ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Open your book เปิดตำรารักฉบับราชันย์ปีศาจ

    ลำดับตอนที่ #2 : เวทย์มนต์บทที่2 การมาโลกมนุษย์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6
      0
      4 เม.ย. 58

    หลังจากที่ข้าเคลียร์ปัญหาทุกอย่างในชีวิตที่เข้ามาไม่ว่าจะเป็นท่านพ่อ และตอนนี้ข้าพร้อมที่จะเดินทางไปยังโลกมนุษย์แล้ว 

    “ลูกจะไปแล้วจริงๆเหรอ?

    ท่านพ่อ แล้วใครหละที่บอกให้ข้าเดินทางไปโลกมนุษย์ ข้าหละเพลียจิต เฮ้ออออออออ

    “เพคะ ข้าต้องไปแล้ว ท่านพ่อท่านอยู่ที่อาณาจักรเวทย์มนต์คนเดียวท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหมเพคะ??

    “ลูก  พ่อว่าประโยคที่ลูกพูดพ่อน่าจะเป็นคนพูดมากกว่านะ”

    “ใครพูดก็มีความสำคัญเท่าๆกันแหละเพคะ”

    “อืม งั้นพ่อขอให้ลูกโชคดี”

    “เพคะ”

    เมื่อเราสองคนพ่อลูกได้ล้ำลากันเสร็จเรียบร้อยแล้วที่เหลือก็คือหน้าที่ของข้าอีกเหมือนกันที่เรียกยานพาหนะมาแต่ข้าขอบอกในที่นี่เลยว่ายานพาหนะของคนในโลกที่สองไม่เหมือนกับยานพาหนะในโลกของมนุษย์หรอกนะเพราะยานพาหนะของที่นี่เป็นสัตว์ในตำนานที่มนุษย์จินตนาการไว้  ข้าเคยอ่านมาจากตำราโลกมนุษย์ของท่านพ่อที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา  เอาหละข้าอธิบายนานไปหน่อยในที่สุดยานพาหนะที่ข้าต้องใช้ในการเดินทางไปยังโลกมนุษย์ก็มาสักที และข้าขอนำเสนอยานพาหนะของข้า นั่นคือ คือ...

    กริฟฟิน!

    หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งคือกริฟฟอน เมื่อยานพาหนะพร้อม ข้าพร้อม พ่อบ้านก็อบลินพร้อม  เริ่มเดินทางกันเลยยยยยยย 

    (ประมาณ 2 ชั่วโมง)

    ตอนนี้ข้ากับพ่อบ้านก็อบลินบินมาอยู่ที่วิหารกระจกเงา (ที่ที่เชื่อมต่อกันระหว่างโลกที่สองกับโลกมนุษย์) และมันคงเป็นหน้าที่ของข้าอีกเช่นเคย ที่ต้องคอยเลือกกระจกที่ตอนนี้มันกำลงลอยอยู่บนหัวและหน้าของข้า 

    “พ่อบ้าน ท่านรู้ไหมว่ากระจกบานไหนที่จะพาพวกเราไปในที่มีทายาทปีศาจอาศัยอยู่”  

    “หม่อมฉันก็ไม่รู้เหมือนกันขอรับ”

    เฮ้อออออ!!!!!!! แล้วข้าจะไปรู้ไหมเนี่ย      

    หลังจากที่ข้าและพ่อบ้านก็อบลินเลือกกระจกที่ลอยไปลอยมาจนตาค้างเนื่องจากมันมีหลายบานจนนับไม่ถ้วน ข้าก็เหลือบไปเห็นกระจกบานหนึ่งที่มีแสงสีทองส่องออกมา มันเป็นกระจกบานที่มีรูปร่างธรรมดาไม่ได้มีอะไรตกแต่งมากนัก สงสัยโชคชะตาคงเลือกทางให้ข้าแล้ว

    “พ่อบ้านก็อบลินข้าเลือกได้แล้วว่าเราควรไปโลกมนุษย์โดยผ่านกระจกบานไหน”

    “ท่านแน่ใจแล้วเหรอขอรับ”

    “เอาหน่า โชคชะตาเป็นคนกำหนดเส้นทางไว้ให้แล้ว”

    เมื่อข้าตัดสินใจได้แล้วข้ากับพ่อบ้านก็อบลินก็บินไปยังกระจกบานที่มีแสงสว่างสีทองทอประกายอยู่ เมื่อไปถึงกระจกบานนั้นแล้ว จู่ๆก็สีแสงสีน้ำเงินพุ่งออกมาและมีแรงโน้มถ่วงบางอย่างกำลังผลักข้ากับพ่อบ้านก็อบลินให้ไปใกล้ลำแสงสีน้ำเงินและก็ดูดข้ากับพ่อบ้านก็อบลินเข้าไปในกระจกเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าตอนนี้ข้ากบพ่อบ้านก็อบลินกำลังไปที่โลกมนุษย์ โอ๊ยยยย!!!! คิดแล้วข้าตื่นเต้น  

     

    บนโลกมนุษย์

    ในค่ำคืนที่แสนจะเงียบเหงาบรรดามนุษย์ทั้งชายหญิงต่างพากันหลับใหลไปกับค่ำคืน ที่ว่างเปล่าในวันนี้ แต่ยังมีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ยังไม่ยอมต้องมนต์นิทราในค่ำคืนนี้พวกเขายังคงเคลื่อนไหวในท่ามกลางความมืดมิด 

    “เห้ย!!!! พวกแก แน่ใจแล้วเหรอ”

    “เออ ดิว่ะ แกจะไปกลัวอะไรเล่นห้อยพระตั้งแต่รุ่นปู่มาจนถึงรุ่นพ่อ เต็มคอซะขนาดเนี๊ยะ ฉันว่าผีมันคงจะกลัวแกจนไม่กล้ามาหลอกแกแล้วว่ะ”  

    “นี่ พี่เต้ที่นี่มันมีตำนานเกี่ยวกับวิญญาณตายโหงของครอบครัวที่ย้ายเข้ามาไม่ใช่เหรอ”

    “ก็ เออ แกไม่ต้องกลัวมากับพี่ไม่มีทางโดนผีหลอกแน่”

    “พี่แน่ใจนะ”

    “แน่ใจสิ”

    “พี่ไม่มั่วนะ”

    “ไม่มั่วสิ”

    “งั้น พี่เข้าไปก่อนสิ”

    “โอเคได้เลยเห้ยยย จะบ้าเหรอพวกเราต้องไปพร้อมกันสิ มาเรามาจับไม้สั้นไม้ยาวกันว่าใครจะได้ไปห้องที่เฮี้ยนที่สุด”

    “พี่เต้ พี่หมายถึงห้องน้ำเหรอ ที่พวกเข้าตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมกันใช่ไหมมมมม”

    “ใช่ ป่ะ เรามาเริ่มจับกันเลย พี่ให้เกียรติน้องคนเล็กของเราในกลุ่มเป็นคนจับก่อนเลย”  

    “กะก็ได้ ผมจับแล้วนะ จะจับจริงๆแล้วนะ เริ่มแล้วนะ”

    “โอ๊ยยยยยย  เร็วๆสิว่ะ รีบจับแล้วจะได้ให้คนต่อไปจับ”

    ผู้ชายที่ถูกให้เป็นตัวทดสอบการจับไม้สั้นไม้ยาวคนแรกค่อยๆเอื้อมมือไปจับไม้ที่อยู่ในกำมือของอีกคนหนึ่งอย่างช้าๆอาจเป็นเพราะความกังวลและความกลัวเขาจึงตัดสินใจหยิบไม้ที่อยู่ใกล้มือมาแค่นั้นเอง

    “จับแล้วอย่าเพิ่งบอกนะ เดี๋ยวรอให้ทุกคนจับกันครบก่อนแล้วค่อยมาเฉลยพร้อมกัน”

    “พี่เต้ แล้วคนต่อไปหละ”

    “พี่จับเองไอ้น้อง”

    การจับไม้สั้นไม้ยาวเพื่อสุ่มหาผู้กล้าที่จะไปเผชิญกับสิ่งที่หน้ากลัวนี้เป็นไปเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงคนสุดท้ายที่จะต้องเลือก

    “คราวนี้พวกเราเลือกไม้ครบกันทุกคนแล้ว งั้นทุกคนเอาไม้ของตัวเองออกมาพร้อมๆกันเลยนะ” 

    “พี่ ผมได้ไม้ยาว”

    “ผมด้วย”

    “ผมก็ด้วย”

    “เฮ้ยยยย พี่ได้ไม้สั้นว่ะ”

    “พี่ ผมขอให้พี่โชคดี”

    “ผมขอให้พี่ปลอดภัย”

    “ผมก็ด้วย  แต่สมมุติว่าพี่โดนผีหักคอพี่อย่ามาหลอกผมเลยนะ”

    “ไอ้บ้า” พร้อมมะเหงกหนึ่งที  “มีใครอยากไปกับพี่บ้าง” 

    ไม่มีไร้วี่แวว ต่างคนต่างมองหน้ากัน 

    “ไอ่น้องบ้า!!!!!! ทำไมพวกแกรักพี่แกมากอย่างงี้ พี่หละซึ้ง! เออ ไม่มีใครไป พี่ไปคนเดียวก็ได้ ไอ้พวกป๊อดเอ้ย”  

    หลังจากที่ได้ข้อสรุปในการส่งตัวแทนไปในห้องที่มีคนบอกว่ามักพบเห็นวิญญาณบ่อยๆ เต้ คือผู้กล้าที่ได้มาจากการจับไม้สั้นไม้ยาวเพื่อเสี่ยงทาย เขาเริ่มเดินเข้าไปในบ้านร้างและก็เดินไปที่ห้องน้ำเพื่อพิสูจน์เรื่องราวเหนือธรรมชาติ เขาค่อยๆเปิดประตูห้องน้ำที่ว่ากันว่าทุกคนในบ้านหลังนี้ฆ่าตัวตายพร้อมๆกันที่หน้ากระจกในห้องน้ำ ชายคนนี้ที่ถูกเรียกว่าพี่เต้กำลังจุดเทียนและเอาไปวางไว้ที่หน้ากระจกเพื่อให้แสงสว่างจากเทียนช่วยให้เขามองเห็น 

    “อืออออออ คราวนี้จะทำอะไรก่อนดี รู้แล้ว อะแฮ่ม!!!!! ถ้าพวกคุณมีจริง ไหนลองมาปรากฏตัวให้ฉันเห็นหน่อยสิ อยู่ในกระจกก็ได้ เอาแบบน่ากลัว น่ากลัวอ่ะ จนผมพูดว่า อุ๊ย!! น่ากลัว เอาแบบนี้เลยนะ มาสิ อยู่ไหน เฮี้ยนไม่ใช่เหรอ”

    ในช่วงเวลาที่ชายหนุ่มกำลังท้าทายในสิ่งที่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันมีจริงมาก่อนเขายังยื่นหน้ามาที่กระจกในระยะประชิด จู่ๆ ก็กระจกบานนั้นเริ่มมีอะไรแปลกๆ

    “เฮ้ยยย มันเกิดอะไรขึ้นเนี๊ยยยย”

    มีหญิงสาวคนหนึ่งผมสีน้ำตาลยาวสลวยโผล่ใบหน้าของออกจากกระจกซึ่งในเวลานี้ชายหนุ่มทียื่นหน้าเข้ามาที่กระจกพอดี

    “อ๊ากกกกกกก!!!!!!!!!!! ผี ช่วยด้วยยยยยย ผีหลอกกกกกกกก”

    แล้วชายหนุ่มคนนั้นก็สลบลงไปนอนลงบนพื้นห้องน้ำ

    หญิงสาวที่ถูกเข้าใจว่าเป็นวิญญาณค่อยเดินออกมาจากกระจกพร้อมกับความงงเล็กน้อยที่เธอถูกเรียกว่าเป็นสิ่งที่เคยมีชีวิต

    “ไอ้ผู้ชายบ้า ข้าไม่ใช่วิญญาณสักหน่อย ข้าคือบุคคลที่ใช่เวทย์มนต์ต่างหาก”

    “เออ เจ้าหญิงข้าว่าท่านลบความทรงจำของชายคนนี้เถอะ”

    “ได้ๆ ข้าจัดให้ อ๊อบลิวิอาเต้”

    หญิงสาวที่สามารถใช้เวทย์มนต์ เธอได้ร่ายเวทย์มนต์ในการลบความทรงจำในเรื่องของคืนนี้ที่พวกเขาเจอกันเพื่อให้ชายหนุ่มไม่สามารถจำเธอได้  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×