ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~+...เทพนิยาย...ประวัติศาสตร์...+~

    ลำดับตอนที่ #48 : มุสโลลินี จอมเผด็จการแห่งอิตตาลี่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 969
      0
      23 ก.ย. 50

    Benito Mussolini

    "พรรคฟาสซิสต์จะยึดถือลัทธิบูชาชาติอย่างแรงกล้า ประโยชน์ของชาติจะต้องเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน
    ประโยชน์ส่วนตนจะขัดต่อประโยชน์ส่วนรวมมิได้ และจะต้องไม่มีการแตกแยกกันไม่ว่ากรณีใดๆ"

    วาทะนี้เป็นของมุสโสลินี อดีตจอมเผด็จการของอิตาลี มุสโสลินีเกิดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ.1883 ที่เมืองโดเวียทางตอนเหนือของอิตาลี บิดาเป็นช่างตีเหล็ก ส่วนมารดาเป็นครู เมื่อเล็กๆ เป็นเด็กเกเรและดื้อด้านจนถูกไล่ออกจากโรงเรียนชั้นประถมเพราะใช้มีดพกทำร้ายเพื่อน

    เมื่ออายุ 18 ปีมุสโสลินีจบการศึกษาได้ประกาศนียบัตรทางวิชาการครู และได้ทำงานเป็นครูในหมู่บ้านเล็กๆ ใกล้บ้านเกิด แต่ก็ต้องถูกเลิกจ้างในเวลาต่อมาเนื่องจากการประพฤติผิดทางเพศของเขา จากนั้นเขาก็ทำงานเป็นนักหนังสือพิมพ์ แต่เขาก็ยังประพฤติตัวเสเพลเหมือนเดิม ขณะที่เขามีอายุเพียง 26 ปี เขาก็เข้าๆ ออกๆ คุกมาแล้วถึง 6 ครั้ง และสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคโซเชียลิสต์ หรือพรรคสังคมนิยมของอิตาลี พรรคนี้มีนโยบายที่ขัดแย้งกับนโยบายของรัฐบาลอิตาลีที่จะพาประชาชนชาวอิตาลีเข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่มุสโสลินีซึ่งเป็นกระบอกเสียงคนหนึ่งของพรรคกลับเห็นด้วยกับรัฐบาล เขาจึงถูกขับออกจากการเป็นสมาชิก และถูกเกณฑ์เข้าเป็นทหารบกและได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด

    หลังจากออกจากพรรค มุสโสลินีได้ออกหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งและได้เขียนบทความสนับสนุนให้อิตาลีเข้าสู่สงครามโลกในปี ค.ศ.1917 โดยสู้รบอย่างเคียงบ่าเคียงใหล่กับประเทศสัมพันธมิตร เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของอิตาลีเอง มุสโสลินีสมัครเข้าเป็นพลทหารและได้รับเหรียญกล้าหาญ

    เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 ยุติลง อิตาลีเป็นประเทศที่ได้รับชัยชนะในสงครามครั้งนี้ร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร แต่เหตุการณ์ในประเทศยังสับสนวุ่นวาย ลัทธิคอมมิวนิสต์กำลังระบาดเข้ามา เศรษฐกิจตกต่ำขนาดหนัก และในปี ค.ศ.1919 มุสโสลินีจึงจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้น คือ พรรคฟาสซิสต์ มีรูปขวานกับมีดหลายเล่มเป็นสัญลักษณ์ เปิดรับสมาชิกที่เป็นคนว่างงานและทหารกองหนุน สามารถระดมกำลังผู้สนับสนุนได้กว่า 300,000 คน ทำการต่อต้านลัทธิสังคมนิยมคอมมิวนิสต์และบอลเชวิค สมาชิกทุกคนของพรรคจะดำรงชีวิตแบบทหาร มีเครื่องแบบคือเสื้อสีดำ มีเครื่องหมายรูปขวานกับมัดหวายกลัดติดที่แขนเสื้อ มีการคำนับและรับการเคารพแบบนักรบโรมัน คือการยกมือขวาชูเหยียดออกไปข้างหน้า

    รัฐบาลอิตาลีในสมัยนั้น มีนายพักตาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่สามารถแก้ไขเหตุการณ์อันยุ่งเหยิงของประเทศได้ และประชาชนก็ไม่ต้องการเขาเป็นผู้นำประเทศอีกต่อไป จึงพร้อมใจกันเดินขบวนขับไล่รัฐบาลชุดนี้โดยมีมุสโสลินีให้การสนับสนุนจนพรรคฟาสซิสต์ได้รับชัยชนะในการต่อต้านครั้งนี้ และในปี ค.ศ.1922 พรรคฟาสซิสต์ทรงอำนาจมากพอจนสามารถขู่ให้กษัตริย์วิคเตอร์ เอมมานูเอลที่ 3 ของอิตาลีแต่งตั้งมุสโสลินีซึ่งในตอนนั้นมีอายุ 39 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีจัดตั้งคณะรัฐบาลบริหารประเทศต่อไป

    ในปี ค.ศ.1937 มุสโสลินีเริ่มมีความสัมพันธ์อันดีกับฮิตเลอร์ ซึ่งในขณะนั้นเป็นระยะที่มุสโสลินีกำลังก่อตั้งพรรคฟาสซิสต์ ฮิตเลอร์ได้ส่งกองทหารเยอรมันไปช่วยพวกฟาสซิสต์ทำสงครามกลางเมืองในสเปนจนได้รับชัยชนะ แต่พฤติกรรมของฮิตเลอร์บางอย่างก็สร้างความไม่พอใจให้กับพวกฟาสซิสต์ซึ่งเคร่งศาสนา เพราะฮิตเลอร์ซึ่งประกาศตัวเองว่าเขาเป็นคนไม่มีศาสนาและได้ใช้โบสถ์ในอิตาลีเป็นที่ฝึกอาวุธ

    ในปี ค.ศ.1940 มุสโสลินีทำสัญญาช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่าง 3 ประเทศ คือ เยอรมัน อิตาลี และญี่ปุ่น ซึ่งทั้ง 3 ประเทศนี้ร่วมกันประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ.1940 ผลการรบฝ่ายสัมพันธมิตรเป็นฝ่ายชนะ ประเทศอิตาลีต้องประสบกับความพ่ายแพ้ มุสโสลินีกับพวกจึงหลุดจากอำนาจ เขาถูกจับไปยิงเป้าเมื่อวันที่ 28 เมษายน ค.ศ.1945 พร้อมกับภรรยาลับชื่อ คลาร่า กลางตลาดกรุงมิลานในขณะจะหลบหนี ศพของเขาและภรรยาถูกจับมัดเท้าโยงไว้กับเสาเป็นการประจาน ด้วยน้ำมือของพลพรรคฟาสซิสต์ที่เขาสร้างขึ้นมากับมือนั่นเอง

    1
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×