ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Miracle Earth พิภพปาฏิหาริย์ : ปฐมบทแห่งราชันย์

    ลำดับตอนที่ #117 : ตอนที่ 113 ผู้เฒ่าและดาวตก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.49K
      57
      2 เม.ย. 64

                        และเหตุการณ์ทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นเร็วมากจริงๆ

     

                เสี้ยวพริบตาที่อาเบลจะกลายเป็นซากศพ ในขณะนั้นชายหนุ่มรู้สึกว่าทุกสิ่งได้หยุดลงไปชั่วขณะ หัวสมองหมุนติ้วโดยไม่ทราบสาเหตุ รู้ตัวอีกทีก็มานั่งอยู่บนหลังคาบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งห่างไกลจากจุดปะทะที่เขาจำความได้มากพอดู แต่ที่น่าตกใจไปยิ่งกว่านั้นก็คือมีคนผู้หนึ่งยืนหันหลังอยู่ห่างเขาไปไม่กี่เมตร ซึ่งดูแล้วก็ไม่น่าจะใช่ศัตรู แต่ถ้าด่วนสรุปว่าเป็นมิตรก็ดูท่าจะเร็วเกินไป

     

                “นาย....ช่วยฉันไว้งั้นเหรอ” อาเบลเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวง หลายวันมานี้เขาลดทิฐิลงไปมาก ซึ่งมาจากผลพวงของการต่อสู้ในวันนั้น

     

                “ข้าก็แค่เห็นว่าเจ้าเป็นสหายของเจ้าหนูนั่นเท่านั้นเอง ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรหรอก” ชายปริศนาพูดพร้อมกลับหลังหัน เดินไปยังขอบตึกอย่างช้าๆ

     

                ชายวัยกลางคนหน้าตามองดูก็รู้ว่าผ่านอะไรมามาก ผมสีดำยาวรวมไว้กลางหลังอย่างลวกๆ เสื้อผ้าสีฟ้าปนขาวในแบบที่อาเบลไม่คุ้นเคยมาก่อน ดวงตาคมกริบยิ่งกว่าใครเท่าที่เขาจำได้ ริมฝีปากเชิดรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อย ให้พอรู้ว่าเป็นคนอารมณ์ดี เมื่อมองจากลักษณะโดยรวมแล้ว ถ้าถามว่าอาเบลเคยเจอคนที่มีลักษณะแบบนี้บ้างหรือไม่ คำตอบก็คือไม่เคย

     

                แต่ถ้าถามว่าเคยเจอคนที่มีบรรยากาศใกล้เคียงคนผู้นี้บ้างหรือไม่นั้น

     

                ก็เห็นจะมีคนๆเดียวที่อาเบลรู้สึกว่าใกล้เคียงอยู่ไม่น้อย

     

                บรรยากาศที่ไม่เหมือนจอมเวท แต่เป็นยอดฝีมือในอีกแขนงหนึ่ง

     

                “เจ้าหนูนั้นมันพูดจริงแฮะ...ที่นี้ดูน่าสนุกอยู่ไม่น้อยทีเดียว” ชายปริศนายิ้มละไมพลางแหงนหน้ามองขึ้นบนฟ้า ซึ่งเต็มไปด้วยอมนุษย์ขี่สัตว์วิเศษชนิดบินได้ หรือไวเวิร์นตัวน้อยใหญ่ลอยบินวนกันเต็มไปหมด ดูเหมือนว่าพวกมันจะจับสังเกตถึงการคงอยู่ของพวกเขาได้แล้ว

     

                “บ...บัดซบ แบบนี้ต้องรีบหนี” อาเบลสบถในใจ ยันตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบาก พลางลองขยับมือไปมาหวังจะร่ายเวท แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวัง และต้องตกใจยิ่งกว่าเมื่อคนตรงหน้าไม่ขยับออกไปจากจุดเดิมแม้แต่น้อย

     

                “เจ้าจะไปไหนก็ไป ธุระพวกนี้...ปล่อยให้ข้าเป็นคนจัดการเองเถอะ” เขาพูดออกมาแบบนั้น ซึ่งอาเบลก็ได้ยินชัดเจนไม่ผิดเพี้ยนแต่อย่างใด ถึงอย่างนั้นจะให้ไปต่อกรกับศัตรูร่วมหลักร้อยอีกทั้งยังเป็นกลางอากาศเป็นเรื่องที่เขาไม่สนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง

     

                “ถึงนายจะเก่งแค่ไหนก็เถอะ แต่สำหรับกรณีแบบนี้...มันเกินมือไปหน่อยมั้ง” ทายาทสี่เสาหลักเอ่ยเสียงเครียด ซึ่งดูเหมือนจะไม่เข้าโสตประสาทของคนผู้นั้นเลยซักนิดเดียว

     

                คำตอบที่มาจากการกระทำแทนคำพูด ร่างของคนปริศนาเลือนหายไปราวกับไม่เคยคงอยู่ ความรวดเร็วในลักษณะที่คล้ายคลึงกับการเคลื่อนไหวของโนอาห์ หากแต่รวดเร็วยิ่งกว่า ในสายตาของอาเบลตีค่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อซักครู่ว่าเป็นเวทมนตร์ แต่ในเมื่อตอนนี้การปรากฏตัวของข่ายมนตร์ไม่น่าจะให้มีจอมเวทผู้ใดใช้เวทมนตร์ได้ แล้วเหตุใดคนผู้นั้นถึงใช้ได้นั้น ในจุดๆนี้อาเบลเองก็ไม่จะรู้จะหาคำตอบมาจากที่ไหน

     

                พร้อมกันกันนั้นข้าศึกตัวฉกาจที่เคยน่าเกรงขามบนน่านฟ้า กลับร่วงหล่นมาทีละตัวสองตัว อีกทั้งยังดูเหมือนจะมากขึ้นเรื่อยๆไม่มีหยุด จนราวกับฝนที่ตกลงมาเรื่อยๆ โดยเปลี่ยนเม็ดฝนเป็นอมนุษย์หลากชนิดตลอดจนสัตว์วิเศษที่บินได้แทน

     

                อาเบลได้แต่กระพริบตาปริบๆมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ไม่ทันได้ถามแม้ซักนิดว่าชายตรงหน้าชื่ออะไรหรือมาจากไหน  แต่ถ้าโนอาห์ได้อยู่ในที่แห่งนี้ด้วย ก็คงจะเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างภาคภูมิ

     

                เจ้าของวิชาตัวเบาที่ล้ำเลิศมากที่สุดในใต้หล้า

     

                เซียนดาวตก หลิ่งเหวิน

     

     

     

     

    วันคืนที่แสนสุขในตอนนี้อาจจะเป็นแค่เรื่องเล่าก่อนหลับนอน ทั่วทุกมุมเมืองอัลเทร่าเต็มไปด้วยซากศพตลอดจนเศษอาวุธ ซึ่งคละเคล้าปะปนกันจนแยกไม่ออกว่าใครคือใคร หนำซ้ำกลิ่นคาวจากเลือดของทั้งสองฝั่งยังคงลอยอบอวลไปมาชวนอาเจียนยิ่งนัก แต่ถึงกระนั้นภายในสถานการณ์สุดแสนจะเลวร้ายแบบนี้ ก็ยังคงมีบริเวณหนึ่งที่ยังดูจะรักษาความสงบเอาไว้ได้

     

                นั้นก็คือภายในตัวพระราชวังหลักคัลเดีย ที่ตอนนี้ยังไม่ศัตรูตัวไหนสามารถกร้ำกรายเข้ามาได้ ทั้งนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับบรรดาทหารล้อมวังทุกนาย รวมถึงทหารจากสังกัดกองที่ร่วมแรงร่วมใจกันเป็นอย่างดี และใช่ว่าจะไม่มีศัตรูตัวไหนเล็ดรอดไปได้ แต่นอกเหนือจากกำลังคนสถานที่แห่งนี้ก็ยังมีข่ายมนตร์ไว้คอยคุ้มกันอีกชั้นหนึ่ง ทำให้สถานการณ์ในตอนนี้ยังพอพยุงตัวเอาไว้ได้โดยไม่ลำบากขัดสนอะไรนัก

     

                ถ้าเป็นเมื่อสิบนาทีที่แล้วก็คงจะเป็นเช่นนั้น

     

                “จะแห่กันมาถึงขนาดไหนกันไอ้พวกเวรนี่น่ะฮะ!!” ทหารถือหอกนายหนึ่งตะโกนก้องพลางกวาดวงหอกไปรอบๆตัว คอยรักษาระยะห่างไม่ให้ศัตรูเข้ามาใกล้ได้มากกว่านี้

     

                “นี่ถ้ามันฟังภาษาเรารู้เรื่องก็คงอยากจะตอบอยู่นั้นแหละ...” เสียงแว่วราวกับกระซิบเข้ามาในโสตประสาท พลางคิดในใจว่าก็จริงอย่างที่เพื่อนของเขาว่า ไม่อย่างนั้นคงจะได้หัวปั่นมากกว่านี้ไม่น้อย

     

                เพราะลำพังแค่เรื่องข่ายมนตร์บนฟากฟ้าที่คอยตัดทอนกำลังใจพวกเขาแล้ว ยังมีส่วนของจำนวนกำลังรบมาเกี่ยวข้องด้วยอีก อาจจะเป็นเพราะแนวรับอื่นๆที่ได้วางเอาไว้เริ่มแตกไปทีละแห่งสองแห่ง ทำให้บริเวณหน้าพระราชวังคัลเดียรวมถึงเขตเมืองชั้นในเต็มไปด้วยทหารข้าศึก ไม่นับฟากฟ้าที่แทบจะไม่เว้นพื้นที่ว่างให้พวกเขาหายใจ แต่ยังดีอยู่บ้างที่ภาระนั้นดูจะถูกแบ่งเบาลงไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ อยู่ๆจำนวนศัตรูบนท้องฟ้าเริ่มหายไปเรื่อยๆไร้ที่มาที่ไป ทำให้สิ่งที่พวกเขาต้องห่วงก็มีแค่กำลังทางภาคพื้นดินเท่านั้น

     

    และนั้นเองก็คือจุดเริ่มต้นของความสิ้นหวัง

     

    ฝั่งศัตรูที่ในตอนแรกยังมีปริมาณปานกลางพอรับมือได้ไหวสำหรับกองกำลังของอัลเทร่า แต่ว่าอยู่ๆกลับเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ชวนให้ตกใจและลากขวัญที่มีน้อยอยู่แล้วให้น้อยลงไปอีก อีกทั้งดูเหมือนข้าศึกจะมีกำลังเสริมมาหนุนอย่างไม่รู้จบ ในขณะที่พวกทหารคิดว่าไม่น่าจะมีกำลังเสริมอื่นใดเหลืออยู่อีกแล้ว

     

    “ให้ตายเถอะว่ะ...” ใครซักคนรำพึงรำพันอย่างสิ้นหวัง เมื่อเห็นคลื่นข้าศึกลูกใหม่ที่เริ่มไหลทะลักเข้ามาอีกครั้ง เสียงร้องจากพวกมันดังสนั่นพอๆกับเสียงการย่ำก้าวของพวกมัน และถ้าพวกมันเกิดบุกทะลักเข้าไปได้ในจำนวนที่มากเข้า ในตอนนั้นข่ายมนตร์คุ้มครองวังคัลเดียที่ยังคงอยู่รอดได้เพราะมีมาตั้งแต่อาคมทำลายเวทจากข้าศึกจะทำงาน คงไม่สามารถเอาอยู่ได้อีกต่อไป

     

    เป็นเวลาเดียวกันกับที่ร่างๆหนึ่งปรากฏตัวขึ้นข้างหน้ากองทัพเหล่านั้น

     

    ผู้ชายรูปร่างสูง ผมเผ้ามัดไว้อย่างลวกๆ หน้าตาเจนจัดกร้านโลกมาพอตัว เสื้อผ้าค่อนไปทางคนจรและแปลกตากว่าที่พวกเขาจะได้พบเห็น ด้านหลังสะพายดาบที่เป็นเพียงของธรรมดาเอาไว้ ผ้าคลุมสีซีดปลิวสไวไปตามแรงลม ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าใต้ผ้าคลุมเต็มไปด้วยอาวุธมีดสั้นจำนวนมาก ชายปริศนาค่อยๆเอื้อมมือไปชักดาบออกมาจากฝัก พร้อมกับสอดส่องสายตาทอดมองไปยังกองทัพด้านหน้าที่ยังคงกรูเข้ามาไม่หยุด แม้จะเห็นว่ามีเขาคนหนึ่งคอยยืนขวางกั้นอยู่ก็ตาม

     

    แววตาราวกับหมาป่ากำลังเปล่งประกายราวกับกำลังจะออกล่า

     

    พร้อมกันนั้นคมเขี้ยวข้างหนึ่งก็ได้นำมาใช้เป็นที่เรียบร้อย

     

    ท่วงทำนองร้อยสังหาร กระบวนท่าที่ 88 สะกดวายุ

     

    ชั่วพริบตากับยาวนานเสมือนร้อยราตรี ชายปริศนาหายตัวไปชั่วขณะ รู้อีกทีก็ไปยืนอยู่ข้างหน้ามนุษย์หมาป่าตนหนึ่งที่เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ทว่านั้นก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่มันจะได้ บุรุษถือดาบจัดการสยบอสูรร้ายภายในดาบเดียวอย่างง่ายดายด้วยการฟันด้วยท่วงท่าง่ายๆ ร่างสูงที่เต็มไปด้วยขนสัตว์ล้มลงไปอยู่ที่พื้น และก่อนที่ปิศาจตนอื่นๆจะได้ทันรู้สึกตัวว่ามันเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่น่าสยดสยองกับพวกมันก็ได้ถูกขีดเส้นเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว

     

    อยู่ๆร่างกายที่แทบคงกระพันก็ดันเกิดแผลทั้งที่ไม่มีแผลมาก่อน อีกทั้งยังเป็นรอยฟันแบบเดียวกันกับที่ชายคนนั้นเล่นงานพรรคพวกของตนไม่มีผิดเพี้ยน และนั้นเองจึงเป็นการลดทอนกำลังข้าศึกลงไปได้ถึงสองในห้าได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นเร็วมากจนยากที่ใครในที่นั้นจะตั้งสติได้ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งทหารอัลเทร่าหรือพวกปิศาจต่างถิ่นก็ตาม

     

    ถ้าเทียบกันในเรื่องกระบวนท่าสังหาร ต่อให้ย้อนไปอีกสี่ชั่วอายุคนก็ยากที่จะหาคนที่มีความสามารถทัดเทียมกับชายผู้นี้ได้ จริงอยู่ที่ครั้งหนึ่งโนอาห์เคยเปรียบเปรยว่าโรสแมรี่นั้นมีความเก่งกาจอยู่ในระดับๆพอกับคนๆนี้ แต่ว่านั้นก็เป็นเพียงสิ่งที่โนอาห์เห็นจากตาและได้ยินมาเท่านั้น ในบรรดายอดฝีมือยังมีอีกมากที่ปกปิดความสามารถที่แท้จริงเอาไว้ อย่างเช่นในกรณีของโนอาห์หรือชิวหลง ชาวยุทธทุกคนต่างรู้แค่ท่าเท้าล่องนภาเป็นการเคลื่อนที่โดยอิงการเคลื่อนไหวของดวงดาว แต่ไม่รู้เลยว่าทุกกระบวนท่าล้วนเกิดมาจากลมปราณมหาเมฆา

     

    ชื่อชั้นที่ทุกคนในยุทธภพน้อยคนนักที่จะรู้ชื่อจริง เว้นเสียแต่โนอาห์ที่มีเครือข่ายในระดับที่ไม่ธรรมดา

     

    หลางเฉิน หมาป่าราตรี เริ่มที่จะออกล่าเหยื่อแล้ว!!

     

     

     

     

     

    พูดคุยเล็กน้อย

    กลับมาแล้วครับ ไปจัดการเรื่องคอมพิวเตอร์เสร็จแล้วเรียบร้อย หลังจากนี้คิดว่าคงไม่น่าจะมีปัญหาให้ต้องหยุดยาวอีก(อันที่จริงก็ไม่ยาวเท่าไหร่) ก็หวังว่าจะสนุกกับนิยายเรื่องนี้ในเรื่องราวต่อจากนี้นะครับ =w=b

    และเหตุการณ์ทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นเร็วมากจริงๆ

    เขาอาจจะโดนรุมทึ้งกลางอากาศ ในสภาพที่ตอบโต้ไม่ได้แต่อย่างใดเนื่องจากร่ายเวทไม่ได้

     

               

     

     

     

               

     

     

     

     

               

     

                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×