( 禠星 ) เป็นข้าเอง...องค์หญิงซือซิง
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ อดีต ปัจจุบัน อนาคต Tags : เกิดใหม่, วรยุทธ์, ท่านแม่ทัพ, องค์หญิง, อักขระ, โอสถ
ผู้แต่ง : Moress (โมเรส)
My.iD :
https://my.dek-d.com/yolanda_adeline/writer/
ตอนที่ 11 : [ องค์หญิงซือซิง ที่ 10 ] เริ่มสอบ
เริ่มสอบ
ท่านแม่ทัพเช่นเขานั้นทั่วหล้าไม่เคยหวั่นเกรงผู้ใด นอกเสียจากสาวงาม ยิ่งมีมากมายเท่าไหร่เขาก็ยิ่งยอมแพ้อ่อนระทวยลงไปทุกทีๆ เฉกเช่นเดียวกันกับอาจารย์สาวแสนสวยผู้นี้ ช่างเป็นอาหารตาอาหารใจของเขายิ่งหนัก
เขาใช้เวลาในการสำรวจเรือนร่างอันงดงามที่สวมอาภรณ์สีขาวบริสุทธิ์ได้ไม่นานมากนัก เพราะสายตาเจ้าของร่างกลับถูกส่งกลับมา ดวงหน้าเล็กจิ้มลิ้มจึงฉีกยิ้มที่แสนจริงใจเพื่อโปรยเสน่ห์กลับไปเช่นกัน แต่ผลที่ได้รับกลับไม่ใช่ความน่าพึงพอใจอย่างที่เขาคิด
หรือนางไม่ชมชอบเด็กน้อยน่าตาน่ารักงดงามเช่นเขา(?)
หรือจะเป็นเพราะร่างกายองค์หญิงสิบสี่จะงดงามกว่านางจึงได้อาย หมางเมินไม่เป็นมิตร
ท่านแม่ทัพคิดวกไปวนมาได้ไม่นาน เจ้าของหัวข้อความคิดก็เดินตรงมาหาเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“องค์หญิงสิบสี่อย่าคิดนะเพคะว่าเป็นน้องขององค์ชายสี่แล้วจะได้รับสิทธิพิเศษ”
เพ้ย! นี่มันอะไรกันเนี่ย
ท่านแม่ทัพคิดพร้อมกับส่ายหน้ารัว
“ไม่เลย”
เขาหรือที่คิดจะใช้สิทธิพิเศษ ถึงแม้ว่าในอดีตเขาจะใช้ตำแหน่งแม่ทัพใหญ่บังคับแต่งบุตรธิดาผู้งดงามของขุนนางหลายคนเข้ามาในจวนก็ตาม แต่นั่นไม่ใช่สิทธิ์พิเศษแน่นอน (?)
“ดีเพคะ เพราะที่สำนักศึกษาหลวงแห่งนี้ อาจารย์กับศิษย์มีกฎห้ามว่า ต้องไม่เคยเกี่ยวข้องกันมาก่อนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายสายเลือด หรือญาติสนิทมิตรสหาย”
“จ้ะ”เขาฉีกยิ้มจนเห็นฟันสีขาวแวววับ
แม่มันเถอะ! ดุๆแบบนี้แหละเขาชอบนัก นึกถึงเวลาปราบพยศคงจะถึงใจไม่น้อย
“แล้วท่านอาจารย์คนสวยเล่า อยากรับศิษย์สายตรงเพิ่มสักคนไหม?W
“เศษสวะ!ข้าไม่รับหรอก”นางแสยะยิ้มร้ายก่อนจะเดินจากไป
เหอะ! ปากร้ายเกินไป คงเป็นหญิงสาวที่อิจฉาความงดงามขององค์หญิงสิบสี่เป็นแน่ นิสัยนางนั้นอัปลักษณ์ ไม่เหมาะสมกับรูปร่างหน้าตาเลยสักนิด ท่านแม่ทัพเช่นเขาแม้จะชื่นชอบสตรีงามแต่นิสัยเช่นนี้เขาไม่กล้าชื่นชม หักคะแนนความงดงามติดศูนย์
คอยดูเถอะ ด้วยความงามและสติปัญญาของเขา เขาจะทำให้นางร้องโอดครวญคุกเขาวิงวอนฟ้าดินโทษฐานที่นางปฏิเสธเขาอย่างไม่ใยดี
เศษสวะงั้นเหรอ? เขาเหมือนตรงไหนกัน?
“องค์หญิงใจกล้ามากนะพะย่ะค่ะ”เป็นเสียงเด็กผู้ชายคนหนึ่ง หน้าตาผิวพรรณจัดว่าดี เพียงแต่ร่างกายนั้นดูเล็กกว่าร่างองค์หญิงอย่างเขาเสียอีก ใบหน้านั้นจัดว่าโตขึ้นต้องเป็นบุรุษรูปงามคนหนึ่งในแคว้นหมิงซือแห่งนี้ทีเดียว
แต่! ทุกอย่างย่อมมีข้อแม้ ถึงจะรูปงามปานใดนั่นก็ยังน้อยกว่าเขาอยู่ดี(?)
“ทำไมเล่า”เขาถามกลับ
“นั่นว่าที่พระชายาเอกในองค์ชายสี่ พี่ชายขององค์หญิงนะพะย่ะค่ะ”
“เช่นนี้นี่เอง?” คิดแล้วเขาก็อดสงสารองค์ชายสี่ผู้เป็นพี่ชายของเขาในร่างนี้ไม่ได้
ไว้อาลัยให้องค์ชายสี่สักครู่ก็แล้วกัน
“ว่าแต่เจ้าเถอะ เจ้าเล็งอาจารย์ท่านไหนไว้เล่า”เขาถามเด็กชายต่อ
“จะคนไหนก็ได้ ข้าไม่เรื่องมากหรอก” เหมือนเขาโดนด่าว่าเรื่องมากเจาะจงอาจารย์ขาวๆสวยๆเลยแหะ แต่มันก็จริงนะแหละ บุรุษรูปงามเช่นเขา(?) จะไปอยู่ทำไมกับตาแก่คงแก่เรียนหรือไม่ก็บุรษด้วยกัน มันไม่เจริญหูเจริญตาหรอกนะ รั้งแต่จะยิ่งเรียนก็ยิ่งแย่กว่าเดิมสิไม่ว่า
เขาเริ่มมองเด็กชายด้วยแววตาเขียวปัดทันที ก็มันว่าเขาแน่ๆ "ข้าหมายถึงว่าจะคนไหนก็ได้ เพราะสุดท้ายก็ได้เรียนรวมในห้องเดียวกันอยู่ดี เพียงแค่รับเป็นศิษย์สายตรงจะได้รับคำปรึกษาจากอาจารย์ผู้นั้นเท่านั้นเอง”เด็กชายรีบแก้ตัวเมื่อเห็นแววตาขวางๆของคนที่เขากำลังสนทนาด้งย
หากเกิดว่าองค์หญิงสิบสี่ผู้ที่มีข่าวลือหนาหูว่าแสนจะเอาแต่ใจโกรธขึ้นมา หลังจากออกจากการสอบรอบนี้ เขาคงถูกลากไปฆ่ากลบฝังดินเป็นแน่ และถึงจะไม่ใช่ เขาก็ไม่อยากจะเสี่ยงตายกับอาญาบุตรมังกรอย่างแน่นอน
“เช่นนั้นก็แล้วไป”ท่านแม่ทัพพยักหน้า
ยังดีที่เจ้าเด็กนี่มีไหวพริบที่ดี ไม่งั้นเขาอาจจะออกฤทิ์ออกเดชอาละวาดให้ไม่ต้องสอบกันทั้งเวทีนี่แหละ
“องค์หญิงสิบสี่ไม่รีบไปเลือกสมุนไหรหรือพะย่ะค่ะ”เขาถามด้วยความเป็นห่วง แต่องค์หญิงน้อยกลับยักไหล่
“ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน มีเวลาตั้งครึ่งชั่วยาม”
“แต่การหลอมโอสถนั่นยากนัก เวลาเพียงครึ่งชั่วยามบางคนก็ไม่อาจจะทำให้สำเร็จได้”
“แล้วใครบอกว่าข้าจะหลอมโอสถกันเหล่า”
“อย่าบอกนะว่าท่านจะปรุงโอสถน้ำ”
“แล้วมันจะไม่ดีตรงไหนกัน ซ้ำเวลายังน้อยนิดเสียด้วย”
“โอสถน้ำมีระดับที่ต่ำมาก คนปรุงโอสถไม่นิยมปรุงหรอก ถ้าเกิดท่านปรุงมันออกมา ไม่แน่ว่าท่านอาจจะสอบเข้าสำนักศึกษาหลวงไม่ได้เป็นแน่”เด็กชายเอ่ยด้วยความเป็นห่วง และเพื่อเตือนติองค์หญิงเอาแต่ใจผู้นี้
“เอาน่าคุณชาย รับรองข้าสอบผ่านแน่ๆ”
ท่านแม่ทัพกล่าวด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
.......(ต่อ).......
รอบกายของเขาเวลานี้นั้นเริ่มมีกลิ่นโอสถฟุ้งกระจายไปทั่วทันทีที่เริ่มต้นการสอบ ผู้ชมที่นั่งประจำที่นั้นต่างให้ความสนใจในการแข่งขันแยกต่างกัน แม้จะเป็นเวทีเดียวกัน แต่ผู้ชมก็เลือกดูได้คนละสนาม ซึ่งเวลานี้มีเพียงแค่ 3 สนามเท่านั้น
สนามทดสอบพลังยุทธ์และผู้ไร้พลังยุทธ์ที่มีพลังซ่อนเร้นนั้น การทดสอบจะต้องผ่านด่าน 3 ด่านให้ได้ คือ จิตใจ ร่างกายและก็สติปัญญา เป็นการวัดระดับที่หลายคนให้ความสนใจเป็นที่สุด
ส่วนสนามผู้ใช้พลังรักษานั้นจะได้ทำการรักษาสัตว์อสูรที่บาดเจ็บ พลังนั้นน่าตื่นเต้นเร้าใจเพียงแต่ไม่ใช่สำหรับท่านแม่ทัพ เขาเดินออกจากโต๊ะที่ใช้สำหรับผู้ปรุงโอสถ แล้วตรงไปหาสมุนไพรจากตะกร้าทันที
สายตาเรียวหงส์ใช้เวลาในการคัดเลือกอยู่นานเพราะสมุนไพรบางตัวนั้นมีลักษณะใบและลำต้นคล้ายกัน แตกต่างแค่กลิ่นเท่านั้น ซึ่งสมุนไพรที่เขาต้องการเลือกใช้ไม่ได้หายากมากนักเพราะมันเป็นสมุนไพรระดับต่ำ แต่ที่เขาจ้องสมุนไพรตัวอื่นๆ ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตัวสมุนไพรตัวนี้นั้นเอง
เมื่อเขาเอาสมุนไพรระดับต่ำวางไว้ที่ถาดไม้ไผ่ที่ใช้สำหรับวางส่วนผสมสมุนไพรต่างชนิดกันนั้นก็ทำให้คนที่พอรู้จักสมุนไพรตัวนี้ถึงกับส่ายหน้า
‘หญ้าน้ำค้าง’
เป็นหญ้าที่เกิดในแถบภูเขา มันเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากพอๆกับหญ้าทั่วๆไป ที่เป็นเช่นนั้นเพราะมันคอยซับเอาน้ำค้างในยามเช้ามาเป็นอาหาร
หญ้าตัวนี้มีสรรพคุณแค่เอาไปต้มรวมกับสมุนไพรที่เป็นโอสถชูกำลังถึงจะมีฤทธิ์ แต่สำหรับทำยาลูกกลอนนั้น หญ้าชนิดนี้ไม่เคยมีใครเอามาทำมาก่อน เพราะมันเป็นหญ้าที่มีฤทธิ์อ่อนๆและไม่ค่อยเป็นที่ถูกตาต้องใจสักเท่าไรกับผู้ปรุงโอสถนั่นเอง
ท่านแม่ทัพไม่ได้สนใจผู้ชมและคนอื่นๆจะวิพากษ์วิจารณ์ เขาเพียงแค่ต้องการเข้าเรียนเพื่อเป้าหมายที่สูงค่าของเขา ซึ่งเป้าหมายนั้นจะเป็นสิ่งใดไปไม่ได้หากไม่ใช่สตรี
สี่บุปผางามแห่งแคว้นหมิงซือ!
มือเล็กเริ่มไปหยิบเอาสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งขึ้นมาสูดดมก่อนจะยิ้มเต็มใบหน้า ผู้ชมที่หันมาสนใจในตัวเองหญิงน้อยเริ่มเบือนหน้าหนีอีกครั้งกับการเลือกสมุนไพรของนาง
“องค์หญิงสิบสี่เลือกแต่สมุนไพรระดับต่ำทั้งนั้น หรือพระองค์จะเล่นตลกอีกครั้งเหมือนกับการสอบในครั้งแรก”เสียงซุบซิบนั้นทำให้หลายคนนึกย้อนไปเมื่อหลายเดือนก่อนทันที
องค์หญิงสิบสี่นั้นคล้ายจะเรียบร้อยอ่อนหวานแต่กลับหยิ่งทะนงตนว่าดี ในเรื่องนี้ใครๆก็ต่างรู้ในนิสัยใจคอของนาง เรื่องยกตนข่มท่านยิ่งไม่ต้องพูดถึง ในวันนั้นองค์หญิงผู้นี้วางมาดด้วยท่วงท่าเหนือชั้นกว่าผู้เข้าแข่งขัน เลือกเฉพาะแต่สมุนไพรชั้นสูง เพื่อมาทำการหลอมโอสถแต่ผลสุดท้ายหม้อปรุงโอสถกลับแตกกระจาย ส่วนโอสถเหล่านั้นก็กลายเป็นน้ำสีดำน่ากลัวเช่นกัน เรื่องนี้ไม่มีใครไม่ทราบ
และพวกเขาอาจจะยังไม่รู้ว่ามีอีกคนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องนี้เลยสักนิดเดียว เขาคนนั้นคือคนที่อยู่ในร่างองค์หญิงน้อยเวลานี้นั่นเอง
ท่านแม่ทัพไป๋อิ่งฉิน
เขาไม่เคยทราบเรื่องการหลอมที่ล้มเหลวเช่นนี้มาก่อน เพราะหลี่กุ้ยฮวา ท่านแม่ของเขาในปัจจุบันไม่ได้พูดถึง และไม่ยอมให้ใครพูดถึงด้วยเช่นกัน
ท่านแม่ทัพเลือกหยิบเอาเถาวัลย์เฟยเฉิงซึ่งเป็นเถาวัลย์ที่มีกลิ่นสดชื่น หากใครได้สูดดมจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และที่ตำราในดินแดนหลิ่งซานไม่ได้เขียนไว้ก็คือ เถาวัลย์ชนิดนี้หากอยู่ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นมันจะซึมซับสรรพคุณที่ดีเข้าหาตัวมัน เถาวัลย์เฟยเฉิงจึงเจริญงอกงามไปทั่วทั้งป่าเขา เพราะมีคนนำมันไปทำแค่เครื่องหอมเท่านั้น
เมื่อสมุนไพรที่เขาอยากได้ครบแล้ว ท่านแม่ทัพในร่างองค์หญิงน้อยจึงได้เดินกลับมาประจำที่ คนอื่นๆนั้นยังคงใช้พลังในการหลอมโอสถอย่างขะมักเขม้น ไม่ต่างจากเด็กชายใกล้ๆตัวเธอเช่นกันที่เวลานี้โอสถเริ่มก่อรูปเปลี่ยนร่างให้เหมือนเม็ดโอสถแล้ว
ท่านแม่ทัพหยิบหม้อปรุงโอสถขึ้นมา เริ่มการเคลือบหม้อโอสถด้วยน้ำที่สกัดจากเถาวัลย์เฟยเฉิงทันที โดยวิธีอันง่ายแสนง่าย นั่นคือการนำส่วนที่ตัดของเถาวัลย์ทาบริเวณข้างในหม้อปรุงโอสถโดยรอบ หลังจากนั้นก็นำหญ้าน้ำค้างวางลงบนหม้อปรุงโอสถ
เขาใช้พลังของการรักษาส่งผ่านเข้าไปในหม้อปรุงโอสถโดยตรง ไม่ได้ใช้หลอมข้างนอกหม้อเหมือนอย่างผู้ปรุงโอสถทำกันและที่สำคัญกว่านั้นคือ คนอื่นๆห็ไม่สามารถมองเห็นพลังรักษาของเขานั่นเอง
ผู้ชมที่อยู่บริเวณใกล้ไกลเริ่มหันมาสนใจองค์หญิงสิบสี่ทันที เพราะพวกเขารู้ว่าสุดท้ายนั้นองค์หญิงผู้ทะนงตนจะล้มเหลวเหมือนเดิม ครั้งก่อนนั้นโชคดีที่มีผู้ช่วยเหลือขึ้นไปทำการช่วยเหลือได้ทัน องค์หญิงสิบสี่ที่เป็นลมล้มพับจึงมีคนปฐมพยาบาล แต่ครั้งนี้กลับไม่อนุญาตให้ใครขึ้นไปนอกจากผู้ปรุงโอสถเท่านั้น หากนางเป็นลมเห็นทีคงไม่มีใครคิดจะเข้าไปช่วยเหลือแน่นอน
“น้องสิบสี่สู้สู้! พี่วางเดิมพันข้างน้องเยอะมาก!”เป็นเสียงขององค์ชายสามหมิงซือเค่อนั่นเอง
เขาเพิ่งได้รับเงินจากการวางเดิมพันฝั่งผู้ใช้พลังยุทธ์กับผู้มีพลังซ่อนเร้นไป ปรากฏว่าไม่มีใครคาดเดาถูกว่าชายหนุ่มอายุเพียง 17 ปีที่ไม่ใช้พลังยุทธ์จะมีพลังซ่อนเร้นชนิดร้ายแรงเพื่อใช้ในการข้ามไปแต่ละด่านอย่างง่ายดาย มีคนพูดว่าเขามาจากแคว้นโฉวจง แคว้นแห่งความหนาวเหน็บนั่นเอง แต่ถึงแม้เขาจะสอบผ่านในระดับที่หนึ่งเขาก็สละสิทธิ์ไม่ลงเรียนที่สำนักสึกษาหลวงโดยไม่บอกเหตุผล
เป็นชายหนุ่มผู้หยิ่งทะนงตน เมื่อเห็นว่าตนมีความสามารถที่สูงกว่าก็กลับเมินเฉยต่อสิ่งอื่นๆ
คนอย่างองค์ชายสามเกลียดที่สุดคือคนที่วางตนข่มผู้อื่นนี่แหละ แต่ก็ยกเว้นเพียงคนเดียว คือ น้องสาวของเขา องค์หญิงน้อยแห่งวังหลวงสักคนหนึ่ง นอกเหนือจากนั้นเขาเกลียด!
แต่ต้องยอมรับว่าชายหนุ่มผู้นั้นมีเสน่ห์ดึงดูดใจจนแม้แต่บุรุษเพศเช่นเขายังไม่อาจจะละสายตาไปได้ นี่เขาเองก็เกือบคิดไปแล้วว่าตัวเขานิยมตัดแขนเสื้อไปแล้วเหมือนกัน
“น้องสิบสี่ของข้า เจ้าเห็นไหมอาเปาว่าน้องข้างดงามเพียงใด!”เขาหันไปสะกิดสหายสนิทที่เอาแต่หดหัวลงไปกองที่ขาเก้าอี้ แต่เมื่อโดนเรียกจึงได้ลุกขึ้นนั่งดีๆส่งก็ยิ้มพยักหน้าตอบรับ
‘อายยิ่งนัก’…เขาคิดในใจ
“องค์หญิงสิบสี่นั้นงดงามมาก เพียงแต่เวลานี้ยังเป็นเด็กความงดงามของบุปผาที่แท้จริงคือวัยปักปิ่น หากโตกว่านี้สักก 5 ปี ความงดงามนั้นคงยากจะมีใครทัดเทียม แม้เวลานี้จะเป็นเพียงวัยเยาว์ แต่ความงดงามก็ยังมิอาจซุกซ่อนไว้ได้”
ผู้คนที่ฟังคำพูดของอาเปานั้นพยักหน้า เพราะความงดงามขององค์หญิงสิบสี่นั้นเหนือชั้นกว่าสตรีในในแคว้นหมิงซือจริงๆ หากไม่นับรวมกับนิสัยและพฤติกรรมที่ค่อนข้างเอาแต่ใจและหยิ่งทะนงนั่นไป
“ดี! เจ้าพูดได้ดีอาเปา!” องค์ชายสามยิ้มก่อนจะหันไปมองลานประลองอีกครั้ง บัดนี้ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มนั้นบึ้งตึงจนสุดประมาณ
ใครใช้ให้พวกเขามาชมว่าเขางดงาม อีก 5 ปี จะเป็นความงามที่ยากจะมีใครทัดเทียม
เพ้ย! เขาต้องการเป็นบุรุษผู้รูปงามเท่านั้น
ใครบอกว่าเขาอยากจะสตรีผู้งดงามกันเล่า!
เข้าใจหรือไม่ สวรรค์!
“เพล้ง!”
เสียงของหม้อปรุงโอสถที่เป็นรอยร้าวยาวเกือบรอบหม้อนั้นทำให้ท่านแม่ทัพผู้งดงามตาค้าง
เวรแล้วไง! เป็นเพราะองค์ชายสามกับสหายของเขาแท้ๆที่ทำให้เขาส่งพลังรักษาไปมากกว่าปกติ จนทำให้หม้อปรุงโอสถของเขาเป็นเช่นนี้!
.......
มาต่ออึบๆ ไม่ได้ขี้เกียจน๊า ยังมาอยู่น๊า อิอิ ฮึบๆ ปั่นนิยายต่ออีกสักนิดสักหน่อยก่อนละกัน
07/02/2017
......
ขออภัยคนอ่านทั้งหลาย หายไปนานเลย ไม่ได้ไปไหนค่ะ ทำงานๆ 555+
แล้วจะรีบมาต่อนะคะ เป็นกำลังใจให้กับท่านแม่ทัพของเราด้วยน๊า
06/02/2017
สรุปเจ้ชอบเรื่องนี้มาก องค์หญิงซือซิงเดี๋ยวนางก็ได้เจอกับคู่ลิขิตเองแหละ ใจเย็นๆแล้วอ่านดีๆจะรู้ว่าเนื้อเรื่องสนุกกว่าที่คุณคิด ไม่งั้นจะมีคนติดตามเยอะหรอ หึๆๆ เป็นกำลังใจให้ไรท์จ้า
องค์หญิงทำหม้อแตก เอาไงละทีนี้ ท่านพี่สามช่วยน้องหน่อยอย่ามัวแต่ลงพนัน 555
พอพ่อกลายเปนแม่เลยยุ่ง 555
รอนะ
ว่าที่พระชายาจึ่งเกลียดขี้หน้า
โดนไปมิใช่น้อย
ยังไม่กระตือรือล้น
สอบเข้าให้ได้นะ
อย่าลืมสาวสวยระดับแคว้น
จะรอว่าผ่านมั้ย
ใครแจคพอตรับเป็นสายตรง
ถ้าได้พี่สี่น้ำส้มจากอาจารย์หญิงสาดใส่แบบจะจบหรือไม่
ชิงรักหักสวาทกับพี่ๆน้องๆลูกขุนนางอีก