~+...เทพนิยาย...ประวัติศาสตร์...+~

ลำดับตอนที่ #43 : ลอร์ดเนลสัน ผู้ที่รักอังกฤษมากที่สุด

Lord Nelson

ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ประเทศในยุโรปหลายประเทศต่างตื่นตระหนกต่อพระราชอำนาจของจักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศส ที่เกือบจะได้ครอบครองทวีปยุโรปทั้งทวีป แต่ความฝันของนโปเลียนก็ถูกทำลายลงด้วยฝีมือของบุรุษผู้มีนามว่า ลอร์ดฮอเรเชีย เนลสัน แห่งกองทัพเรืออังกฤษ วีรบุรุษผู้กล้าหาญที่คนอังกฤษรักมากที่สุด

ฮอราติโอ เนลสัน (Horatio Nelson) เกิดเมื่อเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ.1758 ณ มณฑลนอร์ฟอล์ก ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ เป็นบุตรคนที่ 6 ในจำนวนบุตร 8 คนของสาธุคุณเอ็ดมันด์ เนลสัน บาทหลวงประจำตำบลและแคเธอรีนภรรยา ในวัยเยาว์เนลสันมีสุขภาพไม่ค่อยจะแข็งแรงนัก เขามีผิวขาวซีด และมีร่างกายที่เล็กกว่าเด็กในวัยเดียวกัน

เมื่อมีอายุเพียง 9 ปี ทั้งมารดาและยายของเขาก็สิ้นชีวิตลงในเวลาใกล้เคียงกัน ทิ้งลูกทั้ง 8 คนให้เป็นภาระของสาธุคุณเอ็ดมันด์ ซึ่งมีฐานะปานกลางไม่ร่ำรวยมากนัก

เนลสันตระหนักดีว่าเขาต้องขวนขวายช่วยตัวเองเพื่ออนาคตที่ดี ดังนั้นด้วยวัยเพียง 12 ปี เขาก็ได้สมัครเป็นลูกเรือในเรือซึ่งลุงของเขาเป็นกัปตัน เพื่อเรียนรู้การเดินเรือทะเลและเพื่อ สอบเข้าเป็นทหารเรือในอนาคต เขาจึงเป็นกะลาสีที่มีอายุน้อยที่สุดคนหนึ่ง เมื่อมีอายุได้ 14 ปี เขาก็ได้รับเลือกให้เป็นลูกเรือของเรือที่จะเดินทางไปสำรวจขั้วโลกเหนือ และได้เป็นผู้บังคับการเรือลำแรกเมื่อมีอายุเพียง 21 ปี โดยได้รับความเคารพรักจากผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นอย่างดี เพราะเขาเป็นคนที่เห็นใจคนที่ด้อยกว่ามาตั้งแต่เด็ก

อาชีพเดินเรือของเขาต้องเสี่ยงชีวิตอย่างมาก ในปี ค.ศ.1780 เขาป่วยเป็นไข้เหลืองระหว่างที่รบกับสเปนที่เมืองซานฮวน ประเทศนิคารากัว ต่อมาในปี ค.ศ.1794 สะเก็ดจากลูกปืนใหญ่ของฝรั่งเศส ทำให้เขาตาบอดไปข้างหนึ่ง และจากการควบคุมการรบที่เทเนริเฟ่ ในเกาะคานารี เขาก็ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเข้าที่ใหล่ขวาจนต้องตัดแขนทิ้ง และในปี ค.ศ.1798 เขาก็ได้รับบาดเจ็บที่หน้าผากระหว่างการรบที่แม่น้ำไนล์

นอกจากความเลื่องลือในการเป็นนักรบที่กล้าหาญของเขาแล้ว ในด้านความรักของเขาก็เป็นที่เลื่องลือเช่นเดียวกัน เขามีความรักหลายครั้ง แต่มาสมหวังเมื่ออายุได้ 28 ปี เขาได้รับคำสั่งให้เดินทางไปปฏิบัติราชการในหมู่เกาะแคริบเบียน และได้พบกับ ฟรานซิส นิสเบ็ต หรือที่เรียกกันว่า แฟนนี แม่ม่ายลูกติด ทั้งสองแต่งงานกันหลังจากนั้นไม่นานนัก แต่รักครั้งที่อื้อฉาวที่สุดจนเขาได้รับสมญานามว่า "นักรบ นักรัก" ก็คือความรักระหว่างเขากับ เลดี้เอ็มมา แฮมิลตัน ภรรยาของเซอร์วิลเลียม แฮมิลตัน เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำกรุงเนเปิลส์ ชีวิตของเธอเริ่มเข้ามาพัวพันกับลอร์ดเนลสันเมื่อเนลสันได้รับมอบหมายให้คุมกองเรืออังกฤษเพื่อปกป้องน่านน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งการสู้รบในครั้งนี้ทำให้ลอร์ดเนลสันได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอัศวินแห่งบาธ เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นไวเคานท์ ในปี ค.ศ.1801

เมื่อลอร์ดเนลสันได้พบกับเซอร์วิลเลียมและภรรยา คือ เลดี้แฮมิลตันนั้น ทั้งเนลสันและท่านเซอร์ถูกอัธยาศัยกัน และกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันในเวลาไม่นาน แต่อีก 2 ปีต่อมา เกียรติยศและชื่อเสียงของเนลสันกลับต้องมัวหมอง เพราะเขาได้เข้าไปพัวพันกับเลดี้แฮมิลตันจนเธอตั้งครรภ์ และกลายเป็นรักสามเส้า เพราะเลดี้แฮมิลตันยังคงเป็นภรรยาของเซอร์วิลเลียมอยู่ ส่วนเนลสันก็ยังมี แฟนนี ภรรยาผู้ถูกต้องตามกฎหมายอยู่

แม้ชีวิตส่วนตัวของเขาจะอื้อฉาว แต่ความสามารถในฐานะแม่ทัพเรือ นักยุทธวิธี และนักยุทธศาสตร์ที่ชาญฉลาดของเขาเป็นสิ่งที่ชาวอังกฤษปฏิเสธไม่ได้ และในการรบครั้งสำคัญที่สุดของเขาก็คือการรบที่แหลมทราฟัลการ์ (Trafalgar) ทางทิศใต้ของสเปน เมื่อปี ค.ศ.1805 ซึ่งนับเป็นการรบทางเรือที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ในขณะนั้นจักรพรรดินโปเลียนมีแผนการสร้างจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และมีแผนการลับร่วมกับสเปน จึงส่งกองทัพเรือของทั้งสองประเทศ คือ ฝรั่งเศสและสเปนเข้าโจมตีอังกฤษ แต่อังกฤษสืบทราบแผนการนี้ จึงได้มอบหมายให้ลอร์ดเนลสันปฏิบัติการขัดขวางแผนการดังกล่าว ผลก็คือ อังกฤษได้รับชัยชนะอย่างงดงาม หลังจากการสู้รบนาน 4 ชั่วโมง เรือรบฝ่ายฝรั่งเศสและสเปนยอมจำนนทุกลำ ส่วนอังกฤษไม่สูญเสียเรือรบเลยสักลำเดียว และทำให้แผนการบุกยุโรปของนโปเลียนถูกยับยั้งลงอย่างสิ้นเชิง และทำให้อังกฤษปลอดภัยจากการรุกรานของฝรั่งเศส

แม้จะเป็นฝ่ายชนะ แต่ฝ่ายอังกฤษก็ถูกระดมยิงอย่างหนัก มีทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก หนึ่งในจำนวนนั้นคือลอร์ดเนลสัน ซึ่งถูกยิงทะลุกระดูกสันหลัง เขาถูกหามลงไปภายในเรือ ข่าวการบาดเจ็บของเขาถูกปิดเป็นความลับเพื่อไม่ให้ทหารเสียขวัญ

ลอร์ดเนลสันมีชีวิตอยู่ต่ออีก 3 ชั่วโมง นานพอที่เขาจะได้รับทราบก่อนสิ้นใจว่าอังกฤษเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะในการรบครั้งนี้