wullopp
ดู Blog ทั้งหมด

วิธีทำเท่อย่างมีท่า+คนดีๆสนใจ

เขียนโดย wullopp
 

...

 [ OLoWL ]

ภาพที่ 1: ภาพท่านอาจารย์เจนิซ เทย์เลอร์ในบล็อก ซึ่งเป็นคลิกที่ลิ้งค์ไปยังเว็บไซต์ลดความอ้วนของท่าน > Thank [ beliefnet ]

...

 [ ourladyofweightloss ]

ภาพที่ 2: ไอเดียในการนำเสนอง่ายๆ ซึ่งสมัยนี้สามารถ upload วิดีโอขึ้น Youtube แล้วทำเว็บไซต์ง่ายๆ แบบประหยัดได้ > Thank [ beliefnet ]

...

 [ ourladyofweightloss ]

ภาพที่ 3:> ไอเดียในการโฆษณาประชาสัมพันธ์แบบนี้ดูดีกว่าพวกชอบปะโฆษณาในบล็อกคนอื่นมากมาย > Thank [ beliefnet ]

.................................................

อาจารย์เจนิซ เทเลอร์ บล็อกเกอร์ที่ใช้บล็อกนำเข้าสู่เว็บไซต์ทางด้านลดความอ้วนมีคำแนะนำ "10 วิธีทำเท่อย่างมีท่า" หรือวิธีทำให้เป็นที่สนใจของคนรอบข้างอย่างดูดี

ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังแบบ "ไทย(หลาย)คำ อังกฤษ(น้อย)คำ" เพื่อจะได้เรียนภาษาอังกฤษไปพร้อมๆ กันครับ

...

(1). Stop doing what is bad for you! = อย่าทำอะไรที่ไม่ดีกับชีวิตคุณ

  • ให้ลองเขียนรายการ "อะไรที่ไม่ดีกับชีวิตเรา" อย่างน้อย 10 อย่าง เช่น นอนดึกเกิน, กินมากเกิน, คบคนใจร้าย ฯลฯ
  • เขียนแล้วก็ฉีกทิ้ง เหยียบซ้ำ 2-3 ที และพยายามเลิกอะไรที่ไม่ดี

...

(2). Stop doing what you others think you 'should' do! = หยุดทำอะไรที่ "คุณคนอื่น (= คนอื่น)" คิดว่า คุณควรทำ!

  • การเคารพความเห็น และรับฟังคนอื่นเป็นเรื่องที่ดี ทว่า... การทำอะไรให้ได้ดังใจคนอื่นเสมอไปไม่น่าจะดีกับชีวิต
  • คนเราควรเป็นคนดี และเป็นคนดีตามแบบฉบับของเรา หรือ 'Be good. Be you.' เราควรจะเคารพความเป็นตัวตนของเรา และเติบโตขึ้นตามแบบของเราเอง

...

  • เปรียบเหมือนเมล็ดข้าวที่ควรโตขึ้นเป็นข้าวพันธุ์ดี... เมล็ดข้าวที่พยายามจะโตขึ้นเป็นแตงโมพันธุ์ดีคงจะไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่

...

(3). Stop being so darn nice! = หยุดเป็น "คุณน่ารัก" ตลอดเวลาได้แล้ว

  • คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นคนน่ารัก (nice) หรือทำตัวเป็น 'mister yes' = "คุณครับ"; 'miss yes' = "คุณค่ะ" ตลอดเวลา
  • ควรหัดปฏิเสธหรือ 'say no' ให้เป็นเมื่อไม่ชอบหรือไม่เห็นด้วย เพราะคนที่พูดคำว่า "ไม่" ไม่เป็นมักจะป่วยบ่อย หรือไม่ก็อายุสั้นจากการถูกคนอื่นใช้งาน หรือบงการไปไม่รู้จบ

...

  • อะไรที่ไม่เห็นด้วย หรือไม่ชอบก็ควรปฏิเสธ และที่สำคัญคือ เวลาปฏิเสธ... ควรปฏิเสธอย่างสุภาพ ไม่จำเป็นต้องใส่อารมณ์ ข่มขู่ หรือตะคอกคนอื่น
  • พระอาจารย์สมบัติ นันทิโกตั้งข้อสังเกตไว้ว่า "คนที่มักมากมักจะเป็นคนกตัญญู" เพราะฉะนั้นอย่าคบคนขี้ขอ หรือเพื่อนที่มักมาก เพราะพวกนี้เอาแต่ได้เหมือนชะลอม (ตะกร้าสานใส่ของ) รั่ว ให้อะไรเท่าไรมันก็ไม่เต็ม ไม่อิ่ม ไม่พอ (เหมือนชะลอมรั่วน้ำ) และไม่รู้บุญคุณ

...

  • ถ้าไม่อยากเหนื่อยจนตายหรือเกือบตาย... อย่าคบคน 2 ประเภท คือ พวกจอมบงการ(มากสั่ง) และพวกมักมาก(มากขอ)
  • การมีเพื่อนดีๆ น้อยคนดีกว่าการมีเพื่อนเลวๆ นับล้านคน... ขอให้เราเป็นคนที่ดีพอ แล้วเราจะมีโอกาสพบคนดีมากขึ้น

...

(4). Stop moving so fast! = ใจเย็นๆ และทำอะไรให้ช้าลง

  • หายใจเข้าออกลึกๆ และลดงานที่ไม่จำเป็นลง... ให้เวลากับตัวเองไว้สัมผัสความงามรอบๆ ตัว และทำอะไรเป็นส่วนตัวบ้าง
  • กล่าวกันว่า ไม่ควรใช้ชีวิตแบบ "จมน้ำ (2 อย่าง) ทั้งเป็น" ได้แก่ ชีวิตจม "น้ำเงิน" หรือโลภมากหาเงินจนเป็นทาสน้ำเงิน และชีวิตจม "น้ำงาน" หรือเป็นทาสน้ำงาน

...

(5). Stop trying! = หยุดพยายาม แล้วอยู่กับปัจจุบัน

  • อาจารย์โยดาในหนังสตาร์วอร์กล่าวว่า 'Do or do not... there is no try.' = "จะทำหรือไม่ก็ตาม... ไม่ต้องพยายาม (ให้ทำแบบมีสติอยู่กับปัจจุบัน ไม่ต้องกดดัน รีบๆๆๆๆ กับตัวเอง)"
  • อะไรที่ทำไหวก็ทำ... ทำเต็มที่แล้วพอ ที่เหลือก็พักเสียบ้าง และไม่ว่าจะทำอะไรก็อย่าปล่อยใจให้ลอยเตลิดเถิดเทิง เรียกใจกลับมาอยู่กับปัจจุบันบ้าง

...

(6). Stop measuring your success by comparing yourself to others = หยุด "ชั่ง ตวง วัด" ความสำเร็จของคุณโดยการเปรียบเทียบกับคนอื่น

  • การเปรียบเทียบกับคนอื่นเป็นกับดัก (trap) เพราะมันใกล้ต่อการก่อความรู้สึกอิจฉาริษยา ความเจ็บปวดขมขื่น และความรู้สึกสูญเสียเมื่อเปรียบเทียบแล้วคนอื่นดีกว่า หรือเหนือกว่า
  • ความจริงของคนเรา คือ คนแต่ละคนมีต้นทุนมาไม่เท่ากัน และมีเส้นทางชีวิตไม่เหมือนกัน... มีคำกล่าวว่า 'My life, my way' = "ชีวิตของฉัน ฉันเดินไปตามทางของฉันเอง"

...

  • ทางที่ดีคือ ทำส่วนของเราให้ดีเต็มที่... แล้วพอใจอย่างที่เราเป็น, ปรับปรุงส่วนที่เราควบคุมได้ ไม่ต้องไปปรับปรุงอะไรที่เราควบคุมไม่ได้ นั่นคือ "แบกชีวิตเราพอ ไม่ต้องแบกโลก"
  • ทำส่วนของเราให้ดี แล้วไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใคร

...

(7). Stop trying to be someone else = หยุดพยายามเป็นอย่างที่คนอื่นเป็น

  • หยุดพยายามเป็นแบบคนอื่น เริ่มต้นเป็นอย่างที่เราเป็น และเป็นแบบที่เราเป็นอย่างพอดี... วิธีนี้จะช่วยเสริมพลังชีวิต
  • ออสการ์ วายด์ (Oscar Wilde) กล่าวว่า 'Be yourself; everyone else is already taken.' = "เป็นแบบที่คุณเป็น เพราะแบบคนอื่นมีคนเป็นกันหมดแล้ว"

...

  • อาจารย์เทย์เลอร์แนะนำว่า 'Embrace your uniqueness' = "สวมกอดความเป็นคุณ (เอกลักษณ์ของเรา) ไว้" แล้วเราจะน่าสนใจ ไม่โหลจนไม่มีใครสนใจ

...

(8). Stop reacting to life = หยุดเป็นฝ่ายรับ หรือหยุดเป็นฝ่ายตอบสนองต่อชีวิต

  • หายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ, มองหาอนาคตที่ฝันตามแบบของเรา, แล้วก้าวไปสู่ความสำเร็จแบบเรา

...

(9). Stop doing the same things the same way = หยุดทำอะไรแบบเดิมๆ

  • หยุดทำอะไรแบบเดิมๆ เช่น กินอาหารแบบเดิมๆ ทุกวัน ฯลฯ และลองทำอะไรให้ต่างออกไป เช่น เรียนรู้เรื่องใหม่-ภาษาใหม่, ทำอาหารแบบใหม่ๆ, หางานอดิเรกแบบใหม่ ฯลฯ
  • หลักการนี้มีความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของเราเช่นกัน คือ ถ้าเราไปที่เดิมตรงเวลาทุกวัน... โอกาสถูกปองร้าย เช่น จี้ปล้น วิ่งราว ฯลฯ จะมากขึ้น

...

  • ตรงกันข้ามถ้าเราหัดทำอะไรไม่เหมือนเดิมบ่อยๆ เช่น จะไปไหนก็ลองคิดดูว่า มีทาง 1 แล้วมีทาง 2 บ้างหรือไม่ จะได้สับเปลี่ยนกันบ้าง
  • ไม่ว่าจะทำอะไร... ขอให้มีทางเลือกให้มากกว่า 1 ทางเสมอ เช่น ถ้าจะเรียนต่อ... อยากจะเรียนอะไรนี่เป็นทางที่ 1, ต้องหาทางที่ 2,3,4,... เผื่อไว้เสมอ เช่น ถ้าสอบไม่ได้จะทำอะไรไปก่อนดี ฯลฯ

...

  • เรื่องการให้ทางเลือกนี้... ไม่ใช่ดีกับตัวเราเท่านั้น ทว่า... ดีกับคนรอบข้างด้วย เช่น ถ้าจะชวนเพื่อนๆ ไปดูหนัง (1 ทางเลือก) แบบนี้เพื่อนอาจจะปฏิเสธได้ง่าย แต่ถ้าให้เพื่อนๆ ช่วยกันมีส่วนร่วม (voice) แสดงความเห็น และเสนอทางเลือกกัน (choices) เช่น จะดูหนังเรื่องอะไรดี หรือจะทำอะไรสนุกๆ อย่างอื่นดี... โอกาสประสบความสำเร็จจะมากขึ้น

...

  • ยุคนี้เป็นยุคที่คนเราต้องการมีสิทธิ์มีเสียง (People need 'voices' and 'choices'.) เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะทำอะไรกับชีวิตเรา หรือชีวิตคนอื่น... ควรให้ทุกคนทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการแสดงความเห็น (voice), และมีส่วนร่วมในการกำหนดทางเลือก (choices) เสมอ จึงจะเป็นที่ยอมรับของคนหมู่มาก หรือมีภาวะผู้นำสูง

...

(10). Stop denying yourself = หยุดปฏิเสธ (เช่น เกลียด ฯลฯ) ตัวเอง

  • 'Be self-full, not self-empty.' = "เติมชีวิตให้เต็ม อย่าปล่อยให้ชีวิตแห้งแล้ง"
  • คนเราควรแสวงหาความสุขที่ได้มาโดยธรรม เช่น ความสุขที่ไม่ได้มาโดยการกดโกง กดขี่ เอาเปรียบคนอื่น ฯลฯ และทำตัวให้มีความสุขพอประมาณด้วย

...

  • 'Be good, be you & be your.' = "เป็นคนดี(พอประมาณ), เป็นอย่างที่คุณเป็น, และเป็นคนของคุณ (อย่าเป็นทาสชีวิตคนอื่น หรือปล่อยให้คนอื่นมาบงการชีวิตเรา)
  • และอย่าลืม 'Be you & unique'= "เป็นแบบคุณและเป็นตัวของตัวเอง(มีเอกลักษณ์) เพราะคนที่อยู่ไปวันๆ โดยไม่มีความเป็นตัวของตัวเองนับวันแต่ละเหมือนของโหล และไม่น่าสนใจ

...

คุณครูภาษาไทยของผู้เขียนสอนเคล็ดลับในการเขียนไว้ว่า "นักเขียนที่ขาดเอกลักษณ์ คือ นักเขียนที่ตาย(จากความเป็นนักเขียน)แล้ว"

ยุคนี้เป็นยุคที่คนทั่วโลกนิยมเขียนบล็อก ซึ่งผู้เขียนขอเรียนเสนอว่า รับฟังคำแนะนำคนอื่นได้ แต่อย่าเปลี่ยนสไตล์การเขียนไปตามคนอื่น เพราะจะทำให้ความเป็นนักเขียนค่อยๆ ตาย และสูญสลายไปในที่สุด

...

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

... 

 > Thank Beliefnet.com; [ ourladyofweightloss ] 

ที่มา                                                                      

  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง สงวนลิขสิทธิ์. ยินดีให้นำไปเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาได้. ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า >   > 11 มิถุนายน 2552.
  • ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น