ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไกรทอง ชาละวันxไกรทอง (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #16 : ไกรทอง ตอนที่12 (แก้ไข)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.09K
      35
      15 เม.ย. 58

    กาลเวลาหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนไป  จากฤดูกาลหนึ่งไปสู่อีกฤดูกาลหนึ่ง  ร้อนเปลี่ยนเป็นฝน  ฝนเปลี่ยนเป็นหนาว  หมุนวนซ้ำไปมาอยู่เช่นนี้   เผลอพริบตาเดียวกาลเวลาก็ผ่านมาสิบกว่าปี

     

    ทุกสิ่งบนโลกล้วนไม่เที่ยง  ไม่มีสิ่งใดยั่งยืนอยู่ได้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง  ขนาดต้นหญ้าเล็กๆก็ย่อมไม่เหมือนเดิม ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ก็ย่อมต้องมีการแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา

     

    ภายในอาณาบริเวณที่เป็นเขตหวงห้ามแห่งนี้นับตั้งแต่หน้าทางเข้ามาจรดไปถึงส่วนด้านในสุด มีเหล่าทวารยืนเฝ้ากันอยู่อย่างเคร่งครัด   ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่ก็เป็นองค์รักษ์ฝีมือดีที่ถูกคัดเลือกและได้รับการฝึกปรือกันมาอย่างโชกโชน   พวกเขาทั้งหมดล้วนแต่มีรูปร่างสูงใหญ่  ใบหน้านิ่งดูไร้อารมณ์   จนทำให้นางกำนัลหลายคนที่มีหน้าถวายการรับใช้เป็นประจำ  ยังต้องเผลอสะดุ้งหวาดกลัวทุกครั้งยามเมื่อได้พบหน้าของเหล่าองค์รักษ์กลุ่มนี้   

     

    แต่มาตอนนี้เหล่าองค์รักษ์ที่ยืนทำหน้าดุดันประจำตำแหน่ง  ต่างก็พากันใจไขว้เขวแอบชำเลืองมองแขกผู้มาเยือนของผู้เป็นนายเหนือหัวด้วยสายตาลุ่มหลงเถิดทูนต่อความงามของนาง

     

    แม้จะเป็นสิ่งที่ไม่สมควรจะกระทำ  แต่ชายใดเหล่าจะกล้าเมินเฉยให้แก่ความงามของสตรีผู้นี้ได้ลงคอ

     

     เหล่าองค์รักษ์ที่ยืนทำท่าขึงขังอยู่ด้านหน้าประตูห้องบรรทมต่างพากันแอบชำเลืองมองแขกผู้มาเยือนนายเหนือหัวของตนด้วยสายตาลุ่มหลงเถิดทูนต่อความงามของนาง

     

    ผมดำขลับตรงยาวถึงกลางหลังช่วยขับเน้นให้ผิวขาวเนียนของหญิงสาวดูกระจ่างใสเปล่งประกาย   ริมฝีปากอวบอิ่มแดงระเรื่อโดยไม่จำเป็นต้องเสริมเติมแต่งใดๆ  ส่วนรูปร่างก็งามหาที่ติมิได้แม้จะดูไม่เย้ายวนใจแต่ก็งามสง่าสมกับที่เกิดมาเป็นขัตติยะ

     

    เขาอยู่ด้านในใช่หรือไม่?”

     

    องค์รักษ์นายหนึ่งก้มหัวลงด้วยท่าทางขึงขังก่อนจะตอบว่าขอรับ

     

    อืม

     

    ช้าก่อนขอรับ”  ทหารใจกล้าผู้หนึ่งรีบปรี่กายเข้ามาขวาง   ป้องกันไม่ให้คนนอกเข้าไปด้านในรบกวนการพักผ่อนของผู้เป็นนายเหนือหัว...พวกเขาคือองค์รักษ์ของท่านผู้นั้น  ย่อมต้องฟังคำสั่งของท่านเพียงผู้เดียว

     

    นี่เจ้ากล้าขวางข้า  เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นใคร”  หญิงงามสูงศักดิ์รู้สึกเดือดดาลเป็นยิ่งนักที่ถูกคนต่ำศักดิ์กว่ากล้าขัดใจกีดกันไม่ให้นางเข้าไป...

     

    ข้าน้อยทราบขอรับแต่ถ้าไม่มีคำสั่งจากนายเหนือหัว   ข้าน้อยก็ย่อมต้องขออภัยที่จะขอเสียมารยาทกับพระนาง

     

    ทหารกล้าแสดงเจตจำลงแน่วแน่ออกมาอย่างไม่นึกกลัวตาย  ที่กล้าขัดกับผู้ที่ยศศักดิ์สูงล้ำกว่าตน   ถึงแม้จะเป็นการเสียมารยาทแต่คำพูดทุกคำขององค์รักษ์นายนี้ก็ล้วนมีเหตุผล   จนทำให้หญิงสาวยืนนิ่งไร้เสียงโต้กลับ

     

    ถึงในใจจะกราดเกรี้ยวอยากระบายโทสะ   แต่นางก็นับว่าฉลาดที่เลือกไม่แสดงอารมณ์ออกมาตามที่ใจนึก   เปิดเผยนิสัยเอาแต่ใจให้ผู้ใดได้เห็น   โดยเฉพาะเหล่าชายหนุ่มเนื้อแน่น

     

    นางเผยรอยยิ้มหวานหยดย้อย  หวังโปรยเสน่ห์ให้เจ้าหนุ่มทื่อผู้นี้   เพื่อหวังให้มันลุ่มหลงไปกับความงามของตนจนต้องยอมเปิดทางให้แต่โดยดี

     

    แม้ใจจะรู้สึกพ่ายแพ้ต่อความงามตรงหน้า   แต่สำหรับองค์รักษ์ข้างกายหน้าที่ก็คือหน้าที่   ความจงรักภักดีคือสิ่งสำคัญที่   หากใจมัวแต่หลงอยู่ในกิเลส  ข้าก็ไม่สมควรจะยืนอยู่ตรงจุดนี้

     

    ขอประทานอภัย  พระนางเข้าไปมิได้

     

    เจ้าอยากตายมากนักใช่ไหม?”  ในที่สุดหญิงสาวก็หมดความอดทน  ยืนชี้หน้าคาดโทษเจ้าคนต่ำศักดิ์ที่กล้าใจนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

    แต่ยังไม่ทันสตรีนางนี้จะได้เอ่ยคำสั่งลงโทษ  ก็มีเสียงทุ้มดังมาจากด้านใน  เอ่ยอนุญาตให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญสามารถเข้ามา

     

    หญิงสาวยิ้มเยาะอย่างถูกใจ หันมามองเจ้าองค์รักษ์ผู้นี้ด้วยสายตาหมายมาด...เจ้าองค์รักษ์ผู้กล้า   ข้าจะจดจำเจ้าไว้ไม่มีวันลืม

     

    มือเรียวงามผลักบานประตูเข้าไปอย่างถือวิสาสะโดยที่เหล่าองค์รักษ์ทั้งหลายทำได้เพียงแค่ยืนมองกันตาปริบๆ...

     

    วิมาลาเหตุใดเจ้าจึงถือวิสาสะบุกเข้ามาในเขตหวงห้ามโดยที่ไม่เอ่ยขออนุญาตจากข้า

     

    เสียงทุ้มนุ่มทรงอำนาจเอ่ยถามผู้บุกรุก   ถึงแม้จะฟังดูเนิบนาบแต่นางรู้ดีว่าบุรุษตรงหน้าคงกำลังรู้สึกหงุดหงิดในการกระทำอุกอาจของนาง    ซึ่งถ้าเปลี่ยนจากนางเป็นผู้อื่นคนผู้นั้นคงถึงกับต้องทรุดตัวสั่นงันงกด้วยความรักตัวกลัวตายหรือบางทีอาจจะนอนสลบแน่นิ่งไปเลยก็ได้

     

    หญิงสาวค่อยๆกรีดกรายเข้าไปใกล้บุรุษร่างสูงผู้ทรงสง่าที่ยืนอยู่ตรงกลางของห้อง    อืม...ถึงจะดูน่ากลัวไปบ้างแต่เขาที่เป็นแบบนี้ช่างน่าเกรงขาม  สูงส่งเหนือกว่าผู้ใดที่ข้าเคยพบเจอ

     

    ข้าเป็นใคร  เจ้าเป็นใคร  ผู้ใดย่อมรู้ดีถึงสถานะของเราทั้งคู่  ความจริงด้วยตามศักดิ์ของข้า  ข้านั้นสามารถเข้ามาในห้องเจ้าได้ทุกเวลาอยู่แล้ว...จริงหรือไม่?

     

    คำพูดที่ถือดีและการปั้นน้ำเสียงหวานหยดของนาง  ช่างกระตุ้นอารมณ์หงุดหงิดของเขาให้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม จนใจเดือดพล่านเสียยิ่งกว่าน้ำเดือด   เขาอยากจะโยนนางออกไปให้พ้นๆหน้าเสียจริงๆ   เอาชนิดที่ไม่ต้องกลับมาให้เห็นหน้ากันอีกเลยตลอดชีวิตยิ่งดี

     

    ...คนกำลังจะพักผ่อนให้สบายกาย   ยังมีหน้าแสดงอำนาจบาตรใหญ่บุกเข้ามาก่อกวน   หาเรื่องร้อนหู  ร้อนใจมาให้ข้าอีก

     

    แม้จะรู้สึกไม่สบอารมณ์กับการกระทำของนางมากแค่ไหน   เขาก็เลือกที่จะนิ่งเงียบแล้วทำหน้าเฉยชาเหมือนเก่า  ดูราวกับว่าไม่นึกใส่ใจกับสิ่งใดทั้งสิ้นแม้กระทั่งเสียงหัวเราะเยาะเบาๆที่ดังเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน

     

    เหตุใดเจ้าจึงต้องการจะเข้ามาหาข้าวิมาลา

     

    ชายหนุ่มพยายามข่มกลั้นอารมณ์รีบเอ่ยถามถึงจุดประสงค์การมาที่แท้จริงของสตรีผู้นี้ให้เรื่องมันจบๆไป  เพื่อที่เขาจะได้หาข้ออ้างไล่นางออกไปโดยเร็ว 

     

    มือขาวเรียวบรรจงลูบไล้ท่อนแขนแกร่งของเขาไปมาด้วยจริตจก้านเป็นเชิงยั่วยวน  “ใจร้ายจังเลยนะ...ข้าก็มาในฐานะคู่หมั้นของเจ้าอย่างไรเล่า

     

    มืองามเปลี่ยนจากลูบไล้ท่อนแขนค่อยๆขยับเคลื่อนไปตามต้นแขน  หัวไหล่  โดยที่ปากของนางยังคงเจือยแจ้วต่อไปโดยไม่นำพาสนใจสายตาคมกริบที่มองมือหญิงสาวอย่างไม่พอใจ

     

    อีกไม่นานท้าวรำไพ  ท่านปู่ของเจ้าจะมีการทำพิธีมอบบัลลังค์คุ้งเหนือให้แก่เจ้า  ข้าในฐานะคู่หมั้นย่อมต้องมาอยู่แล้ว  อย่าลืมสิ ...ท่านชาละวันองค์รัชทายาทแห่งคุ้งเหนือ

     

    ชาละวันปรายตามองวิมาลาองค์หญิงแห่งคุ้งใต้ผู้เป็นสายเลือดที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวของท้าวพันตาและท้าวพันวัง...หึ  คู่หมั้นงั้นเรอะก็แค่การหมั้นหมายทางการเมือง

     

     “ไร้สาระ

     

     “น่าสนุกดีออก  ข้าแทบจะรอจนถึงวันนั้นไม่ไหวอยู่แล้ว

     

    กุมภีร์หนุ่มหลับตาข่มอารมณ์หงุดหงิดไว้อย่างสุดความสามารถ...สตรีนางนี้ช่างน่ารำคาญยิ่งนัก  วุ่นวายน่ารำคาญดังเช่นแมงหวี่แมงวันไม่ปาน

     

    วิมาลาไม่สนใจอารมณ์หงุดหงิดของคู่หมั้นหนุ่ม  นางเคลื่อนกายมาด้านหน้าของชาละวันด้วยท่วงท่างดงามแกมเย้ายวนเพื่อหวังยั่วอารมณ์ใครบางคนให้ลุกโชน  ....ซึ่งก็ลุกขึ้นมาจริงเสียด้วย....แต่เป็นไฟแห่งโทสะนะไม่ใช่ไฟตัณหา    

     

    เราทั้งสองนั้นสนิทสนมกันมากแค่ไหนเจ้าย่อมน่าจะรู้นะชาละวัน

     

    มือของกุมภีร์สาวช่างอยู่ไม่สุขเสียจริงๆ  จากที่เคยลูบไล้แขนและไหล่    ก็ย้ายมาโอบกอดเอวชาละวันแล้วซบหน้าลงซุกไซร้อยู่แผงอกแกร่งอย่างคลั่งไคล้และหลงใหล

     

    อา...เขาช่างงามสง่าแสนทรงอำนาจอะไรเช่นนี้   จะมีสตรีนางใดเล่าที่สามารถต่อสู้ต้านทานเสน่ห์ของชายหนุ่มผู้นี้ได้   ขอเพียงแค่ได้สบตาสักครั้งทั้งใจและกายล้วนอ่อนระทวยยอมพลีกาย  ใจให้อยู่ใต้แทบฝ่าเท้าคู่นี้ไปชั่วนิรันดร์

     

    การกระทำถึงเนื้อถึงตัวเช่นนี้ใช่ว่าจะมีเป็นครั้งแรก   ซึ่งแต่ละครั้งชาละวันก็ยังคงนึกรำคาญกับการถึงเนื้อถึงตัวของวิมาลาแบบนี้อยู่ร่ำไป

     

    ...ข้าอยากบีบขยี้แมลงวันตัวนี้ให้บี้แบนตายคามือนัก ...ถ้าไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ที่ต้องการจากเจ้าแล้วล่ะก็   แม้แต่หน้านี้ข้ายังไม่นึกอยากจะมองให้เสียเวลา

     

    เรื่องที่ฝากไว้เป็นเช่นไรบ้าง

     

    วิมาลากระหวัดเกี่ยวโอบรอบคอโน้มใบหน้าอีกฝ่ายลงมาประชิดแล้วกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงหวานทรงเสน่ห์

     

     “แหม...เรื่องที่เจ้าบอกข้าย่อมทำตามอยู่แล้วไม่ต้องห่วง

     

    ริมฝีปากงดงามเป็นกระจับจูบปากเคร่งขรึมเบาๆหนึ่งที  ซึ่งเป็นการกระทำที่อุกอาจเกินกว่าพญากุมภีร์หนุ่มจะยอมอดทนให้กับนางได้อีกต่อไป

     

    แต่ทว่าถึงชาละวันจะนึกโกรธวิมาลามากแค่ไหน   ตัวเขาก็ทำได้เพียงแค่ผละตัวหนีออกห่างแล้วเลือกยืนหันหลังหนีคู่หมั้นสาวอย่างนึกรังเกียจ

     

     “ทุกอย่างจะต้องไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

     

    แทนที่วิมาลาจะโกรธกับการกระทำอันหักหาญน้ำใจแบบนี้    กุมภีร์สาวกลับเลือกที่จะทรุดนั่งลงบนแท่นบรรมทมชายหนุ่มอย่างถือสิทธิ์    เรียวขาขาวผ่องแสนงามยกพาดทับขางามอีกข้างพร้อมกับเอนกายพิงหมอนอิงด้านข้างเล็กน้อยให้สบายตัว  ยิ่งส่งเสริมให้ท่วงท่าของนางดูเย้ายวนใจกว่าเดิมร้อยเท่าพันทวี

     

     “แน่นอนข้ารับรอง

     

     “แล้วเมื่อไรทางนั้นจะติดต่อมา

     

    วิมาลาหัวเราะเบาๆแล้วจึงเอ่ยวาจาแกล้งหยอกเย้า

     

     “ใจร้อนเสียจริงนะชาละวัน

     

    ชั่วพริบตานั้นพญากุมภีร์หนุ่มได้หันกลับมามองคู่หมั้นสาวด้วยแรงกดดันอันน่ากลัว   แต่ถึงยังไงวิมาลาก็คือวิมาลานอกจากจะไม่สะทกสะท้านกับจิตสังหารที่ได้รับ   หนำซ้ำนางยังใจกล้าเดินเข้าไปโอบกอดซบหน้าลงบนแผ่นหลังพญากุมภีร์หนุ่ม  สูดดมกลิ่นกายของชายหนุ่มโดยไร้ซึ่งความอาย

     

     “รอแค่คำสั่งจากเจ้าเท่านั้นพวกนั้นจึงจะเริ่มเคลื่อนไหวทันที

     

     ก็ดี

     

    ชาละวันดึงมือที่กอดเขาอยู่ออกอย่างไม่แยแส   ด้วยเพราะตัวเขาเริ่มสุดจะทนกับสตรีนางนี้เต็มทีแล้ว

     

    ข้าจะขึ้นไปปะปนกับพวกมนุษย์ด้านบนเพื่อปูทางเอาไว้  ส่วนเจ้าแค่รอคอยสัญญาณจากข้าแล้วส่งมอบคำสั่งให้พวกนั้นดำเนินตามแผนการทันที

     

    ด้านบนงั้นเหรอ...แววตาของวิมาลาเปล่งประกายสดใสขึ้นมาทันที

     

     “น่าสนุกนะขอข้าไปด้วยสิ

     

    ชาละวันเดินหันหลังจากไปอย่างไม่นึกแยแส   สร้างความเดือดดาดใจให้วิมาลาไม่น้อยเหมือนกัน

     

    เมื่อลับหลังชาละวันแล้ววิมาลาก็ได้ดีดนิ้วมือเรียกใครบางคนออกมา

     

    ส่งข่าวไปให้ทางนั้นทราบ   ว่าอีกไม่นานข้ากับชาละวันจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนพวกเขาอย่างสมเกียรติในฐานะคู่หมั้นหมาย

     

    เงาปริศนาเมื่อได้รับคำสั่งจากเจ้านายก็หายวับไปในความมืดทันที

     

     “ชาละวันข้านั้นรู้ว่าสิ่งที่เจ้าต้องการนั้นคือสิ่งใด   ซึ่งตัวข้าเองพร้อมที่จะตอบสนองและช่วยเหลือไม่มีอิดออด  โดยต้องแลกกับการที่เจ้าต้องอุทิศตนเพื่อข้าบ้างก็เท่านั้นเอง...ยุติธรรมดีออกนะจริงไหม?”

     

    เชอะ! ถ้าคิดว่าจะสามารถสลัดข้าให้หลุดนะ   เจ้าคงต้องเหนื่อยหน่อยล่ะนะพ่อคนเก่ง

     

    ชาละวันรีบเดินดุ่มๆไปที่เขตหวงห้ามอีกแห่งหนึ่ง  ด้วยอาการหัวเสียอย่างหนัก

     

    คู่หมั้นงั้นเรอะ...เจ้าคงคิดว่าแค่ตำแหน่งคู่หมั้นจะสามารถมีอำนาจเหนือข้าได้งั้นสินะ  เจ้าคิดผิดแล้ววิมาลา   ไว้รอให้ข้าดำเนินแผนการเสร็จสมบูรณ์เมื่อไร   เจ้าก็จะหมดประโยชน์ต่อข้าทันที

     

    หึ!  สตรีหน้าชัง  คงคิดว่าตนเองยิ่งใหญ่เหลือคณา  ถึงได้ผยองทำตัวให้สูงกว่าข้า....คิดจะข่มข้าอย่าหวังเลย

     

    พวกเจ้าแบ่งกันเฝ้าที่ทางเข้ากับหน้าห้องข้าไว้ให้ดี  อย่าให้ใครหน้าไหนมารบกวนข้า  ชาละวันชี้มือมาที่องค์รักษ์คนกล้าออกคำสั่งมอบหมายอำนาจให้อย่างเต็มที่ นอกจากมือซ้ายกับมือขวาข้าแล้ว   ใครหน้าไหนกล้าย่างเท้าเข้ามาจับโดยนออกไปได้ทันที

     

    ขอรับ 

     

    ก่อนที่ข้าจะขึ้นไปคงต้องวางแผนให้รอบคอบเพื่อป้องกันการผิดพลาดในระหว่างที่ไม่อยู่  ....โดยเฉพาะตาเฒ่าภามนั่นข้าจะยิ่งประมาทไม่ได้   เพราะหากขืนชะล่าใจแม้แต่เพียงนิดเดียว  แผนการทั้งหมดที่ข้าวางไว้คงจะล้มพังไม่เป็นท่า   ดีไม่ดีอาจจะพ่ายแพ้ให้แก่ศัตรูโดยไม่รู้ตัว

     

    การทำศึกในครั้งนี้ข้าจะต้องเป็นผู้ชนะ...ผู้ชนะแค่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

     

    อีกไม่นานเราสองคนก็จะได้พบกันแล้วนะ.....ไกรทอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×