ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (จบแล้ว) #จินฮวานพันทิป | JUNHOE x JINHWAN

    ลำดับตอนที่ #13 : 11 : ชีวิตม.ปลายที่แสนจะโหดสัส (ตอนที่1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.11K
      20
      15 ธ.ค. 59


      



     11
           ชีวิตม.ปลายที่แสนจะโหดสัส (ตอนที่1)




                   "แล้วนี่กลับมาคราวนี้ วางแผนเรื่องเรียนต่อไว้ยังไงบ้างลูก"

                   น่ะ ขึ้นต้นมาบรรทัดแรกก็ดราม่าเลย
                   เรื่องเรียนนี่ล่ะ เรื่องลำบากที่สุดในชีวิตของจินฮวานแล้ว

                   "คิดไว้ว่าจะไม่------" ไม่น่าเดากันยากว่าจินฮวานจะตอบว่าอย่างไร แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ อีจี้ก็ขัดคอ ทะลุขึ้นมากลางปล้อง


                   "wait!"

                   นานแสนนานเหมือนกันที่ไม่ได้เจอหน้า ดูเหมือนว่าอีจี้มีเรื่องราวมากมายเหลือเกินที่จะเม้ามอยหอยสังข์กะละมังถังแตกใส่จินฮวาน สุดท้ายแล้วแม่ของจินฮวานก็เลยเอ่ยปากชวนให้ค้างที่บ้านด้วยกัน และแน่นอนว่าจี้เพื่อนรักก็ตอบรับโดยไม่ต้องถามซ้ำสอง แถมตอนนี้ยังช่วยแม่เถียงอีก

                    "อย่าบอกนะว่ามึงจะบอกว่า คิดว่าจะไม่เรียนต่อ" จีจี้ยกนิ้วขึ้นมาและส่ายดุ๊กดิ๊กไปพร้อมกับหัวโปกๆของมันพลางก็พูดประกอบท่าทาง "มึงต้องเรียน จะให้คนเขามาดูถูกไม่ได้ ว่าเราสวยแต่ไม่มีสมอง"


                   แหม่ อีผี
                   คำว่า'เรา'นี่หมายถึงใคร หมายถึงจินฮวานคนเดียว หรืออีจี้หมายถึงความรวมถึงตัวมันเองด้วย

                   "พ่อว่าจริงของหนูจีจี้เขานะลูก อย่างน้อยเรียนให้จบม.ปลายแล้วจะเอายังไงก็ค่อยว่ากันต่อ"

                   จินฮวานเอ่ออ่าอยู่ไม่นานแม่ผู้บังเกิดเกล้าก็สรุปให้ รวบรัดตัดความและก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อแบบไม่ต้องการความคิดเห็นหรือสมัครใจจากจินฮวานอีกต่อไป

                   "วันจันทร์ไปเรียนเลยแล้วกัน แม่โทรคุยกับผอ.เอาไว้แล้ว"

       
    # จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป   


                   เพราะชีวิตคือชีวิต เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป

                   แม้จะหนีไปอยู่จีนถึงสามปี แต่สุดท้ายแล้วเมื่อจินฮวานตัดสินใจกลับมาที่เกาหลี แม่ก็จับเขาเข้าเรียนมัธยมปลายต่อจากเดิมให้จบอยู่ดี นี่แหละเป็นเหตุผลที่จินฮวานสะพายเป้ และสวมชุดนักเรียน(ตัวเดิมเมื่อสามปีที่แล้ว) เดินต็อกๆไปขึ้นรถเมล์ที่หน้าหมู่บ้านอยู่แบบนี้

                   เอาจริงๆ ตั้งแต่สมัยจุนฮเวได้มอเตอร์ไซค์มาขับใหม่ๆ เขาก็ไม่เคยต้องเดินไปขึ้นรถเมล์ไปเรียนเองเลยสักครั้ง แต่ก็เอาเฮ้อะ ชีวิตมันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มันคือสัจธรรมของโลกอ่ะนะ

                   อืม......
                   คิดซะว่าออกกำลังกายแล้วกัน..


                   แค่ขยับเท่ากับออกกำลังกาย..
                   อืม...


                   จินฮวานปาดเหงื่อที่ไหลซึมจากไรผมแล้วสบถในใจ

                   ขยับเชี่ยอะไรล่ะ นี่เขาต้องเหงื่อท่วมตัว เหม็นตั้งแต่วันแรกของการเข้าไปเรียนมัธยมปลายปีสุดท้ายเลยเหรอ แล้วสมัยก่อนยังพอทำใจได้ เพราะเพื่อนในห้องก็เห็นหน้าค่าตา รู้เช่นเห็นชาติกันดีมาตั้งแต่ตอนม.หกแล้ว แต่นี่มันนรกชัดๆ ต้องไปนั่งเรียนกับเด็กที่ไหนก็ไม่รู้ แถมยังตัวเหม็นตั้งแต่วันแรกอีก หมดกันภาพลักษณ์กู


                   "พี่จินฮวานพี่!"

                   และเสียงอันคุ้นเคยก็ทำให้จินฮวานต้องหันขวับอย่างดีใจ

                   "บยอง!"

                   "ไปด้วยกันเปล่า" น้องบยอนและหัวเหม่งๆของเขาที่ไม่รู้ขี่ฟีโน่มาจากทิศทางไหน แต่ก็หันมายิ้มแฉ่งให้เขาแบบมีมิตรไมตรีดังที่ทำมาตลอด จินฮวานจึงไม่รอช้า โดดขึ้นซ้อนท้ายฟีโน่ของบยองทันที

                   เอาเป็นว่ามันก็ดีกว่าเดินอ่ะ

                   "พี่กลับมาเรียนม.หกใหม่เหรอ"

                   "อืมมม..ช่าย" จินฮวานลากเสียง ในใจก็นึกสงสัยว่าบยองมันลืมอะไรไปหรือเปล่า ว่าโรงเรียนเข้าแปดโมงนะ ทำไมถึงขับได้หวานเย็น เอ้อระเหยขนาดนี้ "แล้วนี่ไปสายจะไม่โดนกักหรอ"

                   "โอ้ย ไม่พี่ ผมมีสิทธิพิเศษนิสสสสสหน่อย"

                   นิสหน่อย----อะไรคือนิสหน่อย จินฮวานก็ไม่เข้าใจ แม้จะครุ่นคริสสสสอยู่นานก็ไม่ได้คำตอบ

                   "สิทธิพิเศษยังไงวะ"

                   "คืองี้พี่... คือผมเป็นแชมป์แรปอิสนาวซีซันสี่นะ"


      
    # จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป   




                   เพราะแม่เป็นเพื่อนกับผอ.นี่เอง และเพราะบยองน้องรักก็เป็นแชมป์รายการแรปอิสนาว รายการแข่งขันหาสุดยอดแรปเปอร์ของเกาหลี ดังนั้นในฐานะผู้สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน น้องบยองมันก็เลยมีสิทธิพิเศษนิสสสสหน่อยอย่างที่น้องมันว่า ในการเข้าเรียนสายแค่ไหนก็ได้ หรือไม่เข้าเรียนก็ยังได้ 

                   น้องบยองพาเขามาพบผอ.คนใหม่ และก็ถึงบางอ้อ เพราะผอ.คนใหม่ก็คือน้าอีทึก คุณลุงที่เคยอยู่ข้างบ้านกันสมัยจินฮวานและจุนฮเวยังเด็ก แม่ก็เลยสามารถฝากฝังให้จินฮวานกลับมาเรียนซ้ำชั้นม.หกได้อีกรอบแบบสบายๆ

                   "จินฮวานอา ไม่ได้เจอกันนานเลย เป็นไง ไปจีนมาสนุกไหมลูก"

                   เมื่อเดินย่างเท้าเข้ามาในห้องผอ. น้าทึกก็เปิดฉากทักทายแบบใกล้ชิสสสสนิทสนม ไม่ให้จินฮวานได้ทันตั้งตัวแต่อย่างใด


                   "เอ่อ ก็..ก็ดีนะครับ"

                   "มาเรียนให้มันจบๆม.หกเนอะลูก แล้วเดี๋ยวจะยังไงต่อเรื่องมหาลัย ค่อยมาว่ากันอีกที"

                   "เอ่อ...." จุดนี้จินฮวานสามารถตอบอย่างอื่นได้ด้วยเหรอ "ครับ"

                   จินฮวานอยากจะบอกน้าทึกไปเหลือเกินว่าอันที่จริงแล้ว เขาไม่อยากเรียนม.ปลายต่อ รวมถึงมหาวิทยาลัยด้วย อยากนั่งกินนอนกินไปวันๆ ช่วยป้าขายซาลาเปานิดหน่อย แล้วก็ได้เงินเดือนทุกเดือน แต่เกรงว่าถ้าพูดแบบนั้นน้าทึกจะไล่เขากลับจีนซะก่อน

                   "แล้วผมต้องไปเรียนห้องไหนหรอครับ"

                   ว่ากันตามตรงจินฮวานไม่รู้อะไรเลย รู้แต่ว่าแม่สั่งให้เขามาเรียนวันนี้ พอเจอบยอง บอกว่าผอ.อยากจะเจอหน้า เขาก็เลยให้บยองพามา มีความไม่รู้เชี่ยอะไรเลยอย่างแท้จริง

                   "ก็น้ากะว่าจะให้เรียนห้องเดียวกับบีวายนี่แหละ ง่ายดี เพราะก็สนิทกันอยู่แล้วใช่ไหม"

                   เดี๋ยวนะ...

                   "ห้องเดียวกับใครนะครับ.."

                   "บีวายพี่" น้องบยองทำท่าแรปโย่วใส่เขาแล้วยิ้มฟันขาวหัวเหม่งมาให้ "ชื่อผมเอง โย่วๆ ชิกกิด้าว"

                   โลกหมุนเร็วขึ้นทุกวันจนฉันตามไม่ทันแล้วพี่บัวลอย

                   อยู่ๆจินฮวานก็นึกถึงเรื่องราวเมื่อสามปีก่อนตอนที่จุนฮเวไปเอาสมุดการบ้านจากน้องบยอง และเอาแต่เรียกน้องบยองว่า'สัสบยอง' แม้ว่าน้องบยองหัวเหม่งจะกำชับแล้วกำชับอีกว่าให้เรียกด้วยชื่อ 'บีวาย'ก็ตาม

                   พอนึกถึงความกวนตีนของจุนฮเวแล้วเขาก็หลุดยิ้มออกมา ถึงแม้ว่าเรื่องราวจะผ่านมานานแล้ว แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆที่จะนึกถึงจุนฮเวขึ้นมา และอมยิ้มเมื่อนึกถึงความสุขที่เขาเคยมีในตอนนั้น


                   "ฮั่นแน่ ยิ้มแป้นเชียว ดีใจใช่ไหมที่จะได้เรียนห้องเดียวกับบีวาย"

                   "เอ่อ" จินฮวานยิ้มค้างพอน้าทึกพูดแบบนั้นและโอบไหล่เขากับน้องบยองพร้อมๆกัน

                   ตั้งแต่เขากลับมาอยู่ที่เกาหลี ดูเหมือนคนรอบๆตัวก็เก่งเหลือเกินกับการคิดเองเออเอง และจินฮวานที่ใช้ภาษาจีนควบคู่กับเกาหลีนานถึงสามปีเต็มก็ได้แต่อ้ำอึ้งเพราะเถียงไม่ทันใครเลยสักคน

                   "ปะลูก จินฮวาน พ่อหนุ่มบีวาย เดี๋ยวผอ.เดินไปส่งที่ห้องเรียนนะ"

                   เอาซี๊ .. วีไอพีแค่ไหน ถามใจมึงดู
                   ผอ.เดินไปส่งที่ห้องเรียนด้วยตัวเอง เพื่อนแม่นี่มันเพื่อนแม่จริงๆ


      
    # จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป   




                   ระหว่างทางที่เดินไปยังห้องเรียนชั้นม.หกอันเป็นตึกเดียวกับสมัยจินฮวานเรียน เขาก็พบว่าโรงเรียนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นแทบทุกอย่าง โถงทางเดินถูกปูกระเบื้องยาแนวใหม่ หรูหราอย่างรุนแรง กระจกที่มองลงไปชั้นล่างจะเห็นสนามฟุตบอลก็เช่นกัน เปลี่ยนใหม่ตลอดแนว ดูสวย ดูแพง ดูไฮโซแบบบอกไม่ถูก

                   มันคงจะจริงสินะ ที่เขาว่าโรงเรียนพัฒนาก็ต่อเมื่อเราจบการศึกษาไปแล้วเท่านั้น

                   "เอาล่ะ ถึงแล้ว" 

                   ผอ.เดินมาจนถึงหน้าห้องม.6/3 ที่จินฮวานเพิ่งรู้วินาทีนี้แหละว่าจะเป็นห้องประจำชั้น ด้วยความที่จินฮวานเป็นคนเรียบร้อยใสๆ เขาเลยให้น้าทึกออกหน้าไปก่อนเลย

                   "สวัสดีทุกๆคน อ่ะนี่ผอ.พานักเรียนใหม่มาส่งนะ พี่เค้าจะมาเรียนเทอมสุดท้ายนี้กับพวกเรา ก็ดูแลพี่เค้าด้วยนะ" 

                   นี่ไง มันต้องรู้จังหวะ
                   พอน้าทึกพูดจบ จินฮวานก็กระมิดกระเมี้ยน เดินเข้ามาในห้องเรียน และอมยิ้มน้อยๆพลางก็สูดหายใจเข้าและตั้งใจจะทักทายทุกคนด้วยน้ำเสียงสดใสร่าเริง

                   "ชิบหายล่ะ..."

                   ร่าเริงเหี้ยอะไรล่ะ

                   ตอนนี้เด็กทุกคนในห้องจ้องเขาเป็นตาเดียว และจินฮวานก็พบว่า นี่มันห้องรวมดาวชัดๆ  เขากวาดตามองตั้งแต่ฝั่งซ้ายไปจรดฝั่งขวา วอนอูและกระเป๋ากีต้าร์สุดเท่ที่ตั้งชิดกำแพงของเขานั่งอยู่ด้านซ้ายของห้อง ถัดมาสักหน่อยจะเห็น(นัง)น้องเจนนี่ที่นั่งเชิดๆเริ่ดๆอยู่กลางห้อง ถัดมาจากน้องเจนนี่ ที่หลังสุดของห้องจะเห็นจีวอนที่เขาเคยกระโดดเตะปากมันตอนเด็กๆ และที่พีคสุดคือกลางห้องฝั่งขวา กูจุนฮเวที่นั่งหน้าหงิกเป็นส้นตีนกำลังจ้องเขาแบบตาไม่กะพริบ


                   เยี่ยม บรรลัยมันเข้าไป


                   "เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะลูก ผอ.ได้ยินไม่ถนัด"

                   ชิบหายไง ชิบหายอะน้า 

                   "เอ่อ..มาสายครับ" จินฮวานยิ้มแห้ง "มาสายนิดหน่อยครับวันนี้ สวัสดีครับ คิมจินฮวานครับ ฝากตัวด้วยนะครับ"

                   น้องบยองกลับไปนั่งที่เรียบร้อยแล้ว เหลือแต่เขาที่ยืนโง่อยู่ข้างผอ.น้าทึกและอาจารย์ประจำชั้น จินฮวานก้มหัวพอเป็นมารยาทแล้วยืนยิ้มเด๋อๆอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งน้าทึกเดินมาใกล้และตบไหล่ปุๆ

                   "ไปลูก นั่งที่ นั่งข้างพ่อหนุ่มจุนฮเวนั่นก็ได้ ว่างอยู่ใช่ไหม สนิทกันแต่เด็กอยู่แล้ว ไม่เป็นไรเนาะ มาลูก จุนฮเวขยับให้พี่เขานั่ง" น้าทึกพูดอย่างแจ่มใสและดันหลังให้จินฮวานเดินไปนั่งข้างกูจุนฮเวที่เพิ่งจะแว๊นมอไซค์หนีเขามาเมื่อวันก่อน และแม้ว่าจุนฮเวจะทำหน้าเหม็นเขียวใส่เขาและน้าทึกแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครขัดน้าทึกได้ จินฮวานเลยนั่งลงข้างๆจุนฮเวอย่างจำใจ...


                   "ตั้งใจเรียนนะลูก มีปัญหาอะไรบอกอาจารย์ บอกน้าได้เลยนะ"

                   จุดนี้จินฮวานยังมีสิทธิตอบอะไรอย่างอื่นอีกไหม "ครับ..ขอบคุณครับ"

                   เขาอยากจะเดินไปบอกน้าทึกตอนนี้เลยว่าขอย้ายห้องได้ไหม เพราะหลังจากน้าทึกและอาจารย์ประจำชั้นเดินออกจากห้องเรียนไปเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าเด็กๆในห้องจะหยอกล้อกันเจี๊ยวจ๊าว แต่ระหว่างเขาและจุนฮเวที่นั่งอยู่ข้างๆนี่ แม่งเงียบกันยิ่งกว่าป่าช้า...ตึงแบบ.. บรรยากาศตอนนี้ตึงยิ่งกว่าผิวหน้าของลีน่าจังหลังฉีดโบท็อกซ์...


                   "พี่หวัดดี พี่ชื่อไรนะ เค้าชื่อแชฮยองวอน เรียกน้องแชก็ได้"

                   เด็กที่นั่งอยู่ข้างหน้าจุนฮเวหันมาชวนจินฮวานคุยโดยไม่ได้สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่บูดบึ้งอยู่ข้างๆจินฮวานเลยแม้แต่นิสเดียว

                   "ชื่อจินฮวานอะ"

                   "งั้นเรียกพี่จินนะ เนี่ย เดี๋ยวเทอมนี้ต้องเจอกันจนเหม็นขี้หน้าไปเลยแหละ" น้องแชเจื้อยแจ้วทั้งรอยยิ้มจนจินฮวานรู้สึกเหมือนได้เจอจีจี้ ver.2 อย่างไรอย่างนั้น "ถ้าถามว่าทำไมเหม็นขี้หน้าอ่ะหรอ ก็เพราะน้องแชพูดมาก"

                   จินฮวานหัวเราะกับมุกนั้นของน้องแช และทำท่าจะหันไปหัวเราะกับคนข้างๆตัว
                   แต่คือ...การที่เขาหัวเราะเบอร์ใหญ่มาก แต่จุนฮเวแม่งทำหน้าเหมือนจ่าเฉยใส่ มันก็เจื่อนเหมือนกันนะ


                   "หวัดดี ชื่อไรอะ พี่ชื่อพี่จินฮวานนะ" ไม่ได้ชื่อหมวย 

                   จินฮวานพูดต่อท้ายอยู่ในใจและแกล้งทำเสียงสดใสใส่น้องมัน แต่สิ่งที่ได้รับคือจุนฮเวมองเขาด้วยสายตาเย็นชายิ่งกว่าพลังเยือกแข็งของเจ้าหญิงเอลซ่า ก่อนจะเดินกระแทกเท้าปึงปังออกจากห้องไปท่ามกลางสายตาสอดรู้สอดเห็นของทุกคนในห้องที่มองมาที่จินฮวานเป็นจุดเดียว

                   "มองอะไรกันคะทุกคนนน ไม่ต้องชมเนาะว่าสวย เพราะว่ารู้ตัวนะคะ" และก็เป็นน้องแชที่ส่งเสียงแหลมปรี๊ดขึ้นมา ก่อนจะส่งไม้ต่อให้บยองที่ชวนเพื่อนในห้องคุยเล่นกันต่ออย่างลื่นไหล และเบนความสนใจของมวลชนออกไปจากจินฮวาน 

                   "ขอโทษนะพี่ อีจุนฮเวมันเป็นแบบนี้แหละ อินดี้"

                   "แบบนี้?"

                   "อือออ นางขี้วีน" น้องแชลอยหน้าลอยตาเล่า ทำท่าปลงๆเหมือนชินแล้วกับความผีเข้าผีออกของจุนฮเว "เป็นเดือนโรงเรียน แต่หยิ๊งงงงหย่ิง ขี้เหวี่ยงอีก"

                   "จริง แต่ก่อนก็ไม่เป็นขนาดนี้นะ หนูเคยเรียนม.ต้นห้องเดียวกะนาง แต่ก่อนนางเป็นคนตลกจะตาย เดี๋ยวนี้ขี้โมโหม๊ากกกกก ใครพูดไรขัดใจก็จะกระทืบเขาท่าเดียว" เด็กตากลมผมหน้าม้าที่นั่งข้างๆน้องแชหันมาพยักเพยิด จินฮวานมารู้ทีหลังว่าน้องเขาชื่อมินฮยอก

                   ว่าแต่...จุนฮเวกลายเป็นคนแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

                   "แต่ถึงงั้นนางก็ฮ็อทนะคุณพี่ ควงผู้หญิงไม่ซ้ำเรย มีความเลือกได้เบาๆ เป็นที่ต้องการของตลาดงี้ สังคมชอบแบดบอย" น้องแชเม้าท์ต่อแล้วก็ป้องปาก "มีชะนีที่เคยได้นางแล้วบอกน้องมา ว่านางเผ็ดช์ม้ากกกกก"

                   "อ่า...เหรอ"

                   จินฮวานกะพริบตาปริบๆ ตอนที่ได้ยินฮยองวอนพูดว่า 'คนที่เคยได้นางแล้ว' .. หมายถึงได้จุนฮเวอะนะ.... หมายถึงแบบนอนกับจุนฮเวแล้ว.... แถมยังควงหญิงไม่ซ้ำหน้าอีก

                   "ฮ็อทแต่ก็คบใครไม่ยืดป๊ะ น้ำแตกแล้วแยกทางตล๊อด"

                   "อ่า..." จินฮวานลุกขึ้นยืน รู้สึกเหมือนเขาก็ใกล้จะน้ำแตกแล้วเหมือนกัน "พี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"

                   น้ำตาแตกเนี่ย...
                   สัส...


                   จินฮวานสูดหายใจเข้าลึกๆและพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ต้องร้องไห้ออกมา นี่เขาก็พยายามแล้ว  ในเมื่อจุนฮเวเป็นให้เขาได้แค่พี่น้อง เขาก็พยายามเป็นเหมือนเดิม แต่จุนฮเวกลับมาทำตัวประหลาดๆแบบนี้ใส่เขาแบบนี้อีก แล้วยิ่งได้มารู้ว่าจุนฮเวเปลี่ยนไปมากแค่ไหนในช่วงเวลาสามปีที่เขาไม่อยู่ มันก็ทำให้จินฮวานรู้สึกไม่ดีเลย


                   เกลียดที่เงียบใส่กันแบบนี้ 
                   มันอึดอัดโว้ย

                   "ฮึก.." จินฮวานใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาแล้วเดินหลบเข้าห้องน้ำชาย แต่ก็ต้องชะงักเมื่อก้าวเท้าเข้าไปในห้องน้ำและได้กลิ่นบุหรี่ โดยที่มาของกลิ่นนี่ก็ไม่ใช่ใคร เพราะไอ้ตัวปัญหาที่ทำให้เขาร้องไห้ยืนคีบบุหรี่ทำหน้าอึ้งๆใส่เขาอยู่

                   มองหน้าหาส้นตีนหรือไง

                   จินฮวานเงียบบ้าง หันหน้าเข้ากระจกบริเวณอ่างล้างมือและเปิดน้ำล้างหน้าล้างตา ก็ในเมื่อจุนฮเวไม่คุยกับเขา เขาก็จะไม่คุยกับมันมั่ง


                   "เป็นไรวะ" จินฮวานไม่ได้พูด แต่เป็นจุนฮเวที่ตอนนี้ดับบุหรี่ทิ้งไว้แถวโถฉี่และเดินมายืนข้างๆเขา ใช้มือข้างที่คีบบุหรี่เมื่อกี้นี้แหละบีบต้นแขนจินฮวานจนเขาต้องร้องโอ้ย  "เจ็บ! อย่ามาจับ!" 

                   จินฮวานหันไปมองจุนฮเวโกรธๆ และก็รับรู้เช่นกันว่าจุนฮเวเองก็โกรธไม่น้อย เพียงแค่เขาไม่รู้เท่านั้นเองว่ามันเป็นบ้าอะไรของมัน

                   "ใครเป็นอะไร แกสิเป็นบ้าอะไร ทำไมเราคุยด้วยแล้วแกไม่คุย"

                   "ทำไมไปไหนไม่บอกวะ ยังสำคัญอยู่ป้ะ ไหนบอกมีอะไรจะบอกทุกเรื่องไง" แน่นอนว่านอกจากจุนฮเวไม่ปล่อยแขนเขาแล้ว มันยังบีบแรงขึ้นด้วย แต่อย่างน้อยเขาก็พอจะเดาได้แล้วว่าจุนฮเวมันโกรธเรื่องอะไร

                   "ก็เราไปกะทันหันปะวะ แกจะให้เราต้องมานั่งรายงานแกทุกอย่างหรอ เราไม่ใช่เมียแกนะ" จินฮวานตะคอก กระทั้นเสียงตรงคำสุดท้าย ในใจนึกถึงหนังช่องเจ็ด ถ้าเป็นพระเอกในละครตบจูบของอาเปี๊ยกพิศาล พระเอกจะต้องตอบว่า 'แล้วอยากจะเป็นมั้ยล่ะ!! ผมจะยัดเยียดความเป็นผัวให้พี่เดี๋ยวนี้แหละ' แต่เสียใจที่จุนฮเวน่าจะไม่เคยดูละครช่องเจ็ด เพราะแทนที่จะตอบเอาใจแฟนละครตบจูบ จุนฮเวกลับทำหน้าหมาอึ้งแล้วตะคอกกลับเสียงขุ่น

                   "เออ!! ไม่ใช่!! แล้วทำไมไลน์ไปไม่ตอบ คือบอกทางไหนก็ได้ป้ะ มันมีช่องทางตั้งเยอะที่จะติดต่อ แค่ไม่อยากบอกก็เท่านั้นอ่ะ ก็ขอโทษนะที่ไม่ใช่มินโฮอ่ะ" 

                   สัส อีดำเกี่ยวอะไร

                   "บ้านมึงดิจุนฮเว ประเทศจีนมันเล่นเน็ตไม่ได้ ซิงเกิ้ลเกทเวย์อะรู้จักป้ะ" อีโง่!!

                   จินฮวานพูดต่อท้ายในใจ จุนฮเวทำท่าจะว้ากใส่เขาอีกแต่มีอาารย์ท่านหนึ่งโผล่เข้ามาในห้องน้ำเสียก่อน และกลิ่นบุหรี่บวกกับก้นบุหรี่และเสียงทะเลาะวิวาทระหว่างเขากับจุนฮเว ก็ส่งผลให้จินฮวานได้เข้าห้องปกครองตั้งแต่วันแรกที่กลับมาเรียน

                   สุดยอดเลยเพื่อน

      
    # จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป   





                   "ในเมื่อเธอสองคนปฏิเสธว่าก้นบุหรี่ที่อยู่ในห้องน้ำไม่ใช่ของพวกเธอแต่การที่พวกเธอเข้าไปทะเลาะกันในห้องน้ำก็เป็นเรื่องที่ผิดกฏโรงเรียนอยู่ดี ยังดีว่าไม่มีการชกต่อย ถ้าพวกเธอชกต่อยกันในห้องน้ำ ครูจะต้องเรียกผู้ปกครองมาทำทัณฑ์บน" อาจารย์หัวล้านท่านหนึ่งกล่าวพลางก็เดินวนไปวนมาอยู่ตรงหน้าโดยมีจินฮวานและจุนฮเวนั่งก้มหน้าก้มตาตั้งใจฟังอย่างจำใจทน


                   คือจินฮวานอยากจะบอกอาจารย์มากว่าอาจารย์นั่งด่าเฉยๆได้ไหม เดินไปเดินมามันเวียนหัว

                   "พวกเธอเรียนวิชาเกษตรกับครูด้วยใช่ไหม" อาจารย์ตั้งคำถาม และแน่นอนว่าจินฮวานผู้ไม่รู้เชี่ยอะไรเลยในชีวิตก็ได้แต่นั่งเอ่ออ่าเด๋อด๋าจนกระทั่งจุนฮเวตอบคำถามแทน

                   "ครับ"

                   "ครูจะสั่งงานพิเศษให้พวกเธอไปทำเป็นการลงโทษ พวกเธอจะต้องไปทำรายงานเรื่องสัตว์น้ำจืด และการเพาะเลี้ยง ให้เขียนด้วยลายมือ ต้องมีลายมือของพวกเธอทั้งสองคน และก็ต้องถ่ายรูปตอนที่ไปหาข้อมูลมาเป็นหลักฐานด้วยว่าไปด้วยกัน"

                   ม๊าาาาาเถอะฟัคเก้อ.....
                   อาจารย์จะรู้ไหมว่าการสั่งงานของอาจารย์อาจจะทำให้เด็กตีกันยิ่งกว่าเดิม ว่าแต่วิชาเกษตรนี่มันมีหลักสูตรเรื่องการประมงด้วยเหรอ ทำไมจินฮวานจะต้องอยากรู้ว่าสัตว์น้ำจืดมีวิธีเพาะเลี้ยงอย่างไร


                   "ครูถามว่าเข้าใจไหมนายจินฮวาน!!"

                   "ข..เข้าใจครับ"  เข้าใจที่ไหนล่ะ นี่เป็น'จินฮวานผู้ไม่รู้อะไรเลย'นะรู้ยัง อาจารย์ยังจะคาดหวังให้ผมมีความรู้ความเข้าใจต่ออะไรบนโลกนี้อีกเหรอ

                   "เอาล่ะ ไปได้แล้ว แล้วอย่าทะเลาะกันอีก เรียนที่เดียวกันต้องรัก ต้องสามัคคีกันไว้ เข้าใจมั้ย"

                   แหม่....

                   กูก็รักมันตั้งนานแล้วเนี่ย มีแต่มันที่ไม่รักกู....
                   จินฮวานเถียงอยู่ในใจแต่ก็พยักหน้าหงึกๆและเดินกลับห้องเรียนโดยไม่พูดคุยกับจุนฮเวสักคำ


                   การกลับมาเรียนมัธยมปลายอีกครั้ง มันช่างเป็นเรื่องที่โคตรเหนื่อยจริงๆ...


     

      

     talk
    ผู้หญิงชอบแบดบอยค่ะ เชิญด่าจุนเน่ได้ตามอัธยาศัย ดราม่าจะมาอีกทีก็หลังจากนี้2-3ตอน เอาเป็นว่าตอนนี้ก็เริงใจกับความฮาและความตึงของจุนฮเวกันไปก่อน ว่านางจะแอ๊บวีนนังหมวยไปได้อีกนานแค่ไหน  

    ด้วยรัก จากฟายเดคนเดิมเพิ่มเติมคืองานเยอะมาก
    15/12/59 23:57น.
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×