ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มัดใจคุณ...อย่างเป็นทางการ : Officially be Yours

    ลำดับตอนที่ #11 : 4 ในค่ำคืนท้องฟ้าสีชมพูตุ่นๆ 1/3

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.13K
      3
      27 มี.ค. 67

    พริกต้นเล็กๆ ซึ่งแต่แรกเพาะเมล็ดไว้ในถาดถูกนำลงดินด้วยมือเล็กๆ ของเปรี้ยวหวานโดยมีพ่อกับแม่คอยช่วย ธรณ์ยกแปลงผักขึ้นอีกแถวยาวตามแนวเดียวกับที่ลงต้นพริก ด้วยลูกสาวกับภรรยาเพิ่งเพาะเมล็ดผักกาดหอมลงพีทมอสเพิ่มไปสองกระบะ อีกอาทิตย์เจ้าเมล็ดเล็กๆ พวกนี้คงโตเป็นต้นอ่อนพอจะนำลงแปลงได้ ชานเรือนที่มีผักสวนครัวหลากหลายประดับตกแต่งแทนไม้ดอกสวยงาม จะดารดาษไปด้วยผักสวนครัวเพิ่มมากขึ้น

    เมื่อเก็บอุปกรณ์ทำสวนไว้ในโรงเก็บหลังบ้าน ทรายรุ้งจึงพาคนสวนตัวน้อยขึ้นไปอาบน้ำด้านบนบ้าน หน้าที่ในครัวจึงเป็นของธรณ์ เขาไม่ได้ทำอะไรมากมายนัก เพียงแค่ตักข้าวใส่จานและตักกับข้าวใส่ชามเท่านั้นเพราะภรรยาจัดการปรุงไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เช้าตรู่ แต่เนื่องจากลุยแปลงผักกันทั้งบ้าน มื้อเช้าจึงคลาดเคลื่อนจากเวลาปกตินานเป็นชั่วโมง ทำให้กลายเป็นมื้อสายแทนไปโดยปริยาย

    อาบน้ำประแป้งให้ลูกจนหอมฟุ้ง ทั้งทรายรุ้งและเด็กหญิงปั้นดาวจึงพากันลงมาข้างล่าง พอถึงโต๊ะกินข้าวหญิงสาวกลับเห็นสามีหน้ายุ่ง คิ้วขมวดกันยุ่งเหยิง ถึงไม่ได้น่ามองเท่าเวลาเขายิ้มอย่างเมื่อก่อน แต่สำหรับเธอ การแสดงออกทางสีหน้าเช่นนี้กลับน่ามองกว่าเมื่อพี่ธรณ์หน้านิ่ง ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ เป็นไหนๆ

    “กินข้าวกันดีกว่าค่ะ”

    “ทำไมวันนี้เลือกกระโปรงให้ลูก”

    กระแสเสียงยามถามฟังดูปกติ แต่ทรายรุ้งรู้ดีว่าอารมณ์คนถามไม่ปกติ พี่ธรณ์เป็นคุณพ่อที่หวงลูกเอามากๆ วัยอย่างเปรี้ยวหวานกำลังซน จึงชอบให้ลูกสวมกางเกงมากกว่ากระโปรง ไม่ใช่สิ สามีเธอไม่ชอบให้ลูกสวมกระโปรงเลยต่างหาก ถึงขนาดว่าช่วงที่หาโรงเรียนให้ลูก พยายามหาว่าโรงเรียนใกล้บ้านโรงเรียนไหนบ้างที่อนุญาตให้นักเรียนหญิงสวมกางเกงไปเรียนได้ เมื่อสุดท้ายไม่มีสักที่ เขาจึงปล่อยวางและอะลุ่มอล่วย

    “ชุดนี้ทับทิมซื้อให้ค่ะ วันนี้แซนเลยเลือกชุดนี้ให้ใส่ คุณอามาเห็นจะได้ดีใจ”

    “ขาประจำ”

    “ค่ะ”

    “รายนั้นรู้ว่าพี่ไม่ชอบกระโปรงก็ขนซื้อแต่กระโปรงให้หลาน” ธรณ์ได้แต่หวังว่ามาหาเขาที่ฟาร์มคราวนี้ ธีรดาจะยุ่งเคลียร์งานจนไม่มีเวลาเลือกซื้อเสื้อผ้ามาฝากเปรี้ยวหวาน

    “แซนให้เปรี้ยวหวานใส่กางเกงไว้ด้านในแล้วค่ะ ไม่โป๊หรอก ตกลงกันแล้วด้วยว่าวันนี้เปรี้ยวหวานจะเรียบร้อย ใช่ไหมคะ” ประโยคหลังทรายรุ้งพูดกับลูกสาว ทายาทคนโตของการุณย์กาญจ์ผ่อนคลายขึ้นมากหลังจากปลูกผักสวนครัวด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูก และอีกอย่างหนึ่งเพราะสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่ใจลอย เธอควรทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุดไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าธรณ์หรืออยู่ต่อหน้าลูก

    “ใช่ค่ะ”

    คนเก่งตอบรับ ก่อนค่อยๆ พาตัวเองขึ้นนั่งบนเก้าอี้ด้วยท่วงท่าที่เรียบร้อยกว่าปกติมากมายนัก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเรียบร้อยเช่นนี้ได้เกินหนึ่งชั่วโมงหรือไม่

    “เอาผักเยอะๆ ค่ะพ่อ”

    เด็กหญิงปั้นดาวเรียกร้องผักเพิ่มเมื่อพ่อตักแกงจืดตำลึงหมูสับวางให้ในจานข้าว ตำลึงที่แม่นำมาแกงจืดนี้สาวน้อยจำได้ดีว่าตนเป็นคนลงมือปลูกเองกับมือ อะไรที่ปลูกเองมักอร่อยที่สุดในโลกเสมอ เปรี้ยวหวานเชื่อเช่นนั้น และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้กินผักได้ทุกชนิดทุกสีอย่างไม่เกี่ยงงอนหรือโอ้เอ้

    “ได้สิ”

    “อาทับทิมมาเมื่อไรคะ”

    “ไม่เกินเที่ยงเปรี้ยวหวานก็จะเจออาทับทิม” ช่วงเช้าที่คุยกัน ธีรดากำลังเตรียมตัวออกเดินทาง ป่านนี้น่าจะออกนอกเขตกรุงเทพมหานครมาสักพักแล้ว นั่นหมายความว่าอาจถึงฟาร์มนกกระจอกเทศในอีกไม่เกินหนึ่งชั่วโมง

    “เปรี้ยวหวานอยากอวดน้องนกกับอาทับทิมค่ะ” พูดจบมือเล็กก็ตักข้าวเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ รสชาติถูกใจจึงหันทางมารดาแล้วยกนิ้วโป้งให้

    “อาทับทิมต้องชอบ”

    “ใช่ค่ะ อาธารณ์กับอายงก็บอกแบบนี้”

    “แซนปูที่นอนห้องเล็กด้านบนไว้แล้วค่ะ ไม่แน่ใจว่าทับทิมจะนอนที่นี่หรือนอนกับธารณ์”

    “ขอบใจ แต่น่าจะโดนธารณ์ลากไปนอนคุยกันอย่างเคย”

    เมื่อเห็นเปรี้ยวหวานจดจ่อกับอาหารการกิน และเพลิดเพลินกับการตักกับข้าวอย่างอื่นเข้าปาก ทรายรุ้งจึงรวบรวมความกล้าถามสามีโดยใช้ระดับเสียงเพียงให้ได้ยินกันสองคน

    “แล้วพี่ธรณ์จะนอน...”

    “พี่คงนอนบ้านสักพัก”

    เขาตอบทันทีราวกับรู้ว่าเธอจะถามอะไร แต่หากรู้ใจมากกว่านี้พี่ธรณ์น่าจะรู้ว่าเธอไม่เพียงต้องการให้เขานอนที่บ้านเฉพาะช่วงที่ธีรดามาหา แต่ต้องการให้เขากลับมาอยู่บ้านอย่างถาวรต่างหาก

    “สักพักหรือคะ”

    “อืม จนกว่าทับทิมจะกลับ แต่จะไม่กวนใจแซน”

    “คะ ?”

    “ไว้เปรี้ยวหวานหลับ พี่จะย้ายไปนอนในห้องเล็กที่แซนเตรียมไว้ให้ทับทิมหรือไม่ก็นอนในห้องทำงาน”

    “โซฟาห้องทำงานถึงตัวใหญ่แต่นอนนานๆ ก็ปวดหลัง ถ้าพี่ธรณ์จะนอนในห้องแซนก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยนี่คะ เปรี้ยวหวานคงอยากให้พ่อนอนด้วย เวลาตื่นมากลางดึกไม่เจอพี่ธรณ์ลูกยังงัวเงียถาม” เธอยกลูกขึ้นมาอ้างบ้าง

    “เปรี้ยวหวานตื่นกลางดึกด้วยหรือ”

    “ค่ะ เป็นบางคืน แต่ไม่บ่อย” ลูกคล้ายละเมอตื่นเสียมากกว่า เธอไม่เคยตอบลูกว่าพ่ออยู่ไหน แต่พอกอดและลูบหลังสักพักเปรี้ยวหวานก็หลับปุ๋ยในอ้อมกอดไปเอง

    “กินข้าวเถอะ คืนนี้ค่อยว่ากัน”

    สามีตัดบทชนิดที่ไม่เว้นช่วงให้เธอเสนอความคิดเห็นใดๆ ต่อ กระนั้นทรายรุ้งก็ยังพอภูมิใจในตัวเองอยู่บ้างที่กล้าพูดประโยคยาวๆ กับเขาบ้างแล้ว อยากให้ถึง คืนนี้ เสียเดี๋ยวนี้ ต่อให้ธรณ์จะเลือกนอนในห้องเดียวกัน ห้องนอนเล็ก หรือห้องทำงาน แต่อย่างน้อยเธอก็อุ่นใจที่เขาไม่ขับรถกลับโรงพยาบาลสัตว์ในช่วงเวลากลางคืน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×