ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : - 8 -
[FIC] Sorry.
Couple : Siwon Hanhyung Kyuhyun
Rate : NC-17
Genre : Force&Crafty
Writer : NiTRoGeN14
Writer's Note : เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น ไม่ได้เป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด (จินตนาการล้วนๆค่ะ)
- 8 -
...
เสียงเคาะประตูดังลั่นแต่คยูฮยอนก็ไม่อยากจะลืมตาขึ้น เขายังนอนไม่พอเลยจะให้เขาลุกไปทำงานแล้วอย่างนั้นเหรอ เสียงเคาะประตูยังคงดังต่อเนื่องสลับกับเสียงตะโกนเรียกจนในที่สุดความอดทนก็หมดลง คยูฮยอนจำใจคลานลงจากเตียงคว้าเอาผ้าห่มมาพันตัวไว้รอบๆแล้วเดินเหมือนนกเพนกวินออกไปเปิดประตู ไม่คิดจะสนใจอีกคนที่นอนกึ่งเปลือยอยู่กลางเตียงสักนิด พอเปิดประตูออกก็พบใบหน้ายักษ์ของพี่ซึงฮวานผู้จัดการสุดหล่อที่เตรียมพร้อมจะว้ากได้ทุกเมื่อถ้าไม่มีคำแก้ตัวดีๆ คยูฮยอนจำต้องงัดไม้ตายออกมาใช้เพื่อให้รอดพ้นจากระเบิดที่กำลังจะลง
"ขอโทษฮะ พอดีเมื่อคืนพี่ซีวอนบ้าบอไปหน่อยเราก็เลยนอนกันดึก"
"บ้าบอที่ว่านี่หมายถึงสาเหตุของไอ้รอยแดงๆที่ไหล่ของแกด้วยใช่ไหม? โจคยูฮยอน" พอโดนจับได้แก้ตัวไปก็ดูท่าจะไม่มีความหมายเสียแล้ว แมวเหมียวต้องงัดไม้ตายสุดท้ายออกมาใช้ สายตาหวานๆถูกส่งออกไปก่อนตามมาด้วยน้ำสีใสๆที่คลออยู่รอบดวงตา
"ผะ ผมขอโทษฮะ เมื่อคืน...ผมห้ามพี่เขาแล้ว แต่พี่เขาก็ไม่ฟัง... ผมไม่ได้เต็มใจนะฮะ พี่ก็รู้นี่นาว่าผมกำลังคบอยู่กับพี่ฮันคยอง ผมถูกพี่เขาบังคับ... พี่อย่าบอกพี่ฮันคยองนะครับ" สิ้นคำปุ๊ปน้ำตาเม็ดโตๆก็กลิ้งลงตามแนวแก้มราวกับสั่งได้ ผู้จัดการหนุ่มใหญ่ถอนหายใจแล้วทำมือไล่
"ฉันเข้าใจแล้ว รีบไปอาบน้ำอาบท่าซะเดี๋ยวซีวอนฉันจัดการเอง" สิ้นเสียงของผู้จัดการ โจคยูฮยอนก็วิ่งดุ๊กดิ๊กหนีหายเข้าห้องน้ำไปทันที
พี่ซึงฮวานผู้จัดการจอมเฮี้ยบเดินเข้าห้องสวีทสุดหรูสายตาก็ก้มมองพื้นไปตลอดทาง เสื้อผ้ากางเกงหล่นกระจุยกระจายตลอดทางจนถึงเตียงกว้างหลังใหญ่ที่มีร่างสูงหุ่นนายแบบใส่กางเกงแสล็คสีดำไม่รูดซิปติดกระดุมนอนหายใจอย่างมีความสุขอยู่ เหมือนเส้นความอดทนขาดผึง เท้าใหญ่เบอร์สิบก็ประทับเข้าที่ท้องน้อยของคุณชายรูปหล่อพ่อรวยจนกลิ้งหลุนๆตกพื้นพรมไปเป็นที่เรียบร้อย
"ใครถีบกูว่ะ" พอตื่นได้เต็มตาเพราะถูกถีบเจ้าพ่อคุณก็แหกปากโวยวายทันที หากพอสายตาคมสะดุดเข้ากับสายตามีอำนาจของพี่ผู้จัดการก็หุบปากเงียบรีบคว้าเอาเสื้อที่อยู่แถวนั้นมาปิดหน้าอกแล้วยิ้มแหย่
"กูถีบเองมีปัญหาไหม?"
"ไม่มีครับ" คุณชายสุดหล่อรีบส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะสอดส่ายสายตามองไปรอบๆห้อง และเหมือนซึงฮวานจะรู้ทันก็เลยเอ่ยปากเหมือนอ่านใจซีวอนได้
"คยูฮยอนไปอาบน้ำแล้ว แกก็ไปอาบน้ำได้แล้วไป ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นไปอาบห้องฉันไป นี่มันจะเลยเวลานัดแล้วเดี๋ยวทำงานไม่ทันเว้ย!!" เสียงเข้มยิ่งเข้มมากขึ้นไปอีกเมื่อซีวอนเริ่มทำหน้างอแง เพียงเท่านั้นคุณชายรูปหล่อพ่อรวยก็วิ่งแจ้นออกจากห้องไป
ซึงฮวานมองเตียงที่ยับยู่ยี่และเต็มไปด้วยคราบความใคร่อย่างหัวเสีย ให้มันได้อย่างนี้สิไอ้พวกเด็กไฮโซ
...
พอขึ้นรถตู้เตรียมออกจากกรุงเทพฯไปทำงาน ซีวอนก็โบกมือเรียกมักเน่หย็อยๆให้มานั่งข้างกันที่เบาะหลัง คยูฮยอนตีหน้าเบื่อแต่ก็เดินไปนั่งด้วยแต่โดยดีแม้จะมีสายตาดุๆจากซึงฮวานมองมาก็ทำเป็นไม่สนใจ
เมื่อได้นั่งข้างกันซีวอนก็ไม่สนใจใครแล้วทั้งนั้นนอกจากคนข้างตัว มือหนาคว้าเอาหน้าเล็กมาใกล้ก่อนจะกดจูบลงบนปากอิ่มอย่างไม่เกรงสายตาของสต๊าฟฟ์ที่นั่งติดรถมาด้วย
"มอร์นิ่งคิสไงจ๊ะที่รัก"
"นี่พี่ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่น่ะ" โจคยูฮยอนกระซิบเสียงเบาที่ข้างหู น้ำเสียงบ่งบอกเต็มที่ว่าไม่พอใจอย่างมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมือหนาที่บีบแก้มเขาอยู่
"เดี๋ยวนายก็รู้เองแหละ รับรองว่าสนุกแน่" คนหล่อทิ้งเสียงไว้อย่างเจ้าเล่ห์ให้แมวน้อยได้คิด
บางที...การอยู่ห่างหูห่างตาจากเหล่าสมาชิกในวงแบบนี้ก็คงไม่ปลอดภัยนัก เขาไม่ควรจะปล่อยตัวให้ซีวอนง่ายๆใช่ไหม?
ไม่ควรจะใกล้เลยใช่ไหม?
แม้หัวใจจะเรียกร้องสักแค่ไหนก็ตาม...
.
.
.
ตลอดการถ่ายทำเต็มไปด้วยความสนุกสนานและรวดเร็วเพื่อให้งานจบภายในวันนี้ หากพอถึงช่วงพักเบรกซีวอนก็จะคว้าเอากล้องถ่ายรูปที่เพิ่งซื้อมาถ่ายรูปแฟนคลับที่มาตาม ถ่ายบรรยากาศสวยๆของน้ำตก และรวมไปถึงโจคยูฮยอนที่พอเรียกหน่อยก็ยอมเดินมาโพสท่าให้เขาถ่ายรูปอย่างง่ายดาย
สาวน้อยที่ร่วมงานด้วยก็ช่างน่ารัก ยิ้มง่าย และวางตัวดีไม่ต้องทำให้ซีวอนหงุดหงิดเท่ากับคนอื่นๆก่อนหน้าที่เคยร่วมงานกันมา ติดแต่เพียงที่ว่าโจคยูฮยอนดูจะเทคแคร์สาวน้อยคนนั้นมากเกินไป ซีวอนจึงต้องสวมบทนักแสดงผู้มีสปิริตเอ่ยปากบอกผู้กำกับให้ถ่ายซีนต่อไปได้เลยแม้จะได้พักเพียงแค่ห้านาทีเท่านั้น
ซีนถัดไปเป็นซีนที่ซีวอนและคยูฮยอนจะต้องอยู่ในตู้โทรศัพท์แคบๆกับนางเอกโฆษณากันสามคน กลิ่นโคโลญจน์อ่อนๆหอมอวลอยู่ภายในตู้โทรศัพท์แคบๆ ชายหนุ่มทั้งสองต้องทำท่าเหมือนจะก้มลงไปสูดกลิ่นหอมที่ตัวหญิงสาวตามบทที่เตรียมไว้ หากแต่ซีวอนก็เผลอไปเสียแล้ว เสน่ห์ของกลิ่นหอมอ่อนๆทำให้ชายหนุ่มมึนหัวพลางคิดไปว่าเธอเป็นชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่อีกด้าน เพียงชั่วแว่บปลายจมูกโด่งก็ตวัดเฉียดแก้มนวลของนางเอกสาวหน้าใหม่ไปเรียบร้อย ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงจัดอย่างสมจริงหากใครจะรู้นอกจากคนสามคนที่อยู่ในตู้แคบๆนั้นว่ามันไม่ใช่การแสดงหากแต่ที่นางเอกสาวหน้าแดงเพราะมันเกิดขึ้นจริง
.
.
.
วันนี้ทำงานมาหนักทั้งวันตั้งแต่เช้ายันค่ำ โจคยูฮยอนจึงอยากพักมากๆ ใช่คยูฮยอนอยากพักมากๆเลยเดินจ้ำเอาจ้ำเอาตั้งแต่ถึงโรงแรมเพื่อให้ได้เข้าห้องนอนเร็วๆไม่ใช่เพื่อหนีหน้าใครบางคนที่เดินตามหลังเขามาติดๆ
"จะรีบเดินไปไหนเดี๋ยวหกล้มหรอก นั่นไงพูดไม่ทันขาดคำ" มือหนาคว้าแขนเล็กไว้ก่อนจะกระตุกให้ร่างเล็กลุกขึ้นยืนแต่คยูฮยอนก็ยังนั่งกองอยู่ที่พื้นเหมือนเดิมไม่ยอมลุกขึ้นแถมยังตวัดสายตามองชายหนุ่มอย่างเหยียดๆ ชเวซีวอนถอนหายใจยืดยาวก่อนจะก้มลงคว้าเด็กดื้อขึ้นอุ้มทั้งตัวแล้วเดินต่อ แม้คยูฮยอนจะทุบตีโวยวายเสียงดังแค่ไหนก็ไม่ยอมปล่อย ร้องขอให้ใครช่วยก็ไม่มีใครกล้าเพราะถูกสายตาดุๆขอพระเอกรูปหล่อปรามไว้หมด
"พี่ซึงฮวานช่วยผมด้วย" เมื่อไม่มีใครกล้าจะเข้ามาช่วยสักคน คนสุดท้ายที่จะสามารถช่วยเขาได้จึงมีเพียงพี่ผู้จัดการจอมเฮี้ยบเท่านั้น ซึงฮวานก้าวออกมาข้างหน้าเรียกพระเอกหนุ่มเสียงเข้มตีหน้ายักษ์หากซีวอนจะฟังเสียงก็ดี
"อย่ายุ่งนี่มันเรื่องของคนสองคน คนอื่นไม่เกี่ยว..." ชเวซีวอนทิ้งท้ายไว้อย่างน่ากระทืบก่อนจะเดินหนีเข้าห้องพักไป
ซึงฮวานได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนไม่อยากจะจินตนาการสภาพของน้องเล็กในเช้าวันพรุ่งนี้
...
แทบจะไม่ผิดไปจากที่คาดเท่าไหร่นัก เมื่อเปิดประตูห้องของสองนักร้องเข้ามาอย่างเงียบเชียบก็พบสภาพที่ไม่ต่างจากเมื่อวานเท่าไหร่นัก เสื้อผ้าหล่นกระจายทั่วพื้นห้อง ทั้งรองเท้าถุงเท้าที่กองระเกะระกะ ชายหนุ่มมองภาพสองนักร้องนอนกอดก่ายปานจะกลืนกินที่ต้องดูแลอย่างหัวเสีย นิ้วยาวสะกิดเข้าที่ไหล่ขาวๆของซีวอนสองสามทีดวงตาคมก็เบิกขึ้น
"ต้องไปทำงานแล้วเหรอ" เสียงทุ้มเอ่ยถามน้ำเสียงงัวเงียได้ถ้วย มืออีกข้างที่ไม่ได้รองหัวคยูฮยอนก็ขยี้ขี้ตาออกเบาๆ
"เออสิ"
"ขอเลทสักครึ่งชั่วโมงได้ไหม? คยูฮยอนไม่ค่อยสบาย ตัวร้อนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว"
"แล้วถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้เมื่อคืนจะทำทำไม" ผู้จัดการหนุ่มเริ่มตีหน้ายักษ์กอดอกรอฟังคำแก้ตัวอย่างใจเย็น
"ขอโทษครับ แต่ผมขอเลทเถอะเมื่อคืนเขาตามใจผมทั้งคืนแล้วขอให้เขาพักอีกนิดนะพี่ พี่ก็รู้นี่นาว่าคยูฮยอนยังไม่ค่อยหายดี" ซึงฮวานฟังคำขอของเจ้าตัวต้นเหตุแล้วก็ถอนหายใจ
"ฉันจะให้แค่วันนี้วันเดียวนะ เดี๋ยวฉันจะให้เขายกน้ำยกยามาให้ ปลุกมักเน่ขึ้นมาทานซะแล้วก็บอกว่าฉันให้พักต่ออีกสักสิบโมงค่อยไปทำงาน วันนี้มีแค่ถ่ายแบบกับให้สัมภาษณ์กับสื่อ พักเสียให้พอแล้วหวังว่านายคงไม่ไปทำอะไรมักเน่เข้าอีกล่ะ" ผู้จัดการจอมเฮี้ยบทิ้งท้ายไว้เสียงอ่อนยิ่งพอเห็นสายตาสำนึกผิดของซีวอนก็ยิ่งใจอ่อนเลยไม่อยากจะมองให้อ่อนใจไปมากกว่านี้ ร่างสูงโปร่งพอๆกับนายแบบมืออาชีพหันหลังเดินออกจากห้องสวีทหรูไปทันที
ลับหลังร่างสูงๆของผู้จัดการ ชายหนุ่มก็ค่อยๆลุกขึ้นนั่งระวังแขนไม่ให้ขยับไปกระทบกระเทือนคนที่นอนหนุนมันอยู่ ตาคมมองไปรอบๆห้องแล้วก็ยิ่งรู้สึกแย่ เสื้อผ้าที่กระจายอยู่เต็มห้องบ่งบอกความไร้สติของเขาได้เป็นอย่างดี เพียงแค่เขาไม่พอใจที่เห็นคยูฮยอนสนใจคนอื่นมากกว่าเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาก็แทบคุมสติไว้ไม่อยู่ ยิ่งเห็นเจ้าตัวทำปั้นปึ่งใส่หลังจากถ่ายซีนในตู้โทรศัพท์เขาก็ยิ่งโกรธ สำหรับโจคยูฮยอนแล้วชเวซีวอนไม่อยากจะให้เจ้าตัวใช้ดวงตากลมโตคู่หวานนั้นมองใครนอกจากเขาและฮันคยอง ที่ยอมให้ฮันคยองเพียงแค่คนเดียวก็เพราะยังตัดใจไม่ได้สักที
ร่างสูงตัดสินใจลุกออกจากเตียงก้มลงเก็บเสื้อผ้าที่กระจายอยู่ทั่วพื้นยัดใส่ตระกร้ารอคนมาเก็บ พอเดินมาถึงห้องอาบน้ำก็คว้าชุดคลุมมาคลุมตัวไว้ลวกๆแล้วเดินไปดูแลคนที่นอนไข้ขึ้นต่อ
ฝ่ามือหนาลูบแก้มซีดแผ่วเบาพลางจับคล้ายวัดไข้ แม้จะไม่ร้อนมากแต่ก็อุ่นแบบไม่น่าไว้วางใจเท่าไร มือหนาพลิกฝ่ามือใช้ข้อนิ้วไล้ตามแนวแก้มที่ซูบตอบ ความอบอุ่นที่ไม่มีใครเคยได้เห็นน่าเสียดายที่คยูฮยอนไม่ได้รับรู้เลย...
...
พอกลับจากเมืองไทย โจคยูฮยอนก็จำต้องหยุดงานที่ทำร่วมกับสมาชิกเอสเจเอ็มไปสองวันเพราะพิษไข้จากวันนั้นกลับยิ่งหนักขึ้นตลอดเวลาที่อยู่เมืองไทย ส่วนตัวต้นเหตุก็ทำงานต่อไปเหมือนไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ด้วยเลยสักนิด
ฮันคยองไม่ได้อยากจะคิดมาก พยายามคิดและปลูกฝังลงไปในหัวใจตัวเองว่าก็แค่พี่น้องไปทำงานด้วยกันไม่มีอะไรที่มากกว่านั้น ทว่า...ร่องรอยแดงช้ำตามแนวไหล่ของคนรักก็ทำให้คิดเป็นอื่นอย่างง่ายดาย คิดแบบโง่ๆแล้วว่ามันเป็นรอยยุงกัดแต่สมองเจ้ากรรมก็ไม่ยอมเชื่ออย่างที่อยากเชื่อ
และแล้วเส้นของความอดทนก็ขาดผึง เมื่อวันหนึ่งไปได้ยินเหล่าสต๊าฟฟ์ที่ติดสอยห้อยตามไปกรุงเทพฯ ด้วยกันคุยกันอยู่หลังห้องแต่งตัว
.
.
.
'ตอนแรกฉันก็ไม่คิดหรอกนะว่าเรื่องแบบนี้มันจะเป็นจริงน่ะ แต่พอไปเห็นกับตาฉันถึงได้เชื่อ'
'จริงเหรอ น่าเสียดายอ่ะผู้ชายหน้าตาดีๆตั้งสองคนดันเป็นเกย์' เสียงสต๊าฟฟ์สาวอีกคนดังขึ้นอย่างเสียดายจริงจัง แต่คนที่แอบฟังอยู่ถึงกับกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ
'ก็ใช่น่ะสิ ถ้าจูบกันเฉยๆก็ไม่เท่าไหร่หรอกนะเพราะก็เห็นจูบกันบ่อย แต่นี่...เธอรู้ไหมว่าคืนที่สองนะซีวอนน่ะอุ้มคยูฮยอนเข้าห้องนอนเลยนะ ไม่รู้ว่าเล่นกันหนักแค่ไหนแต่พอเช้ามานะพี่ซึงฮวานก็มาบอกว่าให้เลทไปอีกสองชั่วโมงอ่ะ'
'ขนาดนั้นเชียว อา...เสียดายคนหล่อๆแบบนั้นจัง'
'ใช่ม้า? แต่ดูๆไปคู่นี้ก็น่ารักดีนะเธอ ชอบหยอกชอบล้อกันเป็นประจำ'
.
.
.
2BCon
Couple : Siwon Hanhyung Kyuhyun
Rate : NC-17
Genre : Force&Crafty
Writer : NiTRoGeN14
Writer's Note : เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น ไม่ได้เป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด (จินตนาการล้วนๆค่ะ)
- 8 -
...
เสียงเคาะประตูดังลั่นแต่คยูฮยอนก็ไม่อยากจะลืมตาขึ้น เขายังนอนไม่พอเลยจะให้เขาลุกไปทำงานแล้วอย่างนั้นเหรอ เสียงเคาะประตูยังคงดังต่อเนื่องสลับกับเสียงตะโกนเรียกจนในที่สุดความอดทนก็หมดลง คยูฮยอนจำใจคลานลงจากเตียงคว้าเอาผ้าห่มมาพันตัวไว้รอบๆแล้วเดินเหมือนนกเพนกวินออกไปเปิดประตู ไม่คิดจะสนใจอีกคนที่นอนกึ่งเปลือยอยู่กลางเตียงสักนิด พอเปิดประตูออกก็พบใบหน้ายักษ์ของพี่ซึงฮวานผู้จัดการสุดหล่อที่เตรียมพร้อมจะว้ากได้ทุกเมื่อถ้าไม่มีคำแก้ตัวดีๆ คยูฮยอนจำต้องงัดไม้ตายออกมาใช้เพื่อให้รอดพ้นจากระเบิดที่กำลังจะลง
"ขอโทษฮะ พอดีเมื่อคืนพี่ซีวอนบ้าบอไปหน่อยเราก็เลยนอนกันดึก"
"บ้าบอที่ว่านี่หมายถึงสาเหตุของไอ้รอยแดงๆที่ไหล่ของแกด้วยใช่ไหม? โจคยูฮยอน" พอโดนจับได้แก้ตัวไปก็ดูท่าจะไม่มีความหมายเสียแล้ว แมวเหมียวต้องงัดไม้ตายสุดท้ายออกมาใช้ สายตาหวานๆถูกส่งออกไปก่อนตามมาด้วยน้ำสีใสๆที่คลออยู่รอบดวงตา
"ผะ ผมขอโทษฮะ เมื่อคืน...ผมห้ามพี่เขาแล้ว แต่พี่เขาก็ไม่ฟัง... ผมไม่ได้เต็มใจนะฮะ พี่ก็รู้นี่นาว่าผมกำลังคบอยู่กับพี่ฮันคยอง ผมถูกพี่เขาบังคับ... พี่อย่าบอกพี่ฮันคยองนะครับ" สิ้นคำปุ๊ปน้ำตาเม็ดโตๆก็กลิ้งลงตามแนวแก้มราวกับสั่งได้ ผู้จัดการหนุ่มใหญ่ถอนหายใจแล้วทำมือไล่
"ฉันเข้าใจแล้ว รีบไปอาบน้ำอาบท่าซะเดี๋ยวซีวอนฉันจัดการเอง" สิ้นเสียงของผู้จัดการ โจคยูฮยอนก็วิ่งดุ๊กดิ๊กหนีหายเข้าห้องน้ำไปทันที
พี่ซึงฮวานผู้จัดการจอมเฮี้ยบเดินเข้าห้องสวีทสุดหรูสายตาก็ก้มมองพื้นไปตลอดทาง เสื้อผ้ากางเกงหล่นกระจุยกระจายตลอดทางจนถึงเตียงกว้างหลังใหญ่ที่มีร่างสูงหุ่นนายแบบใส่กางเกงแสล็คสีดำไม่รูดซิปติดกระดุมนอนหายใจอย่างมีความสุขอยู่ เหมือนเส้นความอดทนขาดผึง เท้าใหญ่เบอร์สิบก็ประทับเข้าที่ท้องน้อยของคุณชายรูปหล่อพ่อรวยจนกลิ้งหลุนๆตกพื้นพรมไปเป็นที่เรียบร้อย
"ใครถีบกูว่ะ" พอตื่นได้เต็มตาเพราะถูกถีบเจ้าพ่อคุณก็แหกปากโวยวายทันที หากพอสายตาคมสะดุดเข้ากับสายตามีอำนาจของพี่ผู้จัดการก็หุบปากเงียบรีบคว้าเอาเสื้อที่อยู่แถวนั้นมาปิดหน้าอกแล้วยิ้มแหย่
"กูถีบเองมีปัญหาไหม?"
"ไม่มีครับ" คุณชายสุดหล่อรีบส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะสอดส่ายสายตามองไปรอบๆห้อง และเหมือนซึงฮวานจะรู้ทันก็เลยเอ่ยปากเหมือนอ่านใจซีวอนได้
"คยูฮยอนไปอาบน้ำแล้ว แกก็ไปอาบน้ำได้แล้วไป ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นไปอาบห้องฉันไป นี่มันจะเลยเวลานัดแล้วเดี๋ยวทำงานไม่ทันเว้ย!!" เสียงเข้มยิ่งเข้มมากขึ้นไปอีกเมื่อซีวอนเริ่มทำหน้างอแง เพียงเท่านั้นคุณชายรูปหล่อพ่อรวยก็วิ่งแจ้นออกจากห้องไป
ซึงฮวานมองเตียงที่ยับยู่ยี่และเต็มไปด้วยคราบความใคร่อย่างหัวเสีย ให้มันได้อย่างนี้สิไอ้พวกเด็กไฮโซ
...
พอขึ้นรถตู้เตรียมออกจากกรุงเทพฯไปทำงาน ซีวอนก็โบกมือเรียกมักเน่หย็อยๆให้มานั่งข้างกันที่เบาะหลัง คยูฮยอนตีหน้าเบื่อแต่ก็เดินไปนั่งด้วยแต่โดยดีแม้จะมีสายตาดุๆจากซึงฮวานมองมาก็ทำเป็นไม่สนใจ
เมื่อได้นั่งข้างกันซีวอนก็ไม่สนใจใครแล้วทั้งนั้นนอกจากคนข้างตัว มือหนาคว้าเอาหน้าเล็กมาใกล้ก่อนจะกดจูบลงบนปากอิ่มอย่างไม่เกรงสายตาของสต๊าฟฟ์ที่นั่งติดรถมาด้วย
"มอร์นิ่งคิสไงจ๊ะที่รัก"
"นี่พี่ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่น่ะ" โจคยูฮยอนกระซิบเสียงเบาที่ข้างหู น้ำเสียงบ่งบอกเต็มที่ว่าไม่พอใจอย่างมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมือหนาที่บีบแก้มเขาอยู่
"เดี๋ยวนายก็รู้เองแหละ รับรองว่าสนุกแน่" คนหล่อทิ้งเสียงไว้อย่างเจ้าเล่ห์ให้แมวน้อยได้คิด
บางที...การอยู่ห่างหูห่างตาจากเหล่าสมาชิกในวงแบบนี้ก็คงไม่ปลอดภัยนัก เขาไม่ควรจะปล่อยตัวให้ซีวอนง่ายๆใช่ไหม?
ไม่ควรจะใกล้เลยใช่ไหม?
แม้หัวใจจะเรียกร้องสักแค่ไหนก็ตาม...
.
.
.
ตลอดการถ่ายทำเต็มไปด้วยความสนุกสนานและรวดเร็วเพื่อให้งานจบภายในวันนี้ หากพอถึงช่วงพักเบรกซีวอนก็จะคว้าเอากล้องถ่ายรูปที่เพิ่งซื้อมาถ่ายรูปแฟนคลับที่มาตาม ถ่ายบรรยากาศสวยๆของน้ำตก และรวมไปถึงโจคยูฮยอนที่พอเรียกหน่อยก็ยอมเดินมาโพสท่าให้เขาถ่ายรูปอย่างง่ายดาย
สาวน้อยที่ร่วมงานด้วยก็ช่างน่ารัก ยิ้มง่าย และวางตัวดีไม่ต้องทำให้ซีวอนหงุดหงิดเท่ากับคนอื่นๆก่อนหน้าที่เคยร่วมงานกันมา ติดแต่เพียงที่ว่าโจคยูฮยอนดูจะเทคแคร์สาวน้อยคนนั้นมากเกินไป ซีวอนจึงต้องสวมบทนักแสดงผู้มีสปิริตเอ่ยปากบอกผู้กำกับให้ถ่ายซีนต่อไปได้เลยแม้จะได้พักเพียงแค่ห้านาทีเท่านั้น
ซีนถัดไปเป็นซีนที่ซีวอนและคยูฮยอนจะต้องอยู่ในตู้โทรศัพท์แคบๆกับนางเอกโฆษณากันสามคน กลิ่นโคโลญจน์อ่อนๆหอมอวลอยู่ภายในตู้โทรศัพท์แคบๆ ชายหนุ่มทั้งสองต้องทำท่าเหมือนจะก้มลงไปสูดกลิ่นหอมที่ตัวหญิงสาวตามบทที่เตรียมไว้ หากแต่ซีวอนก็เผลอไปเสียแล้ว เสน่ห์ของกลิ่นหอมอ่อนๆทำให้ชายหนุ่มมึนหัวพลางคิดไปว่าเธอเป็นชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่อีกด้าน เพียงชั่วแว่บปลายจมูกโด่งก็ตวัดเฉียดแก้มนวลของนางเอกสาวหน้าใหม่ไปเรียบร้อย ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงจัดอย่างสมจริงหากใครจะรู้นอกจากคนสามคนที่อยู่ในตู้แคบๆนั้นว่ามันไม่ใช่การแสดงหากแต่ที่นางเอกสาวหน้าแดงเพราะมันเกิดขึ้นจริง
.
.
.
วันนี้ทำงานมาหนักทั้งวันตั้งแต่เช้ายันค่ำ โจคยูฮยอนจึงอยากพักมากๆ ใช่คยูฮยอนอยากพักมากๆเลยเดินจ้ำเอาจ้ำเอาตั้งแต่ถึงโรงแรมเพื่อให้ได้เข้าห้องนอนเร็วๆไม่ใช่เพื่อหนีหน้าใครบางคนที่เดินตามหลังเขามาติดๆ
"จะรีบเดินไปไหนเดี๋ยวหกล้มหรอก นั่นไงพูดไม่ทันขาดคำ" มือหนาคว้าแขนเล็กไว้ก่อนจะกระตุกให้ร่างเล็กลุกขึ้นยืนแต่คยูฮยอนก็ยังนั่งกองอยู่ที่พื้นเหมือนเดิมไม่ยอมลุกขึ้นแถมยังตวัดสายตามองชายหนุ่มอย่างเหยียดๆ ชเวซีวอนถอนหายใจยืดยาวก่อนจะก้มลงคว้าเด็กดื้อขึ้นอุ้มทั้งตัวแล้วเดินต่อ แม้คยูฮยอนจะทุบตีโวยวายเสียงดังแค่ไหนก็ไม่ยอมปล่อย ร้องขอให้ใครช่วยก็ไม่มีใครกล้าเพราะถูกสายตาดุๆขอพระเอกรูปหล่อปรามไว้หมด
"พี่ซึงฮวานช่วยผมด้วย" เมื่อไม่มีใครกล้าจะเข้ามาช่วยสักคน คนสุดท้ายที่จะสามารถช่วยเขาได้จึงมีเพียงพี่ผู้จัดการจอมเฮี้ยบเท่านั้น ซึงฮวานก้าวออกมาข้างหน้าเรียกพระเอกหนุ่มเสียงเข้มตีหน้ายักษ์หากซีวอนจะฟังเสียงก็ดี
"อย่ายุ่งนี่มันเรื่องของคนสองคน คนอื่นไม่เกี่ยว..." ชเวซีวอนทิ้งท้ายไว้อย่างน่ากระทืบก่อนจะเดินหนีเข้าห้องพักไป
ซึงฮวานได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนไม่อยากจะจินตนาการสภาพของน้องเล็กในเช้าวันพรุ่งนี้
...
แทบจะไม่ผิดไปจากที่คาดเท่าไหร่นัก เมื่อเปิดประตูห้องของสองนักร้องเข้ามาอย่างเงียบเชียบก็พบสภาพที่ไม่ต่างจากเมื่อวานเท่าไหร่นัก เสื้อผ้าหล่นกระจายทั่วพื้นห้อง ทั้งรองเท้าถุงเท้าที่กองระเกะระกะ ชายหนุ่มมองภาพสองนักร้องนอนกอดก่ายปานจะกลืนกินที่ต้องดูแลอย่างหัวเสีย นิ้วยาวสะกิดเข้าที่ไหล่ขาวๆของซีวอนสองสามทีดวงตาคมก็เบิกขึ้น
"ต้องไปทำงานแล้วเหรอ" เสียงทุ้มเอ่ยถามน้ำเสียงงัวเงียได้ถ้วย มืออีกข้างที่ไม่ได้รองหัวคยูฮยอนก็ขยี้ขี้ตาออกเบาๆ
"เออสิ"
"ขอเลทสักครึ่งชั่วโมงได้ไหม? คยูฮยอนไม่ค่อยสบาย ตัวร้อนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว"
"แล้วถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้เมื่อคืนจะทำทำไม" ผู้จัดการหนุ่มเริ่มตีหน้ายักษ์กอดอกรอฟังคำแก้ตัวอย่างใจเย็น
"ขอโทษครับ แต่ผมขอเลทเถอะเมื่อคืนเขาตามใจผมทั้งคืนแล้วขอให้เขาพักอีกนิดนะพี่ พี่ก็รู้นี่นาว่าคยูฮยอนยังไม่ค่อยหายดี" ซึงฮวานฟังคำขอของเจ้าตัวต้นเหตุแล้วก็ถอนหายใจ
"ฉันจะให้แค่วันนี้วันเดียวนะ เดี๋ยวฉันจะให้เขายกน้ำยกยามาให้ ปลุกมักเน่ขึ้นมาทานซะแล้วก็บอกว่าฉันให้พักต่ออีกสักสิบโมงค่อยไปทำงาน วันนี้มีแค่ถ่ายแบบกับให้สัมภาษณ์กับสื่อ พักเสียให้พอแล้วหวังว่านายคงไม่ไปทำอะไรมักเน่เข้าอีกล่ะ" ผู้จัดการจอมเฮี้ยบทิ้งท้ายไว้เสียงอ่อนยิ่งพอเห็นสายตาสำนึกผิดของซีวอนก็ยิ่งใจอ่อนเลยไม่อยากจะมองให้อ่อนใจไปมากกว่านี้ ร่างสูงโปร่งพอๆกับนายแบบมืออาชีพหันหลังเดินออกจากห้องสวีทหรูไปทันที
ลับหลังร่างสูงๆของผู้จัดการ ชายหนุ่มก็ค่อยๆลุกขึ้นนั่งระวังแขนไม่ให้ขยับไปกระทบกระเทือนคนที่นอนหนุนมันอยู่ ตาคมมองไปรอบๆห้องแล้วก็ยิ่งรู้สึกแย่ เสื้อผ้าที่กระจายอยู่เต็มห้องบ่งบอกความไร้สติของเขาได้เป็นอย่างดี เพียงแค่เขาไม่พอใจที่เห็นคยูฮยอนสนใจคนอื่นมากกว่าเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาก็แทบคุมสติไว้ไม่อยู่ ยิ่งเห็นเจ้าตัวทำปั้นปึ่งใส่หลังจากถ่ายซีนในตู้โทรศัพท์เขาก็ยิ่งโกรธ สำหรับโจคยูฮยอนแล้วชเวซีวอนไม่อยากจะให้เจ้าตัวใช้ดวงตากลมโตคู่หวานนั้นมองใครนอกจากเขาและฮันคยอง ที่ยอมให้ฮันคยองเพียงแค่คนเดียวก็เพราะยังตัดใจไม่ได้สักที
ร่างสูงตัดสินใจลุกออกจากเตียงก้มลงเก็บเสื้อผ้าที่กระจายอยู่ทั่วพื้นยัดใส่ตระกร้ารอคนมาเก็บ พอเดินมาถึงห้องอาบน้ำก็คว้าชุดคลุมมาคลุมตัวไว้ลวกๆแล้วเดินไปดูแลคนที่นอนไข้ขึ้นต่อ
ฝ่ามือหนาลูบแก้มซีดแผ่วเบาพลางจับคล้ายวัดไข้ แม้จะไม่ร้อนมากแต่ก็อุ่นแบบไม่น่าไว้วางใจเท่าไร มือหนาพลิกฝ่ามือใช้ข้อนิ้วไล้ตามแนวแก้มที่ซูบตอบ ความอบอุ่นที่ไม่มีใครเคยได้เห็นน่าเสียดายที่คยูฮยอนไม่ได้รับรู้เลย...
...
พอกลับจากเมืองไทย โจคยูฮยอนก็จำต้องหยุดงานที่ทำร่วมกับสมาชิกเอสเจเอ็มไปสองวันเพราะพิษไข้จากวันนั้นกลับยิ่งหนักขึ้นตลอดเวลาที่อยู่เมืองไทย ส่วนตัวต้นเหตุก็ทำงานต่อไปเหมือนไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ด้วยเลยสักนิด
ฮันคยองไม่ได้อยากจะคิดมาก พยายามคิดและปลูกฝังลงไปในหัวใจตัวเองว่าก็แค่พี่น้องไปทำงานด้วยกันไม่มีอะไรที่มากกว่านั้น ทว่า...ร่องรอยแดงช้ำตามแนวไหล่ของคนรักก็ทำให้คิดเป็นอื่นอย่างง่ายดาย คิดแบบโง่ๆแล้วว่ามันเป็นรอยยุงกัดแต่สมองเจ้ากรรมก็ไม่ยอมเชื่ออย่างที่อยากเชื่อ
และแล้วเส้นของความอดทนก็ขาดผึง เมื่อวันหนึ่งไปได้ยินเหล่าสต๊าฟฟ์ที่ติดสอยห้อยตามไปกรุงเทพฯ ด้วยกันคุยกันอยู่หลังห้องแต่งตัว
.
.
.
'ตอนแรกฉันก็ไม่คิดหรอกนะว่าเรื่องแบบนี้มันจะเป็นจริงน่ะ แต่พอไปเห็นกับตาฉันถึงได้เชื่อ'
'จริงเหรอ น่าเสียดายอ่ะผู้ชายหน้าตาดีๆตั้งสองคนดันเป็นเกย์' เสียงสต๊าฟฟ์สาวอีกคนดังขึ้นอย่างเสียดายจริงจัง แต่คนที่แอบฟังอยู่ถึงกับกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ
'ก็ใช่น่ะสิ ถ้าจูบกันเฉยๆก็ไม่เท่าไหร่หรอกนะเพราะก็เห็นจูบกันบ่อย แต่นี่...เธอรู้ไหมว่าคืนที่สองนะซีวอนน่ะอุ้มคยูฮยอนเข้าห้องนอนเลยนะ ไม่รู้ว่าเล่นกันหนักแค่ไหนแต่พอเช้ามานะพี่ซึงฮวานก็มาบอกว่าให้เลทไปอีกสองชั่วโมงอ่ะ'
'ขนาดนั้นเชียว อา...เสียดายคนหล่อๆแบบนั้นจัง'
'ใช่ม้า? แต่ดูๆไปคู่นี้ก็น่ารักดีนะเธอ ชอบหยอกชอบล้อกันเป็นประจำ'
.
.
.
2BCon
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น