ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Miracle Earth พิภพปาฏิหาริย์ : ปฐมบทแห่งราชันย์

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5 ยอดฝีมือ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 16.05K
      447
      19 มิ.ย. 64

     

     

     

               “นึกว่าจะทำอะไรที่มันน่าตื่นตาตื่นใจกว่านี้ซะอีก” อารันเอ่ยยิ้มๆให้กับเพื่อนของตน ที่ตอนนี้กลับเงียบลงจนผิดสังเหต

    “สำหรับเจ้าพวกนั้น แค่นี้ก็เพียงพอ ที่น่าสนใจจริงๆน่ะมัน...” โนอาห์แย้งด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ ก่อนที่อารันจะเอ่ยขัดอย่างรู้ทัน

    “ผู้หญิงสองคนนั้นใช่หรือเปล่า” พ่อค้าประหลาดหัวเราะขึ้นมาเบาๆ โนอาห์ขานรับด้วยน้ำเสียงถอนหายใจเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่าคำตอบของเขานั้นถูกต้อง เพราะเป้าหมายของโนอาห์แต่เดิมก็ไม่ได้เพื่อช่วยผู้หญิงสองคนนั่นตั้งแต่แรก

    แต่เป็นการช่วยเหลือโจรกลุ่มนั้นให้รอดพ้นจากอะไรบางอย่างเสียมากกว่า

    ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ฉันท์ใด ยอดฝีมือย่อมมองยอดฝีมือด้วยกันออกก็ฉันท์นั้น ประสบการณ์ที่สั่งสมของโนอาห์ได้สอนสั่งเขามาเป็นอย่างดีว่าคนแบบไหนมีลักษณะเช่นไร และสิ่งที่เขามองเห็นจากหญิงสาวปริศนาสองคนนั้นก็คือคมในฝัก และดูท่าจะเป็นคมดาบที่อันตรายอยู่ไม่น้อย

    “ไม่นานคงได้พบกันอีก” อารันกล่าว หวังเพียงเพื่อจะปลอบใจ แต่ประโยคถัดมาที่เขาได้ยินก็ย่อมรู้ได้เลยว่าสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่นั้นผิดอย่างมหันต์

    “เพราะจะได้เจอกันอีกนี้แหละ มันเลยน่ากลัวรู้หรือเปล่า” ความนัยที่แฝงมาทำให้อารันเข้าใจในทันทีทันใด ดูท่าชายผู้นี้จะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้เร็วทีเดียว

    หมายความว่าคู่แข่งในการสอบของพวกเขาเริ่มปรากฏตัวขึ้นมาบ้างแล้ว เสียแต่ว่านั้นจะเป็นคู่แข่งหรือมิตรสหาย ชายทั้งสองหวังเพียงให้มันเป็นอย่างหลัง

       ในบริเวณมุมหนึ่งของเมืองอัลเทร่า ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเหตุการณ์นั้นมากนัก ซ้ำยังห่างจากจุดที่พวกโนอาห์กำลังเดินอยู่เพียงสี่ชั่วตึก ยังมีหญิงสาวสองคนที่ถูกพูดถึงเมื่อซักครู่กำลังเดินชมเมืองอย่างใจเฉิบ แต่คำนั้นคงใช้ได้แค่สำหรับหญิงสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น

    “นายหญิงดูเหมือนกำลังดีใจ” หญิงสาวผมสีดำทักขึ้น ท่วงทีการพูดจาช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีความสัมพันธ์ของคนสองคน แต่ว่านั้นก็เป็นเพียงแต่ความคิดของคนพูดเท่านั้น

    “บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกแบบนั้น ยูกินี่น้า...ช่างมันเถอะๆ” หญิงสาวผมสีน้ำตาลหน้างอง้ำในบันดล ก่อนจะเปลี่ยนใจไม่ต่อความสาวความยืด เพราะเกรงว่าเรื่องมันคงจะเลยเถิดไปกันใหญ่

    ยูกิ หรือชื่อเต็มๆก็คือ วาตานาเบะ ยูกิ ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ใกล้ชิดเธอมากกว่าใครๆ ถ้าจะมีมากกว่านี้ก็คงเป็นท่านแม่ของเธอ นั้นทำให้เธอรู้สึกสนิทสนมกับยูกิมากเป็นพิเศษ แต่ผลตอบแทนของความรู้สึกนั้นก็มีเพียงประโยคและท่าทีเดิมเหมือนที่ผ่านมา แต่นั้นมันก็ทำให้เธอชินชาจนไม่รู้จะพูดยังไงมาตั้งนานแล้ว

    “หน้าที่ของข้าคือต้องปกป้องนายหญิง...หรือท่านซายากะจะลืมไปแล้วว่าพวกเรามาที่นี้ด้วยจุดประสงค์ใดกัน” ยูกิเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงราบเรียบ คำสรรพนามแทนตัวเป็นในทางแขนงเก่าอย่างเห็นได้ชัด แตกต่างกับซายากะที่มาจากสถานที่เดียวกันอย่างเห็นได้

    อาเบย์โนะ ซายากะ บุตรีเชื้อสายตรงของตระกูลองเมียวจิเลื่องชื่อจากยามาไท ลูกสาวเพียงคนเดียวของผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน นั้นจึงเป็นที่หมายมั่นปั้นมือของผู้อาวุโสในตระกูลคนอื่นๆว่าคนที่สมควรได้รับตำแหน่งนั้นต้องเป็นซายากะเท่านั้น นั้นจึงทำให้ตั้งแต่เด็กซายากะต้องได้รับการฝึกฝนในทุกๆด้าน จากที่เพียบพร้อมอยู่แล้วกลายเป็นระดับที่เหนือล้ำยิ่งกว่าเก่า แต่นั้นก็ไม่อาจทำให้เธอเติบใหญ่ขึ้นถ้าไม่ได้ออกมาเผชิญโลกภายนอก

    “ขอทางหน่อยครับ...ขอทางหน่อย ขอบคุณนะ ขอบคุณมากเลย” โนอาห์แทรกตัวไปยังกลุ่มคนอย่างรวดเร็วราวกับปลาไหล จนในที่สุดก็มาถึงแถวหน้าสุด และเหตุการณ์ตรงหน้าที่เขาพบเจอตรงหน้านั้นก็ทำให้เขาผิวปากหวือ

    ผู้ชายนับสิบกำลังยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับเขาสองคน โนอาห์จำไม่ได้แล้

    ด้วยเหตุนี้เขาจึงโดนชาวยุทธดูแคลนอยู่บ่อยครั้งว่าเป็นคนไม่มั่นคง ทำอะไรไม่อยู่ในร่องในรอย แต่ทว่าก็น่าแปลก เพราะไม่เคยมีใครกล้าหาเรื่องโนอาห์ตรงๆเลยซักคนเดียว ยกเว้นเสียแต่จะโดนหาเรื่องหรือเหตุบังเอิญก็เท่านั้น เพราะทุกคนในยุทธจักรต่างทราบดีว่าเด็กหนุ่มคนนี้ชอบทำตัวเป็นคมในฝัก ถ้าไม่จำเป็นมักจะติดเล่นเป็นนิสัยอยู่ประจำ แต่นั้นก็ทำให้ใครต่อใครไม่สามารถประเมินฝีมือที่แท้จริงของโนอาห์ได้เลย

    ซึ่งโนอาห์ก็หวังให้เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่แรก

    “เอานี่ไป” อารันหันกลับมาเรียกเพื่อนของตนอีกครั้ง ก่อนจะวางถุงบรรจุเงินยัดใส่มือชายต่างโลกทันทีทันใด แน่นอนว่าโนอาห์ต้องเลิกคิ้วประหลาดใจว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น

    “นายอย่าบอกนะว่า...” โนอาห์ยิ้มเจื่อนๆ นึกไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามจะมาไม้นี้ อันที่จริงเขาก็ได้คิดเอาไว้ตั้งแต่แรก แต่ที่ผิดคาดก็คือไม่นึกว่ามันจะมาเร็วถึงเพียงนี้

    “ถูกต้องตามนั้น พวกเราจะแยกทางกันไปซื้อของ ไม่งั้นแบบนี้เสียเวลาตายชัก นายยังไม่มีอุปกรณ์เวทมนตร์ เพราะงั้นก็ไปซื้อซะ เงินในถุงนั้นคงเพียงพอ....อ้อ! อย่าเผลอไปก่อเรื่องอะไรเข้าล่ะ เสร็จแล้วไปเจอกันที่ร้านตรงหัวมุมโน่นนะ” อารันแจกแจงอย่างเชื่องช้า ในขณะที่โนอาห์กลับคิดว่ามันช่างรวดเร็วเสียเหลือเกิน ไม่ต้องรีรอให้เขาเอ่ยปากทัดทาน พ่อค้าตัวดีก็ออกตัวเดินเสียแล้ว พร้อมกับทิ้งท้ายออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูยังไงก็น่าเตะเป็นอย่างยิ่ง

    อย่าหลงล่ะ มันว่าแบบนี้

         แต่ขอโทษที...สำหรับที่เดินทางมาอัลเทร่าเป็นครั้งแรก จะไม่ให้หลงได้ยังไงไหว

    เมื่อคนเราไม่มีทางเลือกอื่นใด เป็นธรรมดาที่ต้องบุกเบิกเส้นทางขึ้นมาเอง โนอาห์อาศัยทักษะการเข้าหาคนที่เจ้าตัวภาคภูมิใจถามปะฉะดะคนต่อคนจนในที่สุดก็มาถึงย่านที่ขายอุปกรณ์เวทมนตร์ในเมืองอัลเทร่าเสียที และดูเหมือนจำนวนผู้คนจะมีกันบางตามากกว่าโซนอื่นๆ อาจเป็นเพราะว่าไม่ใช่ทุกคนที่สามารถร่ายเวทได้ ดังนั้นร้านค้าพวกนี้จึงค่อนข้างพยุงตัวอยู่ยากในระดับหนึ่ง

    “สนุกล่ะงานนี้” เขาพูดอย่างนึกสนุก หลายครั้งที่เขาได้ออกมาเดินตัวคนเดียวในตลาด แต่ว่าการเดินตลาดในอีกโลกนั้นเป็นสัมผัสที่แตกต่างกันออกไป ไม่แปลกที่คนอย่างเขาจะรู้สึกตื่นเต้น

    เป้าหมายก็คืออุปกรณ์เวทมนตร์

    อุปกรณ์เวทมนตร์ในโลกอิซซูมีลมีอยู่หลายแบบหลายลักษณะ เอาเข้าจริงต่อให้เป็นเศษไม้ธรรมดา ถ้าผ่านการลงอาคมและทำพิธีกรรมโดยจอมเวทผู้ทรงภูมิแล้วล่ะก็ ย่อมสามารถนำมาใช้งานได้ปกติอย่างไม่ต้องสงสัย แต่กระนั้นขั้นตอนมันก็ยากลำบากเกินไป อีกทั้งถ้าหาซื้อได้ก็ควรที่จะหาซื้อ เพราะยังไงอุปกรณ์เวทมนตร์ก็ใช่ว่าจะแตกต่างกันมากนัก

                        “ว่าไงพวก พ่อของพวกแกมาหาแล้วนะ” โนอาห์พูดกลั้วหัวเราะ โบกมือทักทายให้กับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่หันมามองเล็กน้อย

    ศึกประเดิมของเขาได้มาถึงแล้ว!!

    ดังนั้นโรงเรียนอวาลอนจึงเป็นที่หมายของหญิงสาวทั้งสองไปโดยปริยาย

    “นี่ๆ ยูกิคิดว่าสองคนนั้นเป็นยังไงบ้างเหรอ” ซายากะถามเสียงใส ผู้เป็นบ่าวเลิกคิ้วสงสัยชั่วครู่ ก่อนจะรู้ว่านายหญิงของเธอกำลังพูดถึงใคร

    คนที่อาจหาญจนคล้ายกับบ้าบิ่น แต่ฝีมือของชายผู้นั้นก็ต้องยอมรับโดยดีว่าเก่งกาจหาใครเทียมทัน และดูเหมือนยังตั้งใจเก็บงำส่วนที่เหลือเอาไว้ ปล่อยมาเพียงส่วนหนึ่งให้ใครต่อใครยลโฉม ในขณะที่อีกคนเหมือนจะทำตัวสงบเสงี่ยมจนดูไม่คล้ายกับว่ามาด้วยกัน แต่ท่าทีและสีหน้าของเขาคนนั้นที่แสดงออกมาก็ไม่แปลกที่นายหญิงของเธอจะมองมาพวกเขาเป็นเพื่อนกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

    ช่างเหมือนกับพวกเธอทั้งสองคนเหลือเกิน

    “การเคลื่อนไหวของผู้ชายคนแรก...ข้ายังต้องยอมรับว่าไร้ซึ่งที่ติ แต่ดูเหมือนยังเก็บออมฝีมือที่แท้จริงเอาไว้ ในขณะที่อีกคน...แม้มันจะไม่ได้ขยับตัว แต่ท่าทีที่ชายคนนั้นแสดงออกมาก็ไม่สิ่งธรรมดาที่จะมองข้ามได้” ยูกิไล่บรรยายเป็นฉากๆ ซายากะที่เป็นคนฟังก็ได้แต่พยักหน้ารัวเร็วราวกับว่าเห็นด้วยกับคำพูดของยูกิ

     “พวกเราคงได้เจอพวกเขาอีก....” หญิงสาวผมสีน้ำตาลเอ่ยเสียงใส ก่อนจะสาวเท้าออกไปด้วยความมั่นคง แหงนหน้ามองท้องฟ้าเล็กน้อยราวกับว่ากำลังหาอะไรบางสิ่ง

    “ทำไมท่านถึงมั่นใจขนาดนั้น?...” ยูกิทวนเสียงขึ้นเบาๆ 

    “ถ้างั้น...ช่วยมาเดินเลือกเป็นเพื่อนกันหน่อยได้หรือเปล่า ก็เห็นอยู่ใช่ไหมล่ะว่าฉันมันหลังเขาขนาดไหน ขืนเดินเองคนเดียวรับรองเป็นลมตายกลางถนน” โนอาห์ว่าไปนู่น ยกเหตุผลไปเรื่อย หญิงสาวผมทองได้แต่หรี่ตามองโนอาห์อย่างใช้ความคิด ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบกลับด้วยการกระพริบตาปริบๆ และในที่สุดดูเหมือนความพยายามของโนอาห์จะประสบความสำเร็จ

                “ก็ได้ แต่อย่านานนักล่ะ ฉันก็ต้องมีธุระที่ต้องไปต่อเหมือนกัน และอย่าเห็นว่าทำตัวน่าสงสัยเชียวนะ! ไม่งั้นแม่แทงไส้ปลิ้นนะบอกไว้ก่อน” สาวน้อยผ่อนลมหายใจลงเล็กน้อย เป็นจังหวะเดียวกับที่โนอาห์ยิ้มร่าด้วยความยินดี          

     

                “เพราะงั้นเพื่อความง่ายในการเรียก ฉันชื่อโนอาห์ ยินดีที่ได้รู้จัก” โนอาห์แนะนำตัวเองเสร็จสรรพ พลางยิ้มน้อยๆ

                “เซเรน่า...เซเรน่า สวานีเซียร์ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน” เธอชักสีหน้าแปลกๆซักพัก ก่อนจะบอกชื่อของตนให้ชายหนุ่มรับรู้

                หลังจากนั้นเขาและเธอก็ได้ออกเดินทางตามหาไม้เท้าที่คู่ควรกับโนอาห์ ซึ่งระหว่างทางคนทั้งสองได้ผ่านตาไม้เท้ามามากต่อมาก แต่นั้นก็ไม่ทำให้โนอาห์แสดงความพึงพอใจออกมาได้แต่อย่างใด จนกระทั่งโนอาห์และเซเรน่าได้เดินจนมาถึงร้านค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งแปะสลักป้ายเด่นหราว่าร้านเวทมนตร์ราเวนทอส

                “นายนี่มันเรื่องมากจริงๆให้ตายสิ แล้วหยุดทำไมล่ะนั้น” เซเรน่าเบรกแทบไม่ทันเมื่อพบว่าโนอาห์ที่เดินนำหน้าเธอกลับหยุดนิ่งค้างไปซะอย่างนั้น

                เพราะโนอาห์เองกำลังจ้องมองอะไรบางสิ่งอยู่

                ไม้เท้าลวดลายสลักไปสัญลักษณ์แปลกประหลาด ส่วนหัวไม่ใช้ลูกแก้วแต่เป็นรูปปั้นสลักหัวมังกรหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับไม้เท้า ด้ามทั้งด้ามเป็นสีทอง ไม่มีพู่ตรงส่วนปลาย ความยาวพอเหมาะพอดีไม่แตกต่างไปจากไม้เท้าหรือคทาเวทมนตร์ด้ามอื่น แต่โนอาห์กลับจำมันได้แม่นว่าสิ่งที่เขากำลังมองมีชื่อว่าอะไร

                ไม้เท้าสยบมังกร อาวุธวิเศษอันดับต้นๆในยุทธภพ       

         ยแนะนำแบบนี้ก็ดีไม่น้อย

    “ไม่รู้หรอก” เธอตอบเสียงซื่อ

    “ฮะ!!” โนอาห์เผลอร้องเสียงหลง เนื่องจากไม่ได้เตรียมใจเอาไว้ก่อนว่าคำตอบจะเป็นในลักษณะนี้

    “ก็คนที่จะใช้มันนายไม่ใช่เหรอ แล้วฉันจะไปรู้ได้ไงล่ะยะ” เธอตอบ ซึ่งก็ดูสมเหตุสมผลดี

                โนอาห์เคยได้ยินเรื่องเล่าในสังคมชาวยุทธมามากมาย หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องราวของผู้ใช้ไม้เท้าสลักเป็นรูปหัวมังกร ชายผู้นั้นมากด้วยฝีมือจนเป็นเอกในด้านวิชาไม้เท้า ทั้งแผ่นดินยากจะหาคนต่อกรด้วยได้ จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งเจ้าของไม้สยบมังกรก็ได้หายตัวไปจากยุทธภพโดยไม่ทราบสาเหตุ จนบัดนี้ก็กินเวลาไปกว่ายี่สิบปีแล้ว

                แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้มาเจอไม้เท้าสยบมังกรอีกในที่แบบนี้

                “นายสนใจไม้เท้านั่นเหรอ...” เซเรน่าถามหวาดๆ สลับไปที่ไม้เท้าสยบมังกรและโนอาห์ไปมา

                “มันก็ประมาณนั้นน่ะแหละ เอาเป็นว่าฉันเลือกได้แล้ว...นั้นคือไม้เท้าที่ฉันต้องการล่ะนะ” โนอาห์หันไปตอบเซเรน่าด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินไปต่อรองราคาค่างวดกลับเจ้าของร้านอย่างผาสุก

                “เดี๋ยวสิยะ! จะไม่ลองเช็คดูหน่อยเหรอ อีกอย่างไม้เท้านั่นมัน...” เซเรน่าขมวดคิ้วเรียวยาวจนแทบแนบชิดติดกัน เธอไม่เคยเห็นและไม่รู้จักอุปกรณ์เวทมนตร์ในลักษณะนั้นมาก่อน ดังนั้นหญิงสาวจึงไม่อาจประเมินได้ว่าโนอาห์มีความเหมาะสมกับไม้เท้าสยบมังกรด้ามนั้นหรือไม่

                ว่ากันตามตรงโนอาห์ก็ไม่รู้ เพียงแต่คิดว่าขอเพียงได้ลองจับมันซักครั้งก็เป็นบุญในชีวิตแล้ว

                “ไม้เท้านั้น...เคยมีลูกค้าท่านหนึ่งนำมาในร้านและบอกผมว่าฝากวางขายให้ที แต่เขากลับพูดจาแปลกๆนี่สิ” คนที่เป็นเจ้าของร้านซึ่งแปะป้ายชื่อว่าราเวนเกาหัวแกรกๆ และนั้นเองยิ่งทำให้โนอาห์และเซเรน่างงงวยไปกันใหญ่

                “แต่เขาก็ไม่ได้ตั้งราคาเอาไว้ แล้วไม้เท้านั้นมันก็อยู่มานานตั้งแต่พ่อของผมแล้ว อืม...ซักยี่สิบปีที่แล้วได้มั้ง เอาเป็นว่าผมคิดแค่ครึ่งราคาแล้วกัน ไม่ทราบว่ามีสินค้าที่ต้องการอีกไหมครับ” ราเวนเอ่ยถาม โนอาห์ชะงักนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

     หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์วุ่นวายเมื่อซักครู่มาไม่นานนัก โนอาห์และอารันเลือกที่จะเดินตรวจตราบริเวณโดยรอบให้ทั่วเสียก่อน โดยมีจุดประสงค์สำคัญนั้นก็คือการผ่องถ่ายของที่อยู่ในตัวอารันออก ถึงแม้ว่าพ่อค้าเร่หน้าสวยผู้นี้จะมีเงินติดตัวอยู่ในระดับหนึ่ง แต่เพื่อเอาชัวร์ไว้ก่อนพวกเขาจึงต้องการที่จะหาเงินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

    ที่สำคัญระดับของอุปกรณ์เวทมนตร์ยังแตกต่างกัน โดยจำแนกแจกแจงได้หลายลักษณะทั้งจากวัตถุดิบในการทำ หรือคนที่สร้างมันขึ้นมา แต่กระนั้นการที่จะให้อุปกรณ์เวทมนตร์ชิ้นใดๆเปล่งประสิทธิภาพออกมาอย่างถึงขีดสุดนั้น ย่อมต้องพึ่งพาพลังเวทหรือมานาของผู้ใช้เป็นสำคัญ

    “เลือกยากจริง…รู้งี้ถามข้อมูลมาให้ดีมากกว่าก็ดี” โนอาห์ปรายตามองไม้เท้าตลอดจนอุปกรณ์เวทหลากหลายแขนงที่วางตั้งโชว์อยู่หน้าร้าน โดยเขาเพ่งเล็งไปที่ไม้เท้าหรือคทามากกว่าแบบอื่นๆ เนื่องจากมันจับได้ถนัดมือและสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลายกว่ามาก

    “ฮืม...” เขามองซ้ายมองขวา ก่อนจะเขยิบเข้าไปดูไม้เท้าด้ามหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่สุด ทั้งนี้เพราะเขาไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน ดังนั้นจึงเลือกใช้กลยุทธ์ที่เข้าใจง่ายและสิ้นคิดมากที่สุด

        ดูๆไปก่อน เดี๋ยวก็มีคนมาอธิบายสรรพคุณเอง

    “นั้นเป็นไม้เท้าไวท์เฮาท์ ด้ามจัมทำจากต้นสนหิมะที่สิบปีจะมีซักต้น พู่ตรงปลายทำจากขนของสิงโตหิมะ และตัวไม้เท้าลงอาคมโดยแม่มดจากโยฮัน แต่มันไม่เหมาะกับนายหรอกนะ เอาไปใช้ก็คงไม่เกิดประโยชน์” เป็นอย่างที่โนอาห์คิดเอาไว้ทุกประการ เสียงบรรยายสรรพคุณเสร็จสรรพดังแว่วมาตามลม ทว่าเมื่อฟังจากน้ำเสียงก็ต้องรู้ขัดๆเพราะเสียงหวานใสเกินกว่าจะเป็นแม่ค้าที่มีอิมเมทประมาณรุ่นป้า และประโยคท้ายๆที่ถึงกับทำให้โนอาห์คิ้วกระตุกโดยไม่ได้ตั้งใจ

    มาขอให้คนอย่างฉันไม่มีเรื่องคงจะยากหน่อย

    ก็ในเมื่อเรื่องดันวิ่งมาฉันแทบทุกวันเลยนี่สิ

    โนอาห์หันขวับไปทางต้นเสียงในทันที ก่อนจะต้องเลิกคิ้วชึ้นเล็กน้อยด้วยความสนใจ คนที่ยืนอยู่ข้างๆพูดกรอกหูเขาเมื่อซักครู่นั้นเป็นผู้หญิงอายุรุ่นราวคราวกับเขาและอารัน ผมบลอนด์สีทองมัดไว้เป็นหางม้าทิ้งไว้ข้างหลัง ใบหน้าผิวพรรณไร้ที่ติคงเป็นเพราะมาจากครอบครัวที่มีฐานะดี เมื่อประกอบกับเสื้อผ้าที่ดูมีความแพงอยู่ในตัวก็ยิ่งยืนยันได้ในทันที ดวงตาสีฟ้ากำลังมองมาที่เขาอย่างไม่วางตา

    “ไม่นึกเลยว่าแม่ค้าสมัยนี้จะมีคนรุ่นราวคราวเดียวกันด้วย ไม่เลวๆ...” โนอาห์พยักหน้าหงึกๆหลังจากนิ่งเงียบอยู่นาน และผลตอบแทนของการเปิดประเด็นกับสาวน้อยด้วยคำพูดแบบนี้ ผลจะเป็นเช่นไรย่อมๆรู้กันดีอยู่แก่ใจ

    “ปากเสีย! ฉันก็แค่เดินผ่านมาเท่านั้นแหละ แล้วนี่อะไร ขอบคุณซักคำก็ไม่มี แย่จริงๆ...” สาวน้อยคนดังกล่าวส่ายหัวไปมา โนอาห์ที่ยืนรอจังหวะสวนกลับอยู่จึงเป็นฝ่ายแย้งขึ้นมาบ้าง

    “ขอบคุณเรื่องอะไรกันล่ะฮื้ม เรื่องที่เธอบอกว่าฉันไม่คู่ควรกับเจ้านี่น่ะนะ” โนอาห์ตอบกลับทันควัน

    “ก็ใช่น่ะ อ๊ะ!...อย่าบอกนะว่านายไม่รู้เรื่องนี้ ต้องใช่แน่ๆ!” หญิงสาวผมทองพยักหน้าเออออไปเองเสร็จสรรพ ในขณะที่โนอาห์เริ่มเปลี่ยนจากอารมณ์คุกรุ่นเป็นความไม่เข้าใจเข้าแล้ว

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×