ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC]...Sorry... - WonHanKyu (NC-17)

    ลำดับตอนที่ #7 : - 6 -

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.1K
      1
      8 พ.ย. 52

    [FIC] Sorry.
    Couple : Siwon Hanhyung Kyuhyun
    Rate : NC-17
    Genre : Force&Crafty
    Writer : NiTRoGeN14
    Writer's Note : อย่างนั้น? ใช่หรือเปล่า... = =

    ...

    - 6 -

    "อื๊ม...อ๊ะ...อืม..." เสียงครางหวานฉ่ำดังลอดออกมาจากเรียวปากเล็กได้รูปเมื่ออารมณ์หวามถูกปลุกปั้นขึ้นจากร่างสูงที่ใช้โพรงปากร้อนเข้าครอบครองยอดอกสีอ่อน โจคยูฮยอนเผลอแอ่นหน้าอกไม่รู้ตัวเมื่อยอดไตถูกขบกัด อารมณ์ ตัณหา เข้าครอบจนหลีกเลี่ยงสัญชาติญาณดิบของมนุษย์ไปไม่พ้น

    เมื่อร่างสูงขึ้นคร่อมทับทั้งร่าง คยูฮยอนก็ลืมดวงตาคู่กลมหวานขึ้นสบกับตาคมที่จ้องมองมาอย่างมีความหมาย ใบหน้าหวานระเรื่อสีแดงขึ้นอีกครั้ง เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างปรับเปลี่ยนให้ผิวซีดขาวกลายเป็นแดงจัด

    จูบร้อนๆแทบละลายกายของร่างเล็กไปทั้งร่าง สัมผัสของมือหยาบกร้านหลอมรวมให้ทั้งกายและใจตกเป็นของคนด้านบนอย่างไม่อิดออด

    พายุอารมณ์โหมเข้าใส่รอบแล้วรอบเล่าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เสียงครางหวีดดังขึ้นรอบแล้วรอบเล่าเหมือนเสียงของพายุหมุนลูกโต แต่พายุต่อให้ลูกใหญ่แค่ไหนก็ต้องจางหายไปไม่นาน ซีวอนนอนหลับตาพริ้มทั้งๆที่ยังกอดรั้งร่างเล็กกับกายไว้แน่น คยูฮยอนเองก็หลับลึกไปนานแล้วเช่นกัน ร่างบางซบใบหน้าลงกับแผงอกแกร่งแล้วหลับไปแทบในทันทีก่อนที่จะเสร็จสิ้นกิจกรรมทางกาย

    อบอุ่นกาย...อบอุ่นใจ

    .
    .
    .

    คยูฮยอนเปิดประตูตู้เย็นออกกว้าง สายตาคู่แป๋วมองสอดหาของกินประทังหิวยามดึก ทุกครั้งที่มีอะไรกันซีวอนไม่ยอมหยุดเพียงแค่รอบสองรอบแต่จะทำกว่าตัวเองแรงหมดเหมือนจะหาที่ระบายกามราคะลงกับใครสักคนให้เสียกว่าจะพอใจ ตอนแรกๆคยูฮยอนก็เหนื่อยจนหลับไปสนิทยันเช้า แต่นับวันซีวอนก็ยิ่งบ้าพลังหนักขึ้น เขาเองก็ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกด้วยทนเสียงท้องร้องไม่ไหว กิจกรรมที่โหมทำนานกว่าสามชั่วโมงก็ทำให้เสียพลังงานไปเยอะเหมือนกัน

    เมื่อไม่เจออะไรนอกจากนมจืดในขวดห้าลิตร คยูฮยอนก็ตัดใจหยิบนมเทใส่แก้วดื่มแก้หิวไปก่อน ร่างโปร่งบางพิงสะโพกกับโต๊ะอาหารมือกระดกแก้วทรงสูงเทน้ำนมเข้าปาก นมรสชาติเย็นๆไม่ค่อยอร่อยปากนักแต่จะให้เอาไปอุ่นในไมโครเวฟก็ขี้เกียจทำ ก็ตอนนี้แค่มีแรงลุกขึ้นมาหาของกินยามดึกได้ก็น่าอัศจรรย์พอแล้วล่ะ

    เสียงฝีเท้าหนักๆที่เดินมาจากด้านหลังทำให้เจ้าลูกแมวหันไปมองทันทีก่อนจะยิ้มอ่อนสีหน้าโล่งอกโล่งใจ

    "ยังไม่นอนอีกเหรอพี่โจวหมี่"

    "อา...พอดีเกิดหิวขึ้นมากลางดึกน่ะ นายเองก็...หิวเหมือนกันเหรอ" โจวหมี่จ้องมองแก้วนมในมือของร่างบางก่อนจะเอ่ยขึ้น คยูฮยอนก็เลยพยักหน้ารับไป

    "ในตู้เย็นเหลือแต่นมแน่ะ ถ้าพี่อยากจะอิ่มหลับสบายยันเช้าผมแนะนำให้พี่เอามันไปอุ่นก่อนจะดีกว่านะ"

    "ขอบใจ ว่าแต่...ฉันเพิ่งรู้นะว่านายไม่มีชุดนอนใส่จนต้องยืมของซีวอนมาใส่น่ะ" พูดกลั้วหัวเราะ แต่คยูฮยอนไม่ยักจะขำด้วย ร่างบางหน้าตึงขึ้นทันทีเมื่อนึกได้ว่าตนเองใส่ทั้งเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของซีวอนไหนจะกางเกงบ็อกเซอร์ของพี่ชายร่างสูงอีก

    "พอดีผม... เอ่อ...ไม่มีชุดน่ะ มันยังไม่ได้ซัก นมหมดแล้วผมไปนอนต่อก่อนนะ" ตัดบทเสียดื้อๆ ร่างบางวางแก้วลงบนซิงค์ก่อนจะรีบเดินหนีกลับเข้าห้องนอนไป

    โจวหมี่มองตามหลังร่างบางที่เดินลับหายไปอย่างสงสัย ก่อนจะเปลี่ยนความสงสัยเป็นความเคลือบแคลง...

    ...

    "พี่ว่าหมู่นี้คยูฮยอนดูแปลกๆไปหรือเปล่า" จู่ๆโจวหมี่ก็เอ่ยขึ้นมากลางปล่องในขณะที่กำลังเตรียมตัวขึ้นเวทีกลางงานรายการหนึ่ง ฮันคยองหันมามองหน้าคนพูดอย่างสงสัยคิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันจนเกือบชิด

    "นายหมายความว่ายังไง?"

    เด็กหนุ่มรุ่นน้องก้มหน้าก้มตาไม่ยอมสบตากับลีดเดอร์ยูนิตเฉพาะกิจก่อนจะตัดสินใจพูดออกไปเมื่อคิดดีแล้วว่าสมควรพูด "ผมว่าช่วงนี้คยูฮยอนดูแปลกๆไป ดูเหมือนเขา...จะสนิทกับพี่ซีวอนเกินไป"

    "อะไรนะ? สองคนนั่นจะสนิทกันก็ไม่เห็นแปลกนี่ ครอบครัวของสองคนนั้นเขารู้จักกันมานานแล้วนี่" ฮันคยองทำเหมือนไม่สนใจนักแต่ก็อดคิดตามไม่ได้ แต่ก็เลือกที่จะไม่แสดงออกและเก็บความสงสัยนั้นไว้ในใจ

    "ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมจะบอกว่าสายตาที่คยูฮยอนมองพี่ซีวอนมันดูแปลกๆ เหมือนจะกลัวแต่ก็..."

    "แต่ก็ยังไง เหลวไหลน่า... ถึงเวลาสแตนด์บายแล้วไปเถอะแล้วก็ลืมเรื่องที่พูดออกมาซะ" ฮันคยองตัดบทก่อนจะเดินหนีไปสแตนด์บายตรงบันได โจวหมี่มองตามอย่างสงสัย...เพราะเขาเป็นสมาชิกใหม่ก็เลยไม่ค่อยสนิทกับสมาชิกคนอื่นมากนัก ส่วนใหญ่จึงเอาแต่เงียบเวลาที่ทุกคนพูดคุยกันเลยติดนิสัยชอบมองสังเกตสมาชิกคนอื่นไปเรื่อย ตอนแรกเขามั่นใจว่าฮันคยองกับคยูฮยอนมีอะไรมากกันเกินกว่าพี่น้อง แต่ตอนนี้...เขาชักไม่มั่นใจแล้วสิ ในเมื่อสิ่งที่ซีวอนกับคยูฮยอนทำมันก็มากเกินกว่าคำว่าพี่น้องเช่นกัน

    .
    .
    .

    "ทำไมหมู่นี้สนิทกับซีวอนจังเลยล่ะ" ท่ามกลางบรรยากาศอึกครึมในห้องนอนของลีดเดอร์ยูนิตเอ็ม ฮันคยองดึงคยูฮยอนมานั่งตักก่อนจะเริ่มเอ่ยถามเสียงแข็งทั้งที่การกระทำกลับตรงกันข้าม

    "ก็...ผมเป็นรูมเมทพี่เขานี่ฮะ"

    "แต่ก็ไม่เห็นต้องสนิทกันขนาดนั้นเลยนี่ รู้หรือเปล่าว่าพี่ไม่ชอบ" พูดไปริมฝีปากก็กดย้ำลงบนแก้มนิ่มซ้ำแล้วซ้ำอีกจนแก้มขาวเริ่มขึ้นรอยแดงช้ำ

    "พี่...ไม่ชอบที่พี่ซีวอนมายุ่งกับผมเพราะพี่หึงผมหรือหวงพี่ซีวอนกันแน่" เอ่ยจบก็รีบดันตัวออกจากอ้อมกอดอุ่นก่อนจะหันมาเล่นเกมจ้องตากัน ฮันคยองตีสีหน้าโกรธมือหนากระชากข้อมือเล็กให้เข้ามาใกล้ก่อนจะตอบกลับไปเสียงเครียด

    "พี่บอกเราแล้วไงว่าพี่จะมีเราแค่คนเดียวทำไมต้องไปดึงซีวอนมาเกี่ยวด้วยล่ะ!"

    "มันจะไม่เกี่ยวเลยถ้าเมื่อวานผมไม่เห็นพี่กับเขาจูบกัน ปากพี่ก็บอกว่าเลิกบอกว่ามีผมแค่คนเดียว ไหนล่ะคำสัญญาที่บอกว่าจะเลิกกับพี่ซีวอนเด็ดขาดน่ะ พี่รู้ไหมที่ผมเป็นอยู่ทุกวันนี้ผมก็รังเกียจตัวเองมากพออยู่แล้ว ผมยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้อยู่กลับพี่ แต่พี่!! พี่กลับไม่ทำอะไรเลยหนำซ้ำยิ่งทำให้มันแย่ลง ผมเจ็บปวดทั้งกายเจ็บทั้งใจ พี่หึงผมได้แต่ผมไม่มีสิทธิอย่างนั้นเหรอ ทำไมกันล่ะ?! พี่ตัดสินไม่ได้ใช่ไหมว่าจะเลือกใครระหว่างผมกับพี่ซีวอน งั้นผมจะเลือกให้ก็ได้ กลับไปหาเขาซะแล้วเลิกมายุ่งกับผมอีก!!!" เสียงตวาดก้องดังผ่านเข้ามาในหัวใจฮันคยองทำเอาทั้งเจ็บทั้งจุก ยิ่งมองเห็นน้ำตาของคนที่ปากก็บอกว่ารักเขาหวงเขาแต่กลับทำให้ร้องไห้ฮันคยองก็ยิ่งเจ็บปวด เพิ่งมารู้สึกตัวว่าเป็นคนรักที่แย่มากขนาดไหน ถูกอย่างที่คยูฮยอนบอกทุกอย่าง เขาทำเรื่องราวทุกอย่างให้มันแย่ลงไปทุกที

    "คยูฮยอน...พี่ขอโทษ พี่จะไม่ทำอีกแล้ว... ให้โอกาสพี่อีกสักครั้งเถอะนะ ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ พี่จะไปบอกเลิกกับซีวอนให้เด็ดขาด พี่สัญญาพี่จะไม่ทำให้เราเสียน้ำตาอีก" ฮันคยองดึงร่างของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักมากอดแนบอกแม้ตอนแรกคยูฮยนอจะขัดขืนแต่เขาก็ขืนเอาชนะด้วยกำลังที่มากกว่าจนได้ร่างบางมาไว้กับตัว มือหนากดศีรษะเล็กให้แนบกับอกปากก็วอนขอเสียงสั่น "ให้โอกาสพี่อีกสักครั้ง นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พี่จะทำให้เราเสียน้ำตา"

    "ฮึก... ผม... ผมไม่อยากจะเจ็บอีกแล้ว..."

    "พี่ขอร้องล่ะ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ทำให้เราต้องร้องไห้...พี่สัญญา"

    .
    .
    .

    ร่างสูงโปร่งของฮันคยองเดินนำหน้าซีวอนไปเรื่อย ซีวอนเองก็เดินตามอย่างไม่คิดจะชักถามอะไรว่าจะพาตนไปไหน ขอแค่เพียงฮันคยองอยากให้เขาทำอะไรเขาก็ยินยอมที่จะทำตามเพื่ออย่างน้อยสิ่งที่ทำไว้อาจจะเหนี่ยวรั้งฮันคยองไว้ได้ต่อไป

    เมื่อร่างข้างหน้าหยุดลงซีวอนเองก็หยุดฝีเท้าลงเช่นกัน ทั้งสองยืนนิ่งเงียบกันอยู่นาน สายลมเย็นที่พัดเข้าหาครั้งแล้วลูกเล่าทำให้ซีวอนรู้สึกชื่นใจอย่างบอกไม่ถูก เงียบอยู่นานจนได้ยินเสียงฮันคยองถอนหายใจยาว

    "ซีวอน..."

    "หืม?"

    "เราเลิกกันเถอะ..."

    ...









    "คยูฮยอน... จูบพี่หน่อยสิ" เสียงอ้อนวอนที่ไม่เคยคาดว่าจะได้ยินจากพี่ชายร่างสูงทำเอาโจคยูฮยอนขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย ยิ่งมองใบหน้าหล่อที่หมองซึมลงไปก็ยิ่งแปลกใจ ร่างบางเดินเข้ามาหาซีวอนที่นั่งอยู่ขอบเตียงก่อนจะใช้มือเรียวเชยคางร่างสูงขึ้น ตากลมจ้องลึกลงไปราวกับจะหาสาเหตุว่าอะไรกันที่ทำให้พี่ซีวอนที่หยิ่งทะนงเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ หรือว่า...

    "พี่เลิกกับพี่ฮันคยองแล้วงั้นสิ?"

    "สมใจนายแล้วยังไงล่ะ"

    โจคยูฮยอนไม่พูดอะไรต่อหากกลับก้มลงไปจุมพิตเบาๆบนริมฝีปากของซีวอน หากจะผละออกกลับถูกแขนใหญ่รั้งคอไว้แล้วดึงลงไปนอนราบกับพื้นเตียง ตาสบตา...ความเหงาลึกในดวงตาของซีวอนทำเอาหัวใจของคยูฮยอนอ่อนยวบ มือเรียวรั้งคอร่างสูงให้โน้มลงหายินยอมให้ถูกสัมผัสแต่โดยดีไม่คิดจะร้องท้วงอย่างที่แล้วมา ยอมให้ความเหงาของซีวอนเข้าเกาะกุมหัวใจไปโดยไม่รู้ตัว

    .
    .
    .

    โจคยูฮยอนลืมตาตื่นขึ้นมาในความมืดเหมือนเช่นทุกคืนที่มีกิจกรรมยามดึกกับพี่ชายร่างสูง เสียงท้องร้องเสียดสีกันในกระเพาะทำเอาปวดจนนิ่วหน้า มือบางหยิบเสื้อนอนตัวใหญ่ของซีวอนขึ้นมาสวมพร้อมคว้ากางเกงขาสั้นของเขาไม่ก็ของซีวอนขึ้นมาสวมแล้วเดินโซซัดโซเซออกจากห้องนอนไป จุดหมายก็คือห้องครัวเพื่อหาอะไรทาน

    มือบางเอื้อมเปิดตู้เย็น โชคดีที่คราวนี้ในตู้เย็นเต็มไปด้วยของกิน ตากลมมองหาอะไรที่ทานง่ายก่อนจะเจอแซนด์วิชสำเร็จรูปที่จำได้ว่าเป็นของเฮนรี่ก็เลยฉวยเอามาแกะกินไปก่อน คยูฮยอนนั่งลงบนโต๊ะบนทานข้าวปากก็งับแซนด์วิชอันโตเคี้ยวงุบอย่างเอร็ดอร่อยก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อมีสัมผัสร้อนเข้ากอดจากด้านหลัง

    "นึกว่าจะย่องไปหาฮันคยองเสียอีก มาทานอะไรดึกๆแบบนี้เดี๋ยวก็อ้วนหรอก" ชเวซีวอนว่าก่อนจะหมุนตัวมาอยู่ด้านหน้าร่างบางแล้วซบใบหน้าลงกับท้องน้อย

    "อา...พี่ซีวอน" เสียงหวานร้องครางเมื่อมือหนาเริ่มซุกซนไล่เลื้อยเข้าไปใต้เสื้อนอนเนื้อนิ่ม ริมฝีปากอุ่นร้อนแนบไล่ไปเรื่อยตามผิวเนื้อที่โผล่พ้นร่มผ้าออกมา "เพราะพี่นั่นแหละผมเลยต้องมาหาอะไรทานตอนดึกๆน่ะ นี่...ไม่เอานะครับ อื๊ม...เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น" มือบางพยายามผลักไสร่างสูงใหญ่ของซีวอนออกแต่ยิ่งผลักก็ยิ่งเข้าหาจนลิ้นหนาลุกล้ำเข้ามาในโพรงปากเล็กจนได้ เสียงครางหวานฉ่ำดังลอดออกมาให้แก้มแดงขึ้นสีด้วยความอาย มือที่เคยผลักไสก็โอบรัดรอบคอไว้แน่น เรียวขาเล็กยกขึ้นโอบรอบเอวชายหนุ่มไว้ถูไถตามอารมณ์หวามที่ร่างสูงมอบให้ ยิ่งเมื่อซีวอนเร่งเร้าจังหวะดูดชิงลมหายใจคยูฮยอนก็รู้สึกได้ถึงความต้องการที่ทะยานขึ้นสูงของทั้งตัวเองและซีวอนที่เริ่มจะเก็บกักไว้ไม่ไหว มือหนาเลื่อนถกเสื้อนอนขึ้นจนเห็นยอดอกสีอ่อนที่ตั้งชูชันขึ้นรับสัมผัสร้อน มือบางของคยูฮยอนเองก็เลื่อนไล้ไปตามไหล่หนาเปลือยเปล่าลงถึงแผ่นหลังกว้างที่เริ่มชื้นเหงื่อ

    สัมผัสปราถนาทาบทับสร้างรอยทรงจำเพิ่มแล้วเพิ่มอีกอย่างไม่รู้จักพอ รอยไหนที่เริ่มจางก็จะย้ำซ้ำรอยให้เด่นชัดขึ้นมาอีกครั้ง อย่างน้อยในท่ามกลางทะเลแห่งความเหงาขอแค่เพียงได้กอดใครสักคนไว้ให้แน่นมีเพียงใครสักคนแนบอยู่กับอกช่วยให้เขาไม่ต้องอยู่เพียงลำพังแค่นั้นก็พอ

    .
    .
    .
    ตุ้บ!

    ร่างของทั้งสองคนที่กอดก่ายกันแน่นต้องผละออกจากกันในทันทีพร้อมกับมองหน้าต้นเหตุของเสียงอย่างพร้อมเพรียง โจวหมี่ยืนนิ่งก่อนจะก้มหน้าก้มตาเก็บกระเป๋าน้ำร้อนแล้วเตรียมจะหันหลังวิ่งกลับไปที่ห้องหากเสียงดุของซีวอนที่เรียกไว้ทำให้ต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่ หันกลับมาอีกทีก็เพราะสัมผัสตบเบาๆที่ไหล่ ชเวซีวอนยืนตีหน้าดุมองโจวหมี่ไล่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้านหลังมีโจคยูฮยอนที่กระวีกระวาดติดกระดุมเสื้อก่อนจะวิ่งกลับเข้าห้องนอนไป สิ้นเสียงปิดประตู ชเวซีวอนก็เอ่ยปากขึ้นมาก่อน

    "ฉันหวังว่านายคงไม่ปากโป้งไปพูดอะไรกับฮันคยองเหมือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว"

    "ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้นแหละ" โจวหมี่ปฏิเสธเสหลบสายตาคมดุที่ตวัดมองมาเลยไม่ทันเห็นรอยยิ้มเหยาะบนใบหน้าที่คล้ายคลึงกับตนเอง

    "ก็หวังว่าจะทำจริงอย่างที่ปากพูดนะ เก็บเงียบไว้ซะอย่าให้ฉันรู้ล่ะว่านายปากโป้ง นายคงอยากจะมีอนาคตอยู่ในวงการนี้ต่อนะโจวหมี่... เก็บปากเก็บคำของนายไว้พูดบนเวทีดีกว่านะ เอิ่ม...ดึกแล้วนายไปนอนต่อดีกว่านะ"

    "นายเองก็อย่าหักโหมล่ะ"

    "เข้าใจอะไรง่ายดีนี่" ชายหนุ่มทิ้งท้ายก่อนจะเดินกลับเข้าห้องนอนของตนเองไป โจวหมี่ยืนมองแผ่นหลังของซีวอนจนลับหายไปก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ ไอ้ที่เคยคิดไว้ดันกลายเป็นจริงแถมเขากลายเป็นคนน้ำทั่วปากพูดอะไรมากไม่ได้อีก ยิ่งคิดก็ยิ่งหนักใจ ได้แต่ต้องท่องย้ำไว้ในใจ ลืมไปซะ...ลืมสิ่งที่เห็นไปซะ



    "พี่ซีวอน พี่โจวหมี่ว่ายังไงบ้าง?" ทันทีที่เห็นร่างสูงก้าวเข้ามาในห้องโจคยูฮยอนก็ถามขึ้นทันทีด้วยความร้อนรน มือบางเกาะแขนใหญ่ไว้แน่นทำหน้าตาเหมือนจะร้องไห้ได้ทุกที ซีวอนจึงลูบหัวน้องเล็กก่อนจะดึงมือมาจูบ

    "ไม่ต้องห่วงนะฮันคยองจะไม่รู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน" พอเห็นหน้าหวานมีรอยยิ้มขึ้นมาได้ซีวอนเองก็รู้สึกโล่งใจ แม้จะไม่เข้าใจตัวเองอยู่ลึกๆว่าจะปกป้องคยูฮยอนไปทำไมทั้งที่ปากบอกว่าเกลียดร่างบางนี่มากขนาดไหนที่มาแย่งฮันคยองไป แต่คงเพราะ...ความอบอุ่นเพียงชั่วคืนที่คยูฮยอนมอบให้มาตลอดค่อยๆแปลงเปลี่ยนหัวใจดวงนี้ที่ยึดมั่นกับฮันคยองทีละน้อยๆ








    อย่างนั้นใช่หรือเปล่า?

    2BCon
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×