ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Miracle Earth พิภพปาฏิหาริย์ : ปฐมบทแห่งราชันย์

    ลำดับตอนที่ #217 : ตรงกลางที่ว่างเปล่า(100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.09K
      56
      2 ก.พ. 64

               แต่โดดเด่นสะดุดตาจริงๆเห็นจะเป็นรูปปั้นห้าตนที่ยืนกันละคนมุมของห้อง ตรงกลางเป็นแท่นประหลาดขนาดใหญ่ที่โนอาห์ยังเดาไม่ออกว่ามันมีหน้าที่ไว้ทำอะไร การวางตำแหน่งอาจจะเพื่อทั้งทำหน้าที่ป้องกันห้องแห่งนี้หรือคุมขังสิ่งใดก็ตามที่อยู่ตรงกลางได้เหมือนกัน เพียงแต่ถ้าสังเกตจากตัวรูปปั้นทั้งห้าจะรู้สึกได้ลางๆว่าต้องมีที่มาที่ไปซ่อนอยู่ ประเด็นสำคัญก็คือรูปปั้นพวกนี้ส่วนต่างๆล้วนทำได้เหมือนจริงอย่างน่าเชื่อ จะมีก็แต่ส่วนใบหน้าที่เว้นว่างออกไป

    ตัวแรกที่อยู่ใกล้โนอาห์มากที่สุดเห็นได้ชัดว่าเป็นสตรี เรือนผมยาวถึงกลางหลัง เครื่องแต่งกายคล้ายจะเป็นจอมเวทหากแต่ในมือไร้ซึ่งไม้เท้าหรือตำราเวทมนตร์ แต่เป็นกล่องสี่เหลี่ยมประหลาดที่โนอาห์จำได้ดีว่าไม่เคยเจออาวุธแบบนี้ที่ไหนมาก่อน

    ฐานรูปปั้นมีตัวอักษรสลักไว้ด้วยอักษรไอช่าโบราณ ที่ต่อให้โนอาห์จะฉลาดล้ำเลิศไปกว่านี้ก็ไม่มีทางอ่านมันออกเพราะเขาไม่เคยเรียนรู้ภาษาโบราณของดินแดนไอช่ามาก่อน โชคยังดีที่ถึงแม้ตัวเขาเองจะอ่านไม่ออก แต่สำหรับไป๋หลินนั้นไม่ใช่

    ไป๋หลินร้องส่งเสียงเบาๆเหมือนเรียกเขา ก่อนจะยกขาหน้าวาดไปมากลางอากาศ เกิดเป็นคำๆหนึ่งลอยเด่นอยู่กลางอากาศซึ่งโนอาห์อ่านมันออกแน่นอน

    “บาเยนไฮด์...เดี๋ยวนะ ที่นั่นมีจอมเวทด้วยเหรอ?” โนอาห์เลิกคิ้วมีทีท่าประหลาดใจอย่างชัดเจน เท่าที่เขารู้และคนอื่นก็รู้แบบนี้เช่นเดียวกัน จักรวรรดิบาเยนไฮด์ขึ้นชื่อเรื่องเทคโนโลยีมาแต่ไหนแต่ไร ถึงกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กนั่นอาจจะเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีล้ำยุคของบาเยนไฮด์ แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือเสื้อผ้าแบบนี้ไม่มีทางเป็นนักประดิษฐ์อย่างเด็ดขาด

    “น่าสนใจ จอมเวทในแผ่นดินที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย” โนอาห์ผิวปากหวือ เท่าที่เขารู้มาในประวัติศาสตร์ของบาเยนไฮด์ไม่เคยปรากฏจอมเวทที่มีชื่อเสียง หรือกล่าวให้ถูกก็คือไม่เคยมีจอมเวทสลักชื่อไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของบาเยนไฮด์เลยด้วยซ้ำ

    ความเป็นไปได้ที่เขาคาดการณ์เอาไว้ ถ้าคำที่สลักไว้เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องโกหก ก็คงเป็นเพราะชื่อของจอมเวทสาวคนนี้ถูกลบออกไปจากหน้าประวัติศาสตร์ ซึ่งอย่างหลังดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้มากกว่า เพราะไม่จำเป็นเลยที่ต้องลงทุนวางกับดักไว้หลายชั้นหลายซ้อนเพื่อเขียนเรื่องที่ไม่มีอยู่จริงลงไป

                ดังนั้นที่มาของรูปปั้นตัวอื่นๆเขาก็พอจะเดาออกได้ลางๆ รูปปั้นมีทั้งหมดห้าตัว คงมาจากห้าทวีปเป็นแน่แท้ ส่วนที่เนื้อหาใต้ล่างจะเขียนอธิบายไว้ยังไงบ้างนั้น ตรงนี้แหละที่เขาคิดว่าน่าสนใจ ถือเสียว่าเดินทำความรู้จักรูปปั้นทุกตัวให้หมดก่อนจะเดินไปสำรวจแท่นตรงกลางห้อง

                ตัวที่สองนับจากด้านขวาเป็นรูปปั้นผู้ชายรูปร่างดี ฐานเบื้องล่างมีอาวุธไม่ซ้ำชนิดเหมือนเป็นปักอยู่ ตัวรูปปั้นเองก็ถือดาบหนึ่งเล่มที่ไม่มีลวดลายอะไรพิเศษเช่นเดียวกัน การแต่งกายโนอาห์บอกไม่ถูกว่าเป็นนักรบหรือมีอาชีพอะไร  

    แต่พออ่านข้อความที่ไป๋หลินเขียนเขาจึงจะพอเดาออกว่าที่มาของรูปปั้นตัวนี้น่าสนใจกว่าที่คิด เพราะดินแดนที่สลักชื่อกำกับเอาไว้ก็คือซูหมิง ทวีปที่โนอาห์คิดว่าน่าจะเหมาะกับตนมากกว่าไอช่าเสียอีก แต่การแต่งกายกลับไม่ใกล้เคียงชาวซูหมิงเลยซักนิดเดียว

                ตัวถัดมาเป็นรูปปั้นบุรุษเช่นเดิม การแต่งกายเด่นชัดไปทางนักรบ แต่ว่าทั่วร่างกลับไม่มีเกราะคอยคุ้มกันร่างกายเลยซักส่วนเดียว แม้จะไม่เห็นสีหน้าและแววตาก็สัมผัสได้ถึงความกล้าหาญ สองมือถือดาบและโล่ห์ที่ซึ่งมองด้วยตาเปล่าก็รู้ได้ว่าไม่ใช่อาวุธธรรมดา เรียกได้ว่าออร่าของผู้กล้าปราบจอมมารลอยมาเต็มเปี่ยมอย่างไม่ต้องปิดบัง

                ปัญหาก็คือชื่อที่สลักตรงฐานรูปปั้นกลับไม่ใช่อีเดน แต่เป็นทริสแทน...ดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของพวกปิศาจและเหล่าอมนุษย์ ที่ตอนนี้แม้จะสิ้นแสนยานุภาพไปมาก แต่ความร้ายกาจของกองทัพที่สั่นสะเทือนไปทั้งดินฟ้าในครั้งอดีตก็ยังตามมาหลอกหลอนผู้คนได้ทุกยุคทุกยุคสมัย แล้วทำไมคนที่ดูเหมือนจะเป็นมนุษย์ถึงได้ไปอยู่ในดินแดนแบบนั้นได้

    ทว่าความน่าสนใจที่ดึงดูดโนอาห์จริงๆกลับเป็นลูกปั้นตัวข้างๆ ทั้งเขาบนหัวที่ดูยังไงก็ไม่น่าใช่มนุษย์แน่ๆ แม้รูปปั้นพวกนี้จะไม่มีชิวิตแต่โนอาห์กลับสัมผัสได้ถึงตบะบารมีที่ลอยออกมาจากรูปปั้นตรงหน้าผิดกับตัวที่แล้วมาโดยสิ้นเชิง ถ้าเช่นนั้นในยามที่ปิศาจตนนี้ยังมีชีวิตอยู่ เป็นไปได้มากว่าตบะบารมีในยามนั้นย่อมสูงส่งหาผู้ใดเทียม

                ประเด็นอยู่ที่ตรงข้างใต้รูปปั้นดันเขียนกำกับไว้ว่าอีเดน...

                ดินแดนที่โนอาห์รู้ดีว่าเป็นของแสลงสำหรับพวกปิศาจมากแค่ไหน ถึงจะไม่นับระดับจอมปิศาจเฉกเช่นอเมมอน แต่ความรู้สึกบางอย่างของโนอาห์ชวนให้คิดว่าที่มาของปิศาจตนนี้อาจจะไม่เป็นเหมือนอเมมอนเสียทีเดียว ส่วนที่ทำไมปิศาจตนนี้ถึงได้ไปอยู่ในทวีปอีเดนได้นั้น มาตรว่าถ้าโนอาห์ยังขบคิดปัญหาก่อนหน้าไม่ออก คงยากที่จะหาข้อสรุปได้ในเวลาอันสั้นรวมถึงมีข้อมูลเพียงเท่านี้

                จอมเวทจากบาเยนไฮด์ นักรบจากซูหมิง ผู้กล้าในทริสแทน และจอมมารแห่งอีเดน ไม่ว่าจะมองเผินๆหรือพินิจกันอย่างจริงจัง ความสัมพันธ์ระหว่างส่วนแรกกับส่วนหลังไม่มีความเข้ากันเลยซักนิดเดียว โนอาห์ยิ้มขบขันเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองรูปปั้นตัวสุดท้าย

                การแต่งกายลักษณะนี้สมควรมาจากซูหมิงถ้าจะนับแค่ทวีปในโลกแห่งนี้ ทว่าโนอาห์รู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกกับตัวตนอันจริงแท้ของรูปปั้น แต่เขาก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันคืออะไรกันแน่ น่าเสียดายที่บริเวณใบหน้าของรูปปั้นเหล่านี้ถูกเว้นว่างราวกับจงใจ ต่อให้โนอาห์จะเก่งกาจซักเพียงไหนก็ไม่มีทางเดาออกว่าพวกเขาเหล่านี้มีโฉมหน้าเป็นอย่างไร จึงได้แต่อาศัยข้อมูลเล็กน้อยมาปะปิดปะต่อเองแล้ว

                “ไอช่า...” โนอาห์ทวนเสียงสูงเมื่อไป๋หลินขีดเขียนตัวหนังสือกลางอากาศ ซึ่งก็แปลกมาจากตัวอักษรโบราณที่สลักอยู่บนฐานของรูปปั้น

                ทวีปไอช่าหรือดินแดนแห่งมนตราหากจะบอกว่าเป็นสิ่งที่จอมยุทธ์จากต่างโลกคุ้นเคยมากที่สุดก็ไม่ผิดเท่าไหร่นัก ทั้งอยู่อาศัยที่อัลเทร่าซึ่งเป็นเมืองหลวงมาเป็นเวลาแรมปี แน่นอนว่าด้วยระยะเวลาขนาดนี้โนอาห์ก็ไม่ได้นั่งกินนอนกินอยู่เฉยๆ โดยเฉพาะคนรอบๆตัวเขาแต่ละคนล้วนเป็นถึงผู้ทรงความรู้ในแต่ละด้าน ยิ่งอารันแทบจะบอกได้ว่าเป็นห้องสมุดเคลื่อนที่ยังไงยังงั้น ทำให้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ความเป็นมาหรืออะไรทำนองนี้โนอาห์ก็พอจะงูๆปลาๆได้อีก

                และหัวสมองทางด้านนี้ที่ครูพักลักจำมาแบบงูๆปลาๆ เขาจำไม่เคยได้ว่ามีจอมยุทธ์ในไอช่ามาก่อนหน้าเขานอกจากเจ้าของไม้เท้าสยบมังกรคนก่อน เพียงแต่โนอาห์หรือชิวหลงในโลกเดิมพอจะจดจำคำบอกเล่าในรูปพรรณสันฐานของอันชิงหลงผู้ถือครองไม้เท้าสยบมังกรคนก่อนหน้า ประเด็นก็คือสิ่งที่เขาได้ยินและฟังมาล้วนไม่ใกล้เคียงกับรูปลักษณ์ของรูปปั้นตรงหน้านี้เลย

                ยกเว้นเสียแต่จะมีจอมเวทในไอช่านึกอุตริ แต่งกายเลียนแบบชาวซูหมิงอะไรทำนองนี้ ปัญหาคือเหตุผลที่ว่ามาพอฟังขำๆในวงสนทนาพอเป็นไปได้อยู่ แต่ครั้นจะนำมาพูดจาหารือกันจริงจังเกรงว่าจะไม่ไหว โนอาห์จึงได้แต่ขมวดคิ้วลอบเก็บความสงสัยที่มีรูปปั้นทั้งห้าเหล่านี้ต่อไป

                “ไม่ต้องเศร้าไปหรอกน่า เรื่องนี้แบบนี้รู้เร็วรู้ช้าฉันคิดว่าก็มีค่าเท่ากัน” โนอาห์หันไปพูดยิ้มๆเชิงปลอบใจให้กับไป๋หลินที่ทำหน้าหงอยๆ มันคงคิดว่าช่วยอะไรไม่ได้กระมังถึงตีหน้าเศร้าแบบนั้น “อีกอย่างถ้าถ้าฉันไม่ได้เธอ คงหัวหมุนยิ่งกว่านี้อีกเพราะอ่านภาษาพวกนี้ไม่ออกน่ะ”


     


     


     

                     


     


     

            

           

     

               


     


     

            

               

               

       

     

     

                

               

               

     

     

     

     

                

     

     

                

               

               

     

     

     

     

                

               

               

     

               


     


     

            

               

               

       

     

     

                

               

               

     

     

     

     

                

     

     

                

               

               

     

     

     

     

                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×