xiaoyuan
ดู Blog ทั้งหมด

นี่หรือคือ...หนังสือนิยาย

เขียนโดย xiaoyuan
 

          จากนักอ่านจนกลายมาเป็นนักเขียน (ฝึกหัด)

          จากนิยายเรื่องแรกในชีวิต พาไปสู่เรื่องที่สอง ที่สาม ที่สี่

          เนื้อเรื่องอาจยังไม่ดี ความเข้มข้นมีน้อย ความกระชับ น่าติดตามอาจยังไม่พอ ก็ยังคงพยายามสานฝันต่อ พยายามเขียนให้มันได้มาตรฐานที่ควรจะเป็น เพื่อให้คุ้มค่าเงินของนักอ่านที่ซื้อไป ทุกวันนี้เลยยังคงมีหนังสือของตัวเองเพียงเล่มเดียว ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจหนึ่งในชีวิต แต่ในความภาคภูมิใจนั้นก็มีเรื่องให้เสียใจ

          ความเสียใจหลังจากอ่านงานของตัวเองที่เป็นเล่ม       คือการถูกอีดิตงานจากที่ถูกต้องอยู่แล้ว กลายเป็นผิด ความรู้สึกตอนนั้น....น้ำตาแทบไหล

          ผ่านไปเกือบปีแล้ว ยังคงเขียนงานต่อไปแม้จะยังไม่ผ่านการพิจารณาลงตีพิมพ์เป็นรูปเล่ม และยังคนเดินอยู่บนเส้นทางของนักอ่าน ที่หนังสือทุกเล่มที่ได้อ่าน หมายความว่าเราต้องซื้อมาทั้งนั้น

          ในแต่ละเดือนจะซื้อหนังสือโดยเฉลี่ย 10-20 เล่ม สำนักพิมพ์หลักๆ มีอยู่ 4-5 สำนักพิมพ์ ใช้เงินซื้อหนังสือต่อเดือนราวๆ 2,000-5,000 บาท

          มันไม่มากสำหรับคนมีเงินใช้แบบ “อันลิมิต” แต่มันก็ไม่น้อยสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ

        ความผิดหวังจากการอ่านนิยายมาหลายปี นอกจากเรื่อง “คำผิด” ก็ยังมีเรื่อง “เนื้อเรื่องไม่ถูกจริต” (ไม่ถูกจริต – ยืมคำน้องนักเขียนคนหนึ่งมาค่ะ) เจอหลายหนเหมือนกัน จากการที่อ่านโปรยหลังปกแล้วชอบมาก แต่พออ่านเนื้อในแล้วผิดหวังอย่างรุนแรง เนื้อเรื่องไปคนละทางกับคำโปรยเลย เขาถึงว่าโฆษณาชวนเชื่อมักได้ผลให้คนแห่ซื้อ แต่ไม่รับรองผลจากการใช้เท่าไร

          แต่ที่ร้ายสุดๆ เจอมาล่าสุด กับนักเขียนคนหนึ่ง (ที่แอบไปสืบมาแล้วว่าออกนิยายมาแล้วราวๆ 17 เล่ม) ซึ่งเราอ่านงานของเธอไปเพียงเล่มเดียว และมันจะเป็นเล่มสุดท้าย

          ขอพูดอย่างเต็มปากเต็มคำตามประสานักอ่านและนักเขียนฝึกหัดเลยว่า

        “โคตรเสียดายเงิน”

          ไม่อยากพูดออกมาเลยว่ามัน “ห่วย” เพราะอาจมีหลายคนชอบงานของเธอ เลยขอพูดว่า “มันไม่ผ่าน” ดีกว่า

          หนังสือเล่มนี้มีจำนวน 314 หน้า มันหนาพอสมควร แต่เนื้อในนั้นมีคู่พระเอก-นางเอกแล้ว ยังมีนางร้ายอีก 3 คน ซึ่งนางร้ายทั้ง 3 ในท้ายสุดก็มีคู่เป็นของตัวเอง สรุปมีทั้งหมด 4 คู่ ในหนึ่งเรื่อง (แล้วมันจะไม่หนาได้ไง)

            เนื้อเรื่องดำเนินโดยเน้นนางร้ายขับเคลื่อนให้นางเอกต้องทำ (นางเอกหัวอ่อนเหมือนละครสมัย 20-30 ปีก่อน)

          2 ข้อข้างบนนั้นยังไม่เท่าไร

          แต่ที่บอกว่ามันไม่ผ่าน เพราะคนเขียน ลำดับเหตุการณ์ยังไม่เป็นเลย (เขียนมาได้ยังไงตั้ง 10 กว่าเล่ม)

        ตัวอย่าง (ฉากนี้สมมติขึ้นด้วยขี้เกียจกลับไปเปิดย้อนดูในเล่ม เขียนขึ้นมาจากความทรงจำที่ได้อ่าน และที่เลือกฉากแบบนี้เพราะเล่มนี้มีแต่ฉากอย่างนี้ ทั้งหมดมี 4 คู่ มีฉากประเภทนี้มากกว่า 6 ตอน จาก 314 หน้านั้น)...

        ย่อหน้าแรก พระเอกจูบนางเอกที่หน้าประตูบ้าน

        ย่อหน้าถัดไป พระเอกผลักนางเอกลงบนที่นอนเพื่อ...

        ย่อหน้าที่สาม นางเอกถอดเสื้อพระเอกโยนไปที่โซฟา

        ย่อหน้าที่สี่ นางเอกเหนื่อยหอบ (เพราะอะไรน่าจะรู้นะ)

      ย่อหน้าที่ห้า นางเอกกรีดร้อง (ร้องทำไมคนอ่านก็ไม่รู้)

        และย่อหน้าสุดท้ายก่อนจบบท พระเอกกระซิบบอกนางเอกว่า ขอ...นะ


          ความรู้สึกในฐานะคนอ่าน ต่อจากย่อหน้าแรกมันควรเป็นย่อหน้าที่สาม (หรือเปล่า?) แล้วค่อยกลับมาที่ย่อหน้าที่สอง ต่อด้วยย่อหน้าสุดท้าย แล้วย้อนมาย่อหน้าที่ห้า และปิดลงด้วยย่อหน้าที่สี่... ไม่ใช่หรือ?????

          เราไม่อาจรู้ใจคนเขียนได้หรอกว่าเขาเห็นภาพอะไรในหัว แต่เราคนอ่านบอกได้เลยว่ามองไม่เห็นอะไรเลย เพราะภาพมันสะเปะสะปะ

          ฉากกอดพลอดรักธรรมดาก็เช่นกัน

          เธอบรรยายว่า พระเอกกอดนางเอกจากด้านหลัง จับคางนางเอกเพื่อจูบปาก... ตรงนี้ยังพอเข้าใจได้ แต่ประโยคต่อมากลับบอกว่า ‘...แล้วเอื้อมมือไปลูบหลังก่อนจะกดแผ่นหลังให้เธอเข้ามาแนบชิดตัวเขามากขึ้น มันหมายความว่านางเอกหันหน้าเข้าหาพระเอกอยู่ไม่ใช่หรือแบบนี้

          หรือเราเข้าใจอะไรผิดไป??

          อะไรเกิดก่อน-หลัง อะไรที่เป็น Flashback อะไรที่ควรอยู่ตรงไหน เหมือนที่ในกอง บก. เคยคุยกันว่า มีของสิ่งหนึ่งอยู่กับนางเอก แต่พอผ่านไปอีกหนึ่งย่อหน้า ของสิ่งนั้นหายไป

          หายไปไหน? หายไปได้ยังไง?

          เรารู้สึกว่านักเขียนบางคนมองคนอ่านโง่ ใช้คำว่า ช่างมันเถอะ ปล่อยมันเถอะ คนอ่านไม่สนใจหรอก

          แต่มันไม่ใช่กับเรา และอีกหลายๆ คนที่เรียนการเขียนนิยายกันมา

          จากหนังสือเล่มนี้มันทำให้เราไม่อยากหยิบงานที่นักเขียนมีประสบการณ์งานเขียนมาก มีนิยายเป็นของตัวเอง “มากเล่ม” หรือพวกขึ้นอันดับ “ขายดี” (เป็นเททิ้ง) เพราะนิยายเหล่านั้นหลายๆ เล่ม เน้นการขาย “เซ็กซ์”

          ไม่มีอะไรเป็นมาตรฐานได้เลยว่างานขายดีคือ งานเขียนที่ดี ควรค่าแก่การซื้อหามาครอบครอง



ปล.บทความนี้เขียนขึ้นด้วยอารมณ์ล้วนๆ หากใครเดือดร้อนไม่พอใจ ก็ช่วยไม่ได้
ปล. (อีกที) ถ้าเป็นไปได้ เราก็อยากเอาหนังสือเล่มนั้นไปโยนใส่หน้าคนเขียนแล้วบอกมันว่า "เอาเงินกูคืนมา!!!"

 


ความคิดเห็น

dal
dal 15 มี.ค. 57 / 20:47
เป็นอีกคนนึงค่ะที่ไม่แคร์เลยว่านักเขียนคนนั้นจะมีชื่อมากน้อยแค่ไหน เพราะเจอมาบ่อยเหมือนกันนักเขียนบางคนที่ "เผา" งานเอาการ

สนพ ก็มีส่วนนะ บาง สนพ เนี่ยเห็นก็รู้แล้วว่างานเขี่ยๆ เอาล่ะ แต่สนพ ใหญ่ระดับ พิมพ์คำ พลอยวรรณกรรม ก็ไม่ได้การันตีว่างานจะดี เพราะเห็นมาเยอะที่ข้างในกลวงเอาการ แต่ดูเหมือน บก แก้ไขให้หลายจุดจนพออ่านได้ แต่คุณค่าทางงานเขียนมีน้อยมากเพราะคนเขียนไม่ได้เต้มที่กับมัน
(ถ้าถามว่าทำไมรู้ว่าคนเขียนเต็มที่ไม่เต็มที่ ก็บอกได้ว่าเพราะเราเขียนนิยายเหมือนกันนะ ไม่ใช่จะดูไม่ออกว่าคนเขียนเค้าทุ่มแค่ไหน)

แต่ถ้าถามว่าจะซื้อนิยายของหน้าใหม่ ไม่ยึดติดกับ สนพ มั้ย เราทำค่ะ
เราเชื่อว่าน่าจะมีคนที่เขียนใช้ได้เสมอ และจะอุดหนุนคนเหล่านั้น เพียงแต่ก็ยอมรับว่าหาได้ยากสักหน่อยเท่านั้นเอง (ข้อดีคือเสียเงินซื้อนิยายน้อยลงนะทุกวันนี้)

ปล. ทางหนึ่งที่เราจะซื้อนิยายของนามปากกาที่ไม่รู้จักคือ อย่างน้อยขอให้ได้ลองอ่านสักห้าหกบทแรก แล้วก็รูปเล่มโดยรวมโอเคค่ะ