คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 8 จอมเวทสูงสุด
“คนส่วนมากเขาไม่มาเช้าขนาดนี้หรอกค่ะ พวกเราถือว่ามาเร็วมากแล้ว” ซายากะตอบคำถามของโนอาห์ด้วยรอยยิ้ม เจ้าตัวพยักหน้าหงึกๆเกาหัวแก้เก้อ ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปข้างในพร้อมกับอีกสามคนที่เดินมาด้วยกัน
และในตอนนั้นเองพวกเขาทั้งสี่ก็ได้ค้นพบสวรรค์แห่งที่สอง
ภายนอกนับว่างดงามหาสิ่งใดเปรียบแล้ว ภายในกลับยิ่งไปกว่านั้นเหมือนอยู่คนละโลก บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยสวนดอกไม้นานาพรรณ อีกทั้งยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งมองเห็นตัวปราสาทเด่นชัดมากยิ่งขึ้น เด่นเสียจนมองเห็นได้ว่าอะไรเป็นอะไร พวกเขาทั้งสี่ดื่มด่ำกับความงามรอบๆก่อนจะเดินตรงไปยังทางที่คนอื่นๆเดิน เพราะคิดว่านั่นน่าจะเป็นจุดหมายของพวกตน
“โอ๊ะ พวกคุณมาเป็นกลุ่มสุดท้ายของกลุ่มที่สองพอดีเลยนะคะ เชิญทางนี้เลยค่ะ” คนที่เหมือนเจ้าหน้าที่ซึ่งรออยู่บริเวณลานกว้างของปราสาทกล่าวด้วยรอยยิ้ม คิดทึกทักไปว่าพวกเขามาด้วยกัน ผายมือไปตามระเบียงทางเดินซึ่งดูรกร้างคนเสียจนน่าขนลุก
“เดินไปตามทางซักพัก จะเจอประตู แล้วก็เข้าไปรอในห้องนั้นได้เลยนะคะ” เจ้าหน้าที่แนะนำเสร็จสรรพ ก่อนจะขอปลีกตัวไปบอกทางแก่ผู้เข้าสอบคนอื่นอีก ถึงจะไม่ทราบว่าที่นี้มีระบบการจัดวางคนอย่างไร แต่ในเมื่อได้อยู่กลุ่มเดียวก็ดีนักหนาแล้ว
พวกเขาสี่คนเดินตรงไปตามทางที่เจ้าหน้าที่สาวบอก และพบประตูบานอย่างที่บอกไว้จริงๆ โนอาห์เป็นคนแรกที่ขอเปิดประเดิมเอาฤกษ์เอาชัย ซึ่งคนอื่นก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด และเมื่อเปิดเข้าไปพวกเขาก็ได้พบห้องโถงกว้างเกินกว่าขนาดที่เห็นภายนอก คาดว่าคงเป็นผลมาจากเวทมนตร์สายมิติระดับสูง ในห้องโถงแบ่งออกเป็นสองชั้น และมีเข้าสอบคนอื่นๆมานั่งรอได้ซักระยะหนึ่งแล้ว บ้างพวกโนอาห์ก็มองเห็น บ้างก็หลบมุมตามเสาหรืออยู่บนชั้นสองเลยไม่เห็น ผู้เข้าสอบคนอื่นๆหันมามองพวกโนอาห์ซักพัก ก่อนจะเบนหน้ากลับไปเหมือนอย่างเดิม
ก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนนี่นะ
“แล้วนี่จะเอาไงต่อกันดี” โนอาห์ถามพรรคพวกที่โมเมเอาเองด้วยรอยยิ้ม ซายกาะหันมามองหน้ายูกิคล้ายกับจะขอความเห็น ทางด้านอารันที่ไม่รู้จะหันไปมองหน้าใครแบบซายากะจึงได้แต่ทิ้งตัวลงนั่นบนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ที่สุด
“หัวข้อสอบเปลี่ยนไปเรื่อยๆทุกปี ที่ทำได้ก็มีแต่นั่งรอ” อารันพูดขึ้น ทอดสายตามองไปรอบๆเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง
“หรือไม่ก็ถามใครซักคน” ซายากะกล่าวสมสบ อารันเองได้แต่เลิกคิ้วให้กับความคิดของหญิงสาวผมสีน้ำตาล ดูเหมือนว่าตระกูลอาเบย์โนะจะได้ทายาทผู้สืบสกุลที่ไม่เลวเลยทีเดียว
“และแน่นอนว่าฉันขอรับหน้าที่นั้น พวกเธอโปรดวางใจและนั่งรอดูอยู่เฉยๆได้เลย” โนอาห์ดีดนิ้วเป๊าะพูดต่อเป็นลูกรับ ซายากะได้แต่หัวเราะเบาๆให้กับคำพูดของโนอาห์ ในขณะที่อารันเริ่มมีสีหน้าปั้นยากเข้าไปทุกที
ก็เพราะมันเป็นคนออกหน้าเองนี้แหละ ถึงวางใจไม่ได้
ชายที่เสนอตัวรับหน้าที่อันแสนสาหัสครั้งนี้ไม่รอช้า รีบเดินไปกลางห้องโถงกวาดสายตาหาคนที่เขาต้องการทันที จนในที่สุดก็ไปสะดุดตากับชายผู้หนึ่ง เขาเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ได้หันมามองพวกเขาตอนเข้ามาเหมือนคนอื่นๆ อาจจะเพราะจริงจังอยู่หรือเพราะประหม่าก็ตามแต่ คนแบบนี้ย่อมเป็นประเภทที่พวกเขาต้องการอย่างแน่นอน
“เฮ้! ยินดีที่ได้รู้จัก” เขาเอ่ยทักทายชายผู้นั้นด้วยรอยยิ้ม เขยิบเรือนร่างเข้าไปใกล้จนคนที่โดนทักสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
“อ๊ะ!..ส..สวัสดีครับ” ชายคนนั้นเหมือนได้สติขึ้นมาจากภวังค์ ดวงตาสีเขียวสบตากับโนอาห์ ผมสีส้มที่โดดเด่นกว่าใครๆในห้องนี้ และร่างบางกว่าผู้ชายทั่วไปรวมถึงส่วนสูงที่เตี้ยกว่าเขามากนัก ท่าทีประหม่าเหมือนไม่ค่อยคุ้นชินกับผู้คน เขาตอบโนอาห์ด้วยอาการเก้ๆกังๆ
นับว่าเขามองคนไม่ผิด
โนอาห์คิดเช่นนั้นก่อนจะแสยะยิ้มในใจ
“ไม่ทราบว่าพอมีเวลาว่างซักครู่ไหม” โนอาห์ถามด้วยรอยยิ้ม โยกหัวไปมาเหมือนตัวตลกตามสวนสนุก
“อ...เอ่อ ทำไ...” ไม่ทันที่ชายร่างเล็กจะได้กล่าวตอบ โนอาห์ก็ขัดขึ้นมาทันทีอย่างรู้งาน
“ถือว่าตกลงก็แล้วกันนะ ขอบคุณมากที่ช่วย” โนอาห์ถือวิสาสะจับแขนของชายผมสีส้มในทันที ออกแรงฉุดกระชากลากมาหาพวกซายากะ ซึ่งระหว่างทางคนที่ถูกลากก็ได้แต่ตะโกนเพราะตกใจกับขอความช่วยเหลือ ซึ่งแน่นอนว่าผู้เข้าสอบให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย ต่างหันมามองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความสนใจ ก่อนจะหันหน้ากลับแทบไม่ทันหลังจากได้สบตากับชายที่กำลังเป็นฝ่ายลากเข้า
“นี่นายไปลักพาตัวใครมาน่ะ” อารันถามขึ้นมาหลังจากที่โนอาห์เดินมาถึง คิ้วเริ่มตะหงิดๆเพราะกลัวว่าเพื่อนของเขากำลังสร้างเรื่องตั้งแต่วันแรกที่เหยียบโรงเรียนแห่งนี้
“ใครอะไรที่ไหนกัน คนเขามีชื่อนา...อ้อ! เมื่อกี้ต้องขอโทษด้วยล่ะ พอดีว่าพวกฉันรีบจริงๆ อยากรู้อะไรหลายๆอย่างน่ะนะ อีกอย่าง...สนิทกันไว้ก่อนก็ไม่เสียหายนี่นาจริงไหม พอสอบผ่านจะได้มีเพื่อนๆกันเยอะล่ะเนอะ” โนอาห์ผายมือกว้างประหนึ่งโฆษณาชวนเชื่อ ซายากะได้แต่มองเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นด้วยความสนใจ ยูกิยังคงนิ่งเฉยเหมือนเดิมอย่างที่ผ่านมา และอารันเองที่เอามือกุมท้องเกือบลงไปนอนกับพื้นอยู่รอมร่อ
แม้จะยังตั้งตัวไม่ถูก แต่ท่าทีไม่มีพิษมีภัยจากคนพวกนี้ก็พอทำให้ชายตัวเล็กวางใจได้ในระดับหนึ่ง ถึงแม้ว่าการกระทำของชายผมดำที่ลากเขามาเมื่อซักครู่จะดูขวานผ่าซากไปหน่อย อีกทั้งคำพูดของเขาก็ดูแปลกๆจนไม่น่าจะเชื่อใจได้ แต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้ตกลงปลงใจยอมแนะนำตัวให้คนพวกนี้รู้จักตามการชักนำของโนอาห์
อะไรบางอย่างมันบอกเขาว่าคนพวกนี้ไว้ใจได้
“ผม นิกซ์ วาเลนไทน์ ยินดีที่ได้จักครับ!! โอ้ย!!” นิกซ์โค้งตัวลงจนหัวไปเขกกับโต๊ะเข้าให้ เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมาคลำหัวป้อยๆ
“ไหวแน่นะคะ…” ซายากะถามด้วยความเป็นห่วง เธอกลัวว่าแทนที่จะได้คำตอบของคำถาม กลับได้คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเหมือนกันมาซะมากกว่า
โนอาห์ได้แต่ยิ้มไม่ตอบคำถามของยูกิ
ก่อนจะยกนิ้วโป้งขึ้นมาชูเล็กน้อยด้วยสีหน้ามาดมั่น
พวกโนอาห์เริ่มจากการแนะนำตัวเป็นรายบุคคล นิกซ์ไล่มองทีละคนก่อนจะเก็บงำความสงสัยเอาไว้ในใจ ชายผมดำที่ลากเขามาดูเหมือนจะเป็นมิตรกว่าที่คิด ดูเผินๆเหมือนเป็นหัวหน้ากลุ่ม แต่ที่ไหนได้กลับเป็นตัวรับส่งมุขตลกดีๆนี่เอง
อย่างน้อยๆก็ดูเหมือนจะเป็นคนดี
ในส่วนของชายหัวเขียวที่นิกซ์คิดว่าสวยเกินบุรุษเพศนั้น เขารู้สึกได้ในทันทีว่ารังสีของคนที่คงแก่เรียนลอยผ่านออกมาทางผิวหนังโดยไม่ต้องรอให้ใครบอกกล่าว ต่อมาเป็นผู้หญิงเพียงสองคนในกลุ่ม ซายากะเธอดูเหมือนจะใจดีกับเขามาก หรือพูดให้ถูกก็คือสาวเจ้ามี
ส่วนอารันนั้นกุมขมับไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย
“น....นี่คุณพูดอะไรแบบนั้นน่ะครับ!! เรื่องพวกนี้มันควรจะรู้ตั้งแต่จะมาสอบเข้าที่นี้แล้วไม่ใช่เหรอ!!” นิกซ์ร้องเสียงหลง โนอาห์ที่ยังไม่รู้ว่าตัวเขานั้นทำผิดตรงไหนก็ได้แต่ทำสีหน้าปั้นยาก ก่อนจะค่อยๆส่งสัญญาณให้นิกซ์ลดเสียงลงอีกหน่อย
“ขอโทษด้วยแล้วกัน พอดีเพื่อนของฉันคนนี้อยู่หลังเขาน่ะ บางเรื่องมันก็ไม่รู้เหมือนคนอื่นเขาหรอก อย่าถือสามันเลยนะ” อารันแทรกด้วยรอยยิ้ม พลางขยิบตามาให้โนอาห์แทนคำพูดว่าให้ระวังคำพูดให้มากกว่านี้
“อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนอวาลอนยังไงล่ะครับ” นิกซ์เฉลยด้วยสีหน้าละเหี่ยใจ พร้อมกันกับที่โนอาห์ตระหนักรู้ได้ว่าอะไรเป็นอะไร
ความจริงแล้วอารันได้เล่าข้อมูลเบื้องต้นของโรงเรียนแห่งนี้ให้เขาฟังบ้างบางส่วน เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในการตอบคำถามซึ่งอาจส่งผลยุ่งยากตามมาในภายหลัง โดยเฉพาะเนื้อหาในส่วนของอาจารย์ใหญ่ซึ่งดูเหมือนอารันจะเน้นเป็นพิเศษ จอมเวทที่ว่ากันว่ามีอายุยืนยาวมาตั้งแต่สมัยก่อตั้งอาณาจักร คนๆเดียวกับที่วางข่ายอาคมและรากฐานหลายสิ่งหลายอย่างให้กับอัลเทร่า แต่ในสมัยปัจจุบันกลับไม่เคยมีใครได้เห็นหน้าอาจารย์ใหญ่ผู้นี้อีกเลย
บ้างก็บอกว่าจอมเวทผู้เรืองเดชผู้นี้ออกไปเดินทางยังภพภูมิอื่น หรือเป็นเก็บตัวบำเพ็ญตบะ แต่ก็ย้องมีคนจำนวนไม่น้อยที่เชื่อว่าอาจารย์ใหญ่แห่งโรงเรียนอวาลอนยังคงอยู่ที่ไหนซักแห่งในตัวโรงเรียน คอยเฝ้ามองความเป็นไปของนักเรียนและโลกใบนี้อยู่เงียบๆ
ด้านความเก่งกาจไม่ต้องพูดถึง ทั้งนี้เป็นเพราะสายเลือดของจอมเวทผู้นี้ไม่ได้มีแต่เลือดของมนุษย์เพียงอย่างเดียว แต่เจือปนด้วยเลือดของปิศาจแห่งความฝันผู้ยิ่งยงอยู่ครึ่งหนึ่ง นามที่ผู้คนเล่าขานมีหลากหลายปะปนกันไป ไม่ว่าจะเป็น ผู้เดินทางในความฝัน จอมเวทบุปผา นักเดินทางข้ามกาลเวลา จอมเวทปิศาจ ถึงอย่างนั้นนามที่แท้จริงกลับมีเพียงหนึ่งเดียว
เมอร์ลิน จอมเวทสูงสุดแห่งอวาลอน
“ถึงอย่างนั้นก็คงรู้ชื่อใช่ไหมครับ...” นิกซ์หรี่ตามองโนอาห์อย่างหวาดระแวง
“แหม ใครบ้างจะไม่รู้ล่ะจริงไหม เมอร์ลินใช่ไหมล่ะ” โนอาห์หัวเราะกลบเกลื่อนอย่างอารมณ์ดี นิกซ์เองจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ หลังจากพบว่าเพื่อนใหม่ของเขาดูน่ากลัวกว่าที่คิดไว้ในครั้งแรกที่ได้เจอมากนัก
น่ากลัวว่าจะไม่ใช่คนปกติ!!
ไม่ทันที่พวกโนอาห์จะได้อ้าปากถามต่อ ประตูห้องโถงเพียงหนึ่งเดียวก็ถูกเปิดออกหลังจากที่ผู้เข้าสอบคนที่สิบเข้ามาภายในห้องแห่งนี้ ทุกคนล้วนหันไปมองด้วยความสนใจ ซึ่งก็ไม่ผิดไปจากที่ให้ความหวังเอาไว้ ผู้เปิดประตูเป็นชายวัยกลางคนหน้าตาอ่านได้ยาก ผมสีเงินกระเซอะกระเซิงไม่เป็นทรง แววตาสีม่วงสอดส่ายไปมาในห้องคล้ายกับกำลังนับจำนวนคน ในมือถือแผ่นกระดาษที่คาดว่าน่าจะเป็นของสำคัญ
“ยินดีที่ได้รู้จัก เวลามีไม่มากเพราะงั้นฉันจะขอรวบรัดเลยแล้วกัน เซโน่ ออราเคิล คือชื่อของฉัน หรือจะเรียกว่าเซโน่เฉยๆก็ได้ รับผิดชอบให้มาเป็นกรรมการคุมสอบกลุ่มของพวกเธอ” เซโน่เกาหัวแกรกๆ พูดด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะรับหน้าที่นี้ซักเท่าไหร่ แต่ต่อให้คนโง่ที่สุดก็ยังรู้ได้ว่าเขาคนนี้เป็นอาจารย์คนหนึ่งในโรงเรียนอวาลอน เพราะที่นี้ไม่เคยมีนโยบายใช้คนนอกมาคุมสอบตั้งแต่ไหนแต่ไร ข้อนี้ใครๆย่อมรู้กันดี
และแน่นอนว่าโนอาห์ก็เกือบจะไม่รู้ถ้าไม่มีคนบอก
“พวกเธอคงทราบดีอยู่แล้วว่าหัวข้อการสอบมันเปลี่ยนไปทุกปี บางปีก็ทำข้อสอบหนึ่งหมื่นข้อ บางปีก็ประลองเวทแบบจับสุ่ม อะไรๆเทือกนี้ อยากรู้ค่อยไปหาเองทีหลัง” เซโน่แจกแจง พลางก้มลงมองกระดาษในมือเป็นระยะๆ
เป็นจังหวะเดียวกับที่โนอาห์ยิ้มเจื่อนจนแทบกลายเป็นทำหน้าเหวอ จริงอยู่ว่าตัวเขานั้นรู้จักการสอบที่ต้องทำในแผ่นกระดาษ เพราะในแผ่นดินเดิมที่เขาจากมาก็มีการสอบวัดผลระดับทางราชการอยู่ออกบ่อย แต่ว่าหนึ่งหมื่นข้อนั้นก็นับว่าเป็นตัวเลขที่ชวนสิ้นหวังกันไป หวังเพียงอย่างเดียวว่าในปีนี้จะไม่เจออะไรแบบนั้น
“ปีนี้...อืม ต่อสู้กับสัตว์วิเศษที่ทางเราเป็นฝ่ายจัดหามาให้ ซึ่งไม่ต้องห่วง ระดับของมันจะขึ้นอยู่กับพวกเธอทุกคนอยู่แล้ว แต่ถ้าได้รับบาดเจ็บหรือตายก็ค่อยว่ากันอีกที” เซโน่แย้มรอยยิ้มหันหน้าไปมองเด็กหนุ่มสาวที่เข้ามาสอบปีนี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งแต่ละคนต่างมีสีหน้าแตกต่างกันออกไปทันทีที่ฟังเซโน่พูดจบ
สัตว์วิเศษในโลกนี้แบ่งได้เป็นหลายระดับ โดยส่วนมากจะจำแนกจากความหายากเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่าในไอช่าสัตว์วิเศษล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตหายาก ผิดกับที่อีเดนซึ่งมองไปทางไหนก็เจอแต่สัตว์วิเศษนานาชนิดแทบจะทุกพื้นที่
แต่กระนั้นเพราะความก้าวหน้าของเวทมนตร์ที่สามารถอัญเชิญสัตว์วิเศษเหล่านั้นออกมาได้ หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่าเวทอัญเชิญ แต่มักไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนักในหมู่จอมเวทเพราะทั้งสิ้นเปลืองเวลาและทรัพยากรมากกว่าปกติถึงเท่าตัว เพราะเวทอัญเชิญในระดับต่ำผลลัพธ์นั้นมีน้อยซะจนเห็นผลแทบไม่ได้ แต่ถ้าในระดับกลางถึงสูงย่อมแตกต่างกันออกไป แต่จุดที่ยากก็คือหาสัตว์วิเศษมาทำพันธสัญญากับผู้ใช้เพื่อที่จะอัญเชิญมันออกมาในครั้งต่อๆไป
หาสัตว์ในตำนานในดินแดนที่เปลี่ยวร้างจากสัตว์พวกนี้ มองไปทางไหนก็มีแต่มืดบอดและบอดสนิท
“เดี๋ยวนะ ที่บอกว่าระดับจะขึ้นอยู่กับความสามารถนี่มันหมายความว่ายังไง” ผู้เข้าสอบคนหนึ่งยกมือถามด้วยความสงสัย เซโน่กุมขมับด้วยความเหนื่อยอ่อนเนื่องเพราะไม่อยากจะอธิบายเรื่องที่พูดไปแล้วเท่าไหร่นัก
“หมายความว่าการสอบจะเป็นการสอบแบบกลุ่ม ซึ่งกลุ่มก็คือพวกเราทั้งหมดที่อยู่ในห้องนี้ ใช่หรือเปล่าผู้คุมสอบ” อารันยิ้ม คนอื่นๆที่ได้ฟังต่างพากันส่งเสียงฮือฮาเป็นการใหญ่
ส่วนโนอาห์นั้นได้แต่หัวเราะอยู่ในใจเงียบๆ
การสอบถูกออกแบบมาให้ร่วมมือกันเป็นทีม แต่ดูจากลักษณะผู้เข้าสอบทั้งหมดแล้ว ไม่นับพวกอารันที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยงถ้าต้องร่วมมือกัน แต่คนอื่นๆเกรงว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น ยิ่งตัวสถาบันมีการแข่งขันสูงมากเท่าไหร่ อีโก้ของคนที่จะมาเข้าสอบในช่วงแรกก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น จริงอยู่ว่าอาจจะมีคนประเภทอื่นซุกซ่อนอยู่ แต่จำนวนส่วนน้อยแค่นั้นก็ยากที่จะทำให้พวกเขาสอบผ่านทั้งหมด
ดูคร่าวๆผู้เข้าสอบที่อยู่ในห้องนี้มีอยู่สิบคน
จะผ่านถึงครึ่งหรือเปล่าก็ยังไม่รู้...
“เอาล่ะ มีใครมีคำถามหรือข้อสงสัยอะไรบ้างหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็เป็นอันว่ามีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจหนึ่งชั่วโมงก่อนจะลงสนาม” เซโน่พูด พลางหันหน้าไปรอบๆบริเวณ
“มีคำถามค่ะ” เสียงเล็กดังขึ้นมาภายในห้องที่เงียบเชียบ จนกลายเป็นจุดสนใจเพียงหนึ่งเดียวในห้องทันทีทันใด ทุกๆคนหันไปมองตามต้นเสียงไม่เว้นแม้กระทั่งพวกโนอาห์ และภาพที่เขาเห็นนั้นก็ถึงกับทำให้คนพูดมากกลายเป็นคนปิดปากเงียบสนิท กระพริบตาปริบๆเพื่อตรวจให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด
ผู้หญิงที่ยกมือขึ้นถามคนดังกล่าวดูยังไงก็ใช่เซเรน่าอย่างไม่ต้องสงสัย สาวน้อยปริศนาที่อยู่ๆก็โผล่มาแล้วก็จากไป ที่เขาไม่เห็นเธอเพราะว่าดันหลบอยู่ในมุม รวมถึงที่เซเรน่าไม่ได้สังเกตเห็นโนอาห์ก็เพราะว่ากำลังใช้สมาธิก่อนที่จะเข้าสอบ ดังนั้นเหมือนเธอปิดโสตประสาทการรับรู้ทั้งหมดไปในชั่วขณะ ถ้าไม่เข้าไปเรียกใกล้ๆหรือมีอันตราย เซเรน่าคงนั่งอยู่ที่มุมเงียบๆของเธอจนกระทั่งผู้คุมสอบเดินมา ดังเช่นที่เห็นอยู่ในตอนนี้
เธอยังไม่เห็นเขา แต่เขานั้นเห็นเธอได้อย่างชัดเจน
ดูเหมือนว่าการสอบครั้งนี้จะวุ่นวายมากกว่าที่โนอาห์คิด
ความคิดเห็น