คำสารภาพของนางร้าย ขอเป็นได้แค่เพื่อนนางเอก - คำสารภาพของนางร้าย ขอเป็นได้แค่เพื่อนนางเอก นิยาย คำสารภาพของนางร้าย ขอเป็นได้แค่เพื่อนนางเอก : Dek-D.com - Writer

    คำสารภาพของนางร้าย ขอเป็นได้แค่เพื่อนนางเอก

    ฉันเฝ้าคอยทำลายชีวิตของคนคู่หนึ่ง ที่ๆคนนึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนรักของฉันเพื่อนซี้ไม่มีวันทิ้งกันและไม่เคยปล่อยให้ฉันเดียวดายกับอีกคน ชายที่ฉันรักรักเสมอมา ใช่ฉันเป็นนางร้ายแต่ทำไมน้ำตาฉันถึงไหลนะ

    ผู้เข้าชมรวม

    39,139

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    39.13K

    ความคิดเห็น


    1.02K

    คนติดตาม


    155
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 มี.ค. 60 / 01:11 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      [{คำสารภาพของนางร้าย ขอเป็นได้แค่เพื่อนนางเอก}] 

      - -ยัยบ้าใครจะอายุยืนถึง 200 ปีเชียวหละฮะ
      - -เอ้าก็ฉันไงหละ เธอก็ด้วยนะ เราสองคนจะเป็นเพื่อนกันไปอีก 200 ปี
      - -อืมแล้วที่เวลาเหลือลjะ
      - -เ รา ก็คงจะตายไปทีละคนสองคนหละมั้ง..ฮิฮิ แต่เธอต้องสัญญานะว่า เราจะเป็นเพื่อนกันไปอีก 200 ปี และตลอดไป
      - -แหวะ เลี่ยนจัง...ฉันไม่ใช่เต่านะ... อะอะ สัญญา.. เราสองคนจะเป็นเพื่อนกันไปอีก 200 ปี
      - -แต่...เออ ตลอดไปนี้มันนานแค่ไหนนะ
      - -ก็คงจะนานนน....นานมากก...นานแสนนาน หรืออาจจะมากกว่า200 ปีเลยหละมั้ง???
      - -แต่ถึงว่ามันจะนานแสนนานแค่ไหน
      - -เราทั้งสองจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปนะ อะ..สัญญา
      - - เรา 2 คนจะเป็นเพื่อนกันไปอีก 200 ปี และตลอดไป


      >>>ฉันกับน้ำฟ้า เราเป็นเพื่อนเล่นกันตั้งแต่เด็ก ตัวเล็กเท่าหัวแม่โป้ง
      >>>บ้านของเราห่างกันไม่ถึง 3 เมตร มีเพียงแต่ถนนสีเทาหม่นๆที่คั้นกลางระหว่างบ้านของเราทั้งสองเอาไว้
      >>>น้ำฟ้า เป็นคนน่ารัก มีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่น
      >>>เธอเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมประจำหมู่บ้าน เป็นฮีโร่ในดวงใจของฉัน และเด็กแถวบ้านหลายๆคน
      >>>น้ำฟ้ามักชอบชวนฉันเล่นกำลังภายในเสมอ
      >>>เธอนิสัยคล้ายกับผู้ชาย ชอบทำตัวเป็นคนเก่ง
      >>>แต่ทั้งๆที่จริงแล้ว เธอก็เป็นคนอ่อนไหวมิใช้น้อย
      >>>เวลาที่มีเรื่องกระทบจิตใจนิดๆหน่อยๆ เธอก็ร้องไห้ขี้มูกโป่ง คอยวิ่งมาซบอกฉัน
      >>>แต่ในทางกลับกัน เวลาที่เธอหกล้มหัวแตก หรือกระทั่งล้มหัวฟาดพื้นเธอก็ไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็นมาก่อน
      >>>วันทั้งวันเธอคุยได้ไม่มีหยุด คุยตั้งแต่เรื่องทั่วๆไป จนถึงเรื่องลึกลับซับซ้อน ที่เด็กเล็กๆอย่างเราไม่เคยรู้
      >>>เธอเป็นนักวิชาการสาวน้อยที่ชอบกินทุเรียนเป็นที่สุด
      >>>ไม่ว่าจะเป็นทุเรียนสด ทุเรียนทอด ไอศครีมทุเรียน และก็อะไรต่างๆที่เกี่ยวกับทุเรียน
      >>>เธอจะกิน กิน และก็กิน จนทั้งกลิ่นตัวกลิ่นปากของเธอกลายเป็นกลิ่นทุเรียนไปหมดแล้วหละมั้ง

      <<<ฉัน น้ำฝน สาวน้อยน่ารัก หน้าตาจิ้มลิ้มตั้งแต่เด็ก นิสัยอ่อนแอ ไม่ชอบทำร้ายใคร ช่วยเหลือตนเองไม่ได้มากนัก
      <<<เวลาถูกแกล้งก็ร้องไห้ไปฟ้องยาย ก็มีแต่น้ำฟ้านี่และที่คอยช่วยฉันเสมอ
      <<<ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่มีพวกเด็กผู้ชายแถวบ้านมาแกล้งฉัน น้ำฟ้า ก็คอยไล่ตะเพิดพวกมันออกไป
      <<<จนถึงเรื่องที่ฉันแอบกินขนมในห้องเรียนตอนครูสอน น้ำฟ้าก็จะออกคอยรับแทนเสมอ

      +++เราทั้งสองเป็นเพื่อนรัก ชนิดที่เรียกว่า รักสุดขั้วหัวใจ
      +++รักแบบที่ไม่มีสิ่งใดมาพรากจากได้ แต่ก็น้อยครั้งนักที่เราสองคนจะพูดคำว่าฉันรักเธอออกจากปาก
      +++อันที่จริงมันไม่เคยมีซักครั้งเลยด้วยซ้ำ คงเป็นเพราะความเขินอายแหละมั้ง
      +++เฮอ...ยังไงก็เถอะ ฉันก็รู้ว่า เธอก็รักฉันเหมือนที่ฉันรักเธอนั่นแหละ
      +++เพราะเราทั้งสองมีอะไรที่คล้ายๆกันเสมอ
      +++ไม่ว่า จะเป็นเรื่องของวันเกิด
      +++ฉันเกิดห่างจากน้ำฟ้าเพียงแค่ 5 ชั่วโมง
      +++ดังนั้นเราจึงเกิดวันเดียวกัน เดือนเดียวกัน ปีเดียวกัน ราศีเดียวกัน
      +++แถมกรุ๊ปเลือดยังกรุ๊ปเลือด B เหมือนกันอีกตั่งหาก
      +++ชื่อของเธอกับฉันยังออกไปทางแนวเดียวกันอีกด้วย น้ำฟ้า กับ น้ำฝน เพื่อนซี้ไม่มีซั้ว
      +++ผมของเธอเป็นผมตรงดำยาว เหมือนฉัน ที่ตรงยาวดำ
      +++ตาของเธอกลมโต เหมือนของฉันที่โตกลม
      +++เราทั้งสองสูงเท่ากันตลอด ตั้งแต่เด็กยันโต เราจะสูงเท่าๆกันมาเสมอ หรือถ้าจะห่าง ก็ห่างกันเพียงแค่ 1-2 เซนเท่านั้น
      +++นี่แหละมั้งที่ทำให้เราทั้งสองเป็นเพื่อนซี้ไม่มีวันทิ้งกัน และมิตรภาพของเราก็จะไม่มีวันสิ้นสุดจนวันตาย

      - - -แต่ก็มีอยู่เรื่องนึงนะ ที่เราสองคนแตกต่างกันคนละขั้วเลยก็ว่าได้
      - - -น้ำฟ้าเป็นคน อัธยาศัยดี ชอบยิ้ม ชอบหัวเราะจนน้ำลายไหล
      - - -เธอมีเพื่อนฝูงมากมาย ตั้งแต่ผู้ชาย ยัน กะเทย ก็ไม่เกี่ยง
      - - -แถมยังเรียนเก่งชนิดที่เรียกว่า อัจฉริยะสมองไว
      - - -เก่งจนหัวของเธอจะกลายเป็นเข็มหมุดอยู่แล้วหละมั้ง
      - - -เธอทั้งเข้มแข็ง อดทน ไม่ยอมร้องไห้ให้ใครเห็นง่ายๆ และคอยปกป้องฉันเสมอมา แถมยังชอบกินทุเรียนเป็นชีวิตจิตใจ
      ###ต่างจากฉันที่เกลียดทุเรียนสุดขั้ว เกลียดแบบสุดๆ อีกทั้งฉันยังไม่มีเพื่อนซักคน
      ###ก็มีน้ำฟ้านี่แหละที่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่ฉันมีอยู่
      ###แถมฉันยังเป็นคนหัวอ่อนเรียนก็ไม่ค่อยเก่ง สอบทีไรก็ได้ที่ปลายๆของห้องทุกที
      ###แล้วฉันยังร้องไห้ง่ายอีกต่างหาก แค่ใครมาหยิกนิดเดียวก็ร้องไห้งอแงทั้งวันแล้วหละ
      ###แต่ก็ดีนะที่มีน้ำฟ้าคอยปลอบ คอยปกป้องฉัน ไม่งั้นเป็นชั่วโมงฉันก็ร้องไห้ไม่หยุดเลยหละ
      ###แต่ฉันก็มีดีอย่าง ตรงที่ฉันเป็นคนว่ายน้ำแข็ง ว่ายน้ำเก่งต่างจากน้ำฟ้า ที่แค่แตะน้ำก็ร้องโวยวายซะแล้ว
      ###แต่ก็ช่างเถอะ ยังไงเราก็เล่นต่อสู้กำลังภายในมากกว่า ว่ายน้ำแข่งกันอยู่แล้วหละ

      ###ฉันเป็นคนที่วาดรูปสวย สวยชนิดที่เรียกว่า ผู้ใหญ่ยังตะลึงเลยหละ
      ###ภาพแต่ละภาพของฉัน จัดอยู่ในระดับที่วางขายแล้วได้เงินเป็นกอบเป็นกำนับไม่ถ้วน
      ###เพราะไม่มีผู้ใหญ่คนไหนจะเชื่อหรอกนะว่าเด็กอายุแค่ 7 ขวบอย่างฉันจะวาดรูปได้สวยขนาดนี้
      ###น้ำฟ้าเป็นคนวาดรูปไม่ถึงกับสวย แต่ก็พอใช้ได้
      ###เวลาที่ครูให้นักเรียนวาดรูปทีไร เธอก็มักจะได้ 1 ดาวเสมอ หรือไม่อย่างมากที่สุดก็ได้ 2 ดาวครึ่ง
      ###ดังนั้นทุกๆเย็น เราทั้งสองจะพากันขี่จักรยานคันโปรดไปที่ต้นไม้ใจกลางหมู่บ้านที่มีม้าหินอ่อนเล็กๆให้นั่ง เสมอ
      ###น้ำฟ้าจะคอยสอนการบ้านยากๆให้ฉัน ส่วนฉันก็สอนวาดภาพให้เธอ
      ###แต่ก็นั่นแหละ ถึงฉันจะสอนเธอวาดภาพเท่าไร แต่ภาพของเธอก็ได้แค่ 1 ดาวเสมอ
      ###ส่วนฉันถึงเธอจะคอยสอน คอยอธิบาย จนน้ำลายในปากของเธอเหือดแห้งไปหมดก็ตามที
      ###แต่ฉันก็ยังคงสอบได้คะแนน 5 เต็ม 10 หรือไม่ก็เกือบตกตลอดมา

      +++ชีวิตในวัยเด็กของเราทั้งสองมีแต่เรื่องราวสนุกๆ
      +++วันทั้งวันได้แต่ยิ้ม ยิ้ม และก็ยิ้ม
      +++ทุกๆวันเสาร์อาทิตย์ เราจะเล่นด้วยกันเสมอ
      +++ไม่ว่าจะเป็น เล่นขายของ กระโดดยาง พ่อแม่ลูก กำลังภายใน
      +++อันหลังนี้ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไรหรอกนะ แต่ก็ช่างเถอะน้ำฟ้าเค้าชอบนี่หน่า
      +++กลุ่มของเรามีด้วยกัน 5 คน มีฉัน น้ำฟ้า และก้อเพื่อนๆอีก 3 คน กบ บี และก็บุ้มบิ๋ม
      +++ทั้ง 3 คนนี้ไม่ค่อยสนิทกับฉันเท่าไรหรอกนะ
      +++เด็กๆแถวบ้านมักเรียกเราว่า แก๊งนางฟ้าน้อย
      +++เพราะกลุ่มของเรามีแต่เด็กผู้หญิง ตัวเล็กน่ารัก
      +++จะมีก็แต่ กลุ่มของ ไอ้เอกเท่านั้นแหละ ที่คอยจะกลั่นแกล้งกลุ่มของเราอยู่เสมอ
      +++โดยเฉพาะตัวฉันเองหละมั้ง
      +++แต่ทุกครั้งที่มันแกล้งฉันทีไร น้ำฟ้า ก็จะคอยปกป้องฉันเสมอ
      +++ มันเป็นความรู้สึกอัตโนมัติซะแล้วหละมั้ง ที่เมื่อไรมีน้ำฟ้าอยู่ ฉันก็จะต้องปลอดภัย มีความสุข และสุขใจที่ได้อยู่กับเพื่อนของฉันคนนี้

      +++ ไอ้เอกเป็นคนหน้าตาดี ผิวขาวผุดผ่อง ตาใสแจ๋ว รูปหล่อ แถมพ่อมันยังรวยอีกตั่งหาก
      +++ดังนั้นเด็กสาวแถวบ้านของฉัน จึงติดมันตรึม รวมถึงตัวฉันด้วยหละสิ
      +++ฉันแอบชอบมันมาตั้งนานแล้วหละ ถึงมันจะแกล้งฉัน มากมายเท่าไร แต่ฉันก็ดีใจนะ ที่มันสนใจฉัน แกล้งฉัน
      +++แต่มันติดอยู่ที่ว่า มันไม่ค่อยถูกกับน้ำฟ้าหนะสิ ดังนั้นฉันเลยเก็บความในใจนั้นเสมอมา
      +++ไม่บอกแม้กระทั่งน้ำฟ้าเพื่อนรักของฉันเลยแหละ
      +++แล้วทำไมฉันจะต้องบอกทุกเรื่องกับน้ำฟ้าด้วยหละ
      +++ก็เพราะว่าเราทั้งสอง เป็นผู้เก็บความลับของกันและกันหนะสิ
      +++ทุกๆวันตอนเย็น เราทั้งสองมักจะมาบอกความลับของกันและกันเสมอ
      +++ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่บ้าน ที่โรงเรียน และก็เรื่องต่างๆอีกมากมาย
      +++ดังนั้นจึงไม่ต้องใจแปลกเลย ที่เราจะชอบอะไรคล้ายๆกัน และรู้ใจกันและกันตั้งแต่เด็กยันโต ขนาดนี้

      - - -เราสองคน เป็นเพื่อนรัก......... รักกัน สนิทกัน รู้ใจกัน เล่นด้วยกัน ทุกข์ด้วยกัน สุขด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน เดินด้วยกัน ล้มด้วยกัน ขี่จักรยานพร้อมกัน ไปโรงเรียนพร้อมกัน กลับบ้านพร้อมกัน บางวันก็นอนด้วยกัน บางวันก็อาบน้ำด้วยกัน ตื่นพร้อมๆกัน ตากฝนด้วยกัน เช็ดหน้าให้กัน ร้องไห้ด้วยกัน
      - - -และมิตรภาพ ความรักของเราทั้งสอง ก็ยังคงยืนยงมาตลอดตั้งแต่ 0 ปี 0เดือน 0 วัน
      - - -จนถึง 15 ปี หลายเดือน หลายวัน เราก็ยัง รักกัน เสมอมา 15 ปีแล้วสินะ ที่มิตรภาพของเรายังคงดำเนินเรื่อยมา
      - - -น้ำฟ้า กับฉัน เราอยู่โรงเรียนเดียวกันมาตลอด
      - - -จนถึงตอนนี้ เราก็ยังอยู่ที่โรงเรียนเดียวกัน ห้องเดียวกัน และก็ยังคงเล่นด้วยกัน
      - - -เธอยังคงว่ายน้ำและก็วาดรูปไม่เก่งอยู่เช่นเคย
      - - -แต่นับวัน เธอยิ่งเรียนเก่งขึ้นเรื่อยๆ
      - - -ส่วนฉัน ถึงจะวาดรูปสวยว่ายน้ำเก่งเหมือนเคย แต่ก็ยังหัวอ่อน เรียนไม่เก่งเหมือนแต่ก่อน
      - - -แต่เป็นเพราะอะไรก็ไม่รู้ เราทั้งสองยังคงทำตัวเป็นเด็กเช่นเคย
      - - -เราทั้งกิน เล่น เที่ยว ด้วยกัน บอกความลับกันและกัน อาบน้ำด้วยกัน ทั้งๆที่เราโตเป็นสาวแล้ว แต่เราก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิม
      - - -ฉันอยากจะเก็บมิตรภาพความทรงจำดีๆนี้ไว้ตลอดในส่วนลึกของหัวใจ
      - - -แต่แล้วเรื่องราวของเราก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อฉันและเธอย่างเข้าสู่ ปีที่ 16
      - - -ม.4 ที่ความรู้สึกเหล่านั้นจะกลายเป็นเพียงความทรงจำตลอดกาล

      "น้ำฟ้า น้ำฟ้า ไปโรงเรียนกันเถอะ มันตั้ง 7 โมงแล้วนะ" ฉันตะโกนสุดเสียงเรียกน้ำฟ้า ที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ในบ้านหลังเล็ก
      "จ้าๆๆ อืม ใกล้เสร็จแล้วหละ เดี๋ยวนะ" น้ำฟ้า ยื่นหน้าออกมาจากหน้าต่างบานแคบ ผมของเธอยังคงยาวสลวยเหมือนเก่า
      ไม่ถึง 5 นาที เธอก็รีบวิ่งออกมาด้วยความเร็วสูง พร้อมกับชุดนักเรียน ม. ปลาย สวยใส
      "แต๊น แตน ไงจ๋ะ น้ำฝน สวยมั้ยเอ่ย" เธอพูดพร้อมกับ ยกแขน 2 ข้างขึ้นบนฟ้า พร้อมกับหมุนรอบตัว 2 ครั้ง
      "อืม เออ ฉันว่า ฉันสวยกว่านะ" ฉันพูดพร้อมกับอมยิ้มนิดๆ น้ำฟ้า ทำเมินหน้าหนี แล้วรีบวิ่งไปลากจักรยานคันโปรด
      "เอี่ย ไม่เห็นสวยเลย " น้ำฟ้าพูดพร้อมกับแลบลิ้นยาวเฟื้อย เธอรีบขี่จักรยาน ออกไปข้างหน้าพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
      ฉันรีบขี่ตามไป พร้อมกับ จี้เอวเธอเข้าอย่างจัง
      เธอยิ้มนิดๆ พร้อมกับขี่จักยานไปพร้อมๆกับฉัน
      เราทั้งสอง พูดคุยกันอย่างสนุกท่ามกลางแดดยามเช้าที่สดใส นี่คงเป็นกิจวัตร ประจำวันไปแล้วหละมั้ง
      ทุกๆเช้าเราทั้งสองต้อง ปะทะฝีปากกันก่อน
      หลังจากนั้น ไม่เธอก็ฉันจะขี่จักรยานออกไปพร้อมกับแลบลิ้น แล้วอีกไม่นานอีกฝ่ายก็จะตามมาจี้เอว

      >>>เปิดเทอมวันแรก มันช่างเป็นบรรยากาศที่หน้าตื่นตื่นใจไม่น้อย
      >>>คุณครูคนใหม่ ห้องเรียนห้องใหม่ วิชาใหม่ๆ
      >>>และที่สำคัญนักเรียนคนใหม่

      >>>แหมห้องเราจะมีใครหน้าตาดีมั้ยน้อ แล้วจะมีใครเป็นเพื่อนกับฉันรึเปล่าน้า
      >>>แต่ก็ช่างเถอะ ยังไงก็ไม่มีใครแทนที่น้ำฟ้าได้อยู่แล้วหละ
      >>>กระทั่งแฟนก็เถอะ ถ้าให้ฉันเลือกระหว่างแฟนกับเพื่อนนะ
      >>>ยังไงฉันก็ต้องเลือกเพื่อนอยู่แล้วหละ ก็เราเป็นเพื่อนกันมาตั้ง 15 ปีแล้วหนะสิ

      >>>ก้าวแรกที่ฉันก้าวเข้ามาในโรงเรียน มันช่างเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นยิ่งนัก
      >>>เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และความสดชื่นของเพื่อนเก่า ที่ไม่ได้พบหน้ากันนานนับเดือน
      >>>ฉันกับน้ำฟ้าอมยิ้มนิดๆพร้อมกับจูงมือกันแน่นเดินไปยังห้องเรียนใหม่ ที่เราทั้งสองก็ยังคงอยู่ด้วยกันอีกตามเคย
      >>>แต่ทันทีที่ฉันก้าวเข้ามายังห้องเรียนได้ไม่นานมากนัก
      >>>ฉันก็ต้องตกตะลึง หัวใจแทบกระเด็นออกมา
      >>>ก็คนที่ฉันเห็นหนะสิ นายเอก เพื่อนเก่าที่ฉันแอบรักมาแสนนาน
      >>>คนที่คอยกลั่นแกล้งฉันเสมอ ได้เข้ามาอยู่ร่วมห้องกับฉันอีกครั้ง
      >>>ตอนนี้มันหล่อขึ้นเป็นกอง แถมพ่อมันยังรวยกว่าเดิมด้วยซ้ำ
      >>>ห้องหัวใจของฉันที่ถูกปิดตายตั้งแต่นายนั่นย้ายไปที่อื่น ตอนนี้ได้เปิดรับ นายเอกมาในห้องหัวใจอีกครั้ง
      >>>มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นี่รึเปล่าน้าที่เค้าเรียกว่าความรัก.....

      >>>ฉันเหม่อลอยไปนานนับนาที จนน้ำฟ้าสะกิดให้ฉันมานั่งข้างๆ และแล้วการเรียนวันใหม่ก็เริ่มขึ้น
      >>>ตอนแนะนำตัวนักเรียน ฉันยิ่งแทบคลั่ง เสียงของนายนั่นช่างนุ่มนวลจริงๆ
      >>>มันไพเราะยังกะเสียงนกไนติงเกลเชียวหละ
      >>>ฉันนั่งกำมือแน่นหน้าแดงก่ำ ก้มหน้าก้มตา จนน้ำฟ้าถามว่า เป็นไข้รึเปล่า???
      >>>ใช่สิ ฉันกำลังเป็นไข้ใจ เฮอนี่แหละน้า ....ความรัก%$^*฿

      >>>พอถึงตอนที่ฉันแนะนำตัวหนะสิ ฉันก็เกิดอาการเป็นใบ้พูดไม่ออกจนเพื่อนๆพากันหัวเราะยกใหญ่ รวมทั้งนายเอกด้วยหละสิ
      >>>ตลอดทุกวิชา ที่ฉันเรียนหัวใจของฉันเต้นตุบตับรุนแรงเสมอ จนไม่เป็นอันทำอะไร
      >>>ก็คนที่นั่งข้างหลังฉันก็คือนายเอก รูปหล่อหนะสิ
      >>>ตอนนี้ฉันรู้แล้วหละว่าทำไมคนมีความรักถึงทำอะไรหลายๆอย่างได้ เพราะตอนนี้ฉันก็กำลังตกหลุมพรางแห่งความรักเข้าแล้วหละสิ
      >>>ฉันได้แต่คิดถึงหน้าของเค้า "ทำไมเค้าถึงน่ารักขนาดนี้น่า ดูสิดูผิวเค้าสิ ทำไมถึงเนียนขาวขนาดนี้"
      >>>ความคิดของฉันเพร่ำเพ้อถึงนายเอก จนเสียงกริ่งวิชาสุดท้ายดังขึ้น
      >>>เสียงน้ำฟ้า ผ่านเข้ามาในหูของฉัน "น้ำฝน กลับบ้านได้แล้ว"
      >>>ฉันพยักน่า พร้อมกับยกกระเป๋าสะพาย ปัดไปถูกหน้าคนข้างหลังเข้าอย่างจัง

      "ขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆนะค่ะ" ฉันก้มหน้าก้มตา พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
      "ไม่เป็นไรหรอกครับ เสียงนั้นตอบกลับมาด้วยความนุ่มนวล" นายเอกนั่นเอง
      ฉันมัวแต่เขินอายพร้อมกับเดินก้มหน้าก้มตา ไปยังจักรยานที่จอดอยู่ข้างล่าง หัวใจของฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ

      "เค้าน่ารักจังเลยเนอะน้ำฟ้า"ฉันพูดขณะกำลังขี่จักรยานคันโปรด กลับบ้าน
      "ใครอ่ะ..?? ฉันหรอ..แหม.. ฉันน่ารักอยู่แล้วหละจะ" น้ำฟ้าพูดพร้อมกับยิ้มนิดๆ
      "ไม่ใช่เธอก็นายเอกเพื่อนเก่าเราไง"
      "แหวะ ไม่เห็นน่ารักเลย โอ้ว... !!! เธอชอบนายนั่นหรอ???" น้ำฟ้าพูดอย่างมีเลศนัย
      " เออ อืม มะ มะ ไม่ใช่" ฉันโกหกน่าหน้าตาย พร้อมกับขี่จักรยานกลับเข้าบ้านไปด้วยความอาย
      น้ำฟ้าตะโกนตามหลังมาปนหัวเราะหน่อยๆ "แล้วเจอกันตอนเย็นนะจ๊ะ"

      - - -ฉันกลับบ้านไปด้วยหัวใจไหวหวั่น ความรักครั้งใหม่เกิดขึ้นกับฉันอีกแล้ว
      - - -ฉันส่องกระจกมองหน้าตัวเอง อย่าพินิจ พิเคราะห์
      - - -เออ... เรามันก็สวยเหมือนกันนะ ฉันอมยิ้มพร้อมกับขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว
      - - -ไม่นานนักฉันก็ขี่จักรยานไปยังต้นไม้ใหญ่ใจกลางหมู่บ้าน

      "มาช้าจังนะ"น้ำฟ้าที่กำลังนั่งทำการบ้านอยู่พูดขึ้น
      ฉันไม่พูดอะไร เพียงแต่หัวเราะเบาๆ
      น้ำฟ้าเงยหน้าขึ้น พร้อมกับเอาทุเรียนทอด ที่พึ่งซื้อมาใหม่หยิบเข้าปาก
      "กินมะจ๊ะ" เธอยิ้มทั้งๆที่รู้ว่าฉันเกลียดทุเรียนเป็นที่สุด
      "ไม่หรอก... กินมะนาวดีกว่า...เธอจะเอามั้ยหละ ???" ฉันพูดพร้อมกับนั่งลง
      "เอี่ย เปรี้ยวจะตาย เธอกินเข้าไปได้ยังไงน้า???" น้ำฟ้าทำหน้าเหยเก
      อันที่จริงเธอไม่ชอบกินอะไรที่เปรี้ยวๆเป็นที่สุด ต่างจากฉันที่ชอบกินของที่เปรี้ยวบาดใจ ยิ่งเป็นมะนาวสดๆ ยิ่งของโปรดเลยหละ

      - - -เราสองคนนั่งคุยกันนานแสนนาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ฉันคอยสอนเธอวาดรูป
      - - -ส่วนเธอก็สอนการบ้านฉัน ตั้งแต่ 4 โมงเย็น
      - - -กาลเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปจนถึง 1 ทุ่ม
      - - -เธออธิบายการบ้าน เลขข้อนึงนานนับ 10 รอบจนกว่าฉันจะเข้าใจ
      - - -ในที่สุดเราทั้งสองก็กลับบ้านไป พร้อมกับรอยยิ้ม
      - - -ไม่นานก็ตื่นขึ้นมา ขี่จักรยานด้วยกันตอนเช้า แล้วก็กลับบ้าน นั่งเล่นด้วยกัน ตื่นขึ้นมา และก็

      >>>ความสัมพันธ์ของเรายังคงเหมือนเดิมเช่นเคย
      >>>เพียงแต่ฉันแบ่งความรักเพียงเศษเสี้ยวส่วนหนึ่งที่มีต่อน้ำฟ้าไปให้นายเอกเท่านั้น เพียงเศษเสี้ยวจริง ๆ
      >>>แต่นับวันเราทั้งสองก็เริ่มห่างกันขึ้นเรื่อยๆ
      >>>คงเพราะฉันอยู่ชมรม ศิลปะ ส่วน น้ำฟ้าเธออยู่ชมคนเก่งที่เป็นแนวหน้าในการทำกิจกรรมโรงเรียนต่างๆในโรงเรียน
      >>>ซึ่งนายเอกก็อยู่ชมรมนั้นด้วย
      >>>เพียงแค่ 2 ถึง3 วันเท่านั้นน้ำฟ้ากับเอกก็สนิทกันขึ้นเรื่อยๆ
      >>>จนใจฉันเริ่มหวั่นว่าทั้งคู่จะรักกัน
      >>>มีบางครั้งที่ฉันแอบอิจฉาน้ำฟ้าเล็กๆบ้าง
      >>>อันที่จริงมันตั้งแต่เด็กแล้วหละ
      >>>เธอทั้งเก่งแสนดี น่ารัก แถมยังมีเพื่อนเยอะแยะมากมายอีกตั่งหาก เธอมีครอบครัวที่สมบูรณ์เพียบพร้อม มีทั้งพ่อ ทั้งแม่
      >>>ต่างจากฉันที่อยู่กับยายแก่ๆตามลำพัง
      >>>ถ้าเราเปลี่ยนร่างกันได้ก็คงจะดีไม่น้อย ฉันจะได้สนิทกับนายเอกเหมือนน้ำฟ้าด้วย แต่มันก็แค่ฝันนั่นแหละ
      >>>มีบางครั้งที่ฉันได้คุยกับนายเอก แต่มันก็แค่คำสองคำเท่านั้น
      >>>คงเพราะความเขินหละมั้ง
      >>>แต่สำหรับขาคุยอย่างน้ำฟ้า ฉันเห็นเค้าคุยกันนานนับชั่วโมงเลยหละ
      >>>เฮอ!.. ฉันคนหมดหวังแล้วสิเนอะ

      วันทั้งวัน ฉันเฝ้าคิดถึงหน้านายเอกจนไม่เป็นอันทำอะไร
      ทำให้น้ำฟ้านั้นต้องคอยอธิบายการบ้านทุกวิชาให้ฉันฟังอย่างละเอียดนับสิบรอบ
      ซึ่งฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจมันเท่าไรนักหรอก
      จนกระทั่งเวลาเนิ่นนานผ่านไปนับเดือน
      ฉันเฝ้าเก็บความลับที่ฉันแอบรักนายนั่นตลอดมา
      ทุกๆครั้งที่ฉันกับน้ำฟ้าบอกความลับแก่กัน ฉันก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้
      แม้น้ำฟ้าจะคะยั้นคะยอฉัน แต่ฉันก็ไม่เคยปริปากพูดเลยซักครั้ง
      จนในที่สุด ในวันที่ท้องฟ้าสดใส วันที่น้ำฟ้านั่งกินทุเรียนทอดของโปรด และวันที่ฉันนั่งกินมะนาวอยู่อย่างเอร็ดอร่อย
      น้ำฟ้ายังคงอธิบายการบ้านวิชาเลขเป็นรอบที่ 3 อยู่เช่นเคย แต่แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
      "อืม น้ำฟ้า เออ คือว่า" ฉันพูดตะกุกตะกัก
      "อะไรหรอ ว่ามาเลย "น้ำฟ้า พูดขณะก้มหน้าก้มตาอธิบายการบ้านไปเรื่อยๆ
      "อืม เออ เธอช่วยเป็นแบบให้ฉันหน่อยได้มั้ยอ่ะ แบบว่า ชมรมศิลปะ เค้าสั่งให้วาดภาพเหมือนหนะ ฉันก็เลย…"
      "มีอะไร จะบอกอีกรึเปล่าเราเป็นเพื่อนกันนะ ฮิฮิ" น้ำฟ้าเงยหน้าขึ้นพร้อมกับยิ้มอย่างสดชื่น เธอพูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง
      "คือว่า ฉันมีความลับจะบอกเธอหละ"ฉันกลั้นใจพูดอย่างที่สุด
      "ฉันก็มีเหมือนกัน" เธอพูดโต้ขึ้น
      "คือว่า ฉัน ชอบ ชอบ.... ชอบนายเอก เธอช่วยฉันได้มั้ย?"ฉันพูดตัดบท พร้อมกับจับมือน้ำฟ้า
      น้ำฟ้าทำหน้าอึ้งเล็กน้อยๆ พร้อมกับผลิยิ้มขึ้นมา
      "เออ คือว่า สัญญานะ ว่าเราจะเป็นเพื่อนกัน ตลอดไป คือว่า เธอต้องไม่เห็นคนรักสำคัญกับเพื่อนน้า เดี๋ยว ฉันจะอิจฉานายนั่นเลย"
      เธออมยิ้มพร้อมๆกับยื่นนิ้วก้อยเล็กๆมาเกี่ยวกับนิ้วของฉัน พร้อมกับเล่นเซเซมีมี แก้เขิน เซเซมีมี ปิงป่อง ช่า ปิงป่อง ช่า ช่า
      ใช่เราจะเป็นเพื่อนตลอดกาล.....ใช่มั้ยน้ำฟ้า เราจะรักกันตลอดไป

      - - -ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมามา ฉันก็คอยเฝ้ารับการบอกข่าวเกี่ยวกับนายเอกจากเพื่อนรักของฉันน้ำฟ้าตลอด
      - - -ไม่ว่า จะเป็นเรื่อง ผู้หญิงในสเปคเป็นยังไง
      - - -ชอบกินอะไร ชอบทำอะไร หนังสือเล่มโปรดเล่มไหน แล้วเคยชอบใครบ้างรึเปล่า
      - - -มีหลายครั้งที่ฉัน พยายามจะบอกกับ นายเอกว่าฉันหลงรักเค้ามานานแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยได้บอก
      - - -แม้น้ำฟ้าจะทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชักทุกวิถีทาง แต่ความรักของฉันกับนายเอกก็ยังไม่สำเร็จ
      - - -จนเวลาผ่านไป 2 เดือนแล้วก็ตาม
      - - -ถึงแม้จะมีผู้ชายมากหน้าหลายตาพยายามจีบฉัน แต่ฉันก็ไม่สนใจซักคน
      - - -มีเพียงนายเอกคนเดียวที่ยังคงอยู่ในหัวใจ และความรักของฉันที่มีต่อเค้าก็ยิ่งเพิ่มมากทุกวันๆ
      - - -จนในที่สุด ฉันก็บอกรักเค้าจนได้
      - - -แต่ก็เป็นเพราะน้ำฟ้านั่นแหละที่ช่วยขังฉันให้อยู่ในห้องกับนายเอก 2 ต่อ 2
      - - -เธอน่ารักจริงๆเนอะ เกิดชาติหน้าฉันจะมีเพื่อนที่ดีอย่างเธอรึเปล่าน้า
      - - -วันนั้นฉันกับนายเอกคุยกันนานนับชั่วโมง
      - - -อันที่จริงนายเอกแอบชอบฉันมานาน แล้ว แต่ไม่กล้าบอกเลยมาตีสนิทกับน้ำฟ้า
      - - -ฉันแอบดีใจอยู่น้อยๆ และนับตั้งแต่วันนั้นมา
      - - -เราก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการที่เรียกว่า เป็นแฟนกัน
      - - -เพราะเค้าก็รักฉัน ฉันก็รักเค้า เราสองคนรักกัน และเรื่องราวทั้งหมดก็คงต้องจบลงแต่เพียงเท่านี้
      - - -จบแบบแฮปปิ้เอ็นดิ้ง ด้วยความรักหวานแหวว ขอบคุณเธอจริงๆนะ น้ำฟ้าเพื่อนรักของฉัน แต่ น้ำฟ้า......น้ำฟ้า

      >>>อันที่จริงแล้วนับตั้งแต่ วันที่ฉันบอกความลับที่เก็บมานานนับเดือนแก่น้ำฟ้า เราทั้งสองก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น
      >>>แต่หัวข้อสนทนาที่เพิ่มขึ้นมาระหว่างเราอีก ก็คือเรื่องของนายเอก
      >>>เธอจะรำคาญฉันมั้ยน้า ที่วันทั้งวันฉันเฝ้าพร่ำพูดแต่ชื่อของนายนั่น
      >>เธอจะเลิกคบกับฉันมั้ยน้าที่ฉันทำตัวแบบนี้ แบบที่เห็นคนที่แอบชอบสำคัญกว่าเพื่อนตัวเอง
      >>>แต่ในที่สุด เธอก็ปฏิบัติภารกิจแม่สื่อสำเร็จ เธอทำให้ฉันกับเอกรักกัน
      >>>ถ้าฉันเป็นเธอก็เหมือนกับยกภูเขาออกจากอกเชียวแหละ และเราก็จะกลับมาสนิทกันยิ่งกว่าเดิม
      >>>แต่กาลเวลาล่วงเลยพ้นผ่านไป นับจากวันที่ฉันกับเอกเปลี่ยนจากเพื่อนเป็นคนรัก
      >>ฉันก็แทบจะไม่ได้ยินคำพูดจากน้ำฟ้าเลยซักครั้ง อาจเป็นเพราะฉันไม่สนใจจะฟังมากกว่า
      >>>ตลอดเวลาที่เรานั่งข้างกัน ฉันก็มักจะหันหลังไปคุยกับนายเอกอยู่เสมอ
      >>>ช่วงพักกลางวัน ฉันก็เดินควงนายเอกไปโรงอาหารให้สาวๆอิจฉาเล่น
      >>>ส่วนตอนมาโรงเรียนก็จะมีรถคันงามคอยรับส่งฉัน เหมือนเวลาตอนกลับที่มีรถคันเก่ามาเช่นเคย
      >>>จนฉันแทบจะทิ้งจักรยานคันนั้นไปเลยก็ได้
      >>>จากที่เคยฝังเสียงบ่น อธิบายการบ้านนับ 10 รอบของน้ำฟ้าตอนนี้ กลับเป็นอาจารย์สอนพิเศษที่นายเอกจ้างมาสอน
      >>>เอกเค้าช่างดีกับฉันจริงๆจนตอนนั้นฉันแทบลืมไปเลยว่าฉันยังคงมีเพื่อนคนหนึ่งที่ชื่อน้ำฟ้า
      >>>คนที่คอยปกป้อง ดูแล เอาใจใส่ แม้เราจะชอบอะไรต่างกัน แต่เธอก็ยังคงเป็นคนเดียวที่ยืนเคียงข้างฉันในวันที่เหน็บหนาว
      >>>แต่ในวันที่เธอเหน็บหนาวหละ

      เสียงออดวิชาสุดท้ายดังขึ้น ฉันลุกเดินจากเก้าอี้ แต่ก็มีเสียงหนึ่งที่คุ้นเคยเรียกฉันให้หยุดอยู่กับที่
      "ฝน วันนี้กลับบ้านด้วยกันนะ"
      มันเป็นเสียงของน้ำฟ้า เพื่อนที่แสนดีของฉัน
      "เออ คือว่า ฉันไม่ได้ขี่จักรยานมาหนะ แล้ว...."
      "อ๋อ ซ้อนจักรยานฉันก็ได้ เราซ้อนกันออกบ่อยไป จำได้มั้ย ตอนนั้น..."
      ฉันมองหน้าเอก พร้อมกับหันหน้าผลิยิ้มให้กับน้ำฟ้า "ได้ จ๊ะ"

      น้ำฟ้าขี่จักรยานอย่างเอื่อยเฉื่อยคงเพราะน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นของฉันหละมั้ง
      "อือ ฝน เราไม่ได้คุยกันนานเท่าไรแล้วน้า" น้ำฟ้าพูดพร้อมหันหน้ามาทางฉัน
      "คงจะประมาณเดือน 1 แล้วมั้ง ตอนนี้ฉันยุ่งๆอยู่หนะ"
      "จำได้มั้ยที่เธอบอกกับฉันหนะ ภาพเหมือนไง วันนี้ฉันว่างนะมาวาดที่บ้านฉันก็ได้"
      "เออ อืม ได้" ฉันพูดเสียงตะกุกตะกัก พร้อมกับที่น้ำฟ้าขี่จักรยานมาถึงสวนหลังบ้านพอดี
      บ้านของน้ำฟ้ายังคงเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนเดิม
      ห้องทุกห้อง ของทุกอย่างยังคงเหมือนเก่า ฉันแทบจะไม่ได้มาบ้านเธอมานานแสนนานนับตั้งแต่ฉันเป็นแฟนกับนายเอก
      วันนั้นทั้งวัน น้ำฟ้าชวนฉันคุยอย่างสนุกสนาน บรรยากาศเก่าๆกลับมาอีกครั้ง
      ฉันนั่งเขียนภาพนานนับ ชั่วโมงแล้วในที่สุดมันก็ปรากฎออกมาจนได้
      น้ำฟ้าบอกว่า ภาพที่ฉันเขียนนั้นเหมือนกับ ลิงที่สวนสัตว์อะไรซักแห่งที่ฉันกับเธอชอบไปด้วยกันตอนเด็กๆ
      เธอมักจะพูดถึงความหลังเก่าๆที่เราทำด้วยกันเสมอ
      อีกชั่วโมงถัดมา ฉันก็วาดอีกรูปหนึ่ง
      เธอบอกว่า ภาพนี้เธอปากกว้างไปหน่อย เธอไม่ใช่ จูเลีย โรเบิร์ต นะ
      ฉันเฝ้าวาดนับ 5-6 ภาพ มันก็ยังคงไม่มีภาพไหนเหมือนเธออีกเช่นเคย
      เฮอ.. ฉันคงเอาดีทางวาดภาพเหมือนไม่ได้แล้วหละมั้ง ฉันพึมพำก่อนที่เธอจะชวนฉันนอนด้วยกันที่บ้านของเธอ
      ฉันตอบตกลงและแล้วคืนนั้นบรรยากาศเก่าๆของมิตรภาพคำว่าเพื่อนก็ได้เข้ามาในหัวสมองของฉันอีกครั้ง
      ตอนนั้น ฉันเฝ้าคิดแต่เรื่องผู้ชาย จนลืมคนที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งไป
      น้ำฟ้า เพื่อนรัก ของน้ำฝน แต่ตอนนี้ เธอก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีของฉันเสมอ

      - - -เสียงไก่ขันยามเช้า แสงอรุณโพล่พ้นฟ้า เราสองคนยังคงขี่จักรยานไปตามถนนด้วยกันเหมือนเก่า
      - - -และนับตั้งแต่นั้นมา ความสัมพันธ์ดีๆของเราก็กลับมาอีกครั้งเช่นเคย
      - - -ถึงแม้มันจะลดน้อยลงแต่มันก็ไม่ได้หายไป
      - - -เพื่อนรักก็ยังคงเป็นเพื่อนรักเช่นเดิม
      - - -ถึงแม้ตอนนี้ฉันกลับให้ความสำคัญกับเอกมากกว่าน้ำฟ้าก็ตาม
      - - -ถ้าตอนนี้ระหว่างเพื่อนกับคนรัก ฉันคงจะสนใจคนรักมากกว่าเพื่อนแล้วหละมั้ง
      - - -ถึงแม้น้ำฟ้าจะงอนฉันอยู่บ่อยๆแต่ไม่นานนักเธอก็หายโกรธ
      - - -ในทางกลับกัน ฉันกับเอก ฉันนั้นต้องเป็นฝ่ายตามงอนง้อเค้าก่อนเสมอ
      - - -ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ฉันกลับมาสนิทกับน้ำฟ้าอีกครั้ง
      - - -น้ำฟ้ากลายเป็นศิลาณีผู้เป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจของฉัน

      เราสนิทกันมากจนวันหนึ่งฉันก็ได้ล่วงรู้ความลับจากส่วนลึกของหัวใจน้ำฟ้า ที่สังเกตได้จากทั้งสีหน้า แววตา และบันทึกลับ ของเธอ

      "ฉันจะทำยังไงดี ฉันจะเลือกใครระหว่างเพื่อนกับคนรัก น้ำฝนเพื่อนซี้สุดๆของฉัน ดันมารักกับ เอกคนที่ฉันแอบชอบมานานแสนนาน"
      "ไม่ผิดใช่ไหมที่ฉันโกหกหัวใจตัวเอง ฉันไม่ได้รักนายเอก ฉันไม่เคยรักนายนั่นซักเพียงวินาทีเดียว"
      "ทำไมเราต้องร้องไห้ด้วยหละ ในเมื่อเราก็ทำถูกแล้ว ที่ขังทั้งสองคนนั้นเอาไว้ นายเอกกับน้ำฝนคงจะรักกันซักทีสินะ"
      " ทำไมฉันต้องหลบหน้าเค้าด้วยนะ ฉันไม่ใช่ผู้ต้องหาซักหน่อย แต่ถ้าเค้าเห็นแววตาฉันหละ เห็นท่าทางฉันหละ เค้าจะรู้มั้ยนะว่าฉันนั้นรักเค้าสุดหัวใจ"
      "น้ำฝน ฉันขอโทษจริงๆนะที่แอบรักคนของเธอ ทั้งๆที่ฉันก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แม้เพียงนิดน้อย แต่ฉันเพียงแค่แอบรักเล็กๆเท่านั้นก็พอแล้ว"

      ทุกข้อความที่ผ่านสายตาฉันไปทำให้ฉันรู้สึกผิดไม่น้อย
      "นี่น้ำฟ้าแอบรักเอกมานานแล้วหรอ"
      นับตั้งแต่วันนั้นมา ฉันก็ยังคงปรึกษาปัญหาหัวใจกับน้ำฟ้าอยู่เช่นเคย
      แต่ทุกครั้งที่ฉันแอบอ่านบันทึกนั่นของน้ำฟ้า ทุกตัวหนังสือที่กดแน่นลงบนกระดาษของเธอก็ทำให้ฉันเจ็บช้ำขึ้นเรื่อยๆ
      ฉันต้องแสร้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ และทำให้หัวใจน้อยๆของน้ำฟ้าช้ำขึ้นเรื่อยๆ
      นี่หรือที่ฉันทำกับเพื่อนที่แสนดีของฉัน

      >>>มีคนกล่าวว่าเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ใช่ มันช่างรวดเร็วเหลือเกิน
      >>>จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง เอกก็เริ่มห่างจากฉันไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด
      >>>เราไม่ได้ไปเที่ยวเล่นกันเหมือนแต่ก่อน ไม่ได้กลับบ้านด้วยกันเช่นเคย ไม่ได้ดูแลเอาใจใส่กันเหมือนเก่า
      >>>จนฉันต้องวิ่งไปซบอกร้องไห้กับน้ำฟ้าเพื่อนรักของฉัน เพื่อนรักก็ยังคงเป็นเพื่อนรัก
      >>>แม้เธอจะรักเอกสักเท่าไรแต่เธอก็ยังคงปลอบประโลมฉันอย่างอ่อนโยน ด้วยความจริงใจ
      >>>ดังนั้น ฉันจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะทำให้เค้ากลับมาสนใจฉันอีกครั้ง
      >>>ฉันพยายามทำตามแบบสาวในสเปคของเค้า หัดทำตัวรักเด็ก ทำตัวเรียบร้อย และแสร้งทำเป็นร่าเริง
      >>>ฉันต้องตัดผมสั้นจุ๊ดจู๋เพื่อให้เอกเค้าพอใจ ทำอะไรหลายๆอย่างที่ฝืนใจตนเอง
      >>>แต่ก็ไม่มีซักครั้งเลย ที่เอกเค้าจะหันมามอง มาชื่นชมฉันสักครั้ง
      >>>ฉันร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง วันครบรอบ 4 เดือนที่เราเปลี่ยนจากเพื่อนมาเป็นแฟน

      "สเปคข้อที่ 3 เอกเค้าชอบกินเค้กเป็นที่สุด เธอว่าฉันจะทำเค้กให้เค้ากินดีป่ะ"
      ฉันถามน้ำฟ้าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ในใจพลางคิดถึงเค้กรูปร่างต่างๆ
      "ฉันจะทำเป็นลายอะไรดีนะ เอาสิงโตดีมั้ย เสือดีป่ะ อืม หรือว่าจะเป็น รูปหัวใจดีหละ "

      วันครบรอบ 4 เดือนนั้นเป็นวันอาทิตย์ ฉันจึงใช้เวลาทั้งหมดกับการทำเค้กครั้งแรกในชีวิต
      โชคดีที่บ้านของฉันมีเตาอบ และตำราทำเค้ก
      ฉันจึงเริ่มทำตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้า ยัน 4 โมงเย็นโดยมีน้ำฟ้าเพื่อนรักเป็นลูกมือ

      9 ชั่วโมงแห่งการรอคอยและทุ่มเท ในที่สุดเค้กก้อนแรกในชีวิตจึงเสร็จสมบูรณ์
      ถึงแม้มันจะไม่อร่อยเท่าไร แต่ฉันก็ทำด้วยหัวใจ.... มันใส่ใจของฉันลงไป
      ใจทั้งดวง ทั้งความรักและความห่วงใย...เธอจะรู้บ้างไหมนะ
      ฉันรีบโทรศัพท์ไปบอกเอกด้วยความตื่นเต้นปนดีใจ เค้าบอกว่าอีก 2 ชั้วโมงจะมาถึง
      อีกไม่นานแล้วสินะ แล้วเราก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมใช่มั้ยเอก
      ฉันยิ้มนิดๆพร้อมกับนั่งรอเอกอยู่หน้าบ้าน
      ถึงแม้ละอองฝนที่ซาดซัดมาก็ทำอะไรกับหัวใจที่เฝ้ารอไม่ได้

      ฉันจะพูดว่ายังไงดีนะ อืม
      "เอกค่ะ...ฉันรักคุณ" - - แหวะๆเลี่ยนสุดๆ- - - -
      งั้น "เอก...ฉันขอโทษ...คืนดีกันนะ " เอ ?? แล้วเราทำอะไรผิดหละ อืม..งั้นเอาใหม่
      "ครบรอบ 4 เดือนแล้วเย้ๆๆๆ..."เฮอ...คิดตั้งนาน..อันนี้แหละดีสุด

      ฉันนั่งรอเอกพร้อมกับเค้กก้อนโตลายหัวใจสีชมพูอ่อนด้วยความตื่นเต้นดีใจ
      จนเวลาล่วงเลยผ่านไปถึง 19 นาฬิกา ตอนนี้เค้าก็ยังมาไม่ถึง
      "สงสัยเค้าคงติดธุระมั้ง ???"
      "เอ..หรือว่ารถจะติดนะ.."
      "ยังไง ยังไง เค้าก็ต้องมาซิ ก็เราเป็นคู่รักกันไม่ใช่หรอ.."
      "เอาหละ กินเค้กรองท้องดีกว่า"
      ฉันคิดในใจ พลางค่อยๆตักเค้กก้อนเล็กเข้าปากอย่างช้าๆพร้อมๆกับพินิจมองดูแสงไฟสลัวๆริมถนนอย่างอ้างว้าง
      จากหนึ่งเป็นห้า จากห้าเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อย หลายร้อยคำแล้วสินะ
      เค้กก้อนสุดท้ายคงจะรอเก้อแล้วสิ เฮอ....
      ฉันเฝ้ามองเค้กก้อนเล็ก อย่างเศร้าสร้อยพร้อมกับที่น้ำตาแห่งความหมองเศร้าไหลรินออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง
      และแล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น มันเป็นเสียงของเอกนั่นเอง
      ฉันยิ้มอย่างดีใจ... พร้อมกับปาดน้ำตา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
      "ครบรอบ 4 เดือนแล้วเย้ๆๆๆ..........."
      เค้ามองฉันด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมกับเหลียวมองดูเค้กก้อนเล็กอย่างเศร้าสร้อย
      แล้วพูดคำบางคำที่ทำให้ฉัน "เจ็บ"อย่างถึงที่สุด
      เค้ามองฉันครั้งสุดท้ายก่อนเดินจากไปท่ามกลางสายฝน ที่หลั่งน้ำตาให้กับ เค้กก้อนสุดท้ายที่ไม่มีใครเหลียวแล
      ในที่สุด ฉันก็รู้จากปากของเค้าว่า เค้ารู้หัวใจตัวเองแล้วว่าที่จริงเค้ารัก น้ำฟ้า ไม่ใช่ฉัน
      ผมรักน้ำฟ้าไม่ใช่น้ำฝน ผมรักน้ำฟ้าไม่ใช่น้ำฝน
      คำๆนี่เหมือนมันกรอกลับมาในหัวสมองของฉันตลอดเวลา
      ผมรักน้ำฟ้า ผมรักน้ำฟ้า
      ทำไม ฉันทำอะไรผิดหรอ
      ทำไมเธอถึงไม่รักฉัน
      ทำไมเธอถึงไปรักมัน
      นังน้ำฟ้ามันดีกว่าฉันตรงไหน
      ใช่สิ มันทั้งเก่ง แสนดี มีพ่อแม่ครบพร้อม
      ไม่เหมือนฉันที่โง่ แถมเป็นเด็กกำพร้าอยู่กับยายแก่ๆอีกตั่งหาก
      ทำไม............ ฮะ...ทำไม
      ฉันเฝ้าแต่โกรธแค้นชิงชังสองคนนั้นอย่างเจ็บปวด..ทรมาน
      นี่หรือที่มันทำกับฉัน..นังน้ำฟ้า ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะทำร้ายฉันได้เจ็บปวดขนาดนี้

      ฉันมองเอกที่เดินจากฉันไปด้วยคราบน้ำตาแห่งความเจ็บแค้น
      ก่อนที่จะระเบิดเสียงร้องไห้ออกมาอย่างไม่หยุดยั้งพอๆกับสายฝนที่สาดซัดโปรยปรายมาจากฟากฟ้าไกล
      ฉันทำทุกสิ่งอย่างที่จะทำให้ลืมเรื่องบ้าๆเหล่านี้ที่มันตราตรึงอยู่ในจิตใจของฉัน
      ทั้งเดินตากฝนวนไปวนมา จนกลางดึก
      เตะถังขยะริมถนนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่...... หยิกตบตัวเองอย่างเจ็บปวด..ทรมาน
      แต่มันก็ไม่สามารถลืมได้เลย

      ฉันมองหน้าตัวเองในกระจกพร้อมกับหวนคิดถึงสิ่งต่างๆที่ฉันกับน้ำฟ้ามีให้กัน

      เธอเป็นเพื่อนรักของฉันนะฝน...ใช่เธอก็เป็นเพื่อนรักของฉันเหมือนกัน
      ถ้าฉันต้องตาย... ฉันขออยู่กับเธอเป็นคนสุดท้ายนะฝน.......ไม่เราจะต้องตายด้วยกันซิฟ้า
      หนูเป็นคนทำเองค่ะ...ไม่ใช่น้ำฝนหรอก หนูเป็นคนทำแจกันของครูแตกเอง
      ทำไมเธอต้องทำเพื่อฉันขนาดนี้ด้วยหละฟ้า...ก็เราเป็นเพื่อนกันไงหละ...ฝน
      เราจะต้องอยู่ด้วยกัน อยู่ห้องเดียวกัน และจะต้องเป็นเพื่อนกันตลอดไปนะ...สัญญา
      ฉันจะทำยังไงดี ฉันจะเลือกใครระหว่างเพื่อนกับคนรัก น้ำฝนเพื่อนซี้สุดๆของฉัน ดันมารักกับ เอกคนที่ฉันแอบชอบมานานแสนนาน
      เรา 2 คนจะเป็นเพื่อนกันไปอีก 200 ปี และตลอดไป......ใช่มั้ยน้ำฝน
      ใช่เราจะเป็นเพื่อนกันอีก 200 ปีและตลอดไป
      สิ่งเหล่านั้น ความทรงจำดีๆเหล่านั้น มันเป็นเพียงอากาศไปแล้วในตอนนี้
      หัวใจของฉันเจ็บปวดเกินกว่าจะรับความรู้สึกดีๆที่ฉันมีให้กับน้ำฟ้าตั้งแต่เล็กจนโตได้
      ตอนนี้มันหายไปพร้อมๆกับน้ำตาที่ค่อยๆไหลรินอย่างไม่หยุดยั้ง
      เพื่อนหรอ อันที่จริงมันก็เป็นแค่คนๆหนึ่งเท่านั้นแหละ มันทำทุกอย่างให้ X เอกเห็นใจ
      แล้วเห็นไหมหละสิ่งที่เราได้คืนมามันคืออะไร มิตรภาพที่เฝ้าสานมาเป็นรูปเป็นร่างระหว่างเราวันนี้มันจบลงแล้ว
      มันแย่งคนรักของฉันไป มันแสร้งตีหน้าซื่อทำมาตีสนิทกับฉัน มันทั้งเรียนเก่ง นิสัยดี น่ารัก
      ใช่สิ ทุกอย่างมันเสแสร้ง
      แท้ที่จริงแล้วมันก็คือ นางมารร้ายนี่เอง อีน้ำฟ้า.......

      - - -แสงอรุณสาดส่องสู่ห้องนอนที่เต็มไปด้วยความปวดช้ำของฉัน
      - - -มันมากเกินกว่าที่ราตรีกาลจะลบเลือนไปได้ ฉันลากจักรยานคันเก่า ออกจากบ้านขี่ไปยังโรงเรียนตามลำพัง
      - - -และแล้วเสียงๆหนึ่งก็ดังก้องมาจากทางด้านหลัง...นังน้ำฟ้าเพื่อนเลว
      - - -ฉันแสร้งตีละครสองหน้า รอมัน แล้วขี่จักรยานไปพร้อมๆกันด้วยสีหน้าเรียบเฉย มันยิ้มให้ฉันแต่ฉันไม่ยิ้มตอบ

      - - -การเรียนวันนั้นผ่านไปอย่างเอื่อยเฉื่อย
      - - -ฉันอึดอัดสุดทนที่ต้องนั่งข้างกับใครคนหนึ่งที่ฉันเกลียดเข้าไส้
      - - -เก้าอี้ที่อยู่ติดกันเวลาเราแอบกินขนมในห้องเรียน ฉันค่อยๆขยับออกไปทีละน้อย ทีละน้อย จนห่างกันซักประมาณ 5 นิ้วได้
      - - -ฉันเรียนด้วยสีหน้าเรียบเฉย พูดเป็นบางคำ ตอนนี้ฉันไม่รู้จะทำตัวยังไงดี
      - - -ในเมื่อความสัมพันธ์เก่าของเราเริ่มหวนคืนมาอีกครั้ง ฉันอดไม่ได้ที่อยากจะพูดคุยกับน้ำฟ้า
      - - -แต่ฉันก็ไม่กล้าแม้จะพูดด้วยซักคำ
      - - -เธอพยายามชวนฉันพูดคุยเหมือนทุกๆวัน...แต่ฉันก็ได้แต่มองหน้าเธอพร้อมกับคิดแค้นเก็บกดในใจ

      ในที่สุดเสียงออดคาบสุดท้ายก็ดังขึ้น
      น้ำฟ้า สะกิดหลังฉัน พร้อมๆกับส่งยิ่มให้ ฉันส่งยิ้มตอบ อย่างไม่เต็มใจ
      "เป็นอะไรไปหรอฝน" เธอถามอย่างเป็นห่วง ฉันไม่พูดได้แต่ยิ้ม พร้อมกับวิ่งไปลากจักรยาน แล้วกลับบ้านไปโดยที่ไม่รอเธอ
      เธอวิ่งตามมาอย่างช้าๆ และมองฉันด้วยสีหน้าเหนือยอ่อน

      - - -และนับตั้งแต่นั้นมา เราก็เริ่มพูดคุยกันน้อยลง
      - - -ค่อยๆห่างกัน ค่อยๆจากไป ค่อยๆห่างเหิน จนในที่สุดเราสองคนก็ห่างกันสุดฟ้าไกล
      - - -และทำให้ฉันก็เริ่มที่จะคิดจะเอาชนะคนเก่งอย่างน้ำฟ้า
      - - -ฉันเฝ้าตั้งใจเรียนทุกคาบที่ครูสอนพอๆกับโกรธแค้นเธอ
      - - -ตอนนี้โต๊ะของฉันกับเธอยังคงติดกันอยู่ แต่เก้าอี้ของเราห่างกันได้เกือบฟุตแล้ว
      - - -ฉันตั้งใจเรียน รวมทั้งอ่านหนังสือก่อนหน้าย้อนหลังที่ไม่เข้าใจ และพยายามทำตัวเข้ากับเพื่อนทุกคน
      - - -เพื่อที่จะได้เป็นขวัญใจเพื่อนๆเหมือนกับเธอ

      - - -เวลาผ่านไป 2 เดือน 2เดือนแห่งการเอาชนะ การสอบกลางภาคมาถึง ฉันได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ของห้อง
      - - -ในเวลานั้นฉันดีใจจนแทบพูดไม่ออก ได้แต่ยิ้มกริ่มภูมิใจในตัวเองที่สามารถเอาชนะคนเก่งอย่างน้ำฟ้าได้
      - - -ตอนนี้เราแทบไม่ได้พูดหันซักคำ
      - - -คงเป็นเพราะฉันเปลี่ยนที่นั่งกับเพื่อนคนใหม่ที่อยู่ข้างหน้าไปอีก 2 แถว
      - - -เนื่องจากฉันอ้างว่าสายตาสั้น
      - - -บ้านของน้ำฟ้านับเป็นสถานที่ที่ฉันไม่อยากแม้จะเหลียวมอง
      - - -ส่วนตัวของเธอนั้นยิ่งแล้วใหญ่...
      - - -เราค่อยๆห่างกันเรื่อย จาก 10 เป็น 20 จาก20 เป็น 100 จาก 100 เป็น หลายล้านกิโลความสัมพันธ์

      จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งในรอบหลายเดือนวันนั้นเป็นวันแรกที่น้ำฟ้า มาพูดคุยกับฉัน
      "ฝน ฝน มาวาดรูปให้ฉันได้ม่ะ ฉันไม่อยากปากกว้างและก็หน้าเหมือนลิงด้วยนะ"
      เธอพูดติดตลก + + ฉันพยักหน้านิดๆ ก่อนที่จะแสร้งทำเป็นเพื่อนเก่าที่แสนดีเหมือนเคย
      และแล้วฉันก็ได้กลับมาในสถานที่ที่เคยคุ้นเคยอีกครั้ง
      "จำได้มั้ยอีก 2 อาทิตย์เป็นวันอะไร"น้ำฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงสดใส
      "จำได้สิก็วันเกิดฉันกับเธอไงหละ"ฉันตอบเสียงเรียบ
      น้ำฟ้ายิ้มเล็กน้อย พร้อมกับบ่นพรึมพรำไปถึงเรื่องของขวัญวันเกิด "จำได้มั้ย ปีที่แล้ว...."
      ก็อย่างที่ฉันบอกนั่นแหละ เธอมักจะชอบเล่าถึงเรื่องความหลังเสมอ
      "อืม แล้วปีนี้เธอจะให้อะไรฉันหรอ"น้ำฟ้าถามด้วยสีหน้าตื่นเต้นก่อนจะวิ่งลงไปข้างล่างด้วยเหตุอันใดก็ไม่ทราบ
      ฉันสำรวจห้องของเธออีกครั้ง มันยังคงเหมือนเก่า
      ห้องที่เรียบร้อยสวยงาม++ โคมไฟสีสวย++ เตียงนอนนุ่มนิ่ม และที่ยังคงเหมือนเก่าก็และเสมอมา ก็คือ
      รูปภาพ สีแดงๆขาวๆ ภายในรูปมีเด็กสองคนนั่งหันหลังให้กัน
      คนนึงกำลังกินทุเรียน อีกคน กำลังบีบมะนาวเข้าปาก
      ฉัน และเธอตอนยังเล็กอยู่นั่นเอง ก่อนที่ฉันจะละสายตาไปจากภาพอยู่ดีๆก็มีน้ำอะไรไม่รู้หยดลงมาที่ภาพ สองสามหยด คงจะเป็นน้ำฝนหละมั้ง หรือน้ำอย่างอื่นก็ไม่รู้เหมือนกัน
      ฉันเปิดลิ้นชักเสื้อผ้าของเธอออกดู เสื้อผ้าของเธอยังคงแนวเดิมๆสะอาด เรียบร้อย มิดชิด
      แต่สิ่งที่แปลกไปก็คือ กระดาษที่วางเกลื่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า แต่ละแผ่นเต็มไปด้วยรูปวาดที่พยายามวาดให้สวยที่สุด
      แต่มันก็คลับคล้ายกับภาพวาดของเด็กประถมเท่านั้น
      ข้างๆกองกระดาษมีอุปกรณ์ว่ายน้ำอยู่เต็มไปหมด สงสัยเธอคงจะหัดว่ายน้ำเพื่อแข่งกับฉันหละมั้ง
      ที่ใต้เตียงมีจิ๊กซอขนาดพอประมาณเป็นรูปหัวใจดวงโต ที่กำลังจะต่อเสร็จจะเหลือก็เพียงจิ๊กซออีก 10 กว่าอันเท่านั้น
      หัวใจดวงโตดวงนี้เธอคงจะมอบไปให้ X เอกหละมั้ง
      เพราะไม่กี่วันก็ใกล้ถึงวันเกิดมันแล้วหละซิ
      ดังนั้นถ้าฉันเอาไปซ่อนหละ...มันจะสนุกแค่ไหนถ้าเธอต่อรูปหัวใจดวงโตไปให้ที่รักไม่เสร็จ
      ฉันไม่รอช้ารีบซ่อนจิ๊กซอ แต่ละอันตาม ซอกต่างๆ ตามถังขยะบ้าง หลังตู้บ้าง ตามสถานที่ๆเธอรังเกียจและไม่กล้าเข้าไปบ้าง
      จนเหลือจิ๊กซอชิ้นสุดท้ายเธอก็เดินเข้ามาพอดี

      "ทำอะไรอยู่หรอ เรามาวาดรูปกันเถอะนะ" น้ำฟ้าโผล่เข้ามาพอดีกับจังหวะที่ฉันยัดจิ๊กซอชิ้นสุดท้ายลงกระเป๋า
      "เออ คือว่า วันนี้ฉันไม่ว่างหนะ ไว้วันหลังแล้วกันนะ" ฉันตอบพร้อมกับเดินออกไปปล่อยให้เธอยืนงง
      "แล้วกลับมาวาดอีกนะ "เธอพูดเสียงเศร้าพร้อมกับมองฉันที่เดินจากไปอย่างเดียวดาย

      >>>ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอก็เริ่มกลับมาพูดคุยกับฉันอีกครั้ง
      >>>พยายามทำให้เราสองคนกลับมาเป็นดังเดิม เป็นเพื่อนรัก ที่รักกันเหมือนเก่า
      >>>เธอเริ่มตีห่างจากนายเอกขึ้นเรื่อยๆ พยายามไม่มองหน้า ไม่พูดจา ไม่ใส่ใจ
      >>>ฉันรู้ว่าเธอจะต้องเสียน้ำตาให้กลับเรื่องนี้มากมายเพียงไร แต่เธอก็ยังคงฝืนใจทำเพื่อความสัมพันธ์ของเรา
      >>>ความสัมพันธ์ที่เคยสวยงาม...

      >>>เธอชวนคุยแต่เรื่องที่ฉันชื่นชอบ พูดแต่เรื่องที่ฉันสนใจ จนฉันก็อยากจะคุยกับเธอเช่นกัน
      >>>แต่พอคุยมาได้ซักพักก็เพลาๆลงไปบ้าง
      >>>เธอเอาของที่ฉันอยากได้มาให้ฉันดู แล้วก็หันมากินมะนาวตามฉัน
      >>>เธอบอกว่า รู้ม่ะมะนาวกินแล้วเสียงจะเพราะนะ
      >>>และตั้งแต่นั้นมา กลิ่นตัวของเธอก็ไม่มีกลิ่นทุเรียนอีกเลย
      >>>เธอคอยเดินตามฉัน พยายามขี่จักรยานไล่ตามฉันให้ทัน และทำทุกอย่างที่ฉันชอบ
      >>>ชอบดาราคนเดียวกัน เล่นเกมๆเดียวกัน และทำทุกอย่างเพื่อให้ความสัมพันธ์ของเราคืนกลับมา
      >>>แววตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่ยอมแพ้
      >>>เธอหัดวาดรูป แล้วให้ฉันดูพร้อมกับวิจารณ์ ซึ่งมันก็คือ ภาพวาดเด็กประถมอยู่วันยังค่ำ
      >>>เธอชวนฉันไปว่ายน้ำแทนเล่นกำลังภายใน และทำหลายๆอย่างในสิ่งที่ฉันชอบทำ

      "ไปว่ายน้ำกันมั้ย ตอนนี้ฉันว่ายได้แล้วนะ"
      "กินมะนาวมะ วันนี้ฉันพึ่งเก็บมาจากตู้เย็นเชียวน้า"
      "นี่รู้มั้ย???ฝน ตอนนี้ ใหม่เจริญปุระ ออก อัมบั้มใหม่แล้วน้า"
      "เธอว่ารูปนี้เป็นไง ดูได้ป่ะ ฉันว่ามันก็สวยดีนะ"
      "วันนี้เรากลับบ้านด้วยกันนะ……."
      "เออ เมื่อไหร่เธอจะไปวาดรูปที่บ้านฉันอีกหละ "
      "แต๊นแตน... นี่ไง หนังสือเล่มใหม่ แฮรี่ พอตเตอร์ที่เธอชอบไง"
      "คืนดีกันนะ อย่างอนไปเลย ฉันขอโทษ"นี่หละมั้งคือ คำพูดที่แทนทุกๆคำที่เธอเคยพูดมา
      เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่มันก็เหมือนกับจุดเทียนท่ามกลางสายฝนที่จะจุดอย่างไร ก็ไม่มีวันติด
      ระยะเวลา 15 ปีที่เรา ใช้ชีวิตกันมาคงจะเป็นภาพความทรงจำไปแล้ว
      เพราะตลอดเวลา 15 ปีนั้นฉันมีแต่ความอิจฉา ริษยาเธอ เธอทั้งเรียนเก่งกว่าฉัน มีเพื่อนเยอะกว่าฉัน และที่สำคัญเธอแย่งคนรักของฉัน

      "น้ำฝน วันนี้เป็นวันเกิดของเรานะ จำได้รึเปล่า"น้ำฟ้าทักทายเสียงใส ฉันพยักหน้า พร้อมกับพูดคุยกับเธอเล็กน้อย
      "วันนี้เรายังคงทำเหมือนกับทุกปีนะ จำได้ป่ะ อย่าลืมไปที่ม้าหินอ่อนตัวเดิมนะฝน" เธอพูดทิ้งท้ายก่อนจากไป

      - - -วันนั้นเป็นวันที่อากาศหนาวไม่ใช่เล่น ประมาณ 14-15 องศาได้หละมั้ง
      - - -ฉันเห็นน้ำฟ้า ขี่จักรยานออกจากบ้านไปตั้งแต่ 5 โมงเย็นพร้อมๆกับ ถือกล่องของขวัญขนาดใหญ่ไปด้วย
      - - -ปีนี้ฉันไม่มีของขวัญอะไรให้เธอหรอก จะมีก็แต่ความเกลียดชังที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันนั่นแหละ
      - - -การแกล้งคนให้รอคงสนุกไม่ใช่เล่นเชียว ถ้าฉันแกล้งให้เธอรอฉันหละ
      - - -วันนั้นฉันนอนหลับตั้งแต่หัววัน ทิ้งให้น้ำฟ้านั่งรอ กลางพายุลมหนาว อย่างเดียวดาย
      - - -ท่ามกลางเสียงใบไม้ที่พริ้วไหว ยังคงมีเด็กสาวตัวเล็กๆคนหนึ่งนั่งอยู่บนม้าหินอ่อนตัวจิ๋ว
      - - -เธอเล่าเรื่องความหลังตั่งแต่วันแรกที่เธอกับเพื่อนได้เจอกัน
      - - -"อีก 200 ปี เราจะมาเจอกันที่นี่อีกนะ……สัญญานะ"

      - - -ฉันตื่นขึ้นมายามรุ่งอรุณด้วยความสดใส หน้าบ้าน มีกล่องของขวัญสีสวยวางอยู่
      - - -ฉันไม่รู้เลยว่า ตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึงเช้าของวันที่แล้ว ยังคงมีใครบางคนเฝ้ารอฉันอยู่
      - - -แทนที่ฉันจะเสียใจ ฉันกลับยิ้มอย่างสดชื่นที่น้ำฟ้านั่งรอฉันจนเป็นปอดบวมนอนอยู่ที่โรงพยาบาล
      - - -ฉันไม่คิดจะไปเยี่ยมน้ำฟ้าซักนิด ไม่แม้แต่จะลองคิดเลย
      - - -ฉันทั้งดีใจ อิ่มเอิบใจ นั่นเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดของฉันแล้วหละ
      - - -ฉันหยิบกล่องของขวัญนั้นมาแล้ว เอามันไปวางไว้ในห้องเก็บของเก่าๆโดยไม่เปิดดูแม้แต่นิด
      - - -น้ำฟ้าคงจะเสียใจหละซิที่ฉันทำแบบนี้ ดีแล้วหละยิ่งมันเสียใจเท่าไรฉันก็ยิ่งมีความสุข

      ไม่นานนักน้ำฟ้าก็ออกจากโรงพยาบาล คำแรกที่เธอถามฉันก็คือ "แกะกล่องของขวัญรึยัง"
      และ ทุกๆครั้งที่เราเจอหน้ากันเธอก็ ถามฉันด้วยคำถามนี้เสมอ
      "จนในที่สุด ฉันก็บอกว่าฉันทำหาย" แต่เธอก็ไม่เชื่อเฝ้าคอยคะยั้นคะยอให้ฉันเปิดมันให้ได้ แต่ฉันก็ปัดมันทุกครั้งไป
      ฉันทำหน้าเบื่อหน่ายใส่เธอ ทำเป็นไม่สนใจ ไม่พูดคุย
      แต่เธอก็ยังคงเข้าใกล้ฉันทุกที พูดคุยในเรื่องที่ฉันสนใจ ทำตามใจฉัน และรอคอยฉันทุกอย่าง
      จนในที่สุดฉันก็เริ่มพูดจาแรงๆกับเธอ พูดรำคาญเธอบ้าง จนเธอค่อยๆจากฉันไปทีละนิด ทีละนิด

      >>>การสอบปลายภาคมาถึง ฉันสอบได้ที่ 1 ของห้องซึ่งสามารถทำให้ฉันพิสูจน์ได้ว่าฉันสามารถ ชนะเธอได้แล้วนะน้ำฟ้า
      >>>กาลเวลาของเรายังคงเนินไปเรื่อยๆ ปิดเทอมหน้าร้อน ฉันแทบไม่ได้ออกจากบ้าน
      >>>ฉันสะสมความเกลียดน้ำฟ้าด้วยการขยันอ่านหนังสืออย่างถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้
      >>>ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเราเกือบจะเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันเข้ากันได้แล้ว
      >>>เหลืออีกเพียงแค่ ฉันจะต้องประกาศตัวเป็นศัตรูกับน้ำฟ้าก่อนเท่านั้น แต่ทุกครั้งที่ฉันเห็นหน้าของเธอฉันก็ทำไม่ลงซักที
      >>>มันทำให้ฉันหวนถึงวันที่เราเล่นด้วยกัน ร้องไห้ด้วยกัน สนุกด้วยกัน และทำอะไรหลายๆอย่างด้วยกัน
      >>>ฉันไม่อาจจะทำร้ายเธอได้ เมื่อฉันเห็นเธอเปลี่ยนมากินมะนาวแทนทุเรียน หัดว่ายน้ำ และทำอะไรที่คล้ายๆกับฉันหลายอย่าง
      >>>แต่มันก็ทำให้ฉันนึกถึงสิ่งที่เธอทำกับฉัน
      >>>น้ำฟ้าเธอมาแย่งความรัก แย่งความห่วงใยดีๆที่ฉันมอบให้กับคนๆหนึ่งไป
      >>เธอทำให้ฉันเจ็บปวดทรมานนานนับเดือนจนตอนนี้ก็ยังไม่จางหาย
      >>>แต่แล้ว ฉันก็เริ่มมีความรักครั้งใหม่เกิดขึ้น

      >>>เมื่อเปิดเทอมวันใหม่มีกุหลาบสีแดงสดมาวางไว้ที่หน้าบ้านของฉัน
      >>>และจะเป็นอย่างนั้นทุกๆวันไม่เคยขาด นานนับปีทีเดียวที่ฉันไม่รู้จักตัวตนของเจ้าของกุหลาบแดงเหล่านี้
      >>>มีหลายครั้งที่ฉันแหกขี้ตาตื่นมาแอบดูเจ้าของกุหลาบในยามรุ่งเช้า แต่ก็ไม่เห็นแม้เงา
      >>>ใครกันหนอช่างดีกันฉันเหลือเกิน

      >>>ตอนนี้ฉันอยู่ ม.5 แล้ว เป็นเวลาหลายเดือนแล้วสิ ที่ฉันสะสมความเกลียดน้ำฟ้าไว้
      >>>ม.5 ฉันไม่ได้นั่งข้างน้ำฟ้าอีกต่อไป แต่เธอก็พยายามพูดคุยกับฉัน
      >>>ถึงแม้ฉันจะพยายามหนี และต่อว่าเธอ แต่เพื่อนก็ยังคงเป็นเพื่อนอยู่ดี ฉันไม่อาจหนีเธอได้เลย
      >>>เธอพยายามที่จะพูดคุยกับฉันอย่างไม่ย่อท้อ แท้ และพยายามหวนความสัมพันธ์ของเราคืนมาให้ได้มากที่สุด
      >>>จะว่าถึงเรื่องความสัมพันธ์ของน้ำฟ้ากับ X เอกตอนนี้ทั้งสองคน คงจะเป็นแฟนกันแล้วหละมั้ง
      >>>น้ำฟ้า ไม่หลอกตัวเองอีกต่อไป เธอยอมรับที่จะเป็นแฟนกับเอกและฉันคงจะหยุดการทำลายชีวิตของทั้งสองคนนี้ได้แล้ว
      >>>เพราะเจ้าของกุหลาบแดงนั้นได้มาเติมเต็มส่วนต่างๆในหัวใจที่ขาดหายไป

      >>>แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อน้ำฟ้าชวนฉันไปว่ายน้ำ
      >>>ฉันจึงคิดแผนการณ์ชั่วร้ายได้อีกครั้ง ฉันแกล้งจมน้ำตอนว่ายใกล้ๆกับน้ำฟ้า
      >>>และใส่ความว่า เธอแกล้งดึงขาฉันให้จมน้ำ แต่ฉันก็ยังคงความอ่อนโยนเอาไว้ ทำตัวไร้เดียงสา แล้วทำเป็นยกโทษให้น้ำฟ้า
      >>>น้ำฟ้าไม่สามารถปฏิเสธข้อกล่าวหาได้ คงเพราะเธออยากจะเป็นนางเอกที่แสนดีซะเต็มประดา
      >>>เธอทำหน้าเศร้าสร้อยแต่ยังคงมองฉันด้วยสายตาอ่อนโยน เหมือนครั้งที่เธอออกรับผิดแทนฉัน
      >>>เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เพื่อนๆในห้องไม่มีใครเล่นกับน้ำฟ้า พากันรังเกียจ และกล่าวว่าเธอเป็นตัวร้าย
      >>>ฉันนั้นดีใจจนแทบจะอดหัวเราะไว้ไม่อยู่ ถ้าไม่มีหยดน้ำใสๆตกลงมาใต้คางซะก่อน

      >>>นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉันกับน้ำฟ้าก็เป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบคืนเหมือนเช่นเคย
      >>>ไม่มีครั้งไหนที่ฉันจะยิ้มให้กับน้ำฟ้า
      >>>ไม่มีครั้งไหนที่ฉัน จะพูดคุยกับน้ำฟ้า
      >>>และไม่มีครั้งไหนที่ฉันจะอดนึกถึงความสัมพันธ์เก่าๆของเรา
      >>>ส่วน เธอ น้ำฟ้าเธอพยายามมาพูดจา มาคุย และทำดีกับฉันทุกอย่าง
      >>>แต่ฉันก็ทำหน้าเศร้าใจ พร้อมกับเดินหนีไป ปล่อยทิ้งไว้ให้เธออยู่คนเดียวกับความอ้างว้าง

      >>>ฉันคอยแต่จะกลั่นแกล้งน้ำฟ้าทุกทีที่ทำได้ ใส่ร้ายเธอสารพัด ทำทุกอย่างให้เพื่อนรัจเกียจเธอ
      >>>ส่วนเอก เป็นเพียงคนเดียวที่อยู่เคียงข้างกับน้ำฟ้า
      >>>ฉันทำลายชีวิต ทำลายความฝัน ทำลายทุกอย่างของน้ำฟ้าและเอก อย่างเสแสร้ ไปเรื่อยๆ
      >>>จนกว่าที่ฉันจะเลิกเคียดแค้น ซึ่งมันคงไม่มีวันเป็นไปได้ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไป 2 ปี
      >>2 ปีที่ของขวัญวันเกิดของฉันคือความสะใจ เสียใจ น้ำตาและดอกกุหลาบช่อใหญ่จากชายหนุ่มนิรนาม
      >>>ถึงแม้ว่าทุกๆวัน ฉันนั้นจะเฝ้าคิดถึงของขวัญจากเพื่อนที่แสนดีที่สุดคนหนึ่งก็ตาม
      >>>แต่ฉันก็ปกปิดความรู้สึกนี้ไว้ด้วยความเกลียดชังตลอดมา

      - - -เรื่องราว ชั่วร้ายของฉันก็คงจะต้องจบไปซะที ถ้าฉันไม่เลือกเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน กับมันทั้งสอง
      - - -น้ำฟ้า และเอก เพื่อน และคนที่ฉันรักสุดหัวใจ
      - - -คณะนิเทศศาสตร์

      "รู้มั้ยโตขึ้นฉันเนี่ยนะ อยากจะเป็นนักเขียน แบบว่า เขียนให้มันโด่งดัง ทะลุโลกไปเลย
      แล้วฉันก็จะสร้างหนัง รู้มั้ยนางเอกคนแรกของฉันคือ ใคร ก็คือเธอ ไง ฝน นางเอกที่ขี้เหร่กว่านักเขียนฮิฮิ "

      - - -วันแรกที่ฉันก้าวมาสู่รั้วมหาวิทยาลัย พูดได้เลยว่า ฉันมาเพื่อทำลายชีวิตของเพื่อนรักฉันเท่านั้น
      - - -ฉันไม่ได้เลือกเรียนที่นี่เพราะรักอะไรมากมาย แต่ฉันต้องมาการมาทำให้ชีวิตของพวกมันล้มเหลว ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่ว่าไว้
      - - -เพียงช่วงเวลาไม่นานนัก ฉันก็ได้เป็นดาวคณะเป็นนักกิจกรรม เป็นผู้โด่งดังของมหาวิทยาลัย
      - - -มีค่ายเทป ค่ายละครมาติดต่อทาบทามฉันมากมาย แต่ก็ถูกฉันปฏิเสธไป
      - - -ส่วนน้ำฟ้าหนะหรอ ตอนนี้เธอเรียนอย่างเอาเป็นเอาตาย จนหน้าตาหน้าเกลียด
      - - -น้ำฟ้าพยายามพูดจากับฉันทุกครั้งที่เจอหน้า แต่ฉันก็พูดไปนิดๆหน่อยเท่านั้น
      - - -มีบางคนทักผิดว่าเธอเป็นฉันเนื่องจากเราหน้าตาคล้ายกัน ฉันจึงตัดสินใจย้อมสีผม เป็นสีทองซะใหม่
      - - -เพื่อไม่ให้เหมือนใคร และไม่ให้ใครเหมือน

      - - -ฉันใส่ร้ายเส แสร้งกลั่นแกล้ง น้ำฟ้าสารพัดเท่าที่จะทำได้
      - - -ส่วนนายเอกถึงจะเป็นเดือนคณะ แต่ฉันก็กลั่นแกล้ง ว่ากล่าวเสียหายจน นายนั่นและน้ำฟ้าไม่มีใครอยากจะคบ
      - - -นี่หรือ คือสิ่งที่ฉันทำกับเพื่อนรัก อันยาวนานของฉัน
      - - -เวลาผ่านไปสามปี ฉันเรียนใกล้จะจบแล้ว แต่ดอกกุหลาบแดงจากบุรุษปริศนานั้นก็ยังคงส่งให้ฉันทุกตืนวัน
      - - -ฉันเฝ้าฝันวาดรูปเทพบุตรในฝันนั้นไว้ในจินตนาการ แต่ทุกครั้งที่ฉันคิดถึงเทพบุตรในฝัน ก็เห็นเป็นหน้านายเอกทุกครั้งไป
      - - -ดอกกุหลาบทุกดอก มันได้เริ่มก่อตัวเป็นความรักครั้งใหม่
      - - -ใครนะช่างแสนดีกับฉันเหลือเกิน
      - - -ทุกครั้งที่ฉันทุกข์เศร้าเสียใจ เพียงแค่ได้มองดอกกุหลาบที่เหิ่ยวแห้งซักดอกมันก็ทำให้ฉันสดชื่นขึ้นมาได้

      - - -ปีสุดท้ายของการเรียน ฉันกลายเป็นรุ่นพี่ที่โด่งดังอย่างไม่มีใครเทียบได้
      - - -เป็นดาวมหาวิทยาลัย เป็นนักแสดงละครเวที ทุกๆอย่างช่างลงตัว อย่างถึงที่สุด
      - - -แต่ตลอดเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ฉันยังไม่เคยได้สัมผัสกับมิตรภาพครั้งไหนที่เทียบได้กับ เพื่อนรักที่ฉันเกลียดที่สุด ไม่มีซักคน
      - - -ยามที่ฉันเหงาไม่มีใครคอยปลอบใจ ไม่มีใครเหลียวแล
      - - -แต่กับน้ำฟ้า ฉันไม่อยากจะพูดซักนิด.....เธอช่างแสนดี อ่อนโยน และเป็นที่พักใจให้ฉันเสมอ
      - - -คงจะมีแต่ดอกกุหลาบสีแดงสดเท่านั้นที่คอยปลอบใจฉัน

      - - -ไม่นานนักฉันก็เรียนจบมหาวิทยาลัย ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1
      - - -ทั้งๆที่ฉันไม่รู้เลยว่าฉันได้ทำลายชีวิตของน้ำฟ้าไปแล้ว
      - - -ทั้งเพื่อนพี่น้อง และครูอาจารย์รวมทั้งใครต่อใครทั้งหลายต่างไม่ชอบหน้าน้ำฟ้ากันทั้งนั้น
      - - -ตอนนี้ฉันอยากจะหัวเราะให้กับความสำเร็จของตัวเองซะเหลือเกิน แต่มันก็หัวเราะไม่ออกเลยจริงๆ
      - - -ทำไมนะ ฉันถึงทำร้ายคนๆหนึ่งได้มากมายขนาดนี้
      - - -ถ้าเปรียบเรื่องราวของฉันเป็นละครซักเรื่อง ฉันก็คงจะเป็นนางร้าย ที่ไร้หัวใจที่สุดทีเดียว
      - - -เพราะคนที่ฉันคอยกลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ทำร้ายจิตใจ มาตลอดก็คือเพื่อนรักของฉันนั่นเอง
      - - -อีกเพียง 1 วันแล้วสินะ วันครบรอบวันเกิดของฉันก็จะมาถึง
      - - -ฉันนั่งซึมอยู่ริมเวทีการแสดง พร้อมหวนนึกถึงช่วงเวลาเก่าๆ
      - - -15 ปีที่ฉันเคยมีความสุขที่สุด
      - - -แต่นับจากนั้นวันเกิดแต่ละวันของฉันก็เปรียบเสมือนวันที่ฉันเจ็บปวดอย่างสุดหัวใจ

      เท่าที่ฉันจำได้...
      ตอน ที่เราอายุได้ซักขวบนึง น้ำฟ้าร้องเพลงแฮปปิ้เบิร์ดเดย์ให้ฉันฟังหละมั้ง....ฉันก็ไม่แน่ใจมากนัก แต่ที่จำได้คร่าวๆมันไม่รู้เรื่องสักคำเลยหละ
      ตอน 2 ขวบเธอแฮปปิ้เบิร์ดเดย์ฉันด้วยการแย่งเป่าเทียนวันเกิดของฉันซะหมดเกลี้ยง มันเหมือนกับตอนที่เราอายุ 3 และ 4 ขวบเลยแหละ
      ดังนั้นทุกๆปีฉันเลยแก้เผ็ดเธอ ด้วยการแย่งเป่าเทียนของเธอแทนซะเลย
      ตอนที่เราอายุได้ 5 ขวบ เราสองคนไปจับปลากันที่ก้นบึ้งกัน เธอให้ปลาตัวใหญ่ที่สุดที่จับได้ นั่นก็คือปลาหางนกยูงนั่นเอง
      เฮอ... ตอน 6 ขวบ เธอหอมแก้มฉันราวๆ 20 กว่ารอบเป็นของขวัญเหมือนกับตอน 9 ขวบ
      รู้ไว้ซะปากเธอเหม็นอย่าบอกใครเชียวแหละน้ำฟ้า...ฮิฮิ
      ส่วนตอนเราอายุ 7 และ 8 เธอตั้งใจทำมากเลยเน้อ
      มันเป็นรูปที่เธอวาดเอง... วาดรูปเหมือนหนะ
      ตอน 7 ขวบรู้สึกว่าเธอจะวาดหน้าฉันยังกะ สัปปะรดเน่าแหนะ ตาเต็มไปหมดเลย
      ส่วนตอน 8 ขวบฉันเห็นหน้าฉันเป็นแม่มดนะ
      ตอน 10-11-12-13เธอให้ของขวัญเหมือนกันหมดเลยสิ่งนั้นก็คือ
      ตุ๊กตา ก็พวกตุ๊กตาหมี ตุ๊กตาบาบี้ หรือไม่ก็พวกตุ๊กตาทั่วไปนั่นแหละ
      แต่ฉันชอบปีที่ 14 ที่สุดเลยหละ
      เธอทำตุ๊กตา หน้าฉันให้ฉันด้วยแหละ ขอบอกว่าน่าเกลียดอย่าบอกใครเชียว
      มันเป็นตุ๊กตาผ้าที่พยายามทำให้เหมือนกับฉันที่สุดหนะ เฮอ.....แต่มันก็เป็นได้แค่ตุ๊กตายัยผีบ้าตัวนึงเท่านั่นแหละ
      ส่วนปีที่ 15 เราสองคน นั่งเล่นกันใต้ม้าหินอ่อน
      เธอบอกว่า เธอจะเอาดาวมาให้ฉันดู จริงๆด้วยนั่นแหละ หิงห้อย นับร้อยตัวเหมือนดาวจริงๆนะ
      แล้วก็ปีที่ 16....เธอก็ให้........เออ มันเป็นความทรงจำที่ขาดหายไปแล้วหละ
      ส่วนฉันหนะหรอ ฉันแทบจำไม่ได้เลยหละว่าฉันให้อะไรเธอไปบ้าง
      ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกของที่ฉันซื้อมาบ้าง หรือไม่ก็กล่องของขวัญสำเร็จรูป
      ฉันรักเธอเทียบไม่ได้กับความห่วงใยที่เธอมีให้ฉันเลยนะฟ้า
      ฉันขอโทษๆ....ขอโทษจริงๆ...ขอโทษกับทุกๆสิ่ง จริงๆนะ น้ำฟ้า

      และแล้วเสียงที่คุ้นหูก็ดังขึ้น
      "น้ำฝน วันนี้ไปว่ายน้ำกับฉันได้มั้ย ฉันอยากลองว่ายดูหนะ"
      น้ำฟ้านั่นเอง ฉันยิ้มด้วยความดีใจ พร้อมกับเดินไปสระว่ายน้ำมหาลัยพร้อมกับเธอ
      เราทั้งสองไม่ได้พูดกันนานแล้วหละ เกือบปีแล้วมั้ง
      ครั้งล่าสุดก็เห็นจะที่การแสดงอะไรซักอย่างฉันก็จำไม่ได้
      แต่ตอนนี้ ฉันอยากคุยกับเธอที่สุด อยากพูดกับเธอ อยากมองหน้าเธอ
      และขอโทษกับทุกๆสิ่งอย่างจริงใจ

      " ที่กระโดด น้ำสูงจังเน้อ ไปเล่นกันเถอะ "
      น้ำฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงสดชื่น เธอดูไม่โกรธฉันเลยแม้แต่น้อย
      ฉันยิ้มเนือยๆพร้อมกับพยักหน้านิดๆ แล้วเดินไปยัง ที่กระโดดน้ำสูงชัน

      "อีกวันเดียวก็ถึงวันเกิดเราแล้วน้า เฮอ!!! เราไม่ได้คุยกันนานเท่าไรแล้วเนี่ย อืม ราวๆๆ"
      น้ำฟ้าพูดด้วยสีหน้าสดใส ฉันมองหน้าเธอพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างสดชื่น ตอนนี้เราอยู่บนที่กระโดดน้ำสูงราวๆ 5-6 เมตร
      " ปีกว่าแล้วสิ งั้นสวัสดีจ๊ะ แฮปปิ้เบิร์ดเดย์ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่"น้ำฟ้ายิ้มพร้อมกับพูดต่อ
      "เราชื่อ น้ำฟ้า แหละ
      รู้มั้ยอีกแค่วันเดียว ก็จะครบรอบวันเกิดของเราแล้วนะ งั้นเราขอของขวัญจากเธอหน่อยได้ป่ะ น้าา..เพื่อนใหม่ของฉัน"
      "อะไรหรอ..."ฉันถามด้วยน้ำเสียงสดชื่น
      "อืม ก็ขอแค่ ......เฮอ มันพูดอยากแฮะ คือว่า กลับมา..เออ"
      "อะไร...หรอ"ฉันยิ้มอย่างสดชื่น ความทรงจำเก่าๆเริ่มกลับมาในความทรงจำอีกครั้ง
      "อืมคือว่า กลับมา...."ก่อนที่น้ำฟ้าจะพูดจบฉันก็เผลอตกลงไปจากกระดานกระโดดน้ำ
      ปัง....!!!!
      เธอรีบกระโดดตามมาด้วยความร้อนรน
      เสียงกรีดร้องดังขึ้น
      แก้วตาของน้ำฟ้า กระทบกับน้ำในสระเข้าอย่างแรง โดยที่เธอไม่รู้ตัว...

      ฉันรีบว่ายน้ำไปยังร่างที่โอดครวญของน้ำฟ้า
      ความรู้สึกเกลียดชังตอนนั้นได้เหือดหายไปหมดสิ้น ตลอดทางที่ฉันอุ้มเธอมา
      เธอถามแต่ว่า "ฝน ฝน อยู่ไหน ฝน ปลอดภัยมั้ย น้ำที่นั่นลึกนะ" ฉันอุ้มเธอพร้อมๆกับร้องไห้วิ่งไปยังห้องพยาบาล
      ตอน นั้นไม่มีใครอยู่เลยซักคน ฉันจึงต้องปล่อยเธอนั่งลงที่ม้านั้ง หน้าห้องพยาบาล พร้อมๆกับโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลจากโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

      "เธอต้องไม่เป็นอะไร.... อดใจไว้นะ...
      อุ๋ย!!!! เลือดเธอไหลออกจากตาด้วย" ฉันพูดพร้อมๆกับร้องไห้ปนกันไป
      ทำไมนะน้ำฟ้า..ทำไมเธอต้องทำอะไรแบบนี้ด้วย..ทั้งๆที่เธอก็รู้ว่าฉันว่ายน้ำเป็น
      ทำไมเธอต้องมาเป็นห่วงเป็นใยฉันด้วย
      ฉันขอโทษ...ขอโทษจริงๆ....ฉันไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้น...ฉันขอโทษ

      "อืม.... ฉันยังพูดไม่จบเลยหละ เธอคงดีใจสินะที่ฉันเป็นแบบนี้
      ของขวัญวันเกิดปีนี้ก็คือ กลับมา เหมือนเดิมน้า ฉันขอโทษ ขอโทษจริงๆ
      น้ำฝนกลับมาเป็นเพื่อนเราเหมือนเดิมนะ
      เธอรู้มั้ยการมีเพื่อนแท้กับเค้าซักคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
      ทุกๆวันที่ฉันมีชีวิตอยู่ก็คือเฝ้ารอเธอ เพื่อนรักของฉัน น้ำฝนที่แสนดี กลับมาหาที่ม้าหินอ่อนตัวเก่า
      กลับมาเป็นอย่างเดิม..อย่างที่เคยเป็น และจะอยู่ด้วยกันตลอดไป...แม้ฉันจะยอมแลกกับทุกอย่าง
      แม้ฉันจะต้องเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือ จะทำอะไร ฉันก็ยอม
      กุหลาบแดงที่ส่งไปให้ทุกวันคงจะไม่ได้อีกแล้วซินะ
      ความรักครั้งใหม่ของเธอคงสดใสสิเนอะ เรากลับมารักกันอีกครั้งตั้งแต่ ม.5
      จำได้มั้ยที่เราสัญญากันว่า เราจะรักกันตลอดไป
      ตอนนี้คงไม่มีใครทำผิดสัญญาหรอกนะ
      เธอคงจะหลงรักเจ้าของกุหลาบแดงที่ส่งไปให้ทุกวันเข้าแล้ว...
      เธอก็ยังคงรักฉันเหมือนเดิม เรายังคงรักกันทุกวัน
      และเราจะรักกันไปอีก 200 ปี และตลอดไป
      แต่ตอนนี้ช่วยรักฉันที่เป็นฉันได้รึเปล่า
      รักที่เป็นน้ำฟ้า เพื่อนเก่าที่เธอเคยเกลียดเข้าไส้
      ได้มั้ย...เพราะว่าตลอดเวลา ฉันรักเธอนะน้ำฝน ฉัน รัก เธอ และจะจดจำเธอไว้ตลอดไป"

      ฉันร้องไห้ผสานกับเสียงไซเรนจากรถพยาบาลที่มารับตัวเธอไป
      เธอยังคงยิ้มอยู่อย่างสดชื่น หน้าของเธอมันยังคงเหมือนเก่า
      สาวน้อยผมยาวดำสลวยหน้าใส
      ใจเธอก็เหมือนกันมันยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
      ประตูห้องฉุกเฉินปิดลง ฉันยืนเฝ้าหน้าประตูอย่างร้อนใจพร้อมกับน้ำใสๆที่ไหลออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง
      ไม่นานหมอก็ออกมา แก้วตาของน้ำฟ้าแตก เธออาจจะตาบอดชั่วชีวิต ถ้าไม่เปลี่ยนแก้วตาให้ทันภายใน 12 ชั่วโมง

      ฉันเป็นคนๆหนึ่ง ที่มีความรู้สึกนึกคิด มีชีวิต มีจิตใจ แต่ไร้ซึ่งความรัก ความอบอุ่น ความเข้าใจ
      ฉัน เฝ้าแต่คอยทำลายชีวิตของคนคู่หนึ่ง ที่ๆคนหนึ่งได้ขึ้นขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนรักของฉัน เพื่อนซี้ไม่มีวันทิ้งกัน เพื่อนที่ไม่มีวันทิ้งฉันให้เดียวดายเสมอ กับอีกคนหนึ่ง คนที่ฉันรัก...... แอบรักเสมอมา และเค้าก็รักฉันเช่นกัน
      แต่ถ้าไม่เป็นเพราะมัน เพื่อนรักของฉัน
      มันที่มาพรากเค้าจากฉันไป ทำให้ฉันต้องทำลายชีวิต ของพวกมัน
      เพื่อนรักของฉัน และคนที่ฉันรักสุดหัวใจ ให้พังทลายไปต่อหน้าต่อตา ทั้งๆที่ฉันจะต้องเสีย......น้ำตา........สักกี่ร้อยหยดก็ตามที
      ฉันต้องเสียน้ำตา เสียใจ เสียเพื่อน ทั้งๆที่ฉันไม่รู้เลยว่า
      เพื่อนของฉัน น้ำฟ้าเพื่อนรัก ยังคงรักฉันเหมือนเดิมตลอดมา

      >>>ฉันรีบกลับหลังเก่า ค้นของในห้องเก็บของ หากล่องของขวัญใบสำคัญ
      >>>ถึงแม้มันจะเปื้อนฝุ่นไปหน่อยแต่ของข้างในมันคงจะมีค่ามากมายเกินที่ฝุ่นในนั้นจะทำลายได้

      >>>ฉันค่อยๆเปิดการ์ดสีขาวหน้ากล่องอย่างช้าๆ มันเขียนด้วยลายมือที่ดูคุ้นตา
      >>>ลายมือ กดๆ จนสามารถ สัมผัสได้ว่าเขียนตัวอะไร

      ถึง น้ำฝนเพื่อนซี้ 16 ปีแล้วเน้อ ยัยแก่
      16 ปีแล้วซินะที่เรายังคงเป็นเพื่อนกันตลอดมา
      ฉันอยากที่จะเก็บความทรงจำดีๆอย่างนี้ในส่วนลึกของหัวใจ
      และหวังลึกๆว่ามันจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป แม้จะมีโอกาสน้อยเต็มที
      ในตอนนี้ ฉันได้รู้ถึงความรู้สึกที่เธอเคยเป็น เคยทำ เคยทุกข์ทรมาน
      การไม่เป็นตัวของตัวเอง....เพื่อทำให้ใครซักคนพอใจ
      ฉันรู้ว่าเธอก็เหนื่อยมากเหมือนกันที่ต้องทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเอง
      เพราะฉันก็เหนื่อยแทบขาดใจเช่นกัน
      ฉันต้องหัดว่ายน้ำ ไม่กินทุเรียน ชอบคนที่เธอชอบปลื้มประทับใจ มันคนยากมากสำหรับคนอื่น
      แต่สำหรับฉัน เพื่อมิตรภาพของเรา แค่เนี้ย สบายมาก
      ฉันรู้นะว่าเธอรู้ความลับของฉันมานานแล้ว
      ใช่...ฉันชอบนายเอก และก็รักนายนั่น ไม่น้อยไปกว่าที่เธอรักเช่นกัน
      แต่เพราะอะไรรู้มั้ย ที่ฉันต้องคอยหลบหน้า คอยช่วยเหลือ
      และสุดท้ายฉันก็ต้องแอบไปร้องไห้คนเดียว
      ก็เพราะว่าเธอกับฉันเราเป็นเพื่อนกันไงหละ
      ฉันมิอาจทำร้ายจิตใจเพื่อนที่แสนดีคนนี้ของฉันได้...ไม่ได้จริงๆ
      เรายังคงรักกันเหมือนเดิมสิเนอะ.....รักกัน..เป็นเพื่อนกัน
      ใช่มั้ย...ยัยแก่ เพื่อนที่แสนดีของฉัน...(และมันจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป)
      ปล.ภาพอาจจะไม่สวยนะ ก็ใครจะวาดสวยเหมือนเธอหละจ๊ะ.... แม่จิตรกรเอก

      >>>ฉันค่อยๆเปิดกล่องใบสวยออกอย่างนิ่มนวล น้ำใสๆเริ่มพรั่งพรูออกมาจากลูกตาประดุจสายฝน
      >>>ของขวัญที่อยู่ข้างใน ดูใหม่เอี่ยม...และดูมีค่าเกินกว่าของขวัญชิ้นไหน
      >>>สิ่งนั้นคล้ายๆกับนิทานก่อนนอนสำหรับเด็กอายุ 5 -6 ขวบ แต่เล่มหนาอย่าบอกใคร
      >>>ฉันค่อยๆกวาดสายตาอ่านช้าๆ มันเป็นงานเขียนหนังสือเด็กเรื่องแรกของน้ำฟ้าเองแหละ
      >>>หน้าปกของหนังสือเล่มนี้วาดด้วยสีเทียน ที่เหมือนเด็ก ป.1 ป.2 วาด
      >>>ตัวอักษรถูกเขียนด้วยเชือกถักสีสวย ชื่อเรื่องว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
      >>>เมื่อเปิดเข้าไปก็จะเห็นรูปภาพเด็กผู้หญิงสองคน นั่งพูดคุยกัน
      >>>แต่ละภาพถึงมันไม่สวยแต่ก็ดูออกว่าเธอตั้งใจทำเป็นอย่างยิ่ง
      >>>มันทำมาจากทั้งจิตใจ หัวใจ และความจริงใจของเธออย่างเปี่ยมล้น

      กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กน่ารักอยู่ 2 คน
      เด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่อน้ำฝน
      น้ำฝนเป็นเด็กน่ารัก นิสัยดี เหมือนกับ น้ำฟ้าเพื่อนของเธอที่นิสัยดี และน่ารัก กว่าน้ำฝน... ฮิฮิ
      ทั้งสองคนนี้เกิดวันเดียวกันเดือนเดียวกัน ปีเดียวกัน แถมหน้าตายังคล้ายกันอีกตั่งหาก
      และที่สำคัญ ทั้งสองคน เป็นเพื่อนรัก ที่รัก และสนิทกันมากที่สุดคู่หนึ่งบนโลกใบนี้
      ด้วยความที่น้ำฝนเป็นคนอ่อนแอดังนั้นน้ำฟ้า จึงต้องคอยปกป้อง ดูแลน้ำฝนอยู่เสมอไป
      จนดูคล้ายกับว่า น้ำฟ้าเป็นองครักษ์พิทักษ์น้ำฝนซะนี่...
      น้ำฝน ชอบ พี่ใหม่เจริญปุระ ชอบกินมะนาวสดๆ ชอบว่ายน้ำ และก็วาดรูปสวยๆ
      ส่วนน้ำฟ้า ไม่ค่อยชอบพี่ใหม่ ว่ายน้ำไม่เป็น วาดรูปไม่สวย เกลียดมะนาว และชอบกินทุเรียนเป็นที่สุด
      ถึงแม้ทั้งคู่จะมีอะไรที่ไม่เหมือนกันมากมาย แต่ทั้งคู่ก็ยังคงเป็นเพื่อนรักกันตลอดมา
      วันหนึ่งทั้งคู่สัญญาว่าอีก 200 ปีจะกลับมาที่ต้นไม้ต้นเดิม ที่ทั้งคู่ชอบมาเล่นด้วยกันบ่อยๆ
      และทั้งสองคนจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป
      กาลเวลาล่วงเลยผ่านไป
      เมื่อทั้งสองโตขึ้น
      น้ำฝนเริ่มมีความรัก กับผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า เอก
      ด้วยความเป็นเพื่อนน้ำฟ้าเลยช่วยติดต่อเอกให้ จนในที่สุดทั้งสองคนนั้นก็รักกัน
      น้ำฟ้าต้องแอบร้องไห้คนเดียวอยู่เสมอเวลาทั้งเอกและน้ำฝนอยู่ด้วยกัน รักกัน
      เพราะทั้งๆที่จริงแล้วเธอก็รักผู้ชายคนนี้อยู่ไม่น้อย
      แต่ดังสวรรค์แกล้งทั้งสองคน น้ำฝนกับเอกทั้งคู่เลิกกัน เพราะเอกดันมาชอบกับน้ำฟ้า
      ด้วยความเศร้าเสียใจน้ำฝนจึงแยกห่างจากน้ำฟ้าไปทีละนิดละนิด จนในที่สุดก็ห่างกันไกลประดุจฟ้ากับทะเล
      น้ำฟ้าพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ น้ำฝนกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง
      เธอหันมากินมะนาว ชอบพี่ใหม่ หัดวาดรูป และทำอะไรที่น้ำฝนชอบ
      และแล้ว...น้ำฝนก็ใจอ่อนจนได้ เพราะทั้งสองเป็นเพื่อนกันนี่หน่า
      ในที่สุด...200 ปีก็ล่วงเลยผ่านไป ทั้งสองกลับมาพบกันอีกครั้ง ที่ต้นไม้ต้นเดิม...เพื่อสัญญาว่า......
      หน้ากระดาษหน้าหนึ่งคลับคล้ายขาดหายไป มันคงจะเป็นข้อความที่เธออยากจะบอกกับฉันสุดหัวใจ
      กลิ่นไออุ่นๆ ของความหลังสะท้อนกลับเข้ามาในร่างอันเย็นชาของฉันอีกครั้ง
      น้ำใสๆไหลลงมา ถูกกระดาษหน้าสุดท้าย
      ฉันเช็ดน้ำตาเบาๆ พร้อมกับหวนนึกถึงเรื่องราวต่างๆ ตั้งแต่เด็กจนโต
      เราทั้งสองเล่นด้วยกัน นอนด้วยกัน สนิทกัน ไม่ว่าจะทุกข์จะร้อน จะหนาว ยังไงแต่น้ำฟ้าก็ยังคงยืนเคียงข้างน้ำฝน
      ภาพน้ำฟ้าค่อยๆออกมาทีละนิดทีละนิด มันเป็นภาพที่สวยที่สุดที่ฉันเคยวาดมา
      ภาพเหมือนที่เราเคยสัญญากันไว้
      มันเป็นน้ำฟ้าที่ฉันยังจำได้ดี น้ำฟ้าที่ยังคงเป็นเพื่อนฉันตลอดกาล และตลอดไป

      - - -หลังบานประตูห้องไอซียู ถ้าคุณลองสังเกตดีๆ จะเห็นภาพอะไรบางอย่าง
      - - -มันเป็นภาพของสาวน้อยน่าตาน่ารัก ผมยาวดำ หน้าบ้องแบ๊ว ตาใสแจ๋ว
      - - -ข้างๆภาพเขียนว่า ฉันขอโทษ ขอโทษจริง เพื่อนรักของฉัน และคนที่ฉันรักมาตลอดเวลา 22 ปี
      >>>หลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ไม่มีใครเห็นน้ำฝนอีกเลย
      >>>หลายคนบอกว่า เธอเสียใจมากจนเป็นบ้าไป
      >>>หลายคนบอกว่า เธอรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนหนีกลับบ้านเก่าไปกับยายของเธอ
      >>>ถึงใครจะบอกยังไง แต่ น้ำฝนก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของน้ำฟ้าตลอดมา
      >>>เธอไม่ได้หายไปไหน แต่เธอยังคงอยู่ในใจของเพื่อนที่ให้อภัยเธอได้เสมอ
      >>>เพื่อนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ น้ำฟ้า นักแสดงและนักเขียนชื่อดังในตอนนี้
      >>>ถ้าคุณเคยไปบ้านของนักแสดงชื่อดังคุณน้ำฟ้า เรวดี หละก็
      >>>รูปภาพที่เห็นแล้วต้องสะดุดตาคงจะไม่พ้นรูปสาวน้อยน่ารักน่าชังคนหนึ่ง ซึ่งผู้วาดคงต้อง X วชาญศิลปะแขนงนี้เอามากๆ
      >>>สาวน้อยคนนั้นหน้าตาคลับคล้ายกับคุณน้ำฟ้าไม่มีผิดเพี้ยน แต่ภาพนั้นก็ยังคงดูหมองเศร้าตลอดมา
      >>>แม้เด็กหญิงคนนั้นจะยิ้มออกมาอย่างสดชื่นแจ่มใส แต่มันก็ดูฝืนทนเต็มที

      >>>จะถึงอย่างไรก็ตามที่ตอนนี้ที่น้ำฟ้ากลับมามองเห็นได้อีกครั้ง
      >>>ก็เพราะการบริจาคแก้วตาของหญิงแก่ใกล้สิ้นใจคนหนึ่ง
      >>>เธอกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ของเมืองไทย มีคฤหาสค์หลังโต แต่ถึงกระนั้น เธอก็แทบจะไม่มีความสุขเลยซักนิด
      >>>วันทั้งวันเธอเฝ้ารออะไรบางอย่างข้างๆหน้าต่างอย่างเหม่อลอย
      >>>น้ำฟ้ากับเอกกำลังจะแต่งงานกันในเร็วๆท่ามกลางความยินดีของเพื่อนฝูง
      >>>เพียงแต่เธอยังคงมีสีหน้าหมองเศร้าตลอดมา

      เลิฟ เรดิโอ สวัสดีค่ะ
      เรายินดีเป็นสื่อกลางส่งความรักให้กับทุกๆคนที่มีความรักในหัวใจนะค่ะ
      เสียงรายการวิทยุรายการหนึ่งดังขึ้น
      ท่ามกลางรถแท็กซี่ซึ่งกำลังรับคู่บ่าวสาวคู่หนึ่งไปสู่งานเลี้ยงวิวาร์
      หญิงสาวที่อยู่ในรถ มีนามว่าน้ำฟ้าเธอยิ้มอย่างสดใสภายในสายตาอันหมองเศร้า ส่วนชายหนุ่มรูปงาม มีนามว่า นายเอก
      ฝนตกอย่างเฉื่อยชา ชวนให้คิดถึงเรื่องราวต่างๆยิ่งนัก
      และแล้วเพลงๆหนึ่งก็จบลง
      บ่าวสาวทั้งคู่หันหน้ามองกันพร้อมกับตั้งใจฟังเสียงจากรายการวิทยุ
      สวัสดีค่ะ ท่านผู้ฟังทุกท่าน ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ คิดถึง..เธอสุดหัวใจ
      รายการที่แลกเปลี่ยนทัศนะคติความคิดเห็น และฝากความคิดถึงถึงใครคนหนึ่งที่คุณรัก อีกครั้งนะค่ะ
      วันนี้เราจะมาคุยกับคุณ นิรนามค่ะ สวัสดีค่ะ
      -- สวัสดีค่ะ เสียงหนึ่งที่ฟังดูคุ้นหูดังขึ้น
      -- วันนี้คุณนิรนามมีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งที่จะมาเล่าให้เพื่อนๆเราชาว เลิฟ เรดิโอฟังกันค่ะ
      -- สวัสดีค่ะ ดิฉัน เป็นใครขอไม่เอ่ยชื่อแล้วกันนะค่ะ วันนี้ดิฉัน
      ขอแสดงความคิดถึงถึงเพื่อนคนหนึ่งค่ะ
      เธอคนนี้เป็นนักแสดงชื่อดังเลยหละ แต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะจำฉันได้รึเปล่า
      --เราทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กจนโต
      --เธอคนนี้เป็นคนนิสัยดีน่ารัก คอยปกป้องฉัน ยามที่ฉันไม่เหลือใคร
      --เธอเป็นคนเดียวที่ยังอยู่ แหละอยู่คอยดูแล ไม่ว่าฉันจะหันไปเมื่อไรก็เจอ
      --ฉันรู้สึกดีใจจนพูดไม่ออกเลยหละค่ะ ที่ได้มีความรู้สึกดีๆกับคนๆหนึ่งเช่นนี้
      --เราเป็นเพื่อนกันมานานแสนนาน และเธอก็เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉัน
      --เราเกิดวันเดียวกัน เดือนเดียวกัน ปีเดียวกัน และก็รักผู้ชายคนเดียวกัน
      --เธอแอบปกปิดความลับนี้มานานแสนนานเพื่อที่จะช่วยฉันกับผู้ชายคนนั้นให้สมหวัง
      ทั้งที่เธอจะต้องเสียน้ำตามากมายเท่าไรก็ตาม เธอต้องแอบร้องไห้อยู่คนเดียว
      ร้องไห้อยู่ในใจ ไม่เปิดเผยให้ใครรู้
      --จนในที่สุดฉันกับผู้ชายคนนั้นก็เป็นแฟนกัน แต่แล้ว เราก็เลิกกันไป
      เค้าปล่อยให้ฉันนั่งคอยเก้อ และรักกับเพื่อนรักของฉันแทน
      -- ฉันรู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก
      ดังนั้นฉันจึงเริ่มออกห่างจากเพื่อนของฉันไปทีละนิด ละนิด
      จนในที่สุดเราก็ห่างกันไกลเหมือนฟ้ากับทะเล
      แม้เธอจะพยายามขอคืนดีกับฉันทุกวิถีทาง ทำตามใจฉัน แต่ฉันก็เกลียด เก็บกด
      กลั่นแกล้งเธอ อย่างร้ายกาจ เหมือนนางร้ายในละครทีวี จนในที่สุด
      ฉันก็ต้องเสียใจอย่างไม่มีวันหวนคืน และไม่มีวันที่ฉันจะให้อภัยตัวเองได้อีกต่อไป
      -- เราสัญญากันว่าอีก 200 ปีเราจะกลับมาพบกันอีก แต่ฉันคงจะทำไม่ได้แล้วหละนะ
      ฉันคงจะอยู่เป็นเพื่อนเธอไม่ได้อีกแล้ว... ฉันขอโทษ ขอโทษจริงๆ
      --ฉันปล่อยให้เธอยืนอยู่คนเดียวอย่างเหน็บหนาว ไม่เหลียวแลเธอเลยซักครั้ง
      แต่ทำไมนะ..ทุกๆครั้งที่ฉันช้ำใจ เธอก็คอยอยู่เคียงข้างฉันเสมอ
      --ฉันมิอาจจะเห็นความรักที่เธอให้ได้อีกต่อไปแล้ว มิอาจจะอยู่คอยให้เธอปกป้องดูแล
      มิอาจจะมองดูเธอได้อีกต่อไป แต่ทุกๆครั้งที่ฉันมีลมหายใจอยู่ฉันก็ยังสัมผัสได้ว่า เธอยังคงส่งความรักให้ฉันเสมอมา
      หลายปีแล้วสินะ สุขสันต์วันแต่งงานนะเพื่อนรัก อย่าลืมสอนลูกเล่นเซเซมีมีด้วยหละ จะได้เล่นไว้แก้เขิน
      และก็อย่าลืมเพื่อนคนนี้นะ เพราะไม่ว่าจะยังไงฉันก็ยังคงรักเธอตลอดไป
      --ใกล้หมดเวลาแล้วหละ
      รถสายสุดท้ายกำลังจะออกฉันเพียงแค่อยากกลับมารับความรู้สึกเก่าๆที่ยังคงไม่จางหายไป

      --สุดท้ายนี้ ดิฉัน ขอให้ทุกคนหลับตาลง แล้วสัมผัสกับความรักจากหัวใจ
      ที่คนรอบข้างมีให้คุณ จงเก็บความทรงจำดีๆนี้ไว้ก่อนจะมันจะสายเกินไป

      เสียง วางสายลง พร้อมกับเสียงโอเปเรเตอร์ประกาศให้ผู้โดยสารขึ้นรถที่สถานีหมอชิตดังขึ้น
      -- เพลงๆหนึ่งดังขึ้น เสียงเปียโนที่ไพเราะบรรเลง พร้อมกับเสียงร้องอันมีเสน่ห์
      คนเดียวจริงๆ
      -- เพลงดังขึ้นพอๆกับที่น้ำฟ้าเปิดประตูรถวิ่งไป ตากฝนข้างนอก
      "เธอจะไปไหนหนะน้ำฟ้า" เสียงหนึ่งตะโกนขึ้น
      "ไปตามหัวใจ ที่ฉันฝากไว้แสนนานที่หนะสิ"
      เธอวิ่งตากฝนอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับเพลงบรรเลงที่ดังขึ้นตามจังหวะ
      "นั่นคือเธอคนเดียวจริงๆที่ยังอยู่ แหละอยู่คอยดูแลไม่ว่าจะหันไปเมื่อไหร่ก็เจอ
      ต่อให้ร้ายซักเท่าไร ไม่เคยโกรธกัน ฉันจึงอยากให้เธอรู้.....
      ได้มีวันเวลาดีๆเพราะมีเธอ ที่ทำให้วันนี้เป็นวันที่ฉันมีความสุขหัวใจ
      แค่มีเธอคอยห่วงใย... รัก.... ตลอดไปไม่ต้องการใครอีกเลย....
      เธอคนเดียวจริงๆ ใช่เธอรึเปล่าน้ำฝน รอฉันด้วยนะ
      เราจะอยู่ด้วยกันอีกครั้งนะ น้ำฝน "
      เพียงแค่อึดใจ น้ำฟ้าก็วิ่งมาถึง สถานีขนส่งมีรถโดยสารวิ่งอยู่เต็มไปหมด
      เธอเคาะดูตามหน้าต่างกระจกแต่ละคันรถอย่าง บ้าคลั่ง
      "น้ำฝน น้ำฝน" เธอตะโกนไปตามรถต่างๆอย่างอ่อนแรง
      "เธออยู่ไหน น้ำฝน ฉันคิดถึงเธอ"
      ทันใดนั้นเอง น้ำฟ้าก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ริมหน้าต่างที่เปิดออกพอให้ลมพัดผ่านได้
      หน้าตาของผู้หญิงคนนั้นคลับคล้ายกับน้ำฝนราวกับแกะ
      มันเป็นช่วงพอดีกับที่รถวิ่งออกไปอย่างช้าๆ น้ำฟ้า วิ่งตามไปอย่างอ่อนแรง พร้อมกับตะโกนเรียกชื่อน้ำฝน ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
      "น้ำฝน ฝน รอด้วยค่ะ รอด้วย "รถวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
      ทิ้งให้น้ำฟ้า นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นอย่างอ่อนแรง
      หยาดฝนที่ไหลรินออกมาเหมือนกับหลั่งน้ำตาให้กับน้ำฟ้าที่นั่งร้องไห้ กอดกระเป๋าที่เธอติดตัวไว้ตลอดเวลาอยู่
      ทันใดนั้นเอง หนังสือเล่มโตที่ดูคุ้นตาก็ปลิวมาหล่นตรงหน้าน้ำฟ้า
      กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
      หยาดน้ำฝนสาดกระหน่ำมาเรื่อยๆ
      น้ำฟ้าผลิยิ้มออกมาอย่างดีใจ ก่อนที่รถบัสคันโตจะจอดลง
      หญิงสาวคนหนึ่ง ใส่แว่นดำ หน้าตาคุ้นเคยเดินลงมา พร้อมๆกับใช้ไม้เท้าคลำทาง "น้ำฝนนั่นเอง"

      "ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ ช่วยที หนังสือของฉันตกหายไปค่ะ"
      น้ำฝนตะโกนร้องเรียกพลางคลำทางไปมาดูคล้ายคนตาบอด
      น้ำฟ้า กอดหนังสือแน่น พร้อมๆกับร้องไห้ออกมาปนกับน้ำฝนที่ไหลอาบแก้ม
      เธอเช็ดหนังสืออย่างเรียบร้อยพร้อมกับ มองดูน้ำฝนอีกครั้ง แล้วก็หยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าที่เธอกอดไว้แน่นตลอดมา
      หนังสือ หน้าสุดท้ายที่ขาดหายไป
      น้ำฟ้าบรรจงสอดหนังสืออย่างช้าๆ พร้อมกับ ยื่นให้น้ำฝน
      น้ำฝนคลำมือไปมา พร้อมกับจับที่หนังสือเล่มใหญ่แล้วผลิยิ้มออกมาอย่างดีใจ
      น้ำฟ้ามองเพื่อนของเธออีกครั้ง
      ในที่สุกเธอก็รู้ว่าคนที่ยอมเสียสละ แก้วตาก็คือน้ำฝนเพื่อนที่เธอรักมาเสมอมานั่นเอง
      น้ำฝนไม่เคยปล่อยให้น้ำฟ้าเดียวดาย เพราะเธอได้มอบดวงตาที่เปิดความเงียบเหงาให้น้ำฟ้าอีกครั้ง
      แต่ในทางกลับกันตัวขิงเธอก็ไม่เคยเงียบเหงาเลย
      เพราะความรักที่เธอสัมผัสได้จากน้ำฟ้ายังวนอยู่ในความทรงจำของเธอเสมอ
      น้ำฝนอมยิ้มน้อยๆก่อนที่จะรับหนังสือจากมือของน้ำฟ้า
      แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอันแหบเบา "ขอบคุณมากๆ ค่ะขอบคุณจริงๆ"
      พร้อมๆกับเดินจากไป อย่างเชื่องช้า
      น้ำฟ้าก้มตัวลงมองพื้นถนนพร้อมๆกับส่งสายตาให้กับเพื่อนรักเพียงคนเดียวของเธอ
      เธอยิ้มครั้งสุดท้ายก่อนที่จะนั่งร้องไห้ท่ามกลางสายฝนที่สาดซัด

      - - -สายลมพัดไหวผ่านรถบัสคันเก่า สาวน้อยคนหนึ่ง ยังคงนั่นคลำอะไรบางอย่างอยู่
      - - -ถึงแม้เธอจะมองไม่เห็นอีกต่อไป แต่ภาพเหล่านั้นก็ยังคงติดตรึงอยู่ในจินตภาพของเธอ
      - - -จนถึงหน้าสุดท้ายที่ว่างเปล่า สาวน้อยถอนหายใจ พร้อมกับคลำมันเหมือนเก่าทั้งๆที่รู้ว่าก็ยังคงว่างเปล่าเช่นเคย
      - - -แต่ครั้งนี้สิ่งหนึ่งได้เปลี่ยนไป

      - - -หนังสือหน้าสุดท้ายถูกถักทอด้วยสายใยที่สัมผัสได้ มันเขียนว่า
      - - -เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป ในขณะพื้นหลังเป็นจิ๊กซอ อันเก่าที่วางอยู่ใต้เตียงน้ำฟ้ารูปหัวใจที่น้ำฝนเอาไปซ่อน
      - - - ถึงแม้อันกลางจะขาดหายไป แต่ทุกชิ้นก็ยังอยู่ครบถ้วน......
      - - - ตลอดเวลาที่ผ่านมา น้ำฟ้าคงใช้เวลาทั้งชีวิตหาจิ๊กซอชิ้นสุดท้ายหละมั้ง
      - - -แต่ในที่สุดจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายแล้ว.. เธอก็ไม่มีทางที่จะหามันเจอ
      - - -มันก็เหมือนกับมิตรภาพของทั้งสองที่ไม่มีทางกลับคืนมาเช่นกัน

      - - -จิ๊กซอชิ้นสุดท้ายคงจะอยู่ที่ไหนซักแห่ง
      - - - อาจจะอยู่ในซอกเล็กซอกน้อยของลิ้นชัก หรือบนตู้
      - - -แต่ถึงอย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีวันที่จะสมบูรณ์ได้อีกต่อไป
      - - -เพราะอย่างไรฟ้าก็ได้กำหนดไว้แล้วว่า
      - - -จิ๊กซอชิ้นนี้ก็เปรียบเสมือนกับความสัมพันธ์ของเธอทั้งสองที่มิมีวันหวนมาได้อีกต่อไป

      - - -ภาพเขียนรูปเหมือนที่ตั้งอยู่ในคฤหาสยังคงเศร้าสร้อยต่อไป
      - - -และทุกอย่างด็ยังคงเหมือนเดิม เพียงแต่ น้ำฟ้าสามารถมีความสุขได้ตลอดกาลเวลา
      - - -เพราะความรัก ความห่วงใย ได้ถูกถ่ายทอดผ่านสายตาของเธอตลอดมา
      - - -สายตาที่แลกมาด้วยหัวใจ จากเพื่อนรัก....... คนที่เธอรักที่สุดคนหนึ่งในชีวิต

      ฉันคงจะอยู่ได้ไม่ถึง 200 ปีหรอกนะ แต่มิตรภาพความเป็นเพื่อนของเรา ฉันจะเก็บไว้ตราบนิตรนิรันดร์


      -----เผยแพร่ครั้งแรก พ.ศ.2546 / ค.ศ. 2003-----

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×