แยกย้ายกันไปตกลงเกี่ยวกับโชว์ของตนเองได้ตามอัธยาศัย สมาชิกทั้งสี่ของทีมpapillonก็ตัดสินใจที่จะเลือกลีดเดอร์และเซนเตอร์ของทีมเป็นอันดับแรก โดยที่ตำแหน่งผู้นำทีมตกเป็นของช่ายสวี่คุน ส่วนตำแหน่งเซนเตอร์ของทีมก็กลายเป็นของจัสตินโดยไม่มีข้อกังขา หลังจากพูดคุยกันสักพักใหญ่ข้อเสนอของปู่ฝานที่เสนอให้เราทุกคนแบ่งพาร์ทกันให้เสร็จเรียบร้อยก่อน จึงค่อยแยกย้ายกันไปจัดการเนื้อแรปของตัวเองก็ได้รับการเห็นชอบจากสมาชิกทุกคนอย่างเป็นเอกฉันท์ ด้วยเหตุนั้นทั้งสวี่คุนและจื่ออี้จึงตกลงที่จะใช้ห้องซ้อมร่วมกันแล้วปล่อยให้อีกสองสมาชิกที่เหลือได้มีโอกาสออกไปหาแรงบันดาลใจได้ตามใจชอบ
    เพราะแรปมันไม่เหมือนกับอีกสองทักษะที่เหลือ
    แม้จะมีบีทกำหนดไว้ชัดเจน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเป็นแรปเปอร์ก็คือการบอกเล่าเรื่องราวที่ตนต้องการจะสื่อผ่านไรม์สวยๆ รวมไปถึงความจริงใจที่แทรกอยู่ในทุกข้อความ ถึงจะเป็นเรื่องราวเดียวกัน บีทเดียวกัน กระทั่งสไตล์การแรปที่คล้ายกัน แต่สิ่งที่แรปเปอร์แต่ละคนสื่อออกมาย่อมแตกต่างออกไปอย่างไม่อาจเปรียบเทียบกันได้ 

    ไรม์ โฟลว์ วิธีการเล่าเรื่อง ความหมายจับใจคนฟัง ความรู้สึกที่ไม่บิดเพี้ยน นั่นแหละสเน่ห์ของแรปโพสิชันในความคิดของจื่ออี้

    “เมื่อไหร่จะเสร็จ”
    จื่ออี้หันมองนาฬิกาติดผนังและเห็นว่าเวลาล่วงเลยมาจนเข้าสู่วันใหม่แล้ว เขาเอ่ยถามคนที่ยังคงแก้เนื้อเพลงของตัวเองไม่จบไม่สิ้นเสียที ช่ายสวี่คุนยู่หน้าก่อนจะบ่นอุบว่าอยากแก้เพิ่มอีกนิด ดูท่าว่าจะยังไม่พอใจกับเนื้อเพลงที่ได้แม้จะใช้เวลาอยู่กับมันมากว่าสี่ชั่วโมงแล้วก็ตาม คำตอบที่ไม่ต่างอะไรกับคำตอบเมื่อชั่วโมงก่อนทำให้จื่ออี้ถอนหายใจยาว ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบกระดาษส่วนที่ระบุท่อนร้องรวมและตารางการแบ่งสรรท่อนเพลงขึ้นมาดู ก่อนจะเริ่มร่างบล็อกกิ้งของโชว์ขึ้นมาคร่าวๆเป็นการฆ่าเวลาไปพลางๆ
    “นายไปซ้อมส่วนของนายก่อนก็ได้”
    “ก็ฉันอยากรอนายมากกว่า”
    “…แล้วจะบ่นทำไม”
    จื่ออี้ชะเง้อมองลายมือที่ซ้อนทับกันจนยุ่งเหยิงจากการแก้เนื้อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ข้อความที่ดูน่าสับสนชวนให้หัวคิ้วขมวดมุ่น เนื้อหาบางช่องก็ขาดอะไรไปอย่าง ในขณะที่บางช่องก็คล้ายจะเกินสมควรไปนิด การจัดวางน้ำหนักที่ไม่พอดีบ่งบอกได้ถึงกระบวนการคิดที่เริ่มไม่เป็นระบบของเจ้าของเพลง เห็นดังนั้นคนที่จัดการเรื่องของตัวเองเรียบร้อยแล้วจึงเอ่ยทัก พร้อมๆกับขยับร่างเข้าไปใกล้อีกฝ่ายอีกนิดเพื่อให้มองลายมือบนแผ่นกระดาษได้ชัดขึ้น
    “คิดเยอะไปหรือเปล่า”
    “ก็คงอย่างนั้น หัวจะระเบิดอยู่แล้วเนี่ย ไม่รู้จะปรับอะไรแล้ว”
    เสียงบ่นงุ้งงิ้งบอกเป็นนัยให้คนที่ไล่สายตาไปบนเนื้อความส่วนที่เขียนเสร็จแล้วแสดงความเห็นอกเห็นใจ รวมทั้งเป็นการอ้อนขอความช่วยเหลือจากอีกคนอยู่ในที
    “เลิกคิดมากซะ เขียนออกมาให้เป็นนาย อย่าพยายามมากเกินไป”
    “พูดง่ายแต่ทำยากนี่นา ฉันกลัวว่ามันจะไม่ดีพอสำหรับพวกนาย ไม่อยากให้ตัวเองเป็นตัวถ่วงใคร”
    จื่ออี้เพิ่งรู้ว่านอกจากจะเป็นคนทุ่มเทกับสิ่งที่ชอบจนสุดตัวแล้ว ช่ายสวี่คุนยังเป็นคนคิดมากอีกด้วย ประโยคที่ไม่ควรจะมาจากเจ้าของอันดับสูงสุดของรายการถูกเอื้อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทั้งที่เขาเองควรเป็นคนที่กังวลใจที่สุดแท้ๆ ด้วยอันดับที่ต่ำกว่าคนอื่นๆในทีม จื่ออี้ไม่คาดหวังให้การแข่งขันในภารกิจนี้ง่ายดายอย่างใจนึก ทว่าเขาเองก็ไม่คิดว่าตัวเองแย่ที่สุดในกลุ่ม จึงไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าช่ายสวี่คุนจะมองตัวเองเป็นตัวถ่วงของทีม ความคิดที่ไม่เข้าท่าของอีกฝ่ายทำให้ต้องยึดใบหน้าขาวที่ก้มลงวุ่นกับกระดาษในมือเอาไว้ให้หันมาประจันหน้ากัน
    “ไม่มีใครเป็นตัวถ่วง โอเคไหม”
    .
    “เป็นตัวเองอย่างเดิมน่ะดีแล้ว เพราะสำหรับฉันนายดีที่สุด”
    เสียงของหวังจื่ออี้ดังออกมาเป็นจังหวะชัดเจนเพื่อตอกย้ำทุกความหมายลงไปในใจคนฟัง เขาเห็นคลื่นไหวสั่นในดวงตาคู่สวยที่ถูกบังคับให้จ้องประสานกัน สองมือที่ประคองใบหน้าอีกฝ่ายเอาไว้ในอายัดสัมผัสได้ถึงความร้อนที่ค่อยๆแผ่ซ่านเฉกเช่นเดียวกับสีแดงเรื่อที่ค่อยๆอาบไล่ดวงหน้าหล่อเหลา แวววูบสั่นที่ทอประกายระยับทำให้จื่ออี้อยากมองเข้าไปใกล้อีกนิด ราวกับอ่างน้ำวนแสนงดงามที่เชิญชวนให้คนบาปอย่างเขาหย่อนกายลงไปแหวกว่าย รู้ตัวอีกทีลูกแก้วอันเปรียบได้กับกระจกสะท้อนใบหน้าของเขาก็อยู่ใกล้แค่คืบ
    ถ้าไม่ห้ามตอนนี้ล่ะก็…

    จุ๊บ

    ริมฝีปากที่เคลื่อนที่เข้าไปหาคนตรงหน้าชนเข้ากับฝ่ามือขาวที่ยกขึ้นมาป้องกันการถูกรุกไล่ได้อย่างทันท่วงที 

    น่าเสียดาย…

    “เป็นแค่คนมาจีบ อย่าทำรุ่มร่ามสิ”
    ดูท่าโอเมก้าโอเมก้าของเขาคงไม่ชอบให้ฟัดสักเท่าไหร่ จื่ออี้กดจูบแรงๆที่ฝ่ามือของสวี่คุนจนเกิดเสียงดังจุ๊บ ก่อนชายหนุ่มจะรีบเอียงตัวหลบกำปั้นที่อาจปะทะเข้ากับใบหน้าในวินาทีต่อมา เสียงหัวเราะรื่นหูดังขึ้นพร้อมๆกับท่อนแขนยาวที่เท้าลงกับพื้นด้านหลังจนร่างกายอยู่ในท่าเอกเขนก

    “ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ค่อยลองใหม่ก็ได้”

    ช่ายสวี่คุนสบถดังลั่น มือขาวที่เอื้อมไปหยิบปากกามาไว้ในมือชี้แท่งปากกามาตรงหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง ท่าทางที่บอกว่าจื่ออี้ควรสงบคำได้แล้ว ไม่ใช่เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายร่างกายกันจริงๆตามคำขู่ แต่จื่ออี้แค่ไม่อยากให้สวี่คุนหนีหายไปเสียก่อน ก็ถ้าเจ้าตัวเกิดหลบหน้าเขาขึ้นมาหวังจื่ออี้ก็อดได้ลองน่ะสิจริงไหม


    TBC.


    ———————-

    ก็ลองสิจ๊ะ นะจ๊ะ มันจะไปยากอะไรทำไมไม่ลองสักที #เพลงดักแก่
    จะว่าก็ว่าเถอะ คุณจื่ออี้นี่ก็ร้ายนะคะท่านผู้ชม ตอนดูรายการครั้งแรกหลังจากลงเรือตอนอีพีสาม พอเห็นสายตาพี่เขาตอนมองมาที่คุนคุนในอีพีนี้นี่อยากจะกรีดร้องแล้วปักธงกะโหลกไขว้บนเสากระโดงค่ะ กร๊าวใจมาก พี่คิดไม่ดีกับน้องใช่มั่ยชรั่ยยยย พูด!

    ถึงตอนนั้นจะอรุ่มมาก แต่ตอนนี้เรือแห้งมากนะคะแคปแท่น มาช่วยลูกเรือหน่อย ออกมาโชว์ความหวานสักนิดนึงได้ไหมเล่า โมเม้นล่าสุดคือตอนที่เขาเดินข้างกันตอนดึกๆใช่ป้ะ แต่แบบ มันไม่โบ้มอ่ะ เราโลภ เอาอีกๆๆๆๆ

    แม้จะสอบเสร็จไปแล้วแต่เราก็ยังมีสอบอีกในเดือนหน้าจ้า เพราะงั้นคงไม่ได้อัพไวขึ้นนักหรอกค่ะ (จริงๆไม่สอบก็ไม่ไวหรอก)  ฮริฮริฮริ ปิดเทอมนี้จะไปโอซาก้าแหละ มีแพลนไปusjด้วย ใครมีคำแนะนำไหมคะ แบบว่านุ้งควรซื้อบัตรexpressไหมหว่า(ไปวันจันทร์) 

    ฝากคอมเม้นให้น้องด้วยน้า น้องอยากอ่านมั่กๆ แล้วก็ฝากแท็ก #สวี่คุนเป็นโอเมก้า ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยกันขายของให้ในแท็ก ซาบซึ้งมาก รัก เราทำถูกแล้ว เราต้องตีหัวคนเข้าฟิคเราจะได้บ้าบอด้วยกัน555

    ปล. นี่คือการทอล์กที่ไร้สาระมาก
    ปล2. ตอนหน้าตัวI ที่ไม่ได้มาจาก I love you มาวันที่30-1 ก็คือจะลงดึกๆวันที่สามสิบนั่นเองค่ะ คิสสส

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×