ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คิดถึงคุณ...อย่างเป็นทางการ : Officially Missing You

    ลำดับตอนที่ #11 : 4 วิธีปิดปากคนขี้โวยวาย 1/3

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.26K
      4
      20 มี.ค. 67

    เวลาที่บูมเมอแรงถูกเขวี้ยงออกไปกลางอากาศแล้วหมุนติ้วๆ เป็นแบบนี้นี่เอง ทะเลจันทร์คิดว่าตัวเองยามอยู่ในอ้อมกอดปราบศึกไม่ต่างจากบูมเมอแรงเท่าใดนัก

    คำพูดแผ่วเบาจากเขาคือแรงดีดอาวุธล่าสัตว์ของชาวพื้นเมืองอะบอริจินให้ไกลออกไป เพียงแต่คราวนี้เปลี่ยนจากเพื่อล่าสัตว์เป็นล่าหัวใจเธอแทน มันหมุนคว้างลอยไปไกล ก่อนวกกลับมากระแทกใจเธอเต็มๆ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอและเขากอดกัน ทว่าครั้งก่อนๆ ความรู้สึกที่สัมผัสได้จากคนตัวโตไม่ใช่แบบนี้

    สมองลีบๆ นี้ไม่นิ่งพอที่จะแยกแยะเสียแล้วว่าประโยคที่ลอยเข้าหูซ่อนความนัยอะไรไว้หรือไม่ อยากตีความไปเองเหลือเกินว่าเขาคิดไม่ต่างจากที่เธอคิด แต่ก็นั่นละ ถ้าพี่ปราบบอกแบบไม่อ้อมค้อม ไม่เป็นปริศนา เธอคงเข้าใจอะไรได้ง่ายกว่านี้

    “นานเกินไปสำหรับซีด้วยหรือเปล่า”

    เอาเข้าไป ! จะมาถามอะไรตอนนี้

    “ว่ายังไง หืม”

    “ก็...” ทะเลจันทร์งมหาเสียงตัวเองอยู่พักหนึ่ง ยังโชคดีที่อยู่ในอ้อมแขนแกร่ง ไม่เช่นนั้นเขาต้องเห็นแน่ๆ ว่าเธอประหม่า “งั้นมั้ง”

    สิ่งแวดล้อมรอบกายคล้ายจะเป็นใจ ภูตะวันเคยบอกว่าช่วงค่ำแบบนี้บรรยากาศไร่แก้วมังกรโรแมนติกนัก หากไม่ติดว่าต้องดูแลไร่ข้าวโพดในอีกจังหวัด พี่ชายเธอก็อยากสร้างรีสอร์ทเล็กๆ มีห้องพักแค่ไม่กี่ห้องโดยเลือกรับเฉพาะแขกที่มาเป็นครอบครัวหรือไม่ก็คู่รักที่ต้องการมาฮันนีมูน เดิมทีทะเลจันทร์ไม่เห็นด้วยเท่าไรนัก แต่ตอนนี้หญิงสาวเอนเอียงไปกับความคิดพี่ชายเสียครึ่งหนึ่งแล้ว

    ปราบศึกที่เธอเคยรู้จักเป็นผู้ชายสุขุมลุ่มลึก ยิ้มง่าย มนุษยสัมพันธ์ดีเลิศ เท่าที่สังเกตถึงเขาจะไม่ได้รู้จักคนทั่วทั้งมหาวิทยาลัย กระนั้นก็มีเพื่อนทุกคณะ เขาใจดี มีเหตุผล อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ทั้งหมดคือนิยามหลายๆ อย่างที่กลั่นออกมาได้จากผู้ชายคนนี้ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เขาต้อนเธอให้จนมุม

    “อื้อ...หายใจไม่ออก”

    ชายหนุ่มกลั้วหัวเราะในลำคอ รู้สึกดีแปลกๆ ยามร่างเล็กกะทัดรัดดิ้นดุ๊กๆ ในอ้อมกอด ฝ่ามือเธอดันท่อนแขนเขาทั้งที่รู้ว่าไม่อาจสู้แรงได้

    “อยู่ในที่โล่งจะหายใจไม่ออกได้ยังไง”

    “ก็ใครล่ะรัดซีแน่นอย่างกับงูเหลือม”

    ปราบศึกคลายอ้อมกอดออกนิดหนึ่ง ดวงตาเฉียบคมมองหญิงสาวตรงหน้า แล้วคำถามที่เจ้าตัวคิดว่าโง่เง่าที่สุดก็หลุดออกจากปากอย่างตั้งใจ

    “เคยถูกงูรัด ?”

    โบราณว่าถ้าฝันว่าถูกงูรัดหมายถึงกำลังจะเจอเนื้อคู่ เธอไม่เคยฝันอะไรทั้งนั้น แต่โดนรัดเสียแน่น งูตัวใหญ่มากด้วยสิ

    “ปล่อยได้แล้ว ตัวซีเหม็นขี้หมูจะตายไป”

    “ไม่เห็นเหม็น” ชายหนุ่มจรดปลายจมูกลงบนศีรษะกระเซอะกระเซิง ไร้กลิ่นขี้หมูอย่างที่เจ้าตัวว่า มีเพียงกลิ่นเหงื่อจากการเล่นซนกับเปรี้ยวหวานมาทั้งวันเท่านั้น

    “อย่าดมหัวนะพี่ปราบ !” ทะเลจันทร์ยกมือขึ้นกุมหัวตัวเอง จะดมทั้งทีรอเธออาบน้ำสระผมให้หอมฟุ้งก่อนก็ไม่ได้

    “ไม่ให้ดมหัว ถ้าอย่างนั้นดมอย่างอื่น” ปราบศึกยิ้มในหน้า ถ่ายทอดทุกอย่างผ่านดวงตาให้รุ่นน้องได้รู้ว่าความรู้สึกของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว มันเปลี่ยนก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อด้วยซ้ำ

    ห้าปี...พี่จะชดเชยให้ซีทั้งหมด

    ทะเลจันทร์เริ่มไม่สนุกด้วยแล้ว ร่างนี้เป็นร่างปราบศึกก็จริง แต่ที่สิงอยู่ต้องเป็นพ่อมดแน่ๆ การไปเรียนต่างประเทศทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยหรือ

    พี่ปราบร้ายไม่เบา !

    “อย่าแกล้งสิ”

    “เห็นพี่เป็นคนขี้แกล้งหรือไง หืม”

    คนถูกแกล้งส่ายหน้าหวือ แต่ก็เอาละนะ เขาเล่นแบบนี้ เธอก็จะเล่นบ้าง

    “งั้นจะลองดมมือไหมล่ะ น่าจะมีกลิ่นขี้หมูอยู่หน่อยๆ” มือเล็กเลื่อนไปยังใบหน้าหล่อคม ห่างกันเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น

    หากนี่คือวิธีแก้เขินแล้วละก็ นับว่าทะเลจันทร์ยังอ่อนหัดอยู่มาก ปราบศึกกำข้อมือหญิงสาวไว้แน่น ก่อนสูดดมฝ่ามือไปเต็มแรง

    “มือก็ไม่เหม็น”

    พลาด ! เธอพลาดอีกแล้ว

    พี่ซันนะพี่ซัน คิดดีแล้วหรือไงที่ให้น้องอยู่ใกล้ผู้ชาย ถ้าซีใจแตกละก็ความผิดพี่ซันล้วนๆ !

    “ปล่อยได้แล้ว” ทะเลจันทร์ออกคำสั่งเป็นรอบที่ร้อย ทว่าคนฟังหาได้ใส่ใจหรือเกรงกลัว

    “ดุขึ้นนะเรา”

    “ก็ใช่น่ะสิ ซีดุขึ้น ขี้โวยวายขึ้นด้วย ถ้าไม่ปล่อยซีจะตะโกนให้ลั่นเลย”

    “พี่ก็พอจะมีวิธีปิดปากคนขี้โวยวาย”

    หญิงสาวเบิกตากว้าง ความคิดส่วนดีสั่งให้ห้ามตะโกนเพราะไม่อยากโดนปิดปาก หากแต่ความคิดส่วนชั่วร้ายดันยั่วยุให้เธอตะโกน ด้วยอยากรู้ว่าจะถูกปราบศึกจัดการปิดปากด้วยวิธีใด

    “ไม่ตะโกนก็ได้ พี่ปราบปล่อยสิ”

    เพราะความคิดส่วนดีมีมากกว่า ทะเลจันทร์จึงยังพอจะภูมิใจในตัวเองอยู่บ้าง ร่างเล็กดิ้นดุ๊กดิ๊ก วงแขนแกร่งจึงยอมปล่อยในที่สุด

    “คิดว่าอยากรู้วิธีปิดปากของพี่เสียอีก”

    “รู้หรอกน่า” หญิงสาวเฉไฉไปเรื่อย “อย่างพี่ปราบ คงเอาผ้ามามัดปากซี หรือไม่ก็อุดปากซีด้วยหมัด”

    “ไม่ใช่”

    “ไม่อยากรู้แล้ว ไม่ต้องมาบอกหรอก” คนเขินอายกัดริมฝีปากแน่น หากกัดแรงกว่านี้อีกสักหน่อยเธอต้องได้ชิมเลือดตัวเองแน่เชียว อยู่กับปราบศึกเธอกลายเป็นผู้หญิงงี่เง่าได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    “อยากรู้เมื่อไรก็ถาม อย่าคิดเอง” ตลอดทั้งวันที่อยู่ในฟาร์มหมู ปราบศึกนับไม่ถ้วนว่าตนยิ้มไปแล้วกี่ครั้ง

    “อือ รู้แล้ว”

    ทะเลจันทร์ตอบห้วนไร้หางเสียง หญิงสาวเบือนหน้าเข้าไปในบ้าน นึกหมั่นไส้พลูโตที่พอถึงช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานกลับหนีไปหลับอุตุ กินแล้วนอนจะไม่ให้อ้วนได้อย่างไร

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×