workurl1test
ดู Blog ทั้งหมด

ทำอย่างไรให้ลูกน้อยสดชื่นได้ในยามเช้า

เขียนโดย workurl1test


ทำอย่างไรให้ลูกน้อยสดชื่นได้ในยามเช้า

แค่หัวข้อก็รู้สึกยากแล้วใช่ไหม คุณแม่บ้านอย่าเพิ่งท้อแท้มาช่วยกันอ่านบทความน้อย ๆ นี้  สำหรับคุณแม่บ้านทั้งหลายที่จะต้องประสบปัญหากับเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเด็กเล็กอนุบาล หรือเด็กเล็กประถม

ในบ้านทุกบ้านจะต้องมีเด็กเล็กที่จะต้องรบเร้าทุกวัน แล้วแม่บ้านอย่างเรา จะทำอย่างไรดีได้แต่บ่นว่าได้ทุกเช้าทุกวัน ไม่ใช่คุณแม่บ้านเบื่ออย่างเดียว คุณลูกก็เซ็งคุณแม่เช่นกัน โดยเฉพาะตอนเช้าตื่นนอนต้องไปโรงเรียนจะทำอย่างไรดีให้ลูกมีความร่าเริงแจ่มใส สมองปลอดโปร่ง ยินดีกับการไปโรงเรียนได้อย่างดีอกดีใจ

ทุกเช้าทุกเย็น วันละ 2 รอบที่จะต้องแก้ปัญหาทุกครั้ง ทำให้คุณแม่บ้านอย่างพวกเรารู้สึกเหนื่อยและเบื่อหน่าย กลายเป็นคนขี้บ่นจะต้องเถียงกับลูกทุกเช้าเย็น จนลูกรำคาญไม่อยากจะคุยด้วย แล้วเราจะทำอย่างไรดีก็ได้แค่คิด ๆ รอเวลาให้ลูกเปลี่ยนแปลงตัวเอง ดังนั้นลองมาอ่านวิธีนี้ดูแล้วนำไปปฎิบัติกัน เพื่อแบ่งเบาภาระความเบื่อหน่ายออกไปไม่มากก็น้อยดีไหม

คุณแม่บ้านเคยพบลักษณะอย่างนี้บ้างไหม

-ไม่ยอมตื่นเช้าไปโรงเรียน ไม่ยอมอาบน้ำ ไม่ยอมแต่งตัว ไม่ยอมทานข้าว ร้องไห้ งอแง ปวดหัวปวดท้อง สารพัดจะอ้างสุดท้ายคุณแม่บ้านต้องยอมแพ้กับปัญหาเหล่านี้ คุณแม่เริ่มปฎิบัติตามนี้ได้เลย และต้องปฎิบัติตามธรรมชาติอย่าให้ลูกรู้ได้ว่า เรากำลังเปลี่ยนแปลงตัวเขา ถ้าลูกรู้เมื่อไหร่คุณแม่บ้านเจอต่อต้านอย่างแน่นอน

ตอนเช้าเริ่มไม่มีการปลุกแล้ว แต่เปลี่ยนเป็นเปิดวิทยุใกล้หูเป็นเพลงที่ลูกชอบ แรกๆก็ค่อย ๆ  พอประมาณเปิดดังอีกนิด แล้วก็สังเกตลูกดูว่า มีปฎิกิริยาตอบมาอย่างไร จากนั้นก็จะลุกขึ้นมาอย่างง่ายดาย  แล้วก็เข้าห้องน้ำ  ถ้าเด็กเล็กก็เข้าไปช่วย หากเป็นเด็กโตก็คอย จับเวลาประมาณ 20 นาที คอยทักคอยเรียกว่า ถึงไหนแล้ว    ออกไข่เรียบร้อยหรือยัง นั่งหลับบนโถหรือเปล่า ตัวเปียกไหมเนี่ย   อาบแห้งหรือเปล่า   ให้คุยอย่างนี้ทุกเช้า เพื่อให้รู้สึกตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

เมื่อเรียบร้อยแล้ว ก็ช่วยลูกแต่งตัว ชวนคุยว่า เย็นนี้อยากกินอะไรบ้าง   กลับมาแล้วรีบทำการบ้านนะ จะได้เล่นเกมหรือดูทีวีได้ถึง 3 ทุ่มครึ่ง

เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ทานข้าว เตรียมขนมพร้อมจะไปโรงเรียนแล้วส่งลูกขึ้นรถ จุ๊บลูกที ลูกจุ๊บแม่ที ขอให้ลูกโชคดีนะคะ นี่คือคำอวยพรของคุณแม่

ตอนเย็น  คุณแม่บ้านก็ต้องเตรียมอาหารสำหรับมื้อเย็นที่คุยในตอนเช้า สำหรับลูกที่ไม่ค่อยยอมกินผัก ก็ต้องหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เนื้อหมูก็เล็ก ๆ แล้วก็ปรุงรอไว้ เมื่อลูกน้อยกลับมาให้พักก่อน อยากทำอะไรก็ได้ครึ่งชั่วโมง  มีการบ้านก็เอาออกมาทำกัน ไม่มีก็ไปอาบน้ำ แล้วทานข้าวร่วมกัน พูดคุยหลอกล่อให้ทานได้เยอะ ๆ วันนี้โรงเรียนมีอะไรบ้าง “ “ คุณครูสอนอะไร” “ เพื่อนเป็นไงบ้าง   ซนหรือเปล่า   เข้าใจคุณครูสอนไหม   บางครั้งเด็กก็จะต่อต้าน ผักนี่กินไม่เป็น  ปลานี่กินไม่เป็นไม่เอา   คุณแม่บ้านก็ต้องอธิบายยกตัวอย่างว่า ดูป๊อบอายซิ กินผักขมทีไรแข็งแรง พลังมาทุกที อยากแข็งแรงเหมือน  ป๊อบอายไหม ปลาก็ต้องกินเพราะจะทำให้กระดูกแข็งแรง เดี๋ยวจะแกะแต่เนื้อไม่มีกระดูกจิ้มซีอิ๊วให้อร่อยเหาะเลย บางครั้งคุณแม่บ้านกับลูกก็ป้อนกันกินคนละคำหรือใครกินหมดก่อนชนะ

คุณแม่ต้องใช้จิตวิทยาเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ลูกทานข้าวเย็นได้มากขึ้น คุณแม่บ้านก็ต้องคอยสอนลูกทุก ๆ วันว่า ไม่มีใครกินทุกอย่างเป็น แต่เราก็ต้องฝึกกิน หากอร่อยก็กินมากหน่อย ถ้าไม่อร่อยก็กินครั้งเดียว ไม่อย่างนั้นลูกก็ไม่สามารถไปกินข้าวร่วมกับคนอื่นได้ บางครั้งต้องนำพระราชดำรัสของในหลวงติดไว้ที่กำแพง ข้อไหนที่ทำผิดให้ไปอ่านอย่างเช่น ข้าวกินไม่เกลี้ยงไม่หมดก็ให้ไปยืนอ่านพระราชดำรัสข้อไหนเขียนอย่างไรได้ผลนะคะ

คุณแม่บ้านจะต้องพยายามพูดอธิบายทุกวัน ก็จะเริ่มเข้าใจและปฎิบัติตาม  ขอให้คุณแม่บ้านต้องเปิดใจและใจเย็น ๆ กับลูก ความสำเร็จรอเราอยู่ข้างหน้า โดยที่เราไม่ต้องไปรบเร้าให้ลูกกินลูกทำอีกต่อไป แล้วคุณแม่บ้านก็จะแฮปปี้มีความสุขทุกเช้าทุกเย็น ลองดูนะคะ

 
 

คอนโดแมว , พัดลมมือถือ , หมอนผ้าห่ม , หมอนหัวทุย  , เก้าอี้หัดนั่ง


 

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น