ลำดับตอนที่ #93
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #93 : ประวัติความเป็นมาเทวีและเทพเจ้าแห่งไอยคุปต์
ประวัติความเป็นมาเทวีและเทพเจ้าแห่งไอยคุปต์
แม่น้ำไนล์เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญที่หล่อเลี้ยงแผ่นดินไอยคุปต์มาตั้งแต่โบราณ แม่น้ำไนล์ และผืนแผ่นดินสองฟากฝั้งได้กลายเป็นแหล่งที่มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ แม่น้ำไนล์ซึ่งมีความยาวกว่า 400 ไมล์ และดินแดนอุดมสมบูรณ์ตลอดแนวสองฟากฝั่งได้กลายเป็นแหล่งกำเนิชุมชนต่าง ๆ และค่อย ๆ กระจัดกระจายออกไปสู่ดินแดนอื่นมากขึ้น โดยเฉพาะในเขตบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมได้มีชุมชนต่าง ๆ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็วสาเหตุ สำคัญก็คือ เนื่องจากบริเวณปากน้ำได้มีแม่น้ำแตกแยกออกเป็นหลายสาขา ทำให้มีพื้นที่อุดมสมบูรณ์เป็นจำนวนมาก ต่อมาชุมชนชาวไอยคุปต์แต่ละ แห่งต่างก็มีแนวความคิดเกี่ยวกับความเชื่อเป็นของตนเองและได้มีเทพเจ้าของตนเอง ทั้งที่ได้รับอิทธเพลจากความเชื่อของชนเผ่าต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้ เคียงโดยรอบ และจากความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้าของบรรพบุรุษชาวไอยคุปต์โบราณในดินแดนต่าง ๆ ของทวีปแอฟริกา จากนเผ่าอื่นในแถบเอเชีย ตะวันตกหรือบริเวณดินแดนต่าง ๆ รอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนั้นความเชื่อในเรื่องต่าง ๆ ยังได้รับอิทธิพลจากการติดต่อทางการค้าขายและทางการทหารกับชนเผ่าอื่น ๆ ด้วย แต่ละชุมชน จะมีเทพเจ้าเป็นที่เคารพสักการะเป็นของตนเอง และหากเผ่าใดรบชนะเผ่าตรงข้ามก็ถือว่าเป็นชัยชนะเหนือเทพเจ้าของเผ่านั้นด้วย จึงกล่าวได้ว่า เหตุผลจากการทำสงคราม หรือเหตุผลทางการเมืองเป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนแปลงความเชื่อของแต่ละชุมชน นักเทววิทยาบางคนได้กล่าวว่าเหตุกำเนิดเทพต่าง ๆ ของชาวไอยคุปต์โบราณนั้นน่าจะเริ่มมาจากการตั้งหลักแหล่งทางเกษตรกรรม และ การตั้งถิ่นฐานในภูมิอากาศต่าง ๆ กล่าวได้ว่าพื้นฐานในการดำรงชีวิตด้วยการกสิกรรมตามแหล่งที่อุดมสมบูรณ์นั้นมีอิทธิพลต่อชุมชนหรือสังคมเป็น อย่างมาก พิธีกรรมต่าง ๆ รวมทั้งความเชื่อในเรื่องลัทธิ ศาสนา หรือเทพเจ้าล้วนแต่ผูกพันกับการเพาะปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารตลอดจนชีวิตความ เป็นอยู่ของชุมชนนับตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์เป็นต้นมา ชาวไอยคุปต์โบราณนับถือเทพเจ้าตามความเชื่อในเรื่องธรรมชาติการกำเนิดโลก และสิ่งต่าง ๆ ที่เชื่อว่าต้องมีเกิดและมีดับเป็นสำคัญ ดังจะสังเกตได้จากตำนานไอยคุปต์ที่เล่าสืบทอดกันมานานนับพัน ๆ ปี ตำนานเกี่ยวกับเทพเจ้าในยุคแรก มักจะกล่าวถึงเทพตามลักษณะของ ธรรมชาติ เช่น แผ่นดิน แผ่นน้ำ ฝน และท้องฟ้า โดยได้ใช้สัตว์เป็นสัญลักษณ์ของเทพต่าง ๆ แทน เช่น เหยี่ยว เป็นสัญลีกษณ์ของเทพฮอรัส เนื่องจามถือว่ามันสามารถบินได้สูงมาก ชนเผ่าไอยคุปต์ที่นับถือเทพเจ้าฮอรัสในช่วงแรก ๆ ก็คือชนเผ่าไอยคุปต์ที่มีเชื้อสายบรรพบุรุษซึ่งอพยพมา จากลิเบีย และดินแดนส่วนใหญ่ทางไอยคุปต์ตอนบน และไอยคุปต์ต่ำ สรุปได้ว่าชาวไอยคุปต์โบราณนับถือเทพเจ้าและเทวีเป็นสจำนวนมาก เทพเจ้าส่วนหนึ่งชนรุ่นหลังรู้จักกันดี แต่อีกส่วนหนึ่งไม่ค่อยมีใคร รู้จักเนื่องจากขาดหลักฐานอ้างอิงสนับสนุน เทพเจ้าที่เรารู้จักส่วนหนึ่งมักจะมีพระเศียรเป็นหัวสัตว์ชนิดต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นต้นกำเนิดที่เด่นชัด และอีกส่วนหนึ่งมีพระวรกายเช่นเดียวกับมนุษย์ เทพเจ้าหรือเทวีของไอยคุปต์จะมีหน้าที่หรือบทบาทในพีธีกรรมต่าง ๆ ของอาณาจักร ความเชื่อและศาสนาของชาวไอยคุปต์มักจะเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาต่อมาหลายปี จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งไม่มีที่สิ้นสุด เดิมที่ในยุคก่อนราชวงศ์ฟาโรห์ ชาวไอยคุปต์แต่ละเผ่าจะมีเทพเจ้าหรือเทวีประจำเผ่าของตน ครั้นเวลาผ่านไปต่างได้มีความสัมพันธ์ซึ่ง กันและกัน ได้รับแนวความคิด ความเชื่อใหม่ ๆ เกี่ยวกับการนับถือเทพเจ้าหรือเทวีในลักษณะเลียนแบบ หรือลัทธิเอาอย่างตามเผ่าทีมีความเจริญรุ่งเรืองกว่า ผู้นำของแต่ละเผ่ามักจะยกย่องเทพเจ้าซึ่งเป็นเทพท้องถิ่นของตนว่าเป็นเทพเจ้าที่สำคัญเกี่ยวกับพิธีกรรมต่าง ๆทางศาสนา ด้วยเหตุนี้ จึงมีเทพเจ้าหรือเทวีเป็นที่รู้จักกันทั่วอาณาจักรไอยคุปต์ พิธีกรรมทางศาสนาที่ยิ่งใหญ่มักมีศูนย์กลางตามเมืองหลัก เช่น มี่เมืองทีเบส เมืองเฮอร์โมโปลิส เมืองเฮลิโอโปลิส และเมืองเมมฟิส ซึ่งบรรดานักบวชแต่ละวิหารในเมืองต่าง ๆ นี้มักเรียกร้องความสนใจจากมหาชนด้วยการประกาศเผยแพร่เกียรติคุณเทพเจ้าของตนเอง บางครั้งอาจมีการกล่าวอ้างว่าเทพเจ้าของตนเป็นพระบิดาของเทพเจ้าอีกองค์หนึ่งหรือเทพเจ้าองค์อื่น ๆ หรือบางทีอาจประกาศว่า แท้ จริงแล้วเทพเจ้าต่าง ๆ นั้นเป็นองค์เดียวกัน แต่ได้รับการเคารพบูชาในพระนามต่าง ๆ กันเช่น คำว่า "รา" ของเทพเจ้ารา มีความสัมพันธ์กับเทพ เจ้าอะตุม ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นเทพเจ้าอะตุม-รา เรี่องราวเกี่ยวกับศาสนาของชาวไอยคุปต์โบราณบางตอนก่อให้เกิดความสับสน และมีกลุ่มคัดค้านโต้แย้งหลายกลุ่ม ดังตัวอย่างที่น่า สนใจต่อไปนี้ ตัวอย่างแรก ศูนย์กลางพิธีกรรมแต่ละแห่งอวดอ้างสรรพคุณว่าเทพเจ้าที่เป็นประธานของตนรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการให้ กำเนิดสุริยจักรวาลและโลก โดยได้สร้างตำนามประกอบเป็นจำนวนมาก ตัวอย่างที่สอง นักบวชประจำวิหารในเมืองต่าง ๆ ทั้วทั้งอาณาจักรไอยคุปต์ได้ประกาศว่า พระเศียรของเทพโอซิริสที่ถูกตัดนั้นฝังอยู่ ในวิหารของตน จากเรื่องราวดังตัวอย่างทั้งสองเรื่องนี้ ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางความคิดมาก แต่ชาวไอยคุปต์ส่วนใหญ่ต่างก็ยอมรับโดยปราศจาก ความขัดแย้งวุ่นวายใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนฟาโรห์ก็รู้สึกพอพระราชหฤทัยที่ตรัสเรียกพระองค์เองว่าเป็นโอรสของเทพเจ้ารา,เทพเจ้าอะตุม หรือเทพเจ้าฮอรัส บทบาทของเทพเจ้าหลายองค์ มักจะเปลี่ยนไปตามความเชื่อและพิธีกรรมต่าง ๆ ที่ชาวไอยคุปต์ได้พัฒนาให้มีความสำคัญ มีความ ศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นมากตามที่ได้ผูกเรื่องเป็นนิทาน เป็นตำนานเพิ่มเป็นจำนวนมากตัวอย่างเช่น เทพเจ้าโอซิริส เดิมถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการ เกษตรกรรม ช่วงที่ประสูติและสวรรคต มีความสัมพันธ์กับการหว่านพืช และการเก็บเกี่ยวผลได้เปลี่ยนเป็นถือว่า เป้นเทพเจ้าของคนตายโดยมีเทพ เจ้าอะนูบิสซึ่งเป็นโอรสและผู้ช่วย เทพเจ้าบางส่วนถือกำเนิดเป็นเทพเจ้าประจำนครอย่างเป็นทางการและเทพเจ้าที่เหลือเป็นเทพเจ้าแห่งปวงชน ลักษณะเช่นนี้ทำให้สังคม ชาวไอยคุปต์แบ่งระดับศาสนาออกเป็น 2 ระดับ คือจัดพิธีกรรมที่เป็นทางการและพิธีกรรมพื้นบ้านทั่วไป อาจกล่าวได้ว่าเป็นการแบ่งระดับชั้นของ เทพเจ้า และศาสนพิธีออกเป็นสองระดับ คือระดับชั้นสูงและระดับชั้นต่ำ ตามวิหารต่าง ๆ ต้องสร้างบริเวณที่ฟาโรห์กระทำพิธีบวงสรวงเทพเจ้าไว้โดยเฉพาะ แม้ว่าตามความเชื่อแล้วถือว่าพระองค์ก็เป็นเทพเจ้า เช่นเดียวกันก็ตาม ส่วนนักบวชประจำวิหารก็จะปฎิบัติหน้าที่เป็นผู้แทนพระองค์โดยปฎิบัติตามศาสนพิธีตลอดทั้งปี รวมทั้งกระทำพิธีกรรมสำคัญที่ แสดงตามตำนานเทพเจ้าประจำวิหาร เช่น นักบวชประจำวิหารเทพเจ้ารา จะมีหน้าที่สำคัญในแต่ละวัน 3 ประการคือ ในช่วงรุ่งอรุณจะต้องทำพิธีสรรเสริญการกำเนิดของดวงอาทิตย์ในช่วงเที่ยงวันทำพิธีเสริมพลังเข้มแข็งของตนเองและใตช่วงเย็นก็ ทำพิธีอาลัยต่อความตายของตนที่จะมาถึง ในงานเฉลิมฉลองเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของวิหารจะมีขบวนบรรดานักบวชเดินไปรอบ ๆ ทุ่งหญ้าเพื่อถือว่าเป็นการมอบความอุดมสมบูรณ์ แก่ผืนดินอันกว้างใหญ่ หรือเป็นขบวนแห่ไปยังวิหารของเทพเจ้าอีกองค์หนึ่ง ประชาชนชาวไอยคุปต์ธรรมดาสามัญ แม้ว่าจะได้รับอนุญาติเข้าร่วมขบวนแห่ หรือเข้าไปยังบริเวณรอบนอกของวิหารก็ตาม จะไม่ได้รับ อนุญาตให้เข้าไปภายในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์โดยเด็ดขาด แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ทำที่บูชาส่วนตนขึ้นมาแทน ด้วยเหตุดังกล่าว จะเห็นได้ว่าเทพเจ้าหรือเทวีของอาณาจักรไอยคุปต์มีบทบาทต่อชีวิตของปวงชน ทั้งในด้านชีวิตพื้นฐาน และด้าน ความเป็นความตาย นับตั้วแต่ฟาโรห์ลงมาจนถึงชาวไร่ชาวนาต่างก็ถือว่ามีเทพเจ้าคอยปกปักรักษาและอำนวยผลต่อชีวิตให้เช่นเดียวกัน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น