ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Miracle Earth พิภพปาฏิหาริย์ : ปฐมบทแห่งราชันย์

    ลำดับตอนที่ #140 : ความลับในชั้นใต้ดิน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 716
      68
      25 ก.พ. 64

         แต่ในเมื่อการทะลุมิติยังเกิดขึ้นได้ นับประสาอะไรกับรายละเอียดปลีกย่อยพวกนี้

                พูดถึงความลี้ลับอีกอย่างคงหนีไม่พ้นเรื่องของคัมภีร์วณิพกพเนจรที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด ตัวคัมภีร์ขอแค่เปิดออกก็จะไปปรากฏอยู่ที่อีกโลกราวกับเป็นบานหน้าต่างคอยเชื่อมโลกทั้งเข้าด้วยกัน หลี่เจิ้งหมินที่ไปดักรอโนอาห์อยู่ตรงนั้นไม่ใช่เพราะว่าเขาทราบถึงความลับนี้ แต่เป็นเพราะนั่นคือสถานที่สุดท้ายก่อนการหายตัวไปของโนอาห์ จอมปราชญ์จึงไปดักรอท่าอยู่หลายวันจนในที่สุดก็สมประสงค์ แต่พอปะติดปะต่อจำนวนวันจากโนอาห์ดีๆ กลับพบว่าเวลาของอิซซูมีลกับโลกเดิมของพวกเขาช้าเร็วไม่เท่ากัน

                คววามเร้นลับยังไม่หมดเพียงเท่านี้ คัมภีร์วณิพกพเนจรมีชื่อเสียงเป็นที่รู้กันว่าภายในบันทึกยอดวิชาของสกุลหลางเอาไว้ แต่แล้วทำไมยอดวิชาที่ว่าถึงเป็นดั่งคัมภีร์เวทมีหน้าที่เป็นดั่งประตูข้ามมิติ เรื่องนี้หลี่เจิ้งหมินกับโนอาห์ได้ปรึกษากันแล้วตั้งแต่ต้น ในเมื่อเบาะแสมันไม่มีพวกเขาจึงดั้นด้นไปยังสกุลหลางเพื่อสอบถามกันตรงๆ           

                ลำพังเมฆาพิสดารคนเดียวสกุลหลางในยามนี้ก็ไม่มีปัญญารับมือแล้ว เมื่อบวกกับจอมปราชญ์ไปอีกคนก็ไร้ซึ่งหนทางต่อกรโดยสิ้นเชิง สิ่งที่โนอาห์ได้กลับยิ่งสร้างความตื่นตระหนกให้ยอดฝีมือทั้งสอง คัมภีร์วณิพกพเนจรที่เคยพาเขาไปยังโลกอิซซูมีลกลับกลายเป็นม้วนกระดาษเปล่าๆในสายตาของหัวหน้าสกุลหลางที่กำลังสั่นกลัวเป็นเจ้าเข้า ถึงกับลืมว่าคัมภีร์ลับของสกุลตัวเองอยู่ในมือคนนอก จนเมื่อทั้งสองจากไปพร้อมกับคัมภีร์วณิพกพเนจรถึงได้รู้ตัว

                แต่หัวหน้าสกุลหลางไม่คิดจะส่งคนตามไปเป็นอันขาด ยอดฝีมือระดับสองคนนั้นแค่อยู่กันเดี่ยวๆสกุลหลางของพวกเขายังไม่ใช่คู่ต่อกร อีกทั้งยังไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อนว่าเมฆาพิศดารกับจอมปราชญ์เคยลงมือพร้อมกัน ในเมื่อเขายังไม่รู้ว่าสองคนนั้นกำลังเผชิญหน้ากับอะไรถึงต้องมาร่วมมือกันขู่เข็ญเขาในเวลาค่ำคืนแบบนี้ หัวหน้าสกุลหลางก็รักชีวิตมากพอจะปิดปากเรื่องนี้ให้เงียบเอาไว้ปล่อยให้ตายจากไปตัวเอง

                คัมภีร์เพียงเล่มเดียวที่อ่านไม่ออกไม่มีค่าอะไรให้ใส่ใจ ถึงอย่างไรชีวิตของคนทั้งตระกูลย่อมสำคัญกว่ามากนัก ถึงหลี่เจิ้งหมินและชิวหลงจะไม่ใช่ฝ่ายมารหรือผู้มีจิตใจอำมหิต แต่ถ้าสองคนนั้นจะเล่นงานสกุลหลางจริงๆไม่นับว่าเป็นเรื่องเหลือบ่ากว่าแรงอะไรเลยแม้แต่น้อย

                หลี่เจิ้งหมินและชิวหลงเห็นว่าสกุลหลางใช้การอะไรไม่ได้ จึงเลิกให้ความสนใจและมุ่งเป้าไปกับการชักชวนคนอื่นๆเหมือนเดิม จนมีโอกาสได้ถามไถ่ยอดฝีมือแห่งยุคอีกหกคน ซึ่งผลที่ได้แม้จะไม่ถึงกับมองไม่เห็นตัวอักษรที่อยู่ภายในเหมือนกับหัวหน้าสกุลหลาง แต่กลับสร้างความประหลาดใจให้เหล่าผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของยุทธภพยิ่งนัก

                     พวกเขาแต่ละคนมองเห็นตัวอักษรไม่เท่ากัน บางคนมองเห็นแค่ไม่กี่บรรทัด ในขณะที่บางคนกลับมองเห็นจนเกือบสุดหน้ากระดาษ ยังไม่นับความเข้มของตัวอักษรที่มีความแตกต่างกันอีก คัมภีร์ที่จะมองเห็นตามพลังวัตรจะมีอยู่ในยุทธภพก็จริง แต่คัมภีร์วณิพกพเนจรไม่มีทางใช่เงื่อนไขนี้อย่างแน่นอน เพราะอย่างลู่ชิงที่ขึ้นชื่อว่ามีกำลังภายในมากที่สุดในบรรดาเจ็ดยอดฝีมือยังมองเห็นลางๆเพียงครึ่งหน้ากระดาษเท่านั้น ในขณะที่เจิ้งไฉเห็นตัวหนังสือได้อย่างชัดเจนเกือบครึ่งม้วนคัมภีร์

                แรกเริ่มเดิมทีคัมภีร์ฉบับนี้ก็เต็มไปด้วยความลึกลับอยู่แล้ว สกุลหลางมีประวัติมาหลายร้อยปีแถมบรรพชนเป็นถึงแม่ทัพบุกเบิกแผ่นดินของปฐมฮ่องเต้ในราชวงศ์ก่อน ถึงตอนนี้จะถอนตัวจากโลกเบื้องหน้ามาปักหลักในยุทธภพก็ตาม

    ดังนั้นการคงอยู่ของยอดคัมภีร์นี้ในสายตาชาวยุทธ์คนอื่นย่อมไม่มีใครกล้าสงสัย ตระกูลใหญ่โตปานนี้อาจจะเก็บของมีค่าจากยอดคนในสมัยอดีตมาก็ได้ใครจะไปรู้ อีกทั้งอานุภาพของสกุลหลางในกาลก่อนคือของจริงไม่ใช่การเขียนเสือให้วัวกลัวเหมือนเช่นตอนนี้ ไปๆมาๆแม้ว่ากาลเวลาจะบั่นทอนความยอดเยี่ยมของสกุลหลางไปมาก แต่ท้ายที่สุดก็ไม่มีใครกล้าลองดีหมายฉกชิงคัมภีร์วณิพกพเนจรไปอีก

    จนกระทั่งถึงคราวชิวหลง...

               

                

    ความลับที่ซุกซ่อนของคัมภีร์วณิพกพเนจรเริ่มแย้มกรายให้พวกโนอาห์รู้แจ้งมากขึ้นเรื่อยๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ยิ่งยืนยันได้ว่าคนสกุลหลางในรุ่นหลังไม่น่าจะมีใครได้เปิดอ่านคัมภีร์มีชื่อฉบับนี้จริงๆ หรือต่อให้เปิดผลลัพธ์ก็ไม่แน่ว่าจะสู้เจ็ดยอดฝีมือได้

    ทั้งนี้ด้วยข้างหน้ามีธุระที่จำเป็นต้องรีบสะสาง พวกโนอาห์จึงทิ้งปริศนามากมายไว้ด้านหลังก่อนค่อยว่ากันไว้หลัง นึกไม่ถึงว่าหลังจากนั้นจะยังมีปมประเด็นอีกมากมายตามมาไม่หยุดหย่อน เวลานี้ต่อให้คนโง่ที่สุดในแผ่นดินยังดูออกว่าความลับเหล่านี้ไม่สมควรจะไปยุ่งเกี่ยวหรือตอแยด้วยเลยแม้แต่น้อย

                ‘คือเจ้าสงสัยเรื่องพวกนี้ ก็เลยอยากจะอยู่ต่อ!?” หลิ่งเหวินถามเสียงเครียด ถึงเรื่องประหลาดมากมายข้างต้นนั้นจะไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยก็จริง แต่มันก็ยังไม่คุ้มกับการที่จะเอาชีวิตมาเสี่ยงอยู่ดี

                โนอาห์กลั้วหัวเราะ ‘อาศัยเรื่องเล็กแค่นี้จริงๆข้าไม่มีทางอยู่ต่อ แต่ข้ากลับรู้สึกว่าการที่ข้าได้มายังอิซซูมีลไม่ใช่เหตุบังเอิญ ราวกับว่ามันถูกกำหนดเอาไว้อยู่แล้ว...ซึ่งนั่นช่างเป็นเรื่องที่ไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย’

                ในเมื่อโนอาห์เปรยเช่นนี้หลิ่งเหวินจึงรู้ว่าเขาตั้งใจจะอยู่ต่อ คัดค้านยังไงก็ไม่เป็นผลอีกต่อไป จึงเลิกคุยเรื่องนี้แล้วไปสนทนาอย่างอื่น ทำให้บรรยกาศดีขึ้นทันตาเห็น

                โนอาห์ย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อวันนั้นก็ยกยิ้มอันคุ้นเคย ตอบเจิ้งไฉไปด้วยสีหน้าที่ดูยังไงก็มองหาความเครียดไม่เจอ “ถ้าอาศัยเรื่องแค่นั้นมาทำให้ข้าเปลี่ยนใจได้ ก็คงไม่ใช่ตัวข้าแล้ว”

                แต่ไหนแต่ไรเป็นที่ทราบกันดีว่าเมฆาพิสดารมีจิตใจปักหลักมั่นคงยิ่งนัก มิใช่ในเชิงชู้สาว แต่เป็นเรื่องของการตัดสินใจ สิ่งใดที่โนอาห์คิดจะทำ ไม่ว่าจะเป็นเด็ดดาวบนท้องฟ้าหรือขุดดินไปจนถึงนรก เขาก็จะอาศัยทุกวิถีทางให้ไปถึงเป้าหมายจนได้

                เจิ้งไฉยิ้มขื่น ก่อนจะเบนหน้าไปทางหลี่เจิ้งหมินที่ส่งรอยยิ้มซื่อๆมาเช่นกัน คนผู้นี้เห็นทีจะเป็นอันคุยกันไม่ได้แล้ว เอาเป็นว่าตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้เจิ้งไฉยังไม่เข้าใจว่าจุดประสงค์ของหลี่เจิ้งหมินคือสิ่งใด เจ้าตัวยืนกรานหนักแน่นว่าจะอยู่ต่อ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆก็แล้วแต่ ราชันยาจกคิดเสียว่าจอมปราชญ์ผู้นี้หัวกระทบกระเทือนไปตั้งแต่หลุดเข้าไปในห้วงมิติแล้ว

                แต่น่าแปลกที่รอบนี้ชิงเซียวกลับไม่พูดอะไร มิรู้ว่าพวกเขาทั้งสองคนไปตกลงอะไรลับหลังกันหรือไม่ผู้อาวุโสชิงถึงได้เงียบมาจนถึงตอนนี้

                ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ...เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดนั่นแหละเป็นดีที่สุด 

    “ดูแลรักษาตัวเองให้ดี ถ้าเหลือบ่ากว่าแรงอันใดในภายภาคหน้าหวังว่าจะไม่ต้องอาศัยกำลังฝีมือของพวกข้าอีกหรอกนะ” ลู่ชิงยิ้มอ่อนๆ ราวกับกลัวนักหนาว่าในอนาคตโนอาห์จะต้องมาขอให้พวกเขามาช่วยอีก

                หลังจากนั้นเริ่มเป็นการร่ำลากันโดยแท้จริง ในยุทธภพรับรู้ว่าพวกเขาไม่สนิทกันเท่าไหร่ แต่แท้จริงแล้วยอดฝีมือระดับนี้ไหนเลยจะไม่มีการไปมาหาสู่กัน นอกจากหลางเฉินที่ยืนนิ่งเป็นรูปปั้นกับชิงเซียวที่มองมาทางหลี่เจิ้งหมินด้วยสายตาแปลกๆแล้ว ยอดฝีมือแห่งยุคคนที่เหลือล้วนมาบอกโนอาห์กันด้วยไมตรีจิตทั้งนั้น

                หลิ่งเหวินบอกว่าท่าเท้าล่องนภาของเขายังไม่ถึงขั้น ริอาจจะมาท้าทายเซียนดาวตกเช่นเขายังเร็วไปหลายร้อยปี แต่ขณะเดียวกันกลับชี้แนะหลักการบางอย่างที่เป็นประโยชน์กับโนอาห์ได้อย่างมหาศาล

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×