ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไกรทอง ชาละวันxไกรทอง (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #33 : ไกรทอง ตอนที่ 28

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.57K
      29
      23 ธ.ค. 58

    ควันจากโถกำยานรูปร่างแปลกตากำลังส่งกลิ่นเครื่องหอมประหลาดลอยฟุ้งกระจายคละคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง  ราวกับอยู่ในห้วงฝันที่มีแต่ความมืดไร้ซึ่งทางออก...กลิ่นของมันช่างหวานเอียนจนทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกคลื่นไส้อยากจะอาเจียนออกมา 


    กี่วันแล้วที่เขาถูกกักขังเอาไว้ที่นี่  ...คิดถึงพ่อ  คิดถึงพี่เพลิง  “อยากกลับบ้านเหลือเกิน


    ถ้าเขาไม่ถือทิฐิเอาตนเองเป็นที่ตั้ง


    ถ้าเขาลองเชื่อฟังคำพ่อ  นึกฟังคำพี่


    ถ้าเขารู้จักคิดไม่หนีออกบ้าน


    ถ้า...........................


    ใจของเด็กหนุ่มสะอื้นกับความโง่เขลาของตัวเอง


    ก็คงไม่ต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้


    เคร้ง  เคร้ง


    เสียงกระทบกันของโซ่เส้นหนาหนักดังสะท้อนขึ้นมาทุกครั้งเมื่อเริ่มมีการขยับตัว


    ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าไม่ได้ผล  แต่เด็กหนุ่มก็ยังไม่ยอมละทิ้งความตั้งใจ  พยายามออกแรงดึงเจ้าโซ่พวกนี้ให้หลุดพ้นจากร่างกาย

    เพราะใจมัวแต่จดจ่ออยู่กับตัวเอง  จึงไม่ทันสังเกตเห็นเงาร่างของใครบางคนกำลังมองความอุตสาหะของเขาเป็นแค่ความบันเทิงฆ่าเวลา


    “เจ้านี่มันช่างดื้อด้าน  บอกไปกี่ครั้งก็ไม่เคยรู้จักจำ”


    รอยยิ้มเยาะหยันจากมุมมืด  ทำเอาเด็กหนุ่มถึงกับตัวสั่นกลัวจับใจ  มือไม้อ่อนเผลอปล่อยโซ่ในมือหล่นกระทบพื้นเสียงดังก้อง...เจ้าปีศาจร้ายกลับมาแล้ว


    ปีศาจร้ายแสยะยิ้มมองท่าทางลนลานของเหยื่อตัวน้อยด้วยสีหน้ารื่นรมย์.....ช่างดูน่าสงสารและน่ากลั่นแกล้งให้เปิดเผยความกลัวจากแววตานั่นเพิ่มมากขึ้น


    ยิ่งโดยเฉพาะตอนนี้  ที่กำลังถูกข้าลงมือทรมาณ  แม้ปากจะร้องบอกว่าเจ็บ  แต่แววตากับร่างกายกลับสวนทาง  ทั้งเบียดกายชิดใกล้และดูดกลืนกินสิ่งที่ข้ามอบให้ไม่ยอมหยุดด้วยความตะกละตะกาม


    ....ช่างเป็นร่างกายที่น่ารักเสียนี่กระไร....


    ...ร้องขอข้าอีกสิ   จงร้องขอข้าด้วยน้ำเสียงทรมาณต่อไปอย่าหยุด...


    ...เจ้ารู้หรือไม่ว่าเสียงของเจ้ามันไม่ได้ทำให้ข้ารู้สึกสงสารเลยสักนิด  ตรงกันข้ามน้ำตาของเจ้ากลับยิ่งทำให้ข้ารู้สึกหิวกระหาย...


    ...อยากรังแกเจ้าไม่ยอมหยุด...


    “ไม่เอาน่า  ข้ารู้ว่าเจ้ายังทนไหว”


    “เจ็บ...ขอร้องล่ะช่วยฆ่ากูให้ตายทีเถอะ...”


    สายตาเว้าวอนเต็มไปด้วยความเจ็บปวด  เหมือนสัตว์ใกล้ตายที่ไร้กำลังต่อสู้และวิงวอนต่อความตายให้มาถึงโดยไว...กลายเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีให้เลือดในกายของชายหนุ่มสูบฉีดแรงเร็ว  เรียกให้ความดิบเถื่อนที่ซุกซ่อนไว้คุกโชนจนแทบมอดไหม้


    “ปากช่างโกหก...แม้จะร้องบอกอยู่เสมอว่าทรมานแต่ร่างกายนี้ก็ยังรับความเจ็บปวดที่ข้ามอบให้ไม่หยุด...”


    “หุบปากนะ!


    กูมิได้อย่างที่มึงพูด


    กูมิได้สุขเปรมปรีดั่งที่มึงกล่าวหา


    ตัวกูไม่เคยยินดีกับความเจ็บปวดที่มึงยัดเยียดให้มา


    “อย่าทรมานกูต่อไปอีกเลย...ขอร้อง”  น้ำเสียงแหบพร่าเริ่มขาดห้วง  ส่งเสียงร่ำไห้ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีและทิฐิที่เคยมี


    ก่อนสติจะหลุดลอยหายไปเด็กหนุ่มก็เหมือนได้ยินเสียงจากที่ไกลๆ  เป็นเสียงทุ้มนุ่มแต่หนักแน่นดังเข้ามาในหัวและสลักลึกอยู่ในใจเขาไม่หายไปไหน


    “เจ้ามนุษย์ตัวน้อย...เจ้าเป็นของข้าตลอดไป”


    ข้าจะฝึกฝนเจ้าให้ร่างกายและหัวใจดวงนี้เป็นทาสของข้าแต่เพียงผู้เดียว  ไม่ว่าจะหนีข้าไปไหนเจ้าก็ยังเป็นของข้าตลอดไป


    ...จงจำเอาไว้ให้ดี...


    ไม้สะดุ้งตกใจตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย


    สายลมโบกโชยรู้สึกเย็นสบาย   เสียงนกกาเริ่มบินกลับรัง  เหมือนคนงานทั้งหลายในท้องนาที่กำลังเตรียมตัวกลับบ้านไปพักผ่อน


    นี่ข้าฝันไปอีกแล้วงั้นรึ?


    เหตุใดถึงกลับมาฝันถึงปีศาจร้ายตนนั้นอีก?


    “ตื่นแล้วรึ?  เออดีจะได้ไม่ต้องเสียเวลาปลุก   ไหนบอกว่าจะมาช่วยงานเกี่ยวข้าวไปได้หน่อยเดียวก็ดันเสือกเป็นลมแดดนอนสลบเมือดไปทั้งวัน”


    ไม้แหงนหน้ามองชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังบ่นงึมงำเป็นหมีกินผึ้งใส่เขาไม่หยุดปาก


    “ฝันอีกแล้ว”


    คณัสนันท์เลิกคิ้วมองหน้าเด็กหนุ่ม...บอกกูทำไม?


    “หลังจากที่อาศัยอยู่กับหลวงตาที่วัด  ก็ไม่ได้ฝันเห็นตอนอยู่ข้างล่างแต่ไฉนวันนี้ถึงได้กลับมาฝันอีก....พวกเจ้ายังต้องการอะไรอีก”


    อ๋อ....พี่กูแผลงฤทธิ์นี่เอง


    จะทำเป็นไม่รู้ไม่สนใจต่อไปก็รู้สึกสงสาร   ถ้าเช่นนั้นก็ถือเสียว่าช่วยเหลือให้ ‘ว่าที่พี่สะใภ้ กับพี่ตัวเองให้ได้ลงเอยกันเสียที...ขี้เกียจปวดหัวกับเจ้าพวกนี้ต่อไปอีกแล้ววุ้ย


    “จะบอกอะไรดีๆให้ฟัง  แรกเริ่มเดิมทีข้าลักพาตัวเอ็งไปก็แค่จะเอาไปขังสักหลายวันเพื่อสั่งสอนให้ลดความปากดีและท่าทางถือดีลง   ไม่รู้เป็นบังเอิญหรือเพราะกรรมของเอ็งก็ไม่รู้ที่พี่ข้าดันกลับมาพักผ่อนจากการทำงานพอดี.....”


    คณัสนันท์ตัดสินใจนั่งยองๆ  พร้อมกับป้องปากบอกความจริงให้เด็กหนุ่มได้รับรู้


    “พี่ข้าถูกใจเอ็งตั้งแต่แรกเห็น”


    หา!


    “มีเอ็งคนแรกนี่แหละที่ได้อยู่ชิดใกล้กับพี่ข้านานขนาดนั้น”


    ไม้รู้สึกเหมือนเห็นหมูบินได้  ม้าออกลูกเป็นไข่  “แต่เจ้าปีศาจร้ายตนนั้นทรมาณข้านานหลายเดือน  แล้วจะให้เชื่อในสิ่งที่พูดออกมาได้เช่นไร?”


    “ขอพูดแบบเปิดอกเลยนะ...พี่ข้านิสัยเหมือนสหายข้าตรงที่ไม่นิยมชมชอบให้ใครชิดใกล้เกินความจำเป็น นิสัยขี้เบื่อสนใจสิ่งใดแค่ชั่วครู่ก็เลิก  แต่กับเอ็งที่ถูกกักขังในห้องพี่ข้านานนับเดือน  แม้จะถูกปล่อยตัวมาแล้วพี่ข้าก็ยังไม่ยอมเลิกลาตามมาวุ่นวายกับมนุษย์เช่นเอ็งอีก...เช่นนี้จะให้คิดเป็นอย่างอื่นหรือไง?”


    ไม้ยังคงนั่งนิ่งเป็นหิน  มองชายหนุ่มเหมือนเห็นของประหลาด


    “ข้าบอกได้แค่นี้ที่เหลือก็ลองถามใจตัวเองดูว่าสิ่งที่ได้ยินเป็นเรื่องจริงหรือไม่?...ป่ะ ไอ้ทองดำเริ่มกวักมือเรียกแล้ว”


    เด็กหนุ่มเริ่มมีอาการสับสนคล้ายโลกใบนี้หมุนพลิกกลับ  ไม่ใช่โลกใบเดิมที่เคยรู้จัก


    ในช่างแรกๆที่เขาหลุดพ้นมาจากขุมนรกนั่นมา  ทุกคืนก็จะนอนฝันร้ายถึงวันคืนที่ผ่านมาจนไม่กล้าแม้แต่จะนอน  กลางวันไม่กล้าออกไปข้างนอกเพราะกลัวที่จะถูกลากกลับไปสถานที่แห่งนั้นอีก


    ในหัวเฝ้าวนเวียนนึกถึงแต่ปีศาจร้ายตนนั้น


    ปีศาจร้ายที่......โหดร้าย


    ปีศาจร้ายที่......เลือดเย็น


    ปีศาจร้ายที่......ไร้ความปรานี


    ปีศาจร้ายที่......ชอบทรมานข้าให้เจ็บปวด


    กลัว......ข้ากลัว....


    ....ข้า.....


    “คิดถึงเจ้า”


    นี่มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม?....ใครก็ได้ช่วยบอกข้าที  ว่าสิ่งที่ข้าเห็นตรงหน้ามันมิใช่ความฝัน


    หมับ!


    “อูย...ท่านท้าวชาละวันที่เคารพ  เอ็งจะหยิกแขนกูทำหอกอะไรวะ!? ดูสิแดงจนเกือบเขียวเลยเห็นไหม?”


    เสียงกระซิบร้องโอดโอยจากปากเพื่อนรัก  ทำให้ชายหนุ่มรูปงามตั้งมือขึ้นมาทำท่าจะลงมือหยิกอีกรอบ  เพื่อจะได้พิสูจน์ดูว่า  ไอ้หนังที่หนาเป็นหนังควายเช่นมันจะมีอาการแดงจนเกือบเขียวจริงดังปากบ่นหรือไม่


    “พอๆ กูรู้นะว่าคิดจะทำอะไร  ตั้งแต่ริจะมีเมียเด็กรู้สึกว่าจะชอบหยอกเล่นแรงๆขึ้นนะท่านท้าว”


    “ปากดีเหลือเกินนะท่านแม่ทัพ  ถ้ากูมีเมียเด็กแล้วไปหนักส่วนไหนของมึงฮะ? หรือเพราะเดี๋ยวนี้เริ่มมองไม่เห็นหัวว่าใครเป็นเจ้านายถึงได้กล้ากำเริบเสิบสานได้เพียงนี้” ไอ้นี่ไม่รู้อะไรเสียแล้วด่าตัวข้า  ข้าไม่รู้สึกเจ็บแต่ถ้าด่า ว่าที่เมีย’ ที่เคารพกูเอาตาย


    “ขอรับๆ  ข้าน้อยขอประทานอภัยด้วยขอรับ”  คณัสนันท์ขานรับอย่างขอไปที  เมื่อกำลังจะเจออิทธิฤทธิ์ฟาดหัวฟาดหางของคนเริ่มกลัวเมีย


    วันนี้เกี่ยวข้าวกันอยู่ดีๆกับชาละวัน  จู่ๆก็มีคนงานจากบ้านเศรษฐีคำวิ่งแจ้นมาบอกให้ไปที่บ้านใหญ่  แถมยังบอกแค่ว่าครอบครัวเศรษฐีขวานกับหลวงตารออยู่...ไอ้เราก็นึกว่าเจ้าสองตัวแสบนั่นจะไปก่อเรื่องเดือดร้อนอะไร  หากแต่พอเหยียบเท้าขึ้นมาบนบ้านเท่านั้นล่ะ


    ...แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง 


    “น้องนัน!” เสียงร้องแหลมสูงของสตรีร่างระหงเอ่ยปากร้องตะโกนเรียกชื่อชายหนุ่มตัดหน้า  พร้อมกับโผเข้ามากอดปนกับเสียงสะอื้นและน้ำตา  โดยที่คนถูกกอดทำได้แค่ยืนตัวแข็งทื่อ  อ้าปากพะงาบๆหาเสียงตัวเองไม่เจอ  สติมึนวูบไปสักพัก  จวบจนได้ยินเสียงต่ำๆที่คุ้นเคยเอ่ยข่มขู่กระซิบอยู่ข้างหู


    เล่นตามน้ำไปก็พอ  อย่าให้ข้าเสียเรื่องนะไอ้น้องชาย


    บ๊ะเจ้า!...เสียงนี้ใช่เลย...ใช่เจ้านั่นจริงๆด้วย 


    ...เมื่อวานเพิ่งจะนินทามันไปหยกๆ


    ว่าแต่ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้วะ?  แถมยังมาในสารรูปนี้ด้วย


    สายตาคมเข้มกวาดสายตามองบริเวณรอบๆอย่างรวดเร็ว


    ที่กลางบ้านมีหลวงตาคงนั่งอยู่เป็นประธาน  ฝั่งซ้ายมือของท่านมีครอบครัวเศรษฐีขวานนั่งอยู่  ส่วนทางฝั่งขวามือนั้นก็มีเศรษฐีคำ  ไกรทอง  และทองดำ  โดยทีไม้นั่งตัวสั่น  หน้าตาดูซีดๆอยู่ตรงกลางระหว่างทุกคน


    จากแผนผังการนั่งของทุกคนในที่นี้  แสดงให้รู้ว่ากำลังมีการสอบสวนอะไรบางอย่างแน่ๆ   ซึ่งคนที่โดนสอบอยู่คงจะเป็นไอ้ไม้และ......


    “อย่ามัวแต่ยืนอ้ำอึ้ง  เอ็งรีบพา ‘พี่สาวไปนั่งให้เรียบร้อยเสียทีสิวะ ปล่อยให้คนอื่นเขาสงสัยนานๆมันจะไม่ดี”


    ชาละวันตบบ่าหนาของเพื่อนรักปุๆ


    เมื่อได้สัญญาณเตือนจากพวกเจ้าแผนการทั้งสอง  ชายร่างใหญ่จึงต้องรีบกุลีกุจอไหลสรไปตามน้ำ ด้วยการพาผู้เป็นพี่สาวไปนั่งอยู่ข้างๆไม้ตามเสียงกระซิบ  ก่อนจะถอยหลังมานั่งข้างๆชาละวันทางฝั่งเศรษฐีคำ


    “เอาละในเมื่อมากันครบแล้ว  ในฐานะที่อาตมาเป็นคนกลางจึงจะขอซักถามเรื่องราวทั้งหมดให้กระจ่าง...เริ่มจากเจ้าแล้วกัน  ตอนที่มาอยู่หมู่บ้านใหม่ๆเจ้าบอกเป็นคนพเนจร เหตุไฉนมาวันนี้ถึงได้มีสตรีมาร้องบอกว่าเป็นพี่สาวที่พัดพรากจากกัน  ความจริงเป็นเช่นไรกันแน่ขอให้เจ้าเอ่ยปากชี้แจงแถลงไขเถิด”


    พี่สาว!?


    หมายถึงเจ้านี่นะเหรอ?


    เอาเช่นไรดีวะ? ไม่รู้ว่าไอ้พี่สาวตัวดีมันบอกอะไรออกไปแล้วบ้างวะ  ถ้าขืนพูดไม่ตรงกันมีหวังข้าซวยแน่ๆ


    “ว่าเช่นไรเจ้านัน  มีอะไรทำไมไม่พูดออกมา”


    ดูจากสถานการณ์และคำพูดของทุกคนแล้ว  คงรู้เพียงแค่ว่าเขากับเจ้าพี่ตัวดีเป็นแค่พี่น้องที่พัดพรากจากกันเท่านั้นสินะ...ดีละ  ถ้าเช่นนั้นก็แต่งเรื่องมันไปสดๆนี่แหละ


    คณัสนันท์สูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่


    “เดิมทีครอบครัวของข้าเคยอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพ่อ แม่ พี่สาวและข้า  จนกระทั่งวันหนึ่งครอบครัวข้าถูกปล้นบุพการีทั้งสองถูกฆ่าตาย  ส่วนข้าเพื่อปกป้องพี่สาวจึงพลั้งมือสังหารอีกฝ่าย  ข้าจึงจำใจต้องทิ้งศพพวกท่านเอาไว้แล้วพาพี่สาวหนีมาหลบอยู่กับญาติห่างๆแถบแถวคุ้งใต้  แต่เพื่อความปลอดภัยจึงได้ฝากพี่เอาไว้ก่อนจะออกเดินทางทำงานเก็บเงินตั้งตัว....หลังจากนั้นเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นงั้นรึ? พี่พินถึงมาอยู่ที่หมู่บ้านนี้ได้”


    เมื่อโดนน้องชายส่งเผือกร้อนโยนคืนกลับมาให้  หญิงสาวจำแลงจึงหาทางแก้ลำด้วยการก้มหน้ามอบกระแตลงกับพื้น  เสแสร้งร้องห่มร้องไห้เสียงดังให้ฟังดูน่าเวทนาสงสาร  จนทำให้เหล่าผู้ชมไม่รู้อิโหน่อิเหน่ทั้งหลายล้วนเกิดอาการเลิ่กๆลั่กๆ


    ชาละวันเหล่ตามองคนเจ้าบทบาทด้วยความอิดหนาระอาใจ


    ข้าบอกให้เล่นละครตบตาเอาแค่พอประมาณ  แต่นี่กลับ...เฮ้อ!...อย่าให้ลูกน้องมาเห็นกันนะไม่เช่นนั้น...


    ...ลูกน้องได้มีหมดศรัทธากันแน่ๆ...


    “พี่พินใจเย็นลงเถิด  หากมีเรื่องอันใดไม่ดีกับพี่ก็ช่วยบอกแจ้งให้พวกฉันรู้เถิด อย่าเก็บงำหรือปิดบังต่อไปอีกเลย”


    ...เลิกเล่นบ้าๆกันได้แล้ว  จะโกหกเช่นไรก็พูดไป  ข้าไม่มีเวลามานั่งฟังพวกเจ้าสองพี่น้องหยอกเย้ากันทั้งวันหรอกนะ....


    เมื่อโดนข่มขู่มาทางสายตาคนเจ้าน้ำตาเลยทำเป็นเก็บความเศร้าโศกเอ่ยเล่าเรื่องราวให้ฟังด้วยน้ำเสียงสะอื้นไห้ “...หลังจากที่น้องนันจากไป  เดิมทีพี่ก็อยู่กับญาติมีความสุขดีจนกระทั่งป้าป่วยตาย...ฮึกๆ....ไม่รู้ผีตนใดเข้าสิงลุงให้คิดตบแต่งพี่เป็นเมีย  ซ้ำร้ายลูกชายของลุงกับป้าที่กลับมาจากค้าขายก็อยากได้พี่เป็นเมียเหมือนกัน....พี่....พี่ไม่รู้จะทำเช่นไรจึงหาทางบ่ายเบี่ยงไปว่า  อยากไว้ทุกข์ให้ป้าสักร้อยวันเมื่อครบกำหนดพี่ถึงจะเลือกว่าจะแต่งกับผู้ใด”


    ครั้นฟังพี่สาวเล่าจบคณัสนันท์เลยรีบแกล้งร้องโวยวายเสียงดัง  ทำท่าถมึงทึงโกรธเกรี้ยวน่ากลัว  “นี่ไม่เท่ากับว่าข้าฝากปลาย่างไว้กับแมว  หนีเสือปะจระเข้งั้นรึ...หนอย  ไอ้พวกชั่วกูอยากฆ่าพวกมันให้ตายคามือนัก”


    ไม่เพียงแค่ชายร่างหนาเท่านั้นที่โกรธแต่ชาละวันที่นั่งฟังอยู่ก็แสดงสีหน้าขุ่นแค้นไม่แพ้กัน  ไกรทองและทองดำที่นั่งอยู่ใกล้กันต้องรีบสอดมือเข้าปลอบใจพี่ชายทั้งสองคนให้ใจเย็นลง


    “แล้วเหตุใดแม่พินถึงมารู้จักน้องชายฉันได้?  ไปรู้จักกันตอนไหน?”  แม้ในใจเริ่มรู้สึกสงสารหญิงสาวที่ต้องเจอโชคชะตาอันโหดร้าย  แต่ถึงอย่างไรก็ควรถามความเป็นมาทั้งหมดให้กระจ่างดีเสียก่อน  ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง


    หญิงสาวนามว่าพินเลยก้มหน้าทำทีให้ดูเป็นกุลสตรี  กระบิดกระบวนดูเขินอายไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามาสบตาหรือเอ่ยปากบอกผู้ใดในที่นี้รับทราบ  ทำเอาคณัสนันท์  ชาละวัน  และไม้  ถึงกับขนแขนลุกชันทั้งตัว  เมื่อได้มาเห็นการแสดงที่สมจริงสมจังของคนตรงหน้า


    ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าทำถึงขนาดนี้  ประเมินเจ้าผิดไปจริงๆ


    “ว่าไงไอ้ไม้  ช่วยบอกข้ากับพ่อทีสิว่าไปรู้จักมักจี่กับแม่พินได้เช่นไร?  แม่พินถึงได้เดินทางตามหาเอ็งด้วยตัวเองเยี่ยงนี้” เมื่อรู้ตัวว่าไม่ควรตั้งคำถามเช่นนี้กับอิสตรี  คนเป็นพี่ชายเลยหันไปถามเรื่องราวจากปากน้องชายแทน


    ไม้ที่นั่งเงียบมานานถึงกับสะดุ้งตกใจที่โดนพี่ชายโยนคำถามมาให้อย่างไม่ทันตั้งตัว  เจ้าตัวเลยทำได้แค่เสียงเอ่อๆอ่าๆในลำคอ  ไม่ยอมอธิบายความเป็นมาให้ทุกคนฟังเสียที


    สายตาที่กดดันมาจากทุกทิศ  ทุกทางยิ่งทำให้เด็กหนุ่มนั่งตัวลีบปากหุบเงียบเหมือนหอยกาบ.....ถ้าพูดความจริงออกไปทุกคนจะต้องหาว่าสติฟั่นเฟือนแน่ๆ  จากนั้นก็คงไม่แคล้วโดนเจ้าสามคนนี้รุมหักคอโทษฐานเปิดเผยตัวจริงให้คนอื่นรับรู้   แต่ถ้าหากพูดโกหกออกไปแล้วทุกคนเชื่อละ...มันจะเกิดเรื่องอะไรไม่ดีกับข้าหรือปล่าว


    “ไอ้ไม้”  เมื่อเห็นน้องชายนิ่งเงียบนานเกินไป  เจ้าตัวเลยต้องเร่งเอาคำตอบเป็นคำรบสอง


    ข้าควรจะเลือกทางใดดี....บอกความจริงให้ทุกคนรับรู้หรือช่วยพวกนี้ปิดบังความจริงต่อไป


    ไม้ส่งสายตาเลิ่กลักไปทางพ่อ  พี่ชาย   เศรษฐีคำ   หลวงตา   พวกไกรทอง   และหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างกายตน


    ทันทีที่สบตากับแม่พิน  เด็กหนุ่มจึงรู้ได้ทันทีว่าทางเลือกของเขามีเพียงแค่ทางเลือกเดียวเท่านั้นคือ.....


    เอาวะ...ตายเป็นตาย...โกหกมันไปสดนี่แหละถ้ามีตรงไหนผิดพลาดเดี๋ยวเจ้าปีศาจคงจะช่วยหาทางออกให้เอง


    “วะ...วันที่หนีเตลิดไปเพราะความเสียใจ...ฉะ...ฉันซัดเซพเนจรเดินทางไปเรื่อยไร้จุดหมาย...จน...จนไปถึงหมู่บ้านที่แม่พินอาศัยอยู่....เอ่อ...คือ....และ...และได้แม่พินคอยดู...ดูแลฉัน”


    เพลิงเลิกคิ้วมองหน้าเจ้าน้องชายตัวดี “ตลอดสามเดือน?”


    “ใช่”


    คำว่าใช่ของเอ็งทำไมมันเสียงแผ่วจังวะ?  แถมเวลาเล่าก็ยังเอาแต่ก้มหน้า  เวลาพูดอธิบายตะกุกตะกัก  เหมือนคนไม่กล้าเล่า...สงสัยจะกลัวพ่อโกรธ


    หญิงสาวก้มหน้าก้มตาเห็นน้ำตาที่หางปรอยๆให้ดูเป็นที่น่าสงสาร


    จนเศรษฐีขวานอดไม่ได้ที่ขอเอ่ยถามเรื่องราวเป็นไปของนางต่อจากนั้น


    แม่พินแกล้งบีบน้ำตาเอ่ยปากเล่าด้วยความระทมใจ “หลังจากไม้เดินทางกลับบ้าน  ชั้นก็ได้แต่เฝ้ารอจนใกล้ครบกำหนดร้อยวัน  สองพ่อลูกเลยยิ่งพากันรุกไล่ชั้นหนักขึ้นเรื่อยๆ....จน...จน...จนฉันต้องแอบหนีออกจากบ้านเพื่อฆ่าตัวตาย   แล้วค่อยเดินทางตามหาไม้จนมาถึงที่นี่”


    เล่าจบถึงตรงนี้หญิงสาวก็ยิ่งน้ำหูน้ำตาไหลหนักขึ้น  จนทำให้ตาทั้งสองข้างแดงกร่ำ  ดูบอบบางและน่าสงสารเสียจริง...โถ่! แม่คุณเดินทางมาตัวคนเดียวคงจะลำบากน่าดู  คนเราก็ช่างใจไม้ไส้ระกำ  ตัณหาจัดจนต้องบีบให้หญิงสาวหนีออกมาลำบากลำบน


    ...แต่สำหรับสามหนุ่มสองวัยกับเริ่มรู้สึกขนพองสยองตั้งขึ้นเรื่อย  เมื่อเจอกับน้ำตาสั่งได้ของปีศาจร้ายยิ่งโดยเฉพาะไม้ที่ตอนนี้มองอีกฝ่ายเหมือนเห็นผีก็ไม่ปาน


    นี่ขนาดเจอมารยาแค่ไม่กี่เล่มเกวียนมันยังกลัวถึงเพียงนี้  แล้วนี่ถ้ามันเจอมารยาครบทุกพันเล่มเกวียนพี่ข้าเข้าไปมิตกใจตายไปเลยหรือไงวะ...นี่แค่เบาๆนะเจ้าหนู  อยู่ด้วยกันไปนานๆแล้วเอ็งจะรู้ว่าพี่ข้ากับเพื่อนข้านะมันร้ายกาจแค่ไหน


    “ไอ้ไม้นี่เอ็งเป็นอะไรกับแม่พิน  ถึงได้ปล่อยให้ระหกระเหินเดินทางตามหาเอ็งมาไกลขนาดนี้!


    ทันทีที่ฟังเรื่องน่าเวทนาของหญิงสาวจบพี่ชายอย่างเพลิงก็หันมาไล่บี้กับน้องชายอย่างไม่ลังเล  เพราะแม้ตนจะเป็นนักเลงไม่ค่อยเอาการเอางานเสียเท่าไร  แต่ถ้าจะให้เขาทำเรื่องใจดำกับผู้หญิงเช่นนี้ก็ทำไม่ลง


    ท่าทางเอาจริงและโกรธจัดของพี่ชายคนเดียว  ทำให้เด็กหนุ่มเกิดอาการฝ่ามือเย็นเฉียบ  ใจเต้นรัวด้วยความกลัว  จนทำให้เขาอยากหนีไปจากตรงนี้แต่ติดตรงที่หนีไปไหนไม่ได้


    วินาทีนี้ไม้เข้าใจแล้วว่าน้ำท่วมปากนั้นเป็นยังไง


    ทางออกทางเดียวที่อีกฝ่ายเหลือไว้ให้ก็แค่.....


    “เมีย”


    คำเดียวสั้นๆแต่เบาอย่างกับเสียงยุง  ทำให้ทุกคนต้องเงี่ยหูฟังใหม่อีกรอบ


    “ว่าใหม่สิไอ้ไม้  พูดดังๆด้วยนะคราวนี้”


    ไม้กลั้นใจพูดขึ้นมาอีกรอบด้วยความระทมใจ “แม่พินเป็น...เป็นเมียข้า”


    “เมีย!? นี่เอ็งไม่ได้รักตระเภาทองแล้วรึไงถึงได้ไปแม่พินมาเป็นเมีย”


    “ก็ยังรักอยู่”  ไม้สะดุ้งตกใจนิดๆเมื่อรับรู้ถึงรังสีอำมหิตน่ากลัวจากคนข้างๆ “แต่แม่พินก็ดูแลฉันดี...ฉันเลย...”


    “เออๆ  ข้าพอเข้าใจ  มีผู้หญิงหน้าตาดีๆมาคอยดูแลเอาอกเอาใจ  เป็นใครก็ต้องใจอ่อนหลงรักกันทั้งนั้น” เพลิงกอดอกพยักหน้าเป็นเชิงทำนองเข้าใจนิสัยลูกผู้ชายด้วยกันดี


    “งั้นประเดี๋ยวข้าจะช่วยหาหญิงสาวหน้าตาดี  นิสัยดีช่างเอาอกเอาใจมาให้เอ็งแล้วกันนะ  เอ็งจะได้เลิกมาเกาะแกะลูกสาวข้าเสียที”


    “ไม่ต้องเดือดร้อนเศรษฐีคำหรอกจ้ะ  เพราะน้องแก้วของฉันก็มีคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว...จริงไหมจ๊ะ?”


    เมื่อเจอคำพูดจีบลูกสาวของเด็กหนุ่มเข้าให้  หนวดบนหน้าเศรษฐีคำถึงกับกระตุกยิกๆ  มือกำไม้ตะพดแน่น “ลูกข้าไปเป็นของเอ็งตั้งแต่เมื่อไรวะไอ้เพลิง!?”


    เศรษฐีขวานรีบเอ่ยปากห้ามปรามลูกชายก่อเรื่องใหญ่โต  ยิ่งต่อหน้าหลวงตาคงด้วยแล้วจะดูไม่ดี “ตอนนี้จัดการเรื่องเจ้าไม้กับแม่พินให้สำเร็จเสร็จสิ้นเสียก่อนเถอะ  ส่วนเรื่องของเอ็งเดี๋ยวพ่อจะจัดการให้เองไม่ต้องห่วง”


    คราวนี้เศรษฐีคำถึงกับเกิดอาการตีนกระตุก  อยากกระโจนเข้าไปอาละวาดเล่นงานเจ้าสองคนพ่อลูกหัวใสให้หัวร้างค้างแตกกันไปข้าง....ลูกสาวข้าใครอย่าแตะ!!!


    เดือดร้อนให้เด็กหนุ่มสองคนต้องรีบกระเถิบเข้ามารั้งคนอายุคราวพ่อแต่เรี่ยวแรงยังมีเหลือเฟือเอาไว้  ก่อนที่จะมีการวิวาทกันต่อหน้าพระผู้ใหญ่


    แต่สองพ่อลูกยังคงไม่สนใจหันไปถามชายร่างหนาด้วยสีหน้าจริงจัง “ไอ้นัน  เอ็งจะเรียกเท่าไร?”


    “หือ?  อะไรเท่าไร?”  คณัสนันท์แคะขี้หูเพื่อฟังคำถามอีกฝ่ายถนัดชัดเจน


    “ลูกข้าถามว่าเอ็งจะคิดค่าสินสอดทองหมั้นเท่าไร?  เรียกมาได้เลยไม่ต้องเกรงใจ  ส่วนเรือนหอกับงานแต่งเดี๋ยวทางข้าจะเป็นธุระจัดการเอง”


    “ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้กระมัง” 


    ปึง!


    ด้วยเพราะเข้าใจว่าชายร่างใหญ่หาทางปฏิเสธไม่ยอมรับน้องชายตนเป็นพี่เขย  คนเลือดร้อนอย่างเพลิงเลยทนไม่ไหวทุบกำปั้นลงพื้นเรือน  ก่อนจะกราบขอโทษหลวงตาคงที่นั่งเป็นประธานเมื่อรู้ตัวว่าทำกิริยาเสียมารยาทต่อหน้าพระสงฆ์


    “ห้ามปฏิเสธนะเว้ยไอ้นัน  ในเมื่อไอ้ไม้ได้พี่สาวเอ็งเป็นเมียแล้ว  ครอบครัวข้านับว่าเป็นลูกผู้ชายพอและพร้อมที่จะรับผิดชอบ   ไม่ต้องลังเลแล้วจัดงานแต่งไปเลย”


    แววตาและท่าทีเอาจริงของเพลิงทำเอาคณัสนันท์แปลกใจเล็กน้อย...ถึงสันดานเดิมจะชอบรังแกผู้อื่นจนดูเป็นพวกอันธพาลปลายแถว  แต่หัวใจในด้านความรับผิดชอบของมันนับว่านักเลงไม่เบาทีเดียว


    “เอาเช่นนั้นเลยรึ?”


    “เออ! ถึงแม้จะไม่ค่อยชอบใจที่ครอบครัวเอ็งกับครอบครัวข้าต้องมาเกี่ยวดองกัน  แต่เพื่อความสุขของน้องชายข้าจะยอมทนปิดตาข้างหนึ่งเปิดตาข้างหนึ่งก็แล้วกัน”


    ชายร่างหนามองหน้าพี่สาวอย่างนึกคิดชั่งใจ  แล้วทำทีถอนหายใจด้วยความเสียดาย “เอาก็เอา  ไหนๆข้าวสารมันก็กลายเป็นข้าวสุกไปแล้วนี่”


    เมื่อทางญาติฝ่ายหญิงเพียงคนเดียวตกลง  เศรษฐีขวานจึงขอความเห็นจากหลวงตาคง  แต่ด้วยเพราะท่านนั้นเป็นพระสงฆ์องค์เจ้าจึงต้องบอกปัดออกไปว่า “เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องของผัวๆเมียๆพระยุ่งไม่ได้”


    เศรษฐีคำจึงรับอาสาเข้าช่วยจัดการแทน “ถ้างั้นให้ครอบครัวไอ้ขวานรับหน้าที่ไปจัดเตรียมสินสอดให้พร้อม  ส่วนแม่พินให้มาอยู่ที่บ้านข้าไปก่อน  เดี๋ยวทางครอบครัวข้าจะช่วยจัดเตรียมงานแล้วก็จะรับหน้าที่เป็นญาติทางฝ่ายเจ้าสาวให้แทนเอง”


    สองครอบครัวเศรษฐีประจำหมู่บ้านจึงวางเรื่องบาดหมางเอาไว้ชั่วคราว  หันหน้ามาปรึกษาหารือเรื่องงานแต่งงาน  ยิ่งโดยเฉพาะไอ้เพลิงรู้สึกจะกระเหี้ยนกระหือเป็นพิเศษ...งานแต่งน้องชายคนเดียวของข้าจะต้องไม่น้อยหน้าใครในหมู่บ้านหรือใครหน้าในทั้งนั้น


    ส่วนทางเจ้าคณัสนันท์เขยิบเข้าไปใกล้ไม้แล้วจับมือมันวางทาบทับบนมือหญิงสาวก่อนจะเอ่ยฝากฝังด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ “ฝากพี่ข้าด้วยนะพี่เขย”


    คนเป็นพี่เขยถึงกับหน้าซีดเผือด  ซึ่งกว่าจะตั้งสติได้ทั้งเด็กหนุ่มก็ตกอยู่ท่ามกลางเสียงพูดคุยดังลั่นของทุกคนรอบตัว  ไม่ว่าจะเป็นเสียงสั่งงานหรือแม้แต่เสียงอวยพร


    “ดีใจด้วยนะไอ้ไม้ที่ได้เป็นฝั่งเป็นฝาก่อนใครเขา  แถมว่าที่เมียยังสวยเสียขนาดนี้  น่าอิจฉาเอ็งจริงๆ” ทองตบบ่าว่าที่เจ้าบ่าวปุๆ  พร้อมรอยยิ้มกว้าง


    “ข้าคงพูดอะไรมากไม่ได้  เพราะถึงจะเกลียดกันแค่ไหน  ไม่ชอบหน้ากันเพียงใด  แต่ข้าก็จะช่วยงานแต่งเอ็งเต็มที่ไม่ต้องห่วง”


    ชาละวันยีหัวไกรทองด้วยความหมั่นเขี้ยว  แล้วหันมาอวยพรด้วยอีกคน


    “ดีใจด้วยนะ  อยู่กันยาวๆละ”


    ไม้เกิดอาการใบ้กินไปชั่วขณะ  สองหูรู้สึกอื้อจนไม่ได้ยินเสียงของทุกคน  ยกเว้นเพียงเสียงกระซิบเบาๆลอยกระทบมาตามลม  แต่กลับเป็นเสียงที่เขาได้ยินชัดเจนที่สุด


    “ข้าบอกแล้วไงว่าเจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก”



    *****************************


    ไอ้ไม้กำลังจะได้แต่งเมีย(?)  แล้วเมียมันเป็นใคร  

    เดี๋ยวคงจะได้รู้กัน


    ปล.สรุปแล้วไม้น้องชายพี่เพลิงเป็น M ใช่มั้ยเนี่ย!?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×