ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Finale I : Beginning of The Great Adventure

    ลำดับตอนที่ #15 : โรงเรียนมหาเวทย์เรฟิลด์(2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 40
      0
      12 ก.พ. 49


    เกรนเดียรี่ทำสีหน้าเคร่งเครียด เหงื่อเธอไหลออกมา ราวกับอยู่ในห้องซาวน้า เกรนเดียรี่กัดฟันของเธอ ราวกับกำลังเจ็บปวด


    เอ่อ...เป็นอะไรหรือปล่าวครับ?”

    ไม่...ฉะ...ฉันไม่เป็นไรเกรนเดียรี่พยายามพูดออกมา เธอดูมีสมาธิอย่างมาก ตาเธอหลับตลอด คิ้วของเธอขมวด เทรนกับลอร่าเริ่มแสดงความเป็นห่วง

    โอ้ย...เธอร้องโอดครวญออกมาดังลั่น ทำเอาเทรนกับลอร่าสะดุ้งเฮือก  มืออีกข้างของเธอจับข้อมืออีกข้างของเธอเอาไว้ ราวกับมือของเธอจะหลุดพ้นไปที่ไหนสักแห่ง  

    เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะลอร่าพยุงตัวเธอเอาไว้ หน้าของเกรนเดียรี่ถอดสี เธอดูอ่อนเพลียอย่างมาก

    เธอพยายามพยุงตัวของเธอขึ้นไปนั่งบนเบาะรองนั่ง เธอหายใจถี่เหมือนกับไปวิ่งร้อยเมตรมาหมาดๆ เทรนกับลอร่าพยายามถามเรื่องที่เกิดขึ้นของเธอซ้ำแล้วซ้ำอีก และเธอก็ไม่ตอบกลับพวกเขาเลย จนกระทั่งการหายใจของเธอกลับมาเป็นอย่างปกติ เธอถอนหายใจออกมาอย่างหนัก พอรู้ว่าเธอเป็นปกติแล้ว เทรนก็ถามคำถาม 2 คำถามกับเธอ

    พลังเวทย์ของผมเป็นอย่างไรบ้างครับ?”เขาถามแล้วเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นครับ?”

    ไม่มีอะไรหรอก...ไม่มีอะไรเกรนเดียรี่ตอบปัดคำถามที่เทรนถามทิ้งซะ เธอพยายามทำสีหน้ายิ้มแย้มทั้งที่เทรนกับลอร่ารู้อยู่แก่ใจว่า เธอฝืน แต่เพื่อที่จะไม่ให้เขาทั้ง 2 เป็นห่วง เธอก็ต้องทนทำ

    รถไม้เคลื่อนตัวดิ่งลงเล็กน้อย เป็นสัญญาณของการลงจอดอย่างนิ่มนวล เมฆที่ผ่านกระจกทั้งซ้ายและขวาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เทรนมองลงไปข้างล่าง ว้าว สิ่งก่อสร้างมหึมานั้นถูกตั้งอยู่ในหุบเขา ทางตอนใต้ของเกาะใหญ่นี้  จะรียกอย่างไรดีระหว่างคฤหาสที่ยิ่งใหญ่พอกลับพระราชวังหรือ เพนตากอนของโลก (แต่เล็กกว่า) อาจจะถูกเรียกว่า ปราสาท

    ที่นี่แหละเกรนเดียรี่พูดโรงเรียนมหาเวทเรฟิลด์

    เทรนกับลอร่าอึ้งไปตามๆกัน รถไม้ร่อนลงวนรอบหอคอยที่สูงตระหง่านอยู่กลางสิ่งก่อสร้างอันวิจิตร หอคอยที่สูงเสียดฟ้า บนยอดหอคอยมีกลุ่มพลังก้อนใหญ่สีฟ้าสว่างเปล่งประกายเสริมสร้างให้ที่นี่เป็นโลกเวทมนต์อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นไปได้ว่า(ก็อาจะแน่นอน) ถ้าหากอยู่บนนั้นสามารถเห็นทิวทัศน์รอบนอกของเกาะได้ทั้งหมด รอบหอคอยนั้นมีปราสาทที่มีความสูงและความกว้างไม่เท่ากัน พวกเขาร่อนลงมาเรื่อยๆ ผ่านทางเชื่อมระหว่างหอคอยกับปราสาท นักเรียนบางคนกำลังเดินอยู่ตามสนามหญ้าขนาดใหญ่ อีกหลายกลุ่มกำลังอวดเวทมนต์คาถาใหม่ของพวกเขา เทรนแทบไม่เชื่อเลยว่านี้คือโรงเรียน’  

    เทรนกับลอร่าจ้องมองไปทางนู่นทางนี่ พยายามเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เกรนเดียรี่นั่งอย่างเงียบขรึม เธอมองไปที่เทรนผ่านแว่นตาที่ขุ่นมัวแล้วของเธอ ในความคิดที่สงสัยในตัวเทรน หรือว่าเธอจะไม่รู้เรื่องพลังของดวงตาแห่งเทพ และเรื่องที่เทรนกับลอร่าเป็นมนุษย์ ไม่น่าจะใช่ในเมื่อลอร่าก็เป็นเหมือนเทรน และเธอเองก็รู้เรื่องนี่มาจากแบริสและเลอานอสแล้ว เธอพยายามครุ่นคิดถึงเหตุการณเมื่อครู่นี่...พลังที่ทำร้ายเธอ

        แต่อย่างว่า ยิ่งคิดอย่างปวดหัว เธอขยับแว่นของเธอ ก่อนที่จะหันไปให้ความสนใจกับการลงจอด รถไม้ลงจอดอย่างสวยงามก่อนที่ ลูกเหล็กสีเงินจะหายไปในบัดดล เทรนรีบกระโจนออกมาดูให้แน่ชัดว่ามันคืออะไร เขาก็สายไปซะแล้ว ลอร่าเงยหน้ามองรอบด้านของเธอ ปราสาทขนาดใหญ่ และหอคอยตรงกลางที่สูงเสียดฟ้า เธอกะไว้ว่ามันน่าจะสูงกว่าที่ที่เอกับเทรนไปพบเลอานอส จากมุมนี้จะเห็นลูกพลังสีน้ำเงินได้เพียงน้อยนิด เธอจึงเลิกให้ความสนใจจากตรงนั้น แล้วหันไปสนใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี่
        
        “สวัสดีครับ อาจารย์เกรนเดียรี่!!!

        “สวัสดีค่ะ อาจารย์

        “หวัดดีครับ อาจารย์เกรนเดียรี่

        เสียงทักทายจากนักเรียนสู่เกรนเดียรี่ ดังขึ้นเป็นระยะ เด็กนักเรียนคนหนึ่งวิ่งผ่านเออย่างกระหืดหระหอบ แต่ก็ไม่วายที่จะทักทาย เธอตอบรับด้วยรอยยิ้ม นั้นแสดงว่าเธอเป็นที่รักใคร่ของทุกคนที่นี่ ก็อย่างว่า เธอจึงยิ้มได้ตลอดไงละ

        “อาจารย์เกรนเดียรี่ครับ...สวัสดีครับเด็กชายตัวอ้วนใหญ่ทักทายเธอ ทั้งที่ในมือของเขายังมีขนมถุงใหญ่คอยเป็นเสบียงตลอดเวลารายงานวิชาภาษาโบราณของผมวางไว้ที่โต๊ะของอาจารย์แล้วน่ะครับ

        “งั้นหรอ อืม...เอ้อ...บาทาธ เธอช่วยพา 2 คนนี้ไปที่ห้องประชุมโรงเรียนหน่อยสิ

        เด็กหนุ่มมองไปที่ข้างหลังของเกรนเดียรี่ซึ่งก็คือเทรนและลอร่า เด็กชายทำหน้าอ้อทันที ก่อนที่จะหันไปคุยกับเกรนเดียรี่ ซักพักเธอก็หันมาคุยกับเทรนและลอร่า

        “นี้คือ บาทาธ การาตู เพื่อนร่วมชั้นปีของเธอน่ะ เทรน บาทาธ...นี่ เทรน โลวาเนส และ ลอร่า เรนิส รุ่นพี่ของเธอปีหนึ่งเกรนเดียรี่แนะนำพวกเขาทั้ง 3 ซึ่งกันและกัน ไปได้แล้วล่ะ บาทาธ...ฉันมีธุระด่วน

        “ครับ...อาจารย์บาทาธกล่าวเคารพอาจารย์ของเขาก่อนที่จะเดินนำไปที่ประตูก่อน เกรนเดียรี่เดินเข้ามาใกล้พวกเทรนเอามือแตะบ่าพวกเขาทั้งสอง

        “ขอให้สนุกกับการเรียนปีนี้น่ะ

        เทรนกับลอร่าเดินตามทางเดินที่คล้ายโดมขนาดยักษ์ในแนวยาว โดยมีบาทาธที่เคี้ยวขนมงุบงับๆตลอดเวลา ทางเดินถูกแต่งให้ดูหรูหรา พรมสีแดงที่ปูไปทั่วทุกพื้นที่ เพดานที่สูงมากกว่าตึก 7 ชั้น มองไปด้านขวาซึ่งเป็นวิวของทัศนียภาพภายนอก ซึ่งสามารถมองได้ผ่านกระจกสีใสทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง ระหว่างกระจกกับกระจกอีกบานนั้นมีรูปปั้นต่าง ทั้งรูปปั้นนักเวทย์และนักรบ ซึ่งดูเก่าแก่และคร่ำครึ ได้แก่

    รูปปั้นนักเวทย์ชายของลีเวน เอเจนเซนดอร์ เรฟิลด์ ผู้อำนวยการคนแรกของเรฟิลด์ซึ่งถูกจัดตั้งเมื่อ 2999 ปีก่อน(ไม่น่าเชื่อว่าโรงเรียนนี้จะอายุเก่าแก่ขนาดนั้น) เขาเป็นนักเวทผู้คิดค้นศาสตร์แห่งมนตราการทำลายอยู่มากมาย ทั้งที่ใช้อยู่ในปัจจุบันและต้องห้ามซึ่งเป็นเวทย์ที่อันตรายร้ายแรง เขาได้สร้างโรงเรียนนี้ตอนเขาอายุ 57 ปี อยู่ในระหว่างยุคสงครามเวทย์ครั้งที่ 3 หลังจากจบสงครามเขาจึงตั้งใจว่าจะสร้างโรงเรียนเวทมนต์ขึ้นมาเพื่อที่จะเสริมสร้างบุคลากรที่ดีให้ไม่ใช้เวทย์ในทางที่ผิด  ทำให้เป็นโรงเรียนอันดับต้นๆของเหล่าโรงเรียนเวทมนต์ที่เก่าแก่ต่างๆในดาวซีเอ็มบริก กว่าร้อยละ 87 ที่ความเชื่อใจจากผู้ปกครองที่ส่งลูกหลานของตนได้มาศึกษาในโรงเรียนแห่งนี้ ถัดไปคือ รูปปั้นนักรบชายของโวก้า เอเจนเซนดอร์ เรฟิลด์ ลูกชายที่ของลีเวน เรฟิลด์ หลังจากที่พ่อของเขาได้ตายลงจากเวทย์คำสาปต้องห้ามที่ยังหาทางแก้ไม่ได้ เขาก็ได้ทำตามที่พ่อเขาสั่งเสียก่อนตายคือ ช่วยรับช่วงต่อจากพ่อของเขาคือดูแลโรงเรียนเรฟิลด์อันเลื่องชื่อแห่งนี้  แต่ใช่ว่าเขาจะเจริญรอบตามพ่อไปซะทั้งหมด มีอย่างเดียวที่เขาไม่เหมือนพ่อคือ เขาเป็นนักรบ และก็ได้คิดค้นกระบวนของอาวุธต่าง ทำให้เขาเป็นผู้ที่ใช้อาวุธทุกชนิดอย่างเชี่ยวชาญ ถัดไปคือ รูปปั้นนักรบชายของ วาราส เซเลซูกาเรย์ จากการที่เป็นลูกศิษย์คนโปรดของโวก้า เรฟิลด์  ทำให้เขาได้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จะได้เป็นผู้อำนวยการที่มีเปอเซนต์การได้สูงมาก ทั้งความสามารถที่ไม่เป็นรองใคร ทำให้เขาได้เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเวทมนต์เรฟิลด์ และนักรบแห่งยุค ถัดมาที่รูปปั้นที่ 48 คือ รูปปั้นนักเวทย์ของ มีซิสต้า เรก้า นักเวทย์สาวผู้ปราชญ์ทุกเรื่อง ทั้งความสวย ความงาม และความสามารถของการร่ายเวทย์ที่ไม่เป็นรองใครทำให้เธอถูกรับเลือกให้เป็นผู้อำนวยการหญิงคนแรกตั้งแต่โรงเรียนเรฟิลด์ได้ถูกจัดตั้งมา ด้วยวัยเพียง 24 ปีเท่านั้น ถัดไปที่รูปปั้นนักเวทย์ชายองค์ที่ 56 วูซี่ มีเซลลี่ลัส ผู้อำนวยการที่มีอายุน้อยที่สุด เขาได้เข้ามารับตำแหน่งด้วยวัยเพียง  20 ปีเท่านั้น แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดสงครามขึ้น ทำให้เขาต้องเข้าร่วมสงครามนั้น และเสียชีวิตกลางสมรภูมิ ด้วยความดีของเขาที่หลงเหลืออยู่ ทำให้เขาได้ฟื้นคืนชีพอีกครั้งอย่างปาฏิหาริย์และไร้สาเหตุ ทำให้เรื่องนี้กระฉ่อนไปทั่วดาวต่างๆ โดยตั้งฉายาเขาไว้ว่า วู ผู้กำเนิดจากปาฏิหาริย์’  หลังจากนั้นเขาก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น วินเซน กรินจากคำเชื่อถือจากเทพยากรณ์ ว่าชื่อนี้คือสิ่งที่ทำให้เขาได้มีชีวิตขึ้นมาใหม่อีกครั้ง จนกระทั้งทุกวันนี้ เขามีอายุ 86 ปี และยังคงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการของโรงเรียนมหาเวทย์เรฟิลด์อยู่ต่อไป

                   นักเรียนเดินกันให้ขวักไขว่ แต่ก็ยังไม่มากเท่าในเมืองอีเนวีล เมืองอาศัยอยู่ของเทรนและลอร่า

    งั้มๆ...เออนี่...พวกนายเป็นนักเรียนใหม่หรอบาทาธพูดขึ้นก่อนจะหยิบขนมชิ้นโตขึ้นมากิน

    ชะ...ใช่มีอะไรหรอลอราพูดติดๆขัดๆ

                    ปล่าว...งั้มๆ...ฉันแค่ถามบาทาธพูดทั้งที่ขนมยังเต็มปาก แต่รู้สึกเขาจะเคี้ยวมันและกลืนลงไปอย่างรวดเร็วมาก แต่ก็ไม่ปล่อยให้เวลาเสียปล่าว เขาหยิบขนมอีกขั้นขึ้นมารอจ่อปากไว้แล้ว พอดีไม่เคยหน้าน่ะงั้มๆและเขาก็หยิบขนมนั้นเข้าปากทั้งชิ้น เขาเคี้ยวและกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว

                    อร่อยดีเนอะ...อยากกินไหมบาทาธถามเธออาจจะชอบก็ได้น่ะ

                   ไม่อ่ะ...ไม่เป็นไรหรอกลอร่าตอบ มันอาจจะเป็นอาหารที่มนุษย์กินไม่ได้ก็ได้ บาทาธพยักหน้าอ้อหรอ

                  แล้วนายละ...ไม่ลองหน่อยหรือ...กินแล้วจะติดใจ

                  อืม..ไม่ลองไม่รู้...เทรนตอบ ก่อนที่จะหยิบขนมก้อนโตของบาทาธออกมาจากถุง สีเขียวของมันดูหน้าแปลกประหลาดและผิวของมันใช่ว่าจะเรียบ ตะปุ่มตะปั่มคล้ายผิวของตุ๊กแก ทำให้ดูเอียนไปใหญ่ แต่เทรนก็ไม่รอช้า เขายัดขนมนั้นเข้าไปในปากเต็มๆคำ ก่อนที่จะเคี้ยวและกลืนลงไปในลำคอ เขาหันหน้ามองลอร่าและบาทาธซึ่งกำลังอยากรู้ความรู้สึกของเขา ผลออกมาว่า...


                   พระเจ้า....ขนมอะไรเนี่ยและเขาก็หยิบออกมาอีกชิ้นหนึ่งอร่อยเป็นบ้าเลยและเขาก็กินมันอย่างเอร็ดอร่อย

                    บอกแล้วว่ากินแล้วจะติดใจบาทาธพูด ก่อนที่จะหยิบขนมอีกชิ้นขึ้นมากิน

                    ว่าแต่มันคืออะไรกันเทรนถามฉันไม่เคยกินขนมอะไรที่อร่อยเท่านี้มาก่อน

                    มันชื่อว่า คิมิโย’ ”

                    คิมิโย?”ลอร่าพูดทวน

                    ใช่แล้ว เป็นขนมที่สกัดจากใบพืชต่าง ทำให้มันบวกสรรพคุณของสมุนไพรไปด้วย และความอร่อยก็ไม่แพ้ขนมปรุงแต่งรสเลยล่ะ

                    อย่างงั้นหรอ…”เทรนเคี้ยวแก้มตุ่ย กี่ทีๆ ก็อร่อยจริงๆ อย่าให้said…อ้าว...พี่ลอร่า...พี่ก็ลองมั่งสิ

                   พี่ว่าพี่ไม่...แต่ขนมคิมิโยก็อยู่ในมือของลอร่าเสียแล้ว บาทาธเดินคุยนู้นคุยนี่กับบาทาธอย่างสนิทสนม ทิ้งลอร่าให้อยู่ในความฉงน เธอจะแน่ใจหรือปล่าวว่ากินแล้วจะไม่เป็นไร แต่เมื่อกี้เทรนก็กินแล้วนี่ ไม่ๆ...หมอนั้นมันบ้าอยู่แล้วนี่น่า แต่ก็เอาเถอะ กินซะก็ไม่เป็นไร และเธอก็บรรจงกินอย่างช้าๆ

                   แล้วเธอก็แสดงสีหน้าที่แปลกประหลาดออกมา เหอะๆ ของอย่างนี่อร่อยจริงหรือ หรือว่าตัวเธอเองจะไม่ชอบ เธอฝืนกลืนลงไปอย่างไม่รู้รส ทั้งทีมันไม่แสดงรสชาติใดๆกับเธอเลย จืดมากๆ จืดจริงๆ แล้วมันจะอร่อยได้ไงกัน...    

                  บาทาธเดินนำถึงประตูไม้ที่เปิดอ้าอยู่ ป้ายข้างบนบอกถึงชื่อของห้องนี่ว่า ห้องประชุมเข้าสู่โดมวงกลมกว้างขนาดใหญ่ที่มีเก้าอี้วางอยู่นับพัน ผืนที่ปูพรมสีแดงไว้อย่างหรูหรา ใจกลางห้องมีแท่นของผู้อำนวยการอยู่ ดูแล้วคล้ายที่ประชุมสภาแต่มันไม่ใช่ เก้าอี้ถูกวางไว้เป็นวงกลม แนวลาดชันลงไป นักเรียนหลายคนเริ่มเข้าจับจองที่นั่งเพื่อเข้าการประชุม บ้างก็ให้เพื่อนจองไว้ บ้างก็มากันเป็นกลุ่มใหญ่  เทรนมองไปรอบๆ และสิ่งที่เรียกความสนใจมากที่ลูกบอลพลังสีเงิน-ฟ้าสว่าง ที่ลอยอยู่กลางห้อง มันเหมือนกำลังจะแตกตัว แต่ทันใดนั้นก็รวมตัวกันใหม่ เป็นในลักษณะอย่างนี้หลายๆครั้ง

                 “เดี๋ยวอีกซักพักงานก็จะเริ่มแล้ว ตามที่อาจารย์เกรนเดียรี่บอกไว้ พวกเธอน่าจะอยู่ห้อง...

                  บาทาธหยุดพูด หันไปมอง เทรนกับลอร่า ที่ทำหน้าดูเหมือนจะถามว่าอะไรล่ะ

                 พวกนายไม่รู้เลยเหรอว่าพวกเธออยู่ห้องอะไรกันบาทาธถามด้วยความฉงน

                 “ไม่รู้...ลอร่าตอบร้แต่ว่าอยู่ปี 1 ม.ปลายก็เท่านั้น

                 “ส่วนฉันก็รู้แค่อยู่ปี 3 ม.ต้น

                 “พวกนายไม่รู้เลยหรือนี่...ไม่ไหวๆบาทาธถอนหายใจรุ่นพี่ลอร่าอยู่ห้อง 1 ของปี 3 ม.ปลาย และนายอยู่ห้อง 3 ของปี 3 ม.ต้น

                อย่างงั้นหรือ?”เทรนพูดพวกเรามีธุระอะไรกับที่นี่

                “ถามแปลกๆ ก็พิธีเปิดภาคเรียนในปีการศึกษาใหม่ไงบาทาธตอบไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งโง่อะ


              ต่อ โรงเรียนมหาเวทย์เรฟิลด์(3)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×